วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 690 เย่ว์หวี่ สายน้ำผู้นุ่มนวล


ตอนที่  690  เย่ว์หวี่ สายน้ำผู้นุ่มนวล
เมื่อเย่ว์หยางตื่นขึ้น เขาพบว่าเย่ว์หวี่หลับอยู่หน้าเตียงของเขา
ผมสลวยของนางกระจายปรกหน้าผาก

แม้ว่านางกำลังหลับสนิท แต่นางก็ยังมีลักษณะที่อ่อนโยนและราศีที่อ่อนโยน  นอกจากแม่สี่แล้ว เย่ว์หยางไม่เคยเห็นใครเหมือนกับเย่ว์หวี่  นางดูละเอียดอ่อน แต่นางสามารถดูแลเขาได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่จิตวิญญาณ นางเป็นพี่สาวที่ดูแลเขาได้ทุกที่ เหมือนกับว่าเขาเป็นน้องชายผู้อ่อนแอแค่ลมพัดแรงก็อาจเป่าเขาจนปลิวหาย  ตรงกันข้ามกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้ดุร้าย ไม่มีศักยภาพด้านนี้  เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคือคนที่ต้องมีใครบางคนดูแลอย่างแน่นอน
เย่ว์หยางยิ้มและอุ้มเย่ว์หวี่ให้นอนบนเตียง
เขาคลุมผ้าห่มอย่างระมัดระวัง และดึงผ้าห่มให้คลุมปิดถึงมุม
เขาปิดประตูอย่างแผ่วเบาขณะออกมานอกประตู  หนูน้อยแพนด้าหนิวหนิวกำลังไล่จับผีเสื้ออย่างมีความสุข  เย่ว์หยางรีบจุ๊ปากส่งสัญญาให้เธอเงียบ
 “หวานจัง, หวานจัง!  หนิวหนิวยิ้มแป้นเหมือนกับตอนที่ซวงเอ๋อได้รับขนมอร่อยเป็นพิเศษ เธอกระตุกมุมชุดของเขาและรอให้เขาล้างตัวจนเสร็จอย่างว่าง่าย  หลังจากมองซ้ายมองขวา เธอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เธอดึงให้เย่ว์หยางโน้มตัวเข้ามาใกล้ๆ และกระซิบความลับที่หูของเขา  “พี่ชาย, หนิวหนิวจะบอกกับพี่ชายคนเดียวเท่านั้น”
 “ได้เลย” เย่ว์หยางเป็นผู้เชี่ยวชาญในการปะเหลาะเด็กอยู่แล้ว และเขาเกี่ยวนิ้วสัญญากับเธอ
 “แม่ร้องไห้, เมื่อข้าเห็นแล้ว แม่บอกข้าว่าอย่าไปบอกใคร”  หนิวหนิวจะไม่บอกความลับของเธอกับใคร แต่เย่ว์หยางเป็นข้อยกเว้น
 “อย่างนั้นข้าจะไปปลอบโยนนางเอง  เมื่อข้ามีเวลา นางจะได้ไม่ร้องไห้!  เย่ว์หยางยื่นมือออกไปลูบศีรษะหนิวหนิวและหอมแก้มเธอ  “แม่ฝึกหนัก เลยปล่อยให้หนิวหนิวเล่นคนเดียวใช่ไหม?”
 “ไม่เลย ข้าอยู่นิ่งกับที่ตอนที่แม่กำลังฝึก!  หนูน้อยแพนด้ามักจะทำตัวอย่างดีที่สุดเพื่อแม่ของเธอ และเธอจะพูดว่าเธอไม่เคยโกรธแม่เธอเลย
 “นั่นก็ดีแล้ว, งั้นไปเล่นก่อน แม่จะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ไม่ต้องห่วง!  เย่ว์หยางยิ้มให้เธอ
 “อา!” หนิวหนิวพยักหน้าพอใจ
เธอยิ้มสดใสยิ่งกว่าพระอาทิตย์ในท้องฟ้า
เย่ว์หยางเอื้อมมือลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน และตีก้นเธอเบาๆ สั่งว่าเธอควรจะไปเล่นสนุกบ้าง
