วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 951 วารีสุทธิอัคคีพิสุทธิ์


ตอนที่  951  วารีสุทธิอัคคีพิสุทธิ์
ในโลกคัมภีร์
 
หลังจากเสร็จสิ้นการสนทนากับเทพีเสรีภาพ  เย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์และเอาแต่นั่งนิ่งอยู่กับที่
ตอนแรกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ไม่รู้สึกประหลาดใจ พวกนางต่างฝึกฝนกันเอง ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ตอนแรกจุ้ยมาวอี้ต้องการชักชวนเย่ว์หยางไปอาบน้ำด้วยกัน คาดไม่ถึงว่าเขายังคงนั่งตรึกตรองอยู่เงียบๆ นางตัดสินใจไม่รบกวนเขา  เพราะบางครั้งเย่ว์หยางเมื่ออยู่ในช่วงทำการทดลองอะไรก็ตาม เขามักจะคิดต่อเนื่องเป็นเวลา 1- 2 ชั่วโมง นั่นจึงไม่ใช่พฤติกรรมที่แปลกประหลาด
แต่หลังจากที่จุ้ยมาวอี้อาบน้ำเสร็จและเตรียมพักผ่อน นางถึงรู้ว่าเย่ว์หยางนั่งอยู่อย่างนั้นมาถึงห้าชั่วโมงแล้ว
นี่ นี่ไม่เคยเกิดเรื่องผิดปกติอย่างนี้มาก่อน
เกิดอะไรขึ้นข้างนอก?
เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ทั้งคู่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
ทั้งสามสาวแอบอยู่นอกประตูมองผ่านรอยแง้มประตูและกระซิบคุยกันระหว่างที่มองดู “ตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรดี?  จะเข้าไปปลุกเขาดีไหม?”
 “ถ้าเขากำลังหาเงื่อนงำแรงบันดาลใจบางอย่างอยู่  แล้วเราเข้าไปปลุกเขา บางทีอาจไม่เกิดประโยชน์”  เย่ว์หวี่ส่ายหน้าเล็กน้อย
 “ปัญหาก็คือเขาอยู่ในสภาพนั้นมาเป็นเวลานานแล้ว”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เคยเห็นเย่ว์หยางอยู่ในสภาวะเหมือนงงงวยอย่างนั้นมาก่อน
 “บางทีนี่อาจเป็นช่วงสุดท้ายของการไตร่ตรอง  เราต้องเชื่อมั่นในตัวเขา”  เย่ว์หวี่เป็นหนึ่งในสตรีสามคนที่เชื่อมั่นในเย่ว์หยาง นางคิดว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะงงงวย  แต่กำลังมองหาเงื่อนงำความรู้แจ้ง
 “งั้นก็รอต่อไป!  จุ้ยมาวอี้ยังคงรู้สึกว่านางควรสนับสนุนเขา
 “เจ้ารอก็แล้วกัน  วันนี้ข้าฝึกหนักเกินไปบ้าง  และข้าเหนื่อยแล้ว”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคิดเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง  เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่ากลัว  นางคิดเงียบๆ  ต้องเข้าใจว่ามีบางเรื่องที่นางไม่สามารถเข้าใจได้  ถ้ามีเสวี่ยอู๋เสียอยู่ด้วยบางทีอาจช่วยได้   แม้ว่าตัวนางเองในสภาพปัจจุบันนี้ยังอยู่ห่างไกลมาก  และเมื่อนางเข้าไปสำรวจสภาวะใจของเขา  นางก็คงมีแต่มึนงงและปวดหัว
นางตัดสินใจไม่รอต่อและไปพักผ่อนก่อน มีแต่เย่ว์หวี่คอยระมัดระวังให้ เขาคงไม่เป็นอะไร
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง
