ตอนที่ 1069 ยิ่งกว่าฝัน
จงหัวไม่เพียงแต่มาเท่านั้น แต่ยังควบคุมหุ่นนักระบำดาบ หนึ่งในสามหุ่นรบที่ดีที่สุดในเมืองไม้เงิน
แม่ทัพเหลยผาวโกรธ แต่ที่สำคัญนี่เป็นเรื่องส่วนตัว
เขาเป็นลูกผู้ชายที่ยืดได้งอได้
เมื่อความแข็งแกร่งด้อยกว่าอีกฝ่าย แม้เขาจะรู้ว่าตนเองโง่ก็ต้องยอมรับ อย่างไรก็ตามอำนาจที่อยู่เบื้องหลังจงหัวก็คือเจ้าเมืองไม้เงิน กล่าวอีกอย่างหนึ่งแม้ว่าจงหัวจะยึดพื้นที่ทำแร่ แต่เขาก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกลัวใคร แม่ทัพเหลยผาวแค่นเสียง บอกให้องครักษ์ถอยไป และไม่ได้หาข้ออ้างในการโจมตีจงหัว สำหรับทาสราคาถูกหลายคน และทหารรับจ้างอีกหลายคน ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ไม่คุ้มค่า
“บารอนจงหัว เรื่องนี้ข้าจะกลับไปรายงานองค์เรโนลด์ด้วยตนเอง” แม่ทัพเหลยผาว แม้จะยอมรับชะตา แต่ก็ขู่ต่อว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ
“ยินดีต้อนรับ จงหัวน้อมรออยู่เสมอ” ถ้าเหลยผาวไม่ทำเช่นนั้นจงหัวไม่ต้องการเริ่มสู้แต่อย่างใด ท้ายที่สุดเขาเพิ่งเข้ามาในหุบเขามนุษย์ไม่นาน เขายังไม่ทันตั้งหลักมั่น ยังไม่ชำนาญในการประยุกต์ใช้ทักษะ ในตอนนี้เขาจะไม่ตอแยเจ้าชายเรโนลด์ ถ้าจงหัวอาศัยในหุบเขามนุษย์เป็นเวลาหลายปีและมีพลังที่แน่นอน อย่างนั้นเพื่อให้เย่ว์หยางพอใจเขาลำบากเพียงแค่ยกมือฆ่าเหลยผาว ปัญหาก็คือเขาเข้ามาเพียงสามเดือนกว่า เขาเพิ่งได้รับบรรดาศักดิ์บารอนในพิธีประเมินชีวิต นอกจากการสนับสนุนของเจ้าเมืองไม้เงินเขาไม่มีอะไรอื่น เจ้าเมืองไม้เงินเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ขององค์ชายเรโนลด์
อีกอย่างหนึ่งถ้าเหลยผาวสิ้นคิดและแปรพักตร์มาเผชิญหน้ากัน
จงหัวยังไม่แกร่งพอจะกำจัดเขาได้
เพราะชีวิตในหุบเขามนุษย์ไม่อาจไร้เหตุผลได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องพูดกล่าวกันซึ่งหน้า
“ข้าเสียใจมากเกี่ยวกับเหมืองนี้ แต่ข้าผู้พี่จะพยายามช่วยอย่างดีที่สุด” จงหัวกล่าวว่ายังไม่สามารถช่วยเย่ว์หยางเจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์ฟื้นฟูเหมืองได้ในทันที เมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็คิดว่าเขาขอโทษอย่างไม่เป็นมิตร
“ไม่สำคัญ มีบางอย่างที่ข้าสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญนั่นคือความรับผิดชอบของข้า แต่มันอาจจะช้าไปเล็กน้อย” เย่ว์หยางยิ้ม
“ข้าผู้พี่ขอยืนอยู่ฝ่ายเจ้าเมื่อใดก็ตามที่เจ้าต้องการ” จงหัวกล่าวเขาจะออกหน้าคุ้มกันเย่ว์หยางในฐานะน้องชาย
หากเขารู้ว่าเด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์นี่เป็นสุดยอดฝีมือและเขาต้องการถือเหมือนเจ้าเด็กนี่เป็นน้องชาย และเจ้าเด็กผู้นี้เขามิอาจเข้าใจได้
คาดว่าจงหัวคงหลั่งเหงื่อเยียบเย็นจนตัวแห้งตายแน่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาคิดในใจ เขาพยายามเอาใจเย่ว์หยางผู้เป็นลูกหลานเผ่าบูรพาอมตะ ไม่อย่างนั้นเขาจะเรียกตนเองเป็นผู้พี่ได้ยังไง? นอกจากนี้จะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่มีคุณสมบัติพอเป็นพี่ชายของคนเผ่าบูรพาอมตะ? จงหัวไม่คิดว่าเขาคิดผิด ลองเปลี่ยนเป็นจีอู๋ลี่ เพื่อให้ได้พบเจอลูกหลานเผ่าบูรพาอมตะ เขาคงกระดิกหางเข้ามาเลียไม่ต่างอะไรกับสุนัขเป็นแน่!
