วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่ม 13 เกบาโดส – ตอนที่ 43 ดีใจสุดขีดพลันเป็นโศก


เล่ม 13 เกบาโดส – ตอนที่ 43 ดีใจสุดขีดพลันเป็นโศก
บาร์นาส โอจวิน ฮันบริทและเกเทนบีล้วนจ้องมองปากอ้าตาค้าง
พวกเขามองการสู้รบซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น  เมื่ออยู่ต่อหน้าเบรุต  แอดกินส์เป็นเหมือนทารกไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย ที่ร้ายที่สุดคือแอดกินส์โจมตีเต็มกำลังที่ศีรษะของเบรุต  แต่เบรุตไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

 “ตลก  ตลกเกินไปแล้ว”
เบรุตส่ายศีรษะ และระบายลมหายใจ จากนั้นบินไปทิศเหนือกลับโลหะปราสาทด้วยความเร็วสูง  ความจริง เบรุตเตรียมการต่อสู้นี้มานานแล้ว  ถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้น  เขาไม่จำเป็นต้องออกจากโลหะปราสาทเพื่อเตรียมสู้รบกับแอดกินส์ในกลางอากาศ
 “เฮ้อ....”  โอจวินและพวกเขาระบายลมหายใจยาว
โชคดี เบรุตไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อยขณะที่เขาจากไป  มิฉะนั้นทั้งสี่คนร่วมกำลังกันก็คงไม่สามารถต้านทานรับพลังจากไม้เท้าของเบรุตได้แม้แต่ครั้งเดียว
 “ช่างน่ากลัวจริงๆ”  ฮันบริทระบายลมหายใจ
บาร์นาสจ้องมองร่างที่ไร้ศีรษะสองร่างข้างล่าง  เขาพูดขึ้นด้วยความเสียใจ  “คุณชาย!  บาร์นาสบินลงไปข้างล่าง  เขากับแอดกินส์มีความสนิทกันมาก  ทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานมาก และตอนนี้แอดกินส์ตาย บาร์นาสเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน
โอจวินตาเป็นประกาย
 “แหวนมิติเก็บสมบัติ!  โอจวินเห็นว่าศพทั้งสองข้างล่าง ศพร่างแยกธาตุแสงยังสวมแหวนมิติเก็บสมบัติอยู่บนนิ้ว  “แหวนมิติเก็บสมบัติของแอดกินส์มีประกายเทพชั้นสูงอยู่ในนั้น”  หัวใจโอจวินเริ่มสั่นสะท้าน
แม้ยังอยู่ในฝัน โอจวินก็ยังฝันเรื่องกลายเป็นเทพชั้นสูง!
และตอนนี้ โอกาสมาถึงแล้ว!
 “บางทีแหวนมิติเก็บสมบัตินั้นยังมีประกายเทพธาตุแสง”  โอจวินลอบบอกกับตัวเอง  โอจวินลอบเข้าไปอยู่ใกล้เกเทนบีและฮันบริท แต่โดยที่คาดไม่ถึง ฮันบริทกับเกเทนบีชำเลืองมาทางเขาและมองกันเอง
ทั้งสามคนต่างมองกันเอง จากนั้นยิ้มกันทั้งหมด
ทุกคนรู้ว่าต่างคนต่างคิดอะไรกันอยู่  บรรดาบริวารทั้งสี่ของแอดกินส์ มีแนวโน้มว่ามีแต่บาร์นาสไม่สนใจในประกายเทพชั้นสูง  ที่สำคัญ ไม่เหมาะจะให้เขาหลอมรวมได้  ทั้งสามคนมีความคิดเดียวกัน
 “ฮันบริท เกเทนบี พวกเจ้ายังต้องการประกายเทพชั้นสูงในแหวนมิติเก็บสมบัติไหม?”  โอจวินส่งการสื่อสารผ่านสำนึกเทพ
ตาของฮันบริทและเกเทนบียังมีร่องรอยแห่งความสุข
เกเทนบีตอบด้วยสำนึกเทพของเขา  “อย่างไรก็ตาม เราต้องจัดการกับบาร์นาสก่อน  เขาทรงพลังมาก  ถ้าเราไม่ฆ่าเขา  ไม่มีทางที่เราจะเอาแหวนมิติเก็บสมบัติมาได้”
