วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 970 เห็นจุดอ่อน?


ตอนที่  970  เห็นจุดอ่อน?
เหนือศีรษะของเย่ว์หยางมิทราบว่ามีนาฬิกาสุริยะปรากฏตั้งแต่เมื่อใด
 
แทบจะเหมือนของจริง
ความแตกต่างกันก็คือมีขนาดเล็กกว่ามาก ดูไม่ทรงพลังนัก มันดูเล็ก เสี่ยวเหวินหลียืนอยู่ด้านหลังเย่ว์หยาง นัยน์ตาของเธอเป็นประกายดุจดวงดาว  ดูเหมือนเธอจะชอบนาฬิกาสุริยะแบบนี้  แน่นอนว่านาฬิกาแบบนั้นไม่มีความสัมพันธ์กันแม้แต่น้อย  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความสามารถ  นี่ดูเหมือนนาฬิกาสุริยะ มีความสามารถย้อนเวลา
ในรัศมีร้อยเมตรจากร่างเย่ว์หยาง หมิงลี่ฮ่าวและคนอื่นกระโดดลุกขึ้นและรู้สึกว่ากำลังกายของพวกเขาคืนกลับมา และมีพลังเต็มเปี่ยมทันที
อย่างไรก็ตามร่างที่ห่างจากเย่ว์หยางเกินร้อยเมตร นักสู้ปราณฟ้าสองสามคนที่ต้องการหลบหนี ต่างตายไปแล้ว
ศพของพวกเขาแห้งทันที
 “เจ้ามีนาฬิกาสุริยะด้วยหรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวตะลึงและรู้สึกว่าตนเองสมองยังไม่เพียงพอ
 “ไม่ ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้!  คนของฝ่ายตรงข้ามตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
 “เงาปีศาจ?”  บัณฑิตซือเหรินที่ใจเย็นที่สุดเห็นความผิดปกติเล็กน้อย
 “ไม่ใช่เงาปีศาจ นั่นคือตัวจริง!  ราชาสองหน้าแค่นเสียง  ถ้าเป็นเงาปีศาจ เป็นไปไม่ได้ที่จะคืนสภาพให้หมิงลี่ฮ่าวและคนอื่น  นาฬิกาสุริยะเป็นของปลอมแน่  แต่การย้อนเวลาเป็นของจริง
จ้าวสุริยายังดูเยือกเย็น  เขาจ้องมองเย่ว์หยางอยู่นาน
ความรู้สึกนั้นเหมือนกับสิงโตมองดูสิงโตหนุ่มเติบโตและท้าทายสถานะของมัน
นอกจากความอิจฉาและความโกรธจากก้นบึ้งหัวใจ  เขาไม่ยินยอมพร้อมใจมาหลายปีแล้ว... เขาต้องใช้ความเพียรพยายามมากมายเพียงไหนจึงจะมีความสำเร็จในวันนี้  และเจ้าเด็กนี่เพิ่งรุ่งเรืองขึ้นมาเพียงไม่กี่ปี กลับไล่ตามเขาได้ทัน  ผู้เยาว์อย่างนี้ถ้าไม่ฆ่าให้ตายเสียก่อน  อีกหน่อยในอนาคต เขาจะมองเห็นหลังเจ้าเด็กนี่ได้อีกหรือ?
เย่ว์หยางมองผิวเผินนั้นดูผ่อนคลายมาก  แต่ในใจไม่เป็นเช่นนั้น
แม้ว่าจะสลายเวลาจากนาฬิกาสุริยะของฝ่ายตรงข้ามได้ และสนามพลังได้รับการคลี่คลายชั่วคราว  แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในหลายร้อยวิธีโจมตีของจ้าวสุริยา
การโจมตีระลอกต่อไปของจ้าวสุริยา
จะมีทั้งการย้อนเวลา และการหน่วงเวลาหรือไม่?
หมิงลี่ฮ่าวยื่นมือออกไปแตะนาฬิกาสุริยะที่เหนือหัวเย่ว์หยาง  และมีสีหน้าประหลาดใจ  “ของจริงหรือนี่?  ไม่ใช่เงาปีศาจหรือ?”   หมิงลี่ฮ่าวตื่นเต้น  แม้แต่จักรพรรดิฟู่โฉวก็ยังมึนงงสงสัย  ไม่มีเหตุผล เย่ว์หยางมีอสูรเหมือนกับอสูรพิทักษ์ของจ้าวสุริยาได้อย่างไร?  หรือว่านี่คือทักษะแฝงเร้นลอกเลียนของเจ้าเด็กนี่?  แม้ว่าจะลอกเลียนลักษณะมาได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเลียนแบบความสามารถของนาฬิกาสุริยะที่แท้จริงได้!
