ตอนที่ 958
ความดื้อรั้นและเกลียดชัง
คนผู้นี้คล้ายกับบุรุษรัศมีทองที่ปรากฏตัวในวังเมืองลู่หลิวและชิงหยดเลือดเทพและหญิงงามจูกวง
อย่างน้อยก็ดูมีลักษณะคล้ายกันมาก
ถ้ามองอย่างสังเกตจะพบว่าทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
บุรุษชุดทองที่ชิงหยดเลือดเทพปล่อยพลังออกมาเหมือนกับดาบ
และพลังมีความแหลมคมก้าวร้าว
ส่วนบุรุษที่มาทีหลังไม่เพียงแต่แต่งกายเรียบง่าย แต่ยังสงบราบเรียบเหมือนบ่อน้ำเก่า
หรือมองดูคล้ายกับภูเขาไฟที่ยังสงบมีพลังปานฟ้าถล่มดินทลาย
คนด้านหลังก็มีกระบี่เหมือนคนชุดทอง กระบี่นี้ดูเหมือนธรรมดา
ไม่ได้แขวนอยู่บนเอวเหมือนมือกระบี่ทั่วไป เป็นกระบี่ไม่มีฝัก
แต่มีผ้าแพรสองสามชิ้นพันรอบไว้
“ข้ารู้ว่าพวกเขาจะต้องใช้เจ้าอีกครั้ง! ความจริงคนพวกนี้ล้วนแต่เป็นขยะทั้งนั้น เป็นขยะประจำโลก ต้องเอาชีวิตไปช่วยพวกมันทำไมกัน?
ช่วยพวกมันมีแต่จะสูญเปล่า กลับจะสร้างอันตรายให้กับเจ้าเป็นทวีคูณ เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกมันเป็นใคร ตามข้ามาเถอะ
เจ้าไม่ควรมาที่นี่!”
คนที่เพิ่งมาถึงไม่สนใจผู้ชมคนอื่น
เขาเดินตรงมาที่เทวีเสรีภาพ
และมองดูนาง
หลังจากที่เห็นนางเงียบ
เขาถอนหายใจเบาๆ และพูดเสียงอ่อนโยน “เจ้าต้องการช่วยผู้คน ทำไมไม่มากับข้า? นั่นยังทำให้ช่วยผู้คนได้มากกว่าเสียอีก!”
ขณะที่เทวีเสรีภาพส่ายหน้าและปฏิเสธที่จะตามมา
ราชาสองหน้าถือเคียวปีศาจไม่ได้พูดอะไร
เหมือนว่าเขาไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
บุรุษชุดทองที่อยู่อีกด้านถอยไปหนึ่งก้าวแอบซ่อนตัวครึ่งหนึ่งอยู่ที่ด้านหลังมือสังหารและหญิงงามจูกวง
เขากรอกสายตาดูรอบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ว์หยาง
ที่เขาต้องระมัดระวังอย่างมากที่สุด เย่ว์หยาง
เขาแสดงตัวเหมือนกับคนโง่งี่เง่า ลักษณะของหมิงลี่ฮ่าวก็โง่พอกัน เขาก้มหน้าและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังนักสู้ปราณฟ้าร่างยักษ์หลายคนดูเหมือนกับคนขี้ขลาด
มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรเดินขึ้นมาข้างหน้าอย่างเงียบงันและใช้ตัวครึ่งหนึ่งบังเย่ว์หยาง พวกเขาตระหนักได้ว่าผู้ที่เพิ่งมาถึงมีพลังยิ่งใหญ่ไม่อาจต่อต้านได้
การต่อสู้ป้องกันคนผู้นี้ไม่ให้โจมตีเย่ว์หยาง
พวกเขาจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นหลายเท่า
อีกด้านหนึ่งสีหน้าของราชาจื่อฟง
ชิงหลาง โหลวลั่ว ฯลฯ มีสีหน้าไม่ดีนัก
เพราะพวกเขาจำสถานะของผู้ที่มาถึงได้
จักรพรรดิฟู่โฉว!
ท่าทีไม่ไยดีผู้ที่อยู่ในที่นี้
พวกเขาสงสัยว่าจักรพรรดิฟู่โฉว คงไม่สนใจวิธีการเตรียมลงมือแก้แค้นทันที
ส่วนตัวปลอมที่ราชาว่านเจียวเคยตะโกนเรียก
ตอนนี้ยืนอยู่ด้านหลังหญิงงามจูกวง เขาเป็นคนที่มีลักษณะที่คล้ายกันเท่านั้น แต่บัดนี้จักรพรรดิฟู่โฉวตัวจริงปรากฏ
นอกจากนี้ยังมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าที่คิด!
