ตอนที่ 685
ฉลาดผิดทาง
จวนเจ้าเมือง
เมื่อหลงเสียงกลับมา
เขาพบว่าทุกคนในจวนเจ้าเมืองอยู่ในสภาพหดหู่
ปีศาจเฒ่าเว่ยผู้มักหยิ่งยโสอยู่เสมออารมณ์หม่นหมองดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าเหม่อมองเหมือนกับหญิงม่ายสูญเสียลูกชายคนเดียว
บรรยากาศของบ้านที่เต็มไปด้วยนักรบปราณฟ้าแปลกประหลาดจริงๆ หลงเสียงสงสัยว่าเขาเข้ามาผิดที่ นี่คือจวนเจ้าเมืองลมดำจริงๆ หรือนี่?
ทำไมถึงได้ดูเหมือนเป็นอนุสรณ์สถาน?
“แม่ทัพหลงเสียง!” เมื่อเจ้าเมืองลมดำเห็นหลงเสียงกลับมา เขารวบรวมกำลังกายกำลังใจทันที
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น การสนับสนุนของราชาใจสิงห์สำคัญที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ท่านเจ้าเมือง, เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลงเสียงคำนับเล็กน้อยและถาม
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น....”
เจ้าเมืองลมดำเล่าเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดของการต่อสู้ในตอนกลางวัน
พยายามอย่างดีที่สุดไม่ให้กระทบกระทั่งศักดิ์ศรีของปีศาจเฒ่าเว่ย เขาเน้นย้ำว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจเฒ่าเว่ย เพียงแต่ความเร็วของเขาเร็วกว่าและทักษะของเขาดีกว่า
และยังมีการสู้รบของอสูรอีกหลายตัว
พวกมันฆ่าพญางูกลืนฟ้าซึ่งเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสาม
และบีบบังคับให้ปีศาจเฒ่าเว่ยต้องถอนตัว
หลงเสียงตะลึง
ปีศาจเฒ่าเว่ยมีความเร็วที่เหมือนสายฟ้าเป็นสิ่งที่เขารู้
ศัตรูเร็วกว่าและมีทักษะมากกว่าปีศาจเฒ่าเว่ย
และมีอสูรรบหลายตัว
แม้แต่พญางูกลืนฟ้าอสูรปราณฟ้าระดับสามก็ยังถูกฆ่าอีกหรือ?
ความจริงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจสำหรับเขาที่ตกอยู่ในความว้าวุ่นอย่างนั้นเมื่อเผชิญคู่ต่อสู้อย่างนั้น ในที่สุดหลงเสียงขมวดคิ้วคิดอยู่นาน “ข้าไม่เคยเห็นบุรุษหน้ากากมาก่อน ข้าไม่แน่ใจ
แต่ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ค่อนข้างคุ้น ตอนแรกข้าก็คิดว่าเป็นเขา แน่นอนมีบางอย่างที่แตกต่างเกี่ยวกับคนผู้นั้น เขามีอสูรเทพถึงสองตน
และอสูรนั้นทรงพลังเพียงพอเป็นคู่แข่งของเสี่ยวโฉ่ว ราเชลและนายพลปีศาจจื้อกวง
บางทีพวกเขาอาจไม่ใช่คนเดียวกัน แต่อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจมาจากตระกูลเดียวกัน
หรือเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน หรือเป็นพี่น้องกันเพราะทั้งสองมีความเชี่ยวชาญในทักษะการสู้มากและมีอสูรรบที่ฉลาดหลายตัว
