วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1061 นักเรียนดีมีความสามารถพิเศษ



ตอนที่  1061  นักเรียนดีมีความสามารถพิเศษ

ผ่านไปสามวันนับแต่ได้ฟังมหาบัณฑิตพันปีบรรยายจากหน้าต่าง


แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับความลับของชีวิต  แต่เขารู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป  มิติดินแดนทดสอบฝีมือคือสถานที่ซึ่งผู้คนจะเข้าใจความลับของชีวิต  เป้าหมายสูงสุดของการผ่านด่านไม่ใช่คัมภีร์เทพ  แต่เป็นการเลื่อนชั้นไปเป็นระดับเทพ  ที่สำคัญเทพแต่ละตนไม่ใช่ว่าจะเข้าใจความลับของชีวิต

ในช่วงสามวันที่ผ่านมาเย่ว์หยางขยันเข้าเรียน

หากคนที่เป็นครูอาจารย์เห็นเช่นนี้ คาดว่าคงปากอ้าตาค้างไม่เชื่อภาพที่เห็นเป็นแน่

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในชั้นเรียนนี้ เย่ว์หยางสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากมาย  อย่างน้อยก็เป็นความรู้ที่ภายนอกไม่มีเปิดเผยให้เห็น  ต้องอยู่ในหุบเขามนุษย์เท่านั้น  สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือมหาบัณฑิตพูดในชั้นเรียนคาบเดียว แต่ต่อมาเขาไม่ได้บรรยายเพื่อแก้ข้อสงสัย  แต่เขาได้พูดคุยกับเย่ว์หยางสักพัก  แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจกับเจ้าของปราสาทไดมอนด์สตาร์ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่สี่  มหาบัณฑิตพันปีไม่ได้บอกว่ารู้จักพี่สาวของแม่สี่ได้อย่างไร  และไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับมารดาผู้ลึกลับของเย่ว์หยางนี้ เพียงแต่เขาชื่นชมความเข้าใจในชีวิตของนาง เย่ว์หยางสงสัยคำพูดเหล่านี้หมายความว่านางเข้าใจความลับของชีวิตหรือไม่

นางรู้เรื่องแดนล่มสลายแห่งทวยเทพหรือไม่?

เมื่อกลับไปยังโลกคัมภีร์  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค่อนข้างจะเห็นด้วยกับการคาดเดาของเย่ว์หยาง  แต่ความจริงก็คือเขาจะต้องหา ท่านแม่เพื่อรู้เรื่องนี้ให้ได้

 “นักเรียน, พวกเจ้าทั้งนักเรียนที่อยู่ในตระกูลสูงและนักเรียนสามัญชนอื่นๆ ทั่วไป  วันต่อมาพวกเจ้าอาจอยู่คนเดียวหรือสืบทอดตำแหน่งสำคัญของตระกูล  อนาคตของพวกเจ้าไม่มีที่สิ้นสุด  แต่ข้าอยากเตือนพวกเจ้าว่าที่นี่ พวกเจ้าต้องมีความรู้และทักษะวิชาชีพก่อนที่จะได้รับสิ่งนี้  โปรดทราบว่าเราไม่ใช่ทหารรับจ้างผู้ดูเขลา  เราไม่ต้องใช้หยาดเหงื่อพลังงานในการเลี้ยงดูพลเมือง  แต่เราเป็นขุนนางผู้สง่างามและเป็นผู้บังคับบัญชาที่แท้จริง”

 “ด้วยวิธีและความหมายเช่นนี้ เราจะต้องเป็นเจ้านายที่มีความรู้และความสามารถสูง”

 “ในช่วงสามเดือนต่อนี้ไป เราจะทำการฝึกฝนอบรมอย่างต่อเนื่อง  มีผู้ฝึกสอนซ้ำๆ หลายคนในชั้นเรียน พวกเขามีประสบการณ์มากมาย  ผู้มาใหม่อาจต้องถามพวกเขาให้มากขึ้น  สองเดือนแรกนอกเหนือจากการเรียนรู้  เราจะเริ่มสร้างและเตรียมงานเพื่อวางรากฐานสำหรับการประเมินชีวิตในเดือนที่สาม”

