ตอนที่ 925 ร้ายมาร้ายไป
“เร็วเข้า, เร็วเข้า! หนี หนีเร็ว!”
“ถ้าพวกเจ้าอยากมีชีวิตรอด พวกเจ้าต้องวิ่งเร็วๆ!”
ในป่าทึบมีผู้ประสบทุพภิกขภัยเกือบพันคนนุ่งผ้าขาดรุ่งริ่งวิ่งเท้าเปล่า
ทุกคนมุ่งมั่นจะวิ่งขึ้นหน้าเป็นคนแรกและกลัวจะอยู่ท้ายสุด มีทหารรับจ้างหลายสิบคนสวมรองเท้าคอยออกคำสั่งควบคุมดูแลความเรียบร้อย คนนำเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เขาถือขวานขนาดใหญ่และควงขวานต่อเนื่องคอยต้อนคนผู้หิวโหยให้วิ่งเร็วขึ้นไม่ให้หยุดแม้ชั่วขณะ
ที่ป่าทึบด้านหลังมีหมาป่าสีแดงตาแดงตัวขนาดใหญ่บัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวหายไป
ตราบใดที่ทหารรับจ้างไม่ระมัดระวัง
พวกมันจะซ่อนตัว และโจมตีด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ปากขนาดใหญ่จะคาบเหยื่อและลากเข้าไปกินข้างในอย่างง่ายดาย
พวกมันมีเต็มที่
20-30 ตัว
และเจ้าเล่ห์มาก
พวกมันรู้วิธีจัดการกับทหารรับจ้าง ทหารรับจ้างจะต้องคอยระมัดระวังไว้
ประมาทเพียงเล็กน้อยพวกมันจะเข้าโจมตีทันที!
“บัดซบ, ไปให้พ้นจากข้า!”
หัวหน้าทหารรับจ้างเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถต้านทานหมาป่าแดงนี้
อย่างไรก็ตามแม้แต่ขวานยักษ์ของเขาก็ไม่สามารถฆ่าหมาป่าแดงนี้ได้ ได้แต่ฟันสร้างบาดแผลให้กับหมาป่ากระหายเลือดหนังหนาตัวนี้
ขวานเงินแหวกฝ่าอากาศและฟันลงทันที
ในปากของมหาป่าแดงมีศีรษะของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
คอและหนังฉีกขาดเลือดสาดกระจาย
มันคำรามและปล่อยเหยื่อในปากหันหลังวิ่งหนีเข้าไปในป่า
คนผู้เคราะห์ร้ายถูกเหวี่ยงลงพื้น เขาตายแล้ว ศีรษะของเขาเป็นแผลเหวอะ
แม้แต่มือและเท้าของเขากระตุกเล็กน้อย แต่ช่วยเหลือไม่ได้แล้ว หัวหน้าทหารรับจ้างไม่มองดูเขา เขารู้ว่าหมาป่าแดงนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต แม้ว่ามันไม่สามารถโยนอาหารในปากทิ้ง
แต่มันจะฆ่าศัตรูก่อน ยกเว้นมีพลังเหนือกว่าหมาป่าแดง
ไม่มีใครที่โดนหมาป่าแดงกัดแล้วจะรอด
เขาส่ายศีรษะ
และโบกมือ “วิ่ง ทุกคน วิ่งให้เร็วอีกนิด หนีออกไปจากป่าของหมาป่าแดง วิ่งให้เร็วขึ้น!”
เมื่อเขาไปได้สองสามก้าว
หมาป่าแดงบาดเจ็บก็สร้างบาดแผลที่ศีรษะเขาได้อีก
ภายใต้การสังเกตการณ์ของหมาป่าเจ้าเล่ห์
มันลากศพผู้เคราะห์ร้ายเข้าไปกินในพุ่มไม้
มันไม่ยอมแพ้ ที่สำคัญมันแข็งแกร่งมาก ไม่มีใครทำอะไรมันได้
ขณะที่หมาป่าแดงฉีกกินอาหาร
ฝูงหมาป่าแดงยังคงว่ายน้ำอยู่ด้านหลังและมองหาโอกาสโจมตี
โดยปกติในป่ามักจะขาดแคลนอาหาร คราวนี้มีเหยื่อผ่านมา
พวกมันไม่ยอมพลาดเหยื่อเหล่านี้เป็นธรรมดา
ตุ้บ ตุ้บ!