ที่สำคัญมากกว่าเจ้าบอกว่าบุรุษหน้ากากร่วมมือกับมารสัมฤทธิ์ฟ้า
จักรพรรดิมังกรและนักรบอื่นในแดนสวรรค์
พวกเขามีทักษะฝีมือและทั้งหมดมีพลังต่อสู้ในระดับสูงนี่คือสิ่งที่ข้าคาดการณ์ไว้”
“บุรุษจากเมื่อครั้งก่อน
เขาและหญิงสหายของเขาอาจดูเหมือนไม่ทรงพลัง
แต่แม้แต่สาวน้อยผู้นั้นก็ไม่สามารถประมาทได้ นางสามารถฆ่านักสู้ปราณฟ้าระดับเจ็ดที่มีระดับพลังสูงกว่านางมาก
และวิทยายุทธของนาง การใช้อสูรรบ และพลังจิตของนางสมบูรณ์แบบที่สุด” ขณะที่หลงเสียงพูดเขาระลึกถึงความทรงจำไปด้วย
“จากตรงนี้เราสามารถสรุปได้ว่าเขามาเพื่อหาทางแก้แค้นในครั้งนี้
น่าจะเป็นเพราะคนในเผ่าพันธุ์พวกเขา
เผ่าพันธุ์นี้ฝ่าบาทราชาใจสิงห์ได้พูดคุยกับข้ามาแล้ว
ไม่เพียงแต่มีแค่มนุษย์เท่านั้น
พวกเขายังปกปิดทักษะเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
และไม่ง่ายที่คนอื่นจะมองเห็นพลังที่แท้จริงของพวกเขา นอกจากนี้พวกยังครอบครองคัมภีร์อัญเชิญระดับสูง
ที่หาได้ยากอีกด้วย”
ก่อนที่หลงเสียงจะพูดบทวิเคราะห์จบ
เจ้าเมืองลมดำก็ชูมือขึ้นรออยู่แล้ว
เจ้าเมืองลมดำพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว ไม่เพียงแต่มารสัมฤทธิ์ฟ้า
จักรพรรดิมังกรและบุรุษหน้ากากที่มีคัมภีร์เป็นของตนเอง แม้แต่หลายๆ
คนในระดับปราณดินก็มีคัมภีร์อัญเชิญเป็นของตนเอง!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้,
เขาไตร่ตรองเล็กน้อย
“ตอนนี้ก็คงตัดสินใจได้ว่าทั้งสองคนนั้นมาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ท่านเจ้าเมืองตามข้อสังเกตและการสืบดูต่อมาของข้า เผ่าพันธุ์นี้ถูกปกป้องเป็นอย่างดี
พวกเขาควรจะเป็นพวกสงบเสงี่ยมแต่พวกเขาให้ความสำคัญกับเกียรติยศมาก
และเมื่อพวกเขาถูกดูถูก อารมณ์พวกเขาจะปะทุทันที
ต่อให้ศัตรูแข็งแกร่งเท่าภูเขา
พวกเขาก็ยอมต่อสู้อย่างไม่กลัว
ถ้าคนเล่นแร่แปรธาตุชื่อจวินอู๋เย่ไม่ตาย
ก็คงง่ายกับการส่งมอบคนไปแล้ว
แต่ตอนนี้...เฮ้อ”
เจ้าเมืองลมดำจะรู้ได้ยังไงว่าบริวารของเขาก่อหายนะได้ขนาดนี้?
แต่ไม่มีทางป้องกันได้
หรือว่าเขาต้องสารภาพต่อฝ่ายตรงข้ามว่าท่านจวินอู๋เย่นักเล่นแร่แปรธาตุตายไปแล้วจริงๆ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจทำให้คนอื่นปลอดภัย
และเขาถูกฆ่าตายทันที เจ้าเมืองลมดำไม่โง่
เขาจะไม่ยอมรับคำตำหนิเรื่องนี้แน่นอน
ถ้าเขาตายทุกคนจะต้องตายด้วยกัน ไม่ว่ายังไงผลประโยชน์ของทุกคนก็ผูกเข้าด้วยกัน ถ้าใครบางคนเปิดทางให้เขา เจ้าเมืองลมดำจะหนีทันที ไม่ว่าเมืองลมดำและตลาดดำจะดีแค่ไหน แต่จะเทียบกับชีวิตได้อย่างไร?
