วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 949 เทวีเสรีภาพ?


ตอนที่  949  เทวีเสรีภาพ?
มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรมองหน้ากันเองเงียบๆ
 
พ่อบ้านเย่เพิ่งจะหายตกตะลึง เขาลุกขึ้นยืนตัวสั่น “ฝ่าบาท! ท่านมีคำพูดอะไรจะสั่งเสีย โปรดเชื่อใจท่านมารสัมฤทธิ์ฟ้าเถิด ข้าเองต้อยต่ำด้อยพลังเกรงว่ายากจะรับภาระที่หนักหนาสาหัสได้”
พ่อบ้านเย่แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสับสน แต่ก็ยังไม่หมดสติไปเสียก่อน
ในห้วงเวลาวิกฤติเช่นนี้
เขาเลือกมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้ทรงพลังไว้ก่อน
ตอนนี้คุณชายไตตันยังไม่ปรากฏตัว  ชิงหลาง ว่านเจียว โหลวลั่ว ราชาทั้งสามถ้าพวกเขาเข้าแทรกแซง เกรงว่าไม่เพียงแต่เมืองลู่หลิวเท่านั้น  แต่ทั่วทั้งอาณาจักรจื่อฟงอาจถูกสามราชานี้กวาดล้างได้  แน่นอนว่าการขอให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและคุณชายไตตันกลับมาจัดการเพื่อทุกคนยังจะดีกว่า  เขาเชื่อว่าราชาจื่อฟงสามารถทำตามความปรารถนาได้อย่างสมบูรณ์
 “หรือว่าเจ้ายังภักดีอยู่อีก...”  ราชาจื่อฟงยิ้มเจ็บปวดและลุกขึ้นยืนทันที
พลังกายของเขาระเบิดออกมาเหมือนกับเปลวไฟ และเขาที่อ่อนแอเหมือนคนใกล้ตายก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะที่หลังของเขามีมีดอาบยาพิษแทงปักคาไว้ยังมีเลือดไหลออกอยู่ หลายคนคงคิดว่าตนเองตาฝาด
พ่อบ้านเย่ เจ้าเมือง และนักรบปราณฟ้าอดโห่ร้องไม่ได้
ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาไม่ยินดีกับการตายของราชาจื่อฟง
ถ้าราชาจื่อฟงตาย อย่างนั้นพวกเขาจะต้องเปลี่ยนเจ้านาย
หลังจากเปลี่ยนผู้นำ ความรุ่งเรืองในวันนี้บางทีจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น  คุณชายไตตันและมารสัมฤทธิ์ฟ้ายังพอฝากฝังความเชื่อใจได้ “คาดว่าพวกเขาคงจะไม่สนใจครอบครองเมืองลู่หลิวและเมืองอื่นๆ  ทุกคนไม่ว่าจะเป็นราชาชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วสามารถยึดอาณาจักรนี้ได้ ตอนนี้พวกเขาเกรงว่าเจ้าเมืองบางแห่งจะถูกแทนที่ คนที่นี่จะถูกกำจัดและสังหาร ไม่มีใครต้องการเห็นภาพเช่นนี้ เมื่อเห็นว่าราชาจื่อฟงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความสุข
ชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่พวกเขาสายตาแหลมคม
เขาสังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่างว่านักรบจากหอทงเทียนยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก
จื่อฟงนี้ฟื้นขึ้นมาแล้วก็จริง แต่เขาฟื้นฟูพลังได้จริงๆ หรือเปล่า?  เป็นไปไม่ได้ หัวใจของเขาถูกมีดอาบยาพิษแทง จื่อฟงไม่ใช่คนที่มีร่างเป็นคุณสมบัติธาตุที่เด่นชัด เป็นไปไม่ได้ที่จะมีภูมิต้านทานพิษ นักฆ่าถือว่าลงมือประสบผลสำเร็จมาก
ราชาจื่อฟงในตอนนี้แค่แข็งใจยืนขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อยังมีมารสัมฤทธิ์ฟ้าและพวก   ชิงหลางกับราชาอื่นไม่กล้าเคลื่อนไหว ขณะนั้นพวกเขายังไม่เห็นจุดอ่อนของจื่อฟง