เขารู้ดีว่าพี่สาวขี้เมานั้นฝึกหนักอย่างยากลำบากเพียงไหน  แต่สถานการณ์ของนางพิเศษมาก  นางเป็นคนประเภทที่ต้องสั่งสมประสบการณ์ให้มากก่อนที่จะสะท้อนถึงระดับของนางออกมาได้  นี่เกี่ยวข้องกับเคล็ดและวิธีฝึกปรือเช่นเดียวกับความคิดของนาง  เพราะเขายุ่งกับงานหลายเรื่องมาเป็นเวลานาน เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาละเลยต่อนางไปบ้าง
และพี่สาวขี้เมานี้เป็นคนที่เข้มแข็งมาก นางจะไม่มีทางขอความช่วยเหลือจากเขา ได้แต่กัดฟันฝึกหนักต่อไป
ถ้าเขาไม่ได้ยินหนิวหนิวพูดว่านางแอบร้องไห้นางคงจะเป็นแบบนี้ต่อไป
เย่ว์หยางทนเห็นคนร้องไห้ไม่ได้เหมือนกัน
การปรากฏตัวของเขาสร้างความตื่นตกใจให้กับนักสู้ของหอทงเทียน  กระบวนการฝึกฝนที่ก้าวหน้าช้าถูกเปลี่ยนแปลง  ยอดฝีมืออย่างสาวขี้เมาที่มักจะเป็นผู้นำเสมอ ต้องปล่อยให้คนอื่นแซงและทิ้งให้นางล้าหลัง  ความรู้สึกนั้นทำให้นางไม่พอใจ
เย่ว์หยางคิดอยู่ชั่วขณะ
เขากำหมัดและตัดสินใจ
เมื่อเขาเคาะประตูห้องสาวขี้เมาเบาๆ นางเปิดประตูและแสดงสีหน้าที่เหลือเชื่อและประหลาดใจ
ตาของนางเหมือนกับมีคำถาม ทำไมเขาถึงมาที่นี่?
 “เกี่ยวกับเรื่องวัตถุดิบของเผ่าพันธุ์อื่นหรือเปล่า?  เมื่อวานนี้ก็ไปที่วังเทียนหลัวแล้ว  ข้าลืมส่งให้เย่ว์หวี่  รอเดี๋ยวนะ ข้าจะกลับไปเอามา”  สาวขี้เมาได้แต่คิดหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมา  คงเป็นเพราะเย่ว์หยางมีส่วนผสมปรุงยาไม่พอ ดังนั้นจึงมาขอนาง  ปกติเขาจะไม่เคยมาเคาะประตูห้องนาง อย่างมากก็วิพากษ์วิจารณ์นางขณะนางฝึกปรือ
 “อา..ไม่หรอก วันนี้ข้ามานี่เพื่อดื่มกับท่านสักจอกหนึ่ง”  คำพูดของเย่ว์หยางแทบทำให้พี่สาวขี้เมาคิดว่าเขากำลังเป็นไข้
 “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ยอมให้ข้าดื่มไม่ใช่หรือ?”  นางร้องเตือน
 “...ก็แค่แหกกฎนิดเดียวเอง” เย่ว์หยางเอาขวดเหล้าฉีหลานออกมาและส่งให้นาง  พี่สาวขี้เมาประหลาดใจกับการกระทำของเย่ว์หยาง  ทำไมคนผู้นี้จู่ๆ ก็ใจดีขึ้นมาเล่า?  หรือว่าเขาพบความลับของนาง?  ฝ่าบาทได้แนะนำแม่สี่มาก่อน  แต่นางปฏิเสธ  นอกจากนี้เขารู้ได้ยังไง?
 “ข้าไม่ดื่ม!  สาวขี้เมาลอบตื่นตัว  ถ้านางเมา ก็จะอันตรายมาก
เจ้าผู้นี้เป็นตัวลามกใหญ่  ข้าระวังไว้ก่อนดีกว่า
สาวขี้เมาโบกมือ ปฏิเสธจะรับคำเชิญชวน
การกระทำของนางทำให้เย่ว์หยางแอบหลั่งเหงื่อในใจ
เขายัดขวดเหล้าฉีหลานในมือนางและพูดอย่างไม่พอใจ  “เหล้าฉีหลานขวดนี้ไม่ใช่ยาพิษ  ต่อให้เป็นยาพิษท่านก็ต้องดื่ม!
