ตอนที่ 903 ตอบโต้บ้าง
การปรับแต่งแร่หยดเพลิงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนอื่น
หนึ่งเดือนก็ยังไม่สามารถถลุงออกมาได้
การปรับแต่งแร่หยดเพลิงเหลวเป็นขีดจำกัดของนักรบแดนสวรรค์หลายคนไปแล้ว
แต่หลังจากที่ผลึกโลหะถูกปรับแต่งเจียระไนเป็นสภาพผลึกทอง
อนุภาคภายในถูกกลั่นครั้งแล้วครั้งเล่าจนสมบูรณ์แบบ
เป็นไปไม่ได้ที่ภารกิจนี้คนอื่นจะทำให้สำเร็จได้
แต่เย่ว์หยางมีเพลิงอมฤต นี่จึงเป็นเรื่องเล็ก
ในสายตาของเขาผลึกวิญญาณเพลิงดำที่ควักออกมาจากมารเพลิงดำ ยากจะกลั่นให้เป็นผลึกบริสุทธิ์อยู่บ้าง
เพราะมีพลังเจตจำนงและวิญญาณที่แข็งแกร่ง
ขณะที่กุ่ยหยินไฟปกติจะอยู่ในสภาวะที่สงบ แต่เมื่อความสงบถูกทำให้เสียสมดุล
มันจะปล่อยพลังระเบิดที่น่ากลัวออกมา นั่นคือปัญหาที่แท้จริง
ถ้าในการประเมินของเจ้าเด็กจากมิติอื่น
เขาคิดว่าการกลั่นเจียระไนแร่หยดเพลิงถือว่ามีความยากระดับ G ในบรรดางานยากทั้งหมด ลำบากแค่เพียงยกมือ,
ส่วนการกลั่นชำระผลึกเพลิงดำลำบากไม่สูงนัก จัดเข้าในระดับ D ขณะที่กุ่ยหยินไฟ
เปลวเพลิงที่ไม่ธรรมดานี้เย่ว์หยางต้องการดูดซับพลังของมัน
มีความยากอย่างน้อยระดับ AAA ต่ำกว่าระดับ S (ยากเป็นพิเศษ) เพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้การปรุงหญ้าวิญญาณเทพอัคคีอาจจะพบกับความล้มเหลวได้มากที่สุด เมื่อจัดการกับกุ่ยหยินไฟล้มเหลว นั่นจะต้องเผชิญหน้ากับระเบิดครั้งใหญ่!
ในห้องค้นคว้าของวังเทียนหลัวไม่มีทางจะเอามาทดลองการดูดซับพลังกุ่ยหยินไฟได้
ทันทีที่มันปล่อยพลังระเบิด
เกรงว่าวังเทียนหลัวทั้งหมดคงราบเป็นหน้ากลอง
เว้นแต่อาคารมิติกระจกที่มีชั้นพลังปกป้องอย่างดี นอกนั้นจะถูกพลังระเบิดกวาดล้างจนไม่เหลืออะไร
การเสี่ยงภัยเป็นนิสัยของเย่ว์หยาง
ถ้าเขานำมันกลับมาด้วยเพื่อทำเป็นแค่เครื่องประดับ
อย่างนั้นเย่ว์หยางคงไม่ต้องพบกับความเจ็บปวด
มันต้องเป็นของมีประโยชน์ เย่ว์หยางถึงลุ่มหลงสนใจ
จุ้ยมาวอี้เสนอขอให้ไปฝึกที่บันไดสวรรค์ชั้นห้า
ตรงจุดที่พังทลายจากการรุกรานของจักรพรรดินีฟ้า
ในกรณีที่เกิดการระเบิดจะได้ไม่ต้องเสียหายอะไรมากต่อไป
“เหมียวเหมียว!
เจ้าถอยห่างกว่านี้อีกได้ไหม
ถ้าหากทดลองล้มเหลวขึ้นมาข้าจะทำอะไรไม่ได้”
เย่ว์หยางแนะนำให้นางออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่จุ้ยมาวอี้ยืนยันจะอยู่ต่อ นางให้เหตุผล
“ข้าต้องการอยู่ ดังนั้นเจ้าห้ามล้มเหลว! ใช่แล้ว
นี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าไงเล่า! ข้ายังจำได้ว่าที่หุบเขาเพลิงดำ มีคนหลอกลวงข้าบอกว่าใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ผลก็คือทำให้ข้ากลัวแทบตาย และข้ายังได้บรรลุพลังระดับใหม่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนั้น..”
“ข้าแตกต่างจากเจ้า ข้ามีไหวพริบเร็ว
ไม่เหมือนเจ้าอกโตสมองช้า อ๊า.. ข้าพูดผิด ข้าหมายถึงเจ้าหุนหัน! อย่าเข้าใจผิด เมื่อครู่นี้ลิ้นมันพันกัน ไม่..