ไม่ว่าเขาจะมีเงินมากมายเพียงไหน ก็คงไม่มีประโยชน์ถ้าเขาไม่มีชีวิตได้ใช้!
“พวกเขาไม่กดดันเราหรือ?” หลงเสียงสงสัยเล็กน้อย เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งชนะ ทำไมพวกเขาไม่ฉวยโอกาสใช้ชัยชนะกดดัน?
“หลังจากปีศาจเฒ่าเว่ยแล้ว พวกเขายังส่งคนออกมาสู้อีกสองสามรอบ”
เจ้าเมืองลมดำมีสีหน้าขมขื่นและส่ายหน้าขณะพูด “บางทีพวกเขากำลังรอคนที่แข็งแกร่งในเผ่าพันธุ์มาถึง พวกเขาจึงไม่ทุ่มกำลังโจมตี แค่เพียงคนจากสามกลุ่มพลังใหญ่ที่มาจากวังมาร
“ถ้าคู่รักนั้นเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์นี้จริงๆ อย่างนั้นคงจะอันตราย” หลงเสียงรู้สึกเย็นยะเยือกในหัวใจ
แม้ว่าราชาใจสิงห์ต้องการจะกำจัดเขา
เขาไม่มีทางเลือกได้แต่ระมัดระวังมังกรปีศาจและกองกำลังด้านหลังเขา
ถ้าเขาตอแยกับเผ่าพันธุ์ที่เป็นของบุรุษนั้นจริงๆ อย่างนั้นการสู้รบนี้คงจะไม่ง่าย
เมืองลมดำอาจถูกพิชิต แม้แต่แคว้นมรกตอาจไม่ปลอดภัย
และภูมิภาคที่ยิ่งใหญ่อาจล่มสลาย
หลงเสียงต้องการรายงานกลับไปที่ราชาใจสิงห์
เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยน
การตัดสินใจเช่นนั้นจำเป็นต้องให้ราชาใจสิงห์ทบทวนแผนของเขาใหม่
แน่นอนว่าในคำสั่งเพื่อความสะดวกของเจ้าเมืองลมดำ
หลงเสียงไม่ได้ดำเนินการทันที
เขากลับปลอบโยนเขาเพียงไม่กี่คำแต่แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ข้างเดียวกันและจะสนับสนุนจนถึงที่สุด
ขุนพลจินฟงกล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้ง “แม่ทัพหลงเสียง
เรื่องนี้ท่านเห็นว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดของศัตรูหรือไม่?”
อย่าว่าแต่หลงเสียงเลย
แม้แต่เจ้าเมืองลมดำและไป๋ซ่งก็ยังไม่เชื่อสมมติฐานของเขา
ไป๋ซ่งส่ายศีรษะและโบกมือ
“ความตายของซ่งเทาลูกข้าไม่ใช่เพราะพวกเขาทำแน่
ความจริงข้าไม่คิดว่าพวกเขาตั้งใจจะฆ่าเราเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาไม่ฆ่าเราเมื่อวานนี้หรือวันนี้ ท่านแม่ทัพพูดถูก
คนเหล่านี้ยังจะสงบและไม่ฆ่าคนอื่นตามปกติ
เว้นแต่พวกเขาโกรธแค้น ด้วยความสามารถของพวกเขา อย่าว่าแต่ซ่งเทาลูกข้าเลย
ถ้าทุกคนในตอนนี้จะทุ่มกำลังทั้งหมดก็จะมีคนเหลืออยู่ไม่กี่คน
เมืองลมดำนี้จะไม่สามารถป้องกันพวกเขาได้เป็นเวลานาน”
“ถูกแล้ว
พวกที่ฆ่าคุณชายซ่งเทาและผู้อาวุโสเฮยสั่วน่าจะเป็นทหารปฏิวัติที่ต้องการวางกับดักเรา” มีนักสู้ปราณฟ้าห้าคนเป็นอย่างน้อยในพวกเขาและมีสามคนที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม ถ้าพวกเขารวมกำลังโจมตีจากเงามืด
พวกเขาก็สามารถฆ่าคุณชายซ่งเทาและผู้อาวุโสเฮยสั่วได้ทันที” เจ้าเมืองลมดำถอนหายใจ “สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญ
เรากำลังฟุ้งซ่านเพราะการกระทำของกองทัพกบฏ
คิดว่าบางเรื่องที่น่ากลัวจะเกิดขึ้นฝ่ายเรา”
“อย่างนั้นเราจะส่งมอบนายกองทหารและรองประธานหอการค้าชิโดยังไง
และเราจะเจรจาต่อรองยังไงอีก?”
