ตอนที่ 940
จักรพรรดิพิโรธ
หยดเลือดเทพทำให้เกิดโกลาหลแตกตื่นเฉลิมฉลองกันทั้งเมือง
แม้ว่าราชาจื่อฟงต้องการจะทำตัวราบเรียบไม่โดดเด่น
อย่างไรก็ตามนี่เป็นของขวัญร่วมแสดงความยินดีจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะป้องกันข่าวคราวรั่วไหลออกไป เว้นแต่ฆ่าคนทั้งหมดเพื่อหยุดมิให้มีการกระจายข่าวออกไป
ข่าวคุณชายไตตันส่งเลือดเทพเป็นของขวัญแพร่สะพัดไปทั่วเมืองลู่หลิวราวกับพายุถล่ม สมาคมทหารรับจ้างลอบส่งคนสิบคนออกจากเมืองเพื่อส่งข่าว
ขณะที่คนสอดแนมที่แฝงตัวอยู่ในเมืองลู่หลิวไม่ทราบว่ามีกี่คน พวกเขาวางแผนสอดแนมอยู่เป็นเวลานานแล้ว ตอนนี้ได้ข่าวใหญ่เรื่องเลือดเทพ
พวกเขาย่อมรายงานข่าวไปที่เจ้านายพวกเขาเป็นเรื่องธรรมดา
หลังจากขอให้เย่ว์หยางเข้าวังหลวง ราชาจื่อฟงต้องการเชิญสนมจูกวง
สนมคนที่แปดสิบแปดที่เป็นคนโปรดของเขามาพบ
สนมจูกวงได้ข่าวว่าอีกฝ่ายหนึ่งส่งเลือดเทพมาเป็นของขวัญ
นางตกใจ
ทั้งมีความปีติยินดีในหัวใจทันที
อย่างไรก็ตาม
นางไม่ยินยอมออกมากล่าวขอบคุณอาคันตุกะ
“แม่หญิงงาม, เจ้ายังกังวลเรื่องอะไรอีก?” ราชาจื่อฟงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย สนมจูกวงเป็นคนที่ร่าเริง
และนี่เป็นงานฉลองวันเกิดนาง อีกฝ่ายหนึ่งส่งเลือดเทพให้เป็นของขวัญแสดงความยินดี นางปฏิเสธออกไปต้อนรับเขาได้ยังไง?
“ฝ่าบาท, ข้าคิดว่านี่อาจจะไม่ง่าย ข้าไม่รู้จักอีกฝ่ายหนึ่ง
แต่เขากลับใช้หยดเลือดเทพร่วมแสดงความยินดี ในโลกนี้จะมีสักกี่คน? ถ้าเป็นเหมือนอย่างที่ฝ่าบาทกล่าวไว้
นั่นย่อมเป็นเรื่องดีแน่นอน
ของที่ได้มาโดยไม่มีเจตนาแฝงนั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามีความจงใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
ฝ่าบาทจะต้องระมัดระวังตัวไว้ด้วย
ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอคนหนึ่ง ตายไปก็ไม่เป็นไร ข้าเกรงแต่ว่ารากฐานที่ยิ่งใหญ่จะถูกโยกคลอน”
พระสนมจูกวงทูลทำให้ราชาจื่อฟงสงบจิตใจอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาอย่างบังเอิญ คุณชายไตตันนี้แม้จะมาโดยบังเอิญ
แต่ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนมากรัก นั่นเป็นเรื่องแย่ไม่ใช่หรือ?