 “ตกลง  พวกเราทั้งหมดจะรวมพลังกันฆ่าบาร์นาส  ขณะที่ประกายเทพ หลังจากเราได้มาแล้ว ค่อยมาดูกันว่าเป็นธาตุชนิดใด  ใครก็ตามที่ธาตุเข้ากันได้ ผู้นั้นก็จะได้รับประกายเทพไป!  ฮันบริทกล่าว และโอจวินกับเกเทนบีแสดงสีหน้ายอมรับ
ทั้งสามคนต่างชำเลืองมองกันเอง และจากนั้นบินลงมาพร้อมกันเหมือนว่าได้ตกลงไว้ก่อน
 “ลอร์ดแอดกินส์!  เกเทนบีร้องออกมาด้วยท่าทางเสียใจ
 “ท่านบาร์นาส, อย่าได้เสียใจมากเกินไป”  ฮันบริทบินเข้ามาหาเช่นกัน
บาร์นาสในตอนนี้กำลังเสียใจจากความสูญเสีย  ภาพที่เขาอยู่กับแอดกินส์มาตลอดหลายปีเหล่านี้ผ่านเข้ามาในใจเขา  เขาหลั่งน้ำตาเต็มหน้าอย่างมิอาจข่มกลั้นได้  เขาไม่มีความคิดเลยว่าโอจวินกับพวกอีกสองคนตั้งใจจะทำอะไร
 “ลงมือ!  โอจวินตะโกนผ่านสำนึกเทพบอกกับอีกสองคน
โอจวิน เกเทนบีและฮันบริทมีอาวุธปรากฏขึ้นในมือของพวกเขา และในทันทีต่อมา พวกเขาบุกเข้ามาอยู่ใกล้บาร์นาส  เทพแท้ทั้งสองเปล่งรังสีฆ่าฟันในดวงตาไม่มียั้งไว้แม้แต่น้อย
 “แย่แล้ว” ทันใดนั้นบาร์นาสรู้สึกได้ถึงรัศมีที่น่ากลัวและเปลี่ยนเป็นรังสีสายฟ้าบินหนีออกมาห่างๆ ทันที
โชคไม่ดี ไม่ว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือที่รวดเร็วขนาดไหนก็ตาม การหนีก็ยังมีระยะกระชั้น  ในขณะนั้นความเร็วของเขายังไม่ถือว่าเร็วมาก  ขณะที่โอจวิน เกเทนบีและฮันบริทเร่งความเร็วจนถึงขีดจำกัดขณะที่พวกเขารุกขนาบเข้ามา
 “พวกเจ้าจะทำอะไร?!  สำนึกเทพของบาร์นาสกวาดผ่านใจของทั้งสามพลางร้องด้วยความโกรธ
บาร์นาสหันหน้ามาเผชิญกับโอจวินแล้ว ขณะที่อีกสองคนถอยหลังด้วยความเร็วสูง
 “ตาย!
ประกายกระบี่สีเขียวและดาบศึกที่แฝงไปด้วยรังสีทำลายล้าง  สามเทพรุกโจมตีอย่างเต็มกำลัง  และต้นไม้ใหญ่ที่คงทนอยู่มาหลายปีกลายเป็นฝุ่นสลายลงกับพื้นโลก
 “บัดซบ!  บาร์นาสเป็นคนฉลาด  เขาสามารถเดาได้ทันทีว่าทั้งสามคนนี้มีเป้าหมายอะไร
เขาไม่มีโอกาสหนีตอนนี้  บาร์นาสกัดฟันกลายเป็นสายฟ้าร่างมนุษย์  อาวุธเทพชั้นสูงในมือของเขา หอกแห่งคอร์เตซ แทงตรงใส่เกเทนบี  ขณะที่บาร์นาสหวังว่าจะทำลายตรงจุดนี้และหนีเอาชีวิตรอด
แต่โอจวินและพวกอีกสองคนจะยอมปล่อยเขาให้หนีไปได้ยังไง?
 “บึ้ม!
สามต่อหนึ่ง!
โลกดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นบึงที่เต็มไปด้วยระลอก  ภายในรัศมีพันเมตร ก้อนหิน ต้นไม้และอสูรเวทที่อยู่ใกล้ต่างสลายกลายเป็นจุล  ฝุ่นธุลีปลิวกระจายไปทั่วทุกที่  แต่การสู้รบได้ผลสรุป
ตาของบาร์นาสเบิกค้างไร้ประกาย และเขาล้มลงตายตามแอดกินส์ไปอีกคน
 “ปัง!” เกเทนบีปรากฏมีรูที่หน้าอกและล้มลงในเวลาไล่เลี่ยกัน
หอกคอร์เตสไม่ได้มีพลังโจมตีธาตุหยาบเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยพลังโจมตีวิญญาณ  บาร์นาสรับการโจมตีจากการผนึกกำลังกันทั้งสามเทพ  แต่แม้ว่าเขาจะตาย แม้ในขณะที่ตายยังดึงเอาหนึ่งในสามคนที่ทรงพลังที่สุดคือ เกเทนบีให้ตายตามเขาไปด้วย
