วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2562

Panlong เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ – ตอนที่ 22 หยดน้ำ พลังมหาเทพ?


เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ ตอนที่ 22 หยดน้ำ พลังมหาเทพ?
ตอนนี้ที่เขาเอาหยดพลังมหาเทพออกมา  เขาสามารถใช้มันเพื่อฆ่าฝ่ายตรงข้ามกับเขา หรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามเขาต้องหนีไปด้วยความกลัวได้  ไม่ว่ายังไงเขาสามารถจากไปได้อย่างปลอดภัย! อย่างไรก็ตาม เมื่อเอาออกมาเปิดเผยแล้ว  เขาก็เท่ากับเปิดเผยไพ่เด็ด  และนี่จะไม่ใช่ไพ่เด็ดอีกต่อไป

ซาโลมอนรู้สึกโกรธ เมื่อใดก็ตามที่คิดเรื่องนี้!
ขณะชำเลืองมองเอลควินและอินนิโก เขาเห็นชัดว่าทั้งสองคนต้องการหยดพลังมหาเทพมาก  แต่พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะชิงเอามาได้
ซาโลมอนพูดเบาๆ “ศิลาดำและอะซูไรท์ของแดนนรกทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยมหาเทพสายทำลายล้าง  หยดน้ำดำนี้คือหยดพลังของมหาเทพสายทำลายล้าง และข้าก็ฝึกฝนมาทางวิถีทำลายล้าง พลังมหาเทพทำลายล้างจับคู่กับการฝึกสายวิถีทำลายล้าง... พลังก็จะยิ่งใหญ่”
หน้าของเอลควินดูน่ากลัวจริงๆ
ในแดนนรกอสูรเจ็ดดาวสามารถนับได้ว่าเป็นยอดนักสู้ระดับสูง มีเทพอสูรเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งท่องเที่ยวไปได้ทั่วแดนนรก  อย่างไรก็ตามมีเทพอสูรทั้งหมด 108 และอสูรเจ็ดดาวอีกหลายคนที่ลาออกจากการเป็นเทพอสูร  ตลอดหลายปีที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์มียอดฝีมือในแดนนรกอยู่มากมาย
สามารถยืนอยู่ระดับยอดของยอดฝีมือเหล่านี้ได้โดยทั่วไปจะต้องมีเกณฑ์เช่นนี้
1. อย่างไอเคนผู้สามารถกลั่นหยดมหาเทพได้! ใครจะกล้าสู้กับคนที่สามารถใช้หยดพลังมหาเทพบ้าง?
2. เป็นยอดฝีมือระดับสูงล้ำผู้ครอบครองสมบัติมหาเทพ!  เมื่อมีสมบัติของมหาเทพอยู่ในความครอบครอง ผู้นั้นย่อมเหนือผู้อื่นเป็นธรรมดา
3. เป็นเทพชั้นสูงผู้เข้าถึงระดับพารากอน พารากอนคือนักสู้ที่หลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งหมดของหนึ่งในกฎธาตุธรรมชาติได้เป็นหนึ่ง นักสู้เช่นนั้นจะยืนอยู่เหนือเทพชั้นสูงทั้งหมด
4. แน่นอนว่ายังมีกรณีพิเศษอยู่เสมอ
กรณีพิเศษก็คือร่างเดิมของอสูรเจ็ดดาวที่ประกายเทพที่พวกเขามีอยู่มีพลังเทพแข็งแกร่งมากมาย อย่างเช่นพลัง กินเทพ ด้วยพลังเทพมากมายเช่นนั้นประกอบกับพลังส่วนตัวที่มหาศาล   นอกจากนี้ยังมีการกลายพันธุ์ของวิญญาณและเหตุการณ์พิเศษอย่างอื่นอีก
ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นไอเคนผู้มีชื่อเสียงน่ากลัวอยู่ในทวีปเรดบุด หรือเบรุตแห่งทวีปบลัดริจ ยอดฝีมือเหล่านี้ก็อาศัยกรณีพิเศษบางอย่างนั้น
แต่เอลควิน กลับถูกมองว่าเป็นอสูรเจ็ดดาวที่ค่อนข้างมีพรสวรรค์  เขาไม่มีพลังของมหาเทพ ไม่มีอาวุธของมหาเทพ ไม่มีพลังระดับพารากอน จึงเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะเผชิญหน้ากับซาโลมอน
ใช้พลังมหาเทพโจมตี เทียบกับใช้พลังเทพชั้นสูงโจมตีต่างกันราวฟ้ากับดิน ต่อให้เข้าใจรู้แจ้งเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุที่เหมือนกัน  แต่ฐานพลังนั้นแตกต่างกันอย่างมากมาย
เปรียบกับทารกที่ถนัดเล่นดาบต้องมาสู้กับยักษ์ที่มีพลังมหาศาล  เด็กทารกจะชนะได้ยังไง ต่อให้เป็นยักษ์ไม่รู้จักวิธีใช้ดาบก็ตาม?
