วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่ม 13 เกบาโดส – ตอนที่ 26 บ้านเกิด


เล่ม 13 เกบาโดส ตอนที่ 26 บ้านเกิด
 “ครืนน...” ฝุ่นปลิวกระเด็นออกมาจากร่างของบีบีด้วยเหมือนกัน  ทั้งฝุ่นทั้งสิ่งสกปรกถูกควบคุมได้ด้วยพลังที่มองไม่เห็นจากนั้นถูกบีบอัดเข้าไปในหิน

บีบีกดปีกหมวกฟางของเขามองดูลินลี่ย์อย่างตื่นเต้น  “พี่ใหญ่! ตอนนั้นท่านพูดถึงเรื่องเคล็ดลึกลับของดนตรี และเกี่ยวกับเคล็ดลึกลับของคลื่นเสียง และวิธีผสานเข้าด้วยกันเป็นสัจธรรมแห่งเสียงใช่ไหม? แล้วนี่คืออะไร?”  บีบีสับสนมาก
ลินลี่ย์ยิ้มเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะฝึกมาเพียงสองปี แต่การมองเห็นทางจิตและความสามารถในการหยั่งรู้ของลินลี่ย์ก็ไวกว่าตอนก่อนที่เขาจะเป็นเทพหลายร้อยเท่า  ระหว่างช่วงเวลานี้  เขามีวิญญาณสองดวงที่ปรับตัวและส่งเสริมกันและกันต่อเนื่อง  การฝึกเพียงสองปีที่เขาทำนั้นเทียบได้กับการฝึกถึงสองร้อยหรือสามร้อยปีในช่วงก่อนเป็นเทพ
เกี่ยวกับเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งดนตรีและคลื่นเสียง  ลินลี่ย์บรรลุถึงระดับหนึ่งแล้ว
แต่แน่นอนว่า เขายังห่างไกลจากระดับเชี่ยวชาญที่แท้จริงอยู่มาก
 “บีบี, เมื่อเสียงถูกสร้างขึ้น, ก็แค่สร้างขึ้นมาจากคลื่นเสียงจริงๆ”  ลินลี่ย์อธิบาย  “เนื่องจากเสียงคือสิ่งที่เกิดจากคลื่น จึงมีการสั่นสะเทือนเป็นของตนเอง  ทุกวินาทีมันสั่นสะเทือนหลายครั้งกำหนดให้หูได้ยินมัน”
นี่คือความรู้บางอย่างซึ่งลินลี่ย์ได้มาจากความเข้าใจเกี่ยวกับเสียงขณะที่กลับไปปราสาทเลือดมังกร
บีบีพยักหน้า
 “แต่เสียงที่เราไม่สามารถได้ยินก็สร้างผลกระทบที่น่าสนใจ  “ลินลี่ย์ควบคุมแก่นธาตุลมจากนั้นเริ่มปั่น  แก่นธาตุต่างๆ เริ่มปะทะกันเองเกิดเป็นคลื่นเสียง ทันใดนั้นเสียงเริ่มดังออกมา
เสียงไพเราะเหมือนกับเสียงรำพันของคนรัก ทำให้ผู้คนหลงใหลขาดสติ
บีบีเริ่มรู้สึกถึงผลของมันอย่างเลือนรางเช่นกัน
 “นี่คือเคล็ดความลึกลับของดนตรี!  ลินลี่ย์หัวเราะ  “ข้าแค่ควบคุมแก่นธาตุเพื่อกระตุ้นให้ทำงาน  ถ้าข้าใช้พลังเทพไปด้วยพลังจะมากขึ้น แม้แต่เทพจะต้องได้รับผลไปด้วย  ตัวอย่างเช่น ลำนำแห่งสายลม ของข้าจะปล่อยเสียงที่ไพเราะล่อลวงวิญญาณของศัตรู  ทำให้พวกเขาสูญเสียการป้องกันไปชั่วคราว และข้ามีโอกาสฆ่าพวกเขา”
บีบีพยักหน้าหงึกๆ  “ว้าววว, ทรงพลังมาก, อย่างนั้นเคล็ดความลึกลับแห่งคลื่นเสียงเล่า?”
