วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 945 ด้านได้อายอด


ตอนที่  945  ด้านได้อายอด
ต่อให้เป็นจักรพรรดิเสินกวงมาเอง ก็ยังไม่กล้าล่วงเกินราชาจื่อฟง

อย่างไรก็ตามเมื่อบุรุษทั้งสองปรากฏตัวขึ้น กลับสร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น
การปรากฏตัวของบุรุษทั้งสอง
เหมือนกับดวงอาทิตย์โชติช่วงที่พุ่งชนประตูวังหลวง ทุกอย่างไม่อาจจะต้านทานพลังของเขาได้ พื้นหินภูเขาไฟถูกกระแทกแหลก ร่างขนาดใหญ่ยืนตระหง่านดุจขุนเขา และหยุดอยู่คั่นหน้าระหว่างเย่ว์หยาง และราชาจื่อฟงแบ่งแยกคนออกเป็นสองกลุ่ม ภายใต้พลังอากาศอัดกระแทก สะท้านฟ้าสะเทือนดิน นี่ไม่ใช่แค่ทำให้ราชาจื่อฟงตกใจเท่านั้น แต่นักรบทุกคนปากอ้าตาค้างด้วยความตกใจ
ราชาทั้งสามที่ไม่ได้รับเชิญมีสีหน้าแปลกประหลาดมองดูราชาจื่อฟงจากนั้นหันไปมองมารสัมฤทธิ์ฟ้า
การสลายพลังของสองคนนี้
เขาเห็นร่างของบุรุษทั้งสองคนแข็งแรงสูงห้าเมตร คอหนา ไหล่กว้าง หลังตรงเหมือนเสือทั้งสองมีความสูงระดับเดียวกัน  กล้ามเนื้อและความแข็งแรงแค่อธิบายด้วยกล้ามเนื้อที่แกร่งเหมือนเหล็กก็คงยังไม่พอ  แต่เปี่ยมไปด้วยพลังที่พร้อมระเบิดออกเต็มที่
ไม่มีใครสงสัยเลยว่าถ้าทั้งสองร่วมมือกันสามารถถล่มภูเขาจนราบเป็นหน้ากลองได้
เหมือนกับว่าพวกเขาสามารถแบกสวรรค์ไว้ได้
หรือถ้าพวกเขาร่วมมือกันก็สามารถฉุดดึงโลกไว้ได้ทั้งใบ
ราชาที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสามรู้สึกสับสน ในกระทิงเถื่อนทั้งสองคนนี้มีพลังมังกรคล้ายกับสนามพลังเลือนลาง มีทักษะแฝงเร้นแฝงอยู่โดยรอบ  ถ้าตรวจจับพลังงานนี้ลึกๆ จะสามารถสัมผัสความรู้สึกภายในของทั้งสองนี้ได้ชัดเจน  ทั้งสองคนนี้มีพลังคุกรุ่นอัดแน่นอยู่ภายในเหมือนภูเขาไฟรอระเบิด....  “เป็นพวกเขาหรือ?”  ตาสีเขียวของราชาทั้งสามสัมผัสได้ถึงพลังไม่มีสิ้นสุด”  ราชาชิงหลางถามราชาจื่อฟง
 “พวกเขา อะแฮ่ม.. เมื่อวานนี้พวกเขายังเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งอยู่เลย”  ราชาจื่อฟงมีสีหน้าสงบ แต่พอเขาพูด เขารู้สึกขื่นขมอย่างช่วยไม่ได้  เขาเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน  เรื่องนี้ต้องมีสาเหตุมาจากคุณชายไตตัน เพราะท่านไตตันได้รับตัวสองคนนี้ไป  “พบกันวันก่อนสองพี่น้องกระทิงเถื่อนไม่มีอะไรคู่ควรแก่การเอ่ยอ้าง คิดไม่ถึงเขาเลื่อนพลังเป็นปราณฟ้าระดับสี่อย่างคาดไม่ถึง เพียงวันเดียวเลื่อนพลังสามระดับ  ที่น่ากลัวที่สุดก็คือเห็นได้ชัดว่าถ้าสองพี่น้องกระทิงเถื่อนฝึกต่อไปจะต้องเลื่อนไปถึงระดับห้าแน่นอน  เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น
 “อะไรนะ ว่าไง?”