มีเถาวัลย์นับสิบสายห้อยระโยงระยางขัดขวางผู้หิวโหยที่กำลังหนี
ตอนแรกมีเพียงไม่กี่คนที่ล้มลงบนพื้น
แต่คนที่ตามมาด้านหลังเพียงแต่วิ่งตามอย่างเดียว
พวกเขามองไม่เห็นข้างหน้า แม้ว่าพวกเขาจะเห็นได้ชัด แต่พวกเขายั้งเท้าไม่ทันก็ดึงลากเถาวัลย์ติดลงมาด้วย
ยกเว้นคนไม่กี่คนที่มีความแข็งแรงอยู่บ้างก็ข้ามผ่านไปได้ ผู้หิวโหยที่เหลือสะดุดล้มกันต่อเนื่อง
เมื่อหัวหน้าทหารรับจ้างเห็นเช่นนั้น
เขาวิ่งเข้าไปดูและเห็นชายที่เหนื่อยล้าล้มลง
ผู้หิวโหยบางคนไม่ได้สะดุดแต่ห่วงเพื่อนที่ล้มจะพบเจอกับหมาป่าแดง
พวกเขาไม่กล้าวิ่งอีก ได้แต่จับกลุ่มอยู่ข้างๆ ด้วยความกลัว
เป็นเพราะกลุ่มคนที่วิ่งผ่านพื้นที่ต้นไม้และเถาวัลย์ไปแล้ว
เมื่อพวกเขาหันกลับไปดู ไม่รู้จะทำอย่างไร?
ถ้าพวกเขาวิ่งหนีต่อไปก็รู้สึกไม่สบายใจ
หากกลับไปสมทบกลุ่มอาจปลอดภัยในเวลานี้
แต่กลุ่มพวกที่ไล่ล่าอยู่เบื้องหลังฝูงหมาป่ายังเป็นศัตรูที่น่ากลัวยิ่งกว่า! ถ้าถูกศัตรูเหล่านั้นไล่ทันจะน่าอนาถยิ่งกว่าตายภายใต้คมเขี้ยวสุนัข ตอนนี้จะทำอย่างไรดี จะไปต่อหรือหยุดพัก
“เจ้าโง่!
ถ้ายังไม่วิ่งให้เร็ว เดี๋ยวศัตรูตามมาทันก็จบกัน!”
มีผู้หิวโหยจำนวนหนึ่งลุกขึ้นและเตรียมไปต่อ
พวกเขาเป็นบุรุษทั้งหมด แม้ว่าร่างกายจะผ่ายผอม แต่ในฐานะที่เป็นบุรุษ
เขามีการตัดสินใจที่ดีกว่าสตรี
ในกลุ่มคนหลายพัน
ส่วนใหญ่เป็นคนชราและอ่อนแอ
หากพวกเขาไม่สามารถตัดสินใจได้
พวกเขาจะมองดูหัวหน้าผู้รับผิดชอบความปลอดภัยของครอบครัว พวกเขาหวังว่าเขาจะมีความคิดที่ดี!
,……
บุรุษหลายคนที่วิ่งอยู่ด้านหน้าถูกหมาป่าแดงจัดการ พวกเขาส่งเสียงร้องโหยหวน
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
มีฝูงหมาป่าข้างหน้า
พวกเขาควรทำอย่างไร?
“วิ่ง!
หมาป่าไม่สำคัญ
ถึงเราต้องเจอพวกมัน เราก็ต้องวิ่งต่อไป
ศัตรูแท้จริงกำลังตามหาเรา
ถ้ามันตามเราได้ทัน
พวกเราจะตายกันหมด!”
หัวหน้าทหารรับจ้างสั่งให้สมาชิกทั้งห้าคนรีบตามมาให้ทันเพื่อคุ้มครองคนข้างหน้า เขาตะโกนอย่างกระวนกระวายไม่ให้ใครหยุดพัก ทุกคนต้องทุ่มเทกำลังวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่รอด
“ช่วยข้าด้วย,
ช่วยด้วย......”
