วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1085 เขาฆ่าเจ้าไม่ได้ แล้วข้าล่ะ?



ตอนที่  1085  เขาฆ่าเจ้าไม่ได้ แล้วข้าล่ะ?

เมื่อเร็วๆ นี้ฮ็อกรู้สึกไม่พอใจ


สถานะของสามัญชนทำให้อดีตหัวหน้าในหุบเขาปีศาจต้องกิน ต้องหางานทำ ต้องเรียน แต่เขามืดแปดด้านไปหมด  บางครั้งเขาอยากตะโกนใส่คนที่ดูถูกเหยียดหยามเขาทางสายตา  ข้าคือบุรุษผู้แข็งแกร่งปราณราชันย์ระดับห้า ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในหุบเขามนุษย์ พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติได้เลียก้นข้าแน่... อย่างไรก็ตามที่นี่คือหุบเขามนุษย์ เป็นสถานที่ซึ่งไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างสิ้นเชิง

ถ้าฮ็อกสามารถสร้างอสูรหุ่นได้ดี  แม้ว่าจะมีสถานะเป็นสามัญชน เชื่อได้ว่าเขาอาจผสมลักษณะมนุษย์ลงไปด้วยแน่

อย่างไรก็ตามเขาดูหมิ่นอสูรหุ่นที่ช้าและไม่ฉลาดตั้งแต่เขายังเด็ก  เขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลื่อนระดับได้ในอนาคต    มันไม่มีอนาคต  จะเป็นเรื่องดีกว่าที่ฝึกอสูรที่มีคุณภาพสูง ในฐานะผู้ฝึกฝนวิชาเขาไม่เคยต้องการจะเสียเวลากับหุ่นรบ

ตอนนี้เสียใจก็สายเกินไป!

หากไม่ใช่เพราะเริ่นเทียนเกอและบัณฑิตตาเงินและสหายอีกหลายคนของพวกเขาคอยช่วยดูแลเป็นครั้งคราว น่ากลัวว่าฮ็อกคงกลายเป็นขอทาน  ด้วยอารมณ์ของคนอย่างเขาไม่มีทางเลยที่จะทำงานอย่างซื่อสัตย์ให้กับนักธุรกิจที่อ่อนแอและหัวสูง  ยิ่งไปกว่านั้นงานเหล่านั้นยังใช้แรงงานขูดเลือดขูดเนื้อ เขาไม่ได้มีชะตาเกิดมาเพื่อเป็นทาส เขาเกิดใหม่ด้วยความแข็งแกร่งปราณราชันย์ระดับห้า ไม่ว่าชีวิตของเขาจะเครียดแค่ไหน ในตอนนี้เขาไม่อาจยอมให้ตนเองต้องตกอยู่ในสถานะถูกรังแก

 “หลีกทางไปซะ  เจ้าไม่สามารถทำงานเล็กๆ น้อยๆ ยังกล้ากล่าวโทษข้าอีกหรือ?  เจ้าพวกฐานะต่ำ ไสหัวออกไป อย่าให้ข้าเห็นเจ้าอีกครั้ง!  ในร้านค้า เถ้าแก่ร้านค้าถ่มน้ำลายใส่ฮ็อกด้วยความโกรธ เขาด่าทอและตะเพิดฮ็อกออกไปทันที

 “ไอ้หนอนน่ารังเกียจ!  ฮ็อกเต็มไปด้วยความโกรธ จนเขาอยากเปลี่ยนร่าง

เห็นได้ชัดว่าเถ้าแก่ของที่นี่ไม่พูดให้ชัดเจน ทำให้ร้านค้าอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้

หากความสามารถของฮ็อกโดดเด่น แสดงว่าข้อบกพร่องนั้นยิ่งมากกว่า  อาจกล่าวได้ว่าฮ็อกพยายามจัดการทั้งหมดสุดความสามารถของเขาเพื่อลดการสูญเสียในร้านค้า นั่นสมควรจะได้รับรางวัล  แต่เพื่อหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ผู้จัดการร้านจึงป้ายสีฮ็อก

ถ้าฮ็อกสามารถใช้พลังยุทธ์ได้ในตอนนี้ เขาคงฉีกเจ้าผู้นี้ทั้งเป็นจากนั้นรวมชิ้นส่วนศพได้ไม่ต่ำกว่าสามสิบชิ้น

