วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 938 ทุบจนกว่าพวกมันจะยอมรับคุณชาย


ตอนที่  938 ทุบจนกว่าพวกมันจะยอมรับคุณชาย
มารสัมฤทธิ์ได้ยินแล้ว เขานิ่งและกล่าว
 
 “ราชา, ขออภัย ข้ามารสัมฤทธิ์ฟ้าเป็นองครักษ์รักษาความปลอดภัย ไม่สะดวกจะอยู่ต่อ”
เขาเพียงแต่แสดงความเคารพราชาจื่อฟงเล็กน้อย  ไม่สนใจดูคนรอบตัวเขาเหมือนกับว่ารอบด้านเป็นอากาศธาตุ  ทันใดนั้นเขาพาจักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพไปทันทีไม่เปิดโอกาสให้ราชาจื่อฟงพูดต่อ
ไม่เพียงแต่ราชาจื่อฟงเท่านั้น แต่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ค่อยเข้าใจขึ้นเล็กน้อย  มารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้ มีสหายอีกสองคนที่มีพลังระดับเดียวกันเกินกว่าธรรมดา  พวกเขาไม่คล้ายกับนักสู้จากแดนสวรรค์ล่าง เป็นไปได้ว่าอาจมาจากแดนสวรรค์บน ด้วยศักดิ์ศรีและพลังของพวกเขา พวกเขาไม่ต้องการพบใครในแดนสวรรค์ล่าง มีแต่เพียงคุณชายไตตัน คนที่ฮูเหลยเข้าใจผิดนึกว่าเป็นคุณชายเจ้าสำราญธรรมดาจนเกิดการยั่วยุท้าทาย และสุดท้ายพวกเขาปรากฏตัวออกมาคุ้มกัน
ต้องการจะรู้จักมารสัมฤทธิ์ฟ้าเหมือนอย่างตามปกติ
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นองครักษ์รักษาความปลอดภัย  แต่บางทีสถานะอาจจะสูงกว่าราชาจื่อฟง!
แน่นอนว่าในตอนนี้ราชาจื่อฟงไม่เพียงแต่ไม่โกรธอีกฝ่ายหนึ่ง  แต่ประหลาดใจมาก  ด้วยทัศนคติที่หยิ่งผยองของมารสัมฤทธิ์ฟ้าแสดงให้เห็นว่าภูมิหลังของเขาใหญ่โตไม่ธรรมดาแสดงว่าสถานะของคุณชายไตตันผู้นี้สูงส่ง
ตอนนี้จะทำความรู้จักกับมารสัมฤทธิ์ฟ้า ค่อนข้างลำบาก  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น  ที่สำคัญก็คือการเอาใจคุณชายไตตันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด!
ราชาจื่อฟงมองดูเย่ว์หยางอีกครั้ง แววทึ่งประหลาดใจปรากฏอยู่ในตาของเขา เหมือนกับว่าเขาเห็นขุมสมบัติลึกลับที่ประเมินค่าไม่ได้  แน่นอนว่าเขายังไม่นับกระไรได้ แต่พ่อบ้านเย่ผู้มากประสบการณ์ยังต้องกลืนน้ำลายและระงับความตื่นเต้นในใจ  ขณะที่หัวหน้าจินฟันทองปลาบปลื้มจนร้องไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ผู้เฒ่าเผ่าจิ้งจอกเคราขาวก่อนหน้านั้น สีหน้าซีดไร้สีเลือด
กลัวว่าคุณชายผู้นี้จะเกลียดเขา
เขาต้องการจะกล่าวขอโทษ แต่ติดที่สถานะของเขายังไม่เพียงพอจึงไม่กล้าก้าวออกไป
 “คุณชายไตตัน โปรดอภัยที่ข้าเสียมารล่วงเกินท่าน” ฮูเหลยที่รอดจากความตายได้ คุกเข่าทันที
เขานำสหายที่อยู่รอบๆ คุกเข่า ผู้เฒ่าเผ่าจิ้งจอกเคราขาวหลั่งเหงื่อพรั่งพรู  ไม่ว่าเขาจะเข้าใจผิดหรือไม่ ตราบเท่าที่คุณชายจิตใจกว้างขวางไม่เอาความ  อย่างนั้นทุกอย่างนับว่าดี
ระหว่างหน้ากับชีวิต อย่างไหนสำคัญกว่า?
ย่อมเป็นชีวิตแน่นอน ถ้าเสียหน้าบ้าง จะเป็นไรไป?