แม่ทัพเหลยผาวมองเย็นชาและพูดทิ้งท้าย “เรื่องนี้ยังไม่จบ” จากนั้นเตรียมพาคนของตนกลับเข้าไปในที่ทำเหมือง
คิดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางพยักหน้าและตอบกลับทันที “นี่คือเรื่องที่ข้าจะต้องพูดแน่นอน”
“.....” แม่ทัพเหลยผาวโมโหจัด จงหัวรังแกตัวเขา แม้แต่เจ้าทหารรับจ้างเล็กๆ พกแค่ดาบ เป็นแค่คนเกิดใหม่ที่ยากจนยังกล้าขึ้นเสียง ถ้าจงหัวไม่อยู่ที่นั่นเพราะกังวลว่าหมากตัวสำคัญ เขาคงจะถูกกำจัด แม่ทัพเหลยผาวต้องการจะลงมือกับเย่ว์หยางจริงๆ
“เจ้าสามคนตามข้ามา!” เย่ว์หยางมองไปทางคู่สามีภรรยาที่กำลังอุ้มทารกหญิง จากนั้นกวาดตามองทหารรับจ้าง “พวกเจ้าตามข้ามาได้ หากพวกเจ้าต้องการ รวมทั้งทาสแรงงาน ถ้าพวกเจ้ากล้าติดตามข้า ข้าจะยกเว้นสถานะทาสและให้พวกเจ้าเป็นพลเรือนสามัญที่มีเสรีภาพ”
สองสามคำแรกเป็นคำพูดที่ไม่มีอะไร
แม่ทัพเหลยผาวหลังจากจงหัวมาถึง ถ้าเขาไม่สู้กันทาสสองสามีภรรยาและทารกน้อยจะต้องสูญเสียไปอย่างแน่นอน
ทหารรับจ้างสิบกว่าคนเป็นหมากที่จงหัววางเอาไว้ คาดว่าพวกเขาคงไม่อยู่ต่อ นอกจากนี้ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทิ้งพวกเขาไว้ อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดว่าเย่ว์หยางจะพูดประโยคสุดท้ายออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคสุดท้ายที่จะให้สถานะสามัญชนกับทาส
เด็กน้อย เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?