เย่ว์หยางพูดแค่นี้ สาวขี้เมาถอนหายใจโล่งอก ด้วยความประหลาดใจปนสุขใจนางถาม “ให้ข้าจริงๆ หรือ?  เนื่องในโอกาสอะไร?”
 “นี่คือรางวัลในการคร่ำเคร่งฝึกฝนหนักของท่าน... ก็เหมือนเด็กในโรงเรียนอนุบาลนั่นแหละ  ถ้าพวกเขาประพฤติตัวได้ดี พวกเขาก็จะได้รางวัลเป็นดอกไม้เล็กๆ สีแดงจากคุณครู”  เย่ว์หยางยกตัวอย่าง  สาวขี้เมาถลึงตาใส่เขา  นางปิดขวดเหล้า แต่นางไม่ต้องการดื่ม  นางเก็บไว้ก่อนและจากนั้นมองดูเขา  “เหล้าฉีหลาน ข้ารับไว้แล้ว เจ้าต้องการอะไรอื่นอีก?”
 “ข้ามาไม่ได้ใช่ไหม ถ้าข้าไม่มีอะไรทำ?”  เย่ว์หยางรู้สึกอึดอัดมากกับการคุยกับสาวคนนี้ในวันนี้  ดังนั้นเขาตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อไป  เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกมา
 “.....” สาวขี้เมาเห็นหมุนตัวกลับ และเมื่อเขาไปถึงที่ประตู เขาแสร้งทำเป็นนึกอะไรบางอย่างได้และถามดู  นางไม่คาดว่าเขาจะก้าวพรวดพราดออกไปโดยไม่พูดอะไร นั่นมันไม่ถูก  เขาไม่ทำตามกฎเกณฑ์ ทำไมเขาต้องให้เหล้านางโดยไม่มีเหตุผลด้วย?
สาวขี้เมามีแรงกระตุ้นให้ติดตามไปถามเขา
ในที่สุด นางเก็บงำความคิดนี้ไว้
บางทีเขาอาจจะทำอย่างมีจุดมุ่งหมายก็ได้
ไม่เป็นไร ไม่ว่ายังไงถ้าเขามีเรื่องสำคัญจะพูด  เขาคงพูดออกมาเอง
แม้ว่านางไม่เข้าใจความตั้งใจของเย่ว์หยาง  แต่หลังจากเย่ว์หยางให้เหล้านางขวดหนึ่ง อารมณ์ของสาวขี้เมากลับดีขึ้น  นางทนฝืนฝึกฝนและรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก  แต่ตอนนี้นางพบว่านางฝึกด้วยความเชี่ยวชาญอย่างสูง
นี่มีบางอย่างเกี่ยวกับเขาด้วยหรือ?  แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยยกเว้นแต่ให้เหล้านางขวดหนึ่ง
ถ้าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขา เห็นได้ชัดว่ามีหลายอย่างที่ผิดปกติในเช้านี้
แต่ตอนนี้ นางรู้สึกเหมือนกับว่าทุกอย่างจู่ๆ ก็ชัดเจนขึ้น
แต่นางยังค้นไม่เจอ  นี่เป็นเหตุผลแบบไหนกัน?
เย่ว์หยางยังคงเพ่งสมาธิกับการฝึกฝน หวังว่าจะบรรลุผ่านถึงปราณก่อกำเนิดระดับสิบได้  แม้ว่าเขาจะมีความรู้เข้าใจเคล็ดหัวใจปราณราชันย์ก่อนและมีความก้าวหน้าได้ถึงระดับปราณราชันย์  แต่พลังที่แท้จริงของเขายังไม่ใช่ระดับปราณราชันย์ ยังคงเป็นชั้นปราณก่อกำเนิดระดับเก้า  ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่กระบี่ชี่เสี่ยวเหลียนเขาก็ยังไม่สามารถกลั่นขึ้นมาให้สำเร็จ  แม้แต่กฎสวรรค์ที่เขาเข้าใจก็ยังไม่สามารถควบคุมได้
