วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 922 ขาดไม่ได้


ตอนที่  922  ขาดไม่ได้
เจ้าเมืองจินหยางชื่อฟงจี มีบุคลิกเหมือนนักสู้ เพียงแต่มีพลังระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้น


พลังระดับนี้ นอกจากภูมิภาคสวนสวรรค์แล้ว  ถ้าเขาไปเป็นเจ้าเมืองที่อื่นคาดได้ว่าเขาคงจะถูกกลุ่มโจรฆ่าตายเป็นแน่  แต่เมืองหลายสิบเมืองโดยรอบ พลังอย่างเขาอาจกล่าวได้ว่าเป็นห้าสุดยอดฝีมือในแถบนี้  ในภูมิภาคสวนสวรรค์ยิ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ราชา นั่นจะเป็นเขตสงครามอย่างเป็นทางการ และมีเจ้าเมืองที่มีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่า แนวเขตที่สอง แนวเขตที่สามจะเป็นเจ้าเมืองที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามโดยตรง ส่วนใหญ่มีพลังระดับต่ำกว่าปราณฟ้า พลังปราณดินระดับหกก็มี
ฟงจีไม่ใช่เจ้าเมืองคนเก่าของเมืองจินหยาง
เขาเป็นนักเดินทางที่เข้ามาฝึกฝนในภูมิภาคสวนสวรรค์  เพราะเจ้าเมืองจินหยางคนเก่าถูกฆ่า  องครักษ์และพ่อบ้านของเจ้าเมืองถูกฆ่าจึงไม่มีใครรับผิดชอบทำหน้าที่เจ้าเมือง  ดังนั้นเขาจึงรับหน้าที่นี้ไว้เอง
นักผจญภัยอย่างเขาประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าจะหาได้ยากในภูมิภาคสวนสวรรค์
แม้ว่าพลังและคุณสมบัติของเจ้าเมืองรอบนอกภูมิภาคสวนสวรรค์จะไม่สูงมาก  แต่ยังมีตำแหน่งเจ้าเมืองสองสามแห่งที่ยังว่างอยู่และไม่มีใครยอมรับภาระความยุ่งเหยิงไว้ดูแล  ตัวอย่างเช่นไม่ไกลจากเมืองจินหยาง ยังมีเมืองหยางถี เพราะขาดแคลนแร่ธาตุ เป็นดินแดนกันดาร เกิดภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น ประชาชนถูกรีดนาทาเร้นอย่างหนักต้องตกอยู่ในสภาพแร้นแค้นฝืดเคือง  ดังนั้นไม่มีใครต้องการไปปกครองที่นั่น  มีแค่กองทหารเล็กๆ ทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมาย  หากกลุ่มพ่อค้าธุรกิจจากภายนอกจะส่งตัวแทนมารับหน้าที่เจ้าเมือง นั่นเป็นเรื่องที่นิยมทำกันมากในภูมิภาคสวนสวรรค์  ความแข็งแกร่งยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ  แต่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการรบ  นอกจากนั้น ฝ่ายปกครองเหนือกว่านั้นจะไม่ก้าวก่ายถึงการกระทำของเจ้าเมืองระดับล่างๆ
อาจกล่าวได้ว่าสถานที่อย่างเมืองจินหยางและเมืองหยางถีทั้งสองเมืองรอบนอกนี้ ขาดแคลนรายได้พิเศษและถูกลืมเลือนมานานแล้ว
