วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 689 นางฟ้าแสงอรุณ!


ตอนที่  689  นางฟ้าแสงอรุณ!
เย่ว์หวี่ดื่มน้ำสองสามอึกเพื่อสงบจิตใจให้มั่นคง
สำหรับแสงอักษรรูนในห้อง นางไม่ได้วางผลึกเวทที่ใช้ส่องแสงตามปกติ

ภายในห้องนอกจากแสงสองสามสายที่มาจากผลึกเวท ไม่มีแสงอื่นอีก  อย่างไรก็ตาม เย่ว์หวี่รู้ว่าเขาเห็นนางได้ชัด แม้ว่านางจะไม่มีเนตรราตรีเห็นได้ชัด  การไม่เปิดไฟก็แค่มีผลทางจิตวิทยาที่ทำให้นางเองไม่รู้สึกอึดอัดใจ  เย่ว์หวี่กัดริมฝีปากเบาๆ และรีบกำจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวนางออกไป.. คำพูดของบิดานางกับปู่ห้าต่างกัน บางทีปู่ห้าอาจจะจำผิด  ข้ามาจากตระกูลเย่ว์  ข้าเป็นพี่สาวของเขา ไม่ต้องคิดอะไรมาก!
นางถอดสร้อยออกจากคอและเก็บไว้ในแหวนเก็บของ
นี่คือหลักฐานสำคัญที่สุดที่ไม่อาจถูกทำลายได้
นางสูดหายใจลึกพยายามอย่างดีที่สุดทำให้หัวใจที่เต้นเร็วอยู่ในความสงบ
อย่าคิดมากเกินไป  นี่เป็นแค่การทดลองปกติ  ก็เหมือนกับพญาไม้ไตตันที่เขาปรับปรุงสร้างให้ปิงเอ๋อ ไม่มีเรื่องอะไรที่แย่
นอกจากนี้การทดลองร่วมกันจะช่วยเขาได้มาก  เขาต้องการความเข้าใจและการทดลองที่มากขึ้น  นางต้องร่วมมือในการค้นคว้าของเขา  ตระกูลและทุกคนฝากความหวังไว้ที่เขา  นางจะไม่ลากเขาให้ตกต่ำเพราะตัวนางเอง
ในที่สุดเย่ว์หวี่ก็หาข้ออ้างในใจได้และลอบถอนหายใจปล่อยความคิดให้เป็นอิสระ  จากนั้นตาของนางกลายเป็นมุ่งมั่นขึ้นและนางกวาดความคิดที่ไขว้เขวออกไปจากใจนาง  นางหลับตาและเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณที่เขาได้รับการฝึกปรือมาอย่างปกติ  เย่ว์ปิงประสบความสำเร็จโดยไม่ตั้งใจในอาณาจักรวิญญาณมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่คนที่ประสบผลสำเร็จจริงๆ ก็คืออี้หนาน  แต่มาหลังจากได้คำแนะนำจากจักรพรรดินีราตรีและแม่สี่ ทุกคนก็มุ่งมั่นฝึกปรือในสภาวะอาณาจักรวิญญาณกับเย่ว์หยาง
เพียงแต่ความแตกต่างกันก็คือเรื่องของเวลาและวิธี
เย่ว์หยางไม่สามารถทำเช่นนี้ได้เมื่อนางยังตื่นอยู่  วิธีที่นางยังคงสภาพใจให้อยู่ในอาณาจักรวิญญาณก็คือตอนหลับ  เหมือนกับว่านางตื่นขึ้นจากฝัน  แม้แต่นางก็ไม่สามารถบอกได้ว่านางหลับหรือไม่
เสวี่ยอู๋เสียก็สามารถคงอยู่ในสภาวะนี้ได้ทุกที่ ทุกเวลาขณะอ่านหนังสือ ฝึกปรือ หรือหลับก็ได้  นางเป็นคนเดียวที่สามารถคงอยู่ในสภาพนั้นได้ตลอดวัน  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่สามารถทำได้ นางจะคงสภาวะอยู่ได้โดยการฝึกดาบหรือฝึกคู่กับเย่ว์หยาง  อี้หนานทำได้ดีกว่า นอกจากฝึกกับเย่ว์หยางแล้ว ตราบเท่าที่นางปล่อยให้เขาคิดเกี่ยวกับตนเอง นางสามารถเข้าสู่สภาวะจิตวิญญาณได้  เจ้าเมืองโล่วฮัวสามารถเข้าสภาวะจิตวิญญาณได้เมื่อนางปลูกดอกไม้หรือได้กลิ่นดอกไม้  ในทำนองเดียวกันสาวงามอู๋เหินก็สามารถอยู่ในสภาวะจิตวิญญาณนี้ได้เมื่อนางศึกษาอักษรรูน
