วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 931 ความรู้สึกไว ทักษะไม่เหมือนใคร?


ตอนที่  931  ความรู้สึกไว ทักษะไม่เหมือนใคร?
หมิงลี่ฮ่าวดื่มอยู่นานในที่สุดก็ถามขึ้น  “เจ้าไม่รู้เรื่องจริงๆ เลยหรือ?”
 
เหมือนกับว่าการที่เย่ว์หยางไม่รู้ความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก เมื่อเห็นเขาสงสัย เย่ว์หยางโมโห “ถ้าข้ารู้ ข้ายังจะยอมฟังเรื่องน่าเบื่อของเจ้าหรือ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง หมิงลี่ฮ่าวเชื่อ 70% ว่าดูเหมือนเจ้าเด็กนี่จะไม่รู้ความจริง
ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่เมืองลู่หลิว
 “อย่างนั้นทำไมเจ้าถึงมาที่เมืองลู่หลิว? แดนสวรรค์ตะวันตกกว้างใหญ่ไพศาล เจ้ามายังภูมิภาคสวนสวรรค์ได้ยังไง?”  หมิงลี่ฮ่าวถามข้อสงสัยสามจุด  เขาเชื่อว่าเย่ว์หยางไม่รู้ความจริง  แต่มาที่นี่ต้องมีวัตถุประสงค์บางอย่าง หรืออาจจะได้เงื่อนงำบางอย่าง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาถึงเมืองลู่หลิว ภูมิภาคสวนสวรรค์เพื่อแสวงหาความร่ำรวย
 “ข้าอยู่ที่เมืองเจิ้งฝู ภูมิภาครกร้างที่แปด ขณะกำลังเข้าดินแดนมิติฝึกฝีมือ บังเอิญได้ช่วยเหลือบุรุษผมงูคนหนึ่ง เขาบอกว่าเป็นคุณชายของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลตู๋กู  เขาขอให้ข้ามาที่เมืองไป๋เหอ (แม่น้ำขาว) ข้าถึงได้มาที่นี่”  เย่ว์หยางพูดเรื่องตัวเองเพียงครึ่งเดียว
 “เมืองไป๋เหอ? อย่างนั้นเจ้าควรจะตรงผ่านบึงหยุดไปเลย ไม่ใช่มายังเมืองลู่หลิวไม่ใช่หรือ?” ในที่สุดหมิงลี่ฮ่าวนึกออก
 “ภูมิภาคสวนสวรรค์มีพลังธาตุต่างๆ ที่ควบคุมไม่ได้อยู่หลากหลาย พลังกฎสวรรค์ที่สลายและบิดเบือน ถ้าข้าไม่ทำความเข้าใจสถานการณ์แล้วตรงดิ่งไปยังเมืองไป๋เหออย่างโง่เขลาทันที บางทีข้าอาจจะถูกผู้คนขายทำเงินก็ได้!  บุรุษผมงูผู้นั้นเป็นคนจากสี่ตระกูลใหญ่แดนสวรรค์  แต่ข้าไม่ใช่!  ข้าไม่อยากจะพูดอะไรมากนักว่า ข้าแค่มาที่เมืองลู่หลิวเพื่อหาข้อมูล  แล้วเจ้าล่ะ มาทำอะไรที่นี่?”  เย่ว์หยางย้อนถามหมิงลี่ฮ่าวในคำถามเดียวกัน
 “เรื่องนี้.... พูดไปมันซับซ้อน” หมิงลี่ฮ่าวหยิบแก้วเหล้าขนาดใหญ่ อย่างน้อยเท่ากับเหล้าหนึ่งถังไม้
เย่ว์หยางไม่พูดเรื่องไร้สาระกับเขา
 “ก่อนอื่นบอกถึงเรื่องเหตุผลที่ข้าต้องทำตัวเหมือนสุนัขตาย และเหตุผลที่ข้าต้องมาที่นี่ก่อนก็ได้” หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะทันที  “เมื่อพูดถึงการซ่อนงำพลัง ข้าเล่าฮ่าวก็เรียนรู้มาจากเจ้านั่นแหละ  เมื่อตอนก่อนที่ข้าจะสู้กับจักรพรรดิอวี้  ข้ารู้สึกว่าการสู้สุดกำลังเป็นการแสดงออกถึงกำลังศักดิ์ศรี  แต่หลังจากข้าได้รับทุกข์ทรมานจากการพ่ายแพ้ ข้าจึงรู้ว่าเป็นเรื่องโง่เขลามาก  เจ้าไม่ต้องมองข้า  ข้าไม่ได้สู้กับจักรพรรดิอวี้แค่วันหรือสองวัน   แต่ข้าสู้กับเขาถึงสองปี  และข้าสู้ศึกเล็กศึกใหญ่กับเขาเป็นสิบครั้ง  ถ้าไม่เรียนรู้การเก็บงำพลัง  ข้ายังจะใช้ได้อีกหรือ?  