วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1081 โลหะหลอมปีศาจและความร่วมมือ



ตอนที่  1081  โลหะหลอมปีศาจและความร่วมมือ

โรงเตี๊ยมเล็ก


เย่ว์หยางและฉีมู่เป็นเหมือนนักโทษนั่งอยู่ด้านตรงข้ามหมิงจู

การขัดขืนคงไม่ใช่เรื่องดี ตราบเท่าที่ยังมองเห็นค้อนพิฆาตของอีกฝ่าย ไม่มีใครกล้าพอ

 “ค้อนใหญ่นั่นใช้ทำอะไร?”  เย่ว์หยางสะกิดถามคุณชายฉีมู่  ตามกฎสวรรค์ของหุบเขามนุษย์ ไม่มีใครใช้อาวุธได้ แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าค้อนใหญ่นี้สั่งการโดยคุณชายหมิงจู  แม้มันจะไม่ได้รวมพลังกับเขา แต่ก็ถูกควบคุมด้วยความประสงค์ของเขา ไม่ใช่อสูรหุ่นที่ควบคุมให้โจมตีได้

 “ความลับ เกราะลับ”  ฉีมู่กระซิบบอกที่หูของเขา

 “เกราะลับคืออะไร?” เย่ว์หยางถาม

 “ข้าไม่รู้ เป็นคุณชายหมิงจูค้นคว้า  กล่าวกันว่าใช้วิชาลับยุคโบราณโลหะหลอมปีศาจสร้างเป็นเกราะลับซึ่งได้รับการยอมรับจากหุบเขามนุษย์โดยปริยาย แน่นอนว่ามีแต่เพียงเจ้าของเท่านั้นที่สามารถใช้ได้”  ฉีมู่ตั้งข้อสังเกตว่าค้อนยักษ์นี้เป็นอาวุธที่ยิ่งใหญ่

 “วิชาลับโลหะหลอมปีศาจ?”  เย่ว์หยางตื่นเต้นในใจ  เนื่องจากเงื่อนไขที่จำกัด เย่ว์หยางจึงไม่ได้ติดต่อโลหะหลอมปีศาจ

โลหะหลอมปีศาจซึ่งคล้ายกับเทพโลหะเหลวดาวตก แต่ยังมีความแตกต่างกันมาก

ทั้งสองมีความคล้ายกัน

นั่นคือเป็นของโลหะเหลวทั้งสองฝ่าย

ต่างจากโลหะหลอมปีศาจคืนสภาพเป็นของเหลวพิเศษหลังจากสร้างเสร็จ  กล่าวอีกนัยหนึ่งมันสามารถตอบสนองหลังจากสร้างเสร็จ แต่เทพโลหะเหลวดาวตกนั้นมีไม่พอ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งสองก็คือ โลหะเหลวดาวตกเมื่อถูกสร้างแล้วจะเป็นของคุณภาพสูงส่งสมบูรณ์ หากของวิเศษที่ผลิตไม่มีสำนึกรับรู้  มันจะสร้างจิตวิญญาณขึ้นโดยอัตโนมัติ เทพโลหะเหลวดาวตกเป็นโลหะพลังงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก และมีคุณสมบัติใกล้กับสมบัติเทพอย่างไม่มีขีดจำกัด  เทพโลหะเหลวดาวตกก็คือของเหลว สามารถหลอมรวมกับชิ้นของวิเศษได้อย่างไม่มีใดเทียบ

เทียบกับเทพโลหะเหลวดาวตกแล้วโลหะหลอมปีศาจยังมีคุณภาพด้อยกว่ามาก

มีการแบ่งความสูงส่งของคุณภาพ

โลหะหลอมปีศาจที่มีคุณภาพต่ำสามารถผลิตเพียงของคุณภาพต่ำ และใช้เป็นของเหลวสำหรับซ่อมแซมของวิเศษบางอย่าง แม้แต่โลหะหลอมปีศาจคุณภาพสูงสุดก็ยังมีระดับห่างไกลกับเทพโลหะเหลวดาวตก

ช่องว่างความห่างชั้นระหว่างทั้งสองนั้น เหมือนช่องว่างระหว่างทองเหลืองกับทองคำ

แน่นอนว่า แม้จะมีช่องว่างห่างจากเทพโลหะเหลวดาวตก โลหะหลอมปีศาจก็หาได้ยากมาก

เย่ว์หยางได้รับเทพโลหะเหลวดาวตกด้วยความบังเอิญ  แต่เขาอยู่ในหอทงเทียนและแดนสวรรค์มานานแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยได้รับเทพโลหะเหลวเช่นนั้น