น่าเสียดาย ที่นี่คือหุบเขามนุษย์

มีแต่ฮ็อกที่สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของวิทยายุทธ์ตลอดทั้งไอ้เมืองบ้านี้ ตอนนี้เขาต้องหารายได้จากการทำความสะอาดพื้นที่ล้างภาชนะ

เดิมทีฮ็อกต้องการจะอดทนและพร้อมจะเก็บเงินเพื่อซื้อหุ่นอสูรระดับต่ำสุด จากนั้นออกไปทำงานรับจ้างบางอย่างค่อยๆ เปลี่ยนชีวิตที่น่าอายกลับคืนมา  ด้วยพลังปราณราชันย์ระดับห้าของเขาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงมือทำโดยตรง เขาก็สามารถจัดการหุ่นอสูร แม้แต่หุ่นที่เล็กสุด  เขาเชื่อว่าเขาสามารถทำภารกิจทหารรับจ้างที่ยากหลายอย่างได้สำเร็จ...  ปัญหาก็คือตอนนี้เขาทนไม่ได้แม้สักพัก  ตั้งแต่เข้ามาจนถึงปัจจุบัน เขาไม่มีวันสบายๆ เลย  ในช่วงนี้เขาถูกดุด่าหรือถูกไล่ตะเพิดราวกับเป็นขอทาน!

 “บิดาซื้อหุ่นคู่หูได้เมื่อไหร่ จะกลับมาพังร้านซอมซ่อของเจ้า”  ฮ็อกถูกขับไล่ออกนอกประตู และส่งเสียงคำรามดังไม่พอใจ  เพราะสถานะต่ำ และเจ้าอารมณ์ ฮ็อกจึงถือว่าเป็นคนดังในเมืองนี้

คนที่เยาะเย้ยหลายคนตั้งฉายาให้ฮ็อก

เรียกเขาว่า ปืนภูเขา

แม้จะมีเรื่องดีที่บางคนแอบทำสถิติให้ฮ็อก ดูสามัญชนผู้เกิดใหม่ผู้กลับมาเพื่อเรียนรู้ ในท้ายที่สุดถูกเจ้านายไล่ออกมาแล้วกี่ที่ คงเป็นเพราะชื่อเสียงของฮ็อก ทำให้คนไม่ดีหลายคนใช้จิตวิทยาหยอกล้อเขาโดยจงใจจ้างฮ็อก  จากนั้นบีบบังคับสร้างปัญหายากลำบากบังคับให้ฮ็อกต้องทำเรื่องผิดพลาดน่าเกลียดเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ

คนที่เป็นคนจนนั้น บางครั้งฮ็อกก็รู้ว่าคนอื่นไม่จ้างงานง่ายขนาดนั้น และเพื่อประหยัดเงิน เขาเองต้องฝืนใจรับงาน

ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการร้านวันนี้เป็นหนึ่งในนั้น

เขาไม่ตั้งใจจะจ้างฮ็อก เพียงแค่หาวิธีจะทำให้ผู้คนลำบาก ในที่สุดเกือบส่งผลให้ร้านค้าตนเองต้องพังพินาศ

ภายใต้คำสบประมาทหยาบช้า ฮ็อกอดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นโศกนาฏกรรม!

หลังจากฮ็อกออกไปนอกประตู กันหลินคนงานในร้านเล็กๆ ในร้านเดียวกันรีบยัดถุงเงินผลึกแตกให้เขา

 “นี่คือเงินออมของเจ้ากับพี่สาวที่เก็บมานานกว่าสิบปี ทำไมกัน”  ฮ็อกไม่เคยรู้สึกว่ากระเป๋าเงินนั้นหนักขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มันหนักเกินไปจนเขาทำใจรับไม่ได้