 “ข้าแค่บอกได้ว่าคลื่นเสียง ก็เป็นคลื่น เป็นความสั่นสะเทือนอยู่ในธรรมชาติ  ถ้าพวกมันสั่นสะเทือนเป็นจำนวนครั้งที่แน่นอนภายในช่วงแต่ละวินาที  เราจะได้ยินมัน  แต่..เมื่อการสั่นสะเทือนเกินไปกว่าระดับนั้น  ก็จะแตกต่างออกไป”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “ในอดีต ข้าไม่เข้าใจเรื่องนี้  แต่เมื่อเห็นคลื่นเสียงที่ถูกสร้างโดยหุบเขา  ข้าจึงได้เข้าใจ”
 “เหรอ?”  บีบีค่อนข้างประหลาดใจ
 “ดูนะ”  พลังจิตที่ทรงพลังของลินลี่ย์ควบคุมแก่นธาตุลมในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
คลื่นเสียงพิเศษปรากฏขึ้นมากกว่าครั้งหนึ่ง  ครั้งนี้ถูกส่งตรงไปที่ผนังภูเขารอบด้าน  ทันใดนั้น... ผนังของภูเขาในหุบเขาดูเหมือนจะเริ่มสั่นสะเทือนเหมือนสัตว์มีชีวิต ด้วยเสียงสั่นสะเทือนนั้น หินเริ่มแตกและร่วงลงมาจากผนัง
 “เอ๋?”  บีบีประหลาดใจมาก
ลินลี่ย์เสริมพลังจิตเข้าไปอีกและคลื่นสั่นสะเทือนของแก่นธาตุลมเพิ่มความรุนแรงขึ้นทันที
 “ปัง!” “ปัง!  ทั่วทั้งหุบเขาเริ่มสั่นสะเทือนเสียงหินกระแทกกันดังชัดเจน จากนั้นตามมาด้วยเสียงระเบิดบึ้ม หินนับไม่ถ้วนในแต่ละด้านของหุบเขาระเบิดออกกลายเป็นก้อนกรวดนับไม่ถ้วน
 “ว้าว” ตาของบีบีเบิกกว้าง
เดิมทีเพราะลักษณะโครงสร้างที่พิเศษของหุบเขานี้ เมื่อสายลมพัดผ่านจึงสร้างคลื่นเสียงเช่นนั้นได้
แต่ตอนนี้ด้วยการแสดงพลังของลินลี่ย์  โครงสร้างของหุบเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก  มันไม่สามารถสร้างคลื่นเสียงเช่นนั้นได้อีกต่อไป ทันใดนั้นเสียงลมโหยหวนสามารถฟังได้ยินชัด และซัดใส่หินนับไม่ถ้วนกระเด็นกระจายไปทุกที่ อากาศเต็มไปด้วยฝุ่นทันที  ในเวลาต่อมาอากาศจึงกลับเข้าสู่สภาพปกติ
เพียงแต่หุบเขานี้ในตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงลมโหยหวน
 “เทือกเขามรณะจะไม่มีทางเป็นเทือกเขามรณะเหมือนเดิมได้อีกแล้ว”  ลินลี่ย์ถอนหายใจสะท้อนใจ
 “พี่ใหญ่, พลังโจมตีแบบนี้ ทรงพลังมาก”  บีบีถอนหายใจทึ่ง
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างสงบ  “เป็นเรื่องค่อนข้างธรรมดา  ข้าเพียงแต่ได้รับทักษะเพียงเล็กน้อยจากเคล็ดความลึกลับแห่งคลื่นเสียง  ตอนนี้เมื่อว่าถึงในสิ่งที่ข้าเรียน  เคล็ดความลึกลับแห่งคลื่นเสียงก็ยังแค่โจมตีในส่วนธาตุหยาบ  ขณะที่เคล็ดความลึกลับแห่งดนตรีสามารถส่งผลถึงวิญญาณ  อย่างไรก็ตามถ้าศัตรูไม่เข้าใจ  อย่างนั้นต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับเทพก็อาจจะต้องประสบปัญหาเจ็บตัวกันบ้าง”