 “บุรุษตัวใหญ่สองคนสนใจกัดหูกระซิบกัน คาดว่ามีเรื่องน่าสนใจนักใช่ไหม?”  คุณชายหมิงจูสั่งเหล้าและอาหารให้เย่ว์หยางกับฉีมู่ ส่วนตัวเขาเองไม่ต้องการกินเหล้า สั่งแค่น้ำผลไม้มาจิบดื่มอย่างพอใจ ในเวลาเดียวกันก็เตือนเย่ว์หยางและฉีมู่ให้พูดดังขึ้น อย่าพูดตามใจตัวเอง

 “เรากำลังชื่นชมความมีน้ำใจของคุณชายหมิงจู  ถ้าเจ้ากินอิ่มแล้วจะให้เราช่วยล้างเท้านวดไหล่หรือนวดทั้งตัวก็ยังได้”  เย่ว์หยางลอบถอนหายใจ

 “เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือ?”  คุณชายหมิงจูยื่นมือไปที่ค้อนใหญ่

 “ทันทีที่พบว่าเมื่อเจ้ากลับไปพักหลังอาหารแล้ว นั่นก็ไม่เลว นอนเร็วตื่นแต่เช้า ทำให้สุขภาพดี”  เย่ว์หยางกำลังหลั่งเหงื่อ

 “ใช่ ใช่แล้ว เราต้องรักษาสุขภาพ  ไปนอนพักเร็วๆ จะได้ตื่นแต่เช้า...” ฉีมู่หวาดกลัวจนตัวสั่น คาดว่าเขาคงโดนค้อนหวดมามากและมีผลเหมือนเงาที่ฝังอยู่ในจิตใจ  ไม่มีทางสู้  พลังของค้อนนี้ในหุบเขามนุษย์มีพลังมากกว่าสมบัติเทพ แม้ว่าจะมีคุณภาพระดับระดับทองเท่านั้นก็ตาม

 “ไม่ มาแลกเปลี่ยนกันดีกว่า!  หมิงจูที่ขู่เย่ว์หยาง จู่ๆ ก็ยื่นข้อเสนอ “ข้าใช้วิชาโลหะหลอมปีศาจ แลกกับเคล็ดสร้างปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า”

 “ก็ดีเหมือนกัน นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดทำให้พอใจกันทุกฝ่าย” ฉีมู่แตะมือเย่ว์หยางทำท่าบอกให้เขารับปาก

 “เสียใจด้วย”  เย่ว์หยางปฏิเสธ

 “เจ้าโง่....”  ฉีมู่ตกตะลึงในตอนแรกราวกับชาวโลกมองเห็นมนุษย์ดาวอังคารเดินบนท้องถนน และในที่สุดก็เห็นว่าเย่ว์หยางไม่ได้ล้อเล่น เขาถอนหายใจมีความรู้สึกเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม  จากมุมมองของฉีมู่วิชาโลหะหลอมปีศาจของคุณชายหมิงจูเป็นสมบัติล้ำค่า ใครก็ตามที่ได้รับ ก็เท่ากับได้หุ่นเกราะลับระดับทอง และมีชุดเกราะลับปกป้องได้ตลอดเวลา  แม้ว่าหุ่นเกราะลับระดับทองจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับหุ่นเกราะลับระดับทองประเภทอื่น แต่พลังการต่อสู้ของมันไม่ด้อยไปกว่าใครรวมทั้งอสูรไอพ่นของจงหัว นักรบทะเลของกัปตันคุ้กและหุ่นความแค้นของเจ้าชาย ของจีอู๋ลี่ก็ยังไม่อาจข่มอสูรเกราะลับได้

 “เจ้าบอกเหตุผลข้าได้ไหม?” หมิงจูประหลาดใจ แต่ก็ต้องการรู้เหตุผลที่เย่ว์หยางปฏิเสธจะแลกเปลี่ยน

 “เรื่องง่ายมาก  วิชาโลหะหลอมปีศาจของเจ้าข้าก็ทำได้ เพียงแต่มีวัตถุดิบในการสร้างไม่พอ  แต่การสร้างปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์ นอกจากข้าแล้วไม่มีใครสามารถค้นคว้าวิจัยสร้างได้  แม้ว่าข้าจะบอกเจ้าหรือเปิดเผยให้ทุกคนในหุบเขามนุษย์รู้ก็ไม่มีใครเรียนรู้ได้” เย่ว์หยางอธิบายอย่างนั้น

