เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ - ตอนที่ 27 เขตลับ
“ออกจากเกาะมิลัวร์?” ลินลี่ย์ประหลาดใจทันทีที่ได้ยินอย่างนี้
เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วันตั้งแต่การต่อสู้ครั้งใหญ่ และเซซิลเพิ่งจะแต่งงานกับไซเคิลยังไม่นาน จู่ๆ
นางจะออกไปจากเกาะมิลัวร์ได้ยังไง?
ต่อให้นางออกไปจริงๆ คนอื่นก็น่าจะได้เห็น
แต่ในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ เขาถามคนมาหลายคนแล้ว
ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเซซิล พวกเขาไม่พบเห็นนางด้วยเช่นกัน
“เขาโกหก!” ลินลี่ย์ตัดสินได้ทันที
ทำไมเขาจึงต้องโกหก?
ทันใดนั้นลินลี่ย์มีลางสังหรณ์อัปมงคลเกิดขึ้นในใจ
“ทุกท่าน ตามข้ามา เราจะออกไปกันแล้ว” ตอนนี้สีหน้าของไซเคิลดูน่ากลัวมาก หลังจากที่เขาพูดเสร็จ เขานำกลุ่มผู้คนเดินลึกไปที่ยอดเขาดาบสุริยันต์ แม้ว่าลินลี่ย์จะรู้สึกสงสัยในใจ แต่เขาก็ยังตามไปด้วย
ยอดเขาดาบสุริยันต์
กลุ่มของลินลี่ย์เก้าคนลอยตัวเข้าไปในนั้น
ครู่ต่อมา
กลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงโพรงถ้ำลึกไม่มีร่องรอยแสงแดดส่องถึง ไซเคิลเป็นคนแรกที่เข้าไปในโพรงถ้ำลึก ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์แปดคนลังเลเล็กน้อย
จากนั้นเข้าไปด้วยเช่นกัน
“คุณชายไซเคิล” เทพชั้นสูงคนหนึ่งพูดผ่านสำนึกเทพ “พื้นที่ลับนี้อยู่ที่ใดกันแน่? โพรงถ้ำนี้ดูเหมือนจะลึกเข้าไปไม่มีที่สุด”
“ตามข้ามาเถอะน่า”
ไซเคิลบอกอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์และโรมิโอตามเข้าไปอย่างเยือกเย็น มีอะไรต้องกลัว? ไซเคิลนี้ก็อยู่ข้างหน้าพวกเขา และในพวกเขาก็สามารถฆ่าไซเคิลได้อย่างง่ายดาย พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวไซเคิลใช้ลูกเล่นกลลวงแต่อย่างใด นอกจากนี้
ลินลี่ย์ได้รู้มาจากทารอสแล้วว่าพื้นที่ลับเก็บผลึกบันทึกเอาไว้
“ลินลี่ย์”
เสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
ลินลี่ย์หันไปมองโรมิโอที่อยู่ใกล้ๆ ตอนนี้คนที่ส่งข้อความทางใจก็คือโรมิโอ ริมฝีปากของโรมิโอยิ้ม และเขายังคงพูดผ่านสำนึกเทพต่อ “เมื่อข้าเห็นเจ้าสู้
ข้ามั่นใจเลยว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์นับว่ามีชื่อจริงๆ
ขอถามได้ไหมอีกสามตระกูลสาขาของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมากเท่าไหน?”