ราชาจื่อฟงตอบราชาทั้งสามเหมือนที่ตอบราชาชิงหลาง
ยกระดับพลังสามระดับในวันเดียวน่ะหรือ?
นี่ไม่ใช่นักสู้ปราณดิน  แต่เป็นนักสู้ปราณฟ้า  เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ถ้าไม่มีการให้เลือดเทพเป็นของขวัญก่อนหน้านี้ ราชาจื่อฟงและอีกสามราชาคงจะไม่มั่นใจแน่นอน  อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นราชาจื่อฟง พวกเขามองดูราชาจื่อฟงและคนรอบด้านอีกครั้ง เหมือนกับว่าไม่มีสิ่งใดแปลกปลอม นอกจากมีเลือดเทพเป็นของขวัญแล้ว  ในเวลานั้นพวกเขาเริ่มเชื่อแล้ว
ราชาชิงหลางรีบถาม “นี่เป็นเพราะหลอมรวมกับเลือดเทพหรือเปล่า?”
ราชาจื่อฟงส่ายศีรษะ “ไม่, ไม่ใช่เลือดเทพ  แต่คุณชายไตตันคงต้องมีสมบัติอื่นนอกจากเลือดเทพ โอว!
ม่านตาของราชาว่านเจียวผู้สวมมงกุฎสูงสีดำขยาย จากนั้นมองผ่านพลางกล่าว  “เป็นเลือดมังกรโบราณที่บริสุทธิ์มากหลอมรวมอยู่ในตัวกระทิงสองพี่น้องนี้  และศักยภาพของทั้งสองนี้นับว่าไม่เลว มีบางคนใช้เลือดมังกรโบราณปลดปล่อยศักยภาพของทั้งสองคนนี้ ทำให้พลังของพวกเขาที่ถูกจำกัดไว้ได้รับการปลดปล่อยโดยตรง!
บุรุษคนที่สามที่ดูธรรมดาแต่ดวงตาคมกริบราวกับดาบ  ระหว่างทั้งสองคนนี้ ราชาผู้สวมชุดสีแดงคือราชาโหลวลั่ว เขาพยักหน้าช้าๆ ยอมรับตามที่สหายของเขาราชาว่านเจียวบอก
ขณะนั้นราชาทั้งสามคือชิงหลาง ว่านเจียว และโหลวลั่ว
นอกจากตกใจแล้ว
ยังมีความรู้สึกไร้พลังและอิจฉา
แม้ว่าเขาเองจะเป็นถึงนักสู้ระดับราชา แต่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้  โชคดีที่ได้เลื่อนระดับเป็นนักรบปราณฟ้าระดับสามในวันเดียวหรือ?  นั่นเป็นความสำเร็จอะไรกัน? พวกเขาเชื่อว่าแดนสวรรค์ไม่มีคนโชคดีมากพอจะมาอยู่ต่อหน้าของเขาสองพี่น้องได้
พ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองยังไม่เป็นไร
แต่ฮูเหลยและนักสู้ปราณฟ้าอื่นอยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตา  พวกเขาปรารถนาจะหาต้นไม้สักค้นและผูกคอตาย
โอวแม่เจ้า  เจ้าวัวโง่สองตัวนี้แทบไม่มีอะไร  ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าทำบุญมาแต่ชาติปางไหน ถึงได้มาพบเจอคุณชายไตตัน
คนที่ต้องห่วงก็คือตัวเขาเอง
ถ้าเลือดมังกรบินโบราณใช้กับตัวเขาได้  อย่างนั้นนี่จะเป็นเรื่องดีมากมายแค่ไหน
 “พวกเจ้า ใครคือราชาจื่อฟง  จงออกมาพบกับเราสองพี่น้อง ตอนนี้เราไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น  เรายังมีเกราะรบทอง  ต่อให้พวกเจ้ารวมหัวกัน เราก็จะเอาชนะเจ้าให้ได้!  พี่ใหญ่กระทิงเถื่อนพยายามยืนอยู่ในท่าที่พวกเขาคิดว่าดูดีที่สุดและยกชูหมัดขึ้นพร้อมกับน้องชายและทำท่าชกลมเสียงดังฟืดฟาด
 “เราต้องใช้หมัดของเรากำจัดพวกเจ้าให้หมดสิ้น!  กระทิงเถื่อนคนรองพอถูกเย่ว์หยางดึงพลังเทพออกไปกลายเป็นผู้มีนิสัยดุดันก้าวร้าว
 “เจ้าพวกโง่ทั้งสองคน!  หมิงลี่ฮ่าวทนไม่ได้อีกต่อไป
หนึ่งคนหนึ่งหมัดต่อยออกปด้วยความโมโหกระแทกใส่ทั้งสองโดยตรง
ไม่สมเหตุผลเสียเลย
ตามแผนของเย่ว์หยาง ทั้งสองคนนี้ควรจะออกไปอยู่นอกเมืองรอสัญญาณการต่อสู้ที่งดงามที่สุดในตอนราตรี พวกเขาต้องการเปิดตัวโจมตีอย่างยิ่งใหญ่เพื่อก่อกวนการจัดงานของราชาจื่อฟง  นึกไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางกับพวกยังมาไม่ถึงวังหลวง  เจ้าโง่ทั้งสองก็บุกเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้!