 “เจ้ามีความมั่นใจตัวเองมากพอจริงๆ”  หมิงจูฟังคำพูดที่ดูหยิ่งของเย่ว์หยางก็ไม่โกรธ

 “แค่ปากกาขนห่านเล็กๆ สามารถพัฒนาให้ถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ?  นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องพัฒนาให้ไปถึงระดับศักดิ์สิทธิ์หรือ?”  ฉีมู่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวอย่างคาดไม่ถึง

ฝีมือของเด็กน้อยไม่ได้ดีกว่า มันใช้ทำเงินได้หรือ?

แม้ว่าจะทำไปอย่างเสียเปล่า แต่ไม่น่าเสียเวลาทำปากกาขนนกที่ไร้ค่านี้!

หากเขาสามารถนำวิทยาการผลิตปากกาขนนกชั้นศักดิ์สิทธิ์ไปผลิตหุ่นรบหรือหุ่นอสูรก็จะได้หน้าเหมือนอย่างที่คุณชายจินฉีสร้างหุ่นรบแม่เหล็กจนได้รับคำชมหน้าบาน... สร้างของระดับศักดิ์สิทธิ์ได้เว้นแต่พวกมีสมองผิดธรรมดาในประวัติศาสตร์ก็อย่างนางพญาเฟ่ยเหวินหลี จักรพรรดิอวี้จ้านฟง...นอกจากนี้คนเหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงทั้งนั้น พวกเขาสามารถสร้างหุ่นรบระดับศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ?

ในโลกนี้ สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์อาจปรากฏขึ้น

อสูร อาวุธ อะไรๆ ก็ล้วนเป็นไปได้

แต่อย่างไรก็ตามมีแต่เพียงหุ่นรบไม่มีสติปัญญา ไม่มีจิตสำนึกวิญญาณ เกือบทั้งหมดยากจะไปถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ได้  อสูรหุ่น อสูรรบเป็นไปไม่ได้ที่จะยกระดับ  พวกมันจะต้องถูกสร้างให้มีสำนึกจิตวิญญาณ จึงจะไปถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ได้

นี่แหละคือจุดยาก

จีอู๋ลี่ที่เป็นนักสู้ระดับกึ่งเทพใช้ความพยายามอย่างหนักสร้างหุ่นแค้นของเจ้าชายก็ยังทำได้เพียงระดับแพลตตินัม

ระดับแพลตตินัมห่างจากระดับศักดิ์สิทธิ์ราวฟ้ากับดินจะเลื่อนจากระดับแพลตตินัมไปเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ยากเป็นแสนเท่า เหมือนกับปีนป่ายขึ้นไปบนยอดเขาแล้วไม่มีทางบินได้!  ถ้าไม่ใช่เพราะประธานใหญ่กลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าพูดว่าเย่ว์หยางมีความสามารถเปลี่ยนขนนกให้เป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่างนั้นฉีมู่จะไม่มีทางเชื่อเลย

ไม่มีทางที่ปากกาขนนกที่ไม่มีคุณภาพอะไร จะใส่สำนึกวิญญาณและยกระดับไปได้ถึงระดับศักดิ์สิทธิ์

แค่คิดก็รู้สึกสยองเสียแล้ว

นี่คือปาฏิหาริย์ที่สร้างขึ้นโดยพลังเทพ

นอกจากนี้ไม่มีคำอธิบายอื่น

 “มันง่ายสำหรับข้า  สำหรับเจ้า บางทีเจ้าค้นคว้าจนหมดรุ่น เจ้าอาจค้นคว้าไม่ได้อะไรเลย”  เย่ว์หยางยิ้ม เพราะเหตุนี้ เขาไม่สามารถสอนได้โดยไม่เห็นทุกอย่างผ่านจักษุญาณทิพย์ ไม่มีสนามพลังสร้างโลก ไม่มีเทพอัญมณีสร้างโลก ไม่มีกระแสพลังเทพปั่นป่วน และไม่มีความเชี่ยวชาญของกฎสวรรค์น้อย ไม่มีความรู้ตกทอดจากมารดา ไม่มีแกนพลังที่ได้จากวงเวทอักขระรูนยักษ์ลอยฟ้า และไม่มีพื้นฐานจากสารานุกรมหุ่นของเย่ว์กง ไม่มีผังแบบหุ่นรบทองสองแบบที่บันทึกไว้ในโลงทองโบราณ อาวุธเทพร่างอสูรเทาเถี้ยและการรวมตัวของแมงป่องดาวฟ้า ที่ไม่เพียงแต่ค่อยๆ เลื่อนระดับช้าๆ แต่ต้องสร้างพื้นฐานไปทีละขั้น  ไม่อย่างนั้นเย่ว์หยางคงสร้างปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เป็นแน่

