ตอนที่ 648 จากมหาเศรษฐีเป็นยาจก
หัวหน้าหย่งฮุยถูกหมัดอย่างรุนแรงและร่วงตกน้ำห่างออกไปหลายร้อยเมตร
อกของเขาแตกและหัวใจของเขาเกือบหยุดเต้น
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช้พลังงานของเขาเองเพื่อรักษาตนเอง
เขาชินกับการรักษาอาการบาดเจ็บภายในโดยใช้ภูตแสง เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขามีภูตแสง
อาการบาดเจ็บจะฟื้นฟูรักษาได้โดยง่าย
อย่าว่าแต่ทำร้ายหัวใจเลย ต่อให้อวัยวะภายในถูกทำลายและร่างของเขาถูกแยกส่วน
ภูตแสงสามารถใช้พลังรักษาช่วยเขาได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยพลังของภูตแสง
เขาเป็นอมตะ!
เอ๋....อะไรกัน?
หย่งฮุยรู้สึกแปลก
ครั้งนี้แตกต่างจากปกติ
ภูตแสงจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีเพื่อฟื้นฟูร่างกายของเขา
แต่ครั้งนี้ผ่านไปครึ่งนาทีแล้ว ยังไม่มีกระบวนการฟื้นฟูอะไรเลย
หัวหน้าหย่งฮุยพรวดพราดออกมาจากน้ำเลิ่กลั่กมองหาภูตแสง อย่างไรก็ตาม
เมื่อเขามองดูฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
เขาถึงกับตะลึง ภูตแสงที่ลอยอยู่ด้านหลังเขาบัดนี้อยู่ในท้องฟ้า ร่างของนางเปล่งแสงอยู่ นางถูกล้างความทรงจำออกไปด้วยวิชาลับบางอย่าง และตอนนี้นางกำลังร้องไห้
ตาของนางซึ่งไร้ชีวิตชีวาอย่างสิ้นเชิงค่อยๆ
กลับมามีประกายพลังงานอีกครั้ง
รัศมีดำนับไม่ถ้วนฉายออกมาจากร่างสีขาวบริสุทธิ์ของนาง
และถูกขับสลายไปในฝ่ามือน้อยของเสี่ยวเหวินหลี
ในแสงสีขาวแม้ว่าร่างของภูตแสงยังคงเลือนราง แต่ค่อยๆ
กลับคืนสู่ร่างเทพธิดา
ดวงตาของนางกลับกลายเป็นหวาดกลัวเหมือนกับว่านางจำเรื่องราวที่น่ากลัวบางเรื่องได้
กรี๊ดดดดดดดดดด
ทันใดนั้นภูตแสงเงยหน้าและกรีดร้องทันที
เพราะนางไม่มีร่างกายที่แท้จริง ฉะนั้นจึงไม่มีเสียงรอดออกมา
แต่ความกลัวของนางติดลามไปถึงทุกคน
หัวหน้าหย่งฮุยรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ดีเลย
ยกเลิกการเรียกทันที!
