วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Panlong เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ - ตอนที่ 29 มิอาจจากไปได้!


เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ - ตอนที่ 29 มิอาจจากไปได้!
 “กับดัก!
ลินลี่ย์รู้สึกหัวใจเย็นเฉียบ
 “โกหกคำโต!” ลินลี่ย์เริ่มสั่น

เทียมเทพ เทพแท้ เทพชั้นสูง กล่าวโดยทั่วไปทุกคนที่สามารถเอาชนะร้อยศึกได้ล้วนมีศักยภาพสูงและมีความสามารถพิเศษบางอย่าง!  นอกจากนี้ หลังจากมาถึงปราสาทเฮนด์ซีย์แล้วพวกเขาต้องถูกทดสอบ เพียงแต่หลังจากที่ศักยภาพของพวกเขาผ่านคุณสมบัติได้  พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้อยู่  ขณะที่คนอื่นจะถูกขับออกไป
 “พวกที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อล้วนมีศักยภาพพิเศษ”
 “เดี๋ยวก่อน!  ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะอธิบายเรื่องของไดลินยังไง?”  ลินลี่ย์อิงเหตุการณ์ต่างๆ และความจริงที่ว่าไดลินและทารอสเลือกอยู่ฝ่ายตระกูลแบ็คชอว์ก็เป็นที่แน่นอนว่าไดลินก็ถูกควบคุมด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์นึกถึงความเป็นไปได้ทันที...
 “ไม่ใช่แค่คนที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นที่ถูกควบคุมวิญญาณ  ต่อให้พวกเขาไม่ผ่านก็มีแนวโน้มว่าจะถูกควบคุมด้วย  เพียงแต่บริวารคนอื่นจะเป็นผู้ทำแทน”  ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ ที่สำคัญคือผู้ชนะร้อยศึกจะเป็นผู้อ่อนแอได้ยังไง
ทหารยิ่งมากก็ยิ่งดีเพราะเป็นหนึ่งในกองทัพ
เมื่อไตร่ตรองจากมุมมองนี้ของเจ้าปราสาทเฮนด์ซีย์แล้ว เขาเข้าใจทันที  “ที่มีการทดสอบมีแนวโน้มว่าจะแบ่งคนตามกำลังอำนาจ  หลังจากพิจารณาว่าฝ่ายตรงข้ามมีพลังเพียงไหน พวกเขาจะรู้ระดับของยอดฝีมือที่จำเป็นต้องควบคุมผู้นั้น”  ยิ่งมีพลังมากพวกเขาก็ยากจะควบคุม
สำหรับอสูรเจ็ดดาวอย่างโรมิโอ คงยากจะควบคุมเขาได้เช่นกัน
 “โรมิโอกับข้าไม่จำเป็นต้องทดสอบเลยแม้แต่น้อย  นี่หมายความว่า... เป็นไปได้ว่าเจ้าปราสาทผู้นี้ที่เรียกกันว่าท่านแม่ทัพคงจะจัดการกับเราเป็นการส่วนตัว”  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วลินลี่ย์อดนึกตกใจกลัวไม่ได้  แม้แต่เกาะมิลัวร์ก็ยังมีผู้อาวุโสชุดแดงสองสามคน
ภายในปราสาทเฮนด์ซีย์ มีอสูรหกดาวและเจ็ดดาวมากมาย
 “แม้ว่าอสูรเจ็ดดาวก็ยังถูกควบคุมได้ง่าย  อย่างนั้นพลังของผู้บัญชาการนี้ล่ะ...?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว สำหรับท่านแม่ทัพที่สามารถควบคุมอสูรเจ็ดดาวก็มีความหมายอย่างเดียวคือ...คนผู้นี้ทรงพลังในด้านวิญญาณ
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์กลัวที่สุด...
ก็คือยอดฝีมือนี้เชี่ยวชาญทักษะโจมตีวิญญาณ!
