เล่ม 14 อสูร – ตอนที่ 5 เหรียญตราอสูร
ยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาซึ่งเผ่ามังกรดำอาศัยอยู่สูงเสียดฟ้า
ยอดเขาแหลมเหมือนดาบ
บนยอดเขามีปราสาทโบราณหลังหนึ่งซึ่งสร้างขึ้นจากอดาแมนเทียม
ตามตำนานบอกไว้ว่าเจ้าของปราสาทดำนี้ชอบอดาแมนเทียมมาก
“วูบบบ!”
ร่างชุดยาวดำผู้ถูกเรียกว่าอสูรกวาดสายตาไปที่สมาชิกเผ่ามังกรดำที่กำลังหวาดผวา จากนั้นบินตรงเข้าไปในปราสาทดำ ประตูเข้าสู่ปราสาทดำเปิดออก
และผู้คนในปราสาทออกมาต้อนรับอสูรผู้นี้เข้าไปทันที
สมาชิกอื่นของเผ่ามังกรดำเมื่อเห็นเช่นนี้ ก็เริ่มอดจับกลุ่มคุยกันเองไม่ได้
“อสูรมาเยี่ยมเยียนหัวหน้าเผ่าจริงๆ ด้วย เขาไม่ได้มาฆ่าหัวหน้าเผ่าใช่ไหม?”
“ร่างเดิมของเจ้าสงสัยเป็นต้องเป็นลาหกหูแน่ ต่อให้เป็นเทพ เจ้าก็ยังโง่อยู่ดี คิดดูสิ ถ้าอสูรมาฆ่าหัวหน้าเผ่าจริงๆ
หัวหน้าเผ่าจะส่งคนออกมาเปิดประตูปราสาทต้อนรับอสูรเข้าไปข้างในหรือ? ขณะที่ข้าเห็น
ดูเหมือนหัวหน้าคงมีเรื่องธุระสำคัญบางอย่างเป็นสาเหตุให้ต้องเชิญอสูรเข้ามา”
สมาชิกของเผ่ามังกรดำยังคงพูดคุยกันเอง
ในพื้นที่ระดับครึ่งภูเขา
ลินลี่ย์นั่งอยู่บนก้อนหินฟังคำสนทนาเหล่านี้
เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาเงยหน้าขึ้นมองปราสาทดำที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ปราสาทดำนั้นมีมังกรดำขนาดใหญ่หลายสิบตัวขดตัวพันรอบ
“เจ้าครองปราสาทมังกรดำก็คือหัวหน้าเผ่ามังกรดำสเตอร์ตัน ผู้แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามังกรดำ!” ลินลี่ย์พึมพำกับตนเอง
การใช้เวลาสองเดือนในเผ่ามังกรดำ ลินลี่ย์ได้เรียนรู้เรื่องราวสองสามเรื่อง เผ่ามังกรดำ
แม้ว่าจะเป็นเพียงเผ่าเล็กไม่สำคัญจากหลายๆ เผ่าในแดนนรก แต่ก็มีลำดับที่เข้มงวดมาก
พวกระดับต่ำสุดรวมทั้งเทียมเทพอย่างลินลี่ย์ พวกเขาไม่มีรายได้ รวมทั้งไม่มีเครื่องแบบ
ชั้นกลางรวมพวกเทพแท้ผู้รับผิดชอบดูแลมังกรดำเจอร์ราร์ด ที่สำคัญคือทั่วทั้งเผ่ามังกรดำมีมังกรดำอยู่หลายตัว
ดังนั้นมีคนเพียงจำนวนน้อยที่สามารถเลี้ยงมังกรดำได้
แม้ว่ารายได้มากกว่าครึ่งจากการเลี้ยงดูมังกรดำเหล่านี้ต้องมอบให้หัวหน้าเผ่าก็ตาม แต่การเลี้ยงมังกรดำเจอร์ราร์ด
ก็ยังเป็นการสั่งสมความมั่งคั่งที่เร็วที่สุด
ชั้นบนเป็นของทหารของเผ่า
ทหารของกองทัพที่นี่เป็นเทพแท้กันหมด
และยังคงได้รับการฝึกโดยเจาะจงจากหัวหน้าสเตอร์ตัน ถ้าใครกลายเป็นสมาชิกของทหารประจำเผ่า หัวหน้าเผ่าจะให้เงินทุกๆ หมื่นปีหรือมากกว่านั้น
ที่พักอาศัยของลินลี่ย์อยู่ที่ระดับครึ่งเขา
ตอนนี้มีแต่เพียงลินลี่ย์ เดเลียและบีบีอยู่เท่านั้น.