 “เจ้าจะให้ข้าไปแลกเปลี่ยนอาหารมากมายขนาดนั้นได้ที่ไหน?  ข้าเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน!  ฟงจีโมโหพ่อบ้านซาทง  “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากสนใจพลเมืองเหล่านั้น  แต่มันไม่มีทาง!  ข้าวชุดสุดท้ายมอบให้พวกเขาไปเพาะปลูกแล้ว  ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนพวกนี้ไม่รู้วิธีทำการหว่านไถหรือเพราะเมล็ดพันธุ์พืช ทั้งตระกูลของข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน  ข้าเองเป็นทหารรับจ้าง เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ที่นี่  ข้าไม่ต้องการทำงานเป็นเจ้าเมือง  แต่ที่นี่สับสนเกินกว่าข้าจะทนดูอยู่เฉยๆ ข้าถึงได้ยอมมีส่วนร่วมในเมืองนี้  ตอนนี้เจ้าต้องการให้ข้าหาอาหาร หาเมล็ดพันธุ์พืช เจ้านึกว่าข้าเป็นเทพเจ้าหรือ?  เจ้ารู้ไหมว่าข้ามีเงินเหลืออยู่ในคลังเท่าไหร่  เงินก้อนสุดท้ายส่งให้พ่อค้าหน้าเลือดซื้อเมล็ดพันธุ์พืชมาไงเล่า  ตอนนี้เมล็ดพันธุ์พืชหายไปแล้ว แม้แต่ต้นกล้าก็ยังไม่เห็น นี่ยังตำหนิข้าอีกหรือ?  เจ้าจะทำยังไงก็ทำไปเถอะ ส่วนข้าพอแล้ว!
 “นายท่าน, ถ้าไม่มีอาหาร ข้ากล้าพูดได้ว่าอย่างน้อยเดือนหนึ่ง เมืองจินหยางจะมีคนอดตายกว่าครึ่ง!  พ่อบ้านซาทงฝืนใจพูด  และเขารู้ถึงความยากลำบากของเจ้าเมือง   แต่นอกจากแบมือขอจากเขา  เขาจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก?  ที่สำคัญฟงจีเป็นเจ้าเมือง และเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด!
 “ก็ข้าไม่รู้ว่าต้องทำยังไง!  ฟงจีโวยวาย  “ข้าเองก็กินดื่มอย่างประหยัดมาถึงสามเดือนแล้ว ข้าไม่เคยกินอาหารได้เต็มมื้อ  เจ้าเมืองที่อัตคัดอย่างนี้ไม่มีทางทำอะไรได้อีก  เจ้าไปเลือกเจ้าเมืองอื่นที่เจ้าชอบใจมาทำงานเถอะ  ข้าไม่มีความสามารถช่วยให้คนเป็นแสนได้อิ่มท้องได้!
 “เรื่องนี้...”  พ่อบ้านซาทงได้แต่ถอนหายใจ
เขารู้ความยากลำบากของฟงจี  เพราะเขาไม่มีความสามารถเลี้ยงปากท้องของคนเป็นแสนๆ ได้
ปัญหาขาดแคลนอาหารไม่ใช่แค่ปัญหาในเมืองจินหยาง  แต่เป็นปัญหาทั้งภูมิภาคสวนสวรรค์  ยกเว้นบางพื้นที่ที่งดงามของภูมิภาคสวนสวรรค์  ทุกแห่งล้วนยากจนแร้นแค้น
ในสงครามบุรุษผู้ใช้แรงงานล้มหายตายจากในสนามรบ ที่เหลืออยู่ในพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นคนคนชรา เด็กและสตรีอ่อนแอ  นอกจากผู้พิการหรือคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง  ผู้ใหญ่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี  ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดตราบใดที่มีกำลังรบได้ จะถูกส่งไปยังค่ายทหารในพื้นที่สงครามเพื่อทำการรบ  ไม่รู้ว่าการรบชิงดินแดนของจักรพรรดิแดนดินจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