ราชาจื่อฟงและคนอื่นๆ
แม้ว่าจะอยู่ภายใต้บัญชาการของจักรพรรดิเสิ่นกวงก็ต้องทรงพลังด้วยเหมือนกัน
แต่พวกเขายังไม่มีคุณสมบัติต่อต้านจักรพรรดิฟู่โฉว
จักรพรรดิฟู่โฉว
นั่นคือระดับเดียวกับจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว นั่นเป็นเรื่องน่าปวดหัว
นักสู้ระดับราชาเผชิญนักสู้ระดับจักรพรรดิ มีจุดจบตายสถานเดียว!
“ถ้าท่านยืนยันจะช่วยคนพวกนี้ทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นข้าต้องฆ่าพวกมันทั้งหมด
รู้ว่าชีวิตท่านสำคัญต่อข้า และพวกมันที่เหลือเป็นแค่ขยะเท่านั้น”
ขณะที่เทวีเสรีภาพส่ายศีรษะ และขณะที่จักรพรรดิฟู่โฉวพูดคำว่า “ถ้าอย่างนั้น...”
เขาหันหลังช้าๆ และเดินไปทางราชาจื่อฟงและเย่ว์หยางกับคนอื่นๆ
สายตาของเขาเหมือนกับมองกลุ่มคนตาย
“ทำไมเจ้าต้องทำอย่างนี้อยู่เรื่อย?” เทวีเสรีภาพหลั่งน้ำตา
“ข้าไม่ผิด ท่านก็รู้!”
จักรพรรดิฟู่โฉวได้ยินเสียงเทวีเสรีภาพร้องไห้ เขาชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย
“ตราบใดที่เจ้าอภัยให้ผู้อื่น
สลายความเกลียดชังกันและกัน
ความทุกข์ก็จะหมดไปจากพวกเราได้
ทำไมเจ้าถึงได้ดื้อรั้นยืนกรานนัก?
ความเกลียดชังไม่อาจแก้ไขอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด
ตรงกันข้าม มันมีแต่จะทำลายภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นทวีคูณ หลังจากผ่านมาหลายปีผู้คนล้มตาย0มากพอแล้ว” เทวีเสรีภาพน้ำตานองหน้า
“ทั้งหมดที่ข้ารู้ก็คือพวกเขาใช้ความเมตตาและการให้อภัยของท่านผ่านไปรุ่นแล้วรุ่นเล่าไม่ทำให้ได้ชัยชนะกลับมาเลยสักนิด
กลับได้มาแต่พวกเนรคุณที่เยาะเย้ยถากถาง
ข้าไม่โทษท่าน เพราะท่านก็เหมือนกับท่านแม่นั่นแหละ
เกิดมาเป็นคนใจดีมีเมตตา ไม่ต้องการเห็นผู้อื่นประสบทุกข์ยากลำบาก กลับยอมทรมานตนเองแทนที่จะตำหนิว่ากล่าวคนอื่น
แต่ความเมตตาของท่านถูกคนเลวใช้ประโยชน์ และเอามารังแกท่าน ข้าจะต้องสนองคืนมันสำหรับความแค้นความชังนี้ ต่อให้ทำลายภูมิภาคสวนสวรรค์ทั้งหมด
ข้าก็ไม่สนใจ ไม่ว่าต้องฆ่าคนกี่คนก็ตาม ข้าไม่สนใจ
ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าจะไม่ให้อภัยพวกมัน....เป็นเพราะพวกมันทำให้เกิดเรื่องทุกวันนี้ ข้าจะแก้แค้นแทนท่านแม่ แก้แค้นแทนท่าน
แก้แค้นแทนคนที่ถูกข่มเหงจนต้องตายไปอย่างน่าเศร้าอีกนับไม่ถ้วน ข้าต้องการแก้แค้นเจ้าพวกเหล่านั้น
ข้าต้องการให้เจ้าพวกที่สูงส่งเหล่านั้นที่เอาแต่เสวยสุขบนความยากลำบากผู้อื่นต้องประสบเคราะห์กรรม ข้าต้องการให้โลกโชคร้าย
ต้องการให้พวกมันทุกข์ยากลำบากเป็นพันเท่าหมื่นเท่า ข้าไม่สนใจชื่อเสียงอยู่แล้ว เพราะข้าเกิดมาเพื่อแก้แค้น นอกจากพวกมันตายกันหมด ความแค้นของข้าจะไม่มีวันสลาย!”