นางเซียนหงส์ฟ้าอาจจะเกินหน้าใครๆ อยู่บ้าง วิธีการของนางเกินไปกว่าคนธรรมดาจะทำได้  นางสามารถคงอยู่ได้ในสภาวะจิตวิญญาณเมื่อนางมีสัมพันธ์กับเขา
นางสามารถร่วมฝึกกับเขาได้อย่างมีความสุข
วิธีการของเย่ว์หวี่เพื่อเขาสู่อาณาจักรจิตวิญญาณค่อนข้างจะพิเศษ ก่อนอื่นนางต้องไม่มองหน้าของเขา  แต่จะจับมือเขา หลับตานาง และรู้สึกถึงกระแสพลังปราณโคจรในร่างของเขา... นางนิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ  แต่ทำให้ง่ายสำหรับเขาที่จะทำให้เปิดรับพลังได้ง่าย
ขณะที่เย่ว์หวี่รับกระแสพลังปราณของเย่ว์หยางมากขึ้น  ร่างของเย่ว์หวี่ค่อยๆ สว่างขึ้น
ผิวของนางเรืองแสงขึ้น
พลังงานหยินธาตุน้ำของนางหลอมรวมกับพลังหยางของเขากลายเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ขึ้นโคจรกลับเข้าไปในร่างทั้งสอง
ภูตแสงซึ่งพยายามหลอมรวมกับเย่ว์หยางหลายครั้งแต่ล้มเหลวปรากฏตัวอีกครั้ง  นางยอมรับเจ้านายอย่างเย่ว์หวี่นานแล้ว หากแต่นางไม่มีร่างหยาบ นางไม่สามารถหลอมรวมกับดาบนางฟ้าของเย่ว์หวี่ได้  ความทรงจำที่สูญสลายไปทำให้ภูตแสงไม่กล้ายอมรับพลังบริสุทธิ์จากเพลิงอมฤตของเย่ว์หยาง  แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่มีเจตนาร้ายก็ตาม แต่นางก็ยังหลบตามสัญชาตญาณ
ครั้งนี้เย่ว์หยางไม่ได้เอาศิลาแดงสระหงส์ที่ปรับแต่งด้วยเพลิงอมฤตออกมาเหมือนที่เคยทำคราวก่อน
การช่วยให้ภูตแสงเข้าไปในศิลาแดงสระหงส์ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานก็หมายความว่าต้องไม่มีแรงต่อต้านจากภูตแสงแม้แต่น้อย  นางหลอมรวมกับศิลาแดงสระหงส์เองอย่างมีความสุข...
เพลิงอมฤตเปล่งประกายชำระศิลาแดงสระหงส์ที่หลอมรวมกับภูตแสงมากกว่าเดิม
ตอนแรกภูตแสงมีความหวาดหวั่นบ้าง
อย่างไรก็ตาม นางพบได้อย่างรวดเร็วว่าเพลิงอมฤตไม่ได้ทำให้เกิดการทำลายล้าง แต่เป็นเหมือนการขึ้นสวรรค์
ความกลัวของภูตแสงหายไป วิญญาณของนางร้องร่าเริงจากการอาบเพลิงอมฤตอย่างต่อเนื่อง  ในท่ามกลางเปลวเพลิงที่ที่ร้อนแรงภูตแสงเป็นเหมือนนกฟีนิกซ์ที่เพิ่งถือกำเนิดบินขึ้นไปในท้องฟ้า  สยายปีกแสงออกและวิญญาณทั้งร้องร่าเริง  แม้ว่าความทรงจำที่สูญเสียไปจะไม่มีทางฟื้นกลับมาได้อีก แต่เศษเสี้ยวความทรงจำที่เหลืออยู่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์  ในทันใดนั้นภูตแสงพบตัวเอง...ว่าภายใต้การหล่อเลี้ยงของปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางและเมื่อนางชำระตัวขั้นสุดท้ายกับเพลิงอมฤทธิ์ นางเลือกจะลืมเรื่องไม่ดีในอดีตและเก็บความทรงจำดีๆ และสัญชาตญาณใช้สร้างตัวเอง
จิตวิญญาณนางตื่นเต้น