อาจกล่าวได้ว่าประสบการณ์ของเย่ว์หยางก่อนหน้านั้นและความสามารถอัจฉริยภาพส่วนบุคคล ทำให้พบวิธีสร้างของเขา

สิ่งที่เขาครอบครองนั้น จะขาดไปไม่ได้สักอย่าง

เปลี่ยนเป็นคนอื่น

อย่างฉีมู่หรือหมิงจูยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเลียนแบบเย่ว์หยาง

 “ไม่ต้องสนใจว่าข้าทำได้หรือไม่ เจ้าแค่แสดงขั้นตอนการผลิต แสดงรายละเอียดอีกครั้ง  อา.. ใช่แล้ว เราร่วมมือกัน เราร่วมมือซึ่งกันและกัน  เจ้าใช้วิธีลับสร้างปากกาขนนกศักดิ์สิทธิ์  ข้าจัดหาวัสดุทำโลหะเหลวปีศาจและให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นบางอย่าง  เรามาวิจัยร่วมพัฒนาเกราะลับศักดิ์สิทธิ์กันเป็นไง?”  หมิงจูสนใจสร้างหุ่นรบชั้นศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

 “ร่วมมือ? ถ้าเจ้าสร้างหุ่นรบระดับศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องใช้โลหะเหลวปีศาจในปริมาณที่มากขึ้น”  เย่ว์หยางรู้สึกว่าการร่วมมือครั้งนี้เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สำหรับคนที่กระตือรือร้นได้รับวัตถุดิบหายาก นี่เหมือนกับฝนตกได้ถูกเวลาในฤดูร้อน

 “โลหะหลอมปีศาจไม่ต้องกังวลมีที่คุณภาพดีจนถึงระดับทอง แต่อย่างคุณภาพบรอนซ์ หรือเงินก็มีมากเท่าที่เจ้าต้องการ  บอกตามตรงโลหะหลอมปีศาจคุณภาพต่ำ ที่ข้าผู้เชี่ยวชาญใช้วิชาลับผสมขึ้นมา” คุณชายหมิงจูไม่รู้ว่าเอาพัดกระดาษออกมาจากไหนจากนั้นคลี่โบกพัด  และมองดูดวงตาที่ประหลาดใจของเย่ว์หยาง หมิงจูรู้สึกว่าความหงุดหงิด ความไม่พอใจหายไปเหมือนได้ดื่มน้ำเย็นในฤดูร้อน

 “มันเยี่ยมมาก”  เย่ว์หยางจับมือคุณชายหมิงจูเขย่า และทำท่าจะไม่ยอมปล่อย

 “เจ้าคิดอย่างนั้นไหม?”  หมิงจูมองไปทางฉีมู่

 “ข้าตาบอด มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”  ฉีมู่ร่ำร้องในใจว่าแย่แน่  เมื่อใดก็ตามที่หมิงจูยิ้มอย่างนี้ให้เห็น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ น่าเสียดาย สายเกินไป วินาทีต่อมาหมิงจูเงื้อค้อนทุบเย่ว์หยางลงกับพื้น

 “ซวยเป็นบ้า ในเมื่อตัดสินใจจะร่วมมือกัน ต่อให้ไม่ชนแก้วดื่มกัน นี่ต้องลงมือใช้ค้อนด้วยหรือ?”  เย่ว์หยางโมโหพลางยกมือคลำศีรษะ

 “อา..ข้าเผลอตัว”  หมิงจูขอโทษโดยไม่แสดงท่าทางอะไร

 “เราคุณชายจะสู้กับเจ้า!” เย่ว์หยางลุกขึ้นได้ก็กระโจนหาหมิงจูและใช้กรงเล็บมังกรในตำนาน