เย่ว์หยางคาดไว้นานแล้วเจ้าสองคนนี้คงจะทนรอไม่ได้ และเขาจะไม่บังคับให้สองกระทิงเถื่อนฟังคำสั่งของเขาเหมือนคนอื่น
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างอาจผิดปกติ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังว่าทั้งสองคนนี้จะบุกรุกเข้ามารวดเร็วนัก  แต่เขายังมีความรู้สึกว่าไม่มีใครรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้?  สำหรับสองคนนี้เชี่ยวชาญในการเปลี่ยนแปลง นั่นก็ถูกไม่ใช่หรือ ? เย่ว์หยางยิ้ม ยิ้มเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์และตบสองพี่น้องกระทิงเถื่อน  “ข้านึกว่าพวกเจ้าจะต้องหลับไปสามวันเสียอีก คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะตื่นขึ้นรวดเร็วนัก ก็ดีแล้ว การหลอมรวมพลังสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าพลังจะก้าวหน้า แต่ดูเหมือนว่าพลังยังไม่มีความเสถียร  พวกเจ้ายังปรับตัวเข้ากับพลังนั้นไม่ได้ง่ายๆ  ตอนนี้ เมื่อครู่นี้ข้าเห็นพวกเจ้าเพิ่งจะพุ่งเข้าปะทะประตูพัง ดังนั้นพวกเจ้าต้องฝึกฝนให้ดี  มิฉะนั้นถ้าพวกเจ้ามีพลังแต่ไม่มีทักษะต่อสู้ นั่นเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์”
สองพี่น้องกระทิงเถื่อนไม่เคยยอมรับฟังใคร  แต่กลับเชื่องเชื่อต่อเย่ว์หยางนัก
คำวิจารณ์ที่น่าอึดอัด
สองพี่น้องลูบหลังศีรษะและหัวเราะอย่างโง่เขลาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
เย่ว์หยางให้พวกเขาลุกขึ้นอีกครั้งและชี้ไปทางจวนเจ้าเมือง  “ถ้าพวกเจ้าต้องการสู้  พวกเจ้าจะสู้ทั้งที่ท้องว่างเปล่าได้หรือ?  ถ้าเจ้ามีเรื่องร้องเรียนกับราชาจื่อฟง  ทำไมเจ้าไม่ไปบ้านเขาก่อน กินก่อนแล้วค่อยเล่นกับพวกเขา?  ที่นี่มีเหล้ายาอาหารมากมายเป็นภูเขาเลากา  ทำไมพวกเจ้าไม่หาความสุขจากการกินเสียก่อน?”
เมื่อสองพี่น้องกระทิงเถื่อนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาตบหน้าผากตนเองทันที  “โฮ่ย...ข้านึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้!
การต่อสู้เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  แต่เป็นไปไม่ได้จริงๆ กับการต่อสู้ทั่งที่ท้องยังหิว
ไม่อย่างนั้นจะแย่เกินไป
กระทิงเถื่อนพี่ใหญ่เกรงว่าราชาจื่อฟงจะไม่ยินยอมให้ตนเองได้ร่วมสนุก  เขาตะโกนลั่นทันที  “พี่น้องเรา พี่น้องไตตัน เข้าไปข้างใน ไปกินอาหารกัน ใครกล้าขัดขวาง? ข้าจะใช้หมัดคู่นี้ทุบวังให้พังจนหมดสิ้น!
กระทิงเถื่อนน้องรองคว้าคอเสื้อจินฟันทองและตวาด  “เอาอาหารออกมาเดี๋ยวนี้!