“ดีแล้วที่เจ้าเตือนข้าไว้” ในภูมิภาคสวนสวรรค์การระมัดระวังเอาไว้เป็นเรื่องที่ดี
ราชาจื่อฟงจะต้องใคร่ครวญก่อนจะตัดสินใจ เขาจะต้องทดสอบคุณชายไตตันผู้มีใจกว้างให้ดีเสียก่อน
“ฝ่าบาท, ข้าไม่สบายใจ
ลองส่งหญิงงามสองสามคนไปรับใช้และทดสอบทัศนคติคุณชายท่านนี้ดู
ราชาจื่อฟงปรึกษากับนาง
เขาออกมาขอโทษเย่ว์หยางซ้ำแล้วซ้ำเล่าทันที
เขาบอกว่าก่อนหน้านี้มีการลอบสังหารทำให้พระสนมกลัวไม่กล้าออกมารับอาคันตุกะชั่วคราว
นอกจากนี้เขายินดีมอบหญิงงามสองคนให้รับใช้เย่ว์หยาง
และรับประกันว่าพรุ่งนี้นางจะออกมาต้อนรับ พร้อมกับดื่มสุราขอขมา
เย่ว์หยางยิ้มรับคำขอโทษของราชาจื่อฟง
เขาวางมาดคุณชายและกล่าวอย่างไม่ถือสา
และมอบยาคุณภาพดีที่สุดช่วยให้สนมจูกวงใช้ฟื้นฟูสุขภาพ
ขณะที่หญิงงามที่เขามอบให้
เย่ว์หยางปฏิเสธ “ฝ่าบาทมีน้ำใจจริงๆ ข้าไตตันมีพันธะหมั้นหมายตั้งแต่อายุน้อยแล้ว
เป็นการจัดการของตระกูล ข้าไม่ต้องการรับสตรีใดๆ ในเวลานี้”
ราชาจื่อฟงเมื่อได้ยินก็เชื่อถึง
80%
การแต่งงานของตระกูลที่มีชื่อเสียงก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกหญิงสาวด้วยความพอใจของตนเอง
มีแต่หมั้นหมายกันไว้ล่วงหน้า
การแต่งงานมีภรรยาอย่างถูกต้องสมควรจะทำให้เข้มแข็งมีอำนาจมหาศาล ถ้าภรรยานั้นมีอำนาจ
และฝ่ายสามีต้องการรับภรรยาน้อย และนางไม่เห็นด้วย
ภรรยาน้อยถูกทรมานหรือถูกฆ่า
นางก็ยังไม่มีความผิด ถ้าคุณชายไตตันรับหญิงงามทั้งสองไป
อย่างนั้นก็จะยิ่งน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น
เพราะกลุ่มตระกูลที่มีชื่อเสียงลูกหลานมีปัญหาเรื่องการสืบทอดตระกูล
คุณชายไตตันปฏิเสธเช่นนี้ดูเหมือนสมเหตุสมผลดีแล้ว
มีการดื่มฉลองกันอย่างดี
และเขาไม่รู้ว่าดื่มไปมากเท่าใด
ราชาจื่อฟงพยายามหลอกล่อ
ตอนแรกคุณชายไตตันเคร่งครัดนักและเขาไม่ค่อยพูดถึงเรื่องของตระกูลและสวรรค์บน
แต่บางครั้งก็มีข้อมูลเล็กๆ
น้อยๆ รั่วออกมา ซึ่งทั้งหมดก็พิสูจน์ว่าเขาคุ้นเคยกับสวรรค์บน
และตระกูลใหญ่ทั้งสี่
ในที่สุดราชาจื่อฟงก็พบความจริง
เดิมทีคุณชายไตตันขณะเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในแดนสวรรค์ตะวันตก
เขาได้รับเชิญให้มายังสี่ตระกูลใหญ่ โดยคุณชายฉางฟงเชิญให้เขามายังเมืองไป๋เหอ
เขาผ่านมายังเมืองลู่หลิวโดยมิได้ตั้งใจ
หลังจากได้ทราบข่าวนี้แล้วราชาจื่อฟงก็ยิ่งยินดี
ถ้ามองอย่างนี้คุณชายไตตันไม่ใช่ศัตรูที่เขานึกระแวงในใจ และคุณชายผู้นี้ผ่านมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
มิฉะนั้นเขาจะพูดถึงการนัดพบกับคุณชายฉางฟงและเดินทางไปยังเมืองไป๋เหอได้ยังไง?
“ไม่ทราบว่าคุณชายฉางฟงกับคุณชายไตตันได้นัดพบเจอกันเมื่อใด?” ราชาจื่อฟงมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย
“ไม่ต้องพูดถึงเวลา
ความจริงฉางฟงที่หลบหนีออกมาจากวิหารปีศาจดินได้กลายสภาพเป็นปีศาจผมงู คาดว่าเขาไม่กล้ากลับตระกูล
และต้องการจะขอให้ข้ากลับไปที่เมืองไป๋เหอเพื่อรับของบางอย่างช่วยฟื้นฟูลักษณะให้เขา! เมืองไป๋เหอมีสมบัติอะไรคู่ควรกับฉางฟงหรือ?” เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นถามคำถาม
“เมื่อไป๋เหอไม่ใช่ดินแดนของจักรพรรดิเสิ่นกวง
และข้าจื่อฟงไม่คุ้นกับที่นั่น”
ราชาจื่อฟงแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย
“ช่างเถอะ คงไม่มีอะไรสำคัญ คงเทียบกับเลือดเทพของข้าไม่ได้” เย่ว์หยางแสดงออกเหมือนคนร่ำรวย
เมื่อได้ยินเขาพูดแล้ว
พ่อบ้านเย่และหัวหน้าองครักษ์ของเขาลอบหัวเราะกันทุกคน
แต่ราชาจื่อฟงได้แต่สงบใจ