 “พี่สาวบอกว่าเจ้าไม่ใช่คนพเนจรธรรมดา เจ้าเป็นคนดีมีอุดมการณ์ และไขว่คว้าหาโอกาส...  เจ้าแตกต่างจากเราที่เป็นสามัญชน  ในชีวิตของข้ามีพื้นฐานที่ต่ำต้อย และไม่มีอะไรเลย คาดว่าข้าจะไม่สามารถประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในชีวิตนี้ได้  ข้าได้คุยกับพี่สาวแล้วข้าควรมอบเงินผลึกแตกนี้ให้เจ้าซื้อหุ่นคู่หู เจ้าอาจออกไปจากเมืองเจียนกว่อในอนาคตและบรรลุเป้าหมาย บรรลุอุดมคติของเจ้าได้ ฮ็อก ข้า ข้าเป็นคนมืดบอดไม่มีความฝัน  ข้าหวังว่าเงินเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าไปถึงฝันของเจ้า  ข้า คงทำให้เจ้าได้เท่านี้”  กันหลินตัวผอมและขี้ขลาดเป็นคนเดียวที่พูดคุยกับฮ็อกได้  แต่ฮ็อกคิดไม่ถึงว่า เด็กหนุ่มขี้ขลาดนี้จะนำเงินออมทั้งหมดของครอบครัวมาเป็นเงินอุดหนุนเขาเอง

 “กันหลิน, นี่เป็นเงินออมทั้งหมดของเจ้า เจ้ามอบให้ข้า เจ้ากับพี่สาวของจะทำยังไง?”  ฮ็อกได้เห็นพี่สาวของกันหลิน เนื่องจากความบกพร่องอ่อนแอมาแต่กำเนิดของนาง  ทำให้นางล้มป่วยตลอดทั้งปี  นางเป็นสตรีตาบอด และเพราะตาบอดนางจึงทำงานได้เพียงเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยครอบครัว นอกจากนี้แล้วนางทำอะไรไม่ได้

ในที่สุดพี่สาวที่ตาบอดต้องคลำเชือกนำทาง ใช้มือน้อยๆ ตัดกรีดกระดาษทำงานมากมายกว่าจะได้เงินผลึกแตกนี้มาไม่ใช่หรือ

และกันหลินผู้นี้ก็ถูกผู้คนรังแกมาโดยตลอด

ไม่เพียงแต่ต้องทำงานที่หนักที่สุด น่าเบื่อหน่ายที่สุดเท่านั้น แต่ผู้จัดการร้านยังหักค่าแรง และด่าว่าเป็นวันๆ... เมื่อมองไปที่ไหล่บอบบาง มีริ้วรอยแผลถูกรัดด้วยเชือกเนื่องจากแบกของหนักมาอย่างยาวนาน  ดูใบหน้าที่บวมปูดจากการถูกทุบตีและสายตาที่มองอย่างจริงใจ แต่บ่งบอกถึงความสิ้นหวังในชีวิต  เมื่อมองเด็กหนุ่มร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนแอเนื่องจากไม่เคยกินอิ่มท้อง และมือของเขาไม่ทราบว่าต้องสะสมเงินผลึกแตกมานานเพียงไหน

ฮ็อกอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ

เขาเกลียดตัวเอง  ทำไมเขาไม่มีความสามารถทำให้สองพี่น้องนี้ได้มีชีวิตที่ดี  แต่กลับใช้เงินออมทั้งชีวิตมาสนับสนุนเขาแทน

 “เราชินเสียแล้ว อาหารมีหรือไม่นั่นไม่สำคัญ  ถึงเวลาก็ได้รับเงินเดือน เจ้าไม่ต้องกังวลเป็นห่วงเรา”  กันหลินหันกลับไปมองที่ร้านอย่างเสียใจ หลังจากยืนยันว่าผู้จัดการร้านยังไม่เก็บกวาด เขาพูดเบาๆ  “เราหวังว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จ  เจ้าอาจเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างในอนาคต จากนั้นให้ข้าติดตามเจ้า ข้าจะพยายามอย่างหนักเพื่อเจ้า รับรองไม่เป็นตัวถ่วงเจ้าแน่... พี่สาวกล่าวว่าเจ้าจะต้องประสบความสำเร็จ เพราะเจ้าเป็นคนกล้าหาญ!

 “แน่นอน” ฮ็อกเสียงสั่นเล็กน้อย  “ข้าจะต้องประสบความสำเร็จ!