 “ท่านมารสัมฤทธิ์ฟ้า! ในใจของข้าจื่อฟงอยากจะขออภัยหมื่นครั้ง แต่พูดออกมาจากปากไม่ได้ เหตุการณ์ในวันนี้เป็นความผิดของข้าจื่อฟงคนเดียว  น่าละอายจริงๆ ที่ต้องทำให้คุณชายไตตันและอาคันตุกะผู้มีเกียรติต้องกังวลใจ  วันนี้จื่อฟงหวังว่าคุณชายไตตันคงปลอดภัยไม่เป็นอะไร  ทุกอย่างเรายังควบคุมไว้ได้  ข้าไม่ทราบว่าจะหาร่องรอยคุณชายไตตันได้อย่างไร?”  ราชาจื่อฟงพูดเช่นนี้ ทุกคนพากันเงียบ  ราชาจื่อฟงไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป  แต่อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันเพิ่งได้รับการช่วยเหลือไป เขาไม่มีอะไรต้องกังวล มิฉะนั้นเมืองลู่หลิวคงพบกับหายนะแน่นอน
 “ด้วยการคุ้มกันของฮุยไท่หลาง ไม่มีอะไรต้องกังวล”  จักรพรรดิมังกรอยู่ในท้องพระโรงมาครู่หนึ่งแล้ว ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว
สิบนาทีต่อมา
มารสัมฤทธิ์ฟ้าพาฮุยไท่หลางซึ่งกลับคืนสู่รูปลักษณ์ปกติ ไม่ใช่รูปอสูรเทพที่น่าทึ่งอีก ทำให้ทุกคนรู้สึกเสียดาย
มันเรียกคัมภีร์อัญเชิญฉายประกายแสงระยิบระยับต่อหน้าทุกคน
เมื่อเห็นเจ้าหมาสกปรกที่เป็นอสูรเทพนี้เรียกคัมภีร์อัญเชิญชั้นแพลตตินัมออกมา ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดรวมทั้งราชาจื่อฟงรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก  เพราะในบรรดานักสู้ปราณฟ้าหลายคน มีเพียงราชาทั้งสี่ เช่นจื่อฟงและชิงหลางเท่านั้นที่มีคัมภีร์อัญเชิญ แต่อย่างมากก็แค่มีคัมภีร์อัญเชิญชั้นเงิน  ไม่ต้องพูดถึงชั้นทอง หรือชั้นแพลตตินัม
คนมีพรสวรรค์ในภูมิภาคสวนสวรรค์ถูกดึงไปช่วยทำสงคราม อีกทั้งนักสู้ปราณฟ้าก็ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น นักสู้ระดับราชาบางพวกที่เป็นคนรุ่นหลังซึ่งสามารถทำสัญญากับคัมภีร์ได้แต่ไม่ทันได้เติบโตก้าวหน้า และมีผู้ถือครองคัมภีร์อัญเชิญลดน้อยลงไปมาก และยิ่งเป็นนักสู้ระดับราชาก็ยิ่งมีน้อยมาก
 “อสูรเทพมาถึง ข้านับว่าเลินเล่อจริงๆ ข้าต้องขออภัย” พ่อบ้านเย่รีบไปพาหัวหน้าจินฟันทองและบ่าวรับใช้คนอื่นๆ มากล่าวขออภัยฮุยไท่หลาง
 “เมี้ยว!” ฮุยไท่หลางทำท่าทางหยิ่งภูมิใจที่มันเรียนรู้จดจำมาจากเย่ว์หยางจากนั้นปล่อยเจ้านายออกมาจากโลกคัมภีร์
ทุกคนมองดูคุณชายไตตันผู้ถูกลอบฆ่าอย่างกระวนกระวาย และหวังว่าเขาจะไม่โกรธ
คาดกันว่าคุณชายอย่างเขาคงไม่เคยพบเรื่องตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อน
ก่อนนี้หากไม่ใช่เพราะอสูรเทพ เกรงว่าคุณชายจากแดนสวรรค์บนคงถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บหนัก  แต่เมื่อเย่ว์หยางออกมาได้ เขาหัวเราะทันที  “ไม่เลว, น่าตื่นเต้นดี คิดไม่ถึงเลยว่าในงานเลี้ยงวันเกิดยังจะมีนักฆ่าแฝงตัวเข้ามาด้วย น่าสนุกจริงๆ  ว่าแต่จับนักฆ่าได้หรือไม่? ข้าอยากจะสอบสวนด้วยตนเองสักหน่อย  ข้าเตรียมแส้และปากแร้งไว้แล้ว อยากจะดูว่าพอทรมานไปแล้วจะเหมือนกับอะไร!
หลังจากได้ยินคำพูดของคุณชายไตตัน ทุกคนโล่งใจและระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง
เขาไม่เป็นอะไร
แต่งานวันเกิดที่มีนักฆ่าเข้ามาก่อกวนคงจะไม่สนุกแน่ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็ยากจะจัดการได้ง่ายๆ