ขุนพลจินฟงเกลียดนายกองทหารคนนี้และรองประธานหอการค้าเป็นส่วนตัวที่สร้างปัญหาให้กับเขา
“ไม่ใช่ตอนนี้
นี่มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งโมโหมากขึ้น”
ปีศาจเฒ่าเว่ยห้ามพวกเขาทันที
“ไม่เพียงแต่เราไม่สามารถส่งมอบพวกเขาเท่านั้น แต่เราต้องซ่อนพวกความลับพวกเขาไว้ก่อน”
“การเดิมพันในเมืองลมดำไม่ใช่เรื่องดี อย่างนั้นเราจะเก็บพวกเขาไว้ที่ไหน?” ขุนพลจินฟงรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
“เอาไว้ในป้อมเสียงหวีด
คุกที่นั่นลับที่สุดและปลอดภัยที่สุด...เดี๋ยวก่อน” ปีศาจเฒ่าเว่ยร้องเตือนทันที “ลี่เยี่ยน! ตอนนี้นางอยู่ในป้อมเสียงหวีด ถ้ากองทัพปฏิวัติพบเข้า
พวกเขาจะต้องแจ้งให้บุรุษหน้ากากที่อยู่นอกเมืองทราบ
ถ้าบุรุษหน้ากากไปช่วยลี่เยี่ยน พวกเขาจะได้นักสู้ปราณฟ้าเพิ่มขึ้นอีกคน!”
เมื่อเขาพูดอย่างนี้พวกเขารู้สึกกลัวในใจ
ไม่ต้องลังเลอีกแล้ว
ฮ็อคและซาวี่นักรบปราณฟ้าทั้งสองคนวิ่งเข้าประตูเทเลพอร์ตในจวนเจ้าเมืองทันที
พวกเขาจำเป็นต้องไปถึงป้อมเสียงหวีดทันทีและย้ายผู้ต้องขัง
นางกำลังวางแผนใช้นางเพื่อดึงดูดกองทัพปฏิวัติ แต่ตอนนี้สามารถใช้นางเพื่อประโยชน์ของพวกเขา
เมื่อบุรุษหน้ากากที่อยู่นอกเมืองพบและช่วยลี่เยี่ยนออกไป เรื่องที่ตามมาจะน่ากลัวมาก
ต้องใช้ความพยายามมากกว่าจะจับลี่เยี่ยนได้
พลังของนางคือปราณฟ้าระดับห้า
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังทื่อๆ
ของนางและขาดทักษะต่อสู้พิเศษและใช้การผสานงานของอสูรรบร่วมกับนาง การจับนางจะต้องเป็นงานยากลำบาก
ถ้าหัวหน้าลี่เยี่ยนออกไปจากกับดักนี้ได้
ด้วยพลังที่น่ากลัวของนางและความเร็วและฝีมือของบุรุษหน้ากาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เหมือนแค่การบวกเลข ทั้งเมืองลมดำอาจจะถูกกวาดล้าง การฆ่าพญางูกลืนฟ้าของปีศาจเฒ่าเว่ยจะกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญเลย
ถ้าบุรุษหน้ากากปล่อยลี่เยี่ยน...