ทุกคนไม่คิดเลยว่ากลุ่มของนักสู้ปราณฟ้าคุกเข่าเป็นการกระทำการไม่สมควร  ตรงกันข้ามราชาจื่อฟงกลับชื่นชมจากใจที่ฮูเหลยเป็นคนนำคุกเข่าขอขมาด้วยตนเอง ในฐานะที่เป็นคนยอมงอได้เพราะเห็นแก่สถานการณ์ใหญ่ แม้แต่คนตาบอดก็สามารถมองออกว่าคุณชายไตตันไม่ใช่คนหยิ่งยโส  ตรงกันข้าม เขาเป็นศิษย์จากตระกูลที่มีชื่อเสียงมีหัวใจอ่อนโยน เพราะเขายกโทษให้ฮูเหลย  ทุกคนสามารถรู้ได้ว่าคุณชายผู้นี้ยังไม่มีประสบการณ์การทางโลกมากนัก  เขาไม่รู้ว่าโลกโหดร้ายแค่ไหน  เขายังอยู่ในช่วงการเรียนรู้และเติบโต เขาชอบแยกแยะระหว่างความดีกับความชั่ว ยังไม่ให้คุณค่าของพลังกับความสัมพันธ์
ถ้าเขาท่องเที่ยวเดินทางเป็นเวลานานแล้ว ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังคงไม่ส่งคนอย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้ามาคุ้มกันแน่
คาดว่าผู้ใหญ่ของเขารู้ว่าเขาเป็นพวกที่ชอบรนหาเรื่อง
เย่ว์หยางโบกมือและพูดอย่างไม่ถือสา
จากทัศนคติและมารยาทของเขา ราชาจื่อฟงรู้ได้ว่าคุณชายท่านนี้ไม่ชอบมารยาทที่คร่ำครึ คาดว่าคงเป็นคุณชายที่อยู่ในมารยาทเคร่งครัดมานาน เขาคงชอบความสนุก เพิ่งมาถึงได้ไม่นานเขาก็ไม่ต้องการกลับไปเป็นใช้ชีวิตแบบเก่า
ฮูเหลยและนักสู้ปราณฟ้าสหายของเขาค่อยรู้สึกโล่งใจ
เกือบไปแล้ว!
โชคดีที่ไม่เกิดเรื่องใหญ่  ถ้าใครบางคนโจมตีใส่คุณชาย หลายอย่างจะไม่ง่ายอย่างนั้น  ไม่, ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของราชาจื่อฟง เกรงว่าเขาคงจบชีวิตตรงนั้น
คิดได้เช่นนั้นฮูเหลยและพวกเข้ามาสำนึกขอบคุณราชาจื่อฟง
 “ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เรียกว่าไม่ต่อยตีไม่รู้จักกัน ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรบางทีก็เกิดจากการต่อยตี!  ราชาจื่อฟงคาดว่าเย่ว์หยางยังเป็นผู้เยาว์เลือดร้อนและใจใหญ่  เขาฉวยโอกาสเข้าใกล้เย่ว์หยางและเชิญคุณชายมาร่วมงานเลี้ยงที่วังหลวง
 “ราชาจื่อฟง โปรดรอสักเดี๋ยว  ข้ามีเรื่องต้องจัดการ”  เย่ว์หยางคงต้องจัดการบริวารของเขาแน่นอน
 “ไม่ทราบว่าน้องไตตันมีเรื่องอะไรต้องจัดการ  บอกข้าได้โดยตรง จื่อฟงและประชาชนนับพันยินดีสนับสนุน”  ราชาจื่อฟงคิดว่าเวลานี้ถือเป็นเรื่องโชคดี มีคุณชายจากแดนสวรรค์บนลงมาเยี่ยมเยือนเขตปกครองของตน  เขาต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีเพื่ออนาคต
 “เรื่องเล็กน้อยไม่ถึงกับต้องรบกวนราชา”  เย่ว์หยางโบกมือและหันไปทางฟงจีและจินหวิน “ไปตามจงกวนมา พวกเขาคุ้มกันประสาอะไร?  แม้ว่าเราคุณชายจะให้พวกเขาหยุดพักงานได้สองสามวัน  แต่ข้าหาใครไม่เจออย่างนี้ น่าหงุดหงิดจริงๆ!  ถ้าพวกเจ้าตามพวกเขามาในสิบนาทีไม่ได้ บอกพวกเขาว่าชั่วเวลาที่ข้าทอดปลาหมึกเสร็จ ถ้าพวกเขายังไม่มา ก็ไม่ต้องมาอีก ไปเดี๋ยวนี้”
หือ?
 “หัวหน้า! มาเร็วๆ!
 “คุณชาย, เรามาสายเล็กน้อย  นี่คือปีกมังกรย่างที่ท่านชอบกิน ทั้งสดทั้งร้อน  ฟงจี! เกิดเรื่องอะไร?”
เงาร่างห้าสายถืออาหารจานเล็กบินกลับมา  เมื่อเห็นเย่ว์หยางถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คน เขารีบเร่งความเร็วทันทีและยืนคุ้มกันและทักทายเย่ว์หยาง คนที่ดูเหมือนกับเป็นหัวหน้ากลุ่มกระซิบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับฟงจี
หลายคนพบว่าคนเหล่านี้เป็นผู้คุ้มกันระดับปราณฟ้าทั้งนั้น
คนที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังปราณฟ้าระดับสาม
คนที่เหลือมีพลังระดับทั่วไป
สองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสอง และระดับหนึ่ง สุดท้ายเป็นฟงจีและจินหวินที่มีระดับพลังเทียบเตรียมปราณฟ้า และต่ำกว่าปราณฟ้าลงมาตามลำดับ
สิ่งที่ทำให้ฮูเหลยแปลกใจก็คือหัวหน้าผู้คุ้มกันพลังปราณฟ้าระดับสาม  แม้ว่าจะมีพลังระดับเดียวกับเขา แต่ดูเหมือนจะเป็นปราณฟ้าระดับสามขั้นสูง และดูจะเหนือกว่าเขาเล็กน้อย น่าประหลาดใจจริงๆ
ราชาจื่อฟงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุรุษที่สวมมงกุฏย่อมมีปัญญาเหนือธรรมดา
นั่นคือการปลุกปณิธานเทพรูปแบบหนึ่ง
หัวหน้าฝ่ายคุ้มกันมีพลังกายและปณิธานที่แข็งแกร่ง มีพลังแรงกดดันระดับเดียวกับฮูเหลยแน่นอนไม่มีปัญหา!  นอกจากนี้หัวหน้าองครักษ์ที่ชื่อจงกวนนี้ ยังมีพลังที่เก็บงำไว้อยู่ คาดว่าคงจะคล้ายกับหัวหน้าองครักษ์ส่วนบุคคลของเขาที่มีพลังปราณฟ้าระดับสี่  และฮูเหลยจะเทียบได้อย่างไร?  กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ มารสัมฤทธิ์ฟ้าไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยซ้ำ แค่หัวหน้าองครักษ์หมวกสูงจงกวนก็จัดการฮูเหลยได้ พวกเขามัวแต่วิ่งซื้ออาหารให้คุณชาย ไม่ได้อยู่คุ้มกัน ร้อนถึงมารสัมฤทธิ์ฟ้าจำเป็นต้องปรากฏตัวออกมารับมือ
ในใจของราชาจื่อฟง เขาลอบประเมินสถานะของเย่ว์หยาง คุณชายไตตันผู้นี้
แค่กลุ่มองครักษ์คุ้มกันทั้งลับและเปิดเผย ความคิดที่อาจหาญอย่างนี้ใช่ว่าตระกูลธรรมดาจะสามารถจัดการได้ ต่อให้ไม่ใช่สี่ตระกูลใหญ่ ก็คาดว่าคุณชายผู้นี้คงเป็นผู้สูงศักดิ์หรือสมาชิกจากตระกูลที่มีชื่อเสียงเป็นแน่
ฟงจีกระแอม  “ท่านพลาดฉากที่ยอดเยี่ยมไปแล้ว!
หัวหน้าหน่วยคุ้มกันจงกวนเข้าใจความหมายแฝงของเรื่องได้โดยปริยาย  ไม่มีร่องรอยของการซักซ้อมสงสัยปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของเขา  เขาแสดงออกได้ดีราวกับเป็นนักแสดงมืออาชีพ  “ข้าพลาดเรื่องอะไรไป?”
 “เอาออกไป ตอนนี้ข้ากำลังโมโห...”  เย่ว์หยางเตะเจ้าผู้นี้จนกระเด็น  จงกวนผู้มีชีวิตเหมือนกับแมลงสาบคุ้นเคยกับหมัดและเท้าของเย่ว์หยางทำเป็นกระเด็นถอยหลังและกลับมาแสดงความเคารพอย่างแท้จริง  ฝีมือในการแสดงตบตาของเขานับว่ายอดเยี่ยม   “คุณชาย! อย่าเพิ่งโกรธ  อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย  เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ข้าจัดการได้!  ฟงจี, เจ้ายืนเซ่ออยู่ทำไม?”
 “อ่า...คุณชายต้องการจับเจ้ากระทิงเถื่อนสองตัวนี้กลับเป็นไปเป็นฝ่ายคุ้มกันภัย!” ฟงจีถูกจงกวนจับคอเสื้อเขย่าและชี้ไปที่สองพี่น้องกระทิงเถื่อนในรถคุมขัง