 “เมื่อข้าเผชิญหน้ากับเจ้าปราสาท  ข้าจะไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย  เป็นไปได้ไหมว่าข้าจะต้องใช้พลังมหาเทพของข้า?”  ลินลี่ย์คิดย้อนไปถึงวิธีที่แบ็ควิลประมุขตระกูลใช้ หยดพลังมหาเทพวิถีทำลายล้างของตระกูลเขาเอง  “เจ้าปราสาทผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอำนาจที่แท้จริงที่หนุนหลังตระกูลแบ็คชอว์  แม้แต่แบ็ควิลก็มีพลังมหาเทพ... และเจ้าปราสาทจะไม่มีได้ยังไง?”
 “คนที่สามารถปล่อยให้เกาะมิลัวร์ยืนหยัดด้วยความพอใจและเป็นอิสระในแดนนรก...พลังอำนาจที่เจ้าปราสาทนี้มี อยู่ในระดับที่ข้าไม่สามารถรับมือได้”
ลินลี่ย์ได้บทสรุปทันที....
 “หนี!
เขาต้องหนี!
ลินลี่ย์หันไปมองทางหน้าต่าง  แกนมอร์ตินตอนนี้พักอยู่ในห้องของเขา  แกนมอร์ตินในตอนนี้มีแต่เพียงร่างแยกธาตุน้ำ เป็นเรื่องง่ายที่ลินลี่ย์จะฆ่าแกนมอร์ติน
 “ไม่สามารถฆ่าเขาได้!  ถ้าข้าฆ่าเขา  ก็จะดึงดูดความสนใจ และพวกเขาจะต้องจับตามองข้าอย่างใกล้ชิดแน่นอน  ถ้าข้าต้องการจะจากไป  จะเป็นเรื่องที่ยากมาก”  ลินลี่ย์หลังจากเข้าใจเช่นนี้ ไม่อาจรั้งอยู่เพื่อรอความตายได้
เขาต้องรีบหนี!
 “แค่คิดว่าตัวเองโชคดีก็พอ”  ลินลี่ย์ชำเลืองมองหน้าต่าง จากนั้นใช้เคล็ดเดินดินเข้าไปในพื้นทันที
หลังจากได้บทสรุปเช่นนี้ ลินลี่ย์ลอบตกใจ เกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้... การวิเคราะห์ของเขาถูกต้องเกือบ 99% ไม่ว่าสถานที่นี้จะมีบันทึกยอดฝีมือหรือไม่ เขามิอาจรั้งอยู่ได้!
คนที่ถูกควบคุมวิญญาณ มีชะตาแย่ยิ่งกว่าตาย!
บนกำแพงเมืองมีป้อมสูงสี่สิบเมตรมีทหารเกราะดำจำนวนมากยืนรักษาการณ์ บางครั้งก็มีนักรบชุดแดงปนอยู่บ้าง สถานที่นี้มีการป้องกันยิ่งกว่าสถานที่อื่นที่ลินลี่ย์เคยพบเห็น
ทหารเกราะดำทุกคนต่างพากันเงียบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียง
อย่างไรก็ตาม ทหารชุดคลุมแดงจะพูดบ้างเป็นบางครั้งเหมือนกับว่ารู้สึกผ่อนคลายมาก
 “ผู้ชนะสนามประลองแต่ละครั้งจะถูกส่งมาที่นี่เราจึงต้องมาประจำการและลาดตระเวน”  นักรบชุดแดงเดินเคียงไหล่สนทนาและหัวเราะอย่างผ่อนคลาย
 “ความจริง เราทั้งหมดก็สามารถจับใครก็ได้ที่ถูกพบว่ากำลังหนี  งานที่แท้จริงคือกำกับดูแล ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวลเลย เจ้าสิ่งนั้นอยู่ตรงนั้นไง”  หนึ่งในนักรบชุดแดงชี้ไปที่ใจกลางเมือง
 “เจ้ากำลังพูดถึงหัวใจธาตุน้ำหรือ?”