อย่าทำเสียงดุอย่างนั้น แค่ลิ้นมันพาไปเอง!”
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม
เจ้าเห็นว่าข้าไม่พอใจงั้นหรือ? ต่อให้ข้าฆ่าเจ้า งั้นข้าก็ไม่ผิด!”
“อย่าค่อนแคะนักเลยน่ะ เหมียวเหมียว!”
“……”
ผ่านไปอีกหนึ่งวันเย่ว์หยางโชคร้ายทดลองพลาดถึงสามครั้ง
และตัวเขาดำไหม้เป็นตอตะโก โผล่ให้เห็นแต่ฟันขาวและลูกตาเท่านั้น
เขาล้มลงในอ้อมกอดจุ้ยมาวอี้และอดหอบหายใจมิได้
แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้
แต่น่าเสียดายที่เขาเหน็ดเหนื่อยเกินไป เหนื่อยจนกระดิกนิ้วยังจะไม่ไหว
ไม่มีแรงเหลือสำหรับโอกาสที่ยอดเยี่ยมนี้
ทุกครั้งจะมีความผิดพลาดเล็กๆ
น้อยๆ
เย่ว์หยางผิดพลาดเล็กน้อยในการหาสมดุล
แต่ลงท้ายด้วยความล้มเหลว
เพราะจุ้ยมาวอี้อยู่กับเขาด้วย
เขาจึงไม่สามารถหลบได้
ได้แต่ต้องป้องกันนางไว้ก่อน เป็นผลให้เขาโดนระเบิดอย่างเต็มที่
“เจ้ายังไม่ตายใช่ไหม?” จุ้ยมาวอี้จู่ๆ ก็ถามขึ้น
“คงไม่นาน”
เย่ว์หยางกล่าวเสียงอ่อนล้า
ถ้าเขาอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา
แม้ว่าจะสำลักตายคาอกก็คงมีความสุข
จุ้ยมาวอี้แบกเขาขึ้นไหล่
มืออีกข้างหนึ่งเปิดม้วนเทเลพอร์ต
นางข้ามผ่านประตูเทเลพอร์ตไปที่บ้านในสวนน้อย
เพราะสาวๆ กำลังฝึกอยู่ในโลกพฤกษา
ดังนั้นบ้านสวนน้อยที่นี่จึงไม่มีใครอยู่เป็นเวลานาน มีบางครั้งบ่าวรับใช้จะเข้ามาทำความสะอาดกำจัดหยากไย่แมงมุม
เผื่อว่าเจ้านายจะสามารถกลับมาพักได้ทุกเมื่อ
แทนที่จะพาเขาเข้าบ้าน
นางตรงไปที่ทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลนัก
จากนั้นให้เย่ว์หยางได้อาบน้ำ
นางทำตัวเหมือนภรรยาปรนนิบัติสามีผู้เดินทางไกล
ขัดสีฉวีวรรณให้เย่ว์หยางเป็นอย่างดี
การกระทำเช่นนี้ทำให้เย่ว์หยางคาดไม่ถึง
พอเขาเริ่มฟื้นคืนพลังได้เล็กน้อย เขาจับมือนางที่สั่นเล็กน้อย “เหมียวเหมียว
เจ้าจะทำอะไร?”
จุ้ยมาวอี้ก้มหน้าพยายามจะไม่อาย นางพูดเสียงเบาเหมือนกับยุง “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการทำอะไร
เจ้าต้องการความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เจ้ามีเวลานี้ ดังนั้นข้าจึงต้องทำ!”
“เจ้ายังไม่พร้อมเลยใช่ไหม?” เย่ว์หยางพูดอย่างสงสัย
“ตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว!” จุ้ยมาวอี้ยืนขึ้นทันทีและเสื้อผ้าเผชิญหน้าเย่ว์หยางอย่างกล้าหาญมองเห็นร่างเปลือยขาวปานหิมะและยั่วยวนของนาง
นางเห็นท่าทางตะลึงของเย่ว์หยางนางหันหน้าไปทางอื่นทันที “อย่ามองนะ ไม่อย่างนั้นข้าคงเสียใจ”
“เหมียวเหมียว! ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ...” เสียงของเย่ว์หยางอ่อนลงทันที “เราสามารถทำเช่นนั้นได้
แต่ไม่ใช่เพราะเพื่ออะไร”
“เรื่องมากจริงๆ ข้าไม่คิดว่าเป็นอะไรทั้งนั้น!” จุ้ยมาวอี้พยายามต้านความเขินอายและให้เขาหันหน้ากลับไปทางอื่นอีก
ห้ามมอง!
