ตอนที่ 1057 ยิ้มลี้ลับของเย่ว์หยาง
หลังจากพ่อบ้านตู้ลี่ออกไปทำงาน เย่ว์หยางเองเดินสำรวจในเมืองไม้เงิน
ที่นี่มีสี่เขตใหญ่
แยกเป็นเขตสามัญชน, เขตการค้าย่านธุรกิจ เขตชุมชนแออัด และเขตนอกเมือง และพื้นที่ซึ่งมีความวุ่นวายปั่นป่วน พวกคนจนไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าเมืองได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นผู้เกิดใหม่ หรือพลเมืองเดิมพวกเขามีสถานะต่ำต้อย เว้นแต่พวกเขามีเงินซื้อบ้านในเมือง หรือได้รับการหยิบยืมจากคนจนด้วยกัน พวกเขาจะยกระดับสิทธิ์ขึ้นไปเป็นสามัญชน
สำหรับคนที่เกิดในกลุ่มคนชั้นสูงเป็นพลเมืองเดิม ไม่มีอะไรจำต้องพูดมาก ผู้ท้าทายผ่านด่านที่กลับมาเกิดในคนกลุ่มนี้ยังต้องพัฒนาตนเอง จากนั้นจึงค่อยตัดสิน... กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือสามัญชนทั่วไปจะทำงานหนักหน่วงในอนาคตอย่างไรก็ตาม ต่อให้สะสมเงินผลึกฟ้ามากเพียงไหน ต่อให้มั่งคั่งมากเพียงใดก็ตาม ก็ไม่มีคุณสมบัติเลื่อนขึ้นไปเป็นชนชั้นสูง
ต่อให้สามัญชนมีความมั่งคั่งมหาศาล สามารถจัดตั้งกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ กลายเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมบางประเภทเพื่อผูกขาดความมีอยู่ของอุตสาหกรรมประเภทนั้น ก็ไม่มีคุณสมบัติเลื่อนขึ้นไปเป็นตระกูลขุนนางสูงส่ง
พวกเขาต้องอ้างอิงติดต่อกับขุนนาง
เช่นเดียวกับการรับใช้ปราสาทไดมอนด์สตาร์ สามัญชนมีโอกาสได้เป็นเทศมนตรีของเมือง
แน่นอนว่านั่นคือขีดจำกัดที่สามัญชนจะสามารถทำได้สำเร็จ สามัญชนส่วนใหญ่จะมีผสมปนกันไป
ในหุบเขามนุษย์ ต่อให้คนพวกนี้มีโอกาสเข้าแวดวงสังคมคนชั้นสูง แต่ในสายตาคนชั้นสูง คนพวกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเศรษฐีใหม่ธรรมดา
วันนี้ถ้าเย่ว์หยางปฏิบัติต่อเทศมนตรี หัวหน้าทหารเป็นอย่างดี คาดว่าฝ่ายตรงข้ามอาจดูหมิ่นเย่ว์หยางอยู่ในใจและรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนทายาทขุนนางชั้นสูง ลักษณะเด่นของขุนนางชั้นสูงคืออะไร? นั่นคือความเย่อหยิ่ง
ยิ่งมีความเย่อหยิ่ง ก็ยิ่งเหมือนเป็นตัวแทนผู้สูงศักดิ์
ช่องว่างระหว่างสถานะของชีวิตมีมากเกินไป
เติบโตจากที่แตกต่างกัน
นี่คือชะตากรรมที่โหดร้ายของผู้เกิดใหม่ในหุบเขามนุษย์ การมาเกิดใหม่ไม่เพียงแต่ต้องมีความเข้มแข็งเท่านั้น แต่ต้องมีความสัมพันธ์ด้วย มีบางคนหนุนหลัง มีครอบครัวช่วยเหลือ เพื่อให้มีสถานะที่เหนือกว่าและมีอนาคตที่สดใส! แม้ว่าสามัญชนจะมีวิธีดำรงชีวิตของสามัญชน แต่ขุนนางก็มีวิถีการดำรงชีวิตของขุนนาง แต่ละคนมีข้อดีข้อเสียของตนเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นสถานะของขุนนางจะสูงกว่าสามัญชนถึงร้อยเท่า
