วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 674 ขโมยจูบ


ตอนที่  674  ขโมยจูบ
แม้ว่าเย่ว์หยางจะค่อนข้างเวียนหัวกับเรื่องความดื้อรั้นและความเจ้าอารมณ์ของสาวยักษ์ลี่เยี่ยน  แต่เขาต้องช่วยนาง

เหตุผลแรกก็คือว่าถ้าพวกเขากลายเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มกัน อย่างนั้นแรงสนับสนุนกันของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมาก
นอกจากนี้ลี่เยี่ยนไม่ใช่คนโง่ที่เยียวยาไม่ได้  ตราบใดที่นางเปลี่ยนแปลงนิสัยปากแข็งดื้อดึงของนางสักเล็กน้อย  แม้ว่านางจะทำด้วยความรู้สึกภูมิใจ  นางคงจะตระหนักได้ว่าการกระทำหลายอย่างในลักษณะอวดอ้างความกล้าหาญมันใช้ไม่ได้  แม้ว่านางจะไม่ได้ทำเพื่อรักษาเกียรติความกล้าหาญ  นางต้องการพลังและวิธีการที่ดีกว่า  กล่าวอีกอย่างหนึ่งตราบใดที่สาวยักษ์ลี่เยี่ยนผู้ชอบใช้กำลังและความดุร้ายจะยอมฟังคำแนะนำของเย่ว์หยางบ้าง  ทุกอย่างจะง่ายขึ้น
เย่ว์หยางคิดหาหนทางชักชวนลี่เยี่ยนไว้แล้ว
ในฐานะเป็นคนเถื่อนผู้ยิ่งใหญ่ เขาจะต้องเอาชนะนางด้วยพลังทั้งหมด แกล้งนางและจากนั้นจึงค่อยให้เสวี่ยอู๋เสียช่วยนาง  สำหรับอี้หนานจะรับหน้าที่คอยปลอบโยนนาง
ขณะที่เย่ว์หยางคิดปัญหาเองนี้ ถนนด้านนอกเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องและฆ้องและกลอง
เย่ว์หยางมองขึ้นไปและเห็นนักรบเป็นร้อยกำลังฉลองกัน
บางคนถือป้ายและคำขวัญ  บางคนโปรยดอกไม้ฉลอง  คนอื่นๆ แจกจ่ายอาหาร  อาหารว่างและวัสดุสิ่งของให้กับฝูงชนในถนน  ขณะที่คนพวกนี้ใกล้เข้ามา  เย่ว์หยางก็ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ขบวนพาเหรดเทศกาล แต่เป็นการฉลองที่มีผู้ฆ่าคุณชายซ่งเทาได้  คนหัวกลมเปากู่พันจั่วไว้รอบตัวแล้ววิ่งออกไปอย่างมีความสุข  หลังจากได้รับของว่างสองสามอย่าง  เขาเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางไม่ต้องการ เขาอธิบาย  “ไม่ต้องสงสัยหรอก อาหารทั้งหมดนี้มาจากความบริสุทธิ์ใจและแสดงความซาบซึ้งอย่างมาก  เจ้ามาจากแดนสวรรค์ตะวันตก เจ้าไม่รู้ว่าคุณชายซ่งเทาอยู่ที่นี่เลวร้ายขนาดไหน มันคือหายนะ  เจ้าจะกลัวยิ่งกว่าเจออสูรร้ายกินคน  เขาข่มเหงรังแกคนมานับจำนวนไม่ถ้วน  มีคนเพียงไม่กี่ร้อยที่ฉลองในวันนี้  ถ้าคนรู้ว่าเขาถูกฆ่าแล้ว จะมีการฉลองใหญ่มากขึ้นไปอีก  แม้แต่ข้าเองก็ถูกรังแกกลั่นแกล้งจากสำนักร้อยสนก็หลายครั้ง  ตอนนี้การกินอาหารว่างเหล่านี้ก็เหมือนกับกินเนื้อคุณชายซ่งเทา ถือว่าเป็นการระบายความเกลียดชังได้เหมือนกัน ฮ่าฮ่า”
คำพูดของเจ้าหัวกลมเปากู่และการกินที่ดูดุเดือดทำให้เย่ว์หยางอายแทนเขา
เมื่อคิดว่าเขาได้ทำบางอย่างที่ดีโดยมิได้ตั้งใจ!