“อสูรนั่นทรงพลังมาก”
บีบีถอนหายใจชมเชย
“พลังของหัวหน้าก็ไม่ต่ำทรามเหมือนกัน” ลินลี่ย์กล่าวเหมือนกับว่ากำลังคิดบางอย่าง
เดเลียมองลินลี่ย์จากนั้นกล่าว
“ลืมเรื่องเข้าดินแดนนรกได้เลย
แม้แต่ในแคว้นไนท์บลาสของทวีปเรดบุด ก็มีเผ่าพันธุ์ต่างๆ นับไม่ถ้วนที่ยึดเอาภูเขาในแคว้นนี้ซึ่งมีรัศมีพื้นที่เกินกว่าพันล้านกิโลเมตร
เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงเรื่องขนาดที่น่ากลัวของแคว้นไนท์บลาส
เขาได้แต่คิดว่าพลังอำนาจปัจจุบันของเผ่ามังกรดำมีมากขนาดไหน
ในแดนนรกพลังอำนาจอย่างเผ่ามังกรดำนับว่ายังอ่อนแอไม่ต่างอะไรกับมด พวกเขามีมากจนเกินไป
“อย่างไรก็ตาม แม้ในเผ่ามังกรดำ
ก็ยังมีเทพแท้อยู่มากมาย
แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นท่านลอร์ดสเตอร์ตัน
ข้าคาดว่าสำหรับเขาที่สามารถเป็นหัวหน้าเผ่ามังกรดำได้ และความมั่งคั่งของเผ่าครึ่งหนึ่งต้องมอบกับเขา เขาน่าจะเป็นเทพชั้นสูง!”
ลินลี่ย์เข้าใจทันที
ในแดนนรก..
พวกเทพไม่มีอะไรมากกว่าไปสามัญชน
บางทีในกลุ่มพวกเทพสิบคนจะมีเทพแท้สักหนึ่ง
ขณะที่มีเพียงหนึ่งในหมื่นจะกลายเป็นเทพชั้นสูง แต่แม้ว่าโอกาสจะเป็นไปได้ต่ำมาก เมื่อมีใครคิดว่าแดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลเพียงไหน ก็จะต้องเข้าใจว่าเทพชั้นสูงมีมากมายเช่นกัน!
“นี่คือความเป็นอยู่ในแดนนรก สถานที่ซึ่งยอดฝีมือมีทั่วไปดาษดื่นเหมือนเมฆ!” ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
“พี่ใหญ่” บีบีทุ่มหมวกฟางลงและพูดตามปกติ “ปู่ข้าบอกว่าในที่อย่างแดนนรก
ผู้ที่กลายเป็นเทพโดยผ่านการหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับสถานะระดับสูง มีแต่ผู้กลายเป็นเทพด้วยตัวเองเท่านั้น
และผสานเคล็ดลึกลับได้จึงจะมีโอกาส
ขอเพียงมีความปรารถนาแรงกล้า คนเราก็มีสถานะสูงส่งได้!”
