วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 794 ขุนพลดินศักดิ์สิทธิ์ น้ำตาอาหมัน


ตอนที่  794  ขุนพลดินศักดิ์สิทธิ์ น้ำตาอาหมัน
ข้อมูลที่ปรากฏในคัมภีร์อัญเชิญทำให้เย่ว์หยางรู้สึกเหลือเชื่อ
 
อาหมันที่ไม่เคยเลื่อนเป็นอสูรเทพ พอได้เลื่อนเป็นอสูรเทพครั้งแรกก็มีประกายเทพเลย
แม้แต่ตั่วตั่วนางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่มีการวิวัฒนาการไม่หยุดหย่อน สาวมังกรไร้เขาผู้รับมรดกพลังจากเทพมังกรทอง อาหงกับอิคคาซึ่งได้รับเลือดเทพ  อสูรทองน้อยที่เย่ว์หยางพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ฮุยไท่หลางที่เย่ว์หยางฝึกมันขึ้นมาด้วยตนเอง หรือเทพธิดาหิมะที่หลอมรวมเข้ากับคัมภีร์แห่งสัจจะ และนางพญาซัคคิวบัสของนางเซียนหงส์ฟ้า
ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนแต่เลื่อนระดับเป็นอสูรเทพก่อนอาหมัน
มีร่างมนุษย์สมบูรณ์แบบมากกว่า
แม้แต่อสูรเทพรวมกัน หรือบางทีรวมทั้งอสูรเทพในตำนานอย่างเสี่ยวเหวินหลีก็ยังไม่สามารถได้รับพลังเทพ...” ตอนนี้โคเงาอาหมันที่ไม่มีใครคิดได้เลยว่านางจะโดดเด่นขึ้นในท่ามกลางอสูรพิทักษ์มากมาย เป็นอสูรตนแรกที่มีประกายเทพ
การหลอมรวมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ  ทำให้นางเป็นอสูรตนเดียวที่มีประกายเทพ ขุนพลเทพดิน
ขุนพลเทพดิน หนึ่งในห้าเทพขุนพลห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์
ด้วยพลังปัจจุบันของอาหมัน อย่าว่าแต่ขุนพลเทพเลย แค่เทวทูตก็ยังไม่มีคุณสมบัติเทียบเคียงกับนาง
อย่างไรก็ตาม อาหมันนับว่าโชคดีมาก  นางพบเจอแหล่งพลัง ความรู้และประกายเทพที่นักรบรุ่นก่อนทิ้งไว้ก่อนตาย  เย่ว์หยางไม่รู้ว่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนนั้นตายได้อย่างไร เพียงแต่รู้ว่าขุนพลเทพดินก่อนตายนางได้ทิ้งพลังและประกายเทพของนางไว้ที่บันไดสวรรค์
 “ผู้เยาว์รุ่นหลังที่สืบทอดพลังและประกายเทพของข้า โปรดตามหาลูกหลานขุนพลเทพห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ  หลังจากทำเช่นนั้นจึงจะใช้พลังเทพธาตุดินที่แท้จริงได้ หลังจากปลุกพลังเทพธาตุดินได้แล้ว โปรดกลับไปที่แดนสวรรค์ยึดตำหนักดินคืน บางทีคำขอเช่นนี้อาจจะมากเกินไป ข้าขอตกทอดพลังและประกายเทพให้เจ้าจงทำตามอย่างเคร่งครัด  แต่ข้าไม่มีเวลาไต่ขึ้นไปตามบันไดสวรรค์ชั้นสูงๆ ได้  จึงได้แต่หาคนรุ่นหลังที่แข็งแกร่งมากกว่าเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ให้สำเร็จ  นอกจากที่เจ้าจะได้รับสืบทอดพลังและประกายเทพของข้าแล้ว บางทีนี่อาจเป็นชะตาที่มืดมิดของเจ้าก็ได้  ลูกหลานข้า!  โลกจะไม่พินาศอย่างแน่นอน จงใช้พลังของเจ้าให้ดี!  ขุนพลเทพเป็นแค่เส้นทางการเริ่มต้นของเทพ  ในระดับเหนือขึ้นไปกว่านั้นยังประกายเทพที่สูงและแข็งแกร่งกว่ารอเจ้าอยู่ หวังว่าเจ้าจะสามารถได้รับพลังธาตุดินได้เลื่อนเป็นเทพและราชาเทพทั้งได้รับตำแหน่งสูงสุดยอด ขออวยพรลูกหลานของข้า  ขอพลังธาตุดินจงสถิตอยู่กับเจ้า”
 “โอวพระเจ้า  มีเทพอยู่ในโลกจริงๆด้วย!  ราชันย์ปีศาจใต้มองดูและอุทานออกมา
 “อาหมันยอดเยี่ยมจริงๆ!  เย่ว์ปิงอดอิจฉาไม่ได้