อุตส่าห์ตั้งใจทำเลวแท้ๆ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วเขาอาจทำได้ดีจนกระทั่งจบ
เย่ว์หยางถามอ้อมๆ กับเจ้าหัวกลมเปากู่ ว่าคนโดยรอบชอบคุณชายซ่งเทาผู้ร่ำรวย มีอำนาจและชั่วร้ายไหม ถึงได้ทำให้ผู้คนโกรธ
 “มีมากมายหลายอย่าง ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถรักษาความลับได้  อย่าไปบอกใครเชียว” เขาเริ่มโม้อีกครั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาได้เห็นและได้ยินมามากเพียงไหน
 “พี่เปา เอาอย่างนี้เป็นไง เราไปหาร้านเหล้าและคุยไปกินไปดีไหม?”  เย่ว์หยางพบว่าข้อมูลที่สมาคมทหารรับจ้างไม่สามารถซื้อได้ด้วยราคาสูงอยู่ที่นี่  ไม่ต้องใช้ทองสักเหรียญเดียว ก็สามารถได้มาจากปากเปากู่ได้  นอกจากนี้เขายังสามารถทำความเข้าใจข้อมูลได้ทั้งหมด  รวมทั้งทักษะของอสูรรบปราณฟ้า นิสัยส่วนตัว พฤติกรรม และอื่นๆ
เย่ว์หยางเลี้ยงอาหารเปากู่และจากนั้นก็ไปโรงประมูลด้วยกัน
ขณะที่ให้ความสนใจสิ่งของประมูล  เขามองหาและฟังคำแนะนำของเปากู่
ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อยๆ พัฒนาจากคนแปลกหน้าจนกระทั่งเป็นสหาย เย่ว์หยางได้รับความเข้าใจแดนสวรรค์ใต้และอย่างน้อยก็แคว้นมรกต  ในทั่วแคว้นมรกตมียอดฝีมือปราณฟ้าเป็นเจ้าเมือง สำนักต่างๆ กลุ่มทหารรับจ้างและกลุ่มโจร อสูรปีศาจต่างๆ เผ่าพันธุ์พิเศษต่างๆ และแม้กระทั่งผู้เร้นตัวฝึกฝน เย่ว์หยางรู้จักทั้งหมด  นอกจากพวกปราณฟ้าฝีมือสุดยอดซ่อนตัวได้ดี คงไม่มีข้อมูลอื่นในแคว้นมรกตที่เปากู่ไม่รู้เป็นแน่
สหายผู้นี้ปากมาก แต่ความสามารถในการรวบรวมข่าวกรองถือว่าไม่เลว
เขาเป็นนักพูดที่ดี  แต่ค่อนข้างชอบอวดตัว
ในเวลาเย็น เมื่อเย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์  เขาอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ดี  เมื่อเห็นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ในชุดแม่บ้าน เขาอดกอดจูบนางไม่ได้
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ทั้งเขินอายและมีความสุข  นางตะลึงอยู่เล็กน้อยก่อนจะตั้งตัวได้
นางรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของนางกับเจ้านายก้าวหน้าในระดับใหม่หลังจากจูบนั้น และนั่นยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับนาง
 “นายท่าน, ให้ข้านวดไหล่ให้นะเจ้าคะ!”  ขณะที่เย่ว์หยางกำลังอาบน้ำสาวลูกครึ่งเอลฟ์รวบรวมความกล้าสวมชุดว่ายน้ำที่เย่ว์หยางออกแบบด้วยตัวเอง เขาลงไปในน้ำก่อนและนางจึงเริ่มนวดไหล่ของเขา