นอกจากนี้ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเก็บงำข่มพลังไว้ก็คือทำให้ฝึกฝนได้ง่ายขึ้น  เหมือนอย่างที่ข้ามาถึงระดับนี้ เป็นการยากมากแล้วที่จะก้าวหน้าได้  แล้วไปเถอะ  เด็กๆ รุ่นหลังยังดีกว่าข้ามาก  ข้าไม่พูดมากอีกแล้ว”
 “หลังจากเดินทางออกจากผนึกวิหารจักรพรรดิอวี้กลับมายังแดนสวรรค์ตะวันตก  ข้าพบว่ามีหลายอย่างผิดปกติ  เพราะถูกผนึกมานานหลายพันปี มีหลายอย่างที่ไม่คงอยู่อีกต่อไป ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าความแข็งแกร่งยังไม่ได้ฟื้นฟู ข้าไม่กล้าเผยตัวตนในนามของหมิงลี่ฮ่าว  ได้แต่ซ่อนตัวฟื้นฟูพลังก่อน จึงค่อยกล้าออกมาบ้าง”
 “น้องสาวข้ายังดีกว่าข้า  แต่จิ่วเซียวและซิวคงกลับมาก่อน และแจ้งกลับไปยังตำหนักกลางแดนสวรรค์ก่อน มีการหลอกล่อหลายอย่างจากตำหนักกลางแดนสวรรค์  พวกเขาต้องการฉวยโอกาสท้าทายตำแหน่งของสามจอมภพแดนสวรรค์”
 “ในแดนสวรรค์นี้ ผู้อ่อนแอตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่งมากกว่า  จะเป็นคนดีไม่ใช่เรื่องง่าย!
หมิงลี่ฮ่าวถอนหายใจ  แม้ว่าพวกเขาจะเคยเป็นหนึ่งในสามจอมภพแดนสวรรค์  แต่พวกเขาก็ยังต้องระวังตัว
ทุกระดับมีการต่อสู้ที่โหดร้าย
การต่อสู้ระหว่างสามจอมภพน่ากลัวและอันตรายมากกว่าการรบของนักรบระดับต่ำ  บ่อยครั้งที่พลาดจะตกสู่ห้วงเหวแห่งความสิ้นหวังและสูญหายไปตลอดกาล
จิ่วเซียวและซิวคงสองสุดยอดฝีมือจะสร้างความยากลำบากให้ นั่นคือสิ่งที่หมิงเยี่ยกวงคาดเอาไว้  และตำหนักกลางแดนสวรรค์กำลังจับตามองอยู่เช่นกันและใช้ประโยชน์จากการนี้  หลายคนเข้าผนึกรวมกองกำลังกันเพื่อตามฆ่าหมิงเยี่ยกวงที่ยังอ่อนแอขณะหนีออกมาจากผนึก และยึดอำนาจแดนสวรรค์ตะวันตก นอกจากนี้ตำหนักกลางแดนสวรรค์ยังได้เดินหมากที่น่าสนใจมาก  ในช่วงหกพันปีที่สามจอมภพแดนสวรรค์ถูกผนึกไว้ในวิหารเทพจักรพรรดิอวี้  พวกเขาได้ฝึกกองกำลังยักษ์ใหญ่ไว้หลายกลุ่ม 
กองกำลังยักษ์ใหญ่เหล่านี้พยายามท้าทายสถานะสามจอมภพอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในนั้นก็คือจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสง
เป็นที่น่าเสียดายที่ตำหนักกลางแดนสวรรค์คาดไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงจะใจร้อนวู่วาม เมื่อนางเข้ารุกรานหอทงเทียนเพื่อยึดแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ กลับถูกเย่ว์หยางบุรุษหนุ่มที่เพิ่งรุ่งเรืองขึ้นมาเพียงไม่กี่ปีฆ่าตาย  แผนการสนับสนุนหกพันปีของพวกเขาไม่เพียงแต่ถูกทำลาย  นอกจากนี้การสร้างวิกฤติชีวิตนำความตายมาสู่หอทงเทียน ได้กระตุ้นให้เกิดกระแสตื่นตัวฝึกวิทยายุทธจนมีความก้าวหน้า  นอกจากนี้ตำหนักกลางแดนสวรรค์ไม่มีทางคิดถึงอย่างแน่นอนว่า ในท่ามกลางความเสื่อมถอยของหอทงเทียน ที่แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนหยัดได้อีก  นอกจากนี้ยังมีตัวแปรสองคนคือ จื้อจุนกับเย่ว์หยาง  ทั้งสองทำลายขีดจำกัดชะตากรรมของนักสู้หอทงเทียนและเติบโตเป็นนักสู้พิทักษ์หอทงเทียนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง  ภายใต้อิทธิพลของจื้อจุนและเย่ว์หยาง  โดยเฉพาะอิทธิพลของบุรุษหนุ่มจากมิติอื่น  การเติบโตก้าวหน้าอย่างบ้าคลั่งของนักรบรุ่นหนุ่มเกินกว่ารูปแบบเก่าก่อนที่เคยทำกันในช่วงเวลาสั้นๆ บางคนบรรลุระดับปราณราชันย์ในช่วงเวลาสั้นๆ
ขณะนั้นหอทงเทียนกำลังมีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำดิน
รุ่งเรืองขึ้นมาจนยากจะฉุดรั้งได้!
 “ตอนนี้นางสบายดีหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางจินตนาการได้ว่าหมิงเยี่ยกวงจะต้องเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งจากแดนสวรรค์ตะวันตกมากมายเพียงไหน
 “นางยังคงฟื้นฟูพลังอยู่ ยังปลอดภัยและไร้กังวล  ข้าไม่รู้ว่านางฝึกอยู่ที่ไหน  ข้าไม่กล้าถามนาง” หมิงลี่ฮ่าวพยักหน้า  “เป็นแต่คนรุ่นหลังในตระกูลของเราที่ถูกพวกมือสังหารจากตำหนักกลางฆ่าจนแทบไม่เหลือ บริวารในอดีตก็ก่อกบฏหนีออกไป ผู้ภักดีถูกทำลายจนแทบไม่เหลือ ทิ้งไว้แต่ความยุ่งยากที่ยากจะเก็บกวาด นั่นแหละทำให้ข้าปวดหัว และข้าไม่รู้ว่าอีกกี่ปีถึงจะฟื้นฟูได้ดังเดิมเหมือนในอดีต”
 “ฟื้นฟูหรือ?  เพ้อเจ้อ ข้าขอบอกเจ้าเลยว่าเจ้ากินเสียข้าวสุก  เจ้าไม่ควบคุมดูแลตัวเองให้ดีก่อน แล้วเจ้าจะทำอะไรกับคนมากมายได้?”  เย่ว์หยางแสดงความคิดที่แตกต่าง
 “สามจอมภพแดนสวรรค์ล่ะ บริวารเขาล่ะ?” หมิงลี่ฮ่าวประหลาดใจ สีหน้าท่าทางของเขาเหมือนกับจะถาม
 “มีความสามารถ ก็ต้องการบริวาร พูดแบบนั้นใครๆ ก็พูดได้จริงไหม?”  เย่ว์หยางเหมือนมองดูด้วยนัยน์ตาเย้ยหยัน
 “แต่นั่นอาจไม่ได้ความภักดี”  หมิงลี่ฮ่าวส่ายศีรษะโบกมือ
 “แล้วผู้ภักดีที่ถูกผนึกด้วยกันเล่า คงไม่ทรยศกันทั้งหมดใช่ไหม?  แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ความภักดี  แต่เป็นพลังความแข็งแกร่งไม่กลัวต่อการทรยศและท้าทาย ต้องให้พวกเขามีความกล้าต่างหาก!  เย่ว์หยางรู้สึกว่าเป็นการน่าเบื่อที่จะพูดถึงความภักดีของบริวารเขา ตราบใดที่เขาเก่งพอ เขารู้สึกว่าจะมีผู้ภักดีตามสถานการณ์  มิฉะนั้นเขาคงไม่สามารถทำอะไรได้
ที่นี่เป็นดินแดนที่คนอ่อนแอเป็นเหยื่อของคนแข็งแกร่ง  คนที่มีความภักดีจะทำอะไรได้?