 “ปกติ หัวใจธาตุน้ำจะควบคุมน้ำโดยรอบพื้นที่นี้อย่างกว้างขวาง  ถ้ามีใครกล้าออกไปจากอาณาบริเวณของเรา  หัวใจธาตุน้ำก็จะตรวจสอบได้ง่าย จากนั้นเราก็แค่ลงมือ”  พวกนักรบตรวจการณ์อย่างผ่อนคลาย
เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะแอบหนีไป!
บุกฝ่าหนีไปหรือ?  นั่นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอ  ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งพอ ทหารลาดตระเวน ก็คงต้องตาย
แต่ทันใดนั้น...
กำแพงเมืองขนาดใหญ่เรืองแสงสีรุ้ง และแสงหลากสีกระพริบสองครั้ง นักรบที่ประจำการณ์เริ่มตื่นตัวกันหมดทันที
 “มีคนกำลังหนี!
นักรบชุดดำหลายสิบคนและนักรบชุดคลุมแดงบินตรงมายังตำแหน่งที่ถูกรบกวน  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถบอกได้ว่าคนที่บุกฝ่าออกไปก็คือ
ผู้อาวุโสชุดแดงลินลี่ย์!
 “แย่จริง กำแพงเมืองรายรอบหลายสิบกิโลเมตรถูกปกป้องโดยวงเวทขนาดใหญ่หรือนี่?  และดูเหมือนจะมีพลังธาตุทั้งหมดด้วย?”  ลินลี่ย์จ้องมองกำแพงเมืองที่กระพริบแสงเป็นรูปอักษรรูนหลากสีสัน  เขาถึงกับเลียริมฝีปาก
เขาไม่สามารถหนีได้
ตอนนี้ ทหารเกราะดำจำนวนมากกำลังจ้องมองมาทางด้านนี้ ยอดฝีมือชุดแดงลอยลงมาจากอากาศด้วยเช่นกัน
 “ผู้อาวุโสชุดแดง?”  นักรบชุดแดงเหล่านี้ตกใจ และจากนั้นหนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงกึกก้อง  “เจ้ากล้าหลบหนีหรือ? ฮึ!
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูนักรบชุดแดง  ก่อนนี้ระหว่างทดสอบ ลินลี่ย์เห็นพลังโจมตีของนักรบชุดแดง  พวกเขามีพลังระดับอสูรหกดาว  “กลุ่มอสูรหกดาว?”  ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะให้ตนเอง
ไม่มีทางที่เขาจะบุกฝ่าหลบหนีได้อีกต่อไป
 “ข้าลินลี่ย์เป็นผู้อาวุโสชุดแดงแห่งตระกูลแบ็คชอว์! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ข้าต้องกลับไปจัดการเดี๋ยวนี้ และไม่ต้องการรบกวนพวกท่าน  ทีนี้โปรดหลีกทางให้ข้ากลับไปที่เกาะมิลัวร์ด้วย”  เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้น
หัวหน้านักรบชุดแดงพูดอย่างใจเย็น “โอว, ผู้อาวุโสลินลี่ย์? กฎของปราสาทเฮนด์ซีย์ของเรา เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากเรา คนภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้จากไป”
 “ข้ามีเรื่องสำคัญบางอย่างจำเป็นต้องทำ”  ลินลี่ย์พูดอย่างไม่พอใจ
 “ได้โปรด, ผู้อาวุโสลินลี่ย์ โปรดรอสักเดี๋ยว”  หนึ่งในนักรบชุดแดงกล่าว  “ถ้าท่านต้องการบุกฝ่าออกไป อย่างนั้นอย่าได้ตำหนิเรา”  ความจริงนักรบชุดแดงนี้ เมื่อเห็นว่าเป็นผู้อาวุโสชุดแดงของตระกูลแบ็คชอว์ ก็ไม่ต้องการโจมตีเช่นกัน
