ตอนที่
673 ข่าวซุบซิบสำคัญ
“ว่าไงนะ?
คุณชายซ่งเทาตายหรือ?”
เมื่อเจ้าเมืองลมดำได้ยินข่าวนี้
ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือสงสัยว่าเขาได้ยินผิด
คุณชายซ่งเทาเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่ง
และมีผู้คุ้มกันสองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าด้วยเช่นกัน
ยังมาร่วมกินอาหารกับเขาที่นี่
เมื่อเขากลับไปคฤหาส เขาถูกตัดศีรษะโดยไร้เสียง ในเมืองลมดำนอกจากเขาเองและนักรบปราณฟ้าสองสามคนผู้มีฝีมือดีพอๆ
กับคุณชายซ่งเทา
แต่ว่าใครจะสามารถฆ่าคุณชายซ่งเทาได้?
ถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เจ้าก็หนีได้ไม่ใช่หรือ?
ถ้าทั้งสามคนกลับมายังจวนเจ้าเมือง
ระยะทางห่างกันแค่ยี่สิบกิโลเมตร
ด้วยความเร็วเต็มที่พวกเขาจะใช้เวลาหลบหนีเพียงนาทีเดียวเท่านั้น
เป็นไปได้หรือว่าสามคนนั้นจะไม่สามารถรับมือได้แม้แต่นาทีเดียวและพวกเขาถูกฆ่าหมด
สิ่งที่เจ้าเมืองลมดำไม่อยากจะเชื่อที่สุดก็คือมือสังหารที่ฆ่าคุณชายซ่งเทาไม่ได้หลบหนี
แต่กลับเดินเข้าสมาคมทหารรับจ้างอย่างสบายๆและใช้ศีรษะของคุณชายซ่งเทาและองครักษ์ทั้งสองไปแลกรางวัล ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น
เขาคงคิดว่าคุณชายซ่งเทาคงจะเริงรักกับสาวเผ่าอกดนตรีที่เขาส่งไปให้เขา!
“ที่เกิดเหตุถูกตรวจสอบแล้ว ไม่มีสิ่งผิดปกติในการต่อสู้” ขุนพลจินฟงบริวารที่มีความสามารถมากที่สุดของเจ้าเมืองลมดำรายงานด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
“รวมทั้งสาวงามที่ท่านเจ้าเมืองมอบให้คุณชายซ่งเทา
ทั้งสี่คนถูกฆ่าในกระบวนท่าเดียว”
“ฆ่าในท่าเดียว?” เจ้าเมืองลมดำถึงกับขมวดคิ้ว แม้แต่เขาเองก็พบว่ายากจะทำงานอย่างนั้นให้สำเร็จ
“ศีรษะของคุณชายซ่งเทาและองครักษ์ทั้งสองของเขาไม่ได้รับความเสียหายอะไร
เนื่องจากการแลกรางวัลกับสมาคมทหารรับจ้าง
อย่างไรก็ตาม
ข้าสงสัยว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมีการควบคุมพลังที่แข็งแกร่ง ทั้งสามคนถูกตัดศีรษะ ส่วนเจ้าพังค์องครักษ์ปีกขวาถูกตัดครึ่งตัวด้วยอาวุธมีคมของศัตรู
และศีรษะของเขาจึงค่อยถูกตัด สำหรับสาวงามจากเผ่าอกดนตรี นางก็ตายสภาพเดียวกัน,
เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ว่าเสื้อผ้าของนางจะถูกฉีกขาด แต่นางไม่ได้ถูกข่มขืน
หรือว่ามุมมองความงามจะมีความแตกต่างกับเรา”
ขุนพลจินฟงรายงานรายละเอียด
“ข้าแค่ต้องการรู้ว่าใครเป็นคนทำ!” เจ้าเมืองลมดำรู้สึกศีรษะพองโต
หลังจากที่คดีฆาตกรรมโชกเลือดเกิดขึ้นในเมืองของเขาเอง เจ้าสำนักร้อยสนจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปได้ยังไง?