 “ข้าต้องกลับไปทำงาน ไม่อย่างนั้นผู้จัดการจะตีข้าอีก”  กันหลินได้ยินเสียงสบถด่าดังมาจากในร้านจึงรีบอำลาฮ็อก

 “กันหลิน”  ฮ็อกอดตะโกนไม่ได้

 “ว่าไง?” เด็กหนุ่มขี้อายหันกลับมาอย่างแปลกใจ

 “รอข้า  ข้าจะกลับมาอีกแน่นอน!  ฮ็อกบีบถุงเงินผลึกแตกแน่น เขาต้องการสัญญากับเด็กหนุ่มสักร้อยครั้ง  แต่เขากลัวว่าถ้าเขาทำไม่ได้ จะทำให้เด็กหนุ่มผิดหวัง แต่แน่นอนว่าฮ็อกตั้งใจว่าไม่ว่าความสำเร็จของเขาจะเป็นยังไง เขาจะต้องกลับมาเปลี่ยนชีวิตและชะตากรรมของเด็กหนุ่มและพี่สาวของเขา

 “มาเลย ถ้าเจ้าประสบความสำเร็จ..”  กันหลินกลัวว่าเถ้าแก่ร้านจะได้ยินเสียงของเขา เขาลดเสียงอยู่ในระดับเบาที่สุด

ในเวลาเดียวกัน เขาโบกมือให้กำลังใจฮ็อก

เมื่อหลังของเขาหายลับเข้าไปในร้าน

ฮ็อกรู้สึกดวงตาร้อนผ่าว

เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะมีวันแบบนี้  วันที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากพี่น้องที่ไม่มีความแข็งแรงแม้แต่ระดับปราณดิน  ยิ่งกว่านั้น พี่สาวของเขายังเป็นคนตาบอดไร้ความสามารถป่วยติดเตียงตลอดทั้งปี

แต่จะแย่ยิ่งกว่าคือการไม่ยอมรับความปรารถนาดีนี้ หากความปรารถนาดีของพวกเขาสูญเปล่า ก็จะต้องทำให้พวกเขาอับอายมากขึ้น เวลาแห่งความสำเร็จจะยิ่งห่างไกลออกไป  การกลับไปเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องคู่นี้จะต้องล่าช้าออกไปอีก ถ้าเทียบน้ำหนักของทั้งสองคนและฮ็อกผู้เป็นนักสู้ปราณราชันย์ระดับห้ายังต้องก้มหัวให้สองพี่น้องนี้  เขาต้องการเงิน เขาต้องการเงินผลึกแตกนี้ไปเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขา

สมาคมหุ่นอสูร

ฮ็อกใช้เงินออมทั้งหมด จำนำของทุกอย่างที่จำนำได้

ในที่สุดเขาซื้อหมาป่าเหล็กที่ระดับไม่ถึงชั้นบรอนซ์มาหนึ่งตัว

อสูรหุ่นแบบนี้ ถ้าอยู่นอกหุบเขามนุษย์ เขาคงแค่นเสียงบ่นว่าอ่อนแอ งี่เง่า  หลังจากเขาใช้เงินผลึกแตกชิ้นสุดท้ายในมือออกไปแล้ว เขาจะร่อนเร่ชั่วคราว ไม่ได้กินอาหารสามมื้อต่อวัน แต่ฮ็อกยังดีใจที่มีหุ่นอสูรได้ในที่สุด

ด้วยหุ่นอสูรนี้ เขาสามารถสู้ สามารถรับภารกิจทหารรับจ้างเพื่อหาเงิน หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่ง นี่เป็นก้าวเล็กๆ ในหนทางสู่ความสำเร็จ

 “ไม่เลวนี่ เจ้าปืนภูเขา มีหุ่นอสูรกับเขาด้วย  โอว..ดี วันนี้ปลาเค็มจะเปลี่ยนไปหรือไม่?”  เสียงเสียดสีดังขึ้นข้างหลังฮ็อก  จากนั้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งริมฝีปากแบน จมูกเรียวแหลม มีคนตาโตสามคนรายล้อม เขาเดินเข้ามาหา และส่งเสียงเยาะเย้ยฮ็อกและตะคอก

 “เฮอะ!  ถ้าไม่ใช่เพราะนี่อยู่ในหุบเขามนุษย์ฮ็อกคงฆ่าเจ้าพวกนี้ทันที  แต่ตอนนี้เขาทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้

คนผู้นี้เป็นญาติของเจ้าเมืองเจี้ยนกว่อ

เขาเป็นลูกของญาติเจ้าเมืองเจี้ยนกว่อ

มีชื่อว่าโมบาเป็นเด็กหนุ่มสูงศักดิ์ที่อายุน้อยที่สุดชอบรังแกคนอ่อนแอในเมืองเจี้ยนกว่อ ตามปกติแล้วเขาชอบรังแกกลั่นแกล้งฮ็อกสามัญชนที่ไม่ยินยอมพร้อมใจ และสนุกกับการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีผู้อื่น!

