ตอนที่ 1055 ต้องผ่านการเรียนรู้?
หุบเขามนุษย์ ด่านที่เจ็ดมิติดินแดนสอบฝีมือ
เย่ว์หยางลอยตัวขึ้นจากสระเกิดใหม่ และเห็นเริ่นเทียนเกอและพวกกำลังรอเขาอยู่ไม่ไกล การเกิดใหม่ในหุบเขามนุษย์ไม่ได้กลายเป็นเด็กทารกหรือร่างหดเล็กลงกลายเป็นเด็ก ทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นร่างกายเดิม แต่หลังจากขึ้นมาจากสระเกิดใหม่แล้ว จะถูกจำกัดโดยกฎสวรรค์โบราณประจำหุบเขามนุษย์
พลังวิทยายุทธ์ทั้งหมด ไม่มีประโยชน์ที่นี่
คัมภีร์อัญเชิญ สมบัติเทพ, อสูร ฯลฯ ไม่สามารถใช้ได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สถานะส่วนตัวของพวกเขาจะถูกใช้ออกอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานที่ระบุไว้ในบัตรชะตา
ตัวอย่างเช่น ถ้าคนเกิดใหม่มีฐานะยากจน ประสบความสูญเสียและโศกนาฏกรรมของชีวิต ต่อให้เมื่ออยู่ข้างนอก เขาเป็นมหาเศรษฐีพันล้านก็ไร้ประโยชน์ ถ้าไม่มีเงินผลึกสวรรค์ เขาจะต้องอดตายแน่ อีกตัวอย่างหนึ่ง เป็นผู้ชายไร้สมรรถภาพทางความรัก ต่อให้เขาแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่มีทางแสดงความสามารถในหุบเขามนุษย์ได้... เพราะนี่เป็นมาตรฐานของกฎสวรรค์ในหุบเขามนุษย์ ที่นี่ควบคุมไม่ให้ใช้อสูรศึกอีกต่อไป การทดสอบที่นี่ ไม่ใช่การใช้อาวุธต่อสู้ แต่เป็นการเข้าถึงมาตรฐานของคนที่ประสบความสำเร็จในเวลาสั้นที่สุด
ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมกฎสวรรค์จึงต้องทำการทดสอบเช่นนี้
แต่ทุกคนรู้ว่านี่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน
และเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
ตัวอย่างเช่น อสูรแปลงเป็นมนุษย์ได้สำเร็จ นั่นเป็นขอบเขตที่สำคัญที่สุด บางทีในหุบเขามนุษย์ ผู้ท้าทายทุกเผ่าพันธุ์ต้องเข้าใจธรรมชาติและภูมิปัญญาของมนุษย์ที่แท้จริง
“พวกเราสองสามคนมีแนวทางที่แตกต่างจากเจ้า แต่ในพิธีประเมินชีวิตอีกสามเดือนข้างหน้า หวังว่าเราจะเป็นพันธมิตรต่อกัน” เริ่นเทียนเกอรู้ว่าจุดเริ่มต้นของเขาและเย่ว์หยางไม่เหมือนกัน ก่อนที่เขาจะเข้าไปในหุบเขา เขาได้รับมรดกเป็นปราสาทหนึ่งหลัง เมืองสองเมือง ข้าทาสบริวารนับพัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ฉันท์สหาย อาจารย์ หรือมารดาก็เพียงพอทำให้เย่ว์หยางใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขามนุษย์ได้อย่างสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์และมารดาของเขา ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่อยากเอาศีรษะโขกกำแพง โชคดีที่เจ้าเด็กผู้ได้รับพรจากเทพธิดาเป็นพันธมิตรของเขา
“แน่นอนว่าเรานัดหมายกันไว้ก่อนจะเข้าไปในหุบเขา” เย่ว์หยางไม่มีเหตุอันใดต้องตัดรอนความปรารถนาดีของเริ่นเทียนเกอ จินหายและเซี่ยที
มีสหายมากดีกว่ามีศัตรูมาก
นอกจากนี้ เริ่นเทียนเกอเป็นพวกปศุสัตว์ในหุบเขามนุษย์อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร เป็นเพียงสามัญชนธรรมดา
แต่เมื่ออยู่นอกแดนสวรรค์เขาเป็นคนยิ่งใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดีอย่างแน่นอน แม้จะอยู่ในแดนสวรรค์บนก็คาดว่าจะมีสถานะที่ไม่เลว ถ้าพวกเขาเป็นคนหยิ่งและหมิ่นศักดิ์ศรีผู้คน เย่ว์หยางคงไม่ต้องมีมารยาทอะไรกับพวกเขามาก อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายหนึ่งทอดสะพานต้องการสร้างไมตรีกับเขาในฐานะสหาย ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ในหุบเขามนุษย์เมื่อต้องการจะเรียนรู้ ก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่หรือ?
