วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 960 ไพ่สุดท้าย?


ตอนที่  960  ไพ่สุดท้าย?
หมิงลี่ฮ่าวไม่ตอบ ยังคงแสร้งทำเฉยต่อไป
 
ตอนนี้ราชาจื่อฟงค่อยๆ ผายมือมาทางหญิงงามจูกวง “น้องหญิง!  ถ้าข้าได้สะเก็ดศิลาดวงดาวจริงๆ มีหรือที่ข้าจะไม่เอาออกมา สมบัติมากมายเป็นล้านในสายตาข้ายังไม่เลอค่าเท่ากับรอยยิ้มของเจ้า... ตอนแรกข้าได้หีบสมบัตินั้นมาจริง  แต่นั่นเป็นกับดักของศัตรู ภายในหีบสมบัติว่างเปล่า  ข้ากลายเป็นแพะรับบาป  น้องหญิง!  ถ้าข้าได้สะเก็ดศิลาดวงดาวมาจริงๆ ข้าจะไม่เอาออกมาแบ่งปันกับเจ้าได้อย่างไร!
 “ฝ่าบาท!  หญิงงามจูกวงหลั่งน้ำตาร่ำไห้
หวีเฉาอดีตหัวหน้าองครักษ์ผู้ภักดีอดแค่นเสียงเย็นชามิได้  “เราควรจะเปลี่ยนวิธี  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับราชาจื่อฟง เช่นตัดมือของแม่หญิงจูกวงสักข้างหนึ่ง เผื่อว่าราชาอาจจะจำได้ว่าเก็บสะเก็ดศิลาดวงดาวไว้ที่ไหน”
ราชาจื่อฟงทั้งโกรธและตกใจ  เขาโบกมือห้ามมิให้ทำ  เขาขอร้องอ้อนวอนหวีเฉาอย่างจริงใจ  “หวีเฉา! ข้ามองเห็นเจ้าเหมือนกับเป็นน้องชาย ข้าแบ่งปันทุกอย่างให้กับเจ้า ไม่เคยติดค้างอะไรเจ้าแม้แต่น้อย เรื่องเหล่านั้นเจ้าลืมไปแล้วหรือ? เราทั้งสองอาบเลือดต่อสู้ด้วนกัน หนีด้วยกันจนกระทั่งถึงวันนี้  ข้าไม่เคยทำเรื่องให้เจ้าต้องเสียใจ  แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้  แต่ข้าอยากจะขอร้องเจ้า  อย่าดึงจูกวงเข้ามาเกี่ยวข้อง  นางบริสุทธิ์ เจ้ามีอะไรมาลงที่ข้าได้ โปรดอย่าทำร้ายนาง  นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอคนหนึ่งไม่อาจทนรับการทรมานได้  นอกจากนี้ข้าเองก็ไม่มีสะเก็ดศิลาดวงดาว  ถ้าข้ามีข้าคงใช้แลกเปลี่ยนไปแล้ว เจ้าควรจะรู้ จูกวงคือชีวิตของข้า  นางสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของข้า  จะให้ข้านั่งดูนางทุกข์ทรมานได้อย่างไร?  ปล่อยนางไปเถอะ  ถ้าข้ามีสิ่งที่เจ้าต้องการ  ข้าเองก็ยินดีจะมอบให้”
หวีเฉาหัวเราะ
เขาหัวเราะจนน้ำตาไหล
เขาส่ายหน้าและชี้ราชาจื่อฟงพร้อมกับหัวเราะ  “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าแก่จนสับสนไปหรือเปล่า ข้าไม่ใช่น้องหวีเฉาของเจ้า  ความเป็นพี่เป็นน้องเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวกับข้า  ถ้าเจ้าต้องการจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ก็เชิญพูดทักทายสุนัขรับใช้นั่นที่หลังบ้านเจ้าก็ได้  เพราะพี่น้องที่ดีของเจ้า มันทำให้พวกมันอิ่มท้อง...”
ไม่เพียงแต่ราชาจื่อฟงเท่านั้น  แต่เย่ว์หยางและคนอื่นที่อยู่ในนั้นเข้าใจแล้วว่าหวีเฉาตัวจริงถูกฆ่าไปแล้ว
เจ้าคนบ้าที่หยิ่งยโสข้างหน้าพวกเขาเป็นแค่ตัวปลอมที่สวมรอยเข้ามาเท่านั้น
