เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 25 ผู้อาวุโสชุดแดง
จะเลือกทางไหน?
ลินลี่ย์ย่นหน้าผากเล็กน้อย
ทั้งสองทางนี้ไม่ใช่เส้นทางที่ดี ทางแรกไม่ต้องพูดถึง
สำหรับตระกูลแบ็คชอว์สามารถรักษาเกาะมิลัวร์ในแดนนรกมาได้เป็นเวลานานปีนับไม่ถ้วนก็หมายความว่ารากฐานอำนาจของตระกูลเก่าแก่นี้อยู่เหนือที่เขาคาดหมายแน่นอน การฆ่าลินลี่ย์ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป!
ทางเลือกที่สอง เป็นผู้อาวุโสชุดแดงหมื่นปี?
สำหรับยอดฝีมือธรรมดา หมื่นปีไม่ถือว่ามาก
แต่สำหรับเขาเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเกินไป
ตั้งแต่เกิดจนถึงบัดนี้ เขามีชีวิตยาวนานยังไม่ถึงพันปี
“ลินลี่ย์! เจ้ายังไม่ตัดสินใจอีกหรือ?” แบ็ควิลเริ่มโกรธ
เขาเชื่อว่าเงื่อนไขที่เขาเสนอเป็นสองทางเลือกนับว่าดีมากพอแล้ว
ก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ หมื่นปี สำหรับสุดยอดฝีมือ พวกเขาอาจใช้เวลาในการฝึกฝนรวดเดียว
“หมื่นปียาวนานเกินไป ข้ายังต้องไปทวีปบลัดริจเพื่อทำธุระอีก” ลินลี่ย์ตอบผ่านสำนึกเทพ
หน้าของแบ็ควิลค่อยมีรอยยิ้มทันที
หมื่นปี ร้อยปี
สำหรับยอดฝีมือระดับเดียวกับแบ็ควิลไม่มีความต่างกันมากนัก ถ้าเขาต้องการลงโทษลินลี่ย์
เขาคงไม่พูดหมื่นปีแน่ แต่คงจะเป็นเวลาร้อยล้านปี! ที่สำคัญก็คือสุดยอดฝีมืออย่างพวกเขา
จะร้อยปีหรือหมื่นปีก็ไม่ถือว่าเป็นเวลายาวนานจริงๆ
“นั่นต่อรองกันได้ง่ายอยู่แล้ว ลินลี่ย์!
เนื่องจากเจ้ายินยอมเป็นผู้อาวุโสชุดแดงของตระกูลข้า ตระกูลแบ็คชอว์ของข้าก็จะไม่บีบคั้นเกินเลยไป เมื่อเป็นอย่างนี้ไม่ว่ายังไง
ก็ต้องถือว่าเจ้าแสดงความจริงใจในการขอโทษแล้ว งั้นก็เอาตามที่ว่านี้ ร้อยปี” แบ็ควิลกล่าว
ความจริงแบ็ควิลก็ไม่ต้องการสูญเสียหยดพลังมหาเทพเหมือนกัน
ทั้งเขาก็ไม่ต้องการสูญเสียยอดฝีมือของตระกูลไปด้วยเช่นกัน ถ้าเขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ เขาจะทำ ตราบเท่าที่ลินลี่ย์ยอมเห็นแก่หน้าของตระกูลของเขา
แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
แต่แน่นอน นี่ยังคงเป็นเพราะพลังของลินลี่ย์ยิ่งใหญ่เกินไป
ถ้าเป็นคนอื่น
ต่อให้เป็นอสูรเจ็ดดาวแต่ไม่มีพลังมหาเทพ
แบ็ควิลคงจะออกคำสั่งให้ฆ่าไปแล้ว
“ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้ นี่เป็นเพียงทางเลือกเดียว” ลินลี่ย์เข้าใจดี
แม้ว่าเขาจะมีหยดพลังมหาเทพสองหยดก็ตาม
