วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 921 ล้างแค้น!


ตอนที่  921  ล้างแค้น!
ทหารทุกคนและขุนพลต่างถูกความลับสะเทือนฟ้าดินนี้ครอบงำจนตกตะลึง  และพวกเขาปากอ้าค้าง  ถูกแล้ว เรื่องเช่นนั้นเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ แม้ว่าพวกเขาจะตกตะลึงกับหลายสิ่งหลายอย่างก็ตาม
 
แม้แต่แม่ทัพเฒ่าและเล่าถังก็ยังตะลึงไปด้วย แม้เมื่อได้ยินจากปากของมู่จือเสีย  พวกเขาสามารถได้ยินความบ้าคลั่งและหลงใหลสำหรับวิหาร  แม่ทัพเฒ่ากลายเป็นขุนพลวิญญาณหลังจากตายไปแล้ว  แต่เขาไม่เคยคิดว่าเพื่อประโยชน์สร้างวิหารใหม่  ประมุขผู้อาวุโสตั้งใจจะกลายเป็นขุนพลวิญญาณเสียเอง
เขาทิ้งชีวิตตัวเองและเสี่ยงเพื่อวิหาร
เขาต้องถอนการเหยียดหยามและการเยาะเย้ยที่เขามีต่อความปรารถนาชีวิตอมตะของประมุขผู้อาวุโส เพราะเขาถามตัวเองตามตรง  แล้วข้าเล่า?
ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะเป็นผู้นำกองทัพดาวกางเขนใต้ตลอดไป  ตราบใดที่เขายินดีชนะสงคราม  เขาจะไม่ลังเลอะไรทั้งนั้น  ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น  ใครก็ตามในกองทัพก็ทำได้เหมือนกัน
ชีวิตคือสิ่งที่มีค่า  สามารถเพลิดเพลินกับความอบอุ่นของดวงอาทิตย์  รู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นเร็วกว่า เวลาเป็นสิ่งที่ไร้อารมณ์  เยือกเย็นและเต็มไปด้วยความน่ากลัว  แต่มีเรื่องสองสามอย่างเสมอ เรื่องให้ฝันที่ทำให้คนผู้หนึ่งเอาชนะความปรารถนาจจะมีชีวิตอยู่ได้นาน  นั่นทำให้คนอื่นเอาชนะความกลัวเวลา  และมีคนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เข้าใกล้ให้ได้
ผู้บัญชาการเฒ่ายังคงเงียบสงบ
ประมุขผู้อาวุโสเลือดเย็นและเห็นชีวิตมนุษย์เหมือนกับผักปลา  เขาบ้าคลั่งและไร้เหตุผล  แต่เขาคือเขา ท่านสามารถปฏิเสธเขาได้  แต่ท่านไม่สามารถเหยียดหยามเขา ท่านไม่ชอบเขาได้  แต่ท่านไม่อาจประมาทเขา
เขาคือศัตรูที่น่ากลัวคนหนึ่ง
คนที่บ้าคลั่งจนถึงขนาดไม่สนใจชีวิตตนเอง มนุษย์เลือดเย็นผู้เห็นชีวิตมนุษย์มากมายเป็นแค่เพียงตัวเลข  ไม่มีมีความกลัวในสนามรบ  และสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อให้ชนะ
 “เขาทำสำเร็จ”  เสียงของมู่จือเสียดังขึ้นเหมือนกับถูกซ้อนด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ดูค่อนข้างสง่า เสียงที่ทหารทั้งหมดคุ้นเคยด้วย  แต่ขณะเดียวกันแม้แต่มู่จือเสียเองก็เกลียดและไม่เต็มใจ  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ไหลอยู่ใต้ผิวของเขากลายมีชีวิตชีวามากขึ้น  ทุกคนซึมซับกับคำพูดของมู่จือเสียจนพวกเขาไม่ทันสังเกตว่ากระดูกนิ้วของเขาที่ถูกเพลิงศักดิ์สิทธิ์ห่อหุ้มกำลังละลายเงียบๆ
มู่จือเสียมองดูเหมือนกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงมัน  “โอกาสสำเร็จ 10% แต่เขาทำได้สำเร็จ  เขากลายเป็นผู้อาวุโสของวิหารที่ทรงพลังที่สุด  และทุกคนที่อยู่ต่อหน้าเขาต้องเชื่อฟังเขา  เขาออกคำสั่งในนามวิหาร เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเขากลายเป็นขุนพลวิญญาณ  เขากลายเป็นคนเก็บตัวและใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์หุ้มคลุมตัวเขาไว้  ทุกคนคิดว่าประมุขผู้อาวุโสใช้วิธีพิเศษฝึกเพลิงศักดิ์สิทธิ์และไม่มีใครคาดว่าเป็นขุนพลวิญญาณต่างหากที่อยู่ภายในเพลิงศักดิ์สิทธิ์”
ทุกคนที่อยู่รอบตัวมีอาการผสมปนเปทั้งตกใจและรับรู้  ทุกคนรู้ว่าตลอดทั้งตัวของประมุขผู้อาวุโสถูกห่อคลุมรอบด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์  แต่ไม่มีใครคิดว่าจะถูกแยกเป็นความลับ
เล่าถังมองดูมู่จือเสีย แสงรัศมีของเพลิงศักดิ์สิทธิ์เริ่มปะทุจากตัวมู่จือเสีย  เขาถาม “อย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นกับท่าน?”
 “ข้าน่ะหรือ?  นี่เป็นปัญหาที่แตกต่างออกไป”  มู่จือเสียยิ้มขมขื่น  แสงเริ่มฉีกหน้าของเขาทำให้หน้าของเขาดูแปลกประหลาด  “ประมุขผู้อาวุโสรู้ว่าถ้าเขาจะต้องมีชีวิตไม่มีที่สิ้นสุด  เขาเพียงคนเดียวไม่อาจตระหนักรู้ถึงความฝันของเขาได้  เขาต้องการให้คนมากมายได้เห็นเป้าหมายเดียวกันเหมือนเขา  ข้าไม่ได้เกิดจากตระกูลสูงส่ง  และได้รับการร้องขอจากเขา  แต่ข้าปฏิเสธ  ข้าไม่ต้องการกลายเป็นขุนพลวิญญาณ  ชีวิตของข้าถูกกำหนดต้องมอบให้วิหาร  แต่ข้าหวังว่าจะได้พักอย่างสงบหลังตาย  เพราะเวลายาวนานที่สุดทำให้ข้ารู้สึกกลัว  ประมุขผู้อาวุโสไม่ได้ลงโทษข้า  แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล  เขาทิ้งบางอย่างไว้ในตัวข้า  สิ่งนี้เพิ่มจะทำงานในบัดนี้”
 “รักษาได้หรือไม่?”  แม่ทัพเฒ่าถาม  มู่จือเสียให้เกียรติคู่ต่อสู้  เขาไม่ต้องการให้มนุษย์ตายในลักษณะนั้น
แม่ทัพเฒ่าเป็นหนึ่งในคนรุ่นเก่า  เพื่อผลประโยชน์ของเขา  วีรบุรุษอย่างมู่จือเสียควรจะตายในสมรภูมิ และไม่ใช่ตายด้วยแผนการลับบางอย่าง
 “ไม่มีทางรักษา”  มู่จือเสียตอบ  “เขาจะไม่สร้างความผิดพลาดอย่างนั้น”
แม่ทัพเฒ่ารู้ว่ามู่จือเสียกำลังพูดเรื่องประมุขผู้อาวุโส
 “ทวีปเซียน, เกิดอะไรขึ้นกับทวีปเซียน?  นายท่าน ท่านเพิ่งพูดถึงทวีปเซียนไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง?”