“ท่านเจ้าเมือง,
สมาคมทหารรับจ้างสงวนสิทธิ์และปฏิเสธจะเปิดเผยข้อมูลผู้รับรางวัล” ขุนพลจินฟงพูดว่าเขาไม่อาจหาข้อมูลได้
“เจ้าใช้สิทธิ์เจ้าเมืองของข้าไม่ได้หรือ?” เจ้าเมืองลมดำโกรธ
“สมาคมทหารรับจ้างปฏิเสธจะเปิดเผยแม้จะใช้สิทธิ์นั้นก็ตาม” ขุนพลจินฟงตอบ
“ว่าไงนะ?” เจ้าเมืองลมดำตะลึง
แม้เขาจะใช้สิทธิ์ของเจ้าเมืองก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้อีกหรือ? เรื่องนี้ลึกซึ้งยากจะหยั่งจริงๆ!
“สมาคมทหารรับจ้างมีกฎป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้รับเงินรางวัล
ผู้รับรางวัลนั้นจะต้องสมัครขอรับการปกป้องข้อมูล
ดังนั้นเว้นแต่เจ้าสำนักร้อยสนมาขอให้ตั้งรางวัลจับด้วยตนเอง เราคงไม่สามารถหาข้อมูลคนรับรางวัลได้แม้ว่าเราจะใช้สิทธิ์ของเราก็ตาม” ขุนพลจินฟงพยักหน้าเล็กน้อย เขามั่นใจว่ากระบวนการสืบสวนคงจะยุ่งยากมาก
“งั้นเราคงได้แต่รอผู้เฒ่าไป๋ซ่งฆ่าเบิกทางให้เราจนถึงที่นี่หรือ?” เจ้าเมืองลมดำโกรธ เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องสงบ แต่เขาไม่สามารถสงบได้หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น
“ข้อสอบสวนแล้วและพบข้อน่าสงสัยสองสามจุด
ความจริงบุรุษชุดดำผู้แต่งตัวเหมือนขโมยน่าสงสัยที่สุดเพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถยืนยันสถานะของเขาได้ เวลานั้นเขาพาผู้คุ้มกันสตรีพิเศษเข้ามาในสมาคมทหารรับเจ้าง
และหลังจากเขาแล้วก็คนสองสามคนเข้ามาในสมาคม แต่ไม่มีใครในนั้นเป็นผู้รับรางวัล” ขุนพลจินฟงหยุดเล็กน้อยก่อนกระแอมเบาๆ
“อย่างไรก็ตามพลังของขโมยผู้นี้ค่อนข้างต่ำ เขาน่าจะเป็นนักสู้ปราณดินระดับสาม แม้แต่สตรีผู้คุ้มกันทั้งสองก็มีพื้นฐานที่สูง แต่พวกนางยังห่างจากระดับปราณฟ้า
เป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะฆ่านักสู้ปราณฟ้าอย่างคุณชายซ่งเทา...”
“เจ้าหมายความว่าเขาเป็นคนหิ้วศีรษะไปงั้นหรือ?” ยอดฝีมือชั้นปราณฟ้าอีกคนหนึ่งฆ่าคุณชายซ่งเทาและทิ้งศพเขาไว้
ขโมยชาวมนุษย์ผู้มีพลังต่ำนี้แค่พบเรื่องที่เกิดขึ้น
ดังนั้นจึงมาที่สมาคมทหารรับจ้างเพื่อรับรางวัลใช่ไหม?” เจ้าเมืองลมดำไม่โง่ แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่เขาก็เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง
ข้ารู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ใครบางคนต้องการใส่ร้ายเรา” ขุนพลจินฟงหยุดพูดหลังจากกล่าวจบ
“ถูกแล้ว,
เราได้ผลประโยชน์จากการกระจายข่าวการปล้นครั้งล่าสุด
ทำให้ตลาดมืดรุ่งเรืองขึ้นมาก...เป็นธรรมดาอยู่นั่นเองที่จะมีคนอิจฉา...”