เหตุผลเดียวกัน
ซาโลมอนในแง่ความเข้าใจเคล็ดลึกลับของกฎธาตุอาจจะมีเพียงหนึ่งในสิบในระดับความสำเร็จของคู่ต่อสู้ที่เขามี  แต่พลังมหาเทพยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก  เมื่อเทียบกับเทพชั้นสูงนั้น
 “อะไรกัน, พวกเจ้าต้องการจะเอาหยดพลังมหาเทพหรือ?”  ซาโลมอนหัวเราะ
 “ท่านเอลควิน?”  อินนิโกหันไปมองเอลควิน  พลังส่วนตัวของอินนิโกอ่อนแอกว่าเอลควินแต่แรกแล้ว เมื่อซาโลอนใช้พลังมหาเทพ  ก็สามารถฆ่าอินนิโกได้ทันที
เอลควินลังเลเล็กน้อย จากนั้นถอนหายใจเบาๆ  “พลังมหาเทพ.. หยดเล็กเช่นนั้นแต่แฝงไปด้วยพลังที่น่ากลัวเหลือหลาย”  คำพูดของเอลควินแฝงร่องรอยความอิจฉา  เขาฝันว่าจะได้ครอบครองหยดพลังมหาเทพอยู่ก่อนแล้ว
แม้ว่าจะเป็นของที่ใช้ได้ครั้งเดียว แม้ว่าเขาไม่ได้ใช้มัน  เขาสามารถใช้มันคุกคามคนอื่นได้  ในช่วงเวลาวิกฤติ เขาอาจใช้มันเอาชีวิตตัวเองรอด
ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่ในก้นบ่อแมกมาทอง เหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง
 “พี่ใหญ่กำลังคิดเรื่องอะไร?”  บีบีและเดเลียทั้งสองคนสังเกตว่าลินลี่ย์ดูเหมือนจะมีอาการแปลกไปบ้าง  “ไม่จำเป็นที่พี่ใหญ่ต้องทำเช่นนั้นแค่เพียงเพราะเขาได้ยินการสนทนาข้างบนเรื่องพลังมหาเทพใช่ไหม?  แม้ว่าข้าจะต้องพูด แต่พลังมหาเทพนี้ทำให้คนอิจฉาได้จริงๆ”
เดเลียพูดเบาๆ  “อิจฉา เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ซาโลมอนพูดหรือ? การกลั่นพลังมหาเทพยากมาก และมีน้อยคนมากในแดนนรกที่สามารถกลั่นพลังมหาเทพได้  นอกจากนี้จำนวนของศิลาดำและอะซูไรท์ที่ต้องใช้งานสิ้นเปลืองมหาศาล สมบัติตระกูลบอยด์ทั้งหมดกลั่นออกมาได้เพียงหยดเดียว”
พลังจิตของลินลี่ย์เพ่งอยู่กับภายในแหวนมังกรขนด
ภายในแหวนมังกรขนด มีหยดน้ำสีฟ้าเหลืออยู่สองหยด
 “หยดน้ำ?  หยดน้ำ? พลังมหาเทพ?”  ลินลี่ย์รู้สึกประสาทชา  ไม่ว่าเขาอาจจะโง่แค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังเชื่อมโยงจุดต่างๆ ได้ทันที  “ข้านี่โง่จริงๆ  หยดประหลาดหนึ่งหยดที่ทำให้ร่างข้าเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสภาพที่ทรงพลังจนสามารถรับพลังโจมตีจากอาวุธเทพชั้นสูงได้โดยตรง.. หยดพลังมหาศาลนั่นนอกจากพลังมหาเทพ จะเป็นอะไรอื่นไปได้เล่า?”