ทันใดนั้นทหารคนหนึ่งถามอย่างเร่งด่วน  ทหารที่อยู่รอบๆ เขามองดูเป็นกังวล  ครอบครัวของเขาอยู่ในทวีปเซียน  และพวกเขาอดมีลางสังหรณ์อัปมงคลไม่ได้
มู่จือเสียยังคงเงียบ  เขาเอ่ยปาก  แต่เขารู้สึกว่าความเจ็บปวดเสียดแทงหัวใจของเขาจนพูดอะไรไม่ออก
 “นายท่าน!  ได้โปรด!  ทหารคุกเข่ากับพื้น คำนับและเริ่มขอร้อง  “นายท่าน, ผู้น้อยติดตามท่านมาหลายปีแล้ว  ได้โปรดบอกเรา”
 “นายท่าน! ทหารทุกคนของกองทัพมู่จือเสียคุกเข่า  พวกเขาอ้อนวอน
มู่จือเสียหัวเราะ  “ทวีปเซียน ไม่มีต่อไปอีกแล้ว  ข้ารู้ว่าพวกเขามีแผน  แต่ข้าไม่รู้รายละเอียดเล็กน้อย  ข้าเพียงรู้คร่าวๆ  เมื่อวิหารถูกต้อนเข้ามุม  พวกเขาจะไม่สนใจทุกอย่างและเปลี่ยนเป็นขุนพลวิญญาณ  หลังจากนั้น...”
อากาศรอบตัวดูเหมือนจะหายไป และเวลาเหมือนกับจะหยุดลง  ทหารไม่กล้าหายใจ ขณะที่พวกเขามองดูมู่จือเสียด้วยสีหน้าซีดขาว
 “หลังจากนั้น พวกเขาจะใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ในทวีปเซียนเพื่อปฏิวัติ”
มู่จือเสียพูดด้วยเสียงสั่นสะท้าน เต็มไปด้วยความเสียใจ และเขาไม่รู้ว่าเขายังเหลือความแข็งแรงจนพูดคำเหล่านั้นออกมาได้ยังไง
เหมือนกับว่าเขาสามารถเห็นสมาชิกครอบครัวของตัวเขาเองเปลี่ยนแปลง โศกเศร้าอยู่ในเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ถูกกลืนโดยขุนพลวิญญาณ
เลือดยังคงไหลออกจากหน้าของเขาและไหลลงพื้น
 “ไม่....”  ทหารอยู่ในอาการตกใจ  ใจของเขาว่างเปล่า  เขาพึมพำ  “ไม่มีทาง  เราสู้เพื่อวิหาร  เราเป็นคนของวิหาร  วิหารทำแบบนั้นกับครอบครัวของเราได้ยังไง....”
ทหารคนอื่นเอามือกุมศีรษะ  ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยอาการงุนงง  ขณะที่บางคนมีความกลัวและสิ้นหวัง
 “เมล็ดพันธุ์ที่ถูกฝังไว้ในตัวข้าเริ่มทำงานแล้ว  ข้าสามารถรู้สึกได้ว่าทวีปเซียนไม่คงอยู่อีกต่อไปแล้ว,  ครอบครัวของพวกเรา...”  มู่จือเสียหัวเราะ  เขารู้สึกว่าเขาโง่เกินไป  เขามอบชีวิตให้กับองค์กรแบบนี้ และแม้แต่สมาชิกครอบครัวของเขาเหมือนถูกวางอยู่บนโต๊ะ
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียด  เกลียดตัวเองที่เข้าร่วมกับวิหาร สู้เพื่อวิหาร รวมทั้งครอบครัวของเขาด้วย
บางครั้งเขาได้ยินข่าวมาเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยจดจำไว้ในใจ เพราะเขารู้สึกว่าตราบใดที่ประมุขผู้อาวุโสยังมีเหตุผล เขาคงจะไม่ดำเนินการตามแผน  ทวีปเซียนเป็นรากฐานของวิหารที่ซึ่งพลเมืองของพวกเขาอาศัยอยู่  แม้แต่บรรดาสาวกผู้มีศรัทธาและคนในตระกูลและญาติมิตรของวิหารรวมอยู่ด้วย  ถ้าวิหารดำเนินการตามแผน ก็เท่ากับว่าขุดรากฐานของตนเองไม่ใช่หรือ?  ใครจะกล้าติดตามวิหารที่ยินทำร้ายเลือดเนื้อของตนเอง และผู้ติดตามพวกเขาเล่า?