ภาพของนางเหมือนกับนางฟ้าที่เปล่งรัศมี พร้อมกับหลั่งน้ำตาปลื้มปีติ
เย่ว์หยางส่งสัญญาณมือแนะนำ นางกางเขนโอบกอดเย่ว์หวี่ว่าที่เจ้านายนางไว้แน่น  ขณะเดียวกันนางหลอมรวมร่างกับเย่ว์หวี่โดยไม่ได้ตั้งใจ
ร่างของเย่ว์หวี่สะท้านเล็กน้อยเหมือนกับว่านางต้องการเป็นอิสระในช่วงเวลาที่สำคัญ
แต่ในเวลาอันรวดเร็ว นางฟื้นตัวได้และกลับสู่ความสงบ
ดาบนางฟ้าบนร่างของนางค่อยๆ ละลายหลังจากสภาพจิตใจของเย่ว์หวี่ผ่อนคลายไม่กีดกันขัดขวาง มันเปลี่ยนกลับไปเป็นดาบเงินและโคจรอยู่รอบเจ้าของนาง  เย่ว์หยางตวาดเบาๆ และรีบยกระดับพลังปราณราชันย์ แสดงถึงพลังควบคุมที่เขาไม่เคยใช้ได้ง่ายๆ มาก่อน  ไพ่ทำนายชะตาแสดงพลังกฎสวรรค์ที่เหนือล้ำและเด็ดขาดกับตัวเย่ว์หยาง  แม้แต่เย่ว์หยางไม่มีทางรู้ว่าพลังนี้แฝงความลับไว้เท่าใด.. ตอนนี้เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาสามารถควบคุมได้เล็กน้อยทั้งที่ยังมีสติ
นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขารู้แจ้งระดับปราณราชันย์ซึ่งเขาสามารถควบคุมพลังกฎสวรรค์
แม้ว่าพลังกฎสวรรค์ที่เย่ว์หยางสามารถควบคุมได้จะมีเพียงหนึ่งในพันของพลังปรกติ  เขาก็ยังเคลื่อนไหวให้การควบคุมของเขาประสบผลสำเร็จ
ทันทีที่พลังกฎสวรรค์ออกมา  วัตถุรอบตัวเย่ว์หยางหายไปหมดไม่เหลืออะไร  เพราะผลก็คือเขาควบคุมได้เล็กน้อย ศิลาแดงสระหงส์ ดาบนางฟ้าและภูตแสงได้รับการปกป้องโดยกฎสวรรค์ทำให้ไม่ได้รับอันตราย
เสื้อผ้าของเย่ว์หวี่หายไปไม่เหลือทันทีเผยให้เห็นร่างขาวดุจหยกหิมะของนาง  ผมยาวของนางสยายโบกสะบัดตามสายลมและภายใต้การซึบซับพลังหยางของเย่ว์หยาง พลังหยินในร่างนางสร้างกระแสหมุนวนแปลกประหลาด รอบตัวนางและพวกเขาทั้งสอง  เย่ว์หยางถือศิลาแดงสระหงส์ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งเป็นดาบนางฟ้าซึ่งเริ่มสานเข้าหากันและเปลี่ยนแปลงเป็นดาบยักษ์ กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เขากำลังเตรียมหลอมรวมทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียว
ศิลาสระหงส์ถูกฝังลงในดาบนางฟ้าและพลังงานระหว่างวัตถุทั้งสองหลอมรวมเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์
แสงแปลกประหลาดฉายไปทั่วห้องทดลอง
เย่ว์หยางกระตุ้นปราณก่อกำเนิดของเขาและปรับแต่งด้วยเพลิงอมฤต  เขาเตรียมเปลี่ยนดาบนางฟ้าชั้นเงินให้เป็นนางฟ้าสงครามใหม่
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างนางฟ้าสงครามอย่างอิคคาผู้มีเลือด เนื้อ ความคิดและวิญญาณให้สำเร็จและยังครอบครองคัมภีร์อัญเชิญซึ่งสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าอสูรเทพ  เย่ว์หยางยังมั่นใจว่าสามารถสร้างนางฟ้าศึกระดับศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่นักรบยุคก่อนได้ทำไว้