อย่าว่าแต่เขาเป็นเพียงทหารรับจ้างพกดาบเลย แม้แต่จงหัวผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นบารอนก็ยังไม่มีคุณสมบัติพูดคำนี้ เว้นแต่เจ้าศักดินาเท่านั้นที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดให้อิสระและสถานะสามัญชนแก่ทาสได้ และในเวลาเดียวกันเขาประกาศยอมรับทาสในสถานะพลเมืองของเขา จะใช้คำพูดที่อาจหาญนี้ คนพูดต้องมีคุณสมบัติด้วย
จงหัวคือบุตรคนที่สิบของเจ้าเมืองไม้เงินและผ่านการคัดเลือกพิธีประเมินชีวิตมาแล้ว
มีสิทธิ์ได้รับที่ดินศักดินา
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นหมู่บ้านเล็ก มีพื้นที่โดยรอบไม่ถึงห้าลี้ มีหมู่บ้านเล็กๆ สามสิบหมู่บ้าน แล้วต่อหน้าทาสนับพันคน ทหารรับจ้างพกดาบแค่คนเดียว มีทักษะพิเศษบางอย่างยังกล้าเอ่ยปากปลดทาสให้เป็นไทได้หรือ? กฎสวรรค์ในหุบเขามนุษย์ไม่ใช่กฎครอบครัวไม่ใช่หรือ? นี่คือกฎสวรรค์จริงจังที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคโบราณกาล ได้รับการปกป้องคุ้มครองโดยกฎสวรรค์ คนไม่มีคุณสมบัติพูดไปมีแต่จะถูกคนในหุบเขามนุษย์หัวเราะเยาะ ทั้งยังจะต้องถูกลงโทษตามกฎสวรรค์อย่างรุนแรง.... โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้คำมั่นสัญญากับคนหลายพันคน มีผลกระทบอย่างมาก เป็นไปได้ว่าอาจถูกกฎสวรรค์ลงโทษได้เต็มร้อย
“ข้าฟังผิดไปหรือเปล่า? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าแทบจะทนรอเห็นปาฏิหาริย์ไม่ได้อยู่แล้ว” แม่ทัพเหลยผาวตอนแรกตกตะลึง จากนั้นหัวเราะลั่น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...” กลุ่มทหารประจำตัวของเขาหัวเราะจนท้องแข็ง น้ำตาร่วง
“เจ้าพวกโง่” จงหัวแค่นเสียงเยาะเย้ย
มีแต่เขาที่รู้ว่าเย่ว์หยางมีคุณสมบัติเช่นนี้
เพราะเย่ว์หยางซึ่งใช้นามแฝงว่าไตตันในหุบเขามนุษย์ ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของเหมืองและทาสคนงานประจำเหมืองดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังเป็นทายาทรับตกทอดปราสาทไดมอนด์สตาร์มีสิทธิ์และอำนาจในฐานะเจ้าปราสาทและมีบรรดาศักดิ์เป็นบารอน
สำหรับคนอื่น การยกเลิกทาสหลายพันคนและมอบสถานะสามัญชนเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง แต่สำหรับเจ้าของปราสาทไดมอนด์สตาร์เดิมนั้นแค่เอ่ยปากคำเดียว เย่ว์หยางอยู่ในอารมณ์ดี สามารถยกเลิกสถานะทาสได้ และมอบอิสรภาพและสถานะให้พวกเขาเป็นสามัญชน เขาคือเจ้านาย เขาอยากจะทำอะไรก็ไม่นอกเหนืออำนาจของเขา!
จงหัวไม่บอกความจริง แค่ใช้สายตามองดูคนงี่เง่า ดูว่าฝ่ายแม่ทัพเหลยผาวและสุนัขรับใช้หลายคนจะทำอย่างไร
ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นให้รกสมอง ถ้าเป็นคนธรรมดาจะกล้าพูดคำนี้ออกมาหรือ?
คนที่กล้าพูดคำนี้ออกมา แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา!
“คุณชาย ไม่นะ นายท่าน ท่านสามารถยกเลิกสถานะทาสและมอบสถานะสามัญชนให้กับพวกเราได้จริงๆ หรือ?” ทาสประจำเหมืองเหล่านั้นไม่ค่อยใส่ใจถึงความเป็นความตาย เพราะพวกเขามีชีวิตไม่ต่างอะไรกับตาย แต่พวกเขาไม่ต้องการตาย พวกเขาไม่อาจตายได้ เพราะพวกเขายังมีครอบครัวที่เป็นแรงงาน พวกเขาต้องมีชีวิตอย่างเจ็บปวดเพื่อค้ำจุนครอบครัวทั้งหมด