อย่างดีก็ใช้เป็นโล่มนุษย์ ตายไปชุดหนึ่ง ก็เปลี่ยนเข้ามาอีกชุดหนึ่ง
ตำหนักกลางแดนสวรรค์เมื่อพวกเขาใช้คน  พวกเขาไม่ทำอย่างนี้เช่นกันหรือ?
เย่ว์หยางเลี้ยงอาหารหมิงลี่ฮ่าวและยิ้ม “มีคนภักดีอยู่จริง เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดมาก  พวกเขาจะแสดงความภักดีมากตราบเท่าที่สามารถรู้ด้วยวิสัยทัศน์ศักดิ์สิทธิ์  ดังนั้นข้าห่วงว่าคนทั้งหมดนี้จะรู้สึกเสียใจ ใช่แล้ว ข้ารู้เหตุผลที่เจ้ามาที่เมืองลู่หลิวแล้ว!
หมิงลี่ฮ่าวตื่นเต้นกับแนวความคิดโน้มน้าวของเย่ว์หยาง แม่มันเถอะ อีกฝ่ายหนึ่งไม่เป็นมิตรจริงๆ เสียเลย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาถูกผนึกหกพันปี จะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้
ถ้าเขารู้จักพวกนั้นเร็วกว่านี้ คงจะส่งพวกนั้นไปรบแนวหน้ากันทั้งหมด!
เขาปล่อยวางภาระและใบหน้ามีรอยยิ้ม  “ปีศาจน้อยเจ้าพูดได้ถูก  ว่าแต่เจ้าบอกได้ไหมว่าข้าทำอะไรที่นี่?”
เย่ว์หยางตอนแรกคาดเดาไม่ถูก แต่เมื่อได้ฟังเขาบ่น ก็รู้ได้ทันที  เขาหัวเราะพลางกล่าว “ข้าไม่รู้อะไรเป็นพิเศษหรอก  แต่ข้าคาดว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อตามหาคนทรยศ บางทีอาจมีคนขโมยสมบัติเจ้า หรือฆ่าคนสำคัญแล้วหลบซ่อนอยู่ใกล้บึงหยุดลม ภูมิภาคสวนสวรรค์ ดังนั้นเจ้าจึงปลอมเป็นทหารรับจ้างปราณฟ้าและมายังเมืองลู่หลิวเพื่อจัดการคนทรยศ”
    Ming Ri Hao listened to him and said, “The good boy, the brain is smart, I don’t admire Old Hao, you are so obedient, you are absolutely admired!”
หมิงลี่ฮ่าวเมื่อฟังเขาพูด เขาตบโต๊ะพูดเสียงดัง “เด็กน้อย, เจ้ามีปัญญาล้า หน้าด้านไม่มีใครเหมือน เราเล่าฮ่าวนับถือ นับถือเจ้าจริงๆ!