ชายชราคนหนึ่งถูกหมาป่ากระโจมใส่จนล้ม เขาจับเถาวัลย์ตะโกนขอความช่วยเหลือ
หมาป่าแดงพยายามจะลากเขาไป
แต่ลากไปไม่ได้
มันรำคาญหงุดหงิดจึงใช้กรงเล็บหน้าฉีกร่างชายชราขาดครึ่ง
ชายชรายังไม่ทันขาดใจตาย
ร่างครึ่งหนึ่งร่วงหล่นลงพื้นส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าสยดสยอง หัวหน้าทหารรับจ้างหลับตา
แล้ววิญญาณเขาก็หลุดลอย
เรื่องแบบนี้เขาเห็นมามากเกินไปแล้ว
เมื่อตอนเริ่มเดินทางหลบหนี
มีคนเกือบหมื่นคน
ตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่พันคน
เขารีบโบกมือและตะโกน “ทุกคน!
เข้ามาอยู่ใกล้ๆ กันให้มากขึ้น แต่เราจะต้องไปกันต่อ ข้าจะไม่รอคนที่รั้งอยู่ หากพวกเจ้าไม่สามารถไปได้ ข้าจะทิ้งพวกเจ้าไว้แน่นอน ถ้าพวกเจ้าต้องการอยู่รอดก็จงไปต่อ
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเมืองจินหยาง ถ้าพวกเจ้าไปถึงที่นั่นได้พวกเจ้าจะมีโอกาสรอดชีวิต พวกเจ้าวิ่งหนีมาหลายพันกิโลเมตรแล้ว แค่อีกนิดเดียว พวกเจ้าจะยอมทิ้งชีวิตไว้ที่นี่หรือ?
คนที่ยังมีกำลังให้อุ้มเด็ก
คนไม่มีกำลังจงกัดฟันลุก!
หลังจากพ้นไพรหมาป่าแดงแทบจะไม่มีอสูรเหลือให้เห็นอีกแล้ว
ถึงตอนนั้นค่อยพัก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!”
“ฮัวเอ๋อ!, จำเอาไว้ดูแลน้องชายเจ้าให้ดี รู้ไหม?” หญิงชราส่งทารกในอ้อมแขนให้เด็กหญิงตัวผอมที่อยู่ข้างๆ
นาง
“ยายจ๋า...”
เด็กหญิงตัวสั่นสะท้านรับทารกมาอุ้มไว้แล้วกอดไว้แน่น
“เจ้าโตแล้ว รับรู้รับผิดชอบได้แล้ว จงดูแลน้องชายเจ้าให้ดี
ยายขยับไปไหนไม่ได้อีกแล้ว เจ้าต้องรอดต่อไปให้ได้ในอนาคต” หญิงชรายิ้ม นางก้มจูบที่หน้าผากสาวน้อย “หลานรัก! เจ้าต้องมีชีวิตรอด
พระเจ้าในสวรรค์จะตามดูแลพวกเขา
ไม่ว่าเวลาไหน จงอย่าทิ้งความหวัง
ความหวังของครอบครัวทั้งหมดตกอยู่กับเจ้าแล้ว
จงพยายามมีชีวิตรอดให้ได้ ฮัวเอ๋อ!”
เด็กสาวหลั่งน้ำตานองหน้า นางได้แต่พยักหน้า
นางรู้และเข้าใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ถ้าหญิงชราทำเช่นนี้
แสดงว่านางไม่ใช่คนเดียวที่ทำ แต่มีคนแก่คนชราอีกนับสิบ
นางจะมอบทารกให้กับญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวเองรั้งอยู่เป็นอาหารหมาป่า
เช่นเดียวกับการเสี่ยงภยันอันตรายในพื้นที่อสูรดุร้ายที่ผ่านๆ
มา บางคนต้องสังเวยตัวเองเพื่อให้คนที่เหลือหนีรอด
มีฝูงหมาป่าเพียง
20-30 ตัวยังนับว่าน้อย
คนจำนวนหลายสิบยังเติมท้องให้พวกมันอิ่มได้
อย่างน้อยพวกมันจะไม่ติดตามไล่ล่าคนที่หนีตายอีกต่อไป
เพราะมัวสนใจกับอาหารสดใหม่ของพวกมัน
เมื่อเห็นกลุ่มคนผู้หิวโหยจากไป
หัวหน้าทหารรับจ้างไม่ห้าม
ความจริงเขาเองไม่มีวิธีการที่ดีกว่า การเสียสละนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด! เขาไม่มีกำลังแข็งแกร่งมากพอ
แม้แต่หมาป่าแดงก็ยังฆ่าไม่ได้ แล้วจะหยุดโศกนาฏกรรมนี้ได้อย่างไร
ตามเส้นทางไม่ทราบว่าต้องมีผู้คนเท่าใดยืนยันเสียสละชีวิตตนเองแลกกับการให้คนที่พวกเขารักได้มีชีวิตอยู่รอดได้ต่อไป
เพราะขาดบุรุษที่เป็นผู้ใหญ่ ตอนแรกคนบาดเจ็บจึงต้องรับเคราะห์
จากนั้นก็เป็นคนชราที่ไม่มีคนให้ห่วงใยดูแล
เมื่อไม่มีคนที่จะเสียสละได้
แต่ก็ยังมีคนยืนยันเสียสละตนเอง กลุ่มทั้งหมดที่มีอัตรารอดชีวิตสูงสุดก็เป็นทารกกับเด็กผู้หญิง เพราะพวกเขาคือความหวังสุดท้ายของกลุ่มทั้งหมด
ถ้าพวกเขาตาย
การหนีก็ไร้ความหมาย!