เพื่อให้คนที่รักในครอบครัวได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
พวกเขาเป็นทาสที่น่าสมเพช แต่ยังหวังว่าสักวันลูกหลานของพวกเขาจะไม่เป็นทาส พวกเขาจะสามารถเป็นสามัญชนที่มีอิสระ และกลายเป็นทหารรับจ้างผู้ดิ้นรนต่อสู้ ตัดสินชะตาชีวิตของตนเอง... แต่ในฐานะลูกทาสหลานทาส พวกเขาเป็นได้แค่ทาสทั้งชีวิตเท่านั้น เกิดมาก็กลายเป็นทาสอย่างสิ้นหวัง
ทาสก็คือสัตว์เลี้ยงรับภาระให้เจ้านายที่สามารถพูดได้เท่านั้น
เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่พิเศษที่มีชีวิตและอาจตายได้
หากทาสต้องการกำจัดชะตากรรมชีวิตที่สิ้นหวัง มีความเป็นไปได้ประการเดียวนั่นคือกำจัดสถานะทาสและรับสถานะสามัญชน ภายใต้การยอมรับของเจ้านาย และยอมรับใช้เขา แม้ว่านี่จะไม่ใช่อิสรภาพที่แท้จริง แต่ไม่มีใครควบคุมความเป็นความตายของพวกเขาได้ ไม่ต้องเป็นวัวเป็นควายที่ซื่อตรงอีกต่อไป ไม่ต้องให้ลูกหลานรุ่นหลังต้องกลายมาเป็นทาสที่เลวร้าย เป็นสามัญชนมีพลังน้อย หากพวกเขามีเงินก็สามารถทำธุรกิจได้ สามารถเป็นทหารรับจ้างได้ สามารถเข้าร่วมกับกองทัพเพื่อรับผลประโยชน์ก้าวหน้า กลายเป็นคนที่มีอิสระอย่างแท้จริง
ถอดถอนสถานภาพทาส กลายเป็นสามัญชน
นี่คือสิ่งที่ทาสทุกคนฝันใฝ่
ไม่เพียงแต่เฉพาะตนเองเท่านั้น แต่ยังเพื่อลูกหลานของครอบครัวรุ่นต่อๆ ไป เพื่อให้เข้าใจความเจ็บปวดของการเกิดมาหลายชั่วอายุคนเพื่อให้ได้สถานะสามัญชนหายใจได้อย่างอิสระ ไม่ใช่ทาสที่ตายอย่างไม่ลังเล “คำพูดของข้าไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง หากพวกเจ้าเต็มใจจะติดตามข้า พวกเจ้าจะรู้ได้ทันที พวกเจ้าแค่ต้องรออีกสามเดือน” นอกจากจงหัว ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเย่ว์หยาง เพราะนั่นน่าทึ่งเกินไป รวมทั้งคู่สามีภรรยาที่ได้รับการช่วยเหลือจากเขายังแทบไม่เชื่อหูตนเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อเย่ว์หยางเคลื่อนไหว
ไม่มีใครในกลุ่มสงสัยเขาอีกต่อไป
เขาเดินไปหาหัวหน้าทหารรับจ้างที่กำลังจะตาย ม่านตาดำของเขาขยายเกือบ 90% เย่ว์หยางเอามือจ่อปากหัวหน้าทหารรับจ้างที่กำลังกระตุกด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้ายและหยดของเหลววิเศษอย่างหนึ่งเข้าปากเขาทันที ทันใดนั้นร่างของหัวหน้าทหารรับจ้างที่อยู่ในอ้อมแขนทหารรับจ้างหนุ่มที่กำลังร้องไห้กลับฟื้นตัวเร็วมองเห็นด้วยตาเปล่า เขาลุกขึ้นยืนและมองดูมือตนเองอย่างไม่รู้สึกเชื่อ “ข้ายังมีชีวิตอยู่อีกหรือ? เป็นไปไม่ได้ ข้ารู้สึกตัวเองชัดเจนว่ากำลังจะตาย เป็นแบบนี้ได้ยังไง? อาการบาดเจ็บของข้าดีขึ้นได้อย่างไร?”
“น้ำทิพย์เทพธิดา? เจ้าให้น้ำทิพย์เทพธิดาทหารรับจ้างหรือนี่...” จงหัวเห็นตอนแรกถึงกับหลั่งเหงื่อเยียบเย็น แม้ว่าเขาจะรู้จักเย่ว์หยางว่าเป็นลูกหลานคนเผ่าบูรพาอมตะ มีสมบัติวิเศษมากมาย แต่คู่ควรแล้วหรือที่จะมอบน้ำทิพย์เทพธิดาให้กับทหารรับจ้างคนหนึ่ง? ทหารรับจ้างก็เหมือนกับมดแมลง ทำไมต้องยอมสูญเสียของวิเศษดีๆ อย่างนี้ด้วย?