คลื่นเสียง, สำเนียงเพลง นี่คือสองด้านของเสียงที่แตกต่างกัน
อย่างหนึ่งใช้โจมตีกาย  อีกอย่างหนึ่งส่งผลถึงวิญญาณ
 “ข้าไม่แน่ใจถึงพลังที่แท้จริง  ที่สำคัญข้าได้รับทักษะมาเพียงเล็กน้อย”  ลินลี่ย์คงยิ้มเต็มหน้า
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขารักการฝึก
ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าความรู้แจ้งแต่ละอย่างก็คือความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับจักรวาลสำหรับเขา เมื่อได้รับการรู้แจ้งและการทำสมาธิ แสดงให้เห็นวันหนึ่ง โดยไม่ต้องมีการเคลื่อนไหวเลยเขาจะสามารถทำให้ฟ้าถล่มได้  เพียงแต่ ใครก็รู้กว่าจะถึงวันนั้นต้องใช้เวลานานเท่าใด
 “บีบี, เคล็ดความลึกลับอะไรที่เจ้าได้รู้แจ้งในการกลายเป็นเทพ?”  ลินลี่ย์ถามด้วยสงสัย
บีบีเม้มปาก  เขาถอนหายใจกล่าว “ก็ไม่ถึงกับทรงพลังเท่าท่านหรอก พี่ใหญ่ ก็แค่เอาไว้รักษาชีวิต ก็คล้ายๆ กับราชันย์มือสังหารซีซาร์ ถ้าข้าสู้กับใครข้ายังต้องอาศัยความสามารถตามธรรมชาติของข้า”
ลินลี่ย์ค่อนข้างเข้าใจ
ทันใดนั้น...
 “ครืนนน!  โลกสั่นสะเทือนเบาๆ  คลื่นสั่นสะเทือนนี้ส่งผ่านเข้ามาในทวีปยูลาน  และตาของเทพนับไม่ถ้วนหันไปทางทิศตะวันตก  บีบีกับลินลี่ย์จ้องไปทางทิศเหนือเป็นธรรมดา
 “มีคนกลายเป็นเทพงั้นหรือ?”  บีบีกล่าวอย่างประหลาดใจ
การชะลอลงมาของกฎธรรมชาติคือข้อพิสูจน์ว่ามีบางคนกลายเป็นเทพด้วยความสามารถของตัวเอง  ที่สำคัญการผสานกับประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ทำให้กฎธรรมชาติชะลอลงมา
 “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเลย  เหมือนกับว่าช่วงสองสามปีมานี้ มีบางคนในทิศตะวันตกกลายเป็นเทพด้วยกำลังของตนเอง”  ลินลี่ย์จ้องมองด้านล่างด้วยความสับสน และขยายสัมผัสเทพออกไป “น่าจะอยู่ในพื้นที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์  เกิดอะไรขึ้นนี่?  ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีสองคนที่กลายเป็นเทพด้วยตนเอง?”