“ยายขอไปก่อน!”
สตรีชราชักมีดออกมาเล่มหนึ่งมองดูหมาป่าแดงที่อยู่ห่างออกไปกำลังวิ่งเข้ามา เมื่อหมาป่าแดงตะปบร่างนางลงกับพื้น
นางใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายแทงมีดเข้าที่นัยน์ตาข้างหนึ่งของหมาป่า
จากนั้นยิ้มปล่อยให้หมาป่าแดงตะกุยอก ท้องฉีกอวัยวะภายในของนาง
นางไม่เคยคิดว่าจะสามารถฆ่าหมาป่าแดงได้
แต่นางหวังว่านางจะใช้กำลังที่น้อยนิดถ่วงเวลาให้หลานของนางได้
ผู้เคราะห์ร้ายที่ยอมสละตนเองแทบไม่สามารถทำร้ายพวกมันให้บาดเจ็บ
แต่คนเหล่านี้กลับถูกไล่ล่าอย่างรวดเร็ว
ถูกฉีกกระจายเป็นชิ้นๆ.... ผู้ลี้ภัยวิ่งหนีไปตามเส้นทางน้ำตานองหน้า
ในท่ามกลางกลุ่มคน หน้าตาของเด็กสาวนองด้วยน้ำตาไหลเป็นทาง แต่นางไม่ร้องออกมา
นางกัดฟันกอดน้องชายแน่นวิ่งตามกลุ่มผู้คนไปติดๆ
นางไม่รู้ว่าการหนีนี้จะดำเนินต่อไปได้นานเท่าใด
แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดทำให้นางฮึดครั้งแล้วครั้งเล่า
“ขณะที่หมาป่าแดงกำลังกินเหยื่อ
เราต้องรีบออกจากไพรหมาป่าแดงให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ต้องมีความปลอดภัยรออยู่ รีบเข้า รีบหนีไป!” หัวหน้าทหารรับจ้างกังวล
เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่แท้จริงไม่ใช่หมาป่าแดง
แต่มันน่ากลัวยิ่งกว่าหมาป่าแดงถึงร้อยเท่า
ถ้าศัตรูตามมาทัน คงจะถูกฆ่าตายกันหมด
จะไม่เหมือนกับฝูงหมาป่าแดง ที่ยังมีผู้รอดเหลือผ่านออกไปได้หลายร้อยคน
“น่าซาบซึ้งใจจริงๆ ข้าเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วเชียว” เสียงแหลมเล็กดังก้องไปทั้งป่า
“ความตายมาพรากชีวิตดีๆ ไป
ข้าชอบละครฉากนี้จริงๆ
ถ้าพวกเจ้าตายเพิ่มอีกสักเล็กน้อย
อย่างนั้นก็จะรู้สึกดีขึ้นบ้าง”
มีเสียงดังก๊อกเหมือนเคาะประตู และเสียงดังเหมือนสายฟ้าฟาดตามมาเหนือศีรษะของทุกคน
เมื่อได้ยินเสียงนี้
ผู้อพยพลี้ภัยที่พยายามดิ้นรนหนีถึงกับเข่าอ่อนทุกคน
มันน่ากลัวยิ่งกว่าตอนที่มีคนสะดุดเถาวัลย์ล้มลงกับพื้นเสียอีก
กลัวจนสั่นไปทั้งตัว
ภาพที่เห็นนั้นน่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าเห็นผีสาง!