 “นี่จะชมหรือด่ากันแน่?”  เย่ว์หยางแค่นเสียงหงุดหงิด
 “หน้าด้านไม่เหมือนใคร! ทั้งแดนสวรรค์ล่างและแดนสวรรค์บนมีแต่เด็กน้อยเจ้าเพียงคนเดียวที่กล้าเขียนจดหมายรักถึงน้องข้า แค่กๆ.. สำนวนห่วยเป็นบ้า!  หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะลั่นไม่หยุด
 “นี่เจ้าแอบอ่านจดหมายของข้าเหรอ?” เย่ว์หยางหน้าเขียวคล้ำ
 “ไม่, แต่เป็นสหายรักของน้องสาวข้าแอบเปิดดู นางบอกว่าไม่มีใครในแดนสวรรค์เขียนจดหมายรักในลักษณะแนวนอนแบบเจ้า!  หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะจนน้ำตาไหล
 “????” เย่ว์หยางพูดไม่ออก และแอบจดบัญชีอยู่ในใจ ถ้าเขารู้ว่าเพื่อนนางคนไหนแอบดู เขาจะจับปล้ำแน่ ชอบแอบอ่านจดหมายไม่ใส่ใจสายตาใครนักใช่ไหม? เขาลอบดีใจ ยังโชคดีที่เขาไม่เขียนชัดแจ้งเกินไป ถ้าเขาเป็นเหมือนเจ้าชายนักรักเขียนจดหมายถึงคนรักพูดว่าเขายินดีจะใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชายกระโปรงนางไปตลอดชีวิตคงจะน่าขายหน้ามากแน่นอน
โชคดีที่เขียนจดหมายหยอกล้อสาวหมิงเยี่ยกวงไม่น่าเกลียดเกินไป!
หมิงลี่ฮ่าวยิ้มและต่อมาเขามีสีหน้าจริงจัง  “ทรยศเราเล่าฮ่าวเห็นแก่สัมพันธ์ในอดีตข้าทำเป็นลืมตาข้าง หลับตาข้างหนึ่งได้  อย่างไรก็ตามข้าจะไม่ยอมให้ใครทรยศน้องสาวข้าแน่นอน เพราะนางไม่ใช่เป็นแค่หนึ่งในสามจอมภพแดนสวรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจข้า ใครก็ตามท้าทายหรือทรยศนาง  ข้าจะโกรธและทำลายให้หมด เพื่อปกป้องศักดิ์ศรียักษ์ใหญ่แห่งแดนสวรรค์  ข้ามาที่นี่เพื่อหาสาวใช้คนทรยศ  เดิมทีนางเป็นเจ้าหน้าที่ประจำตำหนักรัศมีจันทร์ ระหว่างที่ถูกผนึก นางขโมยสมบัติหนีไป”
เย่ว์หยางเข้าใจและพูดพร้อมกับยิ้ม  “นางซ่อนตัวอยู่ในเมืองลู่หลิวหรือ? มิน่าเล่าเจ้าถึงปลอมตัวเป็นทหารรับจ้างระดับปราณฟ้า!
หมิงลี่ฮ่าวส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ  แต่มีข่าวทางลับบอกว่าสาวใช้ที่หนีไปปรากฏตัวใกล้ๆ บริเวณนี้  ข้าลองมาเสี่ยงโชคดู  ใครจะรู้กันว่าหาสาวใช้ไม่เจอ แต่กลับพบเด็กน้อยเจ้า”
เย่ว์หยางไตร่ตรองเล็กน้อยและพูดเปิดเผยเงื่อนไข  “เจ้าไล่ล่าสาวใช้ ข้าคงไม่ยุ่งด้วย นั่นเป็นธุระของตระกูลของเจ้า แต่ทำไมภูมิภาคสวนสวรรค์ถึงกลายเป็นเช่นนี้ ต้องมีความลับแฝงอยู่ในนี้ ข้าต้องการรู้ความจริง อย่าปิดบังข้า  ถ้าเจ้าแค่ตามไล่ล่าสาวใช้ที่หลบหนี ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะมาถึงสถานที่ผีสางอย่างนี้  บอกข้าออกมาได้เลย  ถ้าเราคุณชายอารมณ์ดี ทรัพย์สินเมืองลู่หลิวจะแบ่งให้เจ้าสามในสิบส่วน”
 “ใครจะสนใจสมบัติในเมืองโทรมๆ อย่างเมืองลู่หลิวนี้เล่า? เจ้านึกว่าข้าเป็นขอทานหรือ? ข้าไม่ใช่พวกหิวโหยที่อยู่ตามท้องถนนด้านนอก  เจ้าคิดว่าทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยจะโยกคลอนจิตใจข้าได้หรือ?” หมิงลี่ฮ่าวทำให้เจ้าเด็กนี่เหมือนคนบ้า และเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกความจริง  แต่ทัศนคติเช่นนี้น่าโมโหเกินไป
 “ข้าจะให้ส่วนแบ่งเจ้า นั่นเป็นโชคดีในรอบหลายปีเชียวนะ”  เย่ว์หยางกางแขนทั้งสอง ข้าจะขอให้เจ้ายอมรับน่ะหรือ? ฝันไปเถอะ!