 “พวกเจ้าล้วนแต่สมองหมูกันทั้งนั้น!  เย่ว์หยางชูนิ้วกลางแค่นเสียงใส่ทุกคน
 “เฮอะ!  จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิเสิ่นกวงโมโห  นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่เคยมีใครกล้าดูหมิ่นเกียรติของพวกเขา  ในมุมมองของเย่ว์หยางนี่คือการช่วยเหลือ  และจ้าวสุริยากำลังจับตามอง พวกเขาได้แต่อดกลั้น
 “ข้าบอกไปแล้วว่าจ้าวสุริยาไม่ใช่ผู้ควบคุมเวลา  ถ้าเขาควบคุมเวลาในมือได้ เราตายไปนานแล้ว เขาสามารถฆ่าเราเมื่อใดก็ได้ เช่นก่อนที่เราเข้ามา หลังเราจากไป หรือเมื่อใดก็ได้ที่เรายังอยู่ในเกาะกลาง  ถ้าจ้าวสุริยาคุมเวลาได้จริง ไม่ว่าเราทำอะไรก็ไม่มีความหมาย  เขาไม่ตั้งใจสู้กับเรา  เขาต้องการบีบบังคับให้เรารั้งอยู่ที่นี่ และทำการกวาดล้างเรารวดเดียว เห็นได้ชัดว่าจ้าวสุริยาไม่ได้ควบคุมเวลา  แต่เป็นพื้นที่เล็กๆ บวกกับทักษะแฝงเร้นคืนสภาพของเขา และอสูรพิทักษ์นาฬิกาสุริยะของเขา สนามพลังกาลเวลาที่สร้างขึ้น เป็นสนามพลังพิเศษ และเขายังมีความเข้าใจสนามพลังกาลเวลาเป็นอย่างดี”  เย่ว์หยางอธิบายอย่างไม่เกรงใจ  “พวกท่านให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตาเห็นมากเกินไป นักสู้ที่แท้จริงจะต้องมีปณิธานที่มั่นคง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปริศนาความลึกลับ  จะต้องรักษาความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ สำรวจความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ โดยตรง แต่ดูเหมือนพวกท่านเอาแต่ตื่นตระหนก  บุคลิกนักสู้หายไปไหนกันหมด?”
 “ปณิธานมั่นคงไม่หวั่นไหว  รักษาความเป็นตัวของตัวเองหรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวมีสีหน้าผ่องใส
 “ในหอทงเทียน มีประตูเป็นตายอยู่แห่งหนึ่ง นักรบทุกคนที่ผ่านการฝึกฝนที่นั่น จะต้องมีความเข้าใจว่า สิ่งใดจริง สิ่งใดลวงตา ความจริงวัฏจักรของทุกอย่างในโลกนี้รวมทั้งเวลามีความสัมพันธ์กับตัวเองยังไงบ้าง?  นักสู้ทั่วไป นักสู้ปราณราชันย์ นักสู้เทียมเทพ ดำรงอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน  พวกเขามองดูสรรพสิ่ง ความเป็นความตาย รุ่งเรืองตกยาก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรา?”  เย่ว์หยางตะโกนใส่หมิงลี่ฮ่าว
 “เข้าใจแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า  ข้าเข้าใจแล้ว!