อย่าว่าแต่คนชราและสตรีอ่อนแอเลย
แม้แต่หัวหน้าทหารรับจ้างผู้เยือกเย็นก็ยังหน้าซีดเผือด
ทหารรับจ้างผู้คอยคุ้มกันผู้ลี้ภัยให้หลบหนีนับสิบคนทิ้งอาวุธและร้องขอความเมตตา
ทหารรับจ้างบางคนทิ้งผู้ลี้ภัยพยายามหลบหนี
พวกเขาตั้งใจจะหนีไปให้พ้นจากที่นี่... มีใบไม้พุ่งหวีดหวิวทะลุลำคอของทหารรับจ้างที่กำลังหลบหนี
เมื่อทหารรับจ้างเหล่านั้นร่วงลงพื้น
พวกเขามีอาการเหมือนกันทุกคน
ตายทันที!
ไม่มีพลังต่อต้าน
ทั้งที่เป็นแค่ใบไม้ไม่กี่ใบ
ก็สามารถฆ่าทหารรับจ้างเหล่านี้ซึ่งมีพลังปราณดินระดับห้า
“น่าผิดหวังมากเกินไป
ข้าคิดว่าจะมีสักสองสามคนที่หนีพ้นทำให้ข้าพอใจได้บ้าง คิดไม่ถึงเลยว่าไม่มีเลยสักคน”
บุรุษผู้มีเสียงแหลมเหมือนนกแสกลอยตัวลงมาคล้ายค้างคาว เมื่อเห็นพลังกดดันของคนผู้นี้
แม้แต่หมาป่าแดงที่หิวโหยก็ยังหวาดกลัว
พวกมันไม่กล้าวิ่งเข้ามากินเลือดเนื้อที่อยู่ที่อยู่บนพื้น
แน่นอนว่าผลลัพธ์ของพวกมันหลายตัวก็คงไม่ต่างไปจากทหารรับจ้างที่ลี้ภัยหนีไป
ไม่เห็นเลยว่าบุรุษแปลกประหลาดนี้ใช้ท่าทางยังไง
เหมือนกับว่ามีลมหมุนหอบรอบตัวของเขาและมีใบไม้หมุนอยู่รอบตัว ใบไม้หลายสิบยิงสังหารหัวหน้าทหารรับจ้างแต่เขายังไม่ตาย
หมาป่าแดงถูกตัดหัวในสภาพต่างกัน
พวกมันเคยเป็นผู้ล่า
และตอนนี้พวกมันตายหมด
หัวหน้าทหารรับจ้างสิ้นหวัง....
พลังของบุรุษผู้นี้แข็งแกร่งมากกว่าที่ร่ำลือกันเสียอีก เขาไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย
เขาถอนหายใจยกขวานยักษ์ในมือเตรียมฆ่าตัวตาย
เขารู้ว่าถ้าเขาตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนผู้นี้
เขาคงต้องเสียใจที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นแน่ ตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ ตายเร็วเสียยังดีกว่า
ไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน!
“ข้าไม่เห็นด้วย, คิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าตายง่ายๆ
หรือ? เจ้าคิดหรือวว่าฉายา ‘หัตถ์วิถี’
เป็นชื่อไร้สาระ มือของข้าไม่เพียงแต่ควบคุมความเป็นของศัตรู แต่ยังควบคุมความตายของศัตรูได้”
บุรุษประหลาดผู้มีเสียงเหมือนนกแสกรูปร่างเหมือนค้างคาวซัดกระสุนใบไม้ตัดขวานยักษ์ในมือของของหัวหน้าทหารรับจ้างขาดเป็นสองท่าน
“พวกเจ้าหนีมาได้ไกลมากแล้ว ถ้าหากจะมายอมแพ้กันง่ายๆ มันน่าเบื่อเกินไป
ดังนั้นข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้า ข้าจะนับหนึ่งถึงร้อย
ใครสามารถหนีไปพ้นสายตาข้าได้ อย่างนั้นข้าผู้เป็นเจ้าเมืองจะปล่อยพวกเขาไป! ทุกคนยืนขึ้น แล้วหนีไป
ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ข้าใจดีแล้วนะ!”