“เฮ้อ.. ไม่เป็นไร ของอย่างนี้ข้ายังมีขวดใหญ่อีกสองสามขวด” เย่ว์หยางพูดอย่างถ่อมตัวที่สุด ของอย่างนี้เขาจิบดื่มเล่นบ่อยๆ
“....” หลังจากได้ยินแล้วจงหัวถึงกับพูดไม่ออก
“มันจะมากเกินไปแล้ว!” แม่ทัพเหลยผาวริษยาจนแทบจะมีเลือดหยาดหยดในใจ แค่น้ำทิพย์เทพธิดาเพียงไม่กี่หยดก็ทำให้เป็นใหญ่ในหุบเขามนุษย์ได้แล้ว แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงกัน มีน้ำทิพย์เทพธิดาถึงสองสามขวดใหญ่? เขาคิดว่าน้ำทิพย์เทพธิดา เลือดเทพลอยลงมาเองจากฟากฟ้าได้หรืออย่างไร? เมื่อคิดดูแล้ว ทารกหญิงลูกทาสทำไมถึงอ้วนท้วนสมบูรณ์ดูมีชีวิตชีวา และคู่ทาสสามีภรรยาทำไมหายดีกลับดูมีชีวิต เขาพบเหตุผลแล้ว เป็นเพราะเจ้าเด็กนี่หยดน้ำทิพย์เทพธิดาเข้าปากพวกเขา!
ตุ้บ!
ทหารรับจ้างหนุ่มคุกเข่าแสดงความเคารพอย่างจริงจังทันที
ตุ้บ!
หัวหน้าทหารรับจ้างคุกเข่าอย่างน่าตกใจ เขาก็มีการแสดงออกที่จริงจังน่ากลัว แต่ที่น่าตกใจมากกว่าก็คือ ถ้าเขาทำได้ เขาจะไม่รอให้น้ำทิพย์เทพธิดาเข้าปากช่วยชีวิตเขาไว้ แต่จะแลกเป็นเงินผลึกสวรรค์ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวได้ผ่านคืนวันที่ยากลำบากมีชีวิตที่ดี... อย่างไรก็ตาม น้ำทิพย์เทพธิดากลายเป็นพลังงานฟื้นฟูชีวิตเขา เมื่อเขาสงบจิตใจได้ เขาในฐานะหัวหน้าทหารรับจ้างผู้เข้มแข็งเหมือนเหล็กพบว่า ตนเองหลั่งน้ำตาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ตุ้บ ตุ้บ! สองสามีภรรยาที่กำลังอุ้มลูกสาวและทหารรับจ้างที่ต่อสู้ร่างอาบเลือดและพวกทาสที่จับตาดูรู้สึกเหมือนกับได้พบปาฏิหาริย์จริงๆ!
ยกเว้นจงหัว แม่ทัพเหลยผาวและสมาชิกองครักษ์ประจำตัวของเขาไม่กี่คน
ที่เหลือหวาดกลัวกันหมด พากันคุกเข่าทั้งหมด
แม่ทัพเหลยผาวตวาดด้วยความโมโหที่เจ้าเด็กนี่เอาน้ำทิพย์เทพธิดาออกมาใช้เป็นว่าเล่น ไม่รู้ว่าเป็นความซวยหรือว่าโชคกันแน่!