ทั้งนี้เป็นเพราะผู้อาวุโสชุดแดงล้วนแต่เป็นอสูรเจ็ดดาวทั้งหมด
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น กลุ่มของพวกเขาอาจได้รับชัยชนะจากจำนวนคนที่มากกว่า  แต่จะเป็นชัยชนะที่แลกมาด้วยความสูญเสีย
ลินลี่ย์โกรธ  “ไม่ต้องมาทำเป็นเคร่งครัด ไม่ต้องมาทำพูดดี  ถ้าข้าพยายามบุกฝ่าออกไป  เป็นไปได้ว่ายอดฝีมือทั้งจากปราสาทก็คือโผล่หัวออกมาแน่”
 “ลินลี่ย์, ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนออกไปอย่างนั้น?”  เสียงคุ้นหูดังขึ้น  ลินลี่ย์หันไปเห็นชายชราผมขาวเกราะแดงกำลังบินออกมา  นั่นคือยอดฝีมือที่ชื่อว่ายูไรห์นั่นเอง
ยูไรห์หัวเราะพลางมองดูลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!  เจ้ายังไม่ได้เข้าไปดูที่ห้องลับที่หนึ่งก่อนเลย”
 “ท่านยูไรห์”  ลินลี่ย์รีบกล่าว  “ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้ เมื่อครู่นี้ข้าได้รับข่าวผ่านพลังวิญญาณจากบริวารของข้า  ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำจริงๆ และข้าจะต้องจากไป สำหรับการดูที่ห้องลับที่หนึ่ง ข้าจะกลับมาทันพรุ่งนี้ได้ยังไง?”
 “โอว?” ยูไรห์ขมวดคิ้ว
 “มีเหตุผล”  ยูไรห์หัวเราะ  “ลินลี่ย์, เนื่องจากว่าเจ้ามีงานสำคัญจะต้องไปจัดการ...”
ลินลี่ย์ใจเต้นแรง
 “อย่างนั้นข้าจะไม่บังคับให้เจ้าอยู่  อย่างไรก็ตาม ข้าได้รายงานการมาถึงของเจ้าให้ท่านเจ้าปราสาทรับทราบแล้ว ข้าไม่มีอำนาจปล่อยให้เจ้าจากไป  เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้ารออยู่นี่สักระยะหนึ่ง ข้าจะไปรายงานท่านเจ้าปราสาท  ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้า”  ยูไรห์หัวเราะ
 “ขอโทษที่ต้องรบกวนท่านยูไรห์”  ลินลี่ย์กล่าว
ยูไรห์หัวเราะอย่างใจเย็น จากนั้นบินจากไป
ลินลี่ย์มีสีหน้าสลด  “ขอเจ้าปราสาทก่อนหรือ? นี่แหละคือเรื่องยุ่งยาก!  ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูรอบๆ  มียอดฝีมือชุดแดงจ้องมองดูเขา และบนกำแพงก็มีนักรบเกราะดำมองดูอยู่เช่นกัน
 “ปราสาทเฮนด์ซีย์มียอดฝีมืออยู่เท่าใดกันแน่?”  ลินลี่ย์จนใจ
เดิมทีในเมืองรอยัลวิง แม้แต่อสูรหกดาวก็ยังหาได้ยากเย็น ขณะที่อสูรเจ็ดดาว มิใช่จะพบเห็นได้ทั่วไป เนื่องจากปกติพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ทั่วแดนนรก  แต่ปราสาทเฮนด์ซีย์นี้เต็มไปด้วยอสูรหกดาวและมีแม้แต่อสูรเจ็ดดาว และดูเหมือนว่าเจ้าปราสาทก็ทรงพลังเช่นกัน
ครู่ต่อมา
 “เอ๊ะ?” สีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน
จากที่ไกล ยูไรห์นำกลุ่มยอดฝีมือชุดแดงสองสามคนบินเข้ามาหา และมียอดฝีมือในชุดดำอย่างโรมิโออยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!