จักรพรรดิฟู่โฉวกำหมัดแน่น
แต่หน้าของเขายังคงสงบ
แต่ลึกลงไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
มีความเจ็บปวดสลักลึกอยู่ในกระดูกและหัวใจ ไม่มีพลังใดๆ ในโลกลบล้างออกไปได้
เย่ว์หยางเริ่มเข้าใจขึ้นบ้างทันที สาเหตุของความทุกข์ยากเดือดร้อนของภูมิภาคสวนสวรรค์หลายพันปี
ทำไมหมิงลี่ฮ่าวจึงทำเป็นตาบอด? ทำไมเรื่องเหล่านี้ถึงกลายเป็นโศกนาฏกรรมมากขึ้นทุกที?
เหตุผลนั้นง่าย
เป็นเพราะจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
จักรพรรดิเสิ่นกวงและเจ้าตำหนักน้ำรุ่นหลังไม่เคยมองเห็นมาก่อน
หรือจักรพรรดิฟู่โฉวเองก็ดื้อรั้นจนยากจะรั้งกลับ แน่นอนว่าไม่น่าแปลกใจ
เมื่อมองอีกมุมหนึ่งพวกเขาคือครอบครัวเดียวกัน มีสัมพันธ์กันทางสายเลือด
ไม่ว่าผิดหรือถูกทุกคนต้องสู้กันจนถึงที่สุดและใช้พลังหมัดคลี่คลายปัญหา
ไม่รู้จักหมดสิ้น
เมื่อเป็นอย่างนี้
ถ้าไม่วุ่นวายก็คงเป็นเรื่องแปลก!
นอกจากนี้โศกนาฏกรรมในภูมิภาคสวนสวรรค์ซับซ้อนยุ่งเหยิงเกินไป
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสะสางปัญหานี้ได้
ถ้าคนเหล่านี้ไม่ดื้อรั้นจนเกินไป ถ้าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วไม่หมกมุ่นขนาดนั้น ถ้าเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ไม่หมกมุ่นถือทิฏฐิ ถ้าจักรพรรดิเสิ่นกวงไม่หมกมุ่นเกินไป
อย่างนั้นหลายอย่างก็คงไม่ขยายลุกลามกลายเป็นโศกนาฏกรรม....
สำหรับจักรพรรดิฟู่โฉว
เย่ว์หยางไม่คิดว่าเขาทำอะไรผิด
ตรงกันข้าม
เย่ว์หยางสนับสนุนความเคลื่อนไหวของจักรพรรดิฟู่โฉว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ไม่มีอะไรผิดกับการกระทำนี้
ในกรณีนี้ถ้าจักรพรรดิฟู่โฉวไม่ล้างแค้นก็คงเป็นเรื่องแปลก
หากมีคนข่มเหงสมาชิกครอบครัวซึ่งเป็นที่รักของเขา
เย่ว์หยางคงชักดาบเล่นงานฝ่ายตรงข้ามเป็นแน่
การล้างแค้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องใช้วิธีที่ดีที่สุด
ไม่อาจใช้กำลังบังคับแข็งขืน...
ไม่อาจปล่อยให้ความเกลียดชังบดบังดวงตา..
นี่คือจุดแตกต่างระหว่างเย่ว์หยางกับจักรพรรดิฟู่โฉว!
“ข้ารู้ว่าข้าทำไม่ถูก แต่ข้าไม่รู้ว่าจะทำให้ถูกต้องได้อย่างไร สำหรับเจ้า
ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามีชีวิตอยู่กับความเกลียดชังตลอดเวลา เจ้าควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง
แสวงหาตนเองแทนที่จะคิดแค้นตลอดเวลาและอาบเลือดสู้กับศัตรู
แม้ว่าข้าจะเป็นคนรุ่นหลังแม่ของเจ้าแต่ข้าไม่ต้องการสนับสนุนการแก้แค้นของเจ้า
ไม่ว่าจะเป็นเจ้า จักรพรรดิเสิ่นกวง จักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน
ทุกคนต่อสู้เพื่อตอบสนองความต้องการในใจของตนเอง
ข้าไม่ต้องการอยู่ในวังวนสงครามกับเจ้า...ข้าจะไม่ไปกับเจ้า!” เทวีเสรีภาพปาดน้ำตา แม้ว่ารูปลักษณ์ของนางจะดูอ่อนแอ แต่ดวงตาของนางมุ่งมั่น
“ท่านแค่ติดตามข้า ข้าไม่ต้องการการสนับสนุนจากท่าน
ท่านไม่ต้องทำอะไรให้ข้า ท่านแค่ใช้ชีวิตอยู่ในที่ปลอดภัยให้ดี พอเถอะ ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมข้าอีก ข้าเองก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมท่านได้เช่นกัน