 “ดูเหมือนว่าจะไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรเลยหรือ?” เย่ว์ปิงหันไปมองอาหมันที่ยังอาบแสงศักดิ์สิทธิ์ และรู้สึกว่าผิดปกติเล็กน้อย ปกติอสูรอื่นที่เลื่อนขึ้นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ อาจมีสีหน้าจริงจัง เกิดแผ่นดินไหวสะเทือน เห็นสภาพธรรมชาติพลิกฟ้าคว่ำดิน อาหมันจะเกิดความรู้สึกอะไรกับการเห็นภาพเช่นนี้บ้างไหม
 “บางทีอาจไม่ใช่เป็นการตื่นอย่างสมบูรณ์ อาจเป็นเพราะว่าร่างของนางผิดแผกไปจากธรรมดาอยู่บ้าง” อู๋เหินคิดว่าอาหมันเดิมทีเป็นร่างหลอมรวมของเงาปีศาจ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างก็เหมือนกับการแบ่งส่วนแบ่งผลประโยชน์ในร่างกายนาง นอกจากนี้ยังมีพลังธาตุดินที่ไม่รู้จักหมดสิ้นหลอมรวมกับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ น่าจะทำให้แตกต่างจากคนอื่น”  มีแต่เย่ว์หยางที่ตระหนักถึงความผิดปกติ
ในการเชิญก็คือบันไดสวรรค์
โลกบันไดสวรรค์ทั้งหมดก็คือโลกพฤกษาที่มิอาจจินตนาการได้
ตอนนี้เมื่ออาหมันหลอมรวมกับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ ทั่วทั้งโลกสั่นสะเทือนเล็กน้อย
โลกทั้งโลกสั่นสะเทือนเล็กน้อยนี้หมายความว่าอย่างไร?  โลกในบันไดสวรรค์กำลังสั่นสะเทือน?  พลังแบบไหนกันที่สามารถทำให้โลกบันไดสวรรค์ทั้งหมดสั่นสะเทือนได้?  การสู้ของนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าแม้จะลึกเข้าไปในบันไดสวรรค์นี้ ภายใต้ข้อห้ามจากพลังศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วน โลกในบันไดสวรรค์ทั้งหมดไม่อาจจะทำลายได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งบันไดสวรรค์นั้น แข็งและยืดหยุ่น!
แน่นอนว่าแม้จะเป็นแรงสั่นสะเทือนน้อยนิด แต่ก็เป็นพลังตอบสนองที่เหลือเชื่อ
เมื่ออาหมันหลอมรวมกับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ของเสาห้าธาตุแล้วจึงทำให้ทั่วทั้งบันไดสวรรค์สั่นสะเทือน  เมื่อคิดดูนั่นจะต้องเป็นพลังที่เหลือเชื่อขนาดไหน
มีแต่พลังเทพจึงจะสามารถไปได้ระดับนั้น
แสงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆ จางหายไป
ร่างของอาหมันค่อยๆ ปรากฏต่อสายตาทุกคน
ครั้งนี้นางแตกต่างไปจากปกติบ้าง  เขาบนศีรษะนางมีขนาดเล็กลงและดูสวยงามกว่าเดิมและเป็นประกายเหมือนหยกงอกพ้นผมสีดำมีรัศมีสีรุ้งกระจ่าง ดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามสง่างามจนอธิบายไม่ถูก
เกราะทองของนางแตกกระจายเป็นเสี่ยงและปรากฏเป็นร่างงดงามผุดผ่อง
ใต้เท้าเรียวงามเหยียบอยู่บนโล่แสงทอง
หมีทองเจ้าปฐพีที่เป็นเงาจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์กลับระมัดระวังตัวมากขึ้น มันกลายเป็นเหมือนลูกหมีน้อยคุกเข่าและคำนับเจ้านายคนใหม่  นอกจากนี้มันจะกลายเป็นอสูรพิทักษ์ของอาหมัน แม้ว่าแท้จริงนั่นคือเงาปีศาจ แต่ด้วยจิตสำนึกของขุนพลเทพดินศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนและเป็นการดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์ของอสูรพิทักษ์รุ่นปัจจุบัน  อาหมันจึงมีเอกลักษณ์ตนเองอยู่ครึ่งหนึ่ง การย้ายพลังจึงทำให้มันเป็นหมีแพลตตินัมจ้าวปฐพี ปากของมันเริ่มหลอมรวมกับพลังเสาห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ไปได้ในปริมาณน้อย แต่มันไม่เพียงแต่ไม่อ่อนแอเท่านั้น ยังมีพลังเท่ากับปราณฟ้าระดับห้า ทั้งมีศักยภาพจะได้เลื่อนระดับได้อีกต่อไป