อาหารกำลังจะหมด และไม่มีพืชพันธุ์ นั่นหมายความว่าการเก็บเกี่ยวต่อไปจะเป็นศูนย์
หนึ่งเดือนต่อมา เปลือกไม้และปศุสัตว์จะถูกนำมากินหมด  ในที่สุดผู้หิวโหยนับแสนคนจะต้องผจญกับทุพภิกขภัยที่โหดร้ายเช่นเดียวกับเมืองหยางถี
มิคสัญญีคนกินคน... สถานการณ์น่ากลัวแบบนั้น ซาทงไม่เคยเห็นสักครั้ง
หรือว่าเมืองจินหยางจะกลายเป็นสถานที่กองไปด้วยซากศพและโครงกระดูก?
 “ท่านเจ้าเมือง! มีข่าวดี มีข่าวดีมาบอก!  โอโบ้พ่อค้าข้าวที่ยากจนที่สุดในโลกวิ่งเข้ามาชนซาทงจนล้มลงกับพื้น
 “โอโบ้, มีพ่อค้าเข้ามาหรือ? มหัศจรรย์จริงๆ ยังมีพ่อค้ายินดีเข้ามาในพื้นที่ยากจนของเราอีกหรือ?”  ซาทงยังไม่ทันลุกขึ้นก็คลานไปฉุดขาของโอโบ้โดยตรง
 “พ่อค้านั้นอยู่ที่ไหน?”  ฟงจีดีใจ แต่หลังจากถามประโยคนี้แล้ว เขามีสีหน้าขมขื่นปวดร้าว  “เราไม่มีเงินแล้ว”
 “ไม่มีเงิน  แต่พวกเขาไม่ได้ต้องการเงิน!  โอโบ้ส่ายหน้าและโบกมือ
 “โลกนี้ยังมีพ่อค้าที่ไม่ต้องการเงินอีกหรือ?”  ฟงจีไม่เชื่อ 100% ว่าจะมีพ่อค้าที่ไม่ชอบเงิน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงสุกรทั่วโลกคงปีนต้นไม้ได้กันหมด!
 “ใช่ ใช่แล้ว พวกเขาไม่ต้องการทองของพวกเราสักเหรียญ  ไม่ได้ต้องการผลึกปีศาจ  บอกตามตรงผลึกปีศาจของเราคุณภาพต่ำ ให้ฟรีๆ ก็ไม่มีใครต้องการ เจ้าไม่มีทางนึกภาพออกได้เลยว่ากลุ่มธุรกิจแบบไหนที่มาหาเรา มีเรือบรรทุกธัญพืชถึงห้าสิบลำและสิบลำเต็มไปด้วยเหล้าชั้นดี  พระเจ้า!  ถ้าสินค้าเหล่านั้นสามารถเข้าไปในเขตสงครามได้  ข้ากล้าพูดได้เลยว่าแม้แต่ราชาก็อาจกระอักเลือดได้... ข้าพูดจบแล้ว ตอนนี้กลับไปทำการค้ากันเถอะ  พวกเขาไม่ต้องการเงินของเรา ตราบเท่าที่เราเอาอาวุธต่างๆ ในสนามรบกลับมาได้”  โอโบ้พูดอย่างมีความสุข และคำพูดของเขาไม่ปะติดปะต่อ
 “เจ้าโง่หรือเปล่า?  เราอยู่ในเมืองรอบนอก ไม่ได้อยู่ในเขตสงคราม เราจะได้อาวุธมาจากที่ไหน?  นอกจากนี้นั่นยังเป็นสินค้าต้องห้าม  ผู้ใดทำการค้าขายจะต้องถูกประหาร”  ซาทงปฏิเสธความเป็นไปได้กับข้อตกลงเช่นนั้น