บาร์นาสผู้นี้ทรงพลังที่สุดในหมู่เทพแท้ทั้งสี่คน
 “เฮ้อ” โอจวินและฮันบริททั้งคู่สั่นสะท้านใจ  ฝุ่นค่อยๆ จางลง  ทั้งสองต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกว่าพวกเขาโชคดี  ถ้าบาร์นาสใช้ไม้ตายโจมตีใส่พวกเขาคนใดคนหนึ่ง  พวกเขาคงไม่มีทางหลบได้
 “ฮันบริท ใครก็ตามที่มีพลังธาตุเข้ากันได้กับประกายศักดิ์สิทธิ์ในแหวนมิติเก็บสมบัติก็จะเป็นคนที่ได้ประกายศักดิ์สิทธิ์ไป”  โอจวินพูดพลางหัวเราะ
 “แน่นอน”  ฮันบริทหัวเราะ  “อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่ได้ประกายศักดิ์สิทธิ์ก็จะได้รับหอกคอร์เตส  เจ้าจะว่ายังไง?”
 “ฮ่าฮ่า, แน่นอน ข้าเห็นด้วย”  โอจวินหัวเราะ
ตอนนี้บนพื้นมีศพสี่ศพ  ศพที่ไร้ศีรษะสองศพก็คือแอดกินส์  ศพเกเทนบีและศพของบาร์นาส  ในขณะเดียวกันโอจวินและฮันบริทก็พูดคุยปรึกษาแบ่งสมบัติกันอย่างมีความสุข
 “ใครจะเป็นคนทำสัญญาโลหิตกับแหวนมิติเก็บของและดึงประกายศักดิ์สิทธิ์ภายในออกมา?”  โอจวินมองดูฮันบริท
ฮันบริทกล่าว  “โอจวิน, ข้าจะไม่ไว้วางใจเจ้าได้ยังไง?  เอาเลย เจ้าสามารถใช้งานแหวนมิติได้เลยเลย”  โอจวินพยักหน้าและหัวเราะขณะที่เขาเดินเข้าหาศพร่างแยกธาตุแสงของแอดกินส์  แต่ขณะที่เขาเดินผ่านฮันบริท...
ตาของฮันบริทเป็นประกายเย็นชา  เขาลอบบอกกับตนเอง “เตรียมตัวตายได้, ประกายเทพชั้นสูงและสมบัติเทพชั้นสูงจะต้องเป็นของข้าทั้งหมด”
ฮันบริทเคลื่อนไหวทันทีโจมตีตรงใส่โอจวินอย่างสุดกำลัง
สิ่งที่ประหลาดก็คือขณะที่ฮันบริทเคลื่อนไหวทันที  ร่างของโอจวินก็กระพริบวาบถอยหลังเป็นเส้นตรงทันที  พร้อมกับฟันดาบยักษ์ในมือของเขา
น่าประหลาด
ทั้งสองเริ่มประหลาดใจเล็กน้อยที่ต่างฝ่ายต่างมีความคิดอยู่แล้วที่เหมือนกัน
 “สมบัติเทพชั้นสูงและประกายเทพชั้นสูงต้องเป็นของข้าทั้งหมด!  โอจวินคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
ดาบยาวที่อยู่ในมือคลุมไปด้วยแสงสีเขียว และดาบยักษ์เปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ฉายเข้าหากันและกัน  ดวงตาของโอจวินและฮันบริทประสานสายตาพร้อมกัน  และพวกเขามองเห็นรังสีฆ่าฟันอยู่ในสายตาของกันและกัน  ถ้าเจ้าไม่ตายก็เป็นข้าสิ้น!
ฆ่ากันเองเพื่อให้ได้รับสมบัติทั้งหมด!
 “แคล้ง!
ดาบแสงสีเขียวปะทะกับดาบใหญ่แสงศักดิ์สิทธิ์ในลักษณะที่ประหลาด  แสงสีฟ้าสั่นสะเทือน และพื้นที่โดยรอบเหมือนกับมีมิติที่ฉีกขาด  รอยแตกแยกในร่างเกิดขึ้นบนร่างของโอจวิน  โอจวินรีบถอยอย่างรวดเร็ว  แต่ร่างของเขาระเบิด เหลือแต่เพียงศีรษะที่ปลิวกระเด็นออกมาไกล
 “ฮ่าฮ่า...”  โอจวินเหลืออยู่แต่เพียงศีรษะ  แต่ก็ยังหัวเราะอย่างดีใจและบ้าคลั่ง
 “บึ้ม! ร่างของฮันบริททรุดลงกับพื้น  เขาตายแล้ว!