ตัวอย่างเช่นในฐานะของสามัญชนฮ็อกไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักในชีวิตมากขนาดไหนก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไล่ตามเย่ว์หยางในหุบเขามนุษย์ได้ทัน
เพราะขณะที่เกิดใหม่ ก็มีการตัดสินแล้ว
“คุณชาย! ท่านต้องการไม้กวาดบินไหม?” เมื่อเดินผ่านร้านของวิเศษ เย่ว์หยางได้ยินเสียงเบาๆ ดังก้องอยู่ในหูของเขา
“.....” เย่ว์หยางชำเลืองมองคนผู้นั้นด้วยหางตา
“โปรดคิดดูเถิด, มีไม้กวาดบินได้ นั่นหมายความว่ายังไง? อุปกรณ์ช่วยบินได้ที่ดีที่สุดในโลก! ถูกแล้ว ท่านคิดถูกแล้ว! อุปกรณ์ช่วยบินนี้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับแม่มดแน่นอน ถึงมีความเสียดทานรุนแรง แต่ก็นำความตื่นเต้นคลั่งไคล้ระดับสูงมาให้ ขับขี่ไม้กวาดบินไปรอบเมืองเท่ากับพลังต่อสู้ของบุรุษทั้งหมดในเมือง มีความมั่นคงตลอดการขับขี่ กำลังไม่มีตกรับประกันความพอใจอย่างเต็มที่ ไม่ว่าเมื่อใดที่ใช้งาน ! แตงกวา มะเขือยาวอะไรกัน สามารถผสมผักและผลไม้เข้ากับไม้กวาดบินได้หรือไม่? คุณชาย ท่านรู้ไหมท่านไม่เคยใช้มัน แต่มันสามารถเป็นเครื่องมือประจำชีวิตของท่านได้ โปรดคิดดู ยังจะมีเครื่องมือใดที่ดีกว่าไม้กวาดบิน? เรายังไม่ต้องพูดถึงการบิน เอาแค่การทำงานพื้นฐานโดยยังไม่ต้องพูดถึงระบบการทำงานเสริม...”
“ท่านไม่ต้องดม ท่านก็รู้ได้ว่ากลิ่นด้านบนนี้เป็นกลิ่นอะไร! นี่คือกลิ่นแม่มดพรหมจรรย์ 100% ว่านี่เป็นกลิ่นจากแม่มดผู้งดงาม!”
“นอกจากนี้ยังมีพรวิเศษของผู้วิเศษว่าสาวใช้นางใดเมื่อใช้ขับขี่แล้วจะรู้สึกสะดวกสบายใจเหมือนมีสายน้ำไหลผ่าน!”
“นี่เป็นของวิเศษที่ทำให้สตรีคลั่งไคล้ใหลหลง คุณชาย! นี่คุ้มค่าแก่การมีไว้!”
“เหมือนสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในร้านของเรา แบลร์ แม่มดผู้งดงามที่สุดในเมืองไม้เงินพร้อมกับกลิ่นกายที่ดีที่สุด สมบัติชิ้นนี้ขายเพียงสิบห้าผลึกสวรรค์เท่านั้น หากท่านตัดสินใจซื้อทันทีเราจะมอบของจากร่างกายแม่มดแบลร์อีกหนึ่งขวดพร้อมกับโซ่สาวใช้ คุณชายที่รัก, ด้วยส่วนลดที่มากมายอย่างนี้ ท่านยังไม่ตื่นเต้นอีกหรือ... ถูกแล้วเพื่อเป็นการฉลองอายุครบ 10076 ปีของหอการค้าเรา เราจะมอบของแถมพิเศษให้แขกทุกชิ้นที่อุดหนุนครบทุกสิบผลึกสวรรค์”
“ตราบใดที่ท่านพยักหน้า ทุกอย่างจะเป็นของท่าน!”
“คุณชาย! ท่านปฏิเสธของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ได้ยังไง?”
“โปรดลดคางอันทรงเกียรติให้ผู้น้อยสักนิด แค่เพียงหนึ่งเซนติเมตร ท่านก็จะได้รับผลรับที่ดีที่สุดของวันนี้...”