 “ถูกแล้ว  เจ้าพูดถูก แต่สิ่งที่ข้าต้องการพูดก็คือพวกเขาต้องการอาวุธ  เป้าหมายของพวกเขาคืออะไร?  แร่ดอกไฟฟ้า  อาวุธธรรมดาพวกเขาไม่สามารถมองออกได้  เราใช้แร่ดอกไฟฟ้าในการแลกเปลี่ยนอาหารและธัญญพืช  ท่านเจ้ามืองกับพ่อบ้านซา  พวกท่านคิดดู เรือสินค้าห้าสิบลำแต่ละลำกว้างร้อยเมตร  ถ้าเราได้มาจะไม่มีปัญหาอะไรในเมือง!  โอโบ้รีบอธิบายโดยเร็ว
 “ข้าบอกแล้วโอโบ้  เจ้าพูดเบาลงอีกนิด  แร่ดอกไฟฟ้าเป็นของต้องห้ามซื้อขายจากจักรพรรดิแดนดิน....” ซาทงคิดว่าเวลานี้หัวใจเต้นเหมือนกลอง  แต่เขาไม่ปฏิเสธว่าเขาตื่นเต้น
จะมีอะไรน่ากลัวยิ่งไปกว่าอดจนตาย?
ไม่มีเลย!
ยอมถูกตัดหัว ก็ยังดีกว่ากินอิ่มท้องแล้วกลายปีศาจร้าย!
โอโบ้มองดูซาทงผู้ซื่อสัตย์ อ่อนเสียงลงเล็กน้อย  เขารีบตีเหล็กขณะที่ยังร้อน  “เราไม่ได้ทำการค้า, ท่านเจ้าเมือง เราแค่แสดงน้ำใจต่อแขกชั้นสูง เป็นการสร้างมิตรภาพ เราแค่ให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แก่อีกฝ่ายหนึ่ง  และอีกฝ่ายก็จะบริจาคอาหารและพืชพันธุ์ที่จำเป็นต่อเรา  แม้ว่าท่านจะทราบข้อมูลจากเบื้องบน  แต่ข้าเชื่อว่าจะไม่มีการสงสัยอะไรมากมาย ที่สำคัญมีการขาดแคลนอาหารและพันธุ์พืชไปทั่วทุกหัวระแหง แม้แต่ราชาก็ยังปวดหัวกับเรื่องนี้!
ฟงจีคิดว่าแนวคิดเช่นนี้ไม่เลว
ก็แค่ห่วงว่าคลังของเมืองจินหยางมีแร่ดอกไฟฟ้าอยู่เพียงเล็กน้อย จะสามารถแลกอาหารได้มากน้อยเท่าใด?
ไม่ว่ายังไงทำให้ฝ่ายตรงข้ามมั่นใจเสียก่อน  ถ้าอีกฝ่ายออกเรือจากไป  อย่างนั้นทุกอย่างเป็นอันจบ
ทั้งสามคนตัดสินใจเสี่ยงและดึงพ่อค้าอื่นในเมืองเข้ามาร่วมอีกสองสามคน พวกเขายากจนผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกพอๆ กัน และร่วมกันเดินทางไปเยี่ยมหัวหน้ากลุ่มธุรกิจพร้อมกัน  อย่างไรก็ตามนี่เป็นธุรกรรมเสี่ยงตาย ทุกคนตกลงใจว่าตายก็ตายด้วยกัน  รอดก็รอดด้วยกัน จะไม่มีผู้ใดตกหล่นไปได้
เมื่อพวกเขาเห็นเรือสินค้าห้าสิบลำ แม้แต่ฟงจีเจ้าเมืองจินหยางยังอดน้ำลายหกไม่ได้ แม่มันเถอะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นเจ้าเมือง
ถ้าก่อนนี้เขาเป็นโจร ก็นับว่าได้พบแกะอ้วนแล้ว
ไม่ต้องทำการค้า
การค้าที่ต้องเสี่ยงยิ่งกว่าโดนประหารชีวิต
เมื่อเขาเห็นผู้คุ้มกันของฝ่ายตรงข้าม มีนักสู้ปราณฟ้าถึงห้าคน เขาตกใจกลัวในทันที  นี่ถ้าเขาปล้นจริงๆ คงถูกถลกหนังเป็นแน่!  เรือสินค้าห้าสิบลำ กับนักสู้ปราณฟ้าอีกสองสามคนแม้ว่าจะได้รับการคุ้มกันจากราชโองการของจักรพรรดิแดนดิน ก็ไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่กลางสมรภูมิได้  อย่างไรก็ตามกลุ่มการค้าไตตันนี้โผล่มาจากไหน? มีนักสู้ปราณฟ้าถึงห้าคนเป็นคนคุ้มกัน ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่มากไม่ด้อยไปกว่าสิบสุดยอดกลุ่มการค้าใหญ่!