หมิงลี่ฮ่าวตะโกนก้องท้องฟ้า
หมัดคู่กระแทกใส่โลกศิลาจนสั่นสะเทือนแทบพังทลาย
พลังแสงเข้มข้นดุจดวงอาทิตย์ระเบิดออกจากร่างของเขา ร่างของเขาเป็นสีทองสว่างเจิดจ้าสูงสิบเมตรดูราวกับขุนเขา  ลำแสงพลังงานพุ่งขึ้นท้องฟ้าออกทางเหนือศีรษะราวกับมังกรทะยาน...  ใครก็ตามที่เห็นหมิงลี่ฮ่าวจะรู้สึกว่าหมิงลี่ฮ่าวไม่เพียงแต่ไม่ตกต่ำเพราะความพ่ายแพ้ครั้งก่อน   แต่ภายใต้การรู้แจ้งจากการชี้แนะของเย่ว์หยาง ทำให้เขาคืนสู่สภาพสุดยอดที่สุดพร้อมต่อสู้อีกครา
แม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังรู้สึกว่าหมิงลี่ฮ่าวอยู่ในสภาพสุดยอดและไม่อาจเทียบเหมือนเมื่อก่อนได้แม้แต่น้อย
ภายใต้การกระตุ้นเปิดเผยของเย่ว์หยาง ทำให้หมิงลี่ฮ่าวยกระดับพลังได้
ดวงตาของจักรพรรดิฟู่โฉวเริ่มสว่างขึ้นๆ พลังปราณระเบิดออกมาจากร่างของเขา จากนั้นเขาหัวเราะ  “ใช่แล้ว ข้าไม่สามารถเปลี่ยนเวลาของนาฬิกาสุริยะได้  แต่ปณิธานของข้าจะไม่แตกดับ และยังปกป้องรักษาตนเองได้ต่อเนื่องอย่างไม่เป็นปัญหา  แค้นของข้ายังไม่จบ ข้าไม่อาจตายได้!  วันนี้ได้เผชิญหน้ากับนักสู้ผู้แข็งแกร่งอย่างจ้าวสุริยา  ข้าต้องล้างแค้นให้จบ!
แสงสีเงินกระจายเต็มร่างของจักรพรรดิฟู่โฉว..
อีกทางด้านหนึ่งแสงสีเงินของจักรพรรดิฟู่โฉว มีคลื่นแสงที่ไวกว่า กว้างกว่า และเป็นคลื่นทะเลเลือดก่อตัว
ยกเว้นแต่จักรพรรดิเสิ่นกวงที่ไม่ตอบสนองยอมรับหมิงลี่ฮ่าว  จักรพรรดิฟู่โฉวและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วก็รู้แจ้งบ้างภายใต้การแนะนำของเย่ว์หยาง และพวกเขาเป็นอิสระจากสนามพลังของจ้าวสุริยา
 “ข้าคิดผิด ข้าไม่ควรปล่อยให้หมิงลี่ฮ่าว จักรพรรดิฟู่โฉว และจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเข้ามาด้วย  หากไม่ใช่เพราะต้องการรวบปลาไว้ในแหเดียวกัน ตอนที่เจ้าไปเมืองลู่หลิวและข้าลงมือตอนนั้นก็คงจะไม่มีผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้  จ้าวสุริยาหายใจลึกสงบอารมณ์และถอนหายใจด้วยความเสียใจ “ตอนนี้, ข้าเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว  เย่ว์หยาง เย่ว์ไตตัน เจ้าเป็นอัจฉริยะที่ผิดธรรมดาที่เติบโตขึ้นมาจากการต่อสู้  หากเจ้าเติบโตในที่สงบสุข ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่สันติภาพ เจ้าจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ  แต่ถ้าเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จะเป็นการกดดันกระตุ้นให้เจ้าเติบโตก้าวหน้า นี่คือชะตากรรมที่อันตรายผลักดันเจ้าสู่ความก้าวหน้าที่รวดเร็วและบ้าคลั่ง!  ในทุกการต่อสู้ เจ้าจะเติบโต และหลังจากการต่อสู้แต่ละครั้ง เจ้าจะบรรลุพลังระดับใหม่  ข้าไม่ควรส่งเสริมให้จักรพรรดินีฟ้ารุกรานหอทงเทียนเลย  ถ้าข้ากำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคขัดขวางของเจ้าในหอทงเทียนให้หมด ในกรณีนี้เจ้าคงจะเติบโตได้น้อยกว่านี้ ไม่ก้าวหน้าในขอบเขตเหมือนอย่างทุกวันนี้!  ผิดไปแล้ว  ข้าเข้าใจผิดไป เจ้าแข็งแกร่งขึ้นเพราะการต่อสู้มันอยู่ในสายเลือดของเจ้า  ข้า..จ้าวสุริยาจะทุ่มเทราคาคุณค่าทั้งหมด ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตเงียบๆ ต่อไป  จงเอาข้อมูลเหล่านี้กลับไปรายงานกลุ่มผู้อาวุโส และเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง  ถ้าข้าไม่สามารถฆ่าเย่ว์หยางได้  ข้าจะใช้ชีวิตข้าผนึกเขาไว้ในโลกศิลาแห่งนี้  เมื่อข้าผนึกเขาได้ จะไม่มีใครเข้าใกล้เขาได้อีก  อย่าให้โอกาสเจ้าเด็กนี่ได้ต่อสู้และเติบโตต่อไป”
 “......” หลังจากราชาเฉินม่อได้ยิน เขาคุกเข่าลงช้าๆ
ราชาสองหน้าและแปดขุนพลบริวารที่ทำการกวาดล้างในระยะห่างออกไป ก็คำนับให้จ้าวสุริยา
เพื่อเป้าหมายกำจัดผู้เยาว์ฝ่ายตรงข้าม  จ้าวสุริยายอมสละทุกอย่างแม้แต่ชีวิต  แนวคิดของเขาทำให้หมิงลี่ฮ่าวตกใจ
จริงหรือที่เจ้าเด็กเย่ว์หยางคุกคามตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้
แม้แต่ยอดฝีมืออย่างจ้าวสุริยายังยอมสละชีวิตเพื่อผนึกเขาไว้?