การกลายเป็นเทพด้วยความสามารถของตนเองนั้นยากมาก
เพราะเป็นเรื่องยากนี่เอง จึงมีค่ามาก ช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีคนหนึ่งที่กลายเป็นเทพด้วยตนเอง ทำให้ลินลี่ย์คนอื่นถอนหายใจด้วยความทึ่ง  แต่ตอนนี้ยังมีอีกคนหนึ่งกลายเป็นเทพได้เอง  เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องประจวบเหมาะเกินไป
 “พี่ใหญ่, เราไปดูกันเถอะ”  บีบีรีบกล่าว
 “สหภาพศักดิ์สิทธิ์น่ะหรือ?”  ลินลี่ย์ตกใจเล็กน้อย  เนื่องจากเขาคิดบางอย่างได้  “อาจจะดีก็ได้  ได้เวลากลับไปดูกัน  ข้าไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดข้ามานานแล้ว”
ลินลี่ย์และบีบีบินเคียงคู่กันเป็นแนวเส้นยาวตรงไปทางตะวันตก
การชะลอลงมาของกฎธรรมชาติเมื่อมีคนกลายเป็นเทพเป็นเรื่องดึงดูดความสนใจของซาดิสต์เป็นธรรมดา  ขณะที่เขาขยายสัมผัสเทพออกไปค้นหาลินลี่ย์ด้วย “เอ่.. ลินลี่ย์นี้ตื่นขึ้นแล้ว โอว.. เขากำลังบินไปที่แห่งหนึ่ง?”
ลินลี่ย์กับบีบีกำลังบินด้วยความเร็วสูง  ในเวลาต่อมาหลังจากซาดิสต์ค้นหาอีกครั้งก็พบลินลี่ย์กับบีบี  พวกเขาไปถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขาแล้ว”
 “พวกเขาไปสหภาพศักดิ์สิทธิ์จริงๆ..แอนราส!  ซาดิสต์ส่งสัมผัสเทพออกไปหาแอนราสที่ยังรอโอกาสอยู่ในทุ่งราบใหญ่ตะวันออก
แอนราสนั่งสมาธิเงียบอยู่ในหุบเขา ร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น แค่เห็นวูบแรก ใครอาจคิดว่าเป็นรูปปั้นมนุษย์ก็ได้
สำหรับเขา การรอเพียงสองปีไม่มีอะไรแม้แต่น้อย  เมื่อได้ยินจากสัมผัสเทพของซาดิสต์เรียกหาเขา  แอนราสลืมตาทันที และฝุ่นบนร่างของเขาหายไปเหมือนไม่มีอะไร  คำสั่งของซาดิสต์มาถึง  “แอนราส!  ลินลี่ย์กับหนูกินเทพไปที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์ จงไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
 “ขอรับ, ลอร์ดซาดิสต์”  แอนราสกล่าวด้วยความเคารพ
และจากนั้นเสียง บึ้ม ดังขึ้น ทั่วทั้งหุบเขามีไฟกระจายพุ่งขึ้นท้องฟ้า  ร่างของแอนราสรายล้อมไปด้วยเพลิง และเหมือนกับเทพอัคคี เขาพุ่งตัดผ่านท้องฟ้าอย่างรวดเร็วบินตรงไปทิศตะวันตกและหายลับไปในขอบฟ้า
เมืองน้อยอู่ซัน บ้านเกิดของลินลี่ย์
 “เมืองอู่ซัน...”ลินลี่ย์ยืนอยู่ใจกลางเมืองอู่ซัน จ้องมองพื้นที่โดยรอบ  เขาอดทอดถอนใจไม่ได้
ภูเขาอู่ซันอยู่ถัดจากเมืองน้อยอู่ซันเปลี่นไปไม่มากนักเมื่อเทียบกับตอนที่เขายังเด็ก  แต่เมืองอู่ซันเปลี่ยนไปมากมาย  เมืองอู่ซันส่วนใหญ่กลายเป็นรกร้าง  นี่ไม่ใช่ที่ให้คนอาศัยอีกต่อไป มันคือรังที่อาศัยของอสูรเวท  ตัวอย่างเช่นหอบรรพบุรุษของตระกูลลินลี่ย์กลายเป็นรังของหมาป่าวายุ
 “เพื่อนวัยเด็กและลุงๆ ป้าๆ ในอดีตเหล่านั้น...” ใจของลินลี่ย์หวนกลับไปตอนงานเทศกาลที่ยุ่งเหยิงของเมืองอู่ซัน ทุกๆ เช้าตรู่เด็กๆ ในเมืองอู่ซันจะยืนเข้าแถวในสนามพื้นที่ว่างใกล้เมืองอู่ซันแล้วเริ่มฝึกฝน  ขณะที่ผู้ใหญ่จะเริ่มทำงานกัน
แต่ตอนนี้....