 “จำเอาไว้  เกียรติยศจะสถิตย์อยู่กับพวกเจ้าตลอดไป”

 “ในการประเมินครั้งก่อน ถ้าไม่มีบารอนจงหัว เมืองไม้เงินของเราคงต้องอับอายในการประเมินจัดอันดับ ซึ่งข้าในฐานะผู้อำนวยการไม่ต้องการจะเห็น ข้าหวังว่าในการประเมินครั้งนี้ จะมีคนสอบผ่านมากขึ้นและได้รับเกียรติยศ ตราบใดที่พวกเจ้าสามารถติดสิบอันดับแรก พวกเจ้าจะมีคุณสมบัติได้รับตำแหน่งบารอน  เมื่อได้สามอันดับ เจ้าจะมีอาณาเขตที่เป็นเอกสิทธิ์แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ก็ตาม  หากพวกเจ้าลองใช้ข้อมูลสำหรับเปรียบเทียบ ข้าสามารถบอกได้เลยว่าแม้แต่เมืองน้อยที่เล็กที่สุดในเมืองไม้เงินก็มีมูลค่านับหมื่นผลึกฟ้า และไม่ได้หมายความว่าพวกเจ้ามีเกียรติยศมากพอจะซื้อ”

 “ต้องการเป็นเจ้าปราสาทที่แท้จริง?  จงเรียนให้หนัก ทุกอย่างต้องสร้างขึ้นด้วยมือของพวกเจ้าเอง!

สมาคมผู้พเนจรแดนฟ้ามีโรงเรียนให้การอบรมศึกษาความรู้แก่ผู้พเนจร

มีครูบาอาจารย์ให้การสั่งสอนสิบคน

อาจารย์ใหญ่เป็นชายชราหน้าเหมือนนกกระเรียน ตาคมราวกับตาอินทรี  เขาปฏิบัติต่อนักเรียนได้ไม่เลว จริงจังกับการสอน แต่เขาเข้มงวดกวดขันในเรื่องเกียรติยศของชีวิต

มีวิชามากกว่าร้อยอย่างในโรงเรียนให้เลือกศึกษา  ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ นักเรียนในโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าเลือกเรียนได้อิสระ และพวกเขาสามารถเลือกวิชาเอกได้สิบวิชา และพวกเขาสามารถเลือกวิชาเอกอุวิชาหนึ่ง  ในวิชาเอกที่มากกว่าร้อยวิชาเหล่านี้  ถ้าในวิชาเอกมากกว่าร้อยวิชานักเรียนมีความสามารถโดดเด่นเหนือกว่าคนอื่น นอกจากนี้เขาอาจบรรลุเอกลักษณ์ที่เป็นของตนเอง โรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าจะเป็นผู้สนับสนุนที่ดีที่สุด นอกเหนือจากให้คำปรึกษาเท่าที่จะทำได้

เย่ว์หยางเลือกเรียนวิชาเอกเจ็ดวิชาคือ การเจรจาต่อรอง, กลยุทธ์, ทรัพยากร, การเงิน, ชีวิต, ศิลปะและวรรณคดี

ในบรรดาวิชาเหล่านั้น งานเขียน วรรณกรรมโบราณคือเป้าหมายในการค้นคว้าของเขา

สำหรับศิลปะเป็นเพราะในเรื่องของสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ดนตรีหรือการประยุกต์อย่างอื่นก็ดี  เด็กหนุ่มผู้มาจากโลกอื่นมีความมั่นใจว่าเขาสามารถทำงานได้หลังจากผ่านไปสามเดือน   ชีวิตของชนชั้นสูงและทรัพยากรในหุบเขามนุษย์ ล้วนเป็นสิ่งที่เย่ว์หยางต้องทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วน  สำหรับกลยุทธ์และการเจรจาต่อรอง เย่ว์หยางต้องการรู้สองเรื่องนี้จริงๆ เพื่อใช้งานในหุบเขามนุษย์  นอกเหนือจากบางรายการที่มากกว่าร้อยแล้ว เย่ว์หยางสมัครสามวิชาใหญ่ที่ไม่แยกต่างหากคือ วิชารูน วิชาสมบัติวิญญาณและวิชาหุ่นรบ