บัณฑิตตาเงินยิ้มและกล่าว “เรามีต้นกำเนิดเดียวกัน ยกเว้นแต่ฮ็อกจะแย่กว่าเล็กน้อย ถ้าเราดูแลกันและกันได้ดีเราจะจัดตั้งกองทหารรับจ้างและทำงานเพื่อหารายได้สำหรับครองชีพและค่อยๆ ตั้งตัว นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตามเจ้าเข้าครอบครองปราสาทตั้งแต่เริ่มแรกเลย คาดว่าเจ้าคงต้องพบกับเรื่องยุ่งยากบ้าง!”
เย่ว์หยางไม่ต้องการเช่นนั้นจริงๆ แต่ไม่มีวิธี เมื่อถามไปแล้วเขาได้รับตกทอดมรดกโดยอัตโนมัติทันที
เขาไม่ต้องการได้หรือ!
“คุณชายสาม! ข้ายังต้องการร่วมทางกับเจ้า เจ้าเป็นเจ้าของปราสาท หากเจ้าไม่มีองครักษ์คุ้มกัน นั่นคงเป็นเรื่องแย่...” ฮ็อกยังต้องการเกาะขาเย่ว์หยางไม่อยากปล่อย แต่เซี่ยทีเตะเขากระเด็น
การกระทำที่น่าอายของฮ็อกที่เกาะขาเย่ว์หยางแน่นไม่ปล่อยก่อนนั้น เพื่อไม่ให้เขาเคลื่อนไหวได้สะดวก ทำให้เขาต้องให้ฮ็อกยืมยาเม็ดพลังยุทธ์คุณภาพสุดยอดหลายเม็ด
ในที่สุดก็รวบรวมมูลค่าได้ 500 อย่างยากลำบาก
นับเป็นแผนอันตรายที่จะใช้กำจัดสถานการณ์สิ้นหวังจากการใช้ชีวิตอย่างผู้แพ้ผู้โง่เขลา
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นบุรษผู้บริบูรณ์ไปทุกอย่าง แต่สามัญชนก็ยังสามารถทำงานได้ในที่สุด ดีกว่าเป็นขอทานหรือขันทีเข้าสู่หุบเขามนุษย์ ฮ็อกรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณเย่ว์หยาง เป็นความรู้สึกส่วนลึกจากใจ ถ้าเย่ว์หยางบอกให้เขาบุกน้ำลุยไฟคาดว่าฮ็อกจะไม่ลังเลแม้แต่น้อย แต่น่าเสียดายที่เย่ว์หยางไม่สนใจเรื่องอย่างนี้ แค่ถูกกอดต้นขาตามตื๊อหยิบยืมเงิน เย่ว์หยางก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แล้ว
“เราไปด้วยกันก่อน ในเมื่อเราเข้าไปข้างในแล้ว เราต้องรู้สถานการณ์ก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นมากเกินไป” เย่ว์หยางไม่ต้องการทำลายสถิติผ่านด่านในเวลาครึ่งปีของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี มิใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ยังไม่จำเป็น นอกจากนี้ในหุบเขามนุษย์ ถ้าไม่ได้รับรางวัล นั่นถือว่าเป็นการฝึกฝนที่เสียเวลาเปล่า
ตอนนี้เย่ว์หยางเข้าใจว่าตั้งแต่หุบเขาราคะที่ระดับสี่ หุบเขาอสูร หุบเขาปีศาจ หุบเขามนุษย์ ฯลฯ จะมีผนึกพลังของเทพเจ้าโบราณ
บ่อยครั้งในกระบวนการฝึก เมื่อถึงมาตรฐาน ก็ย่อมได้รางวัลแน่นอน