เย่ว์หยางไม่มีเวลาพูด
คนผู้นี้ยังจ้อได้ไม่หยุด
เหมือนกับแม่น้ำแยงซีเกียงที่ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนแม่น้ำฮวงโหที่ถูกระเบิดเขื่อนทิ้ง
ถ้าเขาสามารถใช้พลังได้ เย่ว์หยางคงตบแมลงวันที่น่ารำคาญ หรือหักคอ บิดไส้ และลากลิ้นเจ้าผู้นี้ออกมาผูกคอแขวนไว้ โลกคงจะเงียบสงบลงเป็นแน่
น่าเสียดายที่ในหุบเขามนุษย์ เขาไม่สามารถทุบตีผู้คนได้
เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางรู้สึกว่าการอยู่ในหุบเขามนุษย์ไม่มีความสะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาอย่างเขา
คนพูดเสียงดังยังไม่รู้ตัว
เขายังคงพล่ามต่อไปไม่หยุด
“คุณชายผู้สูงศักดิ์! ข้าจะได้รู้กันว่าเจ้าเป็นคนชั้นสูงที่สุด ขุนนางที่แท้จริง อัศวินที่แท้จริง ไม่อาจเทียบกับของปลอมที่อยู่ภายนอกได้ เฮ้, เจ้าเป็นคนเกิดใหม่จริงๆ หรือนี่?” ในที่สุดเย่ว์หยางก็เห็นได้ว่าคนเสียงดังผู้นี้คือโนม(คนแคระ)น้ำเงิน พลังดั้งเดิมของเขานั้นไม่รู้ว่าแข็งแกร่งระดับใด แต่คาดว่าไม่ใช่ผู้เกิดใหม่ธรรมดา คนผู้นี้หูกางโต จมูกงองุ้ม ปากเหมือนมีไส้กรอกสองชิ้นประกบกันมีเขี้ยวแหลม ลิ้นยาวเลียได้ถึงปลายจมูกตนเองได้อย่างง่ายได้ ดวงตาน่ากลัวเหมือนจะเปล่งแสงทองได้ อีกทั้งริ้วรอยมีอยู่ทั่วใบหน้า มองดูโดยรวมนับว่าน่ากลัว
“หืม?” เย่ว์หยางใช้หางตามองเขา
“นับถือเจ้าจริงๆ ถ้าเจ้าเป็นคุณชายที่เป็นพลเมืองดั้งเดิมที่นี่ก็นับว่าไม่เลว แต่เจ้าเป็นผู้เกิดใหม่มีคุณสมบัติเป็นขุนนางได้ พระเจ้า! ข้าไม่รู้จะประเมินเจ้าได้ยังไง! นอกจากนับถือแล้ว ข้าอดแสดงความตื่นเต้นไม่ได้ คุณชายอย่างเจ้าต้องมาจากตระกูลใหญ่จากแดนสวรรค์บนแน่ นอกจากพวกเขาแล้ว ใครจะมีสิทธิ์ได้เกิดใหม่เป็นคนในตระกูลขุนนางในหุบเขามนุษย์ได้?” โนมน้ำเงินวิ่งเข้ามาหาและกอดเข่าเย่ว์หยางและใช้แขนเสื้อเช็ดรองเท้าให้เย่ว์หยาง ราวกับว่าถ้ารองเท้าของเขามีฝุ่นแม้แต่น้อย นับเป็นบาปใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา
“เจ้าต้องการให้ข้าซื้อไม้กวาดบินไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หยางเยาะเย้ยกับวิธีการขายงี่เง่าที่เขาเคยพบเห็นในโฆษณาทีวีมาเป็นเวลานาน คิดว่าคุณชายผู้นี้ไร้สมองอย่างนั้นหรือ?