จากระดับเงินจนถึงระดับศักดิ์สิทธิ์... แม้ว่าจะมีพลังของศิลาแดงสระหงส์และภูตแสง ก็ยังยากจะอธิบายได้
หนึ่งนาที  สิบนาที
จากนั้นหนึ่งชั่วโมง  สองชั่วโมง
แม้ว่าจะอยู่ในดินแดนไร้ตัวตน  เย่ว์หวี่รู้สึกได้ว่าเย่ว์หยางอ่อนเพลียอย่างชัดเจน
ทุกครั้งที่คุณภาพของดาบนางฟ้าเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ จะมีความยากลำบากถึงสิบเท่ายิ่งกว่าเย่ว์หยางฆ่าศัตรูที่ทรงพลังเสียอีก  เย่ว์หวี่กัดริมฝีปาก นางเข้าใจความตั้งใจของเขาและรู้ความมุ่งมั่นของเขา  ดังนั้นนางไม่ห้ามเขา  เมื่อระดับเงินเพิ่มขึ้นเป็นระดับทอง เขาใช้ผลึกเวทที่เตรียมเอาไว้ก่อนนั้น  เมื่อถึงระดับทองจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับแพลตตินัม เย่ว์หยางไม่มีทางเลือกอื่น ต้องดึงเพลิงอมฤตมาใช้กลั่นผลึกเวทใหม่.. เย่ว์หวี่ไม่รู้ว่าเขากลั่นผลึกปีศาจไปมากเท่าใด ทั้งหมดที่นางรู้ก็คือมันใช้พลังงานไปนับไม่ถ้วน
หัวใจของนางเจ็บปวด แต่นางไม่ห้ามเขา นางสนับสนุนเขา สนับสนุนเขาอย่างเต็มที่
ก็แค่เป็นการช่วยเล็กน้อย
ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!
ความอายและความคิดฟุ้งซ่านเย่ว์หวี่ทิ้งไปนานแล้ว นางเพียงแต่หวังว่านางจะช่วยเขาได้มากขึ้น ไม่ว่านางจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ... เย่ว์หวี่หยดน้ำทิพย์เข้าปากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า  ถ้าเขาสามารถอาศัยแต่พลังฟื้นตัวของนาง  เขาคงอ่อนเพลียจนตาย
ปริมาณพลังงานที่ใช้ไประหว่างกระบวนการควบคุมพลังกฎสวรรค์เกินกว่าความคาดหวังไปมาก แต่เย่ว์หยางไม่อาจตัดใจหยุดได้
นอกจากการเพิ่มคุณภาพของดาบนางฟ้าแล้ว ระดับของเย่ว์หยางเองก็ยังเพิ่มแบบก้าวกระโดด
หลังจากผ่านไปสามชั่วโมงระดับของดาบนางฟ้าก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับเพชร
คุณภาพไม่สามารถทำให้ก้าวหน้าได้อีกต่อไป  เพียงแต่สิ่งที่ยังทำให้ก้าวหน้าได้ก็คือวิญญาณของอาวุธนี้.. ในช่วงขีดจำกัดของเย่ว์หยางสติของเขาเริ่มเลือนราง  ทันใดนั้นเขาจำได้ว่าเลือดของเขาอาจจะใช้ประโยชน์  ก่อนที่เขาจะหมดสติ เขาร้องออกมา  “หยดเลือดทำสัญญา!  เขาเห็นภูตแสงลอยเข้ามาหา เขายกดาบนางฟ้าและฟันใส่แขนเขาทันทีหวังว่าจะยืมเลือดช่วยให้เลือดนางทำสัญญาระหว่างนางกับดาบนางฟ้า
เย่ว์หยางไม่สามารถดำเนินการขั้นสุดท้ายได้เสร็จสิ้น เขาสูญเสียการควบคุมวิญญาณและทรุดตัวลงก่อน
เย่ว์หวี่กอดเขาไว้แน่น และฟันสีไข่มุกของนางกัดริมฝีปาก น้ำตานางไหลรินลงมาผสมกับเลือดที่ริมฝีปากของเขา
เลือดและหยดน้ำตา
ภูตแสงใช้มือช่วยประคองนาง แต่หยดเลือดกลับผ่านเข้าไปในตัวนางซึ่งเกิดจากพลังงานและหยดลงอย่างไม่มีจำกัด