“ทำไมมีคำถามมากมายนัก?” ลินลี่ย์ตอบ
ความจริงลินลี่ย์เองรู้เรื่องราวตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์น้อยมาก
“ใช่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องถามเลย ข้าจะรู้เมื่อข้าได้สู้กับพวกเขาจริงๆ หลังจากเราออกไปจากพื้นที่ลับนี้ เรามาลองซ้อมมือกันสักเล็กน้อยก็ดี หลังจากนั้นข้าจะไปแคว้นอินดิโก
ทวีปบลัดริจเพื่อหายอดฝีมือของอีกสามตระกูลสาขาสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเพื่อประลองกับพวกเขา” แม้ว่าหน้าของโรมิโอจะยังสงบ แต่ดวงตาของเขาเป็นประกาย
โรมิโอกระตือรือร้นต้องการสู้กับยอดฝีมืออื่น
ลินลี่ย์อดรู้สึกปวดหัวไม่ได้
ตราบเท่าที่เขาออกจากห้องลับ เขาคงต้องประลองกับคนบ้านี่หรือ? ไม่ใช่ว่าลินลี่ย์ไม่อยากประลอง
แต่เป็นเพราะลินลี่ย์รู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนตัวเองดี
ไม่ใช่เรื่องแย่นักหรอกถ้าเขาไปพบกับยอดฝีมือผู้ถนัดโจมตีทางวัตถุธาตุ แต่ถ้าเขาเผชิญกับยอดฝีมือในทางโจมตีพลังวิญญาณ ก็จะเป็นเรื่องน่ากลัว
ลินลี่ย์สบถอยู่ในใจ
“คนผู้นี้ ฮึ.. เขาบ้ายิ่งกว่าแลร์มองต์เสียอีก
ทันทีที่เขาพบเจอยอดฝีมือ
เขาจะต้องท้าทายต่อสู้”
ขณะที่คุยกับโรมิโอผ่านสำนึกเทพแต่ลินลี่ย์ก็ยังเดินทางไปได้เร็ว พวกเขาไปได้หลายกิโลเมตร
อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกก็คือแม้ว่าพวกเขาจะลงลึกเข้าไปในถ้ำหลายกิโลเมตรก็ตาม ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงที่สุด
“ด้วยความลึกขนาดนี้
เราเราควรจะอยู่ภายในเกาะมิลัวร์”
ลินลี่ย์คาดเดา
ทันใดนั้นลินลี่ย์พบว่าทางเดินด้านล่างเต็มไปด้วยน้ำ
“ข้างล่างนี่มีแต่น้ำ
เรายังต้องลงไปอีกหรือ?”
ใครบางคนอดถามขึ้นไม่ได้
“แค่ตามข้ามาและเลิกคุยกันได้แล้ว” ตอนนี้ไซเคิลรู้สึกไม่พอใจ คำพูดลินลี่ย์ที่ยอดเขาดาบสุริยันต์ทำให้อารมณ์เขาไม่ดี
คำพูดที่เซซิลพูดก่อนตายทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนดูถูกยิ่งกว่าเมื่อเขาพบว่าเซซิลมีลูกคนอื่นอยู่ในท้อง!
“ติ๋ง, ติ๋ง....”
กลุ่มของลินลี่ย์ติดตามไซเคิลเข้าไปในน้ำและทั้งแปดคนได้สร้างพลังป้องกันคลุมร่างกันไม่ให้เปียกน้ำ
“ตอนนั้น ข้าควรจะถามรายละเอียดทารอสว่าที่ลับนี้เป็นยังไงกันแน่” ลินลี่ย์รู้สึกสงสัย
ทางเดินในน้ำนี้มีผนังถ้ำปกคลุมไปด้วยพืชเขียว
เห็นได้ชัดว่าเส้นทางนี้เต็มไปด้วยน้ำและคงอยู่มานานแล้ว
ทันใดนั้น...
พื้นถ้ำด้านล่างกลายเป็นเรียบลื่นและในที่ท้ายถ้ำเรียบมีแสงสลัวพอมองเห็นได้
“ในที่สุดเราก็มาถึงปลายทาง” ลินลี่ย์อดดีใจไม่ได้
อย่างไรก็ตามทันทีที่พวกเขาออกมาจากอุโมงค์ เขาเห็นโลกวารีกว้างใหญ่ ไร้ที่สิ้นสุด
“เอ๋? พื้นที่ลับอยู่ในใจกลางทะเลหรือนี่?” ลินลี่ย์อดพูดด้วยความประหลาดใจไม่ได้
ไซเคิลแค่นเสียง
“เจ้าสงสัยด้วยหรือ?”