วิชาเอกหุ่นรบ ในหุบเขามนุษย์ไม่มีใครสามารถต่อสู้ได้โดยตรง

รวมทั้งทหารในสมรภูมิ

หากต้องการเข้าร่วมสงครามจะต้องสมัครผ่านรูปปั้นเทพขัดแย้ง

จากนั้นทุกคนเข้าสู่สนามรบเฉพาะเจาะจง และทหารผู้ขับเคลื่อนหุ่นรบจะเริ่มต่อสู้เอาชนะกัน... ผู้ชนะจะได้ครอบครองสินสงครามจากผู้แพ้ อย่างเช่นรับทรัพยากร เมือง เหมืองแร่ หรือป่า ไร่สวน

ในสนามประลองก็เป็นความจริงที่เหมือนกัน

หากไม่มีหุ่นรบ จะไม่มีทางสู้กันโดยตรงในหุบเขามนุษย์  นี่คือกฎเหล็ก

หุ่นรบขับขี่มีมาก่อนตั้งแต่หลายหมื่นปีที่แล้ว อสรูรบปรากฏขึ้นมาอย่างน้อยสามหมื่นปีที่แล้ว เป็นหุ่นรบที่ทหารต้องเข้าไปนั่งควบคุมเหมือนเป็นเกราะรบ  แม้ว่าจะค่อนข้างงุ่มง่ามก็ตาม  หุ่นรบขับขี่กลายเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในสนามรบ จนกระทั่งหมื่นปีที่แล้ว นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเข้ามาในหุบเขามนุษย์และเลือกวิชาเอกเป็นอสูรรบ นางได้สร้างอสูรหุ่นรบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เป็นอสูรหุ่นที่เชื่อมโยงกับทหาร  สร้างเป็นอสูรรูปแบบสัตว์ต่างๆ และรูปแบบพิเศษ  หลังจากเข้าสู่สนามรบ สามารถสู้กับศัตรูได้ตราบเท่าที่ทหารผู้สั่งการยังไม่ตาย  พวกมันจะสู้ได้ตลอด

เนื่องจากความสำเร็จที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนี้  ภายในเวลาเพียงสามเดือนนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้รับสถานะนายอำเภอ และจากนั้นหลังจากอสูรหุ่นของนางถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการ นางเลื่อนลำดับขึ้นไปถึงระดับดัชเชส หากมิใช่เพราะนางออกไปจากหุบเขามนุษย์ นางจะกลายเป็นธิดาสวรรค์และปกครองหุบเขามนุษย์แน่นอน  บารมีชื่อเสียงของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ไม่เพียงแค่มีอยู่ข้างนอกเท่านั้น  แต่ในหุบเขามนุษย์นี้ นางมีชื่อเสียงไม่เบา!

แน่นอนว่าเย่ว์หยางคงไม่เดินตามเส้นทางเก่าของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี

เขาต้องการพัฒนาหุ่นนักรบ

นั่นจะเป็นหุ่นนักรบพิเศษที่สร้างขึ้นในยุคใหม่

ยังไม่ต้องพูดถึงระดับของเย่ว์หยางในวันนี้  เย่ว์หยางได้รับสารานุกรมหุ่นอสูรที่เย่ว์กงทิ้งไว้ให้  นอกจากนี้เขายังได้สิ่งอ้างอิงที่ดีจากหุบเขามนุษย์นี้  หุ่นนักรบคือจุดแข็งของเย่ว์หยาง

 “นักเรียนไตตัน, เจ้ามั่นใจจริงๆ หรือว่าจะสร้างความสำเร็จในสามสาขาวิชาใหม่เหล่านี้ได้สำเร็จ?”  เป็นครั้งแรกในชีวิตที่อาจารย์ใหญ่ได้พบเห็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้  เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่เด็กนักเรียนสามารถเอาความโดดเด่นแต่ละสาขาวิชามาประมวลลงในวัตถุชิ้นเดียว นี่นับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่พอ เด็กคนนี้ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้าขายผักตามตลาดสดทั่วไปไม่ใช่หรือ?

