วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Panlong เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 14 รอนแรมยี่สิบปี


เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 14 รอนแรมยี่สิบปี
 “โอว,, เป็นพวกเจ้าเองหรือ?  พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่?  ข้านึกว่าพวกเจ้าทั้งเจ็ดจากไปแล้วเสียอีก!  พวกเจ้ากลับมาได้ยังไง?”  บีบีจงใจหันหน้าหนีไปอีกด้านหนึ่ง  และแกล้งทำหน้าประหลาดใจ  ทันทีนั้นแอ็ชและอสูรทั้งเจ็ดรู้สึกค่อนข้างละอายใจ

แม้ว่าในสถานการณ์แบบนั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่าพวกเขาต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยของตนเอง ถ้าพวกเขาแค่จากไปจริงๆ นั่นก็คงเป็นเรื่องหนึ่ง
แต่ตอนนี้ที่พวกเขากลับมาเล่า?  เป็นเรื่องที่ค่อนข้างอึดอัดใจ
อย่างไรก็ตามในทะเลสตาร์มิสท์ที่ซึ่งมีโจรอยู่ในทุกที่ เนื่องจากพลังของพวกเขายังเป็นระดับเทพแท้  พวกเขาจะไปถึงทวีปบลัดริจอย่างปลอดภัยได้ยังไง?  ถ้าเพียงแต่พึ่งพาอาศัยการป้องกันของลินลี่ย์และเบสพวกเขาจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้  แม้ว่าการอาศัยความช่วยเหลือจากกลุ่มของลินลี่ย์จะค่อนข้างน่าอึดอัดก็ตาม  เนื่องจากทางเลือกอื่นมีแต่จะทำให้พวกเขาสูญเสียชีวิต พวกเขาจำใจต้องทำ
แอ็ชหัวเราะเบาๆ จากนั้นรีบกล่าว “บีบี, เรา...”
 “โอว, ข้ารู้” บีบีทำสีหน้ารู้ทันในทันที “แอ็ช, เดิมทีเจ้ายืมอสูรโลหะของเบส  ตอนนี้อสูรโลหะของเบสก็ถูกเจ้าแกนมอร์ตินทำลายอีก ตอนนี้แสดงว่าเจ้ากลับมาจ่ายค่าชดเชยอสูรโลหะให้เขาใช่ไหม?”
 “อสูรโลหะ?”  แอ็ชอึดอัดใจ
เบสตาทอประกาย  ตอนนี้เขาจำได้ว่าอสูรโลหะของเขาถูกทำลายไป และเขาหัวเราะทันที  “ใช่แล้ว ข้าตกลงทำตามคำขอใช้อสูรโลหะของเจ้าและให้ทุกคนได้ใช้โดยสาร  ตอนนี้มันถูกทำลายไปแล้ว  แอ็ช!  เจ้าต้องจ่ายค่าชดเชยให้ข้า!  อสูรโลหะของข้าเป็นของระดับสูงราคาสิบแปดล้านศิลาดำ!
 “สิบแปดล้านศิลาดำ?” แอ็ชตาเหลือก
 “อะไร, เจ้าจะไม่จ่ายให้หรือ?”  หน้าของเบสคนเคราดกแข็งกระด้างทันที  ขณะที่เขาตั้งท่าเตรียมโจมตีใส่แอ็ช
แอ็ชรีบตอบ “ท่านเบส ไม่ต้องกังวล  ข้าจะจ่ายชดเชยให้ท่าน ข้าจะชดเชยให้ท่านแน่นอน ตกลงไหม?”
 “นั่นค่อยเข้าท่าหน่อย”  เบสหัวเราะอย่างพอใจ  อสูรโลหะของเขาความจริงราคาเพียงแปดล้านศิลาดำ  ตอนนี้พอถูกทำลายไปเขากลับทำกำไรได้อีกสิบล้านศิลาดำ
แอ็ชรู้สึกโล่งใจ  เขาไปตอแยใครเข้ากันนี่ ถึงได้มีเรื่องหายนะเกิดขึ้นกับการเดินทางในทะเลสตาร์มิสท์ครั้งนี้
 “ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นอีกสองสามครั้ง ธุรกิจทั้งหมดในเที่ยวนี้คงไม่ได้อะไรกลับมาเลย”  แอ็ชถอนหายใจอย่างจนใจ  ความจริงมูลค่าสินค้าซึ่งแอ็ชนำมาด้วยค่อนข้างสูง  ถ้าเขาสามารถนำไปยังทวีปบลัดริจได้ เขาจะทำเงินได้ค่อนข้างมาก