ถ้าพลาดไป ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย... หุบเขาราคะเขาได้แพนดอรา พลังเทพวิบัติและพลังปั่นป่วน หุบเขาอสูรได้ฝึกภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราช หุบเขาปีศาจทำให้อิคคาได้สถานะใหม่ และในหุบเขามนุษย์เย่ว์หยางคาดว่ารางวัลของกฎสวรรค์โบราณจะต้องยิ่งใหญ่กว่า แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่เขาจะไม่ยอมพลาด บางทีอาจเป็นมาตรฐานการประเมินผลก่อนรับคัมภีร์เทพในแต่ละระดับ ดังนั้นในหุบเขามนุษย์ไม่เพียงแต่ต้องสำเร็จตามมาตฐานเท่านั้น แต่ต้องเหนือกว่ามาตรฐานและเป็นสถิติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
อย่างน้อยก็ต้องเอาชนะจีอู๋ลี่ เจ้านั่นให้ได้!
“เราขอถามได้ไหม ขอบเขตกิจกรรมของเรา ต้องอยู่ในพื้นที่แออัดหรือพื้นที่สามัญชน และทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและย่านการค้าจะต้องลงทะเบียนกับทหารรับจ้าง หลังจากสร้างชื่อผลงานได้แล้วจึงจะเข้าไปได้ แต่เจ้าแตกต่างออกไป ตอนนี้เจ้าเป็นบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์ เป็นทายาทรับมรดกของบารอน เจ้าสามารถเข้าไปยังพื้นที่ใดก็ได้ เราจะแยกทางกันชั่วคราวก่อน แล้วค่อยพบกันตอนประเมินการใช้ชีวิต” บัณฑิตตาเงินบอกว่าพวกเขาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ในขณะนี้ เพราะสถานะแตกต่างกัน
“ก็ได้!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าเมื่อเขาร่วมทางกับเริ่นเทียนเกอกับพวก เป้าหมายจะใหญ่สะดุดตาไปบ้าง นั่นคงเป็นเรื่องแย่ถ้าถูกจีอู๋ลี่โจมตี
“ระวังคนผู้นั้น...” เริ่นเทียนเกอพูดถึงจอมปีศาจไคเทียน
จอมปีศาจไคเทียนมาถึงก่อนนี้ บางทีเขาอาจตั้งตัวได้แล้ว
โชคดีที่เขาไม่รู้ว่าเย่ว์หยางได้รับมรดกมากมาย และยังมีปราสาทหลังหนึ่ง
เริ่นเทียนเกอออกไปพร้อมกับซิวอิ่ง เซี่ยทีและพวก ยกเว้นอยู่สองสามคนที่กำเนิดจากสระเกิดใหม่สองสามคนและสตรีชุดขาวสามคน สตรีเหล่านี้มีพลังเหมือนกับเทวทูตทั้งหมด ใบหน้าพวกนางมีรอยยิ้ม พวกนางก้าวเท้าอยู่บนผิวน้ำรอเย่ว์หยางเงียบๆ จนกระทั่งเขาอำลาพวกเริ่นเทียนเกอเสร็จ พวกนางเดินนวยนาดเข้ามาหาและทักทายด้วยน้ำเสียงไพเราะ “นักรบใหม่ โปรดแสดงบัตรกำเนิดใหม่ของท่าน”
เย่ว์หยางหยิบบัตรวิญญาณที่ออกโดยเทพสมบัติและพบว่ามีบางส่วนของข้อความในบัตรที่เปลี่ยนแปลงไป : เด็กหนุ่มสูงศักดิ์จากตระกูลรุ่งเรือง นักรบผู้กล้าหาญ ทรงเสน่ห์ เป็นที่หลงใหลของเพศตรงข้าม มีความรู้การศึกษาดี เมื่อเทียบกับสหายรอบด้านอาจกล่าวได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจเทียมฟ้า ในตระกูลไม่ว่าจะเป็นญาติพวกพ้องสหายล้วนประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้เยาว์ที่เกิดใหม่สามารถก้าวเข้าสู่ความรุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษได้ หรือไม่พวกเขาสามารถเปล่งประกายได้ดีกว่าคนรุ่นก่อน หรือบรรลุความสำเร็จที่เหนือกว่าคนรุ่นก่อนหรือไม่?