ราชาชิงหลางแค่นเสียง  “เจ้าเป็นใคร?”
หวีเฉาผู้นั้นโบกมือเยาะเย้ย  “ขอร้อง!  อย่าใช้ศักดิ์ศรีราชากับข้า ใครจะกลัวเจ้ากันเล่า?  ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ ขยะอย่างเจ้าไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร!
ทันทีที่เขาพูดประโยคนี้จบ ราชาชิงหลางโกรธจัดราวกับไฟลาม  เขาคำรามลั่นแค่นเสียงด้วยความโกรธและอัญเชิญวิญญาณอสูรหมาป่าและผสานร่างด้วยกัน พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นพลังปราณฟ้าระดับห้าชั้นภายในสามวินาที
เมื่อราชาชิงหลางยกกรงเล็บคู่ มิติอากาศฉีกขาดพังทลายเป็นทาง
อย่างไรก็ตามขณะที่ราชาชิงหลางจะบุกจู่โจมหวีเฉาตัวปลอมอย่างบ้าคลั่งตั้งใจจะฉีกหวีเฉาให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ราชาจื่อฟงเข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าราชาชิงหลาง
ที่ด้านตรงข้ามหวีเฉาตัวปลอมใช้นิ้วเดียวปัดกรงเล็บของราชาชิงหลางได้อย่างง่ายดาย
มืออีกข้างหนึ่งของเขาถือมีดคมกริบ
พาดอยู่ที่คอของหญิงงามจูกวง
ถ้าราชาชิงหลางวิ่งบุ่มบ่ามเข้ามาเหมือนเคย เชื่อได้ว่าหญิงงามจูกวงคงต้องอาบเลือดภายในห้าก้าว  ราชาชิงฟงห่วงใยถึงความปลอดภัยของหญิงงามจูกวงมากที่สุดไม่ต้องการเห็นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น  เขารั้งตัวราชาชิงหลางไว้ และขวางอยู่หน้าหวีเฉาตัวปลอม  กรงเล็บคู่ของราชาชิงหลางถูกราชาจื่อฟงหยุดไว้ แทนที่จะเข้าไปจัดการหวีเฉาตัวปลอมที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม
ทันใดนั้นพลังของทั้งสองทั้งของราชาจื่อฟงและราชาชิงหลางปะทะกันจนเกิดแรงระเบิดทำลายโดยตรง  ทั้งสองกระเด็นออกมาสิบเมตร
แม้ว่าจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องที่น่าอับอาย
 “ฮ่าฮ่าฮ่า งี่เง่าทั้งสองคน สวะอย่างพวกเจ้าอยู่ไปก็เปลืองข้าวสุก!  หวีเฉาตัวปลอมดูถูกพลางถ่มน้ำลาย
 “น่าคลั่งใจยิ่งนัก!  ราชาชิงหลางโกรธจนปอดเทพระเบิด
 “ข้าขอร้องท่าน อย่าเพิ่งวู่วาม รอให้ข้าช่วยจูกวงเสียก่อน!” ราชาจื่อฟงรั้งราชาชิงหลางไม่ให้วู่วาม
 “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถประนีประนอมแลกเปลี่ยนสตรีของเจ้าคืนมาได้จริงๆ หรือ? จื่อฟง และของนั่นเป็นกับดักของคนอื่น เราทุกคนตกเข้าไปในกับดักนี้  ถ้าไม่ต้านทานศัตรูให้เต็มที่ จะมีแต่ตายในที่สุด สตรีนั้นจะนับกระไรได้?  ถ้าเจ้ามีชีวิตไม่กลัวหาสตรีงามได้หรือ?  ถ้าเจ้าตาย เจ้าจะเอาอะไรไปช่วยสตรีนางนี้?  ถ้าเจ้ามีชีวิต เจ้าไม่ควรให้นางมาเป็นอุปสรรคต่อเจ้า ถ้าเจ้าคิดอย่างถี่ถ้วน เขาจะไม่กล้าแตะต้องแม้แต่เส้นผมของนาง  เจ้าเข้าใจไหม?  เป็นเพราะเจ้าอ่อนข้อให้ มันถึงได้รุกรานเจ้า!  ราชาชิงหลางคำรามใส่ราชาจื่อฟงด้วยความโกรธ