 “อ่า.. นี่เป็นแนวคิดเริ่มต้นของงานข้า  อาจารย์ใหญ่โปรดชี้แนะแก้ไขด้วย”  เย่ว์หยางไม่ได้บอกว่าเขามีสาวๆ กลุ่มใหญ่อยู่ที่บ้านคอยช่วยทำงาน ทุกนางมีความสามารถในการขีดเขียน อย่าว่าแต่สามวิชาเลย ต่อให้เป็นงานวิจัยสามสิบชิ้นก็ยังทำได้

 “แผนภูมิอักขระรูนนี้....”  อาจารย์ใหญ่สีหน้าเปลี่ยนทันทีเมื่อได้ยินว่านักเรียนเรียนได้สามวันก็สร้างผลงานได้แล้ว  นี่มันอัจฉริยะแบบไหนกัน?

เขายากจะเชื่อเมื่อได้ยินเช่นนี้จริงๆ

หลังจากรับไปดูแล้ว เขาพบว่าแผนภูมิอักขระรูนมีความซับซ้อน ชั้นบนประกอบไปด้วยแผนภูมิอักขระรูนโบราณสามผัง อักขระรูนสวรรค์หกผังและอักขระรูนที่ไม่คุ้นเคยอีกเก้าผังซึ่งเขาไม่รู้จัก   ผังรูนจะมีการหมุนทุกๆ วินาทีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกวินาที เขาตื่นตาตื่นใจตะลึงงันทันทีไม่อาจละสายตาจากผังอักขระรูนได้เป็นเวลานาน  ผังอักขระรูนนี้ลึกลับเกินไป เขาไม่อาจชี้แนะได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือแม้แต่คนที่อ้างตนเองว่าเป็นหอสมุดประจำเมืองไม้เงินก็ไม่รู้จักแผนภูมิอักขระรูนนี้ นั่นทำให้เขาเสียหน้า

หน้าผากของอาจารย์ใหญ่มีเหงื่อผุดขึ้นหนาเม็ด

แน่นอนว่าหลังจากมีความลำบากใจ แต่เขาก็มีความปิติใจอีกเช่นกัน เขาเองไม่สามารถชี้แนะให้คำแนะนำได้  อย่างนั้นก็พิสูจน์ได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีความแข็งแกร่ง  หลังจากการประเมินสามเดือน คาดว่าเด็กหนุ่มนี้คงติดอันดับสามสุดยอด เมื่อเป็นเช่นนั้นเกียรติยศก็ยังคงอยู่ในเมืองไม้เงิน  มีนักเรียนเช่นนี้ ผู้เป็นอาจารย์พลอยได้หน้าไปด้วย!

เมื่อเขาคิดถึงตนเองในอีกสามเดือนข้างหน้า เขาคงมีความสุขอยู่ต่อหน้าสหายเก่าหลายคนได้

ฮะฮะ ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นจะทำสีหน้าอย่างไร!

อิจฉา

เฮ้อ.. อิจฉาเพราะไม่มีศิษย์ที่ดีเช่นนี้!