 “ท่านคือเจ้าเมืองใช่ไหม?  ข้าจะไม่พูดอะไรเกินจำเป็นต่อไป ความต้องการของเรานั้นง่ายมาก ตราบใดที่ท่านเอาแร่ดอกไฟฟ้ามาได้ เราสามารถจัดหาอาหารและเพิ่มด้วยเมล็ดพืชพันธุ์ธัญญาหารอีกด้วย! เปากู่แสดงจุดยืน ตราบใดที่ได้แร่ดอกไฟฟ้า เรื่องอื่นๆ ไม่ใช่เรื่องยาก
 “พืชพันธุ์” ฟงจีได้ยินถึงกับหัวใจเต้นแรง ในภูมิภาคสวนสวรรค์ พืชพันธุ์คือรากฐานของชีวิต ชีวิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเมล็ดพืชพันธุ์
 “แร่ไฟฟ้าของเราไม่ค่อยบริสุทธิ์นัก  และราชาจะรวบรวมแร่นี้ทุกๆ สามเดือน คลังเก็บของเราอาจจะมีไม่พอ”  พ่อบ้านซาทงโค้งศีรษะคำนับ
เขาต้องก้มศีรษะ
เพราะเขาเห็นแล้ว ฝ่ายตรงข้ามเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ดูโอ่อ่าเป็นพิเศษ น่ากลัวว่าเขาจะไม่สนใจสินค้าในคลังของเมืองจินหยาง
ตราบเท่าที่เรือเหาะแล่นเข้าไปในเขตสงคราม ราชาคงต้องทะเลาะกันแย่งกันซื้อขายแร่ดอกไฟฟ้าอยู่ดี
แม้จะเป็นข้อห้ามของจักรพรรดิแดนดิน  ทุกอย่างก็ควรมีข้อยกเว้นไม่ใช่หรือ?
อย่างกลุ่มการค้าใหญ่ที่มั่งคั่งนี้ โดยทั่วไปจะได้รับการอนุมัติเงื่อนไขจากจักรพรรดิก็ยังได้  “เราไม่ชอบของคงคลังเล็กๆ น้อยๆ เราต้องการแร่ดอกไฟฟ้าจำนวนมาก!  เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์พูดกับฟงจี, โอโบ้ ซาทงจนแทบจะหมดหวัง  พวกเขาขอร้อง  เจ้ากบอ้วนโบกมือและทำตามแผนต่อ  “มิฉะนั้นก็ให้เราลงทุนทำเหมืองแร่ที่นี่ พวกเจ้ารับผิดชอบหาแรงงานให้ เราจะจัดอาหารให้เจ้า ใช้ค่าจ้างแลกเปลี่ยนข้าว  ในระหว่างนี้เราสามารถช่วยจัดเมล็ดพันธุ์พืชบางส่วนให้เจ้า  ในทางกลับกัน เจ้าส่งคนมาช่วยให้มากที่สุด สำหรับความบริสุทธิ์ของแร่ดอกไฟฟ้า ไม่รบกวนให้พวกเจ้าเป็นห่วง”
 “ไม่มีปัญหา  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรามีกำลังคนที่นี่!  โอโบ้เกรงว่าฟงจีและซาทงจะลังเล จึงรีบตอบตกลงด้วยตนเอง
 “เมืองจินหยางแห่งนี้ ข้าขอยกให้เจ้า ข้าเป็นเจ้าเมืองที่ไร้ความสามารถ  นอกจากนี้พวกเจ้าทุกคนแข็งแกร่งมากกว่าข้า เจ้าส่งใครก็ได้มาเป็นเจ้าเมืองจินหยาง เจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร?  ฟงจีรู้สึกว่าคนผู้นี้มีเงินมากพอจะเป็นเจ้าเมือง เขายังไม่มีแม้กระทั่งเกราะทองเหมือนกับฝ่ายตรงข้าม
เขาถอดแหวนเจ้าเมือง เครื่องแสดงสถานะเจ้าเมือง และส่งมอบให้เจ้ากบจั๊ดด์