นอกจากประเมินสถานะตัวตนนี้แล้ว ยังมีเครื่องหมายระบุตัวตน : บารอน (มีปราสาทและเขตแดนปกครอง)
สุดท้ายจำนวนทรัพย์สินที่มี “12,500 ผลึกสวรรค์
แม้ว่าเย่ว์หยางจะมีเงินผลึกสวรรค์มากพอแลกเปลี่ยนตัวตนที่ดีกว่าอย่างเช่น เจ้าชาย, ยอดศิลปินนักแสดงที่มีแฟนคลับตามกรี๊ดจนแทบสลบ... แต่เขาไม่ต้องการเช่นนั้น
นั่นสามารถแลกเปลี่ยนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนมากมายจนทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเองเป็นบุคคลชั้นหนึ่ง
นอกจากนี้ในหุบเขามนุษย์ เขาสามารถมุ่งมั่นแสวงหาความก้าวหน้าได้ ตราบใดที่เขาได้รับเงินผลึกสวรรค์มากและได้รับเกียรติมากขึ้นสถานะของเขาจะเพิ่มขึ้นไปด้วยตามธรรมดาและความสามารถทั้งหมดจะได้รับการฟื้นฟู ตราบเท่าที่ไม่พบกับโศกนาฏกรรมชีวิต เป็นกระเทยหรือเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เขาไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเงินผลึกสวรรค์มากเกินไปและสูญเสียไปกับการลงทุนที่ไม่จำเป็นบางอย่าง เช่นทักษะการปลอมแปลงหรือโกงในงานรื่นเริง ทักษะนี้ทำให้ฮ็อกน้ำลายไหล แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีเงิน และเย่ว์หยางไม่เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
มีสาวๆ อีกหลายคนในโลกคัมภีร์ที่เขายังมิได้เปิดสัมพันธ์ลึกซึ้ง
นอกจากนี้ คุณภาพของสาวๆ ข้างหน้านี้เย่ว์หยางถือว่ายังดีไม่พอ
ด้วยความรู้สึกเช่นนั้น เย่ว์หยางรู้สึกว่าคงจะดีกว่าถ้าทำหน้าหนาทำท่าเจ้าชู้กับพวกนาง... “เชิญไปทางนี้!” หญิงสาวผู้แนะนำติดตราผู้สูงศักดิ์ให้เย่ว์หยางและจดบันทึกชื่อเย่ว์หยางไว้ในสมุดสีเงินด้วยปากกาทองคำ
“เจ้าเป็นบุรุษผู้สูงศักดิ์แล้วในตอนนี้ โปรดระมัดระวังคำพูดและการกระทำ อย่ากระทำการหยาบคายเหมือนพวกสามัญชนหรือทหารรับจ้าง มิฉะนั้นตราผู้สูงศักดิ์จะถูกหักคะแนนเกียรติยศหลังจากที่ได้รับคำเตือนหลายครั้ง ขุนนางผู้สูงศักดิ์มีที่ดินศักดินาและอำนาจแท้จริง เจ้ามีสิทธิ์มากมาย รวมถึงการเกณฑ์ทหารและมีส่วนร่วมในกิจกรรมของรัฐ ฯลฯ โปรดรีบกลับไปยังปราสาทพื้นที่ของเจ้าโดยเร็วที่สุดทำความคุ้นเคยกับรายละเอียดโดยเร็วที่สุด เพื่อที่ว่าในเวลาประเมินผลงานชีวิตอย่างเป็นทางการในอีกสามเดือน จะได้ผลงานที่ดีขึ้น” หญิงสาวชุดขาวเตือนเย่ว์หยางไม่ให้สนใจอัตลักษณ์ของนางอย่างอ่อนโยน