นี่คือการเผชิญหน้าที่แม้แต่จอมภพแดนสวรรค์ก็คงไม่สนุกด้วย!  ระดับการคุกคามของเจ้าเด็กนี่ยังยิ่งกว่าจอมภพแดนสวรรค์อีกหรือ?
ราชาเฉินม่อหมอบกราบสามครั้ง
เขามองเย่ว์หยางอย่างลึกซึ้งเหมือนต้องการจะประทับภาพของผู้เยาว์รุ่นหลังนี้ตลอดไป จากนั้นลุกขึ้นช้าๆ เตรียมออกจากโลกศิลาและกลับไปรายงานที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  จักรพรรดิฟู่โฉวชักดาบศักดิ์สิทธิ์เหาะเข้าไปหาเขา “ข้าไม่อาจเอาชนะจ้าวสุริยาได้  แต่ถ้าจะหยุดเจ้า ก็คงไม่เป็นไร  รับมือ!
ราชาสองหน้าไม่ทันมีเวลาขัดขวางจักรพรรดิฟู่โฉว สนามพลังทะเลแสงโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วก็ปกคลุมเหนือศีรษะของเขา
หมิงลี่ฮ่าวจ้องมองจักรพรรดิเสิ่นกวง
ตอนนี้มีเพียงคนผู้นี้ไม่มีอาการสนองตอบแต่อย่างใด  ยังคงมองดูการต่อสู้อย่างเงียบงัน ราวกับว่าต้องการจะอยู่ให้ไกลที่สุด
ราชาเฉินม่อไม่ได้หันกลับมามอง เขาก้าวออกไปทีละก้าว
หลังจากนั้นจักรพรรดิฟู่โฉวใช้ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ฟันใส่ศีรษะของราชาเฉินม่อ  เขาใช้ดาบในมือขวาต้านรับ   จักรพรรดิฟู่โฉวเซถอยหลังพร้อมกับกระอักโลหิต  ราชาเฉินม่อไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มือทองที่ข้างขวาของเขาไม่ได้รับความเสียหาย และฝีเท้าไม่ได้ตกลง... หมิงลี่ฮ่าวถลึงตามอง  ต่อให้เขาทุ่มเทกำลังทั้งหมดสู้ก็ไม่น่าจะทำร้ายจักรพรรดิฟู่โฉวจนกระอักโลหิตได้!  ไม่ต้องพูดถึงราชาเฉินม่อผู้นี้  ขณะที่เดินเขายังป้องกันตนเองได้  สามารถเอาชนะจักรพรรดิฟู่โฉวได้ ร่างกายของเขาไม่เสียหายเลยหรือ?
หรือว่าคนไหนคือจ้าวสุริยา?
จักรพรรดิฟู่โฉวเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ!