เขาจับมือเปากู่อีกครั้ง  “หัวหน้า!  ข้าขอสมัครเป็นหน่วยคุ้มกันของท่านในที่นี้ได้ไหม?”
ความเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าแล่บของคนผู้นี้ทำให้เปากู่และจั๊ดด์จ้องมอง
อย่างนี้ก็มีด้วยหรือ?
ซาทงและโอโบ้ร้องลั่นเหมือนคนคับแค้น  “ท่านเจ้าเมือง! ท่านอย่าได้ทอดทิ้งเรา  ถ้าท่านจากไป  ต่อไปเราจะทำยังไง?”
ฟงจีโบกมือ  “พอๆๆ  พอเลย ตอนนี้ข้าไม่ใช่เจ้าเมืองของพวกเจ้าอีกแล้ว!  ข้าเป็นเจ้าเมืองที่นี่มาพอแล้ว!  ข้าไม่มีความสามารถ และข้าไม่อยากต้องมากังวลเรื่องอาหารการกินของผู้คนเป็นแสน  ตั้งแต่ข้ามาเป็นเจ้าเมืองที่นี่  ข้าไม่เคยมีความสุขเลยสักวันเดียว!  เมื่อตอนในอดีตข้าใช้ชีวิตตามลำพังตกต่ำอย่างที่สุด  ข้าก็ยังไม่เคยอดอยากยากแค้นเท่านี้มาก่อน ตอนนี้ข้าไม่เพียงแต่ยากจน ไม่เพียงอดอยาก  ถ้าข้าต้องมาอดตาย แล้วข้าจะเป็นเจ้าเมืองไปทำไม?  ทำไมข้าไม่เป็นหน่วยคุ้มกันหรือเป็นทหารรับจ้างเหมือนเมื่อก่อนเล่า  อย่างน้อยก็ยังมีอาหารกิน!  
 “เด็กน้อย! เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติได้เป็นผู้คุ้มกัน!” จงกวนและพวกหัวเราะจนเจ็บท้อง มีคนกี่คนที่อยากเป็นเจ้าเมือง  แต่ตอนนี้ในฐานะที่เป็นเจ้าเมืองและนักสู้กับกังวลว่าจะอดตาย นี่เป็นเรื่องตลกของวันนี้จริงๆ
 “พลังของข้าเกือบได้อยู่แล้ว  แต่ฝีมือกับทักษะแฝงเร้นไม่เลว  แม้ว่าจะไม่เก่งในเรื่องทำการเกษตร แต่ข้าเชี่ยวชาญในเรื่องตามแกะรอย!  ฟงจีรบเร้า
 “ปัญหาก็คือ แม้ว่าข้าจะเป็นหัวหน้า  แต่ก็มีนายเหนือของข้าอยู่”  เปากู่ยิ้มและกล่าว  “นอกจากข้าได้รับอนุญาตจากนายท่านแล้ว  เจ้าขอไปก็ไร้ประโยชน์ มีนักสู้หลายคนที่ไม่มีสมองก็ต้องการเป็นบริวารของเขา นักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ก็ยังมี แต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติ  ที่นี่นอกจากความสามารถแล้ว ยังต้องการความซื่อสัตย์สุจริต  บอกตามตรงข้าสงสัยในความภักดีของเจ้า  เพราะความหิวของเจ้า  เจ้าจึงยอมทิ้งเมืองของเจ้า!
 “ท่านยังมีนายเหนืออีกหรือ?” ฟงจีถึงกับตะลึง  พวกที่มาถึงที่นี่เป็นกลุ่มการค้าแบบไหน?  เจ้านายของนักสู้ปราณฟ้า นั่นเป็นนักสู้ระดับราชาหรือเปล่า? หรือว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่า?
 “นายท่านบอกว่า ถ้าเจ้าสามารถหาทางข้ามบึงหยุดลมได้ เจ้าจะได้ทดลองงานเป็นผู้คุ้มกันชั่วคราวสามเดือนแรกก่อน”
เย่ว์หยางอยู่บนเรือเหาะสำราญสั่งให้สาวมนุษย์มังกรแดนสวรรค์มาส่งข้อความ