จุ้ยมาวอี้ง่วงนอน
เย่ว์หวี่เห็นนางหาว จึงชักชวนให้นางไปพัก
ส่วนนางกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขยันฝึกฝนในตอนกลางวันอยู่แล้ว เพื่อความก้าวหน้า พวกนางฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกินกำลังของตนเอง และตอนนี้พวกนางเริ่มง่วงจัด
 “ไม่มีอะไรแล้ว ยังมีสาวใช้น้อยคอยอยู่คุยเป็นเพื่อนข้า!  เย่ว์หวี่แนะนำให้จุ้ยมาวอี้ไปนอน สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์อยู่เป็นเพื่อนเย่ว์หวี่  แต่เมื่อนางวุ่นวายกับการทำงานมาทั้งวัน นางนั่งพึมพำอยู่ข้างๆ เย่ว์หวี่ พูดได้ไม่นานนางก็ผลอยหลับอยู่ข้างแขนเย่ว์หวี่ ทำให้เย่ว์หวี่อดขำไม่ได้ 
 “พวกเจ้าไม่มีวันที่ทำให้ข้าวางใจได้เลยสักวัน” เย่ว์หวี่พาสาวใช้น้อยไปนอนและคลี่ผ้าห่มให้นาง
เมื่อแม่สี่ไม่ได้อยู่ใกล้ นางจะดูแลทุกคนแทนแม่สี่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องสามของนางผู้นี้ กลัวความเดียวดายเป็นที่สุด
ถ้าวันหนึ่งไม่มีใครอยู่ด้วยกับเขา เขาจะรู้สึกไม่สบายใจ และดูเหมือนจะกระด้างขึ้น  แต่เด็กหนุ่มคนนี้เหมือนกับทารกใหญ่ที่ไม่รู้จักโต
บางครั้งเย่ว์หวี่มีความรู้สึกเช่นนี้ในใจของนาง และนางเองก็ไม่ยอมรับเป็นธรรมดา  ความจริงนางเต็มใจจะเห็นเขาเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต้องพึ่งพาตัวนาง ดูเหมือนว่านางจะสนิทกับเขาเป็นพิเศษ นางได้ปลดปล่อยความตะขิดตะขวงในใจได้ทั้งหมดสามารถดูแลชีวิตของเขาได้ทุกด้าน และร่วมติดตามดูความสำเร็จของเขาไปทีละขั้น  ความรู้สึกรับรู้ได้ถึงความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมนี้ ไม่สามารถใช้คำใดๆ มาอธิบายได้
ราตรีดึกสงัด  ทุกคนพากันหลับใหล
เย่ว์หวี่มองดูเย่ว์หยาง เขายังคงนั่งเงียบหายใจแผ่วเบา
เสวี่ยอู๋เสียอยู่ในระหว่างหลับลึก โล่วฮัวและอี้หนานไม่อยู่ที่นั่น  เชี่ยนเชี่ยนเหน็ดเหนื่อยและกำลังพักผ่อนอยู่  ใครจะอยู่ช่วยเขาได้บ้าง?
อยู่ในสภาพอย่างนี้ช่างน่ากังวลเหลือเกิน เกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกกันแน่? บอกเราได้ไหมว่าเจ้าคิดอะไรอีก?
 “ไม่!” เย่ว์หวี่มองดูที่ด้านนอกประตูและพบว่าทุกคนหลับใหลหมดแล้ว  นางกัดริมฝีปากล่างตัดสินใจอยู่ในใจหลายครั้ง และในที่สุดนางส่ายหน้ายกเลิกความคิดนั้น  เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ  ถ้านางจะเชื่อมใจกับเขาผ่านสายแพรเชื่อมใจ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องรบกวนความคิดของเขา  แต่นั่นจะทำให้เขาเข้าใจถึงความลับของนาง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดี
อย่างไรก็ตาม นี่ชักจะน่ากังวลเกินไป
นางนั่งอยู่ชั่วครู่