ลินลี่ย์พบว่าตั้งแต่เขาถามคำถามนั้น
ไซเคิลมีสีหน้าปั้นยากมาโดยตลอด และอารมณ์ของเขาขุ่นมัวเช่นกัน ลินลี่ย์ไม่สนใจจะตอบโต้ การโต้เถียงกับไซเคิลเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า
หลังจากมาจนถึงก้นสมุทรในช่วงเวลาหนึ่ง ลินลี่ย์ตะลึง
ในที่ห่างออกไป
ปราสาทดำขนาดมหึมากินอาณาบริเวณหลายสิบกิโลเมตรตั้งตระหง่านอยู่ที่ก้นทะเลเหมือนกับสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังหมอบรอ สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ
มีเงาร่างมากมายนับไม่ถ้วนรวมกันอยู่ที่นี่กำลังเดินตรวจการณ์รอบปราสาท
จำนวนคนนั้นมากมายอย่างน่าทึ่ง
“นี่คือพื้นที่ลับของเกาะด้านตะวันตกของเรา” ไซเคิลพูดด้วยความภูมิใจ “พื้นที่ลับของตระกูลแบ็คชอว์ของข้า!
พวกเจ้าโชคดีมากแล้วที่มีโอกาสลงมาที่นี่”
ขณะที่เขาพูด
จากระยะห่างหน่วยทหารเกราะดำก็บินเข้ามาหา
เมื่อเห็นหน่วยทหารนี้แล้วลินลี่ย์และคนอื่นลอบตกใจ ทหารทั้งสิบคนนี้เปล่งรังสีที่น่ากลัวโดยปกติ
และของพวกเขาทุกคนไร้ความรู้สึกและเย็นชา
“พวกเขาแต่ละคนเป็นยอดฝีมือ” ลินลี่ย์ตกใจเหลือจะกล่าว
เทียบกับนักรบของเกาะมิลัวร์แล้ว
นักรบเกราะดำและที่อยู่ในชุดดำราศีพลังห่างไกลกันมาก
แม้แต่โรมิโอก็ยังหรี่ตามองดูปราสาทดำด้วยความระมัดระวัง
“เพียงตระกูลเดียวแต่มีกองกำลังมากมายนัก!” ลินลี่ย์รู้สึกตะลึง
เขาสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า คนจำนวนหลายพันคนนั้น
แต่ละคนเป็นเทพชั้นสูง และเป็นเทพชั้นสูงฝีมือดีกันทั้งนั้น
พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับทหารประจำเกาะซึ่งก่อตั้งขึ้นจากเทพชั้นสูงที่ต้องการเข้าร่วมกองกำลัง
“คุณชายไซเคิล”
ทหารหัวหน้ากลุ่มคำนับ
“พวกเขามากันทุกคนแล้ว
ไปกันเถอะ”
ไซเคิลพูดอย่างใจเย็น
ทหารเกาะดำทั้งสิบคนนำทางกลุ่มลินลี่ย์ไปยังปราสาทดำทันที ประตูปราสาทดำเปิดออก
ปราสาทดำนี้คงอยู่มานานจนมิอาจรู้เวลาได้ ลึกลงไปในทะเล
สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ...
ปราสาทดำดูเหมือนจะมีพลังงานแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง
สามารถกันน้ำทะเลไว้ห่างไกล
ทำให้น้ำทะเลทั้งหมดไม่เข้ามาในระยะหนึ่งกิโลเมตรจากปราสาทดำ
เหมือนกับว่ามีม่านพลังใสคอยป้องกันปราสาทไว้กันน้ำทะเลไว้จนอยู่ห่าง
ดังนั้นกลุ่มของลินลี่ย์จึงเข้าไปในพื้นที่ปราศจากน้ำทะเลทันที
“เอ๊ะ?”