พวกเราทั้งหมดล้วนแต่ดื้อรั้นกันทั้งนั้น
ท่านไม่ยอมช่วยข้า ข้าก็ไม่ว่ากระไร
แต่ข้าตัดสินใจแล้วจะเอาตัวท่านจากไป ท่านไม่ต้องคัดค้าน เพราะข้าแข็งแกร่งกว่าท่าน เรื่องนี้ข้าต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน”
หลังจากจักรพรรดิฟู่โฉวพูดเสร็จ
เขาชะงักฝีเท้าอีกครั้ง
เมื่อเขายืนอยู่ต่อหน้าราชาจื่อฟง
เขายังไม่ชักกระบี่ แต่พูดอย่างราบเรียบ
“เจ้าฆ่าตัวตายดีกว่า
ความเจ็บปวดจะได้ลดน้อยลง”
ราชาจื่อฟงสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด
สีหน้าซีดเซียว
ทุกคนโกรธ
แต่ในใจมีความกลัวมากกว่า
เพราะอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฟู่โฉวผู้ทรงพลัง
ต่อให้พวกเขาร่วมมือกันก็ยังไม่เพียงพอต่อต้านฝ่ายตรงข้ามได้ ต่อหน้านักสู้ระดับจักรพรรดิแดนดินที่ทรงพลัง
นักสู้ปราณฟ้าระดับราชาเป็นเพียงแค่หนูตัวเล็กที่อยู่ต่อหน้าราชสีห์
ไม่ว่ามีจำนวนเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์
จักรพรรดิฟู่โฉวเห็นราชาจื่อฟงและคนอื่นๆ
ไม่พูดอะไร เขาแค่นเสียงเย็นชา
“อย่านึกว่าเจ้าขี้ขลาดเสิ่นกวงจะช่วยเจ้าได้ ในท่ามกลางทะเลสันติที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้ เขาไม่กล้ามาพบข้าแน่นอน
ต่อให้ข้าไม่ฆ่าพวกเจ้า
ข้าคิดว่าพลังอย่างพวกเจ้ายังจะมีชีวิตรอดพ้นแผนของราชาสองหน้ากับพวกอีกหรือ? ชีวิตของพวกเจ้ามีค่าไม่ต่างอะไรจากขยะ
แค่ใช้เลือดเอาไว้บูชายัญศิลาดวงดาวเท่านั้น!”
ราชาสองหน้าที่ยืนห่างออกไปยังคงนิ่งเงียบ
ราวกับว่าตาบอดหูหนวกมาแต่กำเนิด
สนมจูกวงมองดูสีหน้าเย่ว์หยางไม่วางตา
พยายามจะค้นหาบางอย่าง
เย่ว์หยางกระแอมเบาๆ ต่อหน้าทุกคน
ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้ม “เศษหินดวงดาวอะไรกัน ข้าไม่รู้จัก,
เล่ห์เหลี่ยมแผนการอะไร ข้าไม่รู้ทั้งนั้น ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ข้ามีนิสัยรักสงบ เมื่อข้ายังเด็ก
ข้าเป็นเด็กดีมีน้ำใจ
ข้าเองคิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการต่อสู้ของเจ้า ดังนั้น
ข้าสามารถไปจากที่นี่ได้ไหม?”
“เจ้าเป็นใคร?”
จักรพรรดิฟู่โฉวประหลาดใจเย่ว์หยางเล็กน้อย
และเขาก็คาดเดาไม่ออกว่าเจ้าเด็กนี่โผล่ออกมาจากไหน?
“เจ้าเพิ่งบอกไม่ใช่หรือว่าจะกลับไปกินมื้อเย็นที่บ้าน?”
เย่ว์หยางทำตัวเหมือนเด็กนักเรียนประถมที่ถูกลงโทษเวลาทำผิดพลาด
“คิกๆๆ” สนมจูกวงอดหัวเราะไม่ได้
“....”
หญิงงามจูกวงลอบสังเกตเย่ว์หยางและอดตำหนิกับความเหลวไหลไร้สาระของเขามิได้ “โชคดีที่จักรพรรดิฟู่โฉวแค่มองหาจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเพื่อแก้แค้น”
จักรพรรดิฟู่โฉวไม่ตอบ
เขาเพียงแต่ชักกระบี่ด้านหลังช้าๆ
7 ความคิดเห็น:
กวนตอนได้ใจ555
เดี๋ยวเห็นฤทธิ์เย่ว์หยางแล้วจะได้รู้ว่าไม่ควรเป็นศรัตรูเย่ว์หยาง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ใจจ้า
กวนมึนโฮ เด๋วได้เฮอิอิ
แสดงความคิดเห็น