มันช่วยเพิ่มพลังร่างกายให้เขามากมายมหาศาล มากกว่าพลังที่เขาใช้ตามปกติ
หยดน้ำหยดเดียวสามารถให้พลังมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ?  มีแต่พลังมหาเทพในตำนานจึงจะสามารถทำเช่นนั้นได้
 “อา... ข้านี่โง่เกินไป  เมื่อข้าได้รับแหวนมังกรขนด สมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันวิญญาณที่ชำรุดนี้..ก็คือสมบัติมหาเทพอย่างหนึ่งนั่นเอง!  เห็นได้ชัดว่าในอดีต เจ้าของแหวนมังกรขนดนี้ก็คือมหาเทพนั่นเอง!  เนื่องจากเจ้าของเป็นมหาเทพ หยดน้ำนี้ก็ต้องเป็นพลังมหาเทพเป็นธรรมดา
ทุกอย่างสมเหตุสมผลดีแล้ว
นอกจากมหาเทพแล้ว ใครอื่นจะทิ้งหยดพลังมหาเทพไว้ได้ถึงสามหยดไว้ในแหวนมังกรขนดได้เล่า?
ที่สำคัญ  ถ้าเป็นเทพชั้นสูง เทพชั้นสูงมีความเป็นไปได้มากว่าจะใช้พลังมหาเทพระหว่างรบ  เพียงแต่สำหรับคนบางคนที่มีพลังเท่ามหาเทพหยดพลังมหาเทพเหล่านี้คงไม่มีความหมายอะไรมาก  ที่สำคัญมหาเทพมีพลังมหาเทพปริมาณมากอยู่แล้ว  การตกทอดหยดพลังมหาเทพไว้สามหยดก่อนตายเป็นเรื่องธรรมดา
 “ข้าใช้ไปหนึ่งหยด  ยังมีเหลืออีกสองหยด ถ้าข้าขายออกไป  ข้าจะได้รับราคาสักเท่าใด?”  แม้ว่าลินลี่ย์จะสงสัยเรื่องนี้  เขาคงไม่โง่มากจนทำเรื่องอย่างนี้จริงๆ
พลังมหาเทพหยดเดียวเป็นสมบัติประมาณค่ามิได้!
สมบัติทั้งหมดของตระกูลบอยด์ที่สั่งสมมานานนับปีไม่ถ้วนถูกใช้จ่ายออกไป ขณะที่ท่านไอเคนได้ชดใช้หนี้ให้ตระกูลบอยด์  ผลก็คือไอเคนกลั่นพลังมหาเทพให้หยดหนึ่ง  ความจริงสำหรับยอดฝีมือระดับไอเคน  หนี้บุญคุณครั้งเดียวทรงคุณค่ากว่าสมบัติใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าไม่ใช่เป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะเสนอสมบัติมากมายเท่าใดก็ตาม แต่ไอเคนอาจจะไม่กลั่นพลังมหาเทพให้ก็ได้
ที่สำคัญ ถ้าเขาสร้างพลังมหาเทพให้ผู้ใด  ก็มีความเป็นไปได้ว่าสักวันหยดพลังมหาเทพจะตกไปอยู่ในมือของศัตรูคนหนึ่งก็ได้
 “หยดน้ำสีดำก็คือพลังมหาเทพทำลายล้าง  หยดน้ำสีฟ้าของข้าน่าจะเป็นพลังมหาเทพธาตุน้ำ”  ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าหยดน้ำสีฟ้าบรรจุไปด้วยรัศมีธาตุน้ำ  ในอดีตลินลี่ย์มีความสงสัย... ว่าสิ่งนี้คืออะไรถึงได้เพิ่มพลังร่างกายให้เขามากมาย?