ดวงตาของเจ้าเมืองลมดำทอประกายเย็นชาวูบ
เขาโบกมือและออกคำสั่ง “รายงานสถานการณ์ไปที่สำนักร้อยสน
อธิบายรายละเอียดของสถานการณ์และข้อวิเคราะห์ให้ชัดเจน ผู้เฒ่าไป๋ซ่งนั้นไม่โง่
ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอกที่จะทำให้เขาต้องต่อสู้กับเรา! แน่นอน
เรายังจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งสองทาง
ทางหนึ่งเราจำเป็นต้องสืบหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว และจะดีที่สุดให้เริ่มที่ขโมยชาวมนุษย์ผู้อ่อนแอนั้น
และใครจะใจไม่ถึงพอจะซื้อสมบัติปกป้องตนเอง
และอีกทางหนึ่งเราต้องรายงานไปที่เจ้าแคว้นมรกต
ถ้าคิดจะเอาพันธมิตรหลายกลุ่มมาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้กับข้า เฮยฟง ฝันไปเถอะ”
เป็นธรรมดาที่ขุนพลจินฟงรับคำสั่งและใช้กำลังคนทั้งหมดของเขา
เขามองหาขโมยชาวมนุษย์ที่มีนักสู้หญิงสองคนคอยคุ้มครองเขา
ขณะนี้เองเย่ว์หยางกลายเป็นหนุ่มโสดเต็มที่
เมื่อเอาศีรษะของคุณชายซ่งเทาและคนอื่นไปรับรางวัลแล้ว เขาจงใจเรียกสองสาวมังกรเทพองครักษ์ศึกออกมาเป็นสหายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู
นอกจากนี้
เขายังใช้สถานะขโมยชาวมนุษย์แสดงความแข็งแกร่งของนักสู้ปราณดินระดับสาม
เขาระมัดระวังตัวโดยเฉพาะเมื่อเดินผ่านยามรักษาการณ์และและโรงเตี๊ยมทหารรับจ้างปล่อยพวกเขาเข้าไปเมื่อเห็นพลังของเขา
เมื่อเขากลับคืนลักษณะมนุษย์ดังเดิม
เขามีเพียงพลังของมนุษย์นักธุรกิจผู้น้อย
นั่นจะปลอดภัยมาก!
ไม่มีใครสงสัยเขาเลย และไม่มีใครเชื่อว่านักธุรกิจชาวมนุษย์ผู้ไม่ได้ฝึกแม้แต่พลังปราณดินจะฆ่าผู้ฝึกฝนระดับปราณฟ้าสามคนได้ แม้แต่คนบ้าก็ยังไม่คิดเช่นนั้น
จงใช้เวลาค้นหายอดฝีมือปราณฟ้าอย่างที่เจ้าคิดไปเถอะ!
เย่ว์หยางผิวปากตลอดทางกลับไปยังโรงแรมที่เขาจองไว้พัก
เขาพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับเมื่อคืนนี้
สิ่งเดียวที่เขายังรู้สึกเสียดายอยู่บ้างก็คือศีรษะของนักสู้ปราณฟ้าที่เป็นองครักษ์ราคาไม่สูงนัก บางทีคงเป็นเพราะพวกเขาเป็นองครักษ์มานาน แต่ค่าหัวของพวกเขามีเพียงสิบล้านเหรียญ
แค่หนึ่งในห้าของค่าหัวคุณชายซ่งเทา
สมาคมทหารรับเจ้าเรียกภาษีเจ็ดสิบล้านของเย่ว์หยางอย่างหนัก
ประกอบกับการสมัครเพื่อป้องกันข้อมูล
รางวัลที่เย่ว์หยางได้รับสุทธิจึงอยู่ที่หกสิบล้าน
รวมสิบล้านถูกหักเข้าสมาคมทหารรับจ้าง
ถ้าเป็นแบบนี้ ถ้าข้อมูลส่วนตัวของเย่ว์หยางไม่สามารถปกป้องได้ อย่างนั้นใครยังจะกล้าเอาศีรษะมารับรางวัลเล่า?