แม้ว่าตั้งแต่สมัยโบราณ
ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ภูตแสงทรยศ
แต่สถานการณ์นี้แปลกประหลาดเกินไป
หย่งฮุยรู้สึกกลัวเล็กน้อย
ขณะที่จะเรียกกลับหย่งฮุยรู้สึกว่าภูตแสงดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่าถูกเขาเรียกกลับ นางฟื้นคืนจากความกลัวและมองเขา ดวงตาของภูตแสงเบิกกว้าง
ราวกับว่านางจำเรื่องบางอย่างได้ แต่ยังสับสนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเหมือนกับเป็นสัญชาตญาณ นางเลือกที่จะขัดขืนและทำลายสัญญากับหย่งฮุยและอาบอยู่ในแสงขาว ร่างของนางบินกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตัวสั่นหนีไปราวกับว่าทุกคนเป็นศัตรูของนาง
ข้าจะฆ่าเจ้า! หัวหน้าหย่งฮุยแทบคลั่ง
ขณะที่มองภูตแสงยกเลิกทำลายสัญญากับเขา เขารู้สึกเจ็บปวดไม่มีอะไรเปรียบปานได้
ความเจ็บปวดแบบนี้หนักยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับจากหมัดของโคสาวอาหมัน
ภูตแสงที่เขาได้รับมาอย่างยากเย็นฟื้นคืนความทรงจำหลังจากปีศาจอสรพิษน้อยใช้พลังงานลับด้วยแสงนั่น
ภูตแสงราคาหกสิบล้านเหรียญทองสวรรค์ที่เขาได้มาเป็นสิ่งมีชีวิตแดนสวรรค์ไม่มีใดเทียบ
ดังนั้นหลายคนจึงทุ่มเงินเพื่อให้ได้สักตน
คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ฉายแสงสีขาว
หกสิบล้านทองถึงกับหายวับไปในทันที
หย่งฮุยชี้ไปที่เสี่ยวเหวินหลีโดยไม่ยั้งคิด
เขี้ยวแสง
วิ้ววว
ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้ได้
ก็คงยากจะสลายความชิงชังในใจของเขาได้
การสูญเสียตะวันฉายทานตะวันทำให้เขาแทบจะระเบิดอารมณ์โมโห ตอนนี้ภูตแสงก็หนีไปอีก ก็เท่ากับกำลังฆ่าเขา ต่อให้เขาต้องฆ่าปีศาจอสรพิษน้อย เขาก็คงไม่สามารถดับความโกรธของเขาได้
ตอนนี้หย่งฮุยไม่เพียงแต่ต้องการฆ่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้น แต่ยังต้องการเฆี่ยนศพและเผาศพของเขาให้เป็นจุล
เมื่อเผชิญกับเขี้ยวแสง
เสี่ยวเหวินหลีสร้างผลึกกลมใสอย่างสงบ
ลูกแก้วกลมระยิบระยับนี้ อย่าว่าแต่คนภายนอกเลย
แม้แต่เย่ว์หยางที่รู้จักเธอดีที่สุดก็ยังนับว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นเธอใช้วิชานี้ออกมา
ทันทีที่ผลึกดวงแก้วกลมปรากฏขึ้น ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้า แม้แต่แสงของอสูรตะวันฉายทานตะวันก็ยังพลอยถูกข่มไปด้วย แม้ว่าแสงรัศมีจะสว่างเจิดจ้ามาก
แต่ก็ไม่แสบเคืองตา
ในแสงนั้นเขี้ยวแสงเป็นเหมือนปลาที่ว่ายทวนอยู่ในกระแสน้ำเร็วแรง
ช้าลงๆ ทุกที ในที่สุดมันก็ช้าจนพอๆ กับทากคลาน