ปัง ปัง ปัง...ค้อนทองหวดลงอีกครั้งไม่สามารถต้านทานได้

เย่ว์หยางถูกหวดลงไปนอนกับพื้นโดยตรง  คุณชายหมิงจูนั่งอย่างเกียจคร้านไม่ขยับเขยื้อน  แต่มือซ้ายควบคุมค้อนทองควงไปมาอย่างสบาย  ฉีมู่แอบอยู่มุมหนึ่งหวาดกลัวจนหลั่งเหงื่อพรั่งพรู เขายกมือยอมจำนนกลัวว่าหมิงจูจะทุบเขาไปด้วย

หลังจากตัดสินใจร่วมมือแล้ว ความคิดเห็นที่หมิงจูมีต่อเย่ว์หยางเป็นไปในทางที่ดีขึ้นอีกเล็กน้อย

ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช้วิชากรงเล็บมังกรในตำนาน (ท่าขยำอก) ค้อนทองของหมิงจูคงไม่หวดลงที่ศีรษะของเขาได้ง่าย

 “ก่อนอื่น, เจ้าต้องเอาชนะการแข่งขันพิธีประเมินคะแนนชีวิตของนักเรียนใหม่ให้ได้เสียก่อน  จึงจะอยู่ในระดับที่ไล่ตามจีอู๋ลี่เท่าที่เป็นไปได้”  คุณชายหมิงจูแนะนำเย่ว์หยาง  “พูดตามตรงก็คือในตอนนี้ เจ้าไม่อาจสู้กับจีอู๋ลี่ได้  เราต้องให้ความสนใจผู้ชนะเลิศมือใหม่  อาจดูเหมือนว่าไม่ยากเกินไป  แต่ถ้าเจ้าคิดว่าหุ่นรบแม่เหล็กของจินฉีเป็นหุ่นรบที่ดีที่สุด เจ้าก็คิดผิด  บางทีเจ้าอาจไม่รู้ ผู้ที่เกิดใหม่พร้อมกับจีอู๋ลี่ คนหนึ่งเรียกว่าว่านหมอ อีกคนหนึ่งชื่อหลานฟง พวกเขาเป็นเจ้าตำหนักของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ทุกคนเป็นพันธมิตรผู้ภักดีของจีอู๋ลี่ทุกคน เพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งตำแหน่งที่จำกัดกับจีอู๋ลี่และเพื่อพัฒนาก่อนการแข่งขัน พวกเขาเตรียมหุ่นรบโลหิต และหุ่นรบเพลิงพิโรธไว้ในพิธีประเมินคะแนนชีวิตเพื่อให้ได้ตำแหน่งชนะเลิศครั้งที่สอง”

 “หุ่นรบโลหิตและหุ่นรบเพลิงพิโรธ?”  เย่ว์หยางเมื่อได้ยิน ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 “หุ่นรบเพลิงพิโรธความจริงก็คือธาตุไฟ  แต่ข้าไม่เข้าใจว่ามันกลับกลายเป็นสถานะหุ่นรบได้อย่างไร?”  ฉีมู่ว่าเขาเคยเห็นหุ่นรบเพลิงพิโรธที่ผลิตสำเร็จมาแล้ว

 “คาดว่าคงเป็นหุ่นรบสายธาตุองค์ประกอบ แต่คิดว่าคงจะเสริมโครงหุ่นที่ควบคุมบางส่วนได้เข้าไปบางส่วน และข้อมูลของเรายังไม่บริบูรณ์  อย่างไรก็ตามหุ่นรบโลหิตสร้างขึ้นโดยว่านหมอ มีข้อมูลออกมาเช่นนั้นจริงๆ   นั่นคือหุ่นที่มีส่วนประกอบของเลือดและเนื้อจริงๆ  แม้ว่าจะไม่สามารถยืมพลังงานของร่างกายมนุษย์ได้เช่นกัน  แต่ด้วยการควบคุมของร่างกายมนุษย์ พลังการต่อสู้ที่หุ่นรบแสดงออกมาอาจมากกว่าหุ่นระดับเดียวกันถึงสิบเท่า   ในแง่การควบคุมและพลังต่อสู้ หุ่นเลือดเนื้อบางทีไม่เป็นรองเกราะลับของข้า  นอกจากนี้อสูรหุ่นเลือดเนื้อสามารถผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก”  เมื่อหมิงจูเอ่ยถึงหุ่นเลือดเนื้อ เขาอดเลิกคิ้วที่งดงามไม่ได้ เหมือนกับว่าเขารังเกียจหุ่นเลือดเนื้อที่มีความโหดอำมหิต