“คุณชายผู้สูงศักดิ์อย่างท่านจะซื้อไม้กวาดหักๆ ได้ยังไง!” โนมชุดขาววิ่งเข้ามาหา
และเตะโนมน้ำเงินกระเด็น
เขาแสดงความเคารพ พยายามใช้มารยาทอย่างคนมีอารยธรรม
น้ำเสียงของเขามีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากกว่าข้าราชการผู้น้อยได้พบกับเลขาเทศมนตรี คำแนะนำของคนผู้นี้แฝงไปด้วยการดูถูก อย่าไปพูดถึงไม้กวาดนั่นเลย นั่นคือของที่คนมีพรสวรรค์ใช้ในการเก็บกวาดทำความสะอาด ขืนให้คุณชายใช้ถือเป็นการดูหมิ่น เป็นอาชญากรรม ถ้าข้าทำได้ตรงนี้ข้าจะใช้เชือกแขวนคอ ‘เจ้าหมวกน้ำเงิน’ ไม้กวาดบินบ้าอะไรกัน? แม่มดแบบไหนที่มีกลิ่นแบบนั้น นั่นมันขยะทั้งนั้น! อย่างแรกเลย ถ้าบินไม่เสถียรทรงตัวไม่ดีอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส การแบกรับน้ำหนักก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน ไม้กวาดบินสามารถพาคุณชายและสาวใช้บินไปด้วยกันบนท้องฟ้าได้หรือไม่? ไม่เลย ได้แต่สนุกกับการบินอยู่บนท้องฟ้าคนเดียว... ไม้กวาดบินอาจทำให้เกิดอันตรายได้เมื่อบรรทุกเกินพิกัด มันจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของท่าน และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงส่วนบุคคลของท่าน ย้อนถอยกับไปหมื่นก้าวแล้วบอกว่าสามารถรับน้ำหนักได้มากไม่เป็นปัญหา แต่ไม่กล่าวถึงอันตรายของท่าทางที่ยากลำบาก พฤติกรรมดังกล่าวจะทำลายชื่อเสียงคุณชาย เป็นการสูญเสียที่ร้ายแรง ไม่ต้องพูดถึง ถ้าต้องเลือกใช้ในเวลากลางคือ ไม่ใช่กลางวัน ลมหนาวอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณชายได้”
“หมวกขาว! เจ้าอยากตายนักใช่ไหม? เจ้าพูดพล่ามไม่รู้จบเพราะอยากเสนอขายพรมเหินฟ้ากับคุณชายไม่ใช่หรือ? ไหนเล่าสินค้าพรมเหินฟ้าของเจ้าล่ะ? ราคามันแพงจะตาย ถูกที่สุดก็ 20 ผลึกสวรรค์ คุณชายท่านนี้เป็นใคร? เป็นลูกค้าที่ให้เจ้าหลอกลวงได้หรือ? เขาคือบุคคลผู้ทรงเกียรติของข้า” โนมหมวกน้ำเงินวิ่งกลับมาทะเลาะกับโนมหมวกขาวด้วยความโมโห
“พรมเหินฟ้าของข้าแก้ปัญหาเรื่องน้ำหนัก แบกรับน้ำหนักคนได้สองคน ไม่ว่าจะยังไงก็ตามก็ไม่มีปัญหา ถ้าคุณชายสนใจ จะนำเด็กหรือสาวใช้ไปด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ไม้กวาดบินของเจ้าทำได้เหมือนกันหรือ? เฮ้, สินค้าแลกเปลี่ยนต่อรองกันได้ เจ้าคิดว่าคุณชายจะสนใจขยะบินได้ของเจ้าหรือ? พรมเหินฟ้าของข้าไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหาเรื่องน้ำหนัก แต่ยังเสถียรมั่นคงมาก บินสูงแค่ไหนก็ราบรื่น ทั้งยังรักษาความอบอุ่นได้ขณะพักผ่อน ไม่ต้องรู้สึกหนาวสั่นเหมือนบินด้วยไม้กวาดงี่เง่า” โนมหมวกขาวยังแนะนำประสิทธิภาพการทำงานของพรมเหินฟ้าว่าไม่มีปัญหา เพียงพอรับน้ำหนักช้างได้สบาย อย่าว่าแต่สาวใช้สักสองสามคน
“ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้วหรือ?” เย่ว์หยางไม่ขยับเปลือกตาและทำท่าเหมือนกับจะหลับ
“แน่นอน ไม่ว่าจะราคาแพงแค่ไหนก็ตาม” โนมทั้งสองคนตอบพร้อมกัน
พวกเขาพบว่าพูดเป็นเสียงเดียวกัน
พวกเขาหยุดปากทันที และมองอีกฝ่ายอย่างสงบเสงี่ยม
พวกเขาหันหน้ากลับมาอีกครั้ง และสายตาไม่ยอมมองหน้ากัน เหมือนกับว่าไม่อาจอยู่ร่วมกันได้
บางทีคงเป็นเพราะกลัวว่าเย่ว์หยางจะไม่อดทนและจากไป โนมน้ำเงินรีบตอบแนะนำทันที “พรมบินที่เจ้าหมวกขาวพูดถึงนั้นเป็นแค่เพียงขณะ หากคุณชายต้องการจะสนุกกับระดับความสูง ข้าขอแนะนำรถเทียมม้าซึ่งขับเคลื่อนโดยม้าสองตัวให้กับคุณชาย รถม้ามีขนาดกว้างขวางโอ่อ่า ภายในห้องพักได้รับการตกแต่งหรูหราอย่างดีพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มอย่างดี อุณหภูมิในรถเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิทั้งปีสามารถใช้งานได้โดยไม่สูญเสียความสง่างาม..คุณชายจำเป็นต้องใช้พาหนะบิน ข้าขอแนะนำรถม้าบินนี้ให้กับคุณชาย นี่เป็นอุปกรณ์คุณภาพดีที่สุดรถม้าที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีแล้ว!”