ลินลี่ย์ไม่กล้าคิดว่านั่นคือพลังมหาเทพ
แต่วันนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
 “ถ้าข้าใช้พลังมหาเทพเมื่อตอนใช้เงาพิศวงโจมตี นั่นจะทรงพลังมากมายเพียงไหน?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจ
พลังการโจมตีปกติขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักสามอย่าง คือสมบิตเทพ  ระดับพลังงานและเคล็ดความรู้ลึกลับ  ปกติ ถ้ามีหนึ่งในสามปัจจัยหลักมีความแข็งแกร่งเหลือเชื่อ พลังโจมตีจะทรงพลังมาก
ตัวอย่างเช่น ถ้าเข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับในระดับพารากอน (สุดยอดของเทพชั้นสูง) อย่างนั้นนักสู้ก็แทบจะไร้เทียมทาน
ถ้าระดับพลังเทียบเท่ากับมหาเทพ อย่างนั้นพลังจะน่ากลัวมากมาย
ถ้าสมบัติเทพเป็นสมบัติระดับมหาเทพ อย่างนั้นนักสู้ก็สามารถครอบครองดินแดนในนรกได้
แต่แน่นอน ถ้ามีปัจจัยแข็งแกร่งด้านเดียว  ปัจจัยนั้นไม่อาจอ่อนแอกว่าอีกสองด้าน
กระบี่เลือดม่วงสมบัติเทพของลินลี่ย์เป็นสมบัติระดับเทพชั้นสูง  แหล่งพลังงานของเขาได้มาจากพลังมหาเทพ  ขณะที่เคล็ดความรู้ลึกลับที่เขาหลอมรวมสองอย่างต่างกัน  ด้วยปัจจัยสามอย่างรวมกัน เขาคงไม่อาจคุกคามเทพชั้นสูงระดับพารากอนได้นัก  แต่มีความมั่นใจว่ายังใช้จัดการกับเอลควินได้
อย่างไรก็ตาม...
อาจจะต้องใช้คุณค่าไปมากกับการต้องใช้หยดพลังมหาเทพ
 “เว้นแต่สถานการณ์วิกฤติจริงๆ  ข้าไม่อาจเอามาใช้ได้  เมื่อใช้ในช่วงวิกฤตินี่คือสมบัติที่สามารถช่วยชีวิตและแก้ไขโชคชะตาได้”  หลังจากเผชิญกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาหลายครั้งแล้ว  ลินลี่ย์เข้าใจความสำคัญของพลังมหาเทพไปโดยปริยาย  พลังมหาเทพไม่อาจใช้ตามใจตัวเองได้ ควรต้องใช้เพื่อรักษาชีวิตในยามวิกฤติ
ลินลี่ย์กลับคืนเป็นปกติ และขณะที่เขาเป็นเช่นนั้นเขาพบว่าบีบีและเดเลียกำลังจ้องมองเขา
 “พวกเจ้ามองอะไรกัน?”  ลินลี่ย์หัวเราะ  ความจริงลินลี่ย์ในตอนนี้มีอารมณ์ดี
ใครก็ตามในแดนนรกที่อันตรายนี้ได้รับสมบัติที่ทรงพลังมหาศาลอย่างเช่นสมบัติมหาเทพนี้ย่อมอยู่ในอารมณ์ที่ดีเป็นธรรมดา  นี่คือไพ่เด็ด
 “พี่ใหญ่!  ท่านยืนนิ่งกับที่ไม่ไหวติงเอาแต่ยิ้ม  มีอะไรดีๆ เกิดขึ้น?”