ฮันบริทฝึกมาทางกฎธรรมชาติธาตุลม  เขาไม่เข้าใจเรื่องเคล็ดความรู้ลึกลับเกี่ยวกับการโจมตีทางวิญญาณนัก  พลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาคือพลังแยกมิติ  แม้ว่าเขาจะทำให้โอจวินบาดเจ็บหนัก แต่พลังดาบที่โอจวินฟันใส่ยังแฝงไปด้วยการโจมตีพลังวิญญาณซึ่งได้ทำลายวิญญาณของเขา
บรรดาสี่เทพแท้ที่ทรงพลังเหลืออยู่แต่เพียงโอจวิน!
 “ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ”  โอจวินตื่นเต้นจนหน้าสั่น  ศีรษะของเขาลอยมาที่ศพของแอดกินส์ทันที
ขณะเดียวกัน ร่างตั้งแต่ใต้คอของเขาเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว  โอจวินไม่สามารถรอได้  เขาควบคุมเลือดเข้าไปในแหวนมิติทันที ซึ่งเลือดของเขาซึมซับเข้าไปเหมือนฟองน้ำ  ถึงจุดนี้ แขนข้างหนึ่งของโอจวินงอกออกมาแล้ว
 “ต้องเป็นธาตุแสง  ต้องเป็นรูปแบบธาตุแสง!  โอจวินพึมพำในใจ
โอจวินกังวลใจมาก   เขาคว้าแหวนมิติเก็บสมบัติ และกัดฟันดึงประกายศักดิ์สิทธิ์ภายในแหวนออกมา
 “นี่คือ...”  โอจวินจ้องมองประกายศักดิ์สิทธิ์ข้างหน้าตาเบิกค้าง  ประกายศักดิ์สิทธิ์สีดำที่เปล่งแสงสีขาว
 “ประกายศักดิ์สิทธิ์ธาตุแสง!  โอจวินตื่นเต้นมาก  ร่างของเขาสั่นสะท้าน
 “ฮ่าฮ่า เป็นธาตุแสง  เป็นธาตุแสงจริงๆ!!!  โอจวินมีความสุขมากจนเริ่มสะอื้น  “แอดกินส์?  ฮ่าฮ่า ข้าทนรับใช้เจ้ามานาน  ทั้งหมดก็เพื่อวันนี้  เป็นธาตุแสงจริงๆ ด้วย อีกไม่ช้าข้าจะเป็นเทพชั้นสูง  ข้าจะเป็นเทพชั้นสูง!!!’
หัวใจของโอจวินสั่นสะท้าน
 “เมื่อข้ากลายเป็นเทพชั้นสูง คิงสลี่ย์ ลูกพ่อ พ่อจะล้างแค้นให้เจ้าแน่นอน!  ตาของเขาลุกโชน  ร่างของเขาฟื้นฟูจนถึงระดับเอว
โอจวินมองดูประกายเทพชั้นสูงในมือของเขา  เขาอดตื่นเต้นและยิ้มด้วยความพอใจไม่ได้  ในดินแดนพิภพจองจำ  เขาปรารถนาวันนี้มายาวนานนัก  หลังจากผ่านไปหลายปีนับไม่ถ้วน  เขาก้น็ได้ประกายเทพชั้นสูงมาได้ในที่สุด
 “ข้า, โอจวิน ในที่สุดก็กลายเป็นเทพชั้นสูงแล้ว”
เขาหยดเลือลงบนประกายเทพชั้นสูง และผสานประกายเข้าไว้ในร่างเขาทันที  หน้าของโอจวินเต็มไปด้วยความคาดหวังต่ออนาคต แต่ขณะนั้นเอง...
 “หือ?”
โอจวินสีหน้าเปลี่ยน  เขาอดหันหน้าไปมองไม่ได้...
ดวงตาสีทองเย็นชาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่เขา
กระบี่เลือดม่วงที่ร้ายกาจ  ดาบหนักอดาแมนเทียมปล่อยรังสีน้ำเงินเข้ม
 “ลินลี่ย์!  โอจวินสีหน้าเปลี่ยน
เขาเพิ่งต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย  ใช้พลังวิญญาณไปถึง 90% และประกายเทพชั้นสูงยังหลอมรวมกันไม่เสร็จ  เขาจะต้องใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อหลอมรวม  ที่แย่ที่สุดก็คือ...ลินลี่ย์อยู่ใกล้เขามากเกินไป  ด้วยสภาพที่ร่างกายเขายังไม่ฟื้นฟูดี
ไม่มีเวลาพอจะหนี!
 “ตาย!  ลินลี่ย์บุกลงมาจากด้านบน  ดาบหนักอดาแมนเทียมและกระบี่เลือดม่วงสับลงมาพร้อมกัน