 “ฉัวะ!
หวีเฉาตัวปลอมกดมีดลงที่หน้าอกของหญิงงามจูกวงและกดลึกลงไปเรื่อยๆ
มือของหญิงงามจูกวงขยับเล็กน้อย คนไม่สามารถพูดอะไรได้อีก นางทรุดตัวลงช้าๆ
ราชาจื่อฟงตะลึง
เย่ว์หยางลอบมองดูหมิงลี่ฮ่าวดูว่าหน้าของผู้นี้จะรู้สึกอย่างไร
หมิงลี่ฮ่าวสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กลับคืนสภาพโดยเร็ว และเมื่อเย่ว์หยางหันกลับไปมองอีกครั้ง สีหน้าเขากลับคืนสู่สภาพเดิมที่เหมือนไม่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
หวีเฉาตัวปลอมสะบัดมีดชุ่มเลือดในมือของเขา “ราชาจื่อฟง ตอนนี้เจ้าควรจะคิดอะไรได้บ้าง ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะช่วยเตือนความจำเจ้าอีกครั้ง จะแทงมีดนี้ตรงไหนดี? ถ้าใบหน้าที่งดงามไร้ตำหนินี้ถูกเฉือนเจ้าจะมีความสุขบ้างไหม? หรือจะให้ข้าตัดแขน หรือนิ้วของนางดี?”
 “ไม่อย่า!  ราชาจื่อฟงส่งเสียงดังไม่หยุด  “ข้ารับปากเจ้าทุกอย่าง เจ้าต้องการอะไร ข้าจะให้เจ้าทั้งหมด  ตราบเท่าที่เจ้าไม่ทำร้ายจูกวงอีก!
 “ฝ่าบาท”  มือของหญิงงามจูกวงกุมบาดแผลที่หน้าอกนาง นางร้องอย่างอ่อนแรง ไม่ช้าก็มีเลือดทะลักออกทางปากนาง ขณะที่นางไอ
 “สะเก็ดศิลาดวงดาว”  นี่คือเป้าหมายของหวีเฉาตัวปลอม
 “ข้าไม่มีของสิ่งนี้จริงๆ ไม่มีเลย”  ราชาจื่อฟงพูดไม่ทันจบประโยค หวีเฉาตัวปลอมใช้มีดแทงแขนขวาของหญิงงามจูกวงทันที  ราชาจื่อฟงถลาไปที่ร่างของหญิงงามจูกวงอย่างสิ้นหวัง  หวีเฉาตัวปลอมตวัดมีดแทงใส่ร่างของราชาจื่อฟงเป็นพันแผลในพริบตา  แต่ดูเหมือนราชาจื่อฟงจะไม่รู้สึกเจ็บ และเขาก้มลงอุ้มร่างที่บาดเจ็บของจูกวงด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจ
เลือดและน้ำตาของเขาหยดลงบนร่างของสตรีที่เป็นที่รัก
เทวีเสรีภาพอดกรีดร้องออกมาไม่ได้ “หยุดนะ”
หวีเฉาตัวปลอมชักมีดออกมาใช้ลอบสังหาร เขาแทงใส่หัวใจราชาจื่อฟงกระทั่งราชาจื่อฟงและหญิงงามจูกวงกอดกันค่อยๆ ล้มลงกับพื้น เขาเพียงแต่ปรบมือยิ้มเยาะเย้ยและถามเทวีเสรีภาพกลับ  “สะเก็ดศิลาดวงดาวอยู่กับเจ้าหรือ?”
เทวีเสรีภาพส่ายหน้า
หวีเฉาตัวปลอมแค่นเสียง  “ไม่ได้อยู่กับเจ้า แล้วพูดออกมาทำไม?  นางแพศยาเจ้ากล้าสั่งข้าหรือ?”
ร่างของเขากระพริบวาบและมาปรากฏอยู่หน้าเทวีเสรีภาพ และใช้มือคว้าคอของเทวีเสรีภาพ และพลิกมือเตรียมทุ่มร่างเทวีเสรีภาพลงกับพื้น ราชาชิงหลางบุกเข้ามาโจมตีทันที
ราชาชิงหลางมีความเร็วที่สูงส่ง
เขาเร็วราวกับสายฟ้า
แต่บุรุษชุดทองที่ปลอมเป็นจักรพรรดิฟู่โฉวเร็วกว่า กระบี่รุ้งขาวพุ่งวาบแทงไหล่ของราชาชิงหลาง