แน่นอนว่าไม่สำคัญอยู่ดีถ้าหากสมาคมทหารรับจ้างทำข้อมูลของพวกเขารั่วไหลไป เพราะเย่ว์หยางลงทะเบียนไว้ว่าเป็นจวินอู๋เย่
เตรียมนักสู้ปราณดิน
พ่อค้าผู้เดินทางมาจากแดนสวรรค์ตะวันตก
ใครรู้จักจวินอู๋เย่?
นอกจากนี้เผ่าหัวกลมเปากู่ก็ได้ยินชื่อของเขา เย่ว์หยางไม่มีโอกาสบอกชื่อของเขากับบุคคลที่สาม...ถ้าเขาถอยกลับไปก้าวหนึ่ง ต่อให้คนหัวกลมเปากู่รู้ว่าจวินอู๋เย่ก่อคดีมา
เขาจะไม่สงสัยเย่ว์หยาง
ใครจะเชื่อกันว่านักธุรกิจท่องเที่ยวผู้ไม่มีพลังระดับปราณดินจะสามารถฆ่านักรบปราณฟ้าได้ถึงสามคน
รวมทั้งคุณชายซ่งเทา?
หลังจากได้รับรางวัลค่าหัวหกสิบล้าน เย่ว์หยางมีความสุข
พักอยู่ในโลกคัมภีร์และหลับจนกระทั่งตื่นขึ้นตามปกติ
ปัจจุบันนี้เขาไม่มีความกดดันเรื่องเงินอีกต่อไปแล้ว
แน่นอนว่าการปล้นทำให้ได้เงินมาอย่างรวดเร็ว!
ภายใต้การดูแลของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์
เขารับอาหารเช้าจากนั้นเปลี่ยนเป็นชุดนักรบที่เข้ากันกับเมืองลมดำและเดินวางมาดออกจากโรงแรม
“สวัสดียามบ่าย
น้องจวิน” ปกติเขาจะโม้กับคนรอบๆ ตัวเขา
แต่ทันทีที่เขาเห็นเย่ว์หยางเดินออกมา เขาเข้ามาหาและโบกมือทักทาย จากนั้นเขาถามเป็นนัย “น้องจวิน,
ข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่รู้เรื่องสั่นสะเทือนโลกที่เกิดเมื่อคืนสินะ?”
“อะไรเหรอ?” เย่ว์หยางทำเป็นไม่รู้ กิริยาของเขาให้อารมณ์ร่วมดีมาก
“คุณชายซ่งเทาตายแล้ว! เขาถูกตัดศีรษะตายคาที่! เขาถูกฆ่าในท่าเดียว!” และราวกับว่าเขาได้พบเจอมากับตาตัวเอง
เขาใช้มือทำท่าตัดคอเขาเอง
จากนั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสันนิษฐานกับเย่ว์หยาง เขาลดเสียงกล่าว “เมื่อวานนี้ข้าพูดอะไรไป?” เมื่อวานนี้ในโรงประมูลเขาทำท่าหยิ่งยโส
ทำให้ผู้มีอิทธิพลระดับปราณฟ้าไม่พอใจ
ตอนดึกคืนก่อนเขาเริ่มไล่ตามและฆ่าในจวนของเจ้าเมือง แม้ว่าคุณชายซ่งเทาจะมีพลังระดับปราณฟ้า
แต่เขาจะเทียบกับยอดฝีมือปราณฟ้าลึกลับได้อย่างไร!
อย่างไรก็ตามภายใต้การปกป้องขององครักษ์ทั้งสอง พวกเขาทำได้แต่เพียงหนีไปได้ 20 กิโลเมตร ก่อนที่พวกเขาจะไปซ่อนตัวในหมู่บ้าน
และพวกเขาถูกฆ่าโดยยอดฝีมือปราณฟ้าลึกลับ...