ลินลี่ย์เห็นด้วยกับความคิดนี้ในใจ
“ลินลี่ย์, ข้าจะไม่ถ่วงเจ้าให้ช้าลงหรอกนะ” เดเลียที่อยู่ใกล้ๆ พูดขึ้นทันที
ลินลี่ย์หันไปมองเดเลีย
เขาเข้าใจความคิดของเดเลียดี
เดเลียเป็นสตรีที่มีความปรารถนาแรงกล้า
ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้ขณะโอบกอดเดเลีย
“เดเลีย, เจ้าน่ะหรือ? ที่ถ่วงข้าให้ช้า? เจ้าคิดดูสิ ในกลุ่มของเราที่นี่
มีแต่ข้าที่เป็นเพียงเทียมเทพ เป็นข้าที่ถ่วงเจ้าให้ช้าลง”
เดเลียรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
นางจะไม่รู้ได้ยังไงว่าในความเป็นจริง
ลินลี่ย์ครอบครองสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้องวิญญาณ
หนึ่งในหมู่พวกเขาสามคนใครเล่าเป็นตัวแปรมากที่สุด? เมื่อเขาทุ่มเทจริงๆ ถ้าลินลี่ย์เผชิญกับศัตรูที่เชี่ยวชาญในเรื่องการโจมตีวิญญาณที่สุด
เขาก็สามารถตอบโต้ได้อย่างสมบูรณ์!
“ถึงเวลากลางวันแล้ว
พวกท่าน เปิดห้อง! อ๊าค!!! ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” เมื่อเห็นอย่างนี้ บีบีร้องออกมาขณะปิดตา
“เจ้าเด็กร้ายกาจ”
เดเลียอดหัวเราะขณะดุเขาไม่ได้
เวลานี้ ชายชราผมหงอกบัฟเฟ็ตบินมาหาแต่ไกล เมื่อเห็นลินลี่ย์กับพวกพ้องอีกสองคน
เขาหัวเราะลั่น “ลินลี่ย์ เจ้าอยู่ในเผ่าของเรามาได้ระยะหนึ่งแล้ว
รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เลว” ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนและยิ้มทันที “อย่างน้อย, เราก็ไม่พบกับอันตรายแต่อย่างใด”
บัฟเฟ็ตพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ใช่แล้ว
ถ้าพวกเจ้าอยู่ข้างนอก พวกเจ้าจะได้เรียนรู้ว่า...
มีกลุ่มโจรอยู่มากมายที่ลอบปล้นฆ่าผู้เดินทางในแดนนรก กล่าวโดยทั่วไปก็คือ
เทพแท้และเทียมเทพก็ยังไม่กล้าเดินทางในแดนนรกตามลำพังเลย”
“แม้แต่เทพแท้ก็ยังไม่กล้าเหรอ?” บีบีจ้องหน้า
บัฟเฟ็ตเดินเข้ามาใกล้โต๊ะหินและนั่งลง
จากนั้นพยักหน้า “ใช่แล้ว,
ไม่แม้แต่เทพแท้
กลุ่มโจรของแดนนรกโดยทั่วไปจัดตั้งกันจากพวกเทียมเทพและเทพแท้
เจ้าคิดหรือว่าทั้งกลุ่มโจรที่เป็นเทพแท้และเทียมเทพจะไม่สามารถจัดการกับเจ้าได้ เทพแท้โดยลำพัง? พวกเขาได้เปรียบที่จำนวน!”