หมิงลี่ฮ่าววิ่งเข้ามาสมทบใช้หมัดทุบอย่างแรง  ทั่วทั้งโลกศิลาสั่นสะเทือนด้วยหมัดระเบิดของเขา  ราชาเฉินม่อเพียงแต่หยุดยืนเฉยไม่หันกลับมา เขาใช้มือขวารับหมัดที่ต่อยเต็มพลังของหมิงลี่ฮ่าว
แรงปะทะนี้ทำให้ราชาเฉินม่อถลาไปสามก้าว
หมิงลี่ฮ่าวถอยไปก้าวใหญ่หนึ่งก้าว
แรงระเบิดกวาดไปทั่วโลกศิลาสะเทือนฟ้าทลายดินทำลายได้ทุกสรรพสิ่ง
เข็มของนาฬิกาสุริยะของจ้าวสุริยาย้อนกลับไปสามวินาที และใจของหมิงลี่ฮ่าวและราชาเฉินม่อไม่มีความเคลื่อนไหว แต่พลังงานหายไปทันที เหมือนกับว่าไม่มีการเผชิญหน้ากัน บนพื้นมีเพียงรอยเท้าสามก้าวของราชาเฉินม่อ และรอยก้าวถอยหลังก้าวใหญ่ของหมิงลี่ฮ่าว... เทียบกับพลังของราชาเฉินม่อ หมิงลี่ฮ่าวเหนือกว่าเล็กน้อย  ไม่สามารถหยุดเขาไม่ให้จากไปได้
ไม่มีทางขัดขวางราชาเฉินม่อได้แม้แต่น้อย!
หมิงลี่ฮ่าวมองเย่ว์หยาง ทำนองว่าจะเอายังไง?
 “ปล่อยเขาไป  เราไม่สามารถควบคุมชีวิตน้อยๆ ของเราได้  แล้วยังจะไปควบคุมหน่วยข่าวกรองข่าวสารได้ยังไง”  เย่ว์หยางมองดูจ้าวสุริยาอยู่ตลอดเวลา  และจ้าวสุริยายังคงจ้องมองเย่ว์หยางโดยไม่สนใจว่ารอบๆ ตัวจะเกิดอะไรขึ้น
 “ก็ได้ อย่างนั้นข้าจะทำหน้าที่นำทางแทนเจ้า”  หมิงลี่ฮ่าวตวาดลั่น เสียงกึกก้องไปทั้งโลกศิลา
เขาเลิกขัดขวางราชาเฉินม่อและวิ่งเข้าหาจ้าวสุริยาแทน
หมิงลี่ฮ่าวสลัดตัวออกจากสนามพลังและกฎสวรรค์แห่งกาลเวลา และตัดสินใจหยั่งฝีมือของจ้าวสุริยา  อย่างโชคร้ายที่สุด ก็ช่วยให้เย่ว์หยางได้มีโอกาสเห็นว่าเขามีจุดอ่อนข้อบกพร่องอะไร.....จักรพรรดิฟู่โฉวก็มีความคิดเช่นเดียวกับหมิงลี่ฮ่าว  ทั้งสองเป็นสุดยอดนักสู้ พลังหมัดและดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาฉีกมิติรอบด้านขาดกระจายมุ่งโจมตีจ้าวสุริยาที่กำลังจ้องมองเย่ว์หยาง
จ้าวสุริยาจ้องมองเย่ว์หยาง
ร่างของเขาดูเหมือนสั่นเล็กน้อย
หมิงลี่ฮ่าวรู้สึกว่ามีพลังยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถต้านทานได้พุ่งผ่านอกและท้อง ร่างของเขาหมุนคว้างและร่วงลงพื้น
ขณะที่เท้าของเขากดจมลงในพื้นเพื่อตั้งหลัก เขาเงยหน้าเห็นจักรพรรดิฟู่โฉวโจมตีตามหลังเขา ถูกจ้าวสุริยาใช้มือข้างเดียวกดกระแทกจมลงไปในพื้นโลกศิลา ไม่สามารถสู้ต่อได้
หมิงลี่ฮ่าวโมโหต้องการสบถด่า  แต่พลันลำคอของเขามีโลหิตฉีดพุ่งเป็นลำ.. นี่คือพลังที่แท้จริงของจ้าวสุริยา!
 “เจ้าเห็นจุดอ่อนหรือยัง?”  นัยน์ตาของเขายังคงจ้องมองเย่ว์หยางอย่างไม่คลาดสายตาแม้แต่เสี้ยววินาที ในใจของเขามีแต่เพียงเด็กหนุ่มข้างหน้าเท่านั้นที่เป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเขา!

5 ความคิดเห็น:

Nasee กล่าวว่า...

กำลังมันเลยยย

ulomzx กล่าวว่า...

ขออีกสักตอนสิ..กำลังจะเห็นจุดอ่อนเจ้าสุริยะแล้ว

ZzSTOPzZ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น