ราชาจื่อฟงถอนหายใจโล่งอก  เขาถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บยังเป็นเรื่องเล็ก  แต่ถ้าคุณชายได้รับบาดเจ็บขึ้นมา นั่นเป็นเรื่องแย่  เขาเดินเข้ามาหาและกล่าวขออภัยพลางถอนหายใจกล่าว  “ศัตรูลอบเร้นเข้ามาได้ จื่อฟงไม่สามารถหยุดได้จริงๆ นับว่ายังโชคดีที่น้องไตตันไม่ได้รับบาดเจ็บ  บัดนี้มือสังหารหนีไปได้โดยไม่เหลือร่องรอย ทั้งยังจับสนมรักของข้าจื่อฟงไปด้วย...”
เขาอธิบายสาเหตุและผลกระทบของเรื่องราว
แน่นอนว่าเขาสงสัยว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นคนจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาตั้งใจเข้ามาสังหารคุณชายไตตันและโยนความผิดไปให้จักรพรรดิฟู่โฉว
เรื่องนี้ต้องบอกกล่าว แต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าราชาชิงหลางและคนอื่นๆ
รอสบโอกาสเขาค่อยลอบบอกคุณชายไตตัน
ตอนนี้เขายังไม่แพ้
มีคุณชายไตตันยืนอยู่ฝ่ายเขาเอง ทั้งยังมีสุดยอดนักสู้อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพสนับสนุน ถ้าอย่างนั้นเขายังสู้ได้
 “เลือดเทพถูกชิงเอาไป ก็แล้วไปเถอะ ไม่เป็นไร ข้าจะส่งให้ท่านอีกหยดหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียใจเกินไป  ส่วนท่านหญิงจูกวง เป็นเพราะเราโชคไม่ดี ข้าไตตันไม่สบายใจ ถ้ามีเบาะแส ข้าควรจะไปตามหาคนที่เกาะกลางจื่อฟง  ข้าต้องช่วยนางออกมาอย่างปลอดภัย   โจรนักฆ่ากลุ่มนี้เหิมเกริมเกินไป ถึงกับใช้แผนการกับเรา  ข้าตัดสินใจสู้กับพวกมันให้ถึงที่สุด  มิฉะนั้นพวกมันคงคิดว่าคุณชายไตตันผู้นี้สามารถกลั่นแกล้งรังแกกันได้!  จงกวน! ไประดมกลุ่มนักรบของเรามา ข้าจะถล่มเกาะกลาง!  เย่ว์หยางนายใหญ่โบกมือให้สัญญาณ นั่นหมายความว่าสมรภูมิถูกกำหนดไว้ที่เกาะกลางแห่งบึงหยุดลม  การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ!
ราชาจื่อฟงมีนิสัยใจเข้มแข็งเหมือนเหล็กปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด คุณชายไตตันกระตือรือร้นจริงๆ มีสหายอย่างเขาก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว
ราชาชิงหลางและราชาอื่นพากันอิจฉา
จื่อฟงโชคดีอะไรอย่างนี้ คุณชายผู้นี้ทั้งที่เลือดเทพถูกชิงเอาไป เขายังไม่กล่าวตำหนิ แต่กลับบอกว่าจะให้เพิ่มอีกหนึ่งหยด
ถ้าไม่ใช่เพราะคนผู้นี้ได้รับบาดเจ็บทั้งยังไม่ทันได้ดูดซับเลือดเทพ บางทีคุณชายไตตันคงจะให้เลือดเทพเขาเป็นการปลอบใจก็ได้  โอวพระเจ้า!  จื่อฟงช่างมีโชคเทียมฟ้าแท้ๆ เมื่อครู่นี้ทำไมหวีเจ้าไม่แทงเขาให้ตายไปเลย?
ชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วลอบมองหน้ากันเอง
พวกเขามองเห็นจุดอ่อนของจื่อฟงแล้ว
ต้องเป็นที่หัวใจอย่างแน่นอน
หวีเฉาคนทรยศย่อมรู้จักจื่อฟงดีที่สุด  ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่โจมตีจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของจื่อฟง
สำหรับนักสู้ปราณฟ้าธรรมดาหัวใจย่อมไม่ใช่จุดอ่อน  แต่สำหรับนักสู้ชั้นราชาระดับหนึ่ง ไม่ว่าหัวใจของเขาจะถูกบดขยี้เพียงใดก็ตาม พวกเขาจะไม่เป็นอะไร  ตัวอย่างเช่นราชาชิงหลางเอง อาจถูกบดขยี้หัวใจได้  อย่างไรก็ตามจื่อฟงที่เป็นถึงราชากลับถูกทำร้ายได้  นี่ถ้าไม่มีมารสัมฤทธิ์ฟ้าอยู่ด้วย จื่อฟงคงจะถูกโจมตีบดขยี้อย่างหนักไปแล้ว