“อย่างนั้นทำไมเทพชั้นสูงถึงไม่ทำตัวเหมือนโจร?” บีบีพูดต่อ
“ฮ่าฮ่า” บัฟเฟ็ตหัวเราะ
“เทพชั้นสูง, แม้แต่ในแดนนรก นับได้ว่าเป็นชนชั้นสูง
ทำไมพวกเขาต้องเข้ามาร่วมทำเรื่องที่อันตรายอย่างการเป็นโจร? ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนอาวุธเทพชั้นสูง
การปรับแต่งอัญมณีศักดิ์สิทธิ์
หรือเข้าร่วมกับสำนักตระกูลใหญ่และกลายเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง
พวกเขาก็สามารถมีชีวิตอย่างอิสรเสรีได้อย่างง่ายๆ”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ก็เหมือนกับที่ทวีปยูลาน
ยอดฝีมือที่แท้จริงอย่างเช่น ยอดฝีมือระดับเก้าก็มีความหยิ่งผยอง อย่างไรก็ตามในทวีปยูลาน
ยังมีกลุ่มโจรที่มีชื่อเสียงซึ่งมียอดฝีมือสองสามคนอยู่ในกลุ่มพวกเขา
“แต่แน่นอน
ในแดนในนรกมีกลุ่มพวกโจรที่แข็งแกร่งมากอยู่สองสามกลุ่ม
เพียงแต่กลุ่มโจรอย่างนี้จึงจะมีเทพชั้นสูงอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าพวกเขาจะมีเทพชั้นสูง
แต่โดยทั่วไปพวกเขาจะไม่ลงมือกับเทพชั้นสูงอื่น ที่สำคัญ
พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเทพชั้นสูงคนอื่นๆ ทรงพลังมากขนาดไหน?
มีช่องว่างห่างกันมากระหว่างเทพชั้นสูงเช่นกัน” บัฟเฟ็ตถอนหายใจ
ลินลี่ย์เห็นด้วยเต็มที่
ตัวอย่างเช่นซาดิสต์ที่ถูกบลูไฟร์ฆ่าตายในท่าเดียว
แอดกินส์เมื่อเผชิญหน้ากับเบรุต ร่างเทพชั้นสูงทั้งสองของเขาถูกทำลายโดยการหวดสองทีเท่านั้น
“ในแดนนรกของเรา
แม้ว่าจะมีโจรอยู่มากมายที่คอยซุ่มโจมตีผู้คน
แต่ก็มีพลังอำนาจสามอย่างที่พวกเขาไม่กล้าตอแย อันดับแรกคือกองทัพเรดบุด!” ในน้ำเสียงที่อบอุ่นเป็นกันเองบัฟเฟ็ตยังพูดสาธยายความรู้ทั่วไปให้กลุ่มลินลี่ย์
ขณะที่ลินลี่ย์กับอีกสองคนตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง
ที่สำคัญคือ กลุ่มของลินลี่ย์ตั้งใจจะมุ่งหน้าไปทวีปบลัดริจ
เพียงแต่ตอนนี้พวกเขายังอ่อนแอเกินไป พวกเขาต้องอดทนไปก่อนในตอนนี้
“กองทัพเรดบุด เข้าใจแล้ว”
ลินลี่ย์กับอีกสองคนพยักหน้าเข้าใจ
นั่นเป็นกองทัพที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมหาเทพ
เป็นกองทัพที่ทรงพลังที่สุดใครจะกล้าตอแยพวกเขา?
“อำนาจที่สองก็คือกองทัพประจำแคว้น!” บัฟเฟ็ตถอนหายใจ
“กองทัพประจำแคว้น?”
ลินลี่ย์และอีกสองคนงง
“กองทัพประจำแคว้นคืออะไร ท่านผู้เฒ่า?” บีบีถามอย่างไม่เข้าใจ
บัฟเฟ็ตกล่าว
“ทั่วทั้งแดนนรกมีทั้งหมด 108 แคว้นดินแดน
และทวีปเรดบุตของเราก็มีเกือบ 20 แคว้น
ทุกๆ แคว้นจะมีกองทัพเป็นของตนเอง!
ตัวอย่างเช่นแคว้นไนท์บลาสของเราปกติจะมีกองทัพไนท์บลาส กองทัพเหล่านี้รู้จักกันดีว่าคือ ‘กองทัพประจำแคว้น’
ภายในแคว้นต่างๆ เอง
ทุกคนต่างก็มีความยินดีถ้าทหารไม่ก่อความยุ่งยากให้พวกเขา ใครกันเล่าจะกล้ารุกรานกองทัพ? เมื่อกองทัพเพ่งเล็งเจ้า แต่ให้เจ้าเป็นเทพชั้นสูง เจ้าก็เท่ากับพบความยุ่งยาก”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจ
“กองทัพรีบุดและกองทัพประจำแคว้น ข้าสามารถเข้าใจทั้งสองได้ พวกเขาก็คือกองทัพยักษ์ทั้งสอง
อย่างนั้นอำนาจที่สามที่ท่านบอกว่าพวกโจรไม่ยินดีจะตอแยด้วย คืออะไร?”