แต่ตระกูลแบ็คชอว์ก็มีหยดพลังมหาเทพเช่นกัน
ถ้าพวกเขาฉีกหน้าบุ่มบ่ามลงมือสู้กันอย่างดุเดือด การใช้หยดพลังมหาเทพทั้งสองมีความสำคัญน้อยลงไป แต่การพาเดเลียและบีบีและคนอื่นๆ
ออกไปอย่างปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญกว่า
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายถอยให้กันคนละก้าว
เขาอาจจะอยู่เป็นเวลาร้อยปีก็ได้
เมื่อทำเช่นนั้นไม่เพียงแต่เขาจะรักษาหยดพลังมหาเทพทั้งสองไว้ได้เท่านั้น แต่เขายังปกป้องเดเลียและคนอื่นไว้ได้เช่นกัน
“ข้ายอมรับ”
ลินลี่ย์พยักหน้า
แบ็ควิลหัวเราะทันที
“ลินลี่ย์! งั้นตามเรามา” แบ็ควิลพูดผ่านสำนึกเทพ
ลินลี่ย์พยักหน้า จากนั้นบอกบีบีและเดเลียผ่านสำนึกเทพ
“บีบี เดเลีย โอลิเวอร์... พวกเจ้าทุกคนตามข้ามา”
แม้ว่าบีบีและเดเลียจะเต็มไปด้วยความสงสัย
แต่พวกเขาก็ยังคงบินตาม
“กลับได้!” แบ็ควิลออกคำสั่งชัดเจนทันที
และจากนั้นแบ็ควิล ผู้อาวุโสชุดแดงทั้งสาม ไซเคิล
ลินลี่ย์และคนอื่นพากันบินไปทางเกาะด้านตะวันตก พร้อมกับนักรบเกราะดำร้อยคน
ขณะที่ทหารประจำเกาะทั้งหมื่นที่อยู่เต็มท้องฟ้าต่างงงงวยอย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น
แต่ผู้สังเกตการณ์อีกนับไม่ถ้วนที่แหงนหน้ารอดูการต่อสู้บนเกาะมิลัวร์ต่างก็สงสัยเช่นกัน
ทำไมท่านผู้นั้นจากไปพร้อมกับคนของตระกูลแบ็คชอว์?
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เมื่อครู่นี้พวกเขายังสู้กันแทบเป็นแทบตาย
ทำไมยอดฝีมือมนุษย์มังกรถึงจากไปพร้อมกับคนของเกาะมิลัวร์?”
“มันน่าสงสัยว่าเป็นเพราะเขากลัวคนของเกาะมิลัวร์หรือ?
นานนับปีไม่ถ้วนแล้วที่ไม่มีใครกล้าต่อต้านเกาะมิลัวร์”
“ข้าไม่เห็นด้วย
เป็นไปได้ว่าท่านมนุษย์มังกรนั้นคงกังวลถึงสหายของเขามากกว่า”
คนภายนอกจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนทั่วทั้งเกาะมิลัวร์ต่างพูดคุยสนทนาถึงการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าไม่พูดถึงพลังของลินลี่ย์ ก็คาดเดากันว่าทำไมลินลี่ย์ถึงได้จากไปกับพวกเขา อย่างไรก็ตามมีข้อหนึ่งที่ไม่ต้องถาม
แต่ทุกคนก็เห็นด้วย...
มนุษย์มังกรนั้นแข็งแกร่งทรงพลังมาก
เขาสามารถเตะยอดฝีมือชุดแดงจนปลิวกระเด็น
และควบคุมเทพชั้นสูงมากมายเหมือนกับเป็นของเล่นในฝ่ามือ
“ยอดฝีมือมีทั่วไปเหมือนเมฆบนท้องฟ้า
ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องยอมรับคำเชิญของตระกูลแบ็คชอว์เสียแล้ว แล้วคอยดูกัน...