จะไม่มีภาพแบบนี้เกิดขึ้นอีก  ผู้คนส่วนใหญ่ตายไปแล้ว
 “เมืองน้อยอู่ซันไม่มีอะไรมากไปกว่าประวัติศาสตร์”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  หลังจากเหตุการณ์วันล้างโลก อดีตอาณาจักรเฟนไลล่มสลายหมดกลายเป็นพื้นที่ของอสูรเวท
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วและควบคุมสัมผัสเทพในร่างปลดปล่อยพลังเทพที่ทรงพลังออกไปทันที
แม้ว่าลินลี่ย์จะใช้ร่างเดิมของเขา  แต่ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขายังอยู่ในทะเลจิตวิญญาณของเขา  ลินลี่ย์สามารถกระตุ้นประกายศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์  พลังศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงกวาดไปทั่วเมืองอู่ซันเหมือนกับคลื่นทะเล
ทันใดนั้นอสูรเวทที่อาศัยอยู่ในภายเมืองอู่ซันหลายร้อยทั้งหมดคุกเข่าลงตัวสั่นสะท้าน
 “พวกเจ้า..ไสหัวไปให้หมด”  สัมผัสเทพของลินลี่ย์ดังขึ้นในใจของอสูรเวทแต่ละตัว
ไม่มีอสูรเวทแม้แต่ตัวเดียวที่กล้าต่อต้าน  อสูรเวทหลายร้อยส่งเสียงครางและรีบออกไปจากเมืองอู่ซันที่อันตรายที่สุดนี้ไปอย่างสุดฝีเท้า
 “บีบี, ไปเยี่ยมบ้านบรรพบุรุษข้ากันเถอะ”  ลินลี่ย์กล่าว
 “นี่เป็นบ้านเกิดข้าด้วย”  บีบีกล่าว
ในอดีตบีบีเองก็เกิดที่นั่นและได้พบกับลินลี่ย์ในบ้านบรรพบุรุษ หลังจากนั้นมา ทั้งสอง หนึ่งมนุษย์ หนึ่งอสูรเวทกลายเป็นคู่หูผูกพันชีวิตร่วมกัน  ลินลี่ย์กับบีบีก้าวเข้าไปข้างในที่มีฝุ่นปกคลุม บ้านบรรพบุรุษดูผุพัง
เมืองเฮส
เดลิน โคเวิร์ทตายที่นี่ หลายปีมาแล้ว อย่างไรก็ตามเมืองนี้ไม่ถูกอสูรเวทพิชิต ตรงกันข้ามเมืองเฮสในบัดนี้พัฒนามากขึ้นและอึกทึกยิ่งกว่าที่เป็นมาในอดีต
ภายในร้านอาหารที่ค่อนข้างดูดีในเมืองเฮส  ลินลี่ย์และบีบีพบมุมเงียบเล็กๆ  พวกเขานั่งหันหน้าเข้าหากันสั่งเหล้าและอาหารบางอย่าง
 “รสชาติไม่เลย” บีบีชม
ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า  “นั่นคือเหตุผลที่พวกเขามีลูกค้ามากมายที่นี่”  มีคนสองสามคนอยู่ในร้านอาหารนี้แล้ว
 “หือ?” ลินลี่ย์หันหน้าไปมองที่ประตูอย่างประหลาดใจทันที  เด็กสาวผมยาวสีม่วงกำลังเดินเข้ามา  หน้าของเด็กสาวมีรอยกระเล็กน้อย แต่นั่นกลับทำให้นางดูน่ารักขึ้น
 “เบลิตา”
 “เบลิตา, เจ้ากลับมาแล้ว  บิดาของเจ้ากำลังดื่มกับเรา  แต่เขาเอาแต่จ้องอยู่ที่ประตูหลายครั้งครา”
ขณะที่เด็กสาวเดินเข้ามาในร้านอาหาร  มีเสียงทักทายดังขึ้น  เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวผู้งดงามมีสหายอยู่ด้วยสองสามคน