 แม้ว่าประมุขผู้อาวุโสจะบ้าไปแล้ว  แต่เขาเป็นคนมีปัญญา ไม่ควรจะทำเรื่องโง่เขลาอย่างนี้’
 ข้าเป็นคนโง่คนหนึ่ง!’
 เป็นเพราะข้าทำร้ายทุกคน!’
 แต่น่าเสียดาย,  ข้าไม่สามารถล้างแค้นได้...’
คลื่นเพลิงศักดิ์สิทธิ์พลุกพล่านออกมาจากร่างของเขา  ในพริบตา เขากลายเป็นมนุษย์ที่ไฟลุกไหม้  เพลิงศักดิ์สิทธิ์สีขาวลุกโพลงรุนแรง  มู่จือเสียรู้สึกได้ว่าร่างของเขาเบาลงๆ ควมเจ็บปวดจากการถูกเผาวิญญาณทำให้สติสัมปชัญญะของเขาเลือนราง  และเขารวบรวมพลังครั้งสุดท้ายตะโกนขณะสั่นสะท้าน
 “ล้างแค้น!  ล้างแค้น!  ล้างแค้น!”
ปัง!
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ปะทุออกและกลืนร่างมู่จือเสียให้เงียบสนิทอยู่ในเปลวเพลิง
ทหารทุกคนตะลึง  พวกเขากระโจนเข้าหาเพลิงศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่งต้องการจะลากมู่จือเสียออกมา
เล่าถังและแม่ทัพเฒ่ามีปฏิกิริยารวดเร็ว  พวกเขาขัดขวางทหารที่ควบคุมตัวเองไม่ได้สูญเสียอารมณ์  ทหารที่บ้าคลั่งของมู่จือเสียไม่สนใจอะไรทุกอย่าง  พวกเขาอ้อนวอนทั้งกัดทั้งเตะต่อยใส่ทหารจักรกลพร้อมกับหลั่งน้ำตาเต็มหน้า
 “อย่าทำร้ายพวกเขา”  เล่าถังไม่สามารถทำอะไรได้ และได้แต่เตือนทหาร
กองทัพดาวกางเขนใต้พากันเงียบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทหารศัตรูยังไงก็ตาม กลุ่มทหารจักรกลได้แต่จับยึดตัวพวกเขาไว้  พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ลุกโพลง ในพริบตา ศพของมู่จือเสียก็มอดไหม้อย่างสิ้นเชิง และไม่มีอะไรเหลืออยู่ในกองไฟ
ทหารของมู่จือเสียทุกคนหยุดนิ่ง เหมือนกับว่าพวกเขามึนงงจ้องมองเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ว่างเปล่า
พวกเขาได้แต่หวนไห้อยู่ในใจ
พวกทหารที่ปีนป่ายอยู่บนตัวหุ่นจักรกลโกรธและมีทั้งควันและฝุ่นเปรอะเปื้อนไปหมด  พวกเขาร้องไห้โหยหวน  พวกเขาปีนลงมาจากหุ่นจักรกลและทรุดตัวกับฝุ่น
หน้าของพวกเขาซบลงกับพื้น  ฝ่ามือของพวกเขากำฝุ่นไว้แน่น  พวกเขาร้องเรียกชื่อสมาชิกครอบครัวพวกเขา ร้องเรียกมู่จือเสีย  พวกเขาต้องการไขว่คว้าบางอย่าง  แต่ไม่สามารถคว้าอะไรไว้ได้  พวกเขาเอาหัวโขกและขดตัวรู้สึกว่าไร้ประโยชน์และสิ้นหวัง
พวกเขายอมรับความตายในสนามรบด้วยการยอมทิ้งศพไว้ในถิ่นทุรกันดาร  นั่นคือความรับผิดชอบของพวกเขาซึ่งพวกเขาไม่สามารถปกปิดไว้ได้  แต่ครอบครัวของพวกเขากลายเป็นปุ๋ยให้กับวิหาร  ความจนใจ ความโศกเศร้าและความสิ้นหวังครอบคลุมหัวใจพวกเขา