 “เกราะแดง, ชุดคลุมแดง?  อีกสองคนดูเหมือนจะมีสถานะเท่ากับยูไรห์  มีแนวโน้มว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้หนี  แต่...ทำไมพวกเขาจึงพาโรมิโอมาด้วย?”  ลินลี่ย์สงสัย  แต่โรมิโอที่ยากจะมีรอยยิ้ม กลับมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
 “ท่านยูไรห์ ท่านมีข่าวแล้วหรือ?”  ลินลี่ย์พูดอย่างชัดเจน
ยูไรห์และคนอื่นลงมายืนอยู่ข้างโรมิโอและยูไรห์หัวเราะขึ้น  “ข่าวดี ข่าวดี ท่านเจ้าปราสาทพิจารณาให้ลินลี่ย์เจ้าอย่างแท้จริง”
ลินลี่ย์ตกใจ  เป็นไปได้หรือว่าเขาจะคาดเดาผิด?  เจ้าปราสาทจะกรุณาปล่อยให้เขาไป
 “เมื่อเขารู้ว่าลินลี่ย์เจ้ามีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ  เขาเห็นด้วยที่จะให้เจ้ากับโรมิโอได้เข้าไปชมดูห้องลับแรกเร็วขึ้น”  ยูไรห์หัวเราะ
ลินลี่ย์อดแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้
 “ลินลี่ย์ เนื่องจากเจ้าอุตส่าห์รอข้าอยู่ที่นี่  เจ้าก็คงมีเวลาพอไปชมดูห้องลับแรก และตรวจดูด้วยสำนึกเทพของเจ้าก็ได้ใช่ไหม?”  ยูไรห์หัวเราะ  ยอดฝีมือเกราะแดงอีกสองคนก็หัวเราะเช่นกันขณะมองดูลินลี่ย์
แต่ลินลี่ย์รู้สึกหวาดกลัวถึงกระดูกจากการจ้องมองของพวกเขา
 “เอาล่ะ งั้นเราจะไปดูห้องลับแรกกัน”  นี่เป็นสิ่งที่ลินลี่ย์สามารถพูดได้
ยูไรห์หัวเราะทันที  ทั้งสามคนนำลินลี่ย์และโรมิโอไปที่ใจกลางปราสาทเฮนด์ซีย์  มีทางสี่แยกตัดขวางมากมาย และทหารตรวจการณ์มีให้พบเห็นได้ทุกที่  คนภายนอกยากจะก้าวเข้ามาในที่นี่สักก้าว  แต่เนื่องจากลินลี่ย์ติดตามยูไรห์ เขาจึงไม่ถูกห้ามหรือขัดขวางเลย
 “โรมิโอ เจ้าต้องขอบคุณลินลี่ย์นะ  ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เจ้าอาจต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ก่อนที่เจ้าจะได้เข้าห้องลับ”  ยูไรห์หัวเราะ
โรมิโอยากจะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า  เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีโอกาสจะได้เห็นบันทึกการต่อสู้ของสุดยอดฝีมือ
 “ลินลี่ย์ นี่เป็นเรื่องยากนะที่ท่านเจ้าปราสาทจะอนุญาตให้เจ้าได้เข้าห้องความลับเร็วขึ้น” ยูไรห์กล่าวกับลินลี่ย์
 “ถูกแล้ว ความจริงข้าต้องขอบคุณท่านเจ้าปราสาท”  ลินลี่ย์ปากพูด แต่ในใจกลับพร่ำสบถไม่หยุดหย่อน  เจ้าปราสาทนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีความตั้งใจดี
ขณะที่เดินไปตามทาง ลินลี่ย์ให้ความสนใจรอบตัวเขา
แต่ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้าไปในใจกลางพื้นที่ ก็ยิ่งมีทหารประจำการมาก และนอกจากนี้เขายังมียอดฝีมือสามคนรายล้อม
คิดหนีหรือ?
ยาก!