เย่ว์หวี่ไม่มีทางนั่งรออยู่เงียบๆ ได้อีกต่อไป
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?  เสี่ยวซานเป็นคนที่นางรักห่วงมากที่สุด ถ้าเขาเผชิญพบเจอกับความยากลำบาก ถ้านางสามารถช่วยให้เขาคลี่คลายปัญหาได้  ไม่ว่ายังไงก็ตามถ้าเขาได้รู้แจ้งระดับใหม่ นางจะร่วมช่วยให้เขาผ่านไปได้หรือไม่?
เมื่อคิดเรื่องนี้ในใจแล้ว เย่ว์หวี่กำหมัดควงเบาๆ  ดูเหมือนว่านางกำลังชั่งใจ
นางยังคงมองดูนอกประตู เห็นว่าไม่มีใครเข้ามารบกวน
นางถอนหายใจเล็กน้อย
ในเมื่อไม่มีใครเห็น นางแอบช่วยเขาสักครั้งจะเป็นไรไป!
เมื่อเย่ว์หวี่ตัดสินใจอยู่ในใจ  นางไม่ต้องข่มความอายอีกต่อไป นางย่องเข้าไปหาเขาและนั่งลงข้างเขา รอให้สายแพรเชื่อมใจสัมผัสที่แขนของเขา มีแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยใจก็เชื่อมถึงกัน  นางไม่รู้ว่ากอดเขาไว้ในอ้อมแขนเมื่อไหร่  เพื่อเสี่ยวซานนางยินดีจะลืมความเขินอายตามปกติ เสี่ยวซานบอกข้าได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้ายินดีจะร่วมแบ่งปันกับเจ้า.... เย่ว์หวี่ที่กำลังจดจ่ออยู่กับทะเลใจของเย่ว์หยางต้องประหลาดใจกับสิ่งที่นางค้นพบ
โลกวิญญาณทั้งหมดเงียบสงัด
เงียบสงัดเหมือนทะเลหลังเกิดพายุฝนปราศจากเมฆ มีแต่ทะเลกับท้องฟ้า ใจทั้งหมดเหมือนกับทะเลกว้างไกลไม่มีสิ้นสุด
เย่ว์หยางพบว่ากายและใจของนางบริสุทธิ์เหมือนทารกแรกเกิด ร่างเปลือยตามธรรมดาไม่รู้สึกว่าน่าเขินอายแต่อย่างใด และเขายังคงนั่งอยู่ในที่ห่างไกลอย่างเงียบๆ  เหมือนกับว่าเขาอยู่นอกตัวของเขา
เกิดอะไรขึ้น
มีแต่ความประหลาดใจและความสงสัย
ร่างวิญญาณของเย่ว์หวี่ลอยไปหาร่างวิญญาณของเย่ว์หยางด้วยความระมัดระวังและสบายใจ นางเหยียดนิ้วและสัมผัสที่หลังของเขาเบาๆ  จากนั้นโน้มตัวลงช้าๆ จับตัวเขาอย่างนุ่มนวล... จิตใจของทั้งสองค่อยๆ ดึงเข้าหากันเพราะมีการสัมผัสทางใจ ในขณะที่ทั้งสองสอบถามแบ่งปันความลับ  ในโลกของจิตวิญญาณนั่นคือโลกที่ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง พวกเขาได้รับรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วขณะนางก็ได้เรียนรู้สัจธรรมความจริงจากความคิดของเขาและจากอาณาจักรจิตวิญญาณที่งดงาม
ขณะเดียวกันเขาได้รับรู้ถึงภาระและความกังวลของนาง
มีความรู้สึกลึกๆ ที่หวั่นไหวอยู่ในใจนาง เมื่อนางคิดถึงนางจะสั่นเล็กน้อย.. เขารู้จักนาง นางรู้จักเขา และนางสัมผัสได้ถึงการปลอบประโลมจากเขาหลังจากได้รับรู้ความลับทั้งปวง
เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความปรารถนาและความต้องการส่วนลึกที่สุดในจิตวิญญาณของเขา ณ ขณะนี้คนสองคนไม่มีความลับต่อกันแต่อย่างใดเลย
มีแต่เพียงความเสียใจเล็กน้อยว่าระดับของนางยังไม่สูงส่งเท่าของเขา