 “อา,, ข้าลืมไปว่าเด็กน้อยเจ้าเป็นจอมงกคนหนึ่ง!” หมิงลี่ฮ่าวได้ยินแล้วรู้สึกดีขึ้นทันที
ต้องกดราคาเจ้าเด็กนี่สักเล็กน้อย
เขายินดีส่วนแบ่งบางอย่างที่เป็นของหายาก
เป็นผลจากการปลอมตัวเป็นคนธรรมดา ส่วนแบ่ง 30% ถือเป็นการดูถูกแน่นอน แต่สำหรับเจ้าเด็กนี่ ถ้าพลาดเวลานี้ไป อย่าหวังว่าต่อไปเขาจะได้รับส่วนแบ่งนี้
คิดได้ดังนี้แล้วหมิงลี่ฮ่าตบต้นขา  “ก็ได้ ความสำเร็จสามครั้ง 30%
เย่ว์หยางทำเป็นดูแคลนคนผู้นี้และชูนิ้วกลางให้ “คุณธรรมของเจ้าลดลงกว่าเดิมหรือเปล่า?”
หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะอย่างพอใจ  “สามารถได้ประโยชน์จากเด็กน้อยเจ้า และเจ้าไม่ต้องกังวลมากไป นอกจากนี้ความลับของข้าก็ยิ่งใหญ่เพียงพอ เจ้าก็ต้องแบ่งปันกับข้า  เจ้าคนเดียวกินได้ไม่หมดแน่  เคยได้ยินคัมภีร์เทพมาบ้างไหม?”
 “คัมภีร์เทพ?”  เย่ว์หยางเกือบพูดว่าเราคุณชายก็มีอยู่ในครอบครองเล่มหนึ่ง  แต่เขาข่มใจไม่พูด  “ข้าไม่เคยได้ยิน ภูมิภาคสวนสวรรค์มีกฎสวรรค์ดั้งเดิมไม่ใช่หรือ?”
 “ไม่!  ภูมิภาคสวนสวรรค์ไม่น่าจะมีคัมภีร์เทพ  แต่ที่นี่มีความลับเกี่ยวกับที่ตั้งของคัมภีร์เทพ หมื่นปีที่แล้วนักสู้จากภูมิภาคสวนสวรรค์ยังไม่ค่อยแข็งแกร่งนักหรืออาจจะบอกได้ว่าอ่อนแอมาก  แต่เพราะบังเอิญเขาเข้าไปสู่ที่ตั้งของกฎสวรรค์ดั้งเดิมและได้รับประกายเทพ  และใช้ความสามารถผสานกับประกายเทพนั้น  เขากลายเป็นนักสู้ระดับเทียมเทพและกลับไปยังภูมิภาคสวนสวรรค์และกลายเป็นผู้นำของกลุ่มผู้คน แดนสวรรค์ตะวันตกสู่ยุครุ่งเรือง” หมิงลี่ฮ่าวพูดถึงเหตุการณ์ในอดีต
 “แล้วเดี๋ยวนี้เทียมเทพผู้นั้นเป็นยังไง?”  เย่ว์หยางไม่เคยได้ยินว่าภูมิภาคสวนสวรรค์มีเทียมเทพ
 “ตายแล้ว” คำพูดของหมิงลี่ฮ่าวทำให้เย่ว์หยางประหลาดใจ นักสู้ระดับเทียมเทพตายได้หรือ?  หมิงลี่ฮ่าวให้คำตอบยืนยัน  “เพราะความตายของเทียมเทพ เป็นเหตุให้เกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน”
เย่ว์หยางยังคงเชื่อในเรื่องนี้อยู่บ้าง
หลังจากเทียมเทพตายแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก่งแย่งประกายเทพ ที่สำคัญที่สุดคือมองหาคัมภีร์เทพ
ถ้ามีกฎสวรรค์ดั้งเดิม ขณะที่มีกองกำลังของตำหนักกลางคอยยั่วยุปลุกปั่นอยู่หลังฉาก ภูมิภาคสวนสวรรค์ไม่เละเทะเป็นขยะก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