ดูเหมือนว่าคุณชายไตตันจะไม่รู้อะไรจริงๆ
ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืด
รอบๆ ด้านจุดเทียนสว่าง
ราชาจื่อฟงเห็นว่าจงกวนหัวหน้าองครักษ์คุณชายไตตันลอยตัวเข้ามากระซิบข้างหูคุณชาย เขาเห็นว่าคุณชายไตตันมีสีหน้าไม่สบายใจ แต่ในที่สุด เขาวางแก้วเหล้าและถาม “มีข่าวดีอะไรจากจงกวนหรือ? นั่งลงและดื่นกินกันก่อน!” จงกวนเห็นงานฉลองแล้ว
แต่เขาโบกมือปฏิเสธที่จะดื่ม
“ขอบคุณฝ่าบาท
คุณชายไม่ควรจะดื่มมาก
มิฉะนั้นท่านจะเมาอยู่ในวังหลวง
จะเสียความเป็นตนเองได้”
เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นคว่ำแก้วด้วยความเย่อหยิ่ง “ไปเลย เดี๋ยวขอดื่มอีกสองแก้ว อะไร แค่นี้ก็ดื่มไม่ได้หรือ?” เขาโกรธยังไม่ทันกล่าวลาราชาจื่อฟงก็เดินจากไป
จงกวนฝืนยิ้ม
อย่างไรก็ตาม
ราชาจื่อฟงและคนอื่นไม่ถือสา
ตรงกันข้าม
พวกเขาเข้าใจดี... คุณชายไตตันเป็นบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์
ไม่สำคัญว่าจะต้องดื่มกี่แก้ว
แต่ถ้าเขาจะพักค้างคืน เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยหรือชีวิต
เหล่านี้เป็นเรื่องแน่นอน
การรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องยากหากจะป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าไปในปราสาท นอกจากนี้ยังมีเรื่องสำคัญ ถ้าเขาพักค้าง
เขาอาจจะมีสัมพันธ์กับสาวงามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเผลอมีลูกโดยไม่ตั้งใจ
นั่นเป็นเรื่องที่คู่หมั้นว่าที่ภรรยาหลวงทนไม่ได้
และบุตรของนางจะไม่ได้รับการสืบทอด
แน่นอนว่าอย่างคุณชายไตตัน
ลูกหลานของตระกูลที่มีชื่อเสียง
ยังไม่ได้แต่งงานนับเป็นช่วงเวลาที่มืดมนลำบากที่สุด
ในใจราชาจื่อฟงรู้เรื่องอย่างนี้และเข้าใจเป็นอย่างดีถึงสาเหตุที่คุณชายไตตันผู้นี้รู้สึกเบื่อเมื่อไปทุกที่
เพราะเขาถูกจำกัดเสรีภาพและต้องมีความยับยั้งชั่งใจในทุกที่...อย่างไรก็ตาม
ดูจากการแสดงออกของคุณชายไตตัน คาดว่าเขาเตรียมจะแต่งงาน
นี่เป็นการเดินทางเที่ยวสุดท้ายของเขาก่อนวิวาห์
มิฉะนั้นเมื่อเขามอบหญิงงามให้สองคน
ก็คงไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องปฏิเสธแน่นอน
“ฝ่าบาท, จงกวนขอเสียมารยาท ขออภัยแทนเขาด้วย พรุ่งนี้เราค่อยร่วมฉลองแล้วจะอำลาจากไป” จงกวนขอโทษแทนเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก
และรีบตามเย่ว์หยางออกไปอย่างรวดเร็ว
“คุณชายไตตันผู้นี้
คงจะเป็นตัวจริงได้ถึงเก้าส่วน!” ราชาจื่อฟงดีใจ
หลังจากกลับมาที่ห้องนอนสนมรัก
เขายืนยันสถานะของเย่ว์หยางกับสนมรักของเขา เขาบอกว่าหลังจากทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าก็ได้ข้อสรุปว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่ศัตรูที่มาหาเขา
เจ้าเด็กนี่ร่ำรวยอย่างน่าเหลือเชื่อจับจ่ายใช้สอยเงินได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งหมดนี้สนมจูกวงยังคงสงสัยอยู่ดี แต่ข้อเท็จจริงนี้ทำให้นางยากปฏิเสธ
“ต่อให้เป็นศัตรู
ศัตรูจะยอมให้เลือดเทพเป็นของขวัญหรือ?”
ต่อให้ศัตรูโง่จะไม่ทำอย่างนี้ นั่นเป็นเรื่องสะดุดตาเกินไปไม่ใช่หรือ?
ในอีกที่หนึ่ง
ที่พักของหมิงลี่ฮ่าว
หมิงลี่ฮ่าวคำรามใส่เย่ว์หยางจนน้ำลายแตกฝอย “นี่เจ้ากินยาผิดสำแดงหรือเปล่า
ถึงได้เอาเลือดเทพให้เป็นของขวัญ นี่หรือแผนโจมตีใหญ่ที่เจ้าคิด? โง่จนไม่มีอะไรจะโง่ไปกว่านี้แล้ว! ข้าเห็นว่าเจ้าไม่ใช่คนโง่ แต่เจ้าทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นได้ยังไง?”