ในหลายด้าน นางอาจจะรู้จักเขาน้อยกว่าที่เขารู้จักนาง
เหมือนกับที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเคยกล่าวไว้ ความรู้ไม่รู้หมดสิ้นไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถรู้สึกได้ในเวลานี้ ความลับของเขาทั้งหมดนางไม่สามารถสำรวจรู้ได้ทั้งหมด แม้ว่าเขาเต็มใจแบ่งปันก็ตาม แต่นางก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ทั้งหมด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือนางไม่ตั้งใจจะรู้ลึกเข้าไปถึงความลับของเขา เหมือนกับที่เขาเคยแลกเปลี่ยนอารมณ์กับเสวี่ยอู๋เสีย เชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัว อี้หนานและมารกฎฟ้า เพื่อจะหลีกเลี่ยงปล่อยพื้นที่ส่วนตัวดั้งเดิมของเขาไว้ ให้เจ้าของพื้นที่ยินดีแบ่งปันมากกว่าจะเข้าไปตรวจดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น... สถานการณ์เช่นนั้นควรเป็นเรื่องของการฝึกพลังคู่รัก หรือฝึกพลังคู่สามีภรรยา  นางจึงหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดความลำบากใจ
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกาย และการฝึกฝนคู่รักจะต้องผ่านสถานการณ์ขัดแย้งนี้
ใจของเขากับใจของนาง
ประสานลอยขึ้นไปในท้องฟ้า
เย่ว์หวี่ไม่รู้ตัวว่านางกำลังบินไปที่ไหน ความรู้สึกหมือนกับจะทะลุเพดานท้องฟ้าออกไปมองกลับมาดูก็เห็นโลกไม่ชัดเจน นอกจากท้องฟ้าที่นางบินผ่านทะลุออกไปมีช่องขนาดใหญ่ นางไม่เคยพบกับความรู้สึกเช่นนั้นมาก่อนในชีวิต
น่ากลัว? น่าแปลกใจ?
ดูเหมือนมีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นมากกว่า
ทำไมเสี่ยวซานถึงพานางมาพบกับความรู้สึกนี้ด้วยตัวเอง? นี่คือความรู้ หรือปัญหายากคลี่คลายที่เขาประสบอย่างนั้นหรือ?
 “ข้าก็อยากจะช่วยเจ้าเหมือนกัน หากแต่ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร?”  ร่างวิญญาณของเย่ว์หวี่หวังว่าจะช่วยเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ยากเย็นหรือมีความหมายลึกซึ้งก็ตาม หากนางสามารถให้ความร่วมมือได้ ก็ย่อมจะเกิดประโยชน์จริงๆ
 “....” ร่างวิญญาณของเย่ว์หยางไม่ตอบ มีแต่พลังงานแผ่ขยายออกมา
เขาไม่จำเป็นต้องบอก นางรู้ตัวว่าจะต้องทำตาม
แต่นางไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร  นางรู้ว่าเขาจะทำได้ดี และเชื่อว่าเขาจะทำได้สมบูรณ์แบบ
ใจทั้งสองผสานรวมกันอีกครั้ง  คราวนี้แทนที่จะเป็นการสื่อสารกันเหมือนก่อน แต่กลับเป็นการฝึกฝนร่วมกันในรูปแบบใหม่ นี่คือการฝึกของเย่ว์หยางหลังจากมีความรู้แจ้งมากขึ้น ไม่เพียงแต่ใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงร่างกายด้วย  ปราณกระบี่ซวงหัวฉายประกายเสื้อผ้าของทั้งสองคนสลายเป็นธุลีเหลือแต่ร่างกายที่ยังกอดกันแน่น พลังหยินกับหยางบริสุทธิ์เชื่อมโยงถึงกัน