เสียงดังราวกับฆ้องปากแตกดังขึ้น
บุรุษสูงศักดิ์นั่งอยู่บนเสลี่ยงที่มีบัลลังก์ทองคำ
แบกหามโดยทาสสิบแปดคนสวมชุดคลุมสีแดง มือถือแก้วเหล้า มีทาสที่เปลือยกายนั่งคุกเข่าคอยรินเหล้าให้เขา
“....”
เมื่อเห็นบุรุษผู้นี้ปรากฏตัว หัวใจของผู้ลี้ภัยทุกคนต่างสิ้นหวัง
บุรุษที่ประกาศว่าตนเองเป็นคนใจดีนี้ชั่วช้ายิ่งกว่า
‘หัตถ์วิถี’ ถึงสิบเท่า
ถ้าจะนับเขาว่าเป็นคนโหดอำมหิตที่สุดในภูมิภาคสวนสวรรค์
เชื่อได้ว่าไม่มีใครคัดค้าน
ไม่มีใครหลบหนี
เพราะทุกคนรู้
หนีไปก็ไร้ประโยชน์
อย่าว่าแต่นับถึงร้อยเลย
คนผู้นี้ไม่เคยซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญา
ในกลุ่มผู้คนที่เงียบสนิท
มีเพียงเด็กสาวที่อุ้มน้องชายนาง?
ก้มหน้าเบียดเสียดฝูงชนแยกออกมาและวิ่งไปข้างหน้าอย่างหมดแรง “ฮ่าฮ่าฮ่า, ใช่แล้ว, อย่างนั้นแหละ
วิ่งให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ข้าจะนับแล้วนะ
พวกเจ้าไม่ต้องการเอาชีวิตรอดเหมือนนางหรือ?
ข้าให้โอกาสนี้กับพวกเจ้าแล้วนะ!
ทุกคนหนีไป ตอนนี้ข้าเพิ่งจะนับหนึ่งเท่านั้น โปรดทราบ..ขณะนี้ข้าเพิ่งจะนับหนึ่ง
เมื่อข้านับถึงร้อย ใครก็ตามที่หนีรอดพ้นสายตาข้าไปได้ ข้าจะเว้นโทษตายให้ อะไรกันไม่มีใครตอบรับข้อเสนอของข้าเลยหรือ! พวกเจ้าทำให้เจ้าเมืองอย่างข้าอารมณ์เสีย
ถ้าพวกเจ้าดิ้นรนกันไม่ไหว ก็ช่วยให้ข้ามีอารมณ์สนุกหน่อยได้ไหม? โชคดีที่มีแม่เด็กหญิงตัวน้อยเล่นสนุกกับข้า ฮ่าฮ่าฮ่า, ใช่แล้ว
ข้าชอบเล่นสนุกกับคนที่ยึดติดกับความหวังเสมอ
หากกำจัดความหวังในใจพวกเจ้าได้ นั่นจะมีความสุขมากเพียงไหน ตอนนี้ข้าจะเริ่มนับสองแล้วนะ
สาม..สี่...ห้า...หก แม่หนูน้อย
เจ้าต้องวิ่งเร็วมากกว่านี้อีก ฮ่าฮ่าฮ่า เจ็ด.. แปด...เก้า..? อ๋อ แน่นอน ก็ต้องเป็น ร้อย.. ! แม่หนูน้อย เจ้าก็รู้ข้าอ่อนวิชาคณิตศาสตร์ น่าเสียดายจริงๆ ข้านับร้อยแล้ว
เจ้าก็ยังหนีไม่พ้นสายตาข้า
เจ้าน่าจะวิ่งให้เร็วมากกว่านี้”
“ไปได้”
มีทาสคนหนึ่งพอร่างกระพริบวาบ ก็จับเด็กสาวพร้อมทารกกลับมาแล้วโยนลงใกล้บัลลังก์ทอง
ผู้ลี้ภัยไม่สามารถทนหันกลับไปดูได้
พวกเขารู้ว่าคนผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือ
แต่จะทำอะไรได้เล่า? ไม่มีอำนาจ ก็ไม่มีสิทธิเห็นแย้งว่าผิดหรือถูก!