ข้าได้ยินมาว่าสิ่งที่สนุกที่สุดก็คือยอดฝีมือปราณฟ้านั้นเหมือนกับฆ่ามดแล้วก็เดินจากไป เขากล้าเดินจากไปจริง
ศีรษะของคุณชายซ่งเทาถูกขโมยผู้โชคดีคนหนึ่งและสหายหญิงของเขาสองคนพบเจอ ช่างน่าเสียดายที่ข้ามีงานเลี้ยงกับพี่หม่าเมื่อคืนนี้ มิฉะนั้นสิบล้านเหรียญทางคงได้เหลือติดกระเป๋าข้าบ้าง!”
“โอว..เป็นแบบนั้นหรอกหรือ?!”
เย่ว์หยางปั้นหน้าเหมือนได้รับรู้ข้อมูลฉับพลันและมีสีหน้าเสียดาย “ข้าพลาดเงินสิบล้านไปอย่างนั้นเหมือนกัน”
“ใช่แล้ว!”
บุรุษหัวกลมเปากู่ยังคงผิดหวังเล็กน้อย
แต่กลับคืนเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วและกล่าว “เรื่องนี้จะยังไม่จบแน่ เจ้าสำนักไป๋ซ่งจะนั่งอยู่เฉยๆ
มองดูลูกรักถูกตัดศีรษะได้ยังไง?
เขาจะต้องมาสืบสวนที่เมืองลมดำแน่นอน
บางทีอาจจะมีสงครามระดับนักสู้ปราณฟ้า”
“นับแต่เกิดเรื่องนี้
ข้ายังคงอยู่ที่นี่และมองดูเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไป!” เย่ว์หยางยิ้มและพยักหน้า
“ถ้าน้องจวินไม่ยอมอยู่ดูที่นี่อย่างนั้นก็คงเสียเปล่า...
มาเถอะ เราไปหาอะไรดื่มกันที่ร้านเถอะ
ข้ายังมีข่าวจากคนรู้จักที่ทำงานให้เจ้าเมือง เขากล่าวถึงเรื่องนี้กัน....” เขามองดูรอบๆ
และลดเสียงกระซิบข้าหูเย่ว์หยาง
“ข้าเกรงว่าเรื่องนี้จะถูกปล่อยเพื่อให้ร้ายเจ้าเมือง แต่เจ้าระวังให้ดีเมื่อเวลาจะพูด ข้าคิดว่าน้องจวินเป็นคนน่าเชื่อถือพอ มิฉะนั้นข้าคงไม่กล้าบอก”
“พี่เปา,
ได้โปรดวางใจข้าเถอะ อย่างไรก็ตาม
ข้าไม่เคยคิดว่าพี่เปาจะเต็มไปด้วยไหวพริบมากนัก
แม้แต่ที่พักของเจ้าเมืองก็ยังเอามาพูดได้
ข้าประทับใจจริงๆ!” เย่ว์หยางยอเปากู่
ในที่ห่างไกลมีผู้ขับขี่แมมมอธยักษ์ เขาแต่งตัวอย่างหรูหรางดงาม
เป็นท่านบาร์ตันที่ดูเหมือนหมูนั่นเอง
ท่านบาร์ตันจำเย่ว์หยางไม่ได้
เขาลืมไปแล้ว
แต่พอบ่าวหญิงผู้งดงามกวาดตามองมาที่เย่ว์หยาง
เมื่อเห็นเย่ว์หยางในท่ามกลางคนเป็นหมื่นบนถนน
สายตาแยกแยะของนางน่าทึ่งจริงๆ
เมื่อเย่ว์หยางเงยหน้ามองนาง นางหลบตาไม่กล้าสบตาเย่ว์หยาง ดูเหมือนนางรู้ว่าถ้านางมองเขา
เย่ว์หยางจะรู้ตัวได้
“คนผู้นี้คือท่านบาร์ตัน
ฉายาสุกรขาว
แม้ว่าเขาจะประดับเพชรพลอยเต็มตัว
แต่เขาเป็นผู้ค้าทาสเป็นคนสนิทหมายเลขสองของเจ้าเมือง”
คนหัวกลมเปากู่ไม่กล้าพูดอะไร
เขารอจนกระทั่งช้างแมมมอธไปไกลๆ ก่อนที่เขาจะถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างดุเดือด
เย่ว์หยางคาดว่าเปากู่และท่านบาร์ตันคงมีเรื่องแค้นเคืองกันอยู่
ก็แค่อ่อนแอเกินกว่าจะต่อต้าน
เย่ว์หยางเปลี่ยนหัวข้อและถาม “พี่เปา
วันนี้มีของดีอะไรมาประมูลที่โรงประมูลบ้าง?”