ถ้าต้องการจะฆ่าจื่อฟงผู้นี้ให้ได้จริงๆ  เขาจะต้องโจมตีที่หัวใจอีกครั้ง
ตอนนี้ เขาเพียงแต่ฝืนอาการบาดเจ็บโดยไม่แสดงออกเท่านั้นเอง
ราชาจื่อฟงมองดูชิงหลางและพวกอย่างเย็นชา และทั้งที่หลายคนมองเห็น เขาลอบบอกเย่ว์หยางทางลมปราณ นอกจากเย่ว์หยางแล้ว ไม่มีคนอื่นได้ยิน เย่ว์หยางพยักหน้าให้จื่อฟง ดวงตาของเขาเริ่มเย็นชามากขึ้น ชิงหลางและพวกนักสู้ปราณฟ้าอื่นถึงกับลอบสะท้านใจ
จื่อฟงผู้นี้ต้องการโยนบาปตัวเองหรือ? หรือว่ามีเบาะแสที่น่าสงสัยที่เขาค้นพบแล้ว
ไม่มีใครรู้ความจริง
อย่างไรก็ตาม คุณชายไตตันมีปฏิกิริยาตอบสนองในท่ามกลางกลุ่มผู้คนทันที  เขาชูกำปั้นและยิ้มเหี้ยมเกรียม  ทำให้คนในที่นั้นหนาวสะท้าน “โอว..ช่างน่าสนใจจริงๆ เมื่อเป็นอย่างนั้นเราต้องเตรียมการให้พร้อมสำหรับสงครามอย่างจริงจังเสียแล้ว  ข้าไม่ได้จริงจังมาเป็นเวลานานแล้ว   หลายคนต้องการจะท้าทายข้าไตตัน  แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่ได้หัวเราะในที่สุด?”
ฝูงชนในที่นั้นต่างประหลาดใจเมื่อพบว่าเมื่อคุณชายจริงจัง พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังกดดันและอารมณ์ที่กราดเกรี้ยว
แม้ว่าพลังของเขาจะไม่สูง คาดว่าเป็นระดับเตรียมปราณฟ้า แต่เขามีสมบัติวิเศษและนักสู้ปราณฟ้ามากมาย
อย่าว่าแต่นักสู้ปราณฟ้าธรรมดาเลย แม้แต่นักสู้ระดับราชาอย่างราชาชิงหลางก็ยังรู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันสยบขวัญของคุณชายไตตันผู้นี้ได้ และรู้สึกหวาดหวั่นในหัวใจ
แดนสวรรค์บนไม่มีคนอ่อนแอเลยจริงๆ
ประโยคนี้
ย่อมพูดถูกแน่นอน
รอจนพ่อบ้านเย่และคนอื่นจัดเตรียมเรือเหาะใหญ่เสร็จ พวกเขาเตรียมตัวออกเดินทางสู่เกาะกลางแห่งบึงหยุดลมทันที
หมิงลี่ฮ่าวผู้ซ่อนตัวดื่มกินเสร็จเพิ่งจะออกมา  และแอบชูกำปั้นให้เย่ว์หยางในขณะที่คนอื่นไม่สนใจ “เด็กน้อย, ลูกไม้ของเจ้าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม สิ่งที่ข้าชื่นชมมากที่สุดก็คือพวกมือสังหารเหล่านั้นทำงานประสานความร่วมมือเป็นอย่างดี เจ้าใช้เหตุผลคิดคำนวณออกไหม?”
 “ใช้สมองเจ้าคิดดูสิ” เย่ว์หยางชูนิ้วกลางให้สำหรับคนขี้เกียจผู้นี้
 “ถ้าฝ่ายนั้นจะปรากฏตัว  เจ้าใช้คนแค่นี้จะพอหรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวปล่อยให้เย่ว์หยางค่อนแคะ และเขาไม่รู้สึกโกรธต่อไป
 “แล้วเจ้าเล่า! เป็นอะไรไป ถ้าเจ้าเกียจคร้าน เราคุณชายจะไม่พูดอะไรอีกต่อไป และจะออกไปทันที ทั้งจะยกคัมภีร์เทพทั้งหมดให้กับเจ้า  ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ฆ่าเจ้าพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่แอบลอบโจมตีลับหลังเจ้าเพื่อแย่งชิงคัมภีร์เทพได้เลย”  เย่ว์หยางเตือนหมิงลี่ฮ่าวไม่ให้แกล้งเฉยเมยเป็นตาย  มิฉะนั้นเขาจะแฉ  หมิงลี่ฮ่าวเกรงเรื่องนี้ที่สุด เขารีบโบมือพัลวัล “เฮ้, คุณชายสาม มีบางอย่างจะต้องบอกกันไว้ก่อน อย่าเพิ่งโกรธกัน  ก่อนหน้านั้นข้าไม่ได้ขี้เกียจ แต่ทำตามแผนของเจ้า นอกจากนี้ สนมจูกวงนั่นยังไม่ได้จากไป เมื่อข้าปรากฏตัวขึ้น นางจะมองแผนการออก นั่นเป็นเรื่องแย่ไม่ใช่หรือ? ต่อไปข้าจะเชื่อฟังเจ้าก็แล้วกัน ถ้าเจ้าให้ข้าไปทางตะวันออก รับรองว่าข้าไม่ไปทางตะวันตกแน่ เจ้าให้ข้าหุบปาก รับรองได้ว่าไม่มีอะไรรั่วไหลจากปากข้า!