ลินลี่ย์ถาม
ตาของบัฟเฟ็ตเป็นประกายคาดหวัง “พวกอสูร!”
“อสูร!?”
ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีใจสั่นสะท้าน ขณะเดียวกันพวกเขาเพิ่มความสงสัย
“ท่านบัฟเฟ็ต, อสูรคืออะไร?” เดเลียถาม
ลินลี่ย์ก็สงสัยมากเช่นกัน
พวกเขาเพิ่งมองเห็นบุรุษชุดดำบินเข้าไปในปราสาทอดาแมนเทียม
คนในเผ่ามังกรดำเมื่อเห็นบุรุษนั้นต่างร้องเรียกบุรุษนั้นว่า ‘อสูร’
“อสูรเป็นรูปแบบของคำเรียกนำหน้าชื่อ”
บัฟเฟ็ตพูดพลางถอนหายใจ
“พวกเขาเป็นนักรบผู้กล้าหาญของแดนนรก
กลุ่มนักรบที่ไม่กลัวอันตราย! ใครที่สามารถกลายเป็นอสูรได้
ต่อให้เที่ยวไปทั่วแดนนรกจะไม่ค่อยเผชิญกับกลุ่มโจรที่ยอมลงมือกับพวกเขา
ใจของลินลี่ย์ปั่นป่วน
เขาคิดถึงตนเอง
“เขากำลังจะไปทวีปบลัดริจ
การเดินทางที่นั่นเป็นระยะทางที่ไกลมาก ถ้าข้ากลายเป็นอสูร
จากนั้นข้าก็แค่เผชิญหน้ากับความยากลำบากในหนทางไม่กี่อย่าง
บีบีกับเดเลียมีความคิดอย่างเดียวกัน
“คำนำหน้าว่าอสูร
มันเป็นยังไงกันแน่ ผู้เฒ่า?
แล้วจะกลายเป็นอสูรได้ยังไง?”
บีบีถาม
บัฟเฟ็ตกล่าว
“จะกลายเป็นอสูรนั้นไม่ยากเกินไป เจ้าสามารถไปที่เมืองไหนก็ได้
อย่างเมืองที่ใกล้ที่สุดของเราก็คือเมืองรอยัลวิง
ที่เมืองรอยัลวิง ถ้าเจ้าใช้เงินสักหมื่นศิลาดำ
เจ้าก็สามารถขอเข้ารับภารกิจได้
ถ้าเจ้าผ่านภารกิจทดสอบ เจ้าจะกลายเป็นอสูร! เอ่อ.. นี่หมายถึง เจ้าจะกลายเป็นอสูรหนึ่งดาว”
“หมื่นศิลาดำ
แค่เพื่อร่วมภารกิจทดสอบ?”
บีบีอดถลึงตาไม่ได้
ลินลี่ย์รู้สึกว่านี่จะฟุ่มเฟือยเกินไป
หมื่นศิลาดำมิใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ
“ท่านเพิ่งบอกว่าอสูรหนึ่งดาว?”
บัฟเฟ็ตพยักหน้า
“อสูรมีการจัดระดับกันไว้จากตั้งแต่หนึ่งดาวจนถึงระดับที่น่ากลัวคืออสูรเจ็ดดาว นี่ขึ้นอยู่กับระดับภารกิจที่พวกเขาสามารถรับทำได้
พวกที่สามารถรับภารกิจเจ็ดดาวได้จะรู้จักกันในนามว่าอสูรเจ็ดดาว!”
“อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องทั่วไปที่มีความเป็นไปได้ว่าสำหรับพวกเทพจะยอมรับทดสอบภารกิจง่ายๆ!” บัฟเฟ็ตพูดพลางถอนหายใจ “และนั่นเป็นความเป็นไปได้ประการเดียว!”