ในท้องฟ้าแสงจากตะวันฉายทานตะวันกลับกลายเป็นหมอง เมื่ออยู่ต่อหน้าแสงสว่างเจิดจ้านี้
มังกรเขาเดียวที่กำลังพุ่งเข้าหาเสี่ยวเหวินหลีอย่างดุร้ายร้องโหยหวนเจ็บปวด
ร่างของมันดูเหมือนกำลังถูกแผดเผา
ผิวของมันพุพองอย่างต่อเนื่องและควันก็ไม่สามารถปกป้องร่างของมันได้อีกต่อไป มันต้องลงไปซ่อนตัวอยู่ในน้ำลึกเพื่อป้องกันตัวมันเองไม่กล้าออกมาเป็นเวลานาน
แขนทั้งหกข้างของเสี่ยวเหวินหลีเคลื่อนไหวเป็นจังหวะงดงาม
เหมือนกับจะทำท่าโอบกอด
น่าทึ่งมาก
ดูเหมือนเธอจะทำพิธีผนึกอะไรบางอย่าง แม้แต่เย่ว์หยางก็ไม่เห็นพิธีอย่างนั้นมาก่อนเช่นกัน
เป็นไปได้ไหมว่าแม่หนูน้อยนี้ระลึกชีวิตในชาติก่อนของเธอได้? เย่ว์หยางงุนงง
หรือว่าความจริงเธอไม่ใช่ธิดาของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีกับตัวเขาเอง แต่เป็นหัวหน้าองครักษ์? แต่เขาไม่ต้องการคิดอีกต่อไป ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในชาติก่อน
แต่เธอยังเป็นดรุณีน้อย, ไม่ใช่แค่ลูกสาว แต่เป็นยิ่งกว่าลูกสาวคนหนึ่ง
ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้าถูกเสี่ยวเหวินหลีควบแน่นจนเป็นริ้วหนาอย่างน่าอัศจรรย์
ตัวมิติเริ่มบิดเบี้ยว
รัศมีแสงนับไม่ถ้วนทั้งหมดถูกผนึกเข้าไว้ในผลึกแก้วของเสี่ยวเหวินหลี
แม้แต่อสูรเขี้ยวแสงก็ถูกผนึกไปด้วยโดยไม่มีโอกาสต่อต้าน
มีเพียงภูตแสงที่ซ่อนตัวอยู่ด้านบนรีบเก็บแสงเลือนรางจากร่างของนาง นางจึงรอดตัวจากการถูกผนึกไว้
แน่นอนว่า อาจเป็นเพราะเสี่ยวเหวินหลีไว้ไมตรีให้กับนาง
แสงทั้งหมดถูกเธอผนึกไว้
และโลกวารีทั้งหมดมืดสนิท
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน
โลกวารีก็ค่อยๆ มีแสงสว่างของอสูรตะวันฉายทานตะวันกลับคืนมา
อสูรฝันร้ายของหัวหน้าไป๋หม่าและแมงมุมปีศาจของเฮยถูตัวสั่นงันงกเพราะกลัวจะโดนผนึกไปด้วย
แม้ว่าจะไม่ใช่พวกมันที่โดนเสี่ยวเหวินหลีผนึกเอาไว้ แต่เป็นเขี้ยวแสงของหย่งฮุย พวกมันอดกลัวในใจไม่ได้
และแอบซ่อนตัวสั่นงันงกอยู่หลังเจ้านายของพวกมัน
ไป๋หม่า, เฮยถู จงกวนและหย่งฮุยไม่เคยเห็นผนึกแบบนั้นมาก่อน พวกเขาได้ยินว่าสุดยอดฝีมือนักสู้ปราณฟ้ามีพลังผนึกชีวิตได้ แต่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน วันนี้นับว่าพวกเขาได้เห็นแล้ว
ปัญหาก็คือปีศาจอสรพิษน้อยนี้ไม่ใช่สุดยอดฝีมือนักสู้ปราณฟ้า
ดูเหมือนเธอจะยังไม่ใช่ระดับนักสู้ปราณฟ้าด้วยซ้ำ แล้วเธอผนึกเขี้ยวแสงได้ยังไง?
สิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้มากที่สุดก็คือ
เธอเป็นอสูรพิทักษ์ทั้งที่ยังเป็นทาริกาน้อย
ทันใดนั้นพวกเขาเข้าใจทันที
เทพอสูร!