 “เจ้าคนชั้นต่ำ  เจ้าควรเป็นสามัญชนที่เชื่อฟังขุนนาง เจ้าควรจะเชื่อฟังและขายชีวิตให้กับพวกเราขุนนาง  แต่ทาสสุนัขอย่างเจ้ามันน่ารำคาญที่สุด!  ก็ได้ เจ้าต้องการพลิกฐานะตัวเองไม่ใช่หรือ?  เราคุณชายจะให้โอกาสเจ้า!  โมบาขุนนางน้อยหยิบม้วนสาส์นท้าประลองออกมาอวด

มีแสงแปลกประหลาดเปล่งออกมา

เชื่อมร่างฮ็อกกับเขา

นี่คือสาส์นท้าประลองที่ทั้งสองตกลงเห็นด้วยกับการประลอง และจะถูกเชิญเข้าสู่การประลองที่ไม่ทำร้ายชีวิตทันที

สีหน้าของฮ็อกเปลี่ยนไป เขาต้องการหนีออกมาจากสมาคมหุ่นทันที  อย่างไรก็ตามอาการสนองตอบนี้สายเกินไปอสูรหุ่นของผู้ติดตามทั้งสามรายล้อมหมาป่าเหล็กของฮ็อกไว้

ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะขัดขืนหุ่นสุนัขเงินและหุ่นหมูป่าบรอนซ์ และฮ็อกมีแค่หมาป่าเหล็กเท่านั้น

ไม่ต้องพูดถึงสู้สี่ต่อหนึ่ง แม้สู้ประลองตัวต่อตัวอสูรหุ่นตัวใดตัวหนึ่งก็ทำร้ายหมาป่าเหล็กได้

 “เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เคยเห็นด้วยกับคำท้าประลองของเจ้า”  ฮ็อกหมดหวังในใจแทบเป็นบ้า กันหลินและพี่สาวอดออมเงินผลึกแตกมามากกว่าสิบปี การลงทุนซื้อหุ่นอสูรของเขากำลังจะล้มละลาย  หุ่นหมาป่าเหล็กแบกความหวังทั้งหมดของเขาและความหวังของกันหลินกับพี่สาวจะมิกลายเป็นกองเศษเหล็กในหนึ่งนาทีหรือ...

 “สัญญาการทำงานระยะสั้น ด้วยลายมือของเจ้าไง ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าฉลาดมากไม่ใช่หรือ?  ยังไงกฎก็ถูกใช้โดยข้า  และเจ้าก็เช่นกัน เจ้ามีความหวังอะไรบ้าง?  เจ้าถูกกำหนดให้เป็นบริวารไปทั้งชีวิต นี่คือชะตากรรมของเจ้าที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้  การต่อต้านและขัดขืนของเจ้าเป็นเรื่องตลก”  โมบาหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง  เขาชอบทำลายความฝันของผู้อื่น ยิ่งคนอื่นเจ็บปวดมากขึ้น  ศักดิ์ศรีถูกย่ำยีมากขึ้น อุดมการณ์พังทลายมากขึ้น เขายิ่งมีความสุขพอใจมากขึ้นเท่านั้น

 “เจ้า....”  ฮ็อกถลึงตามอง เขาไม่เคยเกลียดใครมากเท่านี้มาก่อน

 “เจ้าโกรธไปจะมีประโยชน์อะไร? เจ้าจะกัดข้างั้นหรือ? มีฝีมือก็มาเหยียบข้าไว้ใต้เท้าได้เลย  มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่  ข้าจะต้องเรียนรู้วิธีเห่า เจ้าจะได้มีความสุข  แต่น่าเสียดายตอนนี้เจ้านั่นแหละเป็นเหมือนสุนัขให้ข้าเหยียบย่ำไว้ใต้เท้าเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง!  ต้องการให้ข้าคุณชายสงสารเจ้าไหม?  คุกเข่าลง และขอความกรุณาคุณชายผู้นี้  บางทีเจ้าอาจได้กระดูกไปแทะสักชิ้น!  โมบาล้อเลียนฮ็อกที่โมโหแทบบ้า  ยิ่งอีกฝ่ายเจ็บปวดเขายิ่งพอใจ