ทุกคนประหลาดใจ ขณะที่ตาของโรมิโอเป็นประกายตื่นเต้นเช่นกัน
ลินลี่ย์หันไปมองอย่างระมัดระวัง
แต่เขาไม่สามารถพบความพิเศษเกี่ยวกับม่านพลังแต่อย่างใด “โลกนี้มีเรื่องแปลกประหลาดมากมายจริงๆ” ขณะที่เขาเข้าไปในปราสาทดำและเห็นทหารในปราสาทดำหลายคน ลินลี่ย์ตะลึง
“นี่...คือพลังอำนาจที่แท้จริงทั้งหมดของตระกูลแบ็คชอว์” ลินลี่ย์บอกกับตนเอง
ภายในปราสาทดำ ในลานว่าง
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งแปดคนกำลังรออยู่ที่นี่
“รออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวจะมีคนมารับ”
ไซเคิลพูดอย่างเฉยเมย “พวกท่านจะต้องทดสอบเพื่อดูว่าจะมีโอกาสเข้าพื้นที่ลับได้หรือไม่” หลังจากพูดแล้ว ไซเคิลหมุนตัวเดินออกมา
งานของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้ว
“ทดสอบหรือ?”
บางคนรู้สึกประหลาดใจ
“ตราบที่เราสามารเอาชนะร้อยศึกได้
เราก็สามารถเข้าไปดูในพื้นที่ลับได้ไม่ใช่หรือ?
ทำไมยังต้องทดสอบอีก?”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
โรมิโอและลินลี่ย์ยังคงเงียบอยู่ทั้งสองคน
ลินลี่ย์รู้มาตลอดว่าจะมีการทดสอบ และเขาจ้องมองดูพื้นที่รอบตัวเขา อาคารโดยรอบลานว่างนี้ยังมีทหารเกราะดำลาดตระเวน
และทั้งปราสาทเป็นเหมือนป้อมปราการทหารที่อยู่ในการคุ้มกันแน่นหนาของทหาร
ขณะต่อมาประตูสีน้ำเงินเข้มของลานจัตุรัสด้านหน้าพวกเขาถูกเปิดออก
“แอ๊ดดดดด” ประตูสีน้ำเงินเข้มที่เปิดออกเกิดเสียงเสียดสี
มีคนหกคนเดินออกมาจากภายในประตู ผู้นำเป็นบุรุษผมขาวไว้เคราสีขาว อยู่ในชุดเกราะสีแดง อีกห้าคนด้านหลังเขาเป็นนักรบเกราะดำทั้งหมด
เพียงแต่พวกเขาสวมชุดแดงเช่นกัน
“ยินดีต้อนรับ!”
ชายชราผมขาวเดินเข้ามาพร้อมกับหัวเราะเสียงกังวาน “ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปราสาทเฮนด์ซีย์! ข้าขอแนะนำตัวก่อน ข้ายูไรห์”
ปราสาทเฮนด์ซีย์?
แววสงสัยปรากฏขึ้นในใจของลินลี่ย์
“แม้ว่าผู้ชนะร้อยศึกทุกคนในสนามต่อสู้จะสามารถเข้ามาในพื้นที่ลับได้” ยูไรห์หัวเราะ
“แต่ผลึกบันทึกภายในพื้นที่ลับนี้ไม่ใช่จะได้ดูกันทุกคน ถ้าพวกท่านต้องการดู ก็ต้องผ่านการทดสอบ”
“ผลึกบันทึก? คืออะไร?”
โรมิโอกล่าว
“การต่อสู้ของอสูรเจ็ดดาว
การต่อสู้ของเทพอสูร สงครามภายในดินแดน
แม้แต่ผลึกบันทึกของการแสดงพลังของมหาเทพก็มีด้วยเช่นกัน!” ยูไรห์ยิ้ม
“นี่ถูกเก็บสะสมไว้โดยตระกูลแบ็คชอว์มานานปีนับไม่ถ้วนแล้ว!”
ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา
ตาของทุกคนเป็นประกาย แม้แต่ตาของโรมิโอก็ฉายประกายด้วยเช่นกัน ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
ผลึกบันทึกของยอดฝีมือที่ทำการต่อสู้เป็นโอกาสที่ดึงดูดใจมาก
“ตอนนี้ พวกเจ้าทุกคนเข้ามาก่อนทีละคนเพื่อประลองกับคนของเรา จากพลังที่แสดงออกของพวกเจ้า
ข้าจะตัดสินว่าพวกเจ้ามีคุณสมบัติเข้าไปดูได้หรือไม่” ยูไรห์ชำเลืองมองคนข้างเขาและนักรบเกราะดำชุดแดงศีรษะโล้นคนหนึ่งก้าวออกมาทันที
ยูไรห์เหยียดมือออกและชี้ไปที่เทพชั้นสู้ผู้ชนะร้อยศึก “เจ้าก่อน”
“ได้เลย” เทพชั้นสูงผู้ชนะเวทีร้อยศึกหัวเราะหึหึ จากนั้นก้าวออกมาข้างหน้า “ถ้าข้าพลั้งมือฆ่าเขา อย่าตำหนิข้าก็แล้วกัน” เทพชั้นสูงผู้นี้แต่งตัวอยู่ในชุดน้ำเงิน
เขามีคิ้วหนา
“ถ้าเจ้าสามารถฆ่าเขาได้ ก็ทำตามสบายได้เลย” ยูไรห์หัวเราะอย่างใจเย็น
ทันใดนั้นเทพชั้นสูงผู้นี้และบุรุษหัวโล้นเดินเข้ามากลางจัตุรัส
ทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน
“เริ่มสู้กันได้”
ยูไรห์ออกคำสั่ง
“บึ้ม!”
เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินกลายสภาพเป็นไฟที่ไม่มีเปลวสีน้ำเงินทันที
มีเสียงแตกปะทุด้วยความร้อนในอากาศ
จากนั้นไฟที่ไร้เปลวกลายเป็นรูปหัวธนูพุ่งขึ้นไปในกลางอากาศเหนือจัตุรัสปลดปล่อยพลังที่สั่นสะท้านใจทันที
“ควั่บ!”
ธนูเพลิงพุ่งออกมาเหมือนดาวตกทันที
“ฮึ่ม!” บุรุษศีรษะโล้นแค่นเสียงเบาๆ ตลอดทั้งร่างของเขาคลุมไปด้วยเกราะธาตุดินทันที
หมัดขนาดมหึมาของเขาคลุมไปด้วยระลอกแสงและเขาปล่อยหมัดใส่ธนูเพลิงนั้นโดยตรง
“ปัง!” เสียงสั่นสะเทือนทุ้มดังขึ้น
แม้แต่สนามต่อสู้ก็ยังสั่นสะเทือน
ระลอกพลังแสงบนหมัดของบุรุษศีรษะโล้นแตกกระจาย และแม้แต่หมัดของเขาก็ฉีกขาด ชั้นเกราะธาตุดินสีเหลืองบนร่างของแตกร้าว เขาถอยไปหลายก้าวอย่างช่วยไม่ได้ ปรากฏรอยแตกร้าวบนพื้นเช่นกัน
ธนูเพลิงแดงสลายไปเช่นกัน
หน้าของเทพชั้นสูงชุดน้ำเงินซีดขาว แต่เขายังคงยืนนิ่งกับที่
“ไม่เลว”
บุรุษผมขาวยูไรห์พยักหน้า
“เจ้ามีคุณสมบัติเข้าห้องลับชั้นสองได้”
“ห้องลับชั้นสอง?”
เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินสงสัย
“ถูกแล้ว พื้นที่ลับถูกแบ่งออกเป็นสองห้อง ห้องลับชั้นหนึ่ง กับห้องลับชั้นสอง ห้องลับชั้นหนึ่งมีผลึกบันทึกมากกว่า และยอดฝีมือที่บันทึกไว้ก็มีพลังมาก”
ยูไรห์พูดอย่างใจเย็น
“อย่างนั้นต้องทำยังไง
ข้าจึงจะมีคุณสมบัติเข้าห้องลับชั้นหนึ่ง?”
เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินไม่ค่อยยินยอมรับกับผลเช่นนี้
“ฆ่าเขาในหมัดเดียว”
ยูไรห์ชี้ไปที่บุรุษศีรษะโล้น
เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินยอมแพ้ทันที
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์ตะลึง
“เป็นไปได้หรือว่าเจ้าของปราสาทแห่งนี้ปฏิบัติต่อชีวิตอย่างไร้ค่า? เขาจะยอมเสียสละคนของเขาเองหรือ?”