คำถามนี้ถูกต้อง
คนหัวกลมเปากู่คุยโตโอ้อวดเรื่องของตนต่อไปทันที
เขาแนะนำรายการของและราคาต่างๆ ขณะที่ประเมินเย่ว์หยางไปด้วย...
เย่ว์หยางฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
เขาไม่สนใจของธรรมดา
แต่ชื่อที่เปากู่กล่าวถึงทำให้เขาสะท้านใจเล็กน้อย
“เมื่อเร็วๆ
นี้มีของดีๆ หลายอย่างนำมาประมูล
กล่าวโดยทั่วไป ของดีๆ เก็บเอาไว้ในโรงประมูล เจ้ารู้ไหม ใครคือทาสคนสุดท้ายของปีนี้?
เจ้าไม่มีทางคิด ไม่มีทางได้ยินแน่นอน
แต่ชื่อนี้ในแดนสวรรค์ใต้ของเราไม่ธรรมดาแน่นอน! นางคือหัวหน้าก๊กโจรเพลิงพิโรธ
สาวยักษ์ที่ได้รับสืบสายเลือดมังกร! ได้ยินว่าเพื่อให้ได้รับรางวัล 530 ล้านทอง
เพื่อจะจับนางให้ได้ นักสู้ปราณฟ้าสิบคนร่วมมือกัน และทำได้สำเร็จในที่สุด เจ้าพูดว่าระดับปราณฟ้าธรรมดาหรือ?
ปราณฟ้าระดับหนึ่งอย่างคุณชายซ่งเทาก็แค่ขนมเท่านั้น แค่เพียงสาวยักษ์นางนี้ยกมืออัณฑะคุณชายซ่งเทาก็ระเบิดแล้ว...
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณชายซ่งเทาจะเล่นกับไฟอย่างนี้ ศีรษะเขาได้หลุดแน่ พันล้าน
ถ้าข้าได้สักพันล้าน ข้าจะขายสาวยักษ์ลี่เยี่ยนแน่ น่าเสียดาย...”
ในที่สุดสาวยักษ์ลี่เยี่ยนผู้โง่เขลาก็ถูกโจรตัวตลกจับอีกหรือ?
สีหน้าเย่ว์หยางไม่เปลี่ยน
แต่เขาเป็นคู่ต่อสู้ของเสี่ยวโฉ่ว ดูเหมือนว่าเขาประเมินเสี่ยวโฉ่วต่ำไป!
12 ความคิดเห็น:
โดนจับจนได้สินะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
มากิ๊กพี่เย่วเถอะ มันคือพรมลิขิต
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
สุดท้ายก็ไม่รอดดดดยักษ์สาว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ม่ายยยยยย สาวยักษ์หุ่นงาม โดนจับ! ...แต่ดีนะที่ไม่ตาย ;-;
ป.ล. สมาคมทหารรับจ้างนี่น่าสนใจแฮะ...เบื้องหลังคือใครกันหว่า
ขอบคุณมากครับ
หลังจากเรื่องนี้ คงจะตัดสินใจได้สักทีนะ แม่มังกรสาว
แสดงความคิดเห็น