มิน่าเล่าเจ้านี่ถึงได้รับการคุ้มครองจากจงหัวเป็นอย่างดี ความจริงก็คือเจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เขาปลอมตัวเป็นทหารรับจ้างที่คาดดาบเพื่อหาความตื่นเต้นท้าทาย ไม่น่าแปลกที่เขาถูกศัตรูแข็งแกร่งนับไม่ถ้วนรุมล้อมแล้วยังสงบอยู่ได้ ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีใครสามารถยั่วยุเขาได้
“ข้ายังมีเรื่องที่ต้องกลับไปทำ และข้าจะกลับมาที่นี่อีกในสามเดือน” เย่ว์หยางไม่สนใจสายตาคนอื่น และพยักหน้าให้จงหัว เพื่อให้เขารู้สึกว่า เขาเห็นแก่หน้าจงหัว หลังจากพูดเสร็จ ใต้เท้าของเย่ว์หยางพลันมีผังภูมิอักขระรูนขนาดยักษ์ พอผังอักขระรูนเริ่มฉายแสง พื้นทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือน
ภายใต้สายตาของทุกคน
มียักษ์สูงหลายร้อยเมตรผุดขึ้นมาจากใต้พื้น
ผังอักขระรูนฉายแสงเจิดจ้า แสงเหมือนกับดาบแยงตายากจะเงยหน้ามองดูตรงๆ
มีแต่จงหัวเท่านั้นที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด แม่ทัพเหลยผาวเห็นแต่เพียงรูปทรงของมัน คนอื่นๆ ไม่สามารถลืมตามองในท่ามกลางแสงเจิดจ้าได้ ผังอักขระรูนไม่ทราบว่าแตกตัวออกเป็นชั้นๆ ตั้งแต่เมื่อใด มันซ้อนๆ กันอยู่ในรูปแบบวงเวทรูนโบราณ ที่พื้นผิวไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีบางพื้นที่ที่สร้างจุดประสาทสัมผัสทั้งห้า และเจ็ดทวารที่เป็นเคล็ดการสร้างอสูรหุ่น
โกเลมดินสูงสามร้อยเมตร ค่อยๆ ลดขนาดลงและในท่ามกลางแสงเจิดจ้า มันกลายเป็นโกเล็มศิลาสูงสองร้อยเมตร
อีกครั้งที่จงหัวและเหลยผาวมองดูด้วยความหวาดกลัว
กลายเป็นร่างโกเลมหินภูเขาไฟเป็นหุ่นนักรบจากคุณภาพระดับบรอนซ์ เป็นระดับเงิน จากนั้นเปลี่ยนเป็นระดับทองที่น่ากลัว หุ่นระบำดาบของจงหัวมีความสูงสิบห้าเมตรเป็นหนึ่งในสามหุ่นยอดเยี่ยมในเมืองไม้เงิน แต่หุ่นโกเลมหินภูเขาไฟนี้มีความสูงร้อยเมตร เป็นหินภูเขาไฟยักษ์พวกเขาได้แต่มองด้วยความอิจฉา
อสูรหุ่นชนิดต่างๆ ที่อยู่สองข้างของแม่ทัพเหลยผาว เทียบกันแล้วแย่ยิ่งกว่าขยะ!
การผลิตอสูรหุ่น
แม่ทัพเหลยผาวเห็นมามากแล้ว
แต่อย่างเย่ว์หยางที่สามารถวาดผังอักขระรูนลงบนพื้นสร้างหุ่นอสูรจากอากาศแล้วอัดพลังงานลึกลับบางอย่างสร้างให้มันเกิดมาเหมือนมีชีวิตโดยตรง ทั้งยังยกระดับพลังได้.. เรื่องอย่างนี้อย่าว่าแต่เห็นเลย แม่ทัพเหลยผาวกระทั่งฝันก็ยังไม่เคย!
“จงหัวเจ้าตัวร้าย เขาหลอกอาศัยข้า แต่หันกลับไปเข้าพวกฝ่ายตรงข้าม!” แม่ทัพเหลยผาวไม่เคยเกลียดใครมากมายมาก่อนในชีวิต คนที่เขาเกลียดไม่ใช่เย่ว์หยางที่ให้ความรู้สึกน่ากลัวแต่เป็นจงหัวที่เหยียบย่ำพวกเขาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเย่ว์หยางเป็นใคร รู้แต่ว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ไม่อาจตอแยได้ และเมื่อเขายั่วยุตอแยอาจทำให้เกิดการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ แต่ในใจเขาไม่ได้ปฏิเสธเหตุการณ์ที่พบเจอในวันนี้ เพราะเรื่องนี้ถ้าจัดการได้ดีบางทีองค์ชายเรโนลด์อาจชื่นชมและให้รางวัลเขา อย่างไรก็ตามจงหัวที่ดูเหมือนเป็นพันธมิตร ใช้ข้ออ้างกล่าวหาเขาทำชั่วและไปเข้าข้างอีกฝ่ายโดยจงใจ พฤติกรรมอย่างนี้จะไม่ได้รับการอภัยตลอดทั้งชีวิตนี้ ทรยศ นี่คือการทรยศหักหลังพี่น้องพันธมิตร นั่นเป็นกฎพื้นฐาน!