หมิงลี่ฮ่าวมองเย่ว์หยางและยิ้มให้เขาอีกเขา “ความจริงมีรายละเอียดในเรื่องนี้มากกว่านี้ เจ้าอยากฟังไหม? เป็นความจริงที่เกินคาดไปมากมาย ถ้าเจ้าสัญญาว่าจะร่วมมือกับข้าต่อต้านตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ แล้วข้าจะเล่าเรื่องที่แท้จริงให้เจ้าฟัง  ไม่อย่างนั้นเจ้าก็จงเป็นคุณชายไตตันต่อไป  ส่วนข้าก็จะไล่ล่าหญิงรับใช้ที่หนีไป!
เย่ว์หยางโมโห
เขาเกลียดคนที่ชอบคุกคามคนอื่นให้ทำอะไรสักอย่าง
อย่างไรก็ตาม ไม่ถือเป็นการมากเกินไปกับการผนึกกำลังกันสู้กับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  บุรุษผู้นี้ต้องการคำยืนยัน นับว่าไม่มีความหมายจริงๆ  เย่ว์หยางแอบสบถด่าหมิงลี่ฮ่าว เจ้าผู้นี้ดื่มเหล้าราวกับน้ำ เขาจดจำบัญชีครั้งนี้ไว้  ในอนาคตค่อยตามหาหมิงเยี่ยกวงคิดบัญชีกับสาวน้อยนั่น โดยผิวเผินเขาพยักหน้ารับปากหมิงลี่ฮ่าว  “ก็ได้!  อย่าว่าแต่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เลย  เจ้าหนอนแมลงอย่างซิวคงและจิ่วเซียวเราคุณชายก็จะเข้าร่วมต่อสู้ขั้นเด็ดขาดด้วย  อย่างไรก็ตามถ้าเจ้าคิดถอนตัวกลางครัน อย่ามาโทษว่าข้าโกรธ  น้องสาวเจ้าไม่ต้องพูดถึง แต่เจ้าเป็นถึงยอดฝีมือปราณราชันย์ระดับแปด ข้าก็ยังมีปัญญาฆ่า!
คำพูดคุกคามตอบโต้นี้ทำให้หมิงลี่ฮ่าวกลัวอยู่ในใจเหมือนกัน
เมื่อเห็นสีหน้าเย่ว์หยางไม่เหมือนกับว่าโกหก เขาชักจะเชื่อหลายๆ จุด
เป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่น  แต่เจ้าเด็กนี่ร้ายกาจจริงๆ  นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่นักสู้ปราณราชันย์ระดับแปดอาจแพ้เขาได้ แล้วไปเถอะ ในเมื่อไม่อาจเป็นศัตรูกับเจ้าเด็กนี่ ก็ดึงเขามาเป็นพันธมิตรจะดีที่สุด ปล่อยให้ศัตรูของเขาได้ปวดหัวและอับอายบ้างก็ดี
 “ก็ได้  ความจริงเรื่องมีอยู่ว่า...” หมิงลี่ฮ่าวตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงกับเย่ว์หยางอย่างตรงไปตรงมา !-!

7 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

ฮ่าๆๆพี่เมียช่วยน้องเขยตลุยแดนสวรรค์

Victor005 กล่าวว่า...

อาการเหมือนตอนดูละคร พอถึงฉากสำคัญมันก็จบ
ค้างหวะ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ่า

Emptiest กล่าวว่า...

เรื่องมีอยู่ว่า​ ว่า​ ว่าไงเล่า🤬🤬🤬😤😤😤

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น