“เจ้าเป็นคนต่อไป”
ยูไรห์ชี้มาที่เทพแท้คนหนึ่ง
“พอแค่นี้”
เสียงเยือกเย็นดังขึ้น
โรมิโอก้าวออกมาข้างหน้ามองดูยูไรห์อย่างเยือกเย็น “ให้ข้าก่อนเถอะ ท่านบอกว่าถ้าข้าฆ่าเขาได้ในการโจมตีครั้งเดียว ข้าจะได้เข้าห้องชั้นหนึ่งใช่ไหม?”
ยูไรห์ชำเลืองมองโรมิโอด้วยความประหลาดใจ “เจ้าคือโรมิโอ ใช่ไหม?”
โรมิโอพยักหน้าอย่างใจเย็น
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทดสอบ”
ยูไรห์ส่ายศีรษะและหัวเราะ
“ในบรรดาพวกเจ้าแปดคน เจ้ากับลินลี่ย์ผู้อาวุโสชุดแดงไม่จำเป็นต้องทดสอบ
พวกเจ้าสามารถเข้าไปดูที่ห้องชั้นหนึ่งได้โดยตรง”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้
“อย่างไรก็ตาม
การเปิดห้องลับเข้าไปเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เราต้องขออนุญาตเจ้าปราสาทเสียก่อน และจากนั้นหาโอกาสที่เหมาะ ในตอนนี้พวกเจ้าไปพักกันก่อนได้ ในไม่ช้าเราค่อยเรียกพวกเจ้า” ขณะที่เขากล่าว
ยูไรห์จัดคนนำทางลินลี่ย์และโรมิโอเดินแยกออกไป
ขณะที่ลินลี่ย์ถูกนักรบเกราะดำนำทางไปนั้น
เขาค่อยเข้าใจได้ทันที
“ไม่ใช่ว่าเจ้าของปราสาทจะไม่สนใจชีวิตคนของเขา แต่เป็นเพราะว่าเมื่อยอดฝีมือที่แท้จริงเข้ามา
ไม่มีความจำเป็นต้องทดสอบ”
ลินลี่ย์คาดหวังอย่างกระตือรือร้นว่าจะได้เห็นภาพบันทึกให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้
ปราสาทดำมีขนาดใหญ่โต้กว้างขวาง ผนังหนาแข็งแรงมีทางเดินซับซ้อนมาก
“ขุนพลม็อบ ข้าอยู่ที่นี่มาเกือบเดือนแล้ว
ทำไมท่านแม่ทัพถึงไม่ยอมพบข้า?”
“อย่าใจร้อนอย่างนั้น
ถ้าท่านแม่ทัพต้องการพบเจ้า
เขาก็จะมาพบ มิฉะนั้นก็ต้องรออยู่ตรงนี้
เมื่อได้ยินเสียงนี้จากทางเดินข้างหน้า
ลินลี่ย์อดขมวดคิ้วไม่ได้
“นี่เป็นเสียงที่คุ้นหูมาก”
ข้างหน้าลินลี่ย์เป็นทางสี่แยก มีคนสองคนเดินออกมาจากทางเดินด้านหนึ่ง เขาอยู่กับอีกคนหนึ่ง
คนที่สวมชุดเกราะและอีกคนสวมชุดเกราะแดงซึ่งเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้น
และจากนั้นทั้งสองเดินเข้าไปยังอีกทางหนึ่ง
“แกนมอร์ติน?”
หน้าของลินลี่ย์มีแววเหลือเชื่อ
“ทำไมเขาอยู่ที่นี่?”
คนผู้นี้เป็นคนเดียวกับคนที่ขัดขวางและโจมตีกลุ่มของลินลี่ย์ในทะเลสตาร์มิสท์
คนที่ต้องการจับตัวโอลิเวอร์ไปให้ผู้บัญชาการของเขา เขาคือแกนมอร์ติน!

10 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ศัตรูทางคับแคบจริงๆ
มีแววจะมีเกาะหายไปอีกเกาะ
เจออีกแล้วว
มาอีกและตัวประกอบ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เจอแต่เรื่องจองคนอื่นที่พัวพันกับตนเองทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณคับ
แสดงความคิดเห็น