ตระกูลแบ็คชอว์จะมียอดฝีมือแบบไหน!” โรมิโอ บอร์นเซนเงยหน้ามอง
ขณะที่เห็นลินลี่ย์และคนอื่นหายลับไปทางขอบฟ้าตะวันตก
และจากนั้น เขาหมุนตัวหายลับไปในกลุ่มผู้คน ขณะที่คนรอบตัวเขายังคงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
ขณะที่บินไปทางเกาะด้านตะวันตกและมุ่งสู่พื้นที่อยู่ของตระกูลแบ็คชอว์ โอลิเวอร์ โอเบรียน และซีซาร์ทุกคนใช้สำนึกเทพคุยกับลินลี่ย์เงียบๆ พวกเขามีคำถามอยู่เต็มอก
“ลินลี่ย์! เจ้าสัญญาอะไรกับตระกูลแบ็คชอว์ไว้หรือ?” ซีซาร์รีบถาม
ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขา
“พี่ใหญ่!
ตระกูลแบ็คชอว์นั่นต้องการจะทำอะไรกับเรา?” บีบีถาม
“ลินลี่ย์! เจ้าเป็นเทพชั้นสูงหรือเทพแท้กันแน่?”
โอเบรียนถาม
คำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าระดมถามมาจากหลายคนทำให้ลินลี่ย์ไม่รู้จะตอบยังไง
“พลังของข้า จะยังไม่อธิบายในตอนนี้ก่อน ในอนาคตข้าจะอธิบายอย่างละเอียด พวกท่านแค่ถือเสียว่าข้าเป็นอสูรหกดาว” ลินลี่ย์ตอบโอเบรียน อสูรหกดาวเป็นเพียงพลังระดับหนึ่ง
ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องเป็นเทพชั้นสูง
“บีบี เดเลีย
พวกเขาต้องการให้ข้าเป็นผู้อาวุโสชุดแดงเป็นเวลาร้อยปี ดีที่สุดแล้วเราควรจะยอมถอยกันคนละก้าว” ลินลี่ย์ตอบ
ถึงตอนนี้เดเลียโล่งใจขึ้นมาก เดเลียไม่ได้รีบร้อนจะไปแคว้นอินดิโกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นางต้องการให้ลินลี่ย์ไม่พาตัวเองตกอยู่ในอันตรายมากเกินไป
การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เกือบจะเกิดขึ้นอยู่แล้วทำให้นางกลัวมากจนหัวใจแทบจะกระดอนมาถึงลำคอ
โชคดีที่ช่วงเวลาอันตรายผ่านพ้นไปแล้ว
ตระกูลแบ็คชอว์ครอบครองพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
อาคารและคฤหาสน์หลากหลายรูปแบบกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
“ลินลี่ย์! จากวันนี้เป็นต้นไป
เจ้าอยู่ในที่ดินนี้ได้” แบ็ควิลหัวเราะอย่างใจเย็น “เราตกลงว่าเจ้ารั้งอยู่เป็นเวลาร้อยปี ถ้าแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ร้อยปี
ไม่จำเป็นที่เจ้าต้องทำการสาบานอะไรเป็นพิเศษ”
แค่เพียงโบกมือแบ็ควิลนำชุดยาวสีแดงและตราสีเขียวออกมา
“นี่คือเครื่องแบบสำหรับผู้อาวุโสชุดแดง
พลังป้องกันของชุดเครื่องแบบนี้เทียบเท่ากับสมบัติเทพชั้นสูง ส่วนตรานี้คือ ‘ประกาศิตมิลัวร์เขียว’ ในเกาะมิลัวร์ เมื่อเจ้าใช้ตรานี้เจ้าสามารถระดับกำลังทหารได้ร้อยนาย” แบ็ควิลยิ้มขณะกล่าว
ลินลี่ย์ยิ้มและรับไว้ทันที
“ท่านแบ็ควิลไม่ต้องกังวล
ภายในช่วงร้อยปีนี้
ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
ข้าจะไม่จากไปโดยพลการแน่นอน” ลินลี่ย์กล่าว
แบ็ควิลหัวเราะและพยักหน้า
“ข้าเชื่อคำพูดที่เปล่งออกมาจากปากของลูกหลานตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” แบ็ควิลรู้ดีว่าตระกูลใหญ่ๆ
อย่างเช่นตระกูลของพวกเขาและตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดจะมีพลังมหาเทพและมอบให้สมาชิกตระกูลผู้มีสถานะสูงส่งมาก
เมื่อเขาได้เห็น
ลินลี่ย์สามารถได้รับหยดพลังมหาเทพได้ก็หมายความว่าแม้แต่ในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
มีแนวโน้มว่าเขาอาจเป็นระดับผู้อาวุโสคนหนึ่ง
คำพูดของคนอย่างลินลี่ย์มีคุณค่าเชื่อถือได้
ถ้าเขาต้องสาบานต้องรั้งอยู่ร้อยปี นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าตลกอย่างแท้จริง
“ท่านแบ็ควิล!