เย่ว์หยางแสร้งทำเป็นคิด
โนมหมวกขาวกลัวว่าเย่ว์หยางจะตกลงซื้อ เขารีบห้ามทันที “เฮ้ย.. รถม้าบินอะไรกัน ผายลมชัดๆ นั่นมันของกาก ไม่ว่าเจ้าจะโม้ยังไง แต่มันไม่มีอะไรมากไปกว่ารถม้าแคบๆ นั่งแล้วปวดเมื่อยเส้นสายยึด”
“มีอะไรดีไปกว่ารถม้าบินอีก?” โนมหมวกน้ำเงินแค่นเสียง
“แน่นอน, ในโกดังใหญ่ของเรามีเรือเหาะเลิศหรูใหญ่ขนาดครึ่งหนึ่งของคฤหาสน์ อย่าว่าแต่บรรทุกสาวใช้สักสองสามคนเลย ต่อให้จัดงานเลี้ยงเต้นรำก็ยังได้ รถม้าสามารถติดตั้งสระว่ายน้ำได้หรือไม่? รถม้าสามารถใช้อาบน้ำร่วมกับคนรักได้หรือไม่? รถม้ามีดาดฟ้าให้นอนอาบแดดชมตะวันชมดวงดาวพร้อมกับคนรักได้หรือไม่? ไม่ได้เลย แต่เรือเหาะเลิศหรูแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้สำเร็จ ตราบเท่าที่คุณชายต้องการ พวกเราสามารถออกแบบตกแต่งให้เป็นพิเศษ สำหรับเรือเหาะเลิศหรูที่เป็นสิ่งประดิษฐ์พิเศษนี้มีราคารวมเพียง 1000 ผลึกสวรรค์เท่านั้น สำหรับคุณชายราคาเล็กน้อยนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย” โนมหมวกขาวเชิดหน้าเยาะเย้ย และพยายามประจบเย่ว์หยางครั้งแล้วครั้งเล่า
โชคดีที่ใจของเย่ว์หยางกระจ่าง และพลังโน้มน้าวของเขาไม่ส่งผลอะไร
1000 ผลึกสวรรค์?
ให้ตายเถอะ รายได้ทั้งหมดของปราสาทไดมอนด์สตาร์มีเพียง 1000 ผลึกสวรรค์ พวกเขาคิดว่าสมองของเขามีปัญหาหรือ?