นอกจากเทพอสูรแล้ว
ไม่มีอสูรอื่นที่มีความปรารถนาที่กล้าแข็ง สติปัญญาที่ฉลาดและพลังที่น่าตกใจ
“ไม่, ไม่!” หัวหน้าหย่งฮุยกระวนกระวายหนักจนแทบจะฆ่าตัวตาย เขาสูญเสียตะวันฉายทานตะวัน,
ภูตแสงทรยศและตีจาก
ตอนนี้อสูรเขี้ยวแสงยังถูกคู่ต่อสู้ผนึกเอาไว้ ยังจะมีอะไรเหลือให้เขาอีก? เขาวิ่งตะบึงไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
เหวี่ยงหมัดใส่เสี่ยวเหวินหลี
แต่กฎสวรรค์ห้ามใช้วิทยายุทธ
จึงทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปล่อยหมัดออกไปได้
เสี่ยวเหวินหลีเงยหน้าและใช้ดวงตาที่เย็นยะเยือกจ้องหย่งฮุย
นี่ไม่ได้ใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการ แต่เป็นพลังกดดัน
ปณิธานของเทพอสูรรุกรานเข้ามาในวิญญาณของหย่งฮุยทำให้เขาตื่นตระหนก
หมัดของเขาคลายตัวภายใต้การจ้องมองของเสี่ยวเหวินหลี
เขาสั่นและลดหมัดลง จากนั้นค่อยๆ ถอยทีละนิดๆ เกรงว่าเสี่ยวเหวินหลีจะฆ่าเขา
ขณะนั้นเสี่ยวเหวินหลีไม่ใช่อสูรที่เขาเกลียดอีกต่อไป แต่เป็นสุดยอดเทพอสูรที่มีพลังฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าหย่งฮุยมีพลังปราณฟ้าระดับสี่ และจิตใจเขามั่นคง เขาคงต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอแล้ว โชคดีที่นี่ยังเป็นอสูรเทพเด็กอยู่ ถ้าเธอเป็นผู้ใหญ่
พลังจะอยู่ในระดับสุดยอดและเขาอาจถูกฆ่าได้
เมื่อหย่งฮุยอยู่ห่างได้ร้อยเมตร
เขาพบว่าตนเองหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ในหัวใจเขา เขาไม่เคยรู้สึกถึงเงาความตายที่ชัดเจนอย่างนั้นมาก่อน
เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
ที่เขาพบว่าเขากระตือรือร้นที่จะมีชีวิต
เป็นความตายที่กลัว
“นั่นช่างน่ากลัวจริง!” จงกวน
ไป๋หม่าและเฮยถูก็หลั่งเหงื่อพรั่งพรู
กลับกลายเป็นว่าปีศาจอสรพิษน้อยยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ของเธอด้วยซ้ำ ถ้าเธอปล่อยพลังของเทพอสูร
ศัตรูทั้งหมดที่ดูแคลนเธอคงจะตายกันหมด!
“ข้ามีธุระสำคัญต้องไปจัดการก่อน
แล้วค่อยเจอกับพวกเจ้าทีหลัง!”
เย่ว์หยางกางแขนและกอดเสี่ยวเหวินหลีที่บินกลับมาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้ม เขาจูบรับขวัญเป็นรางวัลให้กับลูกสาว เสี่ยวเหวินหลีโถมตัวเข้ากอดเย่ว์หยาง ราศีของอสูรเทพหายไป และทำตัวเหมือนลูกสาวที่ทำงานได้ดีและออดอ้อนอยู่อ้อมแขนบิดาของเธอ
เจ้าเมืองโล่วฮัวก็จูบเสี่ยวเหวินหลีและลูบศีรษะเธอแสดงความรักเอ็นดู
เย่ว์หยางพาเสี่ยวเหวินหลีและอาหมันพร้อมกับจูงมือเจ้าเมืองโล่วฮัวจากไป
พวกเขามุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และหายลับไปในระยะไกล
เมื่อเขาจากไปแล้ว ทั้งจงกวน
ไป๋หม่าและเฮยถูยิ้มเย็นชารายล้อมหัวหน้าหย่งฮุย
“เราทุกคนมาจากแดนสวรรค์ ทำไมเราถึงไม่พูดเรื่องนี้กันดีๆ
ด้วย?
บางทีเราอาจรวมกำลังสู้กับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้ อ่า... ข้าหมายถึง
ข้าไม่มีความแค้นอะไรกับพวกเจ้า เราอาจจะร่วมมือกันได้” หย่งฮุยรู้สึกแย่ ถ้าเขายังมีเขี้ยวแสง
ทั้งสามนี้ยังจะกล้าสู้ด้วยหรือ นั่นเท่ากับหาที่ตาย
“หัวหน้าหย่งฮุยไม่มีตะวันฉายทานตะวันและภูตแสงคอยปกป้องร่างของท่านและเขี้ยวแสงเอาไว้ข่มคนอื่น?