กระดิ่งทองทั้งเจ็ดที่แต่เดิมแขวนอยู่ที่คอของอาหมัน ก็ลอยไปประดับอยู่ที่ข้อมือซ้าย
ที่ข้อมือขวาของนางสวมห่วงทองที่ได้จากวิหารทอรัส
เข็มขัดยักษ์ที่คาดเอวนางคลายตัวออกและลอยขึ้นคลุมร่างศักดิ์สิทธิ์ของอาหมันไว้พอดี  พลังห้าธาตุในเสาห้าธาตุถูกปลดผนึกอย่างสมบูรณ์ ส่องแสงเจิดจ้าจับตา
 “อาหมัน!  อี้หนานอดร้องเรียกอย่างตื่นเต้นมิได้
หลังจากร้องเรียกแล้ว นางกังวลเล็กน้อยทันที
ตอนนี้อาหมันไม่ใช่อาหมันคนเก่าอีกต่อไป ตอนนี้นางเป็นขุนพลเทพดินที่มีประกายศักดิ์สิทธิ์ในตัว!
อาหมันได้ยินเสียงร้องเรียก จากเดิมที่ยังหลับตา นางลืมตาทันทีพร้อมกับพลังเทพกระจายรอบตัวคลุมไปทั้งจุดพักอย่างน่าตกใจ  รัศมีเทพฉายผ่านสายตามนุษย์สั่นสะท้านหัวใจและวิญญาณทั่วหล้า เหมือนกับว่าตนเองได้รับการเทิดทูนบูชาจากโลก ไม่มีใครล่วงเกินสง่าราศีเทพได้
ประการแรกกระดิ่งทอง กำไลทองและเข็มขัดทองลอยขึ้นข้างหน้าทีละชิ้นๆ และสวมเข้ากับร่างศักดิ์สิทธิ์   คัมภีร์อัญเชิญชั้นแพลตตินัมปรากฏและเรียกหมีจ้าวปฐพีกลับเข้าไป
จากนั้นก้าวเดินเพียงก้าวเดียวก็ทำให้แม่น้ำและภูเขาสั่นสะเทือนได้
เย่ว์ปิงและอี้หนานตกใจทั้งคู่
จิตสำนึกของพวกนางถูกพลังเทพของอาหมันครอบงำ พวกนางจับมือและสั่นพลางตะโกน “ไม่เอานะ, อาหมัน! อย่าทำอย่างนี้...”
แม้ว่าตอนนี้อาหมันจะกลายเป็นขุนพลเทพดินที่มีประกายเทพ และมีศักดิ์ราศีระดับสูง แต่พวกนางยังหวังว่าอาหมันจะสามารถอยู่ร่วมกันได้กับพวกนางเหมือนแต่ก่อน ไม่ใช่น่ากลัวอย่างตอนนี้
อาหมันสามารถเดินตรงเข้ามาหาและจ้องมองเย่ว์หยาง
นางจะไปจากพี่ชายหรือ?
หลังจากเลื่อนระดับเป็นขุนพลเทพ นางจะทรยศพี่ชายและพ้นจากสภาพอสูรพิทักษ์หรือเปล่า?
เย่ว์ปิงคิดเช่นนี้ก็ยิ่งตื่นตระหนกในใจ นางขวางอยู่ข้างหน้าเย่ว์หยางพลางตวาดลั่น “อาหมัน, ไม่นะ, ขุนพลเทพดิน เจ้าสามารถไปได้ แต่เจ้าจะทำร้ายพี่ชายไม่ได้ เจ้าไม่อาจทำเช่นนั้น  แม้ว่าเจ้าจะเป็นอสูรพิทักษ์ของพี่ชาย  ตอนนี้เจ้าได้ประกายเทพไปแล้ว ถ้าเจ้าต้องการอิสระ เจ้าก็ไปได้เลย แต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายพี่ชาย!
ไม่ว่าอาหมันจะทรงพลังมากแค่ไหน  ตราบใดที่นางจะเข้าไปหาพี่ชายนาง เย่ว์ปิงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะสู้กับนางจนถึงที่สุด แม้ว่าจะเผชิญกับความตายอยู่ข้างหน้า นางจะไม่ยอมให้อาหมันผ่านนางไปได้
อาหมันเหยียดมือแผ่แสงศักดิ์สิทธิ์
เย่ว์ปิงลอยไปอยู่ด้านข้างอย่างช่วยไม่ได้  นางไม่ใช่คู่มือ
เมื่อนางเม้มปากด้วยความโกรธ นางทุ่มเทท่าร่างกลับพุ่งกลับหาอาหมัน และพบว่าอาหมันคุกเข่าอยู่ต่อหน้าพี่ชายนาง แต่หมัดของนางกำลังจะต่อยใส่อาหมันอย่างควบคุมไม่ได้ ยังดีที่เย่ว์หยางสกัดหมัดนางไว้ได้
 “นายท่าน” อาหมันเงยหน้าและทุกคนเห็นว่าใบหน้านางเต็มไปด้วยน้ำตา “อาหมันเป็นอสูรเทพได้แล้ว อาหมันเปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้แล้ว!