ราชาโหลวลั่วไม่ทันได้ช่วยเหลือ ขณะที่บุรุษชุดทองจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมหันกลับมาจ้องมอง  ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางยืนอยู่ข้างราชาโหลวลั่ว คาดว่าราชาโหลวลั่วคงจะป้องกันไม่ได้  โหลวลั่วและราชาว่านเจียวทั้งสองมองหน้ากันและลดมือลง ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ดี
 “ดีมาก เราต้องการคนฉลาด”  หวีเฉาตัวปลอมหันไปจ้องเย่ว์หยาง  “คุณชาย! แล้วเจ้าล่ะ?”
 “ข้าฉลาดอยู่ทุกเมื่อ”  เย่ว์หยางชูมือเหมือนจะบอกว่าเขาเป็นเด็กดี
 “ถ้าอย่างนั้นก็หลีกไป  ตอนนี้ข้ากับจื่อฟง ชิงหลางทั้งสองคนจะชำระบัญชีกัน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า”  หวีเฉาตัวปลอมอึดอัดกับทัศนคติของเย่ว์หยาง  แต่เขาคือคุณชายจากแดนสวรรค์บน  ที่สำคัญสถานะของคนและพลังขององครักษ์คุ้มครองก็ยังอยู่  ตราบเท่าที่ทุกคนยังไม่ถูกฆ่า พวกเขาจะต้องถูกแก้แค้นแน่  พวกเขาจะต้องกำหนดวิธีรับมือใหม่  ดังนั้นเขาใช้วิธีเสนอคำแนะนำ ตราบเท่าที่นักสู้ปราณฟ้าอย่างเย่ว์หยาง โหลวลั่วและว่านเจียวอยู่เฉยๆ ราชาชิงหลางไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้  ขณะที่ราชาจื่อฟงมีหญิงงามจูกวงอยู่ด้วย พลังของเขาก็เท่ากับเป็นศูนย์!
 “ก็ได้” เย่ว์หยางให้สัญญาอย่างอารมณ์ดี คนที่อยู่รอบๆ ตัวเขาไม่อยากเชื่อ คุณชายยอมเชื่อฟังแต่โดยดีได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามคำพูดต่อมาของเย่ว์หยางทำให้ทุกคนเข้าใจทันที
เจ้าเด็กนี่ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
ยังคงเป็นคุณชายจากแดนสวรรค์บนที่หยิ่งยโส!
เพราะเย่ว์หยางพูดเสริมประโยคต่อมา  “ถ้าเจ้าคุกเข่าขอร้อง  ข้าจะรับไว้พิจารณา”
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนใบหน้าที่ซึมเซาของราชาจื่อฟงและราชาชิงหลางมีชีวิตชีวาทันที ราชาโหลวลั่วและพวกนักสู้ปราณฟ้าเหล่านั้นเข้าใจผิด และจากนั้นพวกเขาเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น คุณชายไตตันเป็นใคร ยังจะต้องกลัวด้วยหรือ?  เขาเป็นคนที่เกิดมาเพื่อค้นหาสิ่งที่ดี ยิ่งปั่นป่วนวุ่นวายมากขึ้น ยิ่งเจ็บปวดบ้าคลั่งก็ยิ่งดี คุณชายไตตันชอบทำอย่างนั้น
จะไล่ให้เขาออกไปจากสถานการณ์ตึงเครียด ยากยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์
นอกจากปฏิเสธที่จะจากไปแล้ว เขายังยืนกรานที่จะยุ่งเกี่ยว
ทำให้สถานการณ์ทั้งหมดซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
บางทีนี่อาจเป็นความตื่นเต้นที่บุรุษหนุ่มต้องการสัมผัส!
หวีเฉาตัวปลอมโกรธจัดจนจมูกเต้น  เจ้าทำเกินไปหรือเปล่า ถ้าเจ้าหยุดไม่ยุ่งเกี่ยวสักครู่ เจ้าจะตายไหม?
 “เมื่อครู่นี้เจ้ายัองครักษ์ที่แข็งแกร่งอย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าอยู่ด้วย ข้าจึงยอมทนอยู่ชั่วครู่  ตอนนี้จักรพรรดิฟู่โฉวกำลังจะฆ่าองครักษ์ของเจ้า เจ้ายังจะกล้าหยิ่งยโสอีกหรือ?”  หวีเฉาตัวปลอมอดสบถด่าไม่ได้ เพราะคุณชายผู้หยิ่งยโสนี้ไม่อาจทำให้เขาสงบอารมณ์ลงได้จริงๆ