ความเชื่อถือและความคิดทั้งหมดแตกกระจัดกระจาย  พวกเขารู้ว่าครอบครัวของพวกเขาตายแล้ว และพวกเขามองดูเจ้านายที่พวกเขาเคารพอย่างสูงถูกเผาเหลือแต่เถ้าถ่านต่อหน้าเขา คนที่แข็งแกร่งเหล่านี้รอดชีวิตมาได้โดยไม่พ่ายแพ้นับครั้งไม่ถ้วน  แต่กลับพังทลายในขณะนั้น
เล่าถังและแม่ทัพเฒ่าแสดงอารมณ์เศร้าใจ มันคือความจริงที่โหดร้าย และฉากภาพที่น่าสะเทือนใจคือสิ่งที่หัวใจพวกเขาไม่สามารถรับได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาได้ยินทหารกรีดร้องเรียกชื่อของสตรีของครอบครัวพวกเขา เสียงร้องคร่ำครวญน่าสะเทือนใจ จนพวกเขาต้องหันหน้าไปอีกทาง
 นี่เป็นเรื่องโหดร้ายที่สุดในโลก’
 เป็นเรื่องบ้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา!’
ทหารทุกคนเดินสู่แนวหน้าต่อสู้เพื่อวิหาร  แต่วิหารกลับทำร้ายครอบครัวพวกเขา!
ความโกรธแค้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทะลักขึ้นในใจของแม่ทัพนายกองทุกคน  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูของพวกเขา  แต่ขณะนั้นพวกเขาแบ่งปันความรู้สึกเกลียดต่อคนๆ เดียว และทุกคนต้องการหั่นประมุขผู้อาวุโสให้เป็นชิ้นๆ
พวกเขาเห็นใจ  ทุกคนเป็นทหารที่ออกสู่สนามรบ ดังนั้นจึงมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งเห็นอกเห็นใจ
แม่ทัพเฒ่ามองดูทหารมือดีทั้งหมดด้วยสายตาว่างเปล่า ด้วยความรู้สึกแย่  ไม่ควรจะเป็นอย่างนี้เลย บุรุษผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
เขาสูดหายใจลึก จากนั้นตะโกนลั่น  “พวกเจ้าทุกคน หุบปากให้กับข้าเดี๋ยวนี้!”
ทหารทุกคนเงยหน้าขึ้นทันที
 “พวกเจ้าทุกคน, ลืมคำสั่งเสียของมู่จือเสียก่อนตายแล้วหรือ?  พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือว่ามหาสมุทรแห่งความเกลียดชังของพวกเจ้าลึกล้ำเพียงไหน?  พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่าใครเป็นฆาตกรหลัก?”
เสียงของประมุขผู้อาวุโสดังผ่านสนามรบ และดวงตาที่ลึกของทหารของมู่จือเสียทุกคนเริ่มมีประกาย
 “ล้างแค้น  ล้างแค้น  ล้างแค้น!”
แม่ทัพใหญ่มองดูรอบๆ รังสีอำมหิตของเขาท่วมฟ้า

8 ความคิดเห็น:

งงอ๊ะจะทำไม? กล่าวว่า...

ได้แนวร่วมมาอีก1กองทัพ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เสียงของประมุขผู้อาวุโสดังผ่านสนามรบ นั้นไง ตอนนี้อยู่กลางวงล้อมด้วย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Janjaow กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Janjaow กล่าวว่า...

สุดยอด แต่งได้สุดยอดมาก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น