“ข้าหวังว่าเราจะมีโอกาสได้พบกันบ่อยขึ้น” หญิงสาวชุดขาวอีกคนหนึ่งยิ้ม ก่อนเตรียมเข้าสู่ประตูเทเลพอร์ต
สิ่งที่นางกล่าวก็คือผู้ที่ได้รับการประเมินผลงานชีวิตในสิบอันดับแรก จะได้รับรางวัล
ในหุบเขามนุษย์ นี่คือพรอันสูงสุด
แทบจะไม่มีใครได้เห็นพวกนางบ่อย เพราะมีคนมากมายที่เข้าแข่งขัน แม้ว่าจะมีคนได้ประเมินสิบคนแรก แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คนเกิดใหม่หลายหมื่นคนต่างแข่งขันเพื่อให้ได้สิบอันดับแรกง่ายๆ
เย่ว์หยางคันไม้คันมืออยากยื่นมือออกไปลูบใบหน้าที่น่ารักของนาง อย่างไรก็ตามภายใต้กฎนี้ ก็คงได้แต่เพียงเพ้อฝัน การล่วงเกินเทวทูต แล้วถูกหักคะแนนเกียรติยศนับว่าน้อย แต่อาจถูกตัดสิทธิ์จากสังคมชั้นสูงหรือถูกกฎสวรรค์ลงโทษถึงตายทันทีก็เป็นได้ เย่ว์หยางไม่ต้องการต่อต้าน เขามีโอกาสทำคะแนน อย่างน้อยนางก็รับผิดชอบในการบันทึกคะแนน นางเชื่อว่าผู้มาเกิดใหม่ในหุบเขามนุษย์ ไม่มีความกล้าเช่นนั้น
ถ้าเขาบังอาจล่วงละเมิด เขาอาจตายได้
“จำไว้ แม้ว่าเป็นขุนนางชั้นสูง แต่คะแนนก็มีความสำคัญเช่นกัน” สตรีเทวทูตชุดขาวคนสุดท้ายเตือนเย่ว์หยาง ทำให้เด็กหนุ่มจากโลกอื่นหน้าบึ้ง ต้องเรียน ต้องสอบทำคะแนน เป็นชีวิตที่หนักหนาสาหัสจริงๆ!
“ถ้าในการสอบสิบแปดครั้งแรก ทำสิบภารกิจได้สำเร็จรวบรวมเหรียญเกียรติยศได้ทั้งหมด คะแนนเกียรติยศและสมบัติจะได้เกินแสน ทั้งจะได้สิทธิ์เข้าวิหารโบราณ ว่ากันว่ารางวัลต่ำสุดในการได้เข้าวิหารโบราณก็คือสมบัติระดับเทพ” บางทีเด็กสาวหน้ากลมเห็นว่าเย่ว์หยางไม่มีแรงจูงใจที่มากนัก นางกระซิบบอก
“อะไรนะ เจ้าว่าไงนะ?” เย่ว์หยางรู้สึกทันทีว่าขวัญและกำลังใจของเขาปะทุสูงขึ้นเป็นร้อยเท่า
มีของวิเศษชั้นเทพเป็นรางวัล
การสอบเรื่องเล็ก รางวัลเป็นเรื่องใหญ่
6 ความคิดเห็น:
ขอบคุณผู้แปลครับ// ฮ้อกนายแน่มากที่สามารถขอยืมของจากจอมงกที่สุดในเรื่องได้(ノ*0*)ノ
เห็นสมบัติ 👁โตทันที
สมบัติระดับเทพเป็นรางวัลขั้นต่ำมีที่นี่ที่เดียว
สลัดหลุดได้ก็ดีใจละ สงสัยวิหารโบราณโดนปล้นแหงๆ
thx
น่าจะเปนของหลุดจำนำก็ได้ครับ 555
แสดงความคิดเห็น