ปกติแล้วข้าจะต้องทำอะไรบ้าง?”
ลินลี่ย์ถาม
“ไม่มีอะไรมาก
เพียงแต่เมื่อเกิดปัญหาใหญ่เราค่อยขอให้ผู้อาวุโสชุดแดงช่วยรับมือ ตัวอย่างเช่นวันนี้!” แบ็ควิลหยอกล้อ “แต่แน่นอน
ในฐานะเป็นผู้อาวุโสชุดแดงก็ย่อมได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน ในอนาคต
เจ้าสามารถเข้าไปในพื้นที่ลับด้านตะวันตกนี้เพื่อชมดูได้”
“พื้นที่ลับในเกาะส่วนตะวันตกหรือ?”
ลินลี่ย์ได้ยินคนอื่นพูดถึงสถานที่นี้มานานแล้ว
ดูเหมือนว่าผู้ชนะร้อยศึกจากสนามต่อสู้จะสามารถเข้าไปชมดูได้ ลินลี่ย์ก็ต้องการถามข้อสงสัยเกี่ยวกับพื้นที่ลับนี้มากขึ้น แต่ว่าแบ็ควิลหัวเราะและกล่าว “ลินลี่ย์! ตอนนี้ข้าต้องไปก่อน ถ้ามีอะไรที่เจ้าอยากคุยด้วย ว่างเมื่อไหร่เจ้ามาหาข้าได้”
ลินลี่ย์ไม่สบายใจหากจะติดตามเขาด้วยความสงสัย
ดังนั้นมองดูขณะที่แบ็ควิล ไซเคิลและผู้อาวุโสทั้งสามจากไป
………………
“แอ๊ดดดดด” ประตูปิดลง
ในโถงใหญ่ เหลือแต่เพียงแบ็ควิลและไซเคิล
“ท่านพ่อ!
ท่านจะปล่อยให้ลินลี่ย์มีชีวิตสะดวกสบายไปร้อยปีหรือ? นี่จะปล่อยเขาไปง่ายๆ
อย่างนี้
คนของเราถูกเขาฆ่าไปมากมายเท่าใดแล้ว!”
อารมณ์โกรธที่ไซเคิลข่มมานานพลันเดือดขึ้นอีกครั้ง
“ฮึ!”
เสียงแค่นเย็นชาครั้งเดียว
แต่ก็ทำให้หัวใจของไซเคิลเหมือนถูกค้อนหวด
ไซเคิลชะงักคำพูดทันที
แบ็ควิลหันไปจ้องไซเคิลอย่างเย็นชา “เรื่องนี้
ถ้าเราไล่เรียงไปจนถึงต้นเหตุก็เป็นเพราะนางแพศยานั่นกับซีซาร์ นางก็เป็นแค่ผู้หญิงคนเดียว เป็นไปได้หรือว่าแค่เพียงนางแพศยาของเจ้า
ตระกูลแบ็คชอว์ของข้าจะต้องสูญเสียยอดฝีมือระดับอสูรเจ็ดดาวไปหลายคนและยังอาจเสียหยดพลังมหาเทพไปอีกหยดหรือสองหยด
พร้อมกับล่วงเกินตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ด้วยหรือ? มันคุ้มกันไหม?”
การฆ่าลินลี่ย์?