เด็กสาวร้องไห้
นางกอดน้องชายในอ้อมแขนสะอื้น
“หลังจากนับเก้าก็ต้องเป็นสิบ ไม่ใช่ร้อยสักหน่อย...” ตอนนี้นางยังยึดถือความจริงมากกว่า แม้ว่านางจะรู้เดียงสา แต่นางก็ยังเป็นเด็ก
นางไม่เข้าใจว่าฝ่ายตรงข้ามทำไมถึงผิดสัญญา
บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งบนบัลลังก์ทองหัวเราะจนน้ำตาไหล
เขาตบบัลลังก์
“ใช่แล้ว, จากนับเก้าก็ต้องเป็นสิบ
ไม่ใช่ร้อย
แต่ข้าชอบนับร้อยล่วงหน้า มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ข้าไม่จำเป็นต้องนับทั้งหมดก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
เจ้าคิดว่าเจ้าเมืองอย่างข้าน่าเกลียดน่าชังเป็นพิเศษหรือเปล่า
เจ้ารู้สึกว่าข้าผิดมากใช่ไหม? จงเศร้าเข้าไป จงโกรธแค้นเข้าไป ข้าชอบมองตาที่พูดไม่ได้ของเจ้า ฮ่าฮ่า
หนอนน้อยน่าสมเพช
เวลาพวกเจ้าตกตะลึงนี่ทำให้เราเจ้าเมืองมีความสุขอย่างที่สุด เมื่อเห็นคนอ่อนแออย่างพวกเจ้าถูกทรมานอยู่ใต้เท้าข้า
มันทำให้ข้ารู้สึกอิ่มใจ
พวกเจ้าไม่มีวันเข้าใจ
นี่คือความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ไม่เหมือนใคร ความแข็งแกร่งคืออะไร?
หมายถึงอะไรก็ตามที่สามารถควบคุมชีวิตของคนอื่นได้ตามใจนึก!”
“เจ้าต้องการแสดงบทบาทใช่ไหม?” บุรุษประหลาดผู้มีเสียงเหมือนนกแสกตัวเหมือนค้างคาวเหมือนกับขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครมาที่นี่ นอกจากนี้เขตนี้กลายเป็นดินแดนที่ราชาทอดทิ้งไปแล้ว
ถ้ามีมดแมลงอ่อนแอตายเพิ่มขึ้น ใครเล่าจะสนใจ? เป็นการยากที่จะทราบเรื่องได้
เราจะกลับทันที และจะไม่ยอมทำให้เสียโอกาส
เราต้องรู้ว่าจะไม่มีใครกล้าหลบหนีไปได้อีกนาน!”
บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์หัวเราะลั่น
“อย่างนั้นก็....” เสียงที่เหมือนกับนกแสกดังขึ้น
บุรุษที่เหมือนค้างคาวส่ายหน้าและหันไปด้านข้าง
“เจ้ามานี่ ถลกหนังของเด็กหญิงนี่ออกมาก่อน
ระวัง! ห้ามทำเสียหายแม้แต่น้อย ส่วนทารกนั้นผอมเกินกว่าจะกินได้ ควักหัวใจออกมา นอกจากนี้ข้าอยากกินสมองหวานๆ
อย่าปรุงให้เค็มเหมือนครั้งก่อนเล่า”
บุรุษวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองกล่าว
“อย่าฆ่าข้า, ขอร้อง ไว้ชีวิตเราด้วย!” เด็กหญิงหวาดกลัวจนทรุดร่างลงกับพื้น ทาสเดินเข้ามาโดยตรง นางต้องการจะควักหัวใจทารก
เธอกรีดร้องแล้วตรงเข้าหาทาสหญิงแล้วใช้ฟันอาวุธเพียงอย่างเดียวของนางกัดศัตรู
นางมีพลังต่อต้านได้เพียงเท่านี้
แม้ว่าจะไร้ประโยชน์
แต่ก็ยังถือว่าได้ดิ้นรนต่อต้าน
ไม่เหมือนผู้ลี้ภัยและทหารรับจ้างอื่นที่ได้แต่รอความตาย
หัวหน้าทหารรับจ้างลอบชักมีด
แต่ก่อนที่เขาจะใช้ฆ่าตัวตาย
เขาพบว่าตนเองกลายเป็นอัมพาต แข็งไปทั้งตัว แม้แต่กระพริบตาก็ยังทำไม่ได้
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้เมื่อตกอยู่ภายใต้
‘หัตถ์วิถี’ การฆ่าตัวตายย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขาไม่สามารถตายได้
น่ากลัวว่าจุดจบของเขาคงไม่ดีไปกว่าเด็กสาวที่ถูกถลกหนัง... เมื่อเขาตาย
ทุกอย่างก็จบสิ้น
“ข้าซาบซึ้งต่อการต่อต้านแบบนี้ ถ้าทุกคนเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นข้าผู้เป็นเจ้าเมืองก็คงไม่เบื่อ ก่อนถลกหนังมนุษย์ของนาง ให้เลาะฟันนางออกมาทีละซี่
ระวังอย่าให้รากฟันเสียหาย เลาะออกมาให้หมดและต้องสวยงาม ข้าจะได้เลือกดู!” บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งบนบัลลังก์ทองซดเหล้าในแก้วด้วยความเบิกบานใจ
จากนั้นจากนั้นขยับเปลี่ยนท่าเล็กน้อย
เขาจะได้ฟันที่ถูกเลาะออกมาและหนังถลกเป็นของเก็บสะสมสองชิ้น
ขณะที่ทาสชักมีดออกมาเตรียมเลาะฟันของเด็กหญิง
ร่างของนางสั่นเล็กน้อย
และล้มลงกับพื้นทันที
หลังจากทาสรับใช้ล้มลงกับพื้นไม่กี่วินาที
ร่างแยกเป็นสองส่วนตั้งแต่ศีรษะลงไป
“เกิดอะไรขึ้น?” บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองตะลึง
เหล้าที่อยู่ในมือกระฉอกหก ฝีมือใครกัน?