“งานที่พวกเหล่าอสูรเข้าร่วมทำจะอันตราย พวกเขาล้วนแต่กล้าหาญ แม้แต่พวกโจรก็ไม่กล้าเผชิญกับพวกเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ...
เจ้าไม่สามารถบอกได้ว่าระดับดาวของอสูรได้จากแค่การเห็น จากโดยผิวเผิน ใครไม่สามารถบอกความแตกต่างได้ระหว่างอสูรหนึ่งดาวและอสูรเจ็ดดาว” บัฟเฟ็ตกล่าว
“จากผิวเผิน?
หมายความว่ายังไง?”
บัฟเฟ็ตยิ้มขณะที่เขาชี้ไปที่ปราสาทดำบนยอดเขา
“เจ้าสังเกตเห็นหรือไม่?
อสูรนั้นที่เพิ่งมาถึงจะมีเหรียญตราอสูรติดอยู่ที่ชุดตรงหน้าอก!
เหรียญตราเหล่านี้จะได้รับหลังจากคนผู้หนึ่งผ่านภารกิจทดสอบ อสูรแต่ละคนจะมีสัญลักษณ์อสูรแบบเดียวกัน!”
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอสูรดาวเดียวหรืออสูรเจ็ดดาว จากที่เห็นโดยผิวเผิน เจ้าจะดูเหมือนกัน
มีแต่ใช้วิธีการพิเศษบางอย่างจึงจะสามารถตัดสินระดับดาวของอสูรได้ได้
บีบีขมวดคิ้ว “เหรอ? อสูรนั่นทรงพลังขนาดไหน?”
“ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม แม้แต่อสูรที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นระดับเทพแท้ กล่าวโดยทั่วไป
อสูรที่เหนือกว่าระดับธรรมดาทั่วไปจะเป็นระดับเทพชั้นสูงกันหมด!” บัฟเฟ็ตกล่าว “ดังนั้นพวกโจรจึงไม่กล้าล่วงเกินพวกอสูร ที่สำคัญอสูรหลายคนเป็นเทพชั้นสูง! ถ้าเจ้าเผชิญกับอสูรหกดาว
หรืออสูรเจ็ดดาวที่น่ากลัว ไม่ว่ากลุ่มโจรของเจ้าจะทรงพลังเพียงไหน ก็มีแต่จบสิ้น”
ลินลี่ย์ตกใจ
อสูรส่วนใหญ่เป็นเทพระดับสูง? ที่อ่อนแอที่สุดเป็นเทพ?
ดูเหมือนว่าคุณภาพของอสูรก็ไม่ต่ำไปกว่ากองทัพเรดบุดแม้แต่น้อย
บีบีนัยน์ตาเป็นประกาย
“ท่านบอกว่ามากกว่าครึ่งของอสูรเป็นเทพชั้นสูง อสูรเจ็ดดาวเหล่านั้นจะทรงพลังมากมายขนาดไหน?”
“อสูรเจ็ดดาวคือเหล่าบรรดายอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุดของแดนนรก!”
ตาของบัฟเฟ็ตมีแววเลื่อมใสในตัวพวกเขา
“เทพชั้นสูงธรรมดาไม่สามารถสู้ตอบโต้กับพวกนั้นได้เลยแม้แต่น้อย เมื่อเจ้าถึงระดับอสูรเจ็ดดาว เจ้าจะมีชื่อเฉพาะตัวเอง
ตัวอย่างเช่นในทวีปเรดบุดเรา เท่าที่ข้ารู้ เราก็มีเช่น อสูรจันทร์เงิน และอสูรเลือดม่วง
สุดยอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงเกริกไกรทั่วทั้งแดนนรก”
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
โอ้วววมีแว้ววว
ขอบคุณคนับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
มาแล้วไง อสูรเลือดม่วง ใช่คนเดียวกันกับที่เป็นเจ้าของกระบี่ไหมนิ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น