โชคร้ายที่ราคาของอสูรโลหะก็สูงด้วยเช่นกัน
 “พวกเจ้าจะมากับเราด้วยไหม?” เสียงหนึ่งดังขึ้น
แอ็ชและเทพอีกเจ็ดคนหันมามอง  คนพูดคือลินลี่ย์  เบสก็มองดูเขาจากนั้นหัวเราะเบาๆ “แอ็ช, ถ้าเจ้าจะเดินทางกับเรา ก็ต้องดูว่าลินลี่ย์เห็นด้วยหรือไม่  ข้าไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจตรงนี้  ขึ้นอยู่กับลินลี่ย์”
แอ็ชและพวกอสูรอีกเจ็ดทุกคนรู้ดีว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้ก็คือลินลี่ย์!
 “ท่านลินลี่ย์, เรา...”  แอ็ชหัวเราะทันที
 “ถ้าเจ้าต้องการเดินทางด้วยกับเรา ก็ย่อมได้อยู่แล้ว”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็นขณะพูด  เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้  แอ็ชและอสูรอื่นๆ ระบายลมหายใจโล่งอก  ลินลี่ย์เมื่อเห็นสถานการณ์แล้วอดหัวเราะไม่ได้  “อย่างไรก็ตาม ข้าต้องเตือนพวกเจ้าไว้ก่อนว่า แม้ว่าข้าจะฆ่าแกนมอร์ตินได้ แต่เขายังมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์อีกร่างเหลืออยู่  ที่สำคัญยิ่งกว่ายังมีคนที่น่ากลัวหนุนหลังเขาอยู่  และนั่นเป็นสุดยอดฝีมือที่อาจจะมาตามหาข้าก็ได้”
 “สุดยอดฝีมือ?”  แอ็ชและพวกที่เหลือทั้งเจ็ดอดมองหน้ากันเองไม่ได้
บีบีที่อยู่ใกล้ๆ ต้องการขู่พวกเขา จึงพูดเสริม “แกนมอร์ตินผู้นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าสุดยอดฝีมือผู้นั้น ถ้าพวกเจ้าคิดดูดีๆ พวกเจ้าอาจได้ข้อสรุป..ว่า ยอดฝีมือนั้นน่าจะเป็นระดับเดียวกับเทพอสูร
 “เทพอสูร!  แอ็ช ไทม์ วิลเบิร์นและคนอื่นๆ รู้สึกใจสั่นสะท้าน  สำหรับพวกเทพแท้ เทพอสูรเป็นนักสู้ไร้ต่อต้านที่อยู่เหนือพวกเขา
บุรุษผมเขียวที่ชื่อไทม์รีบกล่าวขึ้นอย่างขลาดๆ “ท่านลินลี่ย์ก็ทรงพลังมากยังจะรับมือยอดฝีมือนั้นได้หรือไม่?”  แอ็ชและคนอื่นมองลินลี่ย์ทันที
 “ข้าไม่มีความมั่นใจว่าจะทำเช่นนั้นได้แม้แต่น้อย”  ลินลี่ย์ปฏิเสธ  “ทุกคน! ตัดสินใจกันเอาเอง
แอ็ชและอสูรอีกเจ็ดคนมองหน้ากันเอง
 “เรายังจะติดตามท่านลินลี่ย์”  ในที่สุดทั้งเจ็ดคนก็ตัดสินใจ  ถ้าทั้งเจ็ดคนท่องเที่ยวเดินทางในทะเลสตาร์มิสท์  อาศัยพลังของพวกเขาเอง ไม่มีทางที่พวกเขาจะไปถึงทวีปบลัดริจได้อย่างปลอดภัย  การติดตามลินลี่ย์  พวกเขายังปลอดภัยมากกว่า
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้
 “ถ้าข้าสามารถปกป้องพวกเจ้าได้  ข้าจะทำ  แต่ถ้าข้าไม่สามารถทำได้  อย่างนั้นพวกเจ้าต้องพึ่งพาตัวเอง”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ดีละ  ออกเดินทางต่อเถอะ!  ลินลี่ย์โบกมือ และอสูรโลหะปรากฏอยู่บนผิวทะเลสตาร์มิสท์