การก้าวไปสู่ปราณก่อกำเนิดระดับสิบกลายเป็นความปรารถนาเร่งด่วนของเย่ว์หยางในตอนนี้
เขามีความคิดอย่างหนึ่ง
ถ้าเขาใช้ปราณจักรพรรดิได้จริงๆ  เป็นไปได้ไหมที่เขาจะสามารถเรียกคัมภีร์เทพฤทธิ์ออกมาได้?
ทักษะแฝงเร้นในคัมภีร์เทพฤทธิ์คืออะไร?  อสูรพิทักษ์คืออะไร?  หลังจากถึงขอบเขตปราณราชันย์แล้วเขาสามารถใช้ทักษะแฝงเร้นและเรียกอสูรพิทักษ์ที่ไม่รู้จักได้ไหม?  หรือว่าอสูรพิทักษ์จะเป็นสองพี่น้องหงส์เพลิง?
นอกจากนี้คัมภีร์อัญเชิญที่เขาอัญเชิญได้ในตอนนี้เป็นคัมภีร์ชั้นแพลตตินัมระดับสูงแล้ว และใกล้จะกลายเป็นคัมภีร์เพชรเต็มทีแล้ว
เมื่อเขาเพิ่มระดับอยู่ในชั้นปราณราชันย์ได้  คัมภีร์อัญเชิญจะยกระดับเป็นชั้นเพชรหรือคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ไหม?
 “ว้าว ว้าว....!  เย่ว์หยางหยุดการฝึกปรือ  เขาพบว่าเขาเพิ่งจะห่างจากการบรรลุระดับใหม่เพียงก้าวเดียว  แต่แค่เพียงเล็กน้อย แล้วอะไรคือความแตกต่างกันแน่?  โอกาสเพื่อบรรลุหรือสภาวะจิตใจกันแน่?  ในใจเย่ว์หยางมีลางสังหรณ์ แต่เป็นแรงบันดาลใจแบบไหนเขายังไม่เข้าใจ  เขาหยุดฝึกปรือและคิดขณะพัก  ข้ายังขาดอะไรอยู่กันแน่?
 “ดื่มน้ำสักหน่อยเถอะ!  ถึงเวลานี้เย่ว์หวี่ตื่นแล้วและส่งแก้วน้ำให้เย่ว์หยาง
 “หือ?”  เย่ว์หยางมองดูแก้วน้ำในมือเขาและตะลึงอยู่นาน  ในใจเขามีแรงบันดาลใจผุดขึ้นมา คล้ายกับสองสามวันก่อนแต่เขายังไม่เข้าใจ
 “นี่เตรียมจะบรรลุระดับพลังใหม่ใช่ไหม?”  เย่ว์หวี่เห็นประกายผ่องใสบนใบหน้าของเย่ว์หยาง เหมือนกับว่าเขามีโอกาสจะบรรลุระดับใหม่ แต่ไม่สามารถบรรลุได้  นางเห็นเขาจ้องเหม่อมองแก้วในมองของเขา ลืมแม้กระทั่งการกินน้ำ  ในใจนางรู้สึกว่านางสามารถช่วยเขาได้ด้วยสัญชาตญาณสตรีทันที  นางปลุกปลอบวิญญาณและดึงมือเย่ว์หยาง  “เจ้าจำได้ไหม เมื่อเจ้าช่วยข้ายกระดับน้ำตกวารีเหินและเมื่อมันยกระดับขึ้นก็กลายเป็นคลื่นพิโรธ?  ข้ารู้สึกว่าอาจช่วยในด้านพลังหยินธาตุน้ำ จากคลื่นพิโรธระดับทองได้ยกระดับเป็นสึนามิระดับแพลตตินัม”
นางไม่พูดว่านางจะช่วยเย่ว์หยางด้วยการบรรลุระดับใหม่ของนาง  แต่นางขอให้เย่ว์หยางช่วยยกระดับอสูรพิทักษ์ของนาง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นางไม่ต้องการทำเช่นนั้น
แต่ตราบเท่าที่นางสามารถให้ความช่วยเหลือเขาอย่างเงียบๆ นั่นเป็นความปรารถนายิ่งใหญ่ของนางแล้ว