 “ครืนนนน!” ประตูใหญ่เต็มไปด้วยรอยสลักอักษรรูนเปิดออกเผยให้เห็นทางเดินภายใน และสองข้างทางเดินมีรูปแกะสลัก  ลินลี่ย์และคนอื่นเริ่มเดินเข้าไปที่ท้ายทางเดิน
ลินลี่ย์ไม่มีเวลาจะเพลิดเพลินกับประติมากรรม
ขณะที่พวกเขาไปถึงที่ห้องบัลลังก์ท้ายทางเดิน ยูไรห์เดินไปที่ด้านหนึ่งของห้องบัลลังก์และเปิดทางเดินกว้างลึกลับ ทางเดินนั้นสร้างจากศิลาสีเลือดและเปล่งกลิ่นอายแห่งความตายที่สั่นสะท้านใจ
 “ช่างลึกลับจริงๆ”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
โรมิโอก็ขมวดคิ้วเช่นกัน สตรีผมขาวที่อยู่ข้างยูไรห์หัวเราะและกล่าว  “นี่คือที่เก็บผลึกบันทึกการต่อสู้ไว้  ปกติจะค่อนข้างลึกลับ  พวกเจ้าสองคนตามข้ามา”  ขณะที่นางกล่าว นางเดินนำเข้าไปก่อน
ลินลี่ย์และโรมิโอเดินตามพวกเขาเข้าไป  ขณะที่ยูไรห์และคนอื่นๆ เดินตามหลัง
ในที่สุดของอุโมงค์  พวกเขาไปถึงประตูที่มีลวดลายสีดำขอบสีแดง
 “เรียนนายท่าน!, โรมิโอกับลินลี่ย์มาถึงที่นี่แล้ว” ยูไรห์เรียนด้วยความเคารพ  ขณะที่คนอื่นก็คำนับด้วยความเคารพเช่นกัน
โรมิโอเลิกคิ้ว  “มีคนอื่นอยู่ข้างในหรือ?”
 “สถานที่สำคัญอย่างนี้ย่อมได้รับการดูแลอย่างดีเป็นธรรมดา”  ยูไรห์หัวเราะขณะอธิบาย  ลินลี่ย์หรี่ตาขณะรำพึงกับตัวเอง “ดูเหมือนคนที่ถูกเรียกว่า นายท่าน นี้จะเป็นเจ้าปราสาท”
 “ดีแล้ว ให้โรมิโอเข้ามาดูเป็นคนแรก” เสียงสุภาพดังมาจากภายในประตู  ทันใดนั้นประตูใหญ่เปิดออกเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยแง้มพอให้คนเดียวผ่านเข้าไปได้
 “โรมิโอ เชิญเข้าไปได้”  ยูไรห์และอีกสองคนมองดูโรมิโอ
โรมิโอเป็นยอดฝีมือที่กล้าหาญอยู่แล้ว  เขาเตรียมเข้าไปทันที  แต่ลินลี่ย์กระแอมเบาๆ จากนั้นรีบส่งสำนึกเทพ “โรมิโอ, ระวังไว้ คนที่อยู่ภายในห้องมีแนวโน้มจะกระทำการไม่ดีต่อท่าน ระวังการโจมตีวิญญาณของเขา”
โรมิโอชำเลืองมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ แต่จากนั้นก็หัวเราะและเข้าไปอยู่ดี
 “ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ข้าขอบคุณเจ้า!  ถ้าคนภายในโจมตีจริงๆ ข้าก็มีความสุขจริงๆ” เสียงโรมิโอดังขึ้นในใจของลินลี่ย์ขณะที่เขาเข้าไปในประตู
 “ปัง!” เสียงประตูปิดดังขึ้นทันที

9 ความคิดเห็น:

WingF กล่าวว่า...

เอ็งจะบ้าต่อสู่เกินไปแล้ว โรมิโอ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Tam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ชัชวาลย์ บุญฉาย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น