 “อา...”  เย่ว์หยางมองดูสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ ชุดอาบน้ำชิ้นน้อยแทบจะปกปิดส่วนสงวนได้ไม่หมด เย่ว์หยางเอามืออุดจมูกโดยไม่รู้ตัว  โชคดีที่เลือดกำเดาไม่พุ่ง  อย่างไรก็ตามผลกระทบแทบสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าโอตาคุได้เลย
เมื่อสาวลูกครึ่งเอลฟ์เห็นสีหน้าของเจ้านาย และเห็นราศีในดวงตาเขา นางแอบดีใจ
เจ้านายชอบแสดงความกล้าจริงๆ  เขาไม่ชอบพูด  แต่ลงมือทำแน่นอน!
ใช่แล้ว ข้าต้องทำงานให้หนัก!
เอาเลย!
สาวลูกครึ่งเอลฟ์กำหมัดน้อยๆ ให้กำลังใจนางเอง
นางว่ายน้ำได้ดี ท่าทางลื่นไหลของนางนุ่มนวลเป็นธรรมชาติเหมือนนางเงือกเลื่อนมาอยู่ด้านหลังของเย่ว์หยาง  ก่อนอื่นนางแนบอกมหึมาของนางกับหลังของเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกมีความหวังและสุขใจ  หลังจากกอดแนบแน่นเป็นเวลาสั้นๆ นางนวดเขาอย่างนุ่มนวลและเริ่มจริงจัง
เป็นอุดมคติสูงสุดของนางคือต้องการรับใช้เจ้านายและทำให้เขาเป็นบุรุษที่มีความสุขที่สุดในโลก
เมืองลมดำ จวนเจ้าเมือง
 “ปัง!”
แก้วหยกราคาพันเหรียญทองถูกเจ้าเมืองลมดำขว้างลงกับพื้นและแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เวลานี้เจ้าเมืองลมดำโกรธจจนน่าตาบิดเบี้ยวและคำรามใส่รายงานของขุนพลจินฟง “บัดซบเอ๊ย..เจ้าไม่ปล่อยให้ข้าได้พักอย่างสงบเลยหรือไร? หลังจากคุณชายซ่งเทาตายเมื่อคืนก่อน  ข้ายังไม่หายปวดหัวกับการหาวิธีอธิบายให้ไป๋ซ่งทราบ  แต่ตอนนี้เจ้าบอกว่าผู้เฒ่าเฮยสั่วแห่งสำนักหลันเจียงก็ถูกคนฆ่า  เป็นไปได้หรือว่าบรรดาเรื่องโชคร้ายทั้งหมดในแดนสวรรค์ใต้จะมารวมกันอยู่ที่เมืองลมดำของเรา?  ข้อเท็จจริงว่าคุณชายซ่งเทาถูกฆ่าก็อาจเป็นเพราะว่าเขาสร้างศัตรูไว้นับไม่ถ้วน  อย่างไรก็ตามเฮยสั่วแห่งสำนักหลันเจียง เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?  แม้ว่าเขาจะเป็นอาชญากรจากแดนสวรรค์ใต้  แต่เขาไม่มีศัตรูในแคว้นมรกต  แต่เขาก็ยังถูกฆ่าอีก  นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเท่ากับเป็นการทำลายความเป็นพันธมิตรกับเจ้าสำนักหลันเจียง ทั้งที่ความตั้งใจเดิมของข้านั้นตรงกันข้าม
หลังจากขุนพลจินฟงฟังเขาระบายอารมณ์โกรธจบ เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “ท่านเจ้าเมือง!  สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง”
หลังจากเจ้าเมืองลมดำได้ยินเช่นนี้ เขาสูดหายใจลึก
ใช่แล้ว ตอนนี้เรื่องเกิดขึ้นแล้ว  ว้าวุ่นไปก็ไม่มีประโยชน์
วิธีรับมือและวิธีแก้ไขเป็นสิ่งสำคัญที่สุด... แม้แต่เมืองลมดำไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  มีคนจงใจเล่นงานเขา
เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่คุณชายซ่งเทา ไม่ใช่ผู้เฒ่าเฮยสั่ว  แต่เป็นเขาต่างหาก!  พิจารณาจากเรื่องความตายของคุณชายซ่งเทาและผู้อาวุโสเฮยสั่วนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น  คงจะมีผลลัพธ์ตามมาอย่างแน่นอน
 “ผู้อาวุโสเฮยสั่วตายยังไง?”  ผู้อาวุโสเฮยสั่วเป็นยอดฝีมือของสำนักหลันเจียง  เขาแตกต่างจากคุณชายเจ้าสำราญซ่งเทา
 “ศพหายไปทำให้ไม่สามารถสืบสวนการตายได้  อย่างไรก็ตาม ศีรษะของเขาถูกขึ้นเงินรางวัลโดยคนที่มาจากเมืองใบไม้เขียว ห่างจากที่นี่ไปสามพันไมล์  ผู้น้อยมีสายลับอยู่ที่สมาคมทหารรับจ้างเมืองใบไม้เขียว  เมื่อเขาได้รับข้อมูลนี้ เขาจะส่งรายงานมาให้ผู้น้อยทันที”  ขุนพลจินฟงตอบ
 “ใครเป็นคนรับ?”  เจ้าเมืองลมดำให้ความสนใจมากที่สุดว่าใครเป็นผู้รับบางทีเขาอาจได้ร่องรอยนักฆ่าก็ได้
 “กล่าวกันว่านางเป็นสาวลูกครึ่งเอลฟ์ไม่มีแม้แต่พลังปราณดิน  เป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นนางได้ชัดเจน แต่พลังของนางต่ำมาก นี่เป็นเรื่องที่แน่นอน  นอกจากนี้ ร่างกายนางยังมีกลิ่นที่พิเศษ  นักสู้ที่เป็นสายนั้นมาจากตระกูลฮาวด์ (สุนัขล่าเนื้อ) และความรู้สึกถึงของเขาละเอียดอ่อนมาก  ถ้าสาวลูกครึ่งเอลฟ์ปรากฏตัวอีก ต่อให้นางเปลี่ยนรูปลักษณ์ทั้งหมด  ข้าเชื่อว่าคงไม่สามารถปกปิดร่องรอยได้”  ขุนพลจินฟงไม่คิดว่าสาวลูกครึ่งเอลฟ์จะเป็นคนฆ่าผู้อาวุโสเฮยสั่ว  เป็นไปได้ว่านางบังเอิญผ่านมา เห็นนักสู้ปราณฟ้าตายจึงตัดศีรษะไปรับรางวัลก็เป็นได้
ทำไมถึงมาเมืองใบไม้เขียวแทนที่จะเป็นเมืองลมดำ?
อีกเหตุผลหนึ่งบางทีเป็นเพราะนางออกจากเมืองลมดำและพบว่าการตายของคุณชายซ่งเทาในเมืองลมดำทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่แล้ว  นางไม่กล้ากลับไปที่เมืองลมดำเพื่อรับรางวัลจากสมาคมทหารรับจ้าง  อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนางอาจมีที่อยู่ในเมืองใบไม้เขียวและมีศิลาเทเลพอร์จจากเมืองใบไม้เขียว  ดังนั้นนางจึงเทเลพอร์ตกลับไปเมืองใบไม้เขียวเพื่อรับรางวัลในเมืองที่นางคุ้นเคยกว่า
การคาดเดานี้ไม่ใช่แค่จินฟงเท่านั้นที่คิด แต่เป็นแนวคิดของเจ้าเมืองลมดำด้วยเช่นกัน
คนร้ายไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์แน่นอนหรือขโมยมนุษย์ก่อนนั้น  นี่เป็นเพราะพลังของคนเหล่านี้อ่อนแอมาก
คนร้ายต้องเป็นคนอื่น
เหตุผลที่ฆาตกรยังคงฆ่าต่อไปดูเหมือนจะต้องการใส่ร้ายเจ้าเมืองลมดำ  ดูเหมือนว่าเขาต้องการสร้างความปั่นป่วนและนองเลือดนี่นี่... เจ้าเมืองลมดำคิดอยู่ชั่วขณะ และในทันใดนั้นเขาพูดกับขุนพลจินฟง  “เนื่องจากศัตรูอาละวาดหนักมือ  อย่างนั้นเรามาวัดกัน ดูว่าใครฝีมือดีกว่ากัน เขาอยู่ในที่มืด ข้าอยู่ในที่สว่าง ต้องใช้อุบายดึงเขาให้ออกมาจากความมืด  ข้ามีแผน เจ้าไปดำเนินการทันที ตราบใดที่แผนการสำเร็จ  นักฆ่าจะต้องหลงกลแน่น  ตอนนั้นเราจะฉวยโอกาสสังหารคนกระทำผิด  หัวใจของอี้เสวี่ยเต็มไปด้วยความเกลียด”