 “ที่นี่มีคัมภีร์เทพอยู่จริงๆ หรือ?”  จักรพรรดิมังกรยังไม่ค่อยเชื่อ
 “ข้าหวังว่าตอนนี้ภูมิภาคสวนสวรรค์จะไม่มีอยู่จริง”  เย่ว์หยางรู้สึกว่าถ้าไม่มีคัมภีร์เทพย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด  เขาไม่ต้องการลงมือกับจีอู๋ลี่สุดยอดนักสู้ฝีมือไม่ธรรมดาผู้นี้
 “เรื่องคัมภีร์เทพข้าไม่สนใจ  แต่เจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ข้าอยากจะลองฝีมือกับเขาดู”  นี่คือคำพูดของคนที่คลั่งไคล้การต่อสู้อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้า  เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสัญญากับคัมภีร์เทพ   นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เย่ว์หยางปวดเศียรเวียนเกล้า   เขาไม่ต้องการคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่เจ้าตำหนักของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็มีฝีมือร้ายกาจจริงๆ  เขาเองก็อยากท้าทาย
 “จะมีโอกาสแน่ ถ้าเจ้าไม่กลัวถูกโจมตี ข้าสามารถบอกได้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่  คาดว่าเจ้ายังไม่สามารถสู้กับเจ้าตำหนักได้” หมิงลี่ฮ่าวรู้ว่ายอดฝีมือระดับเจ้าตำหนักจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมากขนาดไหน
 “ขู่พวกเขาไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก  พวกเขาฆ่ายอดฝีมือระดับรองเจ้าตำหนักไปสองคนแล้ว และนั่นคือความภูมิใจของพวกเขา พวกเขาไม่เชื่อว่าพวกเขาจะโดนคุกคามได้” เย่ว์หยางหัวเราะอารมณ์ดี
 “พวกเจ้าฆ่ารองเจ้าตำหนักไปสองคนแล้วหรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวประหลาดใจตาค้าง
รองเจ้าตำหนักกลางฝีมือใช้ไม่ได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
มิน่าเล่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้ถึงกล้าพูดว่าจะท้าทายเจ้าตำหนัก!
ฟงจีและจินหวินที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มใหม่ๆ หลั่งน้ำตา  คนพวกนี้เป็นใครกันแน่? ถึงกล้าต่อกรกับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?  อนาคตของพวกเขาช่างมืดมน
ขณะที่เย่ว์หยาง มารสัมฤทธิ์ฟ้า หมิงลี่ฮ่าวและคนอื่นกำลังพูดคุยกันถึงแผนต่อไป ทันใดนั้นมีเสียงสวดกล่อมโลกดังกังวาลไปทั่ว เป็นเสียงที่ดังมาจากที่ไกล เหมือนสายน้ำพร่างพรมวิญญาณชำระจิตใจให้ผู้คนทุกคน
สองพี่น้องกระทิงเถื่อนกำลังดื่มกินอย่างมูมมามกระโดดผางทันที “เทวีเสรีภาพมาแล้ว!

6 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

มาแล้ว มาแล้ว อยากรู้ว่าเทวีเสรีภาพจะงดงามขนาดไหน

เดือนดับ กล่าวว่า...

ที่เมกาก็มี

อย่าบิดเต้านมน้าาาา กล่าวว่า...

อันนั้นเทพีเสรีภาพ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chay กล่าวว่า...

ใช่เลย 555 มันคนละตัวกัน

แสดงความคิดเห็น