 “นอกจากหุ่นรบเลือดเนื้อและหุ่นรบเพลิงพิโรธแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นอีกไหม?”  เย่ว์หยางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งและถามอีกครั้ง

 “ก็ยังมีหุ่นรบอีกสองสามประเภท แต่ละตัวมีลักษณะการทำงานเฉพาะของตนเอง และข้อมูลยังคงถูกรวบรวมแล้วจะมอบให้กับเจ้าภายหลัง!  ฉีมู่บอกเย่ว์หยางตามความเป็นจริง  ครั้งนี้หลังจากจีอู๋ลี่ได้ตำแหน่งชนะเลิศไปแล้ว  มีหลายคนพยายามจะเอาชนะเป็นผู้ชนะเลิศให้ได้  มีพี่น้องที่ซ่อนตัวหลายคนถูกส่งเข้ามาเพื่อแข่งขันชนะเลิศให้ได้

 “เวลาเหลือให้ข้าน้อยเกินไป..”

เย่ว์หยางถอนหายใจเบาๆ

โชคดีที่ข้อมูลในตัวเขาเองยังไม่รั่วไหลออกไป  และยังมีจงหัว, ฉีมู่และหมิงจูคอยช่วยเหลือหรือมีผู้สนับสนุนอย่างเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้สามารถสร้างชื่อได้

ยิ่งเวลาน้อยก็ยิ่งดี เพราะทันทีที่สร้างชื่อเสียงได้  ศัตรูจะให้ความสนใจมากเป็นร้อยเท่า และเขาคิดว่าตอนนี้จะค้นคว้าและพัฒนาได้อย่างสงบ

เขาเกรงว่าอาจเป็นไปไม่ได้!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีอู๋ลี่ผู้มีความรู้สึกถึงวาระวิกฤตอย่างกล้าแข็งได้  ทันทีที่เขาพบว่ามีการโดดเด่นขึ้นมาของเย่ว์หยาง  ต้องมีผลกระทบแน่นอน

ฉีมู่และหมิงจูไม่ทราบว่าโครงการสร้างหุ่นรบบินและหุ่นรบแปลงร่างที่พัฒนาโดยเย่ว์หยางนั้นค่อนข้างน่ากังวลสำหรับเขา  ถ้าเวลาของการร่วมมือถูกผลักดันมาที่เย่ว์หยางที่เพิ่งเข้ามาในหุบเขามนุษย์ จากนั้นต้องเอาชนะเลิศในพิธีประเมินคะแนนชีวิตจากการประสบผลสำเร็จในการพัฒนาเกราะลับโลหะหลอมปีศาจระดับศักดิ์สิทธิ์ได้  แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบสองเดือน เหลือเวลาอีกเดือนเดียวเขาจะทำได้อย่างไร?

ฉีมู่เกาศีรษะอยู่นาน  แต่ในที่สุดเขาก็ยังหาวิธีคลี่คลายไม่ได้

คุณชายหมิงจูขมวดคิ้ว  แต่จู่ๆ ก็ยิ้มออกทันที  “ข้าคิดว่ามีวิธี  แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันใช้ได้หรือเปล่า แต่ก็คุ้มค่าน่าลอง!

6 ความคิดเห็น:

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

zen zen กล่าวว่า...

หรือว่าหมิงจูเป็นผู้หญิงเพราะพี่เย่ว์ใช้กรงเล็บมังกรในตำนานกับนางเราว่าต้องใช่แล้วแหละแถมนางยังบริสุทด้วยแถมก่อนหน้านี้พี่เย่ว์พูดแทะเล็มนางเรื้องการเปิดซิงต้องใช่แล้วหล่ะหรือว่าเราคิดไปเอง

Popcorn กล่าวว่า...

หมองจูสายโหด ผู้สยบกรงเล็บมังกร

Unknown กล่าวว่า...

หมิงจูเป็นผู้หญิง

Surached Blog กล่าวว่า...

หมิงจูกวง ไงละ อย่าลืมซิ ว่าน้องสาว ใคร

Unknown กล่าวว่า...

สงสัยว่า นี่เค้าต่างคนต่างรู้ตัวตนอีกฝ่ายมั้ย เหมือนเย่หยางรู้ แต่หมิงเย่กวงกะพี่ไม่รู้รึเปล่า

แสดงความคิดเห็น