เจ้าเมืองลมดำนับเป็นนักวางแผนผู้เจ้าเล่ห์  ในไม่ช้าเขานึกถึงแผนล่ออสรพิษออกจากรัง
เขากระซิบบอกขุนพลจินฟง
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ตาของขุนพลจินฟงเป็นประกาย  เขาพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและออกไปดำเนินการตามแผนของเจ้าเมืองลมดำ
 “สามารถฆ่าเฮยสั่วได้ นักฆ่าผู้นี้เป็นใครกันแน่?  เฮยสั่วเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสอง  แข็งแกร่งยิ่งกว่าคุณชายซ่งเทาถึงสิบเท่า  ถ้าคนร้ายไม่ได้ฆ่าในทันที แต่ฆ่าโดยต้องใช้เวลา  อย่างนั้นพลังของเขาน่าจะอยู่ราวๆ ปราณฟ้าระดับสาม  ถ้าพลังของคนร้ายสูงมากกว่ายอดฝีมือปราณฟ้าระดับสาม  อย่างนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวข้าเลย  จากสิ่งที่ข้าเห็น  เขาต้องอยู่ระดับต่ำกว่าข้า และมีผู้หนุนหลังเป็นพรวน  แค่คนที่อยู่ในแคว้นมรกตจะต่อต้านข้าที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าภายในขอบเขตระดับนี้ได้หรือ?”  เจ้าเมืองลมดำลดขอบเขตความเป็นไปได้ของศัตรูลงเรื่อยๆ
โชคดีที่เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ เขาไม่สามารถคิดออกว่าตัวการร้ายที่แท้จริงมาจากหอทงเทียน
ยิ่งกว่านั้นเขาไม่สามารถคิดได้ว่าทุกอย่างที่เขาคาดเดาเป็นภาพลวงตาที่เย่ว์หยางสร้างขึ้น
หลังจากจัดการกับคุณชายซ่งเทาแล้ว เขาได้รับสมบัติจากผู้อาวุโสเฮยสั่วเพิ่มมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาจัดการเรื่องเหล่านี้  เขาได้แต่ลงมือต่อ  สำหรับสินสงครามเขาค่อยเอาไปปล่อยไว้ที่หอทงเทียนภายหลัง
ภายใต้การนวดที่นุ่มนวลของสาวลูกครึ่งเอลฟ์ เย่ว์หยางหลับสนิทอย่างสบาย
นางก้มศีรษะลง
และจูบเขา

13 ความคิดเห็น:

kamine กล่าวว่า...

ขอบคุณครับบบบบ

gg กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

BJ กล่าวว่า...

โอย​ อยากเป็นพระเอกเรื่องนี้

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Flame กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ ติดตามๆ^^

เอีย กล่าวว่า...

สนุกคราบ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์...พยายามแล้วแต่ก็ยังจำไม่ได้แฮะ นางเป็นใครมาจากไหนนิ @_@
ใน wikia ก็ไม่มีข้อมูลอีก

Lex กล่าวว่า...

ได้มาตอนยึดป้อมสายฟ้าที่ชั้นหกหอทงเทียน มนุษย์กบจั๊ดเป็นคนพามาให้

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น