พ่อบ้านเย่รีบนำทาง
เมื่อหัวหน้าจินฟันทองและพวกพาเจ้ามนุษย์วัวไร้สมองทั้งสองเข้าไปหาอาหารเติมท้อง  ในวังหลวงมีอาหารมากพอให้สองพี่น้องกระทิงเถื่อนกินจนพุงแตกตาย มีคุณชายไตตันคอยคลี่คลายสถานการณ์ของสองพี่น้องกระทิงเถื่อน ทั้งสองคนนี้ยังจะเอาเวลาที่ไหนไปสู้ในวันนี้?  ถ้าพวกเขาไม่เมาอยู่ในวังหลวง อย่างนั้นหัวหน้าจินก็ไม่ควรเป็นหัวหน้าจินฟันทองอีกต่อไป สมควรจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นจินผู้ไร้ความสามารถ!
เดิมทีฮูเหลยและนักรบปราณฟ้าคนอื่นตาแดงด้วยความอิจฉา อาการที่ไม่พอใจที่เกิดขึ้นในใจตอนแรกหายไปทันที
แม้ว่าสองพี่น้องกระทิงเถื่อนจะมีพลังก้าวหน้าไปถึงปราณฟ้าระดับสี่  แต่สติปัญญาของเขามิได้เพิ่มตามขึ้นเลย
โชคดีที่พวกเขาทั้งสองยังโง่เหมือนเดิม
ดีที่เจ้าสองคนนี้ยังโง่  ฮูเหลยปล่อยวางความคับข้องใจและตัดสินใจวาจะหาโอกาสผูกมิตรกับคุณชายไตตัน  ตราบเท่าที่คุณชายเรียกหาตัวเขา  มีหรือที่เขาซึ่งมีความฉลาดมากกว่าจะไม่ดีเท่าเจ้าวัวป่าทั้งสองตัวนี้ได้?
ต่างจากนักสู้ปราณฟ้าอย่างฮูเหลยและพวก ราชาจื่อฟงและอีกสามราชาถือเป็นนักสู้ระดับสูง
พวกเขามีมุมมองต่างออกไป
คุณชายไตตันพูดกับพี่น้องกระทิงเถื่อนเพียงไม่กี่คำ ดูเหมือนเรื่องจะง่ายไปหมด  ความจริงแล้วยอดฝีมือระดับราชาทั้งสี่คือ ราชาจื่อฟง ราชาชิงหลาง ราชาว่านเจียวและราชาโหลวลั่ว ก็ยังรู้สึกว่ายากจะเปลี่ยนสถานการณ์เช่นนี้ได้  พวกเขาลอบถอนหายใจ “น่าตกใจจริง นี่คือลูกหลานของตระกูลมีชื่อเสียงจากแดนสวรรค์บนหรือเปล่า?  ความสามารถของคนผู้นี้เกินคาดจริงๆ  ไม่ต้องพูดถึงนักรบระดับราชาเลย  เขาอาจจะสูงกว่าหรืออยู่ในระดับจักรพรรดิแดนดินก็เป็นได้  เป็นข้าก็คงทำได้ไม่ดีกว่านี้?”
คุณชายไตตันผู้นี้อายุเท่าใดกันแน่?
เมื่อเขาเติบโตขึ้น จะเป็นยังไง?
ถ้าเป็นแต่ก่อนจื่อฟงและชิงหลางจะให้เกียรติคุณชายไตตันเพราะสถานะของเขา  แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่มความเกรงกลัวขึ้นอีกเล็กน้อย
ในแง่ของเสน่ห์บุคลิกส่วนตัว ระดับราชายังคงด้อยกว่าเช่นกัน.... ชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วมองหน้าและพยักหน้าให้กัน และเดินออกมาจากกลุ่มคนเพื่อทักทายคารวะ  “คุณชายไตตันมาเยือนแดนสวรรค์ล่าง ข้าต้องขออภัยที่มิได้รีบมาต้อนรับท่าน นับว่าเสียมารยาทจริง หวังว่าคุณชายจะให้อภัยพวกเรา!