 “ใครช่วยข้าฆ่าเจ้าโง่นี่ ข้าจะให้รางวัล” เย่ว์หยางปรายตาให้จงกวน
 “อะแฮ่ม, คุณชาย เราไม่สามารถเอาชนะเจ้าโง่ผู้นี้ได้” จงกวนพูดไม่ทันจบก็ถูกเย่ว์หยางยันออกไปเสียก่อน
 “เสียเวลาพูด สวะอ่อนแอชัดๆ การต่อสู้ยังไม่ทันเริ่ม เจ้าก็เอาชนะไม่ได้หรือ?”  เย่ว์หยางเตะต่อยใส่จงกวนด้วยความโมโห  ทุกคนวิ่งหนีกระเจิง
 “ถ้าเจ้ามีศักดิ์ศรีคุณชาย ก็จงมารับความตายซะ”  หวีเฉาตัดสินใจทดสอบไพ่ใบสุดท้ายของคุณชายไตตัน
 “ไม่มีทางเลือก, เราคุณชายนี้คงต้องลงมือเองเสียแล้ว”  เย่ว์หยางถลกแขนเสื้อ  “พยัคฆ์แก่ไม่น่ากลัว ส้อมไร้สาระทำอะไรเราคุณชายไม่ได้ เจ้าเป็นแมวแก่หรือ ว่าไง? ตุลาการหายหัวไปไหนแล้ว? เจ้าตายแล้วหรือ? เจ้าไม่เห็นหรือว่าเจ้าโง่นี่กลั่นแกล้งเราคุณชาย? พลังปัจจุบันของเขาคือปราณฟ้าระดับหก เขาจะโจมตีข้าที่มีพลังแค่ระดับเตรียมปราณฟ้า เป็นอย่างนี้ได้หรือ?”
 “เราตุลาการทำหน้าที่วางตัวเป็นกลาง  ถ้าฝ่ายหนึ่งไม่ยินดีทำตัวเป็นกลาง ก็ไม่มีอะไรที่ข้าจะทำได้”  ราชาสองหน้าหันมาตอบอย่างเย็นชา
 “....ผู้คนวิจารณ์ได้ นี่หรือเป็นกลาง? เจ้ารู้จักอายบ้างไหม?”
 “พูดอย่างนี้ เราคุณชายค่อยโล่งใจ”  เย่ว์หยางไม่โกรธ และหัวเราะ เขาตบอกตัวเองและเรียกเสี่ยวเหวินหลีออกมา และจากนั้นซ่อนตัวอยู่หลังหมิงลี่ฮ่าว และชี้นิ้วไปที่หวีเฉาตัวปลอม “ไปจัดการเจ้าโง่นี่ให้ข้า เลาะฟันเขาและเอาเลือดเทพของข้าคืนมา ขวดเลือดเทพหนึ่งหยด และอีกอย่าง ตุลาการที่อยู่ตรงนั้นฟังให้ดี ตอนนี้เราไม่ต้องการเป็นกลางแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดและกลุ่มขยะจะต้องถูกทิ้งลงน้ำ และระบายออกไปยังมหาสมุทร
อสูรเทพ?
ราชาสองหน้าเห็นเช่นนั้น นัยน์ตาเย็นชาเป็นประกาย  “คุณชายไตตันผู้นี้มีไพ่ใบสุดท้ายจริงๆ ข้าเกรงว่าเขาจะมีมากกว่านี้!

12 ความคิดเห็น:

Outlaw12 กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ulomzx กล่าวว่า...

เย่าว์หยางเตรียมลงมือเองแล้ว...ตอนนี้จะได้อะไรเป็นรางวัลนะ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

กำลังสนุกเลย

WingF กล่าวว่า...

เจ้ามาถูกทางแช้ว ยังมีอีกเยอะ เยอะมากด้วย วัดปะหละ

หมูน้อย กล่าวว่า...

ขอกันดีๆไม่ได้ ต้องให้พี่เย่ใช้กำลัง

oldmonkey กล่าวว่า...

ขอบคุณคะ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

เดวเจอแม่เสือสาวออเจ้าออกมาแล้วจะหนาววววว

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

น้องสามแกล้งเป็นหมูแต่กำลังจะกินเสือ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น