ข้าสงสัยจริงๆ
ทำไมเจ้าถึงไม่ถูกหรือร่วมมือกับเราก่อนจะสูญเสียอสูรของเจ้า?” จงกวนถามตรงประเด็น
“แน่นอน เราสามารถพูดได้
ต่อเมื่อเสร็จการต่อสู้
เราค่อยเริ่มพูดกัน”
ม้าเพลิงสวรรค์ของไป๋หม่าเกือบถูกทำลาย ความโกรธในใจเขายังไม่คลายหายไป!
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์”
เฮยถูสั่งให้แมงมุมปีศาจโจมตีทันที
“เจ้านึกว่าข้ากลัวพวกเจ้าทั้งสามนักหรือ?” หัวหน้าหย่งฮุยโกรธ เนื่องจากหลายอย่างดูน่าเกลียด
จึงเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนในสถานการณ์นั้น
เขาสูญเสียตะวันฉายทานตะวัน ภูตแสงและเขี้ยวแสง แต่ก็ไม่ใช่ลูกพลับที่อ่อนเหลาะแหละที่จะบีบคั้นย่ำยีกันง่ายๆ เขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่
คงเป็นเรื่องน่าอับอายที่กลัวจนต้องหนีนักสู้ปราณฟ้าระดับสองสามคน “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะน่ากลัวเท่ากับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ เจ้าต้องการสู้ใช่ไหม? ไม่มีใครกลัวสักหน่อย!” ขณะที่หย่งฮุยสั่งมังกรเขาเดียวให้กลับมาสู้ เขาเรียกอสูรน้อยตาทองเขาเงินออกมา
ด้วยความฉลาดของเจ้าตัวน้อยนี้
ลูกไม้ของมันสามารถจัดการกับอสูรของศัตรูได้?
เป็นไปไม่ได้!
แต่เมื่อหย่งฮุยเรียกอสูรน้อยออกมา
มันกลับทรยศเขาทันทีเปลี่ยนเป็นแสงสีเขียวและไล่ติดตามเย่ว์หยางเพื่อขอให้เขาปกป้องหรือเข้าร่วมกับเขา
หย่งฮุยตกตะลึง
เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะจบลงในลักษณะนี้ มันฉลาดเกินไป ฉลาดเหลือเชื่อ
โชคดีที่เจ้ามังกรเขาเดียวโง่จึงไม่ได้ทรยศเขา มิฉะนั้นเขาคงฆ่าตัวตายทันที
“อ๋า? ก๊ากๆๆๆๆ!” จงกวน
ไป๋หม่าและเฮยถูทั้งสามคนตะลึงในตอนแรก
จากนั้นก็หัวเราะขำกลิ้งจนแทบจะทรงตัวอยู่ในอากาศไม่ได้และร่วงลงน้ำ “หัวหน้าหย่งฮุย เจ้ามีอสูรอยู่มากมายไม่ใช่หรือ
จากเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดกลายเป็นยาจกที่ยากจนที่สุด, แค่เพียงวันเดียว! ตอนนี้ขอดูซิว่าเจ้าจะหยิ่งได้ขนาดไหน!”
พวกเขาทราบว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์มีธุระต้องจัดการ ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องน่าอนาถของหย่งฮุยคงไม่จบลงเพียงเท่านี้แน่!
ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม เขาต้องมีสมบัติบางส่วนบ้างจริงไหม?
พวกเขาไม่คิดว่าเย่ว์หยางจะใจดีมากยอมปล่อยสมบัติเหล่านั้นหลุดมือไป
11 ความคิดเห็น:
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ นี้แหละ โจรที่ดี ที่แม้แต่สมบัติ ก็ ยังเอาตัวเองมามอบให้ด้วยตัวเองเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆคับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ตามสไตล์พี่เย่ห์เค้าเลย ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
55555+ ไฟไหม้บ้านสิบครั้ง ไม่เท่าโดนเย่ว์หยางปล้นครั้งเดียว :v
ป.ล. เสี่ยวเหวินหลีน่ารักกกกกกก ><
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น