ราชาจื่อฟงแทบเกือบทำเสียงแค่น เขาลอบสบถด่าอยู่ในใจ พวกเจ้าเป็นเจ้าจากผ่นดินไหนกันแน่ ข้าคือเจ้าถิ่นที่นี่ พวกเจ้าเป็นแค่นกกาผู้อาศัยเท่านั้น  แต่แน่นอนว่าเขาคงไม่พูดเช่นนี้ออกมา ตรงกันข้ามเขาพยายามข่มอารมณ์ขุ่นเคืองและฝืนยิ้มทำหน้าที่ผู้เหย้า “น้องไตตัน!  เชิญเข้ามาเถอะ จื่อฟงจะขอแนะนำสหายให้รู้จักสักสองสามคน  ท่านผู้นี้คือชิงหลางแห่งอาณาจักรเยี่ยเซินหลิน ท่านนี้คือราชาว่านเจียว และนี่คือราชาโหลวลั่ว ทั้งสามเป็นราชาเพื่อบ้านของข้าจื่อฟง ทั้งสามท่านนี้ได้ยินว่ามีอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันมาเยือนจากแดนสวรรค์บน จึงอดมาชื่นชมสง่าราศีของคุณชายไม่ได้!
คำพูดเชือดเฉือนเพื่อนบ้านฝ่ายตรงข้าม ทำให้ดูเหมือนกับว่าสหายบ้านนอกของเขาเดินทางมาไกลหลายพันไมล์เพื่อเยี่ยมเยือนสหายที่อยู่ในเมือง
ชิงหลางและพวกลอบหงุดหงิดอยู่ในใจ
น้องสาวของเจ้า บิดาของเจ้าก็มาจากบ้านนอก นึกว่าตนเองเลิศเลอมาจากไหน? ตระกูลจากแดนสวรรค์บนน่ะหรือ ไม่   ตระกูลจากแดนสวรรค์บนไม่ใช่ตระกูลของเจ้า อย่าทำตัวน่าขันอยู่เลย อย่างเจ้ามีความสามารถปฏิเสธไม่ให้คนอื่นเข้าประตูบ้านได้หรือ?
ถ้าเป็นปกติ เจ้าคงเชิดหน้าหนีไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขาได้แต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร  ได้แต่หัวเราะและพยักหน้า
อย่างไรก็ตามทุกคนถือคติด้านได้อายอด
ไม่มีใครอยากหัวเราะเยาะใคร
หมิงลี่ฮ่าวแกล้งทำเป็นยิ้มอย่างจนใจ ตอนนี้เขารู้สึกสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับเจ้าเด็กเย่ว์หยาง  สถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้จะเปลี่ยนไปได้อย่างไร? ตอนแรกเขายังคิดว่าแผนการของเย่ว์หยางเกินเลยไปบ้าง บางคนอาจมองออกได้ง่าย การให้เลือดเทพจะเป็นการสูญเปล่าหรือไม่? แต่ตอนนี้แผนกลางๆ โดยรวมดำเนินไปด้วยดี และไม่ใช่แค่ราชาจื่อฟงและชิงหลางเท่านั้น แต่ยังมีพวกที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดยังตกเข้ามาในกับดักของเย่ว์หยางจนได้
สุดท้ายแล้ว เลือดเทพจะใช้ตกปลาใหญ่ได้กี่ตัว?
ตอนนี้การละเล่นเพิ่งจะเริ่ม รอให้ถึงเวลารวบแหในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ตอนที่จูกวงลงมา
 “ท่านหญิงจูกวงกำลังมา!
ในฐานะสตรีผู้เป็นเจ้าภาพฉลองวันเกิด ท่านหญิงจูกวงต้องละวางความกังวลใจทั้งหมดและลงมาพบอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันด้วยตนเอง  ตระกูลชั้นสูงจากแดนสวรรค์บนไม่ได้ติดต่อมาเป็นพันปีแล้ว
เย่ว์หยางให้ราชาจื่อกวงและราชาอื่นรายล้อมเหมือนดาวล้อมเดือนแหวกกลุ่มคนออกมาเพื่อสตรีงามที่กำลังเดินเข้ามาในอิริยาบถที่สบาย
หมิงลี่ฮ่าวผู้มีความสูงสิบเมตรยังคงจ้องมอง
ดวงตาของเขาเป็นประกาย
หมัดทั้งสองกำแน่น

6 ความคิดเห็น:

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ยินดีด้วยพี่ฮ่าว

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

อ่อนึกว่าใคร ที่หมอนี่หาอยู่สินะ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ว่าแล้วคนร้ายคือจูกวง

แสดงความคิดเห็น