ฆ่าคนของเขาต่อหน้าอย่างคาดไม่ถึง สามารถพรางตัวเงียบเสียง ฆ่าคนได้โดยมองไม่เห็น!
เงาร่างสายหนึ่งบินมาจากระยะไกล
และลงยืนอยู่ข้างเด็กหญิงต่อหน้าทุกคน นางยื่นมือประคองเด็กหญิงให้ลุกขึ้น
“โชคดีที่ไม่บาดเจ็บ ไอ้ที่บ้าๆ
นี่น่ารำคาญจริงๆ เทเลพอร์ตไม่ได้ดังใจเลย
คนบ้า!
เกือบสายไปแล้ว เจ้ายังจะรออะไรอยู่อีก รีบไปฆ่าเจ้าพวกนี้ทันที ข้าโมโหจริงๆ!”
คนที่มาถึงก็คือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เวลาแม่เสือสาวโกรธ ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ตอนนี้บอกได้ว่านางโกรธจัดจริงๆ!
เงาร่างด้านหลังไม่ใช่เย่ว์หยาง
แต่เป็นฟงจีที่อ้างว่าตนเองเร็วเหลือเชื่อ แต่ยังห่างไกลกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนราวกับขี่ม้าแกลบ
ขณะที่เย่ว์หยางไม่ทราบว่าไปนั่งบนพนักพิงบนบัลลังก์ทองเมื่อไหร่ เขานั่งบนพนักพิงของคนอื่นไม่พอ
เขายังยกขาพาดไหล่บุรุษวัยกลางคนโดยตรง “กักพื้นที่ด้วยสมบัติวิเศษหรือ?
สิ่งนี้ทำให้เราคุณชายมาสายเป็นครั้งแรกในชีวิต
เจ้าจะชดใช้ยังไง?
ฟันและหนังมนุษย์ไม่เหมาะกับรสนิยมอันสูงส่งของเราคุณชาย ต่างกันลิบลับกับสวะอย่างเจ้า!”
“อะไรนะ?” บุรุษวัยกลางคนโกรธทันที
มีคนกล้าเหยียบไหล่ของเขาหรือ? หาที่ตายชัดๆ!
เขากระโจนขึ้นเต็มกำลัง
และพุ่งไปหาเย่ว์หยาง
10 ความคิดเห็น:
น้ำตาไหล บทพระเอกช่างน้อยจริงๆ
ใจจ้า
นั่นสิซดน้ำร่วมหมดถึงเห็นเนื้อ
ตอนนี้น้ำล้วนๆ อย่างไรก็ขอบคุณครับ
พี่เย่วได้พูทีเดียวเอง T_T
ขอบคุณครับ ตอนหน้าเล่นคืนบ้าง
บรรยายซะยาวจนจบตอน ช่างมีเนื้อน้อยแท้ ๆ
ตอนนี้บดพระเอกน้อยกว่าตัวประกอบอีก
ขอบคุณมากครับ
โถ่..พระเอกฉานนนนน
ค่าตัวแพง เข้าใจนะ 55
แสดงความคิดเห็น