ลินลี่ย์รู้ดีว่าแอ็ชไม่มีอสูรโลหะอีกต่อไปแล้ว
ตั้งแต่พวกเขารู้ว่าเบื้องหลังของแกนมอร์ตินยังมีแม่ทัพนี้  กลุ่มของลินลี่ย์คิดค้นวิธีที่จะทำให้พวกเขาไม่สามารถหาตัวได้พบ ก่อนอื่นลินลี่ย์ทำลายแหวนมิติเก็บของและแม้แต่สมบัติเทพ  จากนั้นใช้เส้นทางอ้อมขณะพวกเขามุ่งหน้าสู่ทวีปบลัดริจ
ทะเลสตาร์มิสท์กว้างใหญ่ไพศาล  แม้แต่ยอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุดก็ยังยากจะตามหาใครบางคนในทะเลสตาร์มิสท์ได้พบ
ตอนแรกกลุ่มของลินลี่ย์กังวลกันมาก  แต่หลังจากเดินทางได้ปีหนึ่งโดยไม่เผชิญกับอันตรายใดๆ ทุกคนจึงผ่อนคลาย
ทะเลสตาร์มิสท์มองไม่เห็นฝั่งระหว่างที่เดินทางอย่างเงียบสงบ  เวลาผ่านไปถึงยี่สิบปีนับแต่เผชิญกับแกนมอร์ติน
 “ครืน....” คลื่นทะเลม้วนตัวซัดสาด
อสูรโลหะกำลังแล่นฝ่าคลื่น มีลินลี่ย์นั่งอยู่ด้านนอกที่หัวเรือจ้องมองดูคลื่น
 “ยี่สิบปีแล้ว!” ลินลี่ย์จิบเหล้าในขวด “ในแดนนรก เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว แค่เดินทางอย่างเดียวในทะเลสตาร์มิสท์ก็ใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี  ตอนนี้เรายังไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง”
ระหว่างเวลายี่สิบปีนี้ ตอนแรกลินลี่ย์กังวลว่าจะเผชิญกับแม่ทัพผู้นั้น
แต่ขณะที่เวลาผ่านไป ลินลี่ย์ผ่อนคลาย หลังจากเดินทางยี่สิบปีมีแนวโน้มว่าจะเป็นเรื่องยากมากที่แม่ทัพผู้นั้นจะกำหนดตำแหน่งทิศทางของพวกเขาได้  ที่สำคัญแม้แต่เทพชั้นสูงระดับพารากอน (สุดยอดฝีมือของเทพชั้นสูงเหนือกว่าเทพอสูร) ก็ไม่ได้มีสำนึกเทพยิ่งใหญ่ไปกว่าเทพชั้นสูงธรรมดามากนัก
แล้วพวกเขาจะหาลินลี่ย์พบได้ยังไง?
 “พี่ใหญ่” ทันใดนั้นบีบีออกมาจากห้องเรือ  หน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น  “พี่ใหญ่ ในห้องเรือพวกเขากำลังคุยกันถึงเกาะที่มีชื่อเสียงมากซึ่งเรากำลังจะไปถึง  ดูเหมือนจะชื่อว่าเกาะมิลัวร์!” ระหว่างเดินทางนี้ กลุ่มของลินลี่ย์หยุดแวะเมืองมาก่อนแล้วสองสามเมือง
ในทะเลสตาร์มิสท์ที่กว้างใหญ่มีเกาะอยู่หลายเกาะ  และพวกเขาแบ่งการปกครองออกเป็นสิบแคว้นเช่นกัน  แต่ละแคว้นจะมีสิบเมือง ซึ่งสร้างขึ้นบนเกาะต่างๆ
เกาะของทะเลสตาร์มิสท์มีพื้นที่เส้นรอบเกาะหมื่นกิโลเมตร  ยิ่งเป็นเกาะใหญ่ๆ อาจมีเส้นรอบวงพื้นที่เกาะถึงล้านกิโลเมตร  ใหญ่กว่าทวีปยูลานบ้านเกิดของลินลี่ย์มากมายนัก  นี่ยิ่งกว่าเพียงพอให้สร้างเมืองได้เมืองหนึ่ง
 “เกาะมิลัวร์?”  ลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้