เย่ว์หยางยังคงสงบ หลังจนั้นเขาเข้าไปในร้านพร้อมกับโนมทั้งสองเพื่อภาพแบบ จากนั้นเขาบอกว่า ไม่ชอบแบบที่มีอย่างจำกัดเพียงสามแบบ และเขาใช้ความสามารถส่วนตัวใช้เวลาออกแบบใหม่เพียงห้านาทีได้เป็นแบบเรือเหาะสุดหรูรุ่นใหม่
ภายใต้สายตาตะลึงงันของโนมทั้งสอง เย่ว์หยางขยับปกคอเสื้อพูดเบาๆ “ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำของพวกเจ้า ถ้าร้านค้าใหญ่ของพวกเจ้าสร้างเรือเหาะตามแบบนี้ได้ และควบคุมราคาให้ต่ำกว่า 1500 ผลึกสวรรค์ อย่างนั้นเราคุณชายจะสั่งหนึ่งลำ”
เย่ว์หยางเดินออกมาตามปกติ
เป็นเวลานานกว่าโนมจะได้สติกลับคืนมาและบ่นกับตนเอง “กล่าวกันว่าคนรุ่นสองที่มั่งคั่งจะใช้สมบัติหมดใช่ไหม? ทำไมดูแล้วถึงได้แตกต่างเล็กน้อย?”
“ดูไม่เหมือนว่าจะเป็นคนใช้ไม่ได้เลย” โนมชุดขาวรู้สึกว่าที่เขาแสดงออกไปนั้นสูญเปล่า
“เมืองไม้เงินมีคนเกิดใหม่ที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ได้ยังไง เขาเป็นลูกหลานจากแดนสวรรค์บน เป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ทั้งสี่หรือเปล่า?” โนมน้ำเงินสงสัย
“ไม่ว่าเขาจะมาจากไหน นั่นทำให้ข้ารู้สึกแย่มาก ข้ามีความรู้สึกว่าที่เขาแสดงออกนั้น หวังว่าจะเป็นเพียงภาพลวงตา นี่หมวกขาว! เจ้าคิดว่าเรือเหาะสุดหรูนี่สามารถควบคุมราคาให้ต่ำกว่า 1500 ผลึกสวรรค์จริงๆ หรือ? ข้าไม่เคยเห็นการออกแบบพิเศษอย่างนั้น มันบินได้จริงๆ หรือ?” โนมน้ำเงินยิ่งสงสัยมากขึ้น
“ลองเดาสิ! ข้าไม่รู้ว่าถ้าข้าเอาภาพนี้ให้กับวิศวกรออกแบบที่สำนักงานใหญ่ ถ้าเจ้าไม่ถูกเขาหลอก แต่ข้ารู้สึกว่าอาจได้พบเขาอีกในอนาคตข้างหน้า เชื่อความรู้สึกข้าเถอะ ลางสังหรณ์ของข้าแม่นยำ อย่างครั้งล่าสุด ข้ารู้สึกผิดพลาดไปนิด เลยทำให้เจ้าจมูกแตก..”
“เจ้าบ้า, ข้าไม่เคยสนใจลางสังหรณ์ที่ไร้สาระของเจ้า..”
“ข้าไม่ต้องการทะเลาะกับเจ้า!”
“หมายความว่ายังไง เมื่อครู่นี้เจ้าเพิ่งเตะข้าไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่ต้องการทะเลาะ เพราะเจ้าหาเรื่องก่อน”
“นั่นเป็นการแสดง เจ้าก็แสดง เจ้าก็กัดข้าเหมือนกันไม่ใช่หรือ แถมยังกัดแรงด้วยซ้ำ บัดซบ เจ้ากล้าทำได้ยังไง.. ข้าไม่จัดการเจ้าก็ดีแล้ว...”
ท่ามกลางเสียงดังในร้าน เย่ว์หยางค่อยๆ เดินห่างออกมา
เขายิ้มมุมปากอย่างลี้ลับ
ในหุบเขามนุษย์
เขาพบบางอย่างที่น่าสนใจ และถ้าเขาเข้าใจได้ บางทีอนาคตเขาอาจราบรื่น
จีอู๋ลี่ จอมปีศาจไคเทียน เป็นคู่ต่อสู้ที่มีศักยภาพมาก
บางทีพวกเขายังไม่ทันสังเกต
เขามาถึงแล้ว!
เขารอเผชิญหน้าในครั้งต่อไป!
4 ความคิดเห็น:
รอยยิ้มแห่งความโชคร้ายของไอ่หยางมาอีกแล้วมาดูกันว่าตัวประกอบตัวใหนได้รับรอยยิ้มนี้ไป
ด้านนี้จะถึง10ตอนหรือเปล่าอ่ะ
บร๊ะ สร้างเครื่องบินขาย
ใจจ้า
แสดงความคิดเห็น