เย่ว์หยางหยิบผ้าออกมาเช็ดหน้า
เขายิ้มพร้อมกับกล่าว
“คนเราบางครั้งก็ทำเรื่องโง่ๆ บ้าง นั่นเป็นเรื่องธรรมดา”
หมิงลี่ฮ่าวแทบไม่ได้ทำให้เขาโมโหเลย
ต่อให้เขาสับสน
แต่เขาก็ไม่ควรให้เลือดเทพเป็นของขวัญออกไปไม่ใช่หรือ?
ต้องรู้ว่าเลือดเทพนี้
ทั่วทั้งแดนสวรรค์แห่งนี้ไม่มีใครที่ทราบข่าวแล้ว จะไม่อยากชิงมาเป็นของตน
เขานำเลือดเทพออกมาให้เป็นของขวัญตอนกลางวันแสกๆ ของขวัญแบบนั้นใครเล่าจะไม่คว้าเอาไว้? ไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย แม้แต่หมิงลี่ฮ่าวก็ยังรู้สึกอยากจะชิงสมบัติของเจ้าเด็กนี่นัก
“ถ้าเจ้ามีเลือดเทพ และไม่มีที่จะใช้
ก็เอามาให้ข้าได้เลย ทำไมต้องเอาไปให้เป็นของขวัญจื่อฟง? พวกเขาจะรู้สึกยังไงต่อเจ้าน่ะหรือ? เขาไม่ได้รู้สึกขอบคุณ เขามีแต่จะหัวเราะเยาะเจ้าลับหลัง, เจ้าเศรษฐีใหม่! นอกจากนี้
ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเข้ามาในเมืองลู่หลิวไม่นาน เจ้ากำลังจะทำให้เมืองนี้เป็นเขตสงคราม ถ้าจื่อฟงกินเลือดเทพช้าเกินไป
ในไม่ช้าเลือดเทพจะตกไปอยู่ในมือของจักรพรรดิแดนดิน เมื่อเจ้าต้องการได้คืน นั่นจะเป็นเรื่องยาก!
ทันทีที่เจ้าบอกคนอื่นว่ามีเลือดเทพ
เจ้ารู้ไหมว่าพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะคิดยังไง? เจ้าไม่ได้ดำเนินแผนล่อลวงศัตรู แต่เจ้าทำป่วนจนทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด!” หมิงลี่ฮ่าวโกรธจนหน้าบิดเบี้ยว
“ไม่เป็นไร
ก็ปล่อยให้พวกเขาปั่นป่วนไปเถอะ นั่นมันเรื่องของพวกเขา เราแค่อยู่ตรงกลางไม่ได้หรือยังไง?”
เย่ว์หยางไม่กังวลว่าเลือดเทพจะหายไปแม้แต่น้อย ต่อให้ราชาจื่อฟงกลืนลงไป เขาก็สามารถฆ่าแล้วดึงเลือดเทพออกมาชำระใหม่ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเขามีเพลิงอมฤตและปราณกระบี่
ตราบเท่าที่มีเลือดเทพ เขาสามารถกลั่นชำระได้
นอกจากนี้
เป็นไปไม่ได้ที่ราชาจื่อฟงจะกลืนเลือดเทพในทันที
ถ้าเขาทำเช่นนั้น
อย่างนั้นเขาจะเป็นตัวโง่งมอย่างแท้จริงและนั่นจะทำให้เขาตาย...
เมื่อเขาหลอมรวมกับเลือดเทพในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
อย่าว่าแต่ทหารรับจ้างระดับปราณฟ้าเลย
แค่องครักษ์ส่วนตัวของเขาอาจจะชิงไปได้ทันที
จะหลอมรวมเลือดเทพจะต้องมองหาที่ปลอดภัย
หลังจากใช้เวลาสองสามเดือนจึงค่อยหลอมรวมได้และเปลี่ยนมาเป็นพลังของตนเอง
ใช่ว่าทุกคนจะมีเพลิงอมฤตเหมือนเย่ว์หยาง ใช่ว่าทุกคนจะมีปราณกระบี่ฟ้าเหมือนเย่ว์หยาง
หมิงลี่ฮ่าวเหนื่อยใจและถอนหายใจในที่สุด
“ก็ได้
ในเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว
ข้าจะทำอะไรได้?”
7 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แค่หยดเดียวเอาไปล่อตะเข้ เย่ไม่บอกหละ ว่าไห้อะไรพี่ฮุยไปบ้าง เชื่อว่าคงจุกอกตายแน่ๆ
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
เลี้ยงหมายังมากกว่านี้ 555
แสดงความคิดเห็น