พวกเขาสามารถทำเช่นนั้นได้
แต่ราคาที่ต้องเสียนั้น มากมายเกินไป
“ก็แค่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” ไซเคิลพึมพำ
“ฮึ่ม.. มังกรยักษ์
ต่อให้อดอยากเจียนตาย มันก็ยังเป็นมังกรยักษ์อยู่ดี แม้ว่าเทียบกับหมื่นปีที่แล้ว
ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนแปลงไปมากและพลังอำนาจของพวกเขาลดลงก็ตาม
อย่างไรเสีย...ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ก็ยังเคยครองความยิ่งใหญ่ในแดนนรกมานานนับปีไม่ถ้วน รากฐานของพวกเขายังฝังลึกมาก”
แบ็ควิลแค่นเสียง
“ตระกูลแบ็คชอว์ของเราแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
ไซเคิลไม่กล้าพูดอีกต่อไป
เกาะมิลัวร์ตะวันตก
เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลแบ็คชอว์
และเป็นที่พักของลินลี่ย์ด้วย
“ผู้อาวุโส!” ในคฤหาสน์
บ่าวรับใช้สองคนแสดงความเคารพลินลี่ย์
ลินลี่ย์ตอนนี้อยู่ในชุดยาวสีแดง
ทหารประจำเกาะทุกคนเมื่อเห็นลินลี่ย์จะแสดงความเคารพนอบน้อมเป็นอย่างดี ลินลี่ย์สั่งทหารประจำเกาะที่อยู่ใกล้ๆ “ไปที่บ้านเลขที่ 306
ในเขตบ้านพักของทหารประจำเกาะ
พาทารอสและไดลินมาที่นี่”
“ขอรับ ท่านผู้อาวุโส”
ทหารประจำเกาะรับคำด้วยความเคารพ
ลินลี่ย์กลับไปที่ยังคฤหาสน์ของเขา ตอนนี้เดเลีย บีบี ซีซาร์
โอเบรียนและโอลิเวอร์อาศัยอยู่ที่นี่ทุกคน
เดินเพียงสามก้าวลินลี่ย์ก็มาถึงสวนหลังคฤหาสน์
โอเบรียน โอลิเวอร์และบีบีกำลังคุยกันอย่างออกรส แต่ซีซาร์อยู่ที่มุมสวนนั่งนิ่งเหมือนกับคนสติไม่อยู่กับตัว
คิดอยู่ว่าใคร รู้อะไรบ้าง
“ลินลี่ย์” เดเลียเดินเข้ามาหาลินลี่ย์จากด้านหลัง
เดเลียยังคงสังเกตซีซาร์จากระยะไกล นางถอนหายใจกล่าว “เป็นไปได้ว่าซีซาร์กำลังคิดถึงเซเซิล”
“คงเป็นอย่างนั้น”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
เป็นไปได้ว่าซีซาร์จำเป็นต้องใช้เวลานานก่อนที่เขาจะสามารถหลุดจากสภาพเช่นนี้ได้
“เฮ้, พี่ใหญ่..ท่านกลับมาแล้ว”
บีบีวิ่งมาหาและรีบพูดแสดงความยินดีสองสามคำทันที “พี่ใหญ่! ข้าต้องขอบอกเลยว่า
ชุดแดงของผู้อาวุโสที่ท่านสวมใส่นี้ดูดีสง่างามมาก”
ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะ
การสนทนาของลินลี่ย์ดึงดูดความสนใจของซีซาร์ให้มองมาทางลินลี่ย์ทันที เขาวิ่งมาหา นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย เขารีบถาม
“ลินลี่ย์,
ข้าอยากจะถามบางอย่างกับเจ้า”
“ซีซาร์, ถ้ามีอะไรที่ท่านอยากพูด ก็พูดมาเถอะ” ลินลี่ย์มีความรู้สึกอยากตอบแทนคุณซีซาร์อยู่ในใจอยู่แล้ว
ซีซาร์พูดอย่างกระวนกระวาย
“เนื่องจากไซเคิลจู่ๆ
ก็มาเล่นงานข้า...ข้ากังวลว่ามีความเป็นไปได้ว่าคงมีความขัดแย้งระหว่างเขากับลิลลี่ มิฉะนั้นไซเคิลจะมาระบายความโกรธเอากับข้าได้ยังไงกัน? ที่สำคัญคือ วันก่อนที่นางจะแต่งงาน
ลิลลี่กับข้าเลิกคบกันอย่างเป็นทางการ
ตั้งแต่วันนั้นข้าไม่เคยพบนางอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
จนถึงตอนนี้ ซีซาร์ก็ยังไม่รู้ว่าเซซิลตั้งท้องกับเขา
“ลินลี่ย์!