“เจ้าต้องการทำอย่างนี้จริงๆ หรือเหมียวเหมียว?”
“อย่างนั้นข้าจะใส่เสื้อผ้า!”
“ไม่ต้อง...”
เมื่อทั้งสองคนกำลังนอนอยู่บนเตียง
จุ้ยมาวอี้พูดขึ้นมาทันที “ดูเหมือนว่าไม่ทันมีความรักความคืบหน้าอย่างนี้เร็วเกินไปหรือเปล่า?”
เย่ว์หยางอดหลั่งเหงื่อมิได้
เมื่อเจ้ามาถึงประตู
เจ้าบอกว่าสายเกินไปหรือเปล่า? และนี่ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว
เขารีบอธิบายกับนาง
“ความจริงยังไม่นับว่าเร็วเกินไป ความก้าวหน้าของเราดำเนินไปถูกต้องแล้ว นอกจากนี้นี่จะไม่ดีได้ยังไง
เรายังรักกันได้หลังจากแต่งงานแล้ว!”
แม้ว่ามองภายนอกจุ้ยมาวอี้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงนางทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล “เหตุการณ์อย่างนี้
เจ้าได้เห็นเรือนร่างของข้าแล้ว
ข้าได้เห็นเจ้า ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ ต่อไปเจ้าจะพูดยังไง? เจ้ามีประสบการณ์ บอกมาก่อนว่าเจ้าจะใช้แผนอะไร แต่สิทธิ์ในการตัดสินใจและดำเนินการสุดท้ายเป็นของข้า ถ้ามันเจ็บ ข้าจะยกเลิกแผนนั้นทันที!”
“เจ้าตัดสินใจได้ แต่มันจะไม่ได้ผลแน่นอน เพราะเจ้าจะไม่สามารถทำอะไรได้...” เย่ว์หยางเสนอแนะ “ข้าจัดการได้ รับรองไม่มีปัญหา”
“เตือนเจ้าไว้ก่อน, เจ้ามีสิทธิ์แค่แนะนำเท่านั้น มิฉะนั้นเจ้าจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!” จุ้ยมาวอี้แทบไม่อาจต้านทานมือที่ซุกซนของเด็กหนุ่มจากมิติอื่น
นางได้แต่เตือนเขาให้ดำเนินการตามแผนเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย
“ทำอย่างนี้ เจ้าไม่ใช้แผนบ้าบอนั่นอีกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นหน้ามืดจนไม่มีเวลาคิด
“ข้าจะทำอะไรก็ทำได้อย่างนั้นหรือ?” จุ้ยมาวอี้หอบหายใจถาม
“งั้นใช้อกเจ้ามาทรมานข้าได้เลย!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นแนะนำ
“……”
หลังจากผ่านไปสิบนาทีกับความรู้สึกที่เป็นสุข
จุ้ยมาวอี้รู้สึกว่าไม่เลว
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
ภายใต้คำแนะนำของเสือผู้หญิงที่นางรัก
เขาแสดงให้เห็นความสุขระดับสูงสุด แม้จะพยายามทำตามเขาและจูบเขาหลายครั้ง นางฟังคำแนะนำของเขา
บางอย่างก็ทำ บางอย่างก็ไม่ทำ นางไม่พูดถึงเหตุผลหลักว่ากลัวสกปรก
แต่นางกลัวว่าจะทำให้นางเจ็บหรือดูเหมือนคนโง่
การคาดหวังก็ทำให้นางทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล
ข้อเสนอแรกของนาง
“อย่างนี้สบายมากอยู่แล้ว
แต่เจ้านั่นแหละที่เหนื่อย
เจ้านอนเถอะ ข้าจัดการให้เอง!”
เด็กหนุ่มจากมิติอื่นฝืนยิ้มและถาม “เจ้าน่ะหรือ? ข้ายังจัดการเองได้อยู่
ไม่เกี่ยวกับว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยเลย”
เมื่อเห็นวายร้ายสุดที่รักของนางเหมือนกับจะปรามาสนาง
นางแค่นเสียงไม่พอใจทันที
“เจ้าก็ทำอย่างนี้ไม่ใช่หรือ ถึงข้าจะไม่คล่อง
แต่ข้าก็มีสัญชาตญาณของผู้หญิง อย่าดูแคลนข้าได้ไหม? ห้ามขยับมือเจ้า
มันทำให้ข้าอ่อนแรง นี่เป็นครั้งแรกของข้า!”