ศิลาแดงดูดซับเลือดและน้ำตาของดาบนางฟ้าที่หยดลงบนศิลาแดงสระหงส์อย่างลี้ลับ  มันเปล่งแสงเรืองรองสดใส ภูตแสงที่มีน้ำตานองหน้าทำท่าโอบกอดทั้งเย่ว์หวี่และเย่ว์หยางไว้  ในที่สุดนางเปลี่ยนเป็นประกายแสงและเข้าไปอยู่ในศิลาแดงสระหงส์...
ดาบนางฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและแตกสลายไป
ภายในแสงสว่างเจิดจ้า มีร่างใหม่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นกลายเป็นร่างนางฟ้าศึกภายในเวลาไม่ถึงวินาที มันเปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปดาบนางฟ้าและกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หวี่ประกอบเข้ากับร่างที่ละเอียดอ่อนของนางสร้างเป็นเกราะตั้งแต่ด้านบนศีรษะจรดเท้า ดูงดงามสมบูรณ์แบบมากกว่าดาบนางฟ้าแต่ก่อน   ระดับของมันเกินกว่าที่เย่ว์หยางคาดไว้ไปมาก ข่มเป้าหมายเดิมที่จะสร้างนางฟ้าศึกชั้นศักดิ์สิทธิ์และให้กำเนิดอาวุธที่ใกล้เคียงกับอาวุธเทพ  เป็นนางฟ้าศึกแบบใหม่ที่ต่างจากอิคคา  แต่มีวิญญาณและจิตสำนึก  แค่ไม่มีร่างหยาบและคัมภีร์อัญเชิญ
คัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์หวี่ลอยออกมาและพลิกหน้าเองโดยอัตโนมัติ  มีชื่อในหน้านั้นว่า นางฟ้าแสงอรุณ ทำสัญญาวิญญาณ อาวุธระดับเทียมเทพ..
เย่ว์หวี่ไม่ได้ตื่นเต้นที่ได้นางฟ้าแสงอรุณ
นางเพียงแต่กอดเย่ว์หยางผู้อยู่ในสภาวะจำศีลเนื่องจากความเหนื่อยล้าอย่างเงียบงัน  น้ำตานางหยดใส่ร่างของเขา นางปล่อยให้เขานอนอยู่ในอ้อมกอดนาง และนางกอดเขาอย่างเงียบงัน ไม่นานจากนั้นนางส่งเขากลับไปที่ห้องนอน จากนั้นนางออกมาอย่างเงียบงัน
เย่ว์หวี่ไม่ได้พูดอะไร  แต่ในใจนาง นางทำใจไว้แล้ว
ในอนาคตไม่ว่ายังไงก็ตาม นางจะเป็นเหมือนนางฟ้าแสงอรุณคอยปกป้องน้องชายผู้โง่เขลาที่ทำร้ายจิตใจนางผู้นี้!

16 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

FaFrenZy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

NIGHT กล่าวว่า...

HNY ครับ

Unknown กล่าวว่า...

อาวุธแบบใหม่ถือกำเนิดแล้ว

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Vi2GO กล่าวว่า...

ขอบคุณและHNYครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

mr_ake_oou กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สุขสันต์วันปีใหม่ 2019

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

โอ้วววโห อาวุธเทียมเทพ

samchay กล่าวว่า...

สวัสดีปีใหม่ครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Nopanser Kung กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Nopanser Kung กล่าวว่า...

นี่มันเมียชัดๆ! เมียที่แท้ทรู ;-;

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

แสดงความคิดเห็น