“ทรยศอะไรของเจ้า!” จงหัวแค่นเสียง โลกนี้จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบ ใครให้เจ้าสมองตายโดดเข้ามาเป็นผู้หนุนหลังคนอื่นเล่า? ไม่ทรยศ ไม่หักหลัง? ขอบอกว่าไตตันเป็นเผ่าบูรพาอมตะรุ่นหลัง? เจ้ามันโง่เอง
หุ่นยักษ์หินภูเขาไฟยืนขึ้น
แต่เย่ว์หยางหายไปนานแล้ว
เมื่อยักษ์หินภูเขาไฟค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้า มันก้าวเดินไปในทิศเดียว ไม่ว่าจะเป็นทาสสองสามีภรรยาที่กำลังอุ้มลูกอ่อน กลุ่มทหารรับจ้าง หรือทาสประจำเหมืองพวกเขาทุกคนรีบติดตามไปข้างหลัง
ในสายตาและหัวใจของพวกเขา ยักษ์หินภูเขาไฟนี้ คือตัวแทนแสงนำทางที่เขาทิ้งไว้อย่างมิต้องสงสัย ต่อให้ต้องตาย
พวกเขาต้องติดตามไปจนถึงที่สุด!
นอกจากเขาแล้วจะมีใครอื่นในโลกที่มีความเมตตามอบน้ำทิพย์เทพธิดาและเสรีภาพ ความหวังและอนาคตให้กับพวกเขา
“พวกทาสไปหมดแล้ว จะทำยังไงดีกับเหมือง?” ผ่านไปนาน ทหารองครักษ์ของเขาถามขึ้นเบาๆ
“กลับกันเถอะ ต้องรายงานเรื่องนี้ให้เจ้าชายทราบ” แม่ทัพเหลยผาวจ้องมองจงหัวและรีบพาคนของตนที่เหลือออกไปทันที ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป นับเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะต้องรายงานให้องค์ชายทราบโดยเร็ว มีหุ่นยักษ์หินภูเขาไฟคุมเชิงอยู่อย่างนั้น เป็นไปไม่ได้กับการชิงทาสเหมืองคืน หุ่นยักษ์นั่นใช้แค่เพียงนิ้วเดียวก็ทำลายหุ่นอสูรได้ทั้งหมด... นอกจากนี้จะมีทาสสักกี่คนที่ยอมกลับไป พวกเขาจะทำอะไรได้? เปลืองข้าวสุกเปล่าๆ!
“ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาเป็นลูกหลานของคนเผ่าบูรพาอมตะ” ทันทีที่สร้างหุ่นยักษ์หินภูเขาไฟออกมา ความสงสัยของจงหัวถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ใครกล้าสงสัยเย่ว์หยางก็ช่าง แต่เขาไม่กังวลแน่
“วิชาหุ่นอสูรของคุณชายยอดเยี่ยมจริงๆ!” พ่อบ้านตู้ลี่แอบอยู่ในความมืดอดทึ่งมิได้เมื่อเห็นหุ่นยักษ์หินภูเขาไฟเดินออกไป
มันซับซ้อนประณีต ยอดเยี่ยมจริงๆ
แต่มันถูกสร้างจากมือทรงพลังที่ยิ่งใหญ่ มีแต่มือเทพเท่านั้นที่สร้างปาฏิหาริย์สร้างชีวิตขึ้นมาได้
6 ความคิดเห็น:
แปปเดียวเทพเลย รอตอนใหม่ไม่ไหวแล้ว ขอบคุณแอดมินมาก
ปักธงรอ...อาหยาง อาหยางๆๆๆ
เทพจริงพี่เยาว์ ขอบคุณครับ
ใจจ้า
บทน้อย แต่ปังสุด
ว่าแต่บักเย่ออกไปอย่างไงนิ
แสดงความคิดเห็น