 “เจ้าพยายามอย่างหนักเหลือเกิน!  เย่ว์หยางยื่นมือเช็ดน้ำตาอาหมันซ้ำๆ อย่างอดทน แต่อาหมันยิ้มเหมือนกับเด็กที่หลงทางอยู่ในโลกมืดบอดและได้พบเห็นพ่อแม่ นางร้องไห้เหมือนเด็กเป็นเสียงร้องที่ออกมาจากหัวใจและวิญญาณที่บริสุทธิ์ เสียงดังก้องไปทั้งโลกบันไดสวรรค์
เย่ว์ปิงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย ยื่นมือกอดและขอโทษนาง  ทุกคนรายล้อมอาหมันพร้อมกับกล่าวขอโทษนาง
จนถึงตอนนี้นางโล่งใจไปโดยปริยาย
อาหมันจะไม่มีทางทรยศและไปจากพี่ชายนาง นางคืออสูรพิทักษ์ของพี่ชาย ไม่ว่านางจะกลายเป็นขุนพลเทพหรืออะไรอย่างอื่น เรื่องนี้จะไม่มีทางเปลี่ยน
แน่นอนว่านางมีบางอย่างที่นางไม่เข้าใจ ตัวอย่างเช่นอาหมันกลายเป็นอสูรเทพ ด้วยประกายเทพอย่างนี้ นางร้องไห้เศร้าโศกขนาดนั้นได้อย่างไร  นางควรจะมีความสุขไม่ใช่หรือ?  เย่ว์ปิงไม่เคยมีความรู้สึกเหมือนอาหมัน นางไม่มีทางเข้าใจ โคเงาเถื่อนที่อัปลักษณ์มีการเปลี่ยนแปลงเป็นมนุษย์และฝึกฝนหนักหน่วงอย่างต่อเนื่อง อาหมันไม่เคยเข้าใจมาก่อน แต่นางไม่มีภาวะอารมณ์อย่างเพียงพอ และนางไม่แสดงออกมาทางสีหน้า
การเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ของอาหมันต่างจากตั่วตั่ว ตั่วตั่วเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบ
เทียบกันแล้วการเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ของอาหมันนับว่าเร็วมากแน่นอน
อย่างไรก็ตามในบรรดาอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยาง นางไม่อาจเทียบได้กับตั่วตั่ว อาหง ยิ่งเทียบไม่ได้กับเสี่ยวเหวินหลีในทุกด้าน
นางเป็นโคเงาผู้อัปลักษณ์และมองว่าระดับอสูรเทพนั้นยากเย็นแสนเข็น
นางมีวันนี้ได้ด้วยความพยายามและการสนับสนุนจากเจ้านาย เมื่อระลึกถึงความเป็นไปได้ในทุกวิถีทางนางรู้สึกเศร้า เจ็บปวดแต่ก็มีความสุข แล้วจะไม่ให้นางร้องออกมาดังๆ ได้อย่างไร? นอกจากนี้หลังจากร้องไห้ครั้งนี้แล้ว อาหมันจะไม่มีทางร้องไห้อีก เพราะต้องกลายเป็นขุนพลเทพธาตุดิน ผู้ช่วยคนสำคัญที่สุดที่ขยันขันแข็งที่สุดของเจ้านายก็คืออาหมัน..”  เมื่อได้ยินเสียงอาหมันร้องไห้ระบายความอัดอั้นตันใจ ทุกคนรู้สึกตื้นตันใจ
อี้หนานและเย่ว์ปิงต่างกอดกันและอดลอบเช็ดน้ำมิได้
เย่ว์หวี่และอู๋เหินทำตาแดงพวกนางอดปลอบใจอาหมันไม่ได้  ราชันย์ปีศาจใต้ลอบกำหมัดและสาบานว่านางจะพยายามให้มากขึ้น! ที่อยู่ข้างเคียงเขาไม่ใช่แค่สตรีที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น  แม้แต่อสูรของเขาก็ยังยอดเยี่ยมพากเพียรมิย่อหย่อน นางเกรงว่าถ้านางไม่เพิ่มความพยายาม คงจะถูกทิ้งท้ายไว้ห่างไกล!

7 ความคิดเห็น:

WingF กล่าวว่า...

อือ แข่งกันเก่งอย่างนี้สงสารพวกศัตรูจริงๆ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ซึ้งกันไปอีก

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

มีเป้าหมายต่อไปแล้ว...นั่นคือถามหาพลังที่เหลือของอาหมัน

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chay กล่าวว่า...

พยายามเข้า

แสดงความคิดเห็น