 “ข้ายิ้ม?”  ลินลี่ย์หัวเราะอารมณ์ดีกว่าเดิม  เมื่อบางอย่างดีๆเกิดขึ้นกับใครบางคน แน่นอนว่าเขาย่อมอารมณ์ดีเป็นธรรมดา
 “หืม? เอลควินถอดใจแล้วหรือ?”  ลินลี่ย์เงยหน้ามองทันใด และบีบีกับเดเลียได้ยินคำพูดจากด้านบนเช่นกัน
จากภายในถ้ำ แม้ว่าเอลควินจะไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ในที่สุดเขาก็ยังพยักหน้า  “ซาโลมอน ไม่ต้องกังวลไป  ข้าเอลควินไม่โลภมากขนาดชิงเอาพลังมหาเทพของเจ้า  ข้าเชื่อว่าเจ้าคงไม่หักใจใช้ออกมาจริงๆ”
แน่นอนเขาไม่สามารถหักใจใช้ได้ มันจะหมดเปลืองไปเฉยๆ  นี่คือสิ่งที่เขาแลกเปลี่ยนมาด้วยสมบัติตระกูลทั้งหมด
 “ถ้าท่านบีบบังคับข้า  อย่างนั้นข้าก็คงไม่มีทางเลือก”  ซาโลมอนกล่าว
 “ฟูโซ่ เปิดอุโมงค์ภูเขาไฟนี้ ปล่อยพวกเขาไป”  เอลควินสั่งทันที
แมวน้อยทองในอ้อมแขนเขาส่งเสียงร้องเบาๆ “เมี้ยว...” ทันใดนั้นปรากฏช่องเขาในท่ามกลางแนวภูเขาไฟทันที เชื่อมโยงกับถ้ำนี้  ซาโลมอนเงยหน้ามองเห็นท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว  เห็นได้ชัดว่าเป็นเวลาราตรี
ซาโลมอนถอนหายใจโล่งออก  “โชคดี เอลควินไม่บีบบังคับให้ข้าใช้พลังมหาเทพนี้”
 “นีซ, ไปกันเถอะ”  ซาโลมอนหันไปมองน้องสาวของเขา
นีซหันไปมองบ่อแมกมาทอง  บ่อแมกมาทองยังคงเดือดปุดๆ ปล่อยพลังความร้อนที่น่าประหลาด  นีซอดร้องไห้อีกครั้งไม่ได้
 “อย่ามอง” ซาโลมอนปลอบโยนเบาๆ
 “บีบี...” นีซเงยหน้ามองหมวกฟางในมือนาง จากนั้นก้มหน้า “ไปกันเถอะ พี่ใหญ่”
และจากนั้นนีซและซาโลมอนบินผ่านไปตามหุบเขาใหญ่ทันทีหายลับตาไปในดินแดนรกร้างกว้างใหญ่
 “งานที่ทำทั้งหมดไม่ได้อะไรเลย!  เอลควินคำรามเบาๆ  เขาข่มกลั้นความโกรธไว้จนถึงตอนนี้  เขาคิดว่าสมบัติตระกูลบอยด์คงจะตกมาในเงื้อมมือเขา คาดไม่ถึงสิ่งที่เรียกว่าสมบัติทั้งหมดก็คือพลังของมหาเทพ!  นี่คือสมบัติแน่นอน,  แต่เป็นสมบัติที่ยากจะได้รับมา
เขาได้แต่มองซาโลมอนจากไปพร้อมกับสมบัตินั้น
ทันใดนั้นอินนิโกใช้สนามพลังเทพป้องกันไม่ให้เสียงพวกเขารั่วไหล  เอลควินอดมองเขาอย่างสงสัยมิได้  อินนิโกพูดเบาๆ  “ท่านเอลควิน  ข้ารู้ว่าเจ้าคนที่ชื่อบีบียังอยู่ภายในบ่อเพลิงทอง  อาวุธที่คนชื่อบีบีใช้เป็นสมบัติอย่างหนึ่ง ถ้าเราครอบครองไว้ การเดินทางครั้งนี้ก็ถือได้ว่าไม่เสียเปล่า”
แม้ว่าอินนิโกจะไม่ได้อยู่ที่นั่นในเวลาที่ฟูโซ่แจ้งอินนิโกให้ทราบทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ตอนนี้เอลควินเข้าใจดีแล้ว มิน่าเล่าอินนิโกถึงได้กันเสียงเอาไว้  เขาเกรงว่ากลุ่มของลินลี่ย์จะได้ยินพวกเขา