ด้านหนึ่งเป็นวารีสุทธิ อีกด้านหนึ่งเป็นอัคคีพิสุทธิ์
การสื่อสารเชื่อมโยงเช่นนั้น
ไม่มีการทำลายหรือขัดแย้งกัน มีแต่การผสมผสานที่ยอดเยี่ยม
แต่ละคนต่างมีกายใจผสานกันเป็นหนึ่ง ลำแสงพลังงานฉายขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับจะทะลุผ่านโลกคัมภีร์  จุ้ยมาวอี้และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตื่นจากฝันหวาน ตะลึงมองดูภาพแสงพลังงานของเย่ว์หวี่ นั่นเป็นแสงสว่างที่สวยสง่างามล้ำเป็นพิเศษมิอาจจะเขียนบรรยายด้วยภาพวาดใดๆ ได้  จนถึงตอนนี้พวกนางถึงตระหนักได้ว่าระดับความก้าวหน้าของเย่ว์หยางสูงล้ำยิ่งใหญ่เพียงไหน
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ส่งสัญญาณมือบอกว่าการฝึกฝนนี้ควรปล่อยให้ดำเนินต่อไป
อย่าปลุกพวกเขา
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยิ้มและมองดูจุ้ยมาวอี้ นางบิดขี้เกียจอย่างน่ารักและกลับไปพักต่อเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันต่อมาเย่ว์หวี่รู้สึกโล่งใจและได้รับการชำระพลัง  นางตื่นขึ้นจากโลกจิตวิญญาณที่เหมือนกับฝัน
และพบว่าตนเองนอนอยู่บนตัวเสี่ยวซาน
เรื่องที่แย่ก็คือน้องชายตัวร้ายสัมผัสกับส่วนสงวนของนาง ทำให้นางตกใจกลัว
นางรีบข่มกลั้นความอาย ทั้งกังวลและโล่งใจเล็กน้อย โชคดีที่น้องชายนางไม่ได้ทำสิ่งที่นางหวั่นเกรงแทบตาย!
เย่ว์หวี่แต่งตัวเรียบร้อย ขณะที่เขายังคงฝันหวาน  นางรีบเอาวางเสื้อผ้าบนตัวของเขา น้องชายตัวร้ายทำให้นางอึดอัดใจ ยังดีที่ไม่มีใครเห็น ไม่เช่นนั้นนางคงรู้สึกอับอายทำหน้าไม่ถูก นางข่มใจคลี่ผ้าห่มคลุมตัวเขา มองดูข้างนอกประตูยังไม่เห็นใครตื่น  ทุกคนยังคงหลับอยู่ นางยกมือทาบอก นางคิดว่าควรไปก่อนดีกว่า  ตอนเช้านี้ยังไม่มีใครเห็น
นางยินดีที่ได้ช่วยให้เขาก้าวหน้าบรรลุระดับพลังใหม่ได้สำเร็จ  นางปิดประตูเบาๆ และออกไปอย่างเงียบงัน
นางพยายามข่มกลั้นไม่ให้ตนเองดีใจมากเกินไปเพราะมีความสุข
ไปทำอาหารเช้าให้เขาดีกว่า
หนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อนางเตรียมทุกอย่างพร้อม นางเห็นเขางัวเงียเดินเข้ามาและกล่าว “กลิ่นหอมน่ากิน”  นางดุเขา “หนอนเกียจคร้าน!  ดูสิ ยังมิทันล้างหน้าบ้วนปาก นี่จะกินอาหารเช้าเลยหรือ?”
ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ทุกวัน นางอยากจะดูแลเขาไปทั้งชีวิตที่เหลือของนาง  เพราะไม่มีวันใดเลยที่นางไม่ห่วงเขา!

8 ความคิดเห็น:

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่วี่น่ารัก

เดือนดับ กล่าวว่า...

เกือบแล้ว อีกนิดเดียวเอง

ulomzx กล่าวว่า...

ถึงขั้นไหนแล้วนี่

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น