 “เด็กสาวคนนี้เป็นใคร?”  มีบุรุษอีกสองคนนั่งอยู่ด้านหลังลินลี่ย์  หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่ม ถามขึ้นด้วยความสงสัย  บุรุษที่อยู่ข้างหน้าเขาหัวเราะ  “นี่คือลูกสาวของเถ้าแก่ร้านอาหาร  พูดให้ถูกยิ่งกว่าก็คือ ร้านอาหารนี้ถูกสร้างขึ้นมาตามที่แม่นางเบลิตาออกแบบ”
 “โอว?” บุรุษหนุ่มค่อนข้างประหลาดใจ
 “ตระกูลของเบลิตาเดิมที่เป็นตระกูลขุนนาง แต่ต่อมาล้มละลาย  บิดาของเบลิตาก็คือเจ้านายจมูกโตที่อยู่ตรงนั้น  เขาค่อนข้างมั่นในหน้าตา แม้ว่าตระกูลของเขาจะล่มสลาย  แต่เขายังต้องการใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์สวยๆ  เขาจัดการให้คนรับใช้ทำความสะอาดที่ดินทุกส่วน คฤหาสน์ประจำตระกูลของเบลิตาใหญ่โตมาก  สำหรับที่อยู่อาศัยที่ใหญ่โตอย่างนั้นก็มีค่าใช้จ่ายก็มหาศาล บิดาของเบลิตาเอาแต่ใช้เงินแต่ไม่ทำอะไร  เป็นธรรมดาเงินย่อมหมดไปอย่างรวดเร็ว  ในที่สุดก็เป็นเบลิตาที่ตั้งใจพัฒนาพื้นที่ส่วนหน้าบ้านเป็นร้านอาหาร  บ้านของเบลิตาใหญ่โตอยู่แล้ว เบลิตาจึงจัดการดูแลที่ทั้งหมด
 “นอกจากนี้, เบลิตาเป็นจอมเวทที่ทรงพลัง  คาดว่านางคงเป็นจอมเวทระดับห้าแล้ว”
เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ ลินลี่ย์เหลือบมองเด็กสาวผมม่วงด้วยความรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ
 “พี่ใหญ่! เบลิตาผู้นี้น่าประทับใจมากนะ”
ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่าการออกแบบและการตกแต่งร้านอาหารทำได้ไม่เลวเลย  ทั้งภายนอกและภายในร้านดูยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นเหตุผลให้ลินลี่ย์และบีบีเลือกร้านนี้  เขาไม่คาดเลยว่าการออกแบบทั้งหมดจะทำโดยเด็กสาว  และจากที่ดู แม้ว่าเด็กสาวอายุยังน้อย  แต่นางสามารถจัดการตระกูลได้ทั้งหมด
 “ท่านพ่อ, ข้ารู้สึกไม่สบาย  ข้าจะกลับไปพักสักหน่อย”  เบลิตาพูดกับบิดาของนางที่กำลังนั่งดื่มเหล้า
 “ถ้าเจ้าไม่สบาย อย่างนั้นก็รีบกลับไปพักเสียบ้าง”  บุรุษวัยกลางคนจมูกโตรีบกล่าว
เบลิตาหลังจากพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในประตูหลัง ทางเข้าบ้านพักของครอบครัว
 “หืม?” ขณะนั้นเองลินลี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

5 ความคิดเห็น:

GG กล่าวว่า...

ขอบคุณ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

แสดงความคิดเห็น