 “ฮึ่ม... เจ้ากำลังหาที่ตาย!  โอจวินหัวเราะอย่างเยือกเย็นในใจ
เขาไม่สามารถหนีได้หรือ?  ทำไมเขาต้องหนีด้วยเล่า?
ลินลี่ย์ไม่มีอะไรมากไปกว่าเทียมเทพ!
ดาบยักษ์ในมือของโอจวิน ฉายแสงศักดิ์สิทธิ์แฝงไปด้วยพลังโจมตีวิญญาณหวดเข้าใส่กระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์  สิ่งที่เขาเลือกก็เหมือนกับที่แอนราสเคยทำมาก่อน  จากประสบการณ์ของเขา  เขาสามารถเห็นได้ชัดว่ากระบี่เลือดม่วงเป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดา
 “แคล้ง!  ในทันทีเมื่อกระบี่เลือดม่วงปะทะกับแสงของดาบยักษ์แสงศักดิ์สิทธิ์  โอจวินก็ถอยหลัง ต้องการหลบการโจมตีของดาบหนักอดาแมนเทียม
 “ครืนนน!
จากดาบหนักอดาแมนเทียม รังสีดาบสีเหลืองลวงตาพุ่งเข้ามาเหมือนสายฟ้าและเข้าไปในร่างโอจวิน  นี่คือพลังโจมตีซึ่งลินลี่ย์สร้างขึ้นมา  และเป็นพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขา
พลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุด พัฒนาขึ้นมาจากการผสานการเต้นชีพจรโลกและแก่นธาตุดิน...
ดาบคลื่นสลาย!
 “ไม่...”
ตาของโอจวินเหลือกกลับทันที  เขาไม่มีโอกาสได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ  เขาล้มลงพังทลายกับพื้น  โอจวินมีโอกาสได้กลายเป็นเทพชั้นสูงและจากนั้นเขามีชีวิตอย่างดีใจ  ต่อให้อยู่ในแดนนรก เขาก็ยังนับได้ว่าเป็นนักสู้ที่มีฝีมือ  แต่โชคร้าย...
 “ในแง่การโจมตีด้วยพลังวิญญาณ  เจ้ายังไม่แข็งแกร่งเท่ากับเทพแท้ที่พยายามจะฆ่าข้าที่ภูเขาฆ้องทองแดงด้วยซ้ำ”  ลินลี่ย์มองดูศพของโอจวิน
 “สู้เพื่อครอบครองประกายเทพชั้นสูงหรือ?  ลินลี่ย์เหลี่ยวมองศพของเทพแท้ที่อยู่ใกล้ๆ  จากนั้นเริ่มเก็บสมบัติเทพ ประกายเทพและแหวนมิติเก็บสมบัติ
มีแต่โอจวินที่ตายังเหลือกค้าง  ในขณะที่เขาตาย ดวงตายังเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อและสิ้นหวัง!  ถึงตอนนี้ เขาตื่นเต้นมากที่เขาสั่นสะท้านถึงอนาคตว่าจะสวยหรูเพียงไหน  แต่ทั้งหมดนี้ถูกทำลาย
เขา โอจวินตายด้วยดวงตาที่เบิกค้างไม่อาจเข้าใจได้

10 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

01:49
โอ๊ย หักมุม สามชั้น ลินลีย์ อิ่มเอม เลยงานนี้

store กล่าวว่า...

ตาอยู่คาบไปแดก5555

WingF กล่าวว่า...

นี้แหละน้าจุดจบ เก่งแต่โง่ 555

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ลาภลอยทุกข์ลาภก็มา กรรมติดจรวดจริงๆ ลินลี่ย์ขี่จรวดมา

Unknown กล่าวว่า...

รู้สึกว่าพวกเทพนี่ตัดสินแพ้ชนะกันในท่าเดียวตลอดเลยนะเนี่ย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ผู้ที่สุดท้ายได้ทุกสิ่ง

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

แก้แค้นให้หลาน จริงๆน่าจะทรมาณมันซักแสนปี 555

แสดงความคิดเห็น