ข้าอยากจะขอให้เจ้าช่วยสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับลิลลี่ของข้า” ซีซาร์ขอร้อง
ลินลี่ย์พยักหน้า
“ก็ได้, ไม่ต้องห่วง
ข้าจะช่วยสืบดูอย่างระมัดระวัง”
ลินลี่ย์รู้เรื่องราวระหว่างซีซาร์และเซซิลเพียงเล็กน้อย
ทั้งซีซาร์และเซซิลความจริงต่างก็มีความรักต่อกัน
น่าเสียดายที่คุณชายไซเคิลก็ติดพันเซซิลด้วยเช่นกัน
ตระกูลเกย์ลอร์ดจึงขอให้เซซิลแต่งงานกับไซเคิลทันที
เพื่อเป็นการเอาใจตระกูลแบ็คชอว์!
เซซิลจะขัดขืนคำสั่งของตระกูลนางได้ยังไง?
ดังนั้นนางมีความเจ็บปวดอย่างมากที่ต้องพรากจากซีซาร์ วันหนึ่งก่อนที่นางจะแต่งงาน
นางแข็งใจบอกซีซาร์ว่าพวกเขาจะไม่มีทางพบเจอกันอีก
“อนิจจา, ซีซาร์ช่างโชคร้ายจริงๆ” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
“เกาะมิลัวร์ได้รับการสนับสนุนดูแลโดยห้าตระกูลใหญ่ แต่ในความเป็นจริง ตระกูลที่เป็นใหญ่ก็คือตระกูลแบ็คชอว์ อีกสี่ตระกูลก็เป็นแค่บริวาร
เขาสามารถนึกภาพออกได้เลยว่าเพื่อเป็นการเอาใจไซเคิล
ตระกูลเกลอร์ดคงบังคับเซซิลให้ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
ภายในอุโมงค์ใต้ดิน
ไซเคิลเดินอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชา แต่ละข้างของอุโมงค์จะเป็นห้องขัง
และแต่ละห้องค่อนข้างไม่ธรรมดา
ห้องขังเหล่านั้นถูกสร้างเพื่อใช้กักขังเทพ ในทุกทางเดินจะมีนักรบเกราะดำคอยรักษาการณ์อยูทในทุกระยะสิบเมตร
“แพศยา!”
เมื่อใดก็ตามที่ไซเคิลคิดถึงเรื่องที่เซซิลภรรยาของเขามีลูกคนอื่นอยู่ในท้อง
และวิ่งมาบอกเขาด้วยความตื่นเต้น
เขาก็ยิ่งรู้สึกอับอาย
และในวันนี้เขาไม่สามารถฆ่าซีซาร์ได้เพราะลินลี่ย์ปรากฏตัว
“ลินลี่ย์! เจ้าปรากฏตัวไปทั่วทุกที่” ไซเคิลเกลียดลินลี่ย์อย่างแท้จริง
เขาปรากฏตัวครั้งแรกในปราสาทเสรีและตอนนี้ก็ยังมาปรากฏตัวที่นี่อีก
“ถึงเวลาต้องจัดการแล้ว” ไซเคิลสูดหายใจลึก เซซิลคือความอัปยศของตระกูลของเขา นางไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตต่อไป เมื่อเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ตระกูลแบ็คชอว์มีแต่จะถูกหัวเราะเยาะหยัน
เขามาที่นี่เพื่อ...ฆ่าเซซิล ไม่ใช่เพราะเขาต้องการทำ แต่เพราะบิดาของเขาสั่งต่างหาก!