 “พวกเขาพูดกันว่าเกาะมิลัวร์พัฒนามากและมีกิจการค้ารุ่งเรือง มีแม้กระทั่งเวทีประลองฝีมือนักสู้บนเกาะมิลัวร์ ข้าได้ยินมาเช่นกัน”  บีบีค่อนข้างสับสนกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามลินลี่ย์จำได้ว่าในหนังสือที่อธิบายภูมิศาสตร์ของแดนนรกมีคำอธิบายของเกาะมิลัวร์ไว้ค่อนข้างน่าสนใจ
เกามิลัวร์เป็นเกาะขนาดใหญ่กินพื้นที่เส้นรอบเกาะหลายแสนกิโลเมตร และอยู่ภายในแคว้นซิลเวอร์บลูของทะเลสตาร์มิสท์
เกาะมิลัวร์เป็นสถานที่คึกคักมีผู้คนจำนวนมากแวะผ่านไปมา  ในทุกๆ วันพ่อค้าและนักรบจะรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ระดับของกิจกรรมไม่ได้ต่ำกว่าสิบเมืองใหญ่ของแคว้นซิลเวอร์บลูเลย
นี่คือสิ่งที่น่างงงวยมากจริงๆ  เกาะที่เทียบได้กับสิบเมืองใหญ่ของแคว้นซิลเวอร์บลูหรือ?
 “เฮ้, ลินลี่ย์ พวกเจ้ากำลังคุยเรื่องอะไรกัน?”  เบสเดินมาสมทบที่หน้าเรือด้วยเช่นกัน
 “กำลังคุยเรื่องเกาะมิลัวร์”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างสงบ
 “เกาะมิลัวร์?” เบสถอนหายใจ  “นี่เป็นสถานที่พิเศษจริงๆ  ไม่ได้อยู่ภายใต้อารักขาของกองทัพสตาร์มิสท์ ทั้งไม่ได้อยู่ในการปกป้องของทหารประจำแคว้น  แต่กลับคึกคักได้พอๆ กับเมืองใหญ่ ได้  ภายในเกาะมีปราสาทอิสระซึ่งยอมให้พวกพ่อค้าร่วมทำการค้าขาย”
กองทัพสตาร์มิสท์เทียบได้กับกองทัพเรดบุด   นั่นคือกองทัพแห่งทะเลสตาร์มิสท์
 “เกาะมิลัวร์มีทหารซึ่งแข็งแกร่งมากซึ่งภายในซึ่งปกป้องคุ้มครองตามกฎหมายของเกาะ”  เบสถอนหายใจชื่นชม  “ทหารของกองทัพนี้ล้วนแต่เป็นเทพชั้นสูงและโดดเด่นกันทุกคน  ในหลายปีมานี้เกาะมิลัวร์ไม่เคยตกต่ำเลย
ลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้
แต่ละแคว้นมีเพียงสิบเมือง  แต่เกาะมิลัวร์นี้สามารถดึงดูดพ่อค้ามากมายให้เข้ามาและสามารถคงอยู่ได้มานานหลายปี  นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดจริงๆ
 “เกาะมิลัวร์มีสถานที่สำคัญมีชื่อเสียงอยู่ในนี้  หนึ่งนั้นก็คือปราสาทเสรี  ขณะที่อีกที่หนึ่งก็คือ สนามประลองยุทธ  ภายในปราสาทเสรี ไม่อนุญาตให้มีการต่อสู้ใดๆ ทั้งสิ้น  ถ้าถูกพบว่ามีการต่อสู้ใดๆ เกิดขึ้นทหารของเกาะมิลัวร์จะปรากฏตัวและไม่แสดงความเมตตาแต่อย่างใด!  ภายในสนามประลอง ผู้เข้าชมไม่ได้รับอนุญาตให้สู้กันเอง ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนจะถูกทหารล้อมสังหาร!
ตาของเบสเต็มไปด้วยความทึ่งและตื่นเต้น  “เกาะมิลัวร์ทรงพลังอำนาจมาก  จนถึงเดี๋ยวนี้ไม่มีผู้ใดกล้าท้าทาย”
 “พ่อค้ามากมายค้าขายอยู่ที่นั่นหรือ?  เป็นไปได้หรือที่ไม่มีใครกล้าปล้นกล้าขโมยที่นั่น?” บีบีแค่นเสียง  “ข้าขอปฏิเสธที่จะเชื่อ  คนธรรมดาไม่กล้าปล้นพ่อค้า  แต่เป็นไปได้หรือว่าทหารประจำแคว้นจะกลัว?  ตัวอย่างเช่น กองทัพสตาร์มิสท์?”  กองทัพสตาร์มิสท์คือกองทัพของมหาเทพ
เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะไม่มาจัดการกับเกาะมิลัวร์?
 “ข้าไม่แน่ใจเรื่องนั้น” เบสส่ายศีรษะ
 “เกาะมิลัวร์คงอยู่มานานหลายร้อยล้านปีแล้ว  ต้องมีเหตุผลพิเศษสำหรับเรื่องนี้แน่”  ลินลี่ย์มีข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเกาะมิลัวร์  อย่างไรก็ตาม นั่นก็ยังเป็นความคิดทั่วไป จากตรงนี้แม้แต่ลินลี่ย์ก็สามารถกำหนดได้ว่า บางคนที่สามารถสร้างกองทัพขึ้นเทียบกับเทพชั้นสูงขณะที่สร้างพื้นที่การค้าอยู่นอกเมืองเช่นกัน ก็ต้องเป็นคนที่มีพลังอำนาจสูงส่งแน่นอน
 “เบื้องหลังเกาะมิลัวร์ต้องมีกองกำลังที่ทรงพลังอำนาจอย่างน่าประหลาดแน่”  ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง
 “เฮ้,  ข้าเพิ่งได้ยินเจ้าพูดว่าในอีกสามวัน เราจะไปถึงเกาะมิลัวร์ไม่ใช่หรือ?” บีบีถามทันที
เบสพยักหน้าและหัวเราะ  “ใช่แล้ว อีกสามวันกว่า เกาะมิลัวร์น่าดึงดูดและน่าสนใจ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามต่อสู้  นั่นเป็นสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงโดยเฉพาะ  การต่อสู้ที่นั่นรวมเอายอดฝีมือไว้โดยเฉพาะ น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
ลินลี่ย์อดรู้สึกคาดหวังในใจไม่ได้
เกาะมิลัวร์ เกาะอิสระปกครองตนเองในทะเลสตาร์มิสท์  ไม่มีทหารประจำแคว้นของกองทัพสตาร์มิสท์ และที่นี่ยังเป็นเกาะที่คึกคักพลุกพล่าน
สามวันต่อมา
 “มีกิจกรรมมากมายเหลือเกิน!  เมื่อเห็นเกาะขนาดใหญ่จากที่ไกล  กลุ่มของลินลี่ย์ตกใจ  เมื่อได้เห็นทางเข้าเกาะของเกาะมิลัวร์  พวกเขาเห็นอสูรโลหะมากมายนับไม่ถ้วนมุ่งหน้าไปทางตำแหน่งนั้น
 “ทุกๆ เวลาจะมีอสูรโลหะมาถึงจำนวนมาก”  ลินลี่ย์อดทอดถอนใจทึ่งมิได้  “แต่ละวันมีผู้คนมาถึงเกาะมิลัวร์แห่งนี่มากมายเท่าใดกัน?  ช่างยากเข้าใจจริงๆ  กิจกรรมมากมายของเกาะมิลัวร์นี้ไม่ด้อยไปกว่าเกาะอื่นเลย”
ในการเดินทางครั้งนี้ ลินลี่ย์พบเห็นเมืองมาหลายแห่ง
ระดับการดำเนินกิจการของพวกเขาใกล้เคียงกับเกาะมิลัวร์นี้
 “พี่ใหญ่ ไปกันเถอะ ไปดูเกาะมิลัวร์นี้กันเถอะ!  เมื่ออสูรโลหะเข้าไปใกล้เกาะและหยุดที่ตำแหน่งเข้า   บีบีตื่นเต้นและโดดออกไปก่อนทันที
ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเกาะมิลัวร์  กลุ่มของลินลี่ย์ลงและเดินเข้าไปในเกาะมิลัวร์ในตำนานนี้

10 ความคิดเห็น:

ชัชวาลย์ บุญฉาย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

kingkopbra กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

blendzil กล่าวว่า...

ไกล้แล้ว ลิลลี้ไกล้ได้โชว์เทพตบทัพแล้ว 55555

Añu-y กล่าวว่า...

ขอบคุนครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น