ปีศาจเฒ่าเว่ยนำกลุ่มคุมกันกลับไปที่ป้อมรักษาการณ์ด้วยความเร็วสูง
ลี่เยี่ยนเป็นอาชญากรที่ร้ายแรง
หลงเสียงกลับตรงกันข้าม เขาขมวดคิ้วคิดถึงบางอย่าง
เขารู้สึกว่าเขามีลางสังหรณ์บางอย่างที่มิอาจเข้าใจได้
จึงทำให้เขาคิดหนัก
เจ้าเมืองลมดำรีบกระตุ้นหลงเสียงให้ดื่ม
และไม่ยอมให้เขาคิดมากเกินไปเกี่ยวกับผลสูญเสียในการรบ ถ้าหลงเสียงบอกราชาใจสิงห์ให้สละเจ้าเมืองลมดำ
นั่นจะน่ากลัวมาก
เจ้าเมืองลมดำและไป๋ซ่งหลอกว่าให้หลงเสียงไปคุยกลยุทธเพื่อทดสอบว่าราชาใจสิงห์จะเข้ามาแทรกแซงได้ไหม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ปีศาจเฒ่าเว่ยกลับมาพร้อมกับความพึงพอใจ
ขณะที่ฮ็อคและซาวี่ก็มีใบหน้าที่ร่าเริง
“เราไปถึงก่อนพวกทหารปฏิวัติจะแจ้งให้บุรุษหน้ากากทันเวลา เราจะย้ายลี่เยี่ยยออกจากป้อมเสียงหวีดไปที่เมืองจันทราแล้ว
ฮะฮะ โชคดีที่จินฟงพูดถึงเรื่องนี้
มิฉะนั้นหลายอย่างคงแย่จริงๆ”
สีหน้าของปีศาจเฒ่าเว่ยแค่แสดงออกว่าเขามีความสุขุมขึ้น
“ใช่แล้ว ผู้เฒ่าเว่ย, ท่านฉลาดและรอบคอบจริงๆ ทุกอย่างอยู่ในความเข้าใจของท่าน” ขุนพลจินฟงยกยอเขา ไม่มีอะไรที่เขาทำได้เกี่ยวกับปีศาจเฒ่าเว่ย นี่คือสิ่งที่เขาชอบทำกับปีศาจเฒ่าเว่ย
“โอว ไม่นะ!” หลงเสียงตะโกนและยืนขึ้น
ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่เขาคิดอย่างสับสนใจครั้งก่อน เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายลี่เยี่ยน
หลงเสียงขว้างแก้วทิ้งพลางสบถกราดเกรี้ยว
“บัดซบ, เราไม่ควรเคลื่อนไหว!”
ปีศาจเฒ่าเว่ยและคนอื่นตะลึงกันหมด
เจ้าเมืองลมดำผู้ฉลาดคนหนึ่งตั้งตัวได้
เขาตะโกนขึ้นทันที “เร็วเข้า,
ไปเมืองจันทรา เราต้องไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ เพราะกองทัพกบฏไม่มีข่าวลี่เยี่ยนมาก่อน
การเปลี่ยนแปลงนี้เพียงพอทำให้กองทัพกบฏค้นพบได้แล้ว
ไม่..เราต้องไปดูที่เมืองจันทรา!”
จากภายในประตูเทเลพอร์ต
นักสู้ปราณฟ้าคนหนึ่งวิ่งออกมาด้วยร่างที่โชกเลือด
เป็นหัวหน้าหน่วยชื่อริวไคผู้รับหน้าที่เฝ้าดูลี่เยี่ยน
เขาร้องอย่างทุกข์ระทม
“มีบุรุษหน้ากากนำกองทัพ เขาคือคนในกองทัพกบฏ”
“อ๊า...!”
ริวไคร้องลั่นทำให้ทุกคนในที่นั้นตกใจกันหมด
ปีศาจเฒ่าเว่ยกระแทกนั่งกับพื้น หลังจากผ่านไปนานเขายังไม่รู้จะทำอะไร
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
มันไปรวมตัวกับกองทัพกบฏตอนไหนหว่า
แสดงความคิดเห็น