แม้ว่าฟงจีจะไม่ยินดีเป็นเจ้าเมืองหุ่น แต่ดูเหมือนความภักดีของเขาจะมีปัญหาเล็กน้อย
แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่ง จะพบว่าบุรุษเผ่ามนุษย์แมวผู้นี้ความจริงไม่เลว  ถ้าต้องเปลี่ยนไปเป็นเจ้าเมืองคนอื่น เขาจะยอมทนหิวอยู่ในเมืองที่ยากจนนี้หรือ?  อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าฟงจีมีคุณธรรม ไม่เอาเปรียบพลเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง  เขาอาจจะไม่มีคุณสมบัติดีพอเป็นเจ้าเมือง แต่ในฐานะผู้คุ้มกันสำรวจเส้นทาง น่าจะไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ให้เปากู่และจั๊ดด์ปกครองเมืองจินหยางย่อมดีกว่าฟงจี
ในภูเขาใกล้เมืองจินหยาง มีเหมืองแร่ดอกไฟฟ้าไม่เลว เพียงแต่ขุดขึ้นมายาก
ปัญหาที่นี่ก็คือกำลังคนและอุปกรณ์เครื่องมือไม่ทันสมัยเพียงพอ เป็นผลทำให้ผลผลิตต่ำ  ถ้ามีเทคโนโลยีของป้อมสายฟ้ามาเปิดทำเหมืองที่นี่ บวกกับคนจำนวนมาก แร่ดอกไฟฟ้าจะถูกใช้เป็นอาวุธในสนามรบ อาจจะไม่เพียงพอ  แต่พอให้เย่ว์หยางใช้สร้างกำไลอสูรแน่
 “บึงหยุดลม นั่นคือกับดักมรณะ!  ฟงจีเมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
 “เราไม่ต้องการคนขี้ขลาด!  เจ้าอ้วนจั๊ดด์ใช้วิธีกระตุ้นที่เด็ดขาด
 “ใครว่าข้าขี้ขลาด  เจ้ามองหาถูกคนแล้ว  ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่สามารถผ่านบึงหยุดลมได้แน่  ข้าเคยหลบเข้าไปในบึงหยุดลม  และมีความมั่นใจ 30%  เจ้าคงไม่รู้ว่ามันน่ากลัว  มันเป็นความตายที่คาดไม่ได้  การผ่านไปที่บึงหยุดลม ต้องมีความแข็งแกร่งและประสบการณ์ ที่สำคัญที่สุดก็คือโชค!  ฟงจียังรอการตอบรับจากสาวมังกรแดนสวรรค์  สายตาของเขาไม่เลว  เขารู้ว่าสาวมังกรแดนสวรรค์มีพลังสูงส่ง  อย่างน้อยก็สูงกว่าผู้คุ้มกันธรรมดาที่มีพลังระดับปราณฟ้า  ฟงจีกล่าวด้วยความเคารพและจริงใจ  “ถ้าท่านต้องการรู้เรื่องบึงหยุดลม ท่านต้องหาอีกคนที่นอกจากข้า  เราทั้งคู่ต่างเป็นคู่หูที่ขาดกันไม่ได้”

7 ความคิดเห็น:

Gg กล่าวว่า...

ถ้าให้ผมทายนะ ผมคิดว่าไอ้3 ได้ที่1ภูมิภาคนี้เเน่นอน

ulomzx กล่าวว่า...

แหม..ที่นั่นเป็นราชากันง่ายจังนะ.......เย่ว์หยางเป็นเจ้าของเหมืองสายฟ้าอยู่แล้ว..ที่นี่คงเป็นสาขาย่อยแน่ๆ

Lex กล่าวว่า...

อยู่ ๆ ก็ได้เมืองมาซะงั้น

WingF กล่าวว่า...

จากเดิม 3 จักรพรรดิ จะกลายเป็น 1 ราชันจักรพรรดิไหมหนอ

Boybravo กล่าวว่า...

สาขาย่อยแน่นวล
ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น