หลังจากเย่ว์หยางได้ยินเช่นนี้ ตาของเขาเป็นประกาย  พลังหยินในธาตุน้ำ  ใช่แล้วถ้าเขาสามารถใช้พลังหยินในธาตุน้ำฝึกพลังเสริมต่างๆได้ เขาจะสามารถบรรลุระดับใหม่ได้แน่นอน  พลังหยางของเขาเองแข็งแกร่งมากจนแม้แต่เพลิงสนธยาก็ไม่สามารถก้าวหน้าได้  ถ้าเพลิงสนธยาเป็นเหมือนกับบัวเพลิงสวรรค์และเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์  อย่างนั้นเขาก็สามารถบรรลุปราณก่อกำเนิดระดับสิบได้อย่างแน่นอน
เย่ว์หวี่ยิ้มให้กับอาการประหลาดใจของเย่ว์หยาง  “กลับไปฝึกที่ทะเลสาบกันเถอะ  ในส่วนลึกของทะเลสาบเราสามารถยืมพลังของทะเลสาบและพลังหยินในธาตุน้ำอสูรคลื่นพิโรธชั้นทองให้เป็นสึนามิได้”
เย่ว์หยางกระโดดขึ้นและกอดนางอย่างตื่นเต้น  “ท่านคือดาวนำโชคของข้าจริงๆ  เรื่องนี้ข้าเพิ่งคิดได้  พักก่อน ต้องเป็นพลังหยินในธาตุน้ำแน่นอน!
 “วางข้าลง!” เย่ว์หยางอายและรีบตะโกนห้ามเขา แต่เย่ว์หยางดีใจจนลืมทุกอย่าง
เขาอุ้มนาง
และพุ่งข้ามขอบฟ้าไปเหมือนดาวตก
เขากลับไปที่ทะเลสาบที่เขากับเย่ว์หวี่ฝึกปรืออสูรคลื่นพิโรธด้วยกัน
ตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้ว  ดวงจันทร์แขวนตัวในนภาเหมือนเกี่ยวห้อยดวงดาวไว้ด้วย  เย่ว์หยางเหมือนกับอุกกาบาตพุ่งลงมาจากท้องฟ้ามาอยู่ที่ผิวทะเลสาบอย่างเงียบสงบไม่มีคลื่นบนผิวทะเลสาบ เย่ว์หวี่มองดูเขาและรู้สึกอายน้อยก่อนที่นางจะกางปีกของนางฟ้าแสงอรุณ นางดันตัวเองออกจากอ้อมกอดเขาอย่างสุภาพ  หน้าของนางอ่อนโยน ขณะที่นางก้าวอยู่บนผิวทะเลสาบเหมือนกับนางฟ้ารับสายลม
ผิวทะเลสาบบุ๋มลงเล็กน้อย แต่ไม่ก่อนให้เกิดระลอกคลื่น
เย่ว์หวี่ลอบถ่ายพลังธาตุลงในน้ำ หัวใจนางเต้นแรง  ขณะกุมมือเขานางหลับตาและเริ่มทำสมาธิ เมื่อกระแสพลังไหลออกมาจากนิ้วของนาง  นางเข้าสู่อาณาจักรใจที่บริสุทธิ์ ร่างของนางค่อยๆ เลื่อนลงน้ำ พร้อมกับเขา  เขาหลอมรวมพลังเข้ากับทะเลสาบที่งดงาม
นางเชื่อว่าเมื่อนางออกมาที่ทะเลสาบพร้อมกับเขาอีกครั้ง เขาจะได้บรรลุพลังระดับใหม่
นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางอาจช่วยเขาได้!
ทั้งหมดมีความหมายต่อชีวิตนาง
สามารถช่วยเหลือเขาได้แม้แต่เพียงส่วนน้อย บางทีพลังธาตุน้ำอาจช่วยให้เขาได้บรรลุระดับใหม่ได้  แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

10 ความคิดเห็น:

samchay กล่าวว่า...

เติมทรูๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ เย่ว์หยางใกล้บรรลุขั้นใหม่แล้ว

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอยคุณครับ

อย่าบิดเต้านมน้าาาา กล่าวว่า...

ตกลงเยว์หยางอายหรือเยว์หวี่อายเหรอครับ ไม่ต้องแก้ก็ได้ ปล่อยไว้แบบนี้แหละครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

แสดงความคิดเห็น