 “เฮ้, เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเรานะ!  สองพี่น้องกระทิงเถื่อนที่น่าสงสารหลังจากมองดูละครตบตาอยู่ครึ่งค่อนวัน ทันใดนั้นพวกเขาพบว่าเริ่มเวียนหัว พี่ใหญ่กระทิงเถื่อนรีบจับประตูกรงขัง  “ข้าไม่รู้จักคุณชายท่าน  ท่านชอบเล่นสนุก แต่ท่านจะเอาเราไปไม่ได้นะ!
 “เราไม่ได้รู้จักคุณชายมาก่อนเลย...”  กระทิงเถื่อนคนน้องเกือบจะร้องไห้
ทั้งสองคนถึงจะโง่  แต่ไม่ยอมโดนหลอก
พลังที่ยิ่งใหญ่ของคุณชายท่านนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองจะเข้าไปตอแยได้
นอกจากนี้พวกเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูของคุณชายผู้ยืนหยัดหนักแน่นว่าต้องการพิทักษ์คุณธรรม
เย่ว์หยางปรบมือและพูดคำหนึ่งต่อหน้าธารกำนัล  “ลากสองคนลงมา  แล้วทุบตีพวกมันให้กับข้า!
ทุกคนตะลึงปากอ้าตาค้าง
คนดี!
นี่เขาจะช่วยคนหรือทุบตีคน?
บอกให้ทุบตีคนจนกว่าเขาจะพอใจ คาดว่าคงมีแต่เพียงคุณชายผู้นี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรคือความเจ็บปวด
ภายใต้สายตาฉงนของทุกคน จงกวนหัวหน้าหน่วยองครักษ์ยืนตัวตรงทำความเคารพและรับคำสั่ง  เฮยถูและไป๋หม่าเปิดรถคุมขังสองพี่น้องกระทิงเถื่อน และถามซ้ำอีก  “คุณชาย, จะให้ข้าลงมือนานแค่ไหน?”
เย่ว์หยางพูดไม่โดยไม่ต้องคิด “จนกว่าพวกมันจะยอมรับข้าคุณชาย!
พอได้ยินเขาพูด ทุกคนทรุดลงกับพื้น
หัวหน้าจินฟันทองไม่รีรอ เขารีบเกาะขาเย่ว์หยางทันที คล้ายจะถามว่าคุณชายจะส่งคนมาทุบตีเขาจริงๆ หรือ?
เขารับคนคุ้มกันด้วยวิธีง่ายๆ อย่างนี้หรือ  หัวหน้าจินฟันทองเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าจินหวินตาไฟถึงถูกจ้างเป็นผู้คุ้มกัน  กลับกลายเป็นว่าจินหวินผู้นี้เป็นเหมือนสุนัขที่ไร้ค่ามาสิบแปดปี โชคดีที่เขาได้พบกับคุณชายผู้นี้
 “ไม่, เราจะไม่เรียกเจ้าเป็นคุณชาย  เราไม่คิดจะทำเช่นนั้น” สองพี่สองกระทิงเถื่อนดิ้นรนอย่างโมโห
 “คุยกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องตบหน้าข้า”  กระทิงเถื่อนคนรองโอดโอยเสียงแผ่ว
ทุกคนมึนงงคาดไม่ถึง
เป็นเรื่องที่น่าสับสนอย่างแท้จริง ฝ่ายหนึ่งถูกบังคับให้เป็นผู้คุ้มกัน และอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมประนีประนอม การต่อสู้เสี่ยงเป็นตายนี้ หัวหน้าจินฟันทอง คนที่เหลือปกติจะทุ่มเทต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตา  แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่เป็นพวกเขาเอง

9 ความคิดเห็น:

Popcorn กล่าวว่า...

เนื้อกระทิงทุบอร่อยๆๆ1จาน

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ตอนนี้สนุกมากครับ ชอบๆ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

apichart123 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับทีแปลงานให้อ่านตลอด

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุุุณครััับที่ี่ี่่่แปลให้้้อ่่่านสนุุุกมากๆรออยู่นะครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น