 “เรียนอาจารย์ใหญ่ที่เคารพ, ผังภูมิอักขระรูนนี้เป็นแค่ต้นแบบเท่านั้น  ยังจะต้องใช้เวลาอีกเดือนหนึ่งจึงจะสมบูรณ์”  เย่ว์หยางอธิบาย อย่างถ่อมตัว

 “หนึ่งเดือนหรือ? หนึ่งเดือน ฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหาเลย!  อาจารย์ใหญ่รีบปาดเหงื่อที่หน้าผากและยิ้มออกเป็นครั้งแรก  “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าผลของการค้นคว้าวิจัยอักขระรูนโบราณของนักเรียนไตตันถึงได้ลึกซึ้งยิ่งนัก   สมกับเป็นบุตรของเจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์จริงๆ... บัดนี้ ข้าจะให้เวลาที่เพียงพอแก่เจ้า  ถ้าความรู้ในด้านสายอื่นช้าเกินกว่าจะเรียนรู้  อย่างนั้นเจ้าทุ่มสมาธิค้นคว้าวิชาหลักก่อน ข้าจะแจ้งข่าวนี้ให้กับอาจารย์ผู้สอน  เจ้าสงบใจเรียนต่อไปได้เลย”

 “อย่างนั้นคงไม่ดีงาม ข้าต้องให้ความเคารพอาจารย์ผู้สอนทุกท่าน”  ตอนนี้เย่ว์หยางประพฤติตัวเป็นนักเรียนที่ดีเหมือนตอนที่เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่สอง “นอกจากนี้ ยังไม่มีผลต่อการเรียนศึกษา หลังจากเรียนวิชาหลักแล้ว ยังพอมีเวลากลับไปค้นคว้าที่บ้านตอนกลางคืนได้

 “นี่..อย่างนี้ จะไหวหรือเปล่า?”  อาจารย์ใหญ่แสดงสีหน้าว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจรู้สึกว่าเด็กนักเรียนแบบนี้ เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต

 “ผลงานอื่นอีกสองชิ้น อาจารย์ใหญ่โปรดช่วยข้าแก้ไขให้ถูกต้องด้วย”  เย่ว์หยางจะเสนอผลงานอีกสองชิ้น

 “เจ้าทำปากกาขนนกเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์หรือนี่?  พระเจ้า, สิ้นเปลืองเกินไป... ของวิเศษ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นของวิเศษระดับศักดิ์สิทธิ์!  อาจารย์ใหญ่แทบยืนอยู่กับพื้นไม่ไหว

นักเรียนไตตันนี้ร้ายกาจจริงๆ ใส่พลังวิญญาณลงในปากกาขนนกทำเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้

เขาไม่รู้หรือว่านั่นเป็นเรื่องที่ทำลงไปแล้ว ฟ้าอาจพิโรธได้?

  

10 ความคิดเห็น:

Popcorn กล่าวว่า...

เยี่ยมจริงๆอาหยาง ขอบคุณผู้แปล

Moji กล่าวว่า...

เราอยากรู้ว่าทำไมพี่หยางทำไมถึงข้ามมาโลกนี้หรอคะ?

takanari กล่าวว่า...

โดนเตะมาครับ มันไม่มีอธิบายอะไรมาก แค่มันไปกวนนักพรตเลยโดนเตะมา ส่วนเหตุเบื้องลึกคงมีเฉลยตอนท้ายๆ

หมูน้อย กล่าวว่า...

อาหยางไปเห็น นางพระบี่ฟ้าตอนอาบน้ำ

หมูน้อย กล่าวว่า...

ต้องไปอ่านตอนที่หนึ่งอะ เราก็จำไม่ได้

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

สายสุ้ม กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

zen zen กล่าวว่า...

ตะลึงเลยมีหุ่นยนต์ด้วย

อ่าห้า กล่าวว่า...

โดนผู้เฒ่าเตะทะลุมิติมา เเต่ผมเหตุผลเบื้องลึกยังไม่รู้ เรื่องนี้คงไม่เเบบยุๆก้เตะหรอกคงมีเหตุผลอยู่เเล้ว ต้องรอดู

chay กล่าวว่า...

โดนเตะตกน้ำ แล้วมีคนช่วยขึ้นมาก็โผล่ในโลกนี้

แสดงความคิดเห็น