หลังจากมาถึงห้องขัง
“เปิดประตู”
ไซเคิลพูดอย่างใจเย็น
ขณะเดียวกันเขาแสดงประกาศิตมิลัวร์เลือด
ในท่ามกลางคุกมืด เซซิลหันหน้าซบกับผนัง ผมของนางยาวสยาย เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก
เซซิลอดหันมามองไม่ได้
เมื่อเห็นว่าเป็นไซเคิล
หน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เจ้า..ฆ่าซีซาร์แล้วใช่ไหม?” เซซิลพูดเบาๆ
“ถูกแล้ว
ข้าฆ่าเขาไปแล้ว” ไซเคิลพูดเย็นชา
ขณะที่เขาจ้องมองเซซิลรอคอยท่าทีผิดหวังและสีหน้าคร่ำครวญทรมานของเซซิลอย่างคาดหวัง
และเขาก็ได้สิ่งที่เขาต้องการ!
หน้าของเซซิลซีดขาวทันที
นางหลั่งน้ำตาเงียบๆ
ในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ถูกขังอยู่ที่นี่ นางห่วงซีซาร์ นางรู้ว่าไซเคิลจะต้องตามหาล้างแค้น
และนางรู้ว่าซีซาร์ไม่สามารถต้านทานเขาได้
แต่...นางยังคงมีความหวัง
เมื่อได้ยินคำพูดของไซเคิล ความหวังของนางพังทลาย
“ซีซาร์...”
ใจของเซซิลหวนนึกถึงภาพวันเก่าๆ ที่มีความสุข
คืนวันที่นางได้อยู่ร่วมกับซีซาร์
นางมีความสุขมาก มีอิสระไม่ต้องมีข้อจำกัดของตระกูล นางสามารถใช้ชีวิตตามที่นางต้องการได้ แต่...
แต่ไซเคิลกลับมาติดพันนาง
ดังนั้นชะตาของนางจึงเปลี่ยนไป เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลของนาง นางได้แต่ก้มหน้า แม้หลังจากแต่งเข้าตระกูลแบ็คชอว์แล้ว นางก็ต้องฝืนตัวเองให้ยิ้มอย่างมีความสุขเสมอ
“ไซเคิล!” เซซิลหันศีรษะมาจ้องไซเคิลทันที
ดวงตาของนางแข็งกร้าว
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นสมาชิกตระกูลแบ็คชอว์ เจ้าไม่ต่างอะไรกับสุนัข เจ้ารู้ไหม?
ทุกครั้งที่ข้าหลับนอนกับเจ้า ข้าต้องแกล้งนึกว่าเจ้าคือซีซาร์!”
หน้าของไซเคิลแดงและเขาคำรามด้วยความโกรธ “แพศยา!” พร้อมกับเสียงตวาดด้วยความโกรธ
เขาตบหน้าเซซิลอย่างหนักหน่วง “ปัง!”
ทั่วทั้งร่างเซซิลสั่นเทิ้ม จากนั้นนางค่อยๆ ระทวยลงกับพื้น
ในที่สุดเซซิลก็มีรอยยิ้มประหลาดที่ใบหน้านาง
นางพูดคำเหล่านั้นเพราะนางต้องการตาย
ความตายเป็นการหลีกหนีชนิดหนึ่ง
นางคงไม่มีกำลังฝืนให้ตัวเองทำเป็นมีความสุขอีกต่อไปทุกวัน
ไม่ต้องบังคับตนเองให้เลิกคิดถึงซีซาร์ทุกวัน
“แพศยา แพศยา แพศยา!!!”
หลังจากฆ่าเซซิลแล้ว ความโกรธของไซเคิลก็ยังไม่หมดไป คำพูดสุดท้ายของนางยังคงก้องอยู่ในใจเขา
“เจ้ารู้ไหม?
ทุกครั้งที่ข้าหลับนอนกับเจ้า ข้าต้องแกล้งนึกว่าเจ้าคือซีซาร์!”

9 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุนครับ
ขอบคุณครับ
นึกว่าจะได้บวก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น