เย่ว์หยางได้แต่ส่งเสริมนาง แต่นางกลัวว่านางจะล้มเหลว
เมื่อนางทำท่าจะล้มเหลว
เขาจะกระซิบข้างหูนาง
เหมือนครูฝึกทหาร
คอยให้คำแนะนำ
นางพยายามอยู่หลายครา
และสมหวังกับตัวร้ายที่นางรักได้ในที่สุด
หลังจากนั้นชั่วครู่
นางจึงเอ่ยขึ้นก่อน “หมดฤทธิ์แล้วหรือ?”
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นตอบ
“ข้ายังจะกลับมาได้อีก...”
สาวน้อยผู้มีประสบการณ์รักเป็นศูนย์ข่มความอายถามต่อ
“ต่อไปเอายังไง?”
“โอว? เจ้าไม่เจ็บหรอกหรือ?”
“ก็เจ็บอยู่,
แต่นี่น่ากลัวว่าจะอึดอัดหรือเปล่า?
ข้าหมายความว่าเจ้าจะอึดอัดหรือเปล่าเมื่อเจ้าอยู่เฉยๆ?”
“ใครเขาเป็นอย่างนี้เล่า? ช่างเถอะ, เหมียวเหมียว
ยังมีหลายอย่างที่เจ้าต้องเรียนรู้ มาเถอะ ข้าจะค่อยๆ สอนเจ้า!”
“อย่างนี้แหละ มันง่ายมากอยู่แล้ว ข้าเองก็ทำได้
โอ๊ว.. อย่ารุนแรงนักสิ, ... อย่างกะเสือแก่ โอวสวรรค์.. อย่าทำอย่างนี้ ข้าอึดอัด...รุนแรงอีกแล้ว โอว..อู๋เหินนางทนรับได้ยังไงกันนี่..
อีกแล้ว..ข้าขอร้องเจ้า
ให้ข้าลองทำบ้าง...”
“ความจริงก็เริ่มต้นจะดีแล้ว นี่แค่อุ่นเครื่องเล็กน้อย!”
“นี่แค่เริ่มต้นงั้นหรือ? โอวสวรรค์
แล้วข้าจะมีชีวิตรอดไหมนี่ ให้ข้าพักก่อน
ไม่อย่างนั้นข้าคงตายแน่
ตอนนี้ร่างกายของแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!”
“ร่างกายจะระเบิดได้ยังไง..
นี่อาจเป็นเพราะตัวเจ้ามีสัมผัสทางกายภาพที่อ่อนไหว..”
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกระซิบข้างหูจุ้ยมาวอี้แผ่วตำราเล่มหนึ่งมิสู้เรียนจากการทำจริง นางอายซุกหน้าซ่อนอยู่ในอ้อมอกเขา
ทั้งยกมือทุบเขาปฏิเสธอย่างแง่งอน “ไม่
ข้าไม่ได้มีร่างกายแบบนั้น ข้าบอกว่าอึดอัดก็อึดอัด...”
หลังจากราตรีที่ยาวนาน
จุ้ยมาวอี้ค่อยๆ ลืมตาและพบว่านอนอยู่ในอ้อมอกเขา
เด็กคนนี้เหมือนผีตะกละ
กินเท่าใดก็ไม่รู้จักอิ่ม
นางลังเลที่จะหาเรื่องทะเลาะ
ในที่สุดนางจูบเขาด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งชัง
การกระทำที่รุนแรงของนางปลุกเย่ว์หยางให้ตื่นขึ้น
เขาคว้าตัวนางและจูบตอบจนแทบหายใจไม่ออก
จุ้ยมาวอี้กำลังจูบเขา
จู่ๆ เย่ว์หยางก็ร้องขึ้น “อ๋า.. เมื่อวานนี้ข้าลืมใช้การฝึกพลังปราณคู่รัก
ลืมสนิทจริงๆ”
เย่ว์หยางหัวเราะ “ไม่เป็นไร ลืมทำเมื่อวานนี้ งั้นมาทำกันต่อวันนี้ก็ได้!”
จุ้ยมาวอี้สับสนเล็กน้อย
คิดอยู่เป็นเวลานานเขาคงสับสนในสมอง
ตอนนี้เขากับนางเป็นสามีภรรยากันแล้ว
แต่ยังกังวลว่าความรักยังจะหวานไม่พออีกหรือ? นางเข้าใจและมั่นใจ มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า
“เจ้าต้องการก่อกวนอีกหรือ? ไม่, เมื่อวานนี้ไม่นับ, ข้าต้องเป็นฝ่ายรุกเจ้า....”
8 ความคิดเห็น:
เฮๆๆสำเร็จแล้ว...แม่แมวขี้เมาเป็นของเย๋ว์หยางแล้ว
ขอบคุณหลายๆ
เหมียว เหมียว เสร็จไอ้สามจนได้
ใจจ้า
ขออีก
พี่เย่วเสดเหมียวๆแล้ว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
แสดงความคิดเห็น