 “อาวุธของบีบีน่ะหรือ?  นั่นเป็นสมบัติแน่นอน”  เอลควินถอนหายใจ  “นั่นคืออาวุธที่มีแต่เบรุตเท่านั้นถึงสร้างขึ้นมาได้ อาวุธที่สร้างขึ้นมาจากประกายเทพ  มันแข็งและคม!  พลังของมันเหนือกว่าสมบัติเทพชั้นสูง  แค่ด้อยกว่าสมบัติมหาเทพเล็กน้อย”
อาวุธประกายเทพ!
เครื่องหมายการค้าของเบรุต  มีแต่เบรุตเท่านั้นที่ทำได้  ประกายเทพเป็นของแข็งที่ไม่มีทางทำลายได้ และมีแต่หนูกินเทพจึงจะสามารถย่อยได้  ปัจจุบันนี้บีบีสามารถย่อยประกายเทพได้และยังไม่สามารถปรับได้  แต่เบรุตทำได้  ในแดนนรกอาวุธประกายเทพมีราคาสูงล้ำอย่างน่าประหลาด!
 “แต่เพราะท่านเบรุตให้อาวุธชิ้นหนึ่งกับบีบีอย่างนี้ ก็หมายความว่าสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา ถ้าข้าฆ่าเขา อย่างนั้นก็เท่ากับล่วงเกินเบรุต  เจ้าควรจะรู้ว่าเบรุตน่ากลัวเพียงไหน”  เอลควินค่อนข้างลังเล
อินนิโกสบถอยู่ในใจ
เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเบรุตน่ากลัวเพียงไหน?  เบรุตซึ่งโดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเป็นคนที่เทพธรรมดาไม่รู้จัก  แต่กลุ่มยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ ยอดฝีมือเร้นกายล้วนแต่รู้จักเขา ถ้าใครต้องการอธิบายคำจำกัดความของเขาก็ต้องใช้คำว่า
โหด!
หลายคนเชื่อว่าในทวีปบลัดริจนอกจากผู้ปกครองทวีปบลัดริจแล้ว ยอดฝีมืออันดับหนึ่งก็คือเบรุต
 “ท่านเอลควิน  ข้ารู้ว่าท่านเบรุตน่ากลัวเพียงไหน  แต่ขนาดคนที่ทรงพลังอย่างมหาเทพก็ยังไม่รู้อดีตหรืออนาคต  ตราบใดที่เราฆ่าบีบีผู้นี้และทำลายศพและหลักฐานทั้งหมด เบรุตจะรู้ได้ยังไงว่าเราทำ?”  อินนิโกรีบพูด  “ถ้าท่านกลัวว่าอาวุธประกายเทพนี้อันตรายเกินไปที่จะรักษาเอาไว้ เสี่ยงต่อการถูกเบรุตค้นพบ อย่างนั้นท่านสามารถเอาไปขายที่ปราสาททรายดำได้  ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนฆ่า  อาวุธประกายเทพนี้ราคาสูงล้ำอย่างน่าทึ่ง

9 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

WingF กล่าวว่า...

หาเรื่องและ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มีแต่ตัวโลภๆ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

อยากตายมากใช่ไหม 555

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น