 “คุณชาย แล้วกันหลินกับนังเด็กตาบอดจะทำยังไง?”  มีผู้ติดตามคนหนึ่งถาม

 “ผู้ชายโยนเข้าคุกดำ ยัดข้อหาว่าเป็นขโมย ปล่อยให้มันติดอยู่ในคุกดำตลอดชีวิต  ส่วนนังพี่สาวตาบอดผอมเกินไป เหลือแต่กระดูก เล่นไปก็ไม่มีความหมาย  ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ จับโยนลงรูหนูให้ไปทำงานเหมือง เจ้าว่าอะไรนะ? นางไม่สามารถขุดเหมืองได้?  ฮ่าฮ่าฮ่า   ข้าแค่ต้องการให้นางขุดเหมืองและหากินเหมือนหนู ให้นางใช้มือกับเท้าช่วยกำจัดหนู มันสนุกที่ยังฝันว่าพวกเจ้ายังอยู่ไม่ใช่หรือ?” โมบาตะโกนใส่ฮ็อก และฮ็อกที่อยู่ข้างหน้าเขา ใช้กำปั้นทุบอกจนซี่โครงตนเองแทบหัก

 “เจ้ากล้าหรือ?”  ฮ็อกเกลียดจนแทบระเบิดอารมณ์ เลือดของเขาหยาดหยดจากตา

 “ยังมีใจกล้าต่อต้านอีกหรือ? ฮะฮ้า อย่างนี้ก็สนุก!  โมบาเหยียดขาถอดรองเท้าและถุงเท้าออกมองเห็นเท้าที่สกปรกและเห็นอับ  เขาเยาะเย้ยล้อเลียน  “มาหาข้าและเลียนิ้วเท้าข้า มิฉะนั้นข้าจะให้หุ่นอสูรข่มขืนนังผู้หญิงตาบอดสักร้อยครั้ง  เล่นตั้งแต่บนยันล่าง”

 “เลีย เลีย เลียเข้าไป และต้องให้ง่ามนิ้วเท้าสะอาด!  สมุนสามคนตะโกนร้องพร้อมกัน

 “ไม่, นังผู้หญิงตาบอดนั่นจะต้องถูกข้าฆ่าในอีกไม่ช้า”  ตาของโมบาหรี่แคบเหมือนเขี้ยวอสรพิษเป็นประกายชั่วร้าย

 “ข้าจะต้องฆ่าเจ้า..” ฮ็อกเสียสติด้วยความโกรธ  เขามีความคิดยอยู่เพียงอย่างเดียวในใจคือต้องฆ่าเจ้าคนชั่วร้ายที่อยู่ข้างหน้าเขา  ไม่ว่าจะดีจะร้าย เขาต้องฆ่าเจ้าผู้นี้ให้ได้

 “นั่นคือสิ่งที่เจ้ากำลังฝันกลางวัน!  ความฝันเป็นเรื่องยอดเยี่ยม  แต่เมื่อตื่นขึ้นจะพบความจริงที่โหดร้าย!  ฮ่าฮ่าฮ่า  ในความเป็นจริง เจ้าไม่อาจทำร้ายข้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม  แต่มันเป็นโชคชะตาที่ต้องถูกข้าทำลายไปตลอดชีวิต ครอบครัวและมิตรสหายทั้งหมดของเจ้าจะกลายขี้โคลนให้ข้าเหยียบย่ำ เพราะเจ้าไม่สามารถทำอะไรได้ นี่คือชะตากรรมของเจ้า!  โมบาได้ยินเสียงแค่นแล้วไม่เคยกลัว

 “เขาไม่สามารถฆ่าเจ้าได้  อย่างนั้นข้าล่ะ?”  ขณะนั้นมีเสียงชัดดังมาจากประตูทางเข้าสมาคมหุ่นอสูร

จากนั้นมีขุนนางชั้นสูงสวมหน้ากากเงินอย่างดีรายล้อมไปด้วยองครักษ์สิบคน

เดินก้าวเข้ามา

เขาไม่สนใจโมบาที่มีสีหน้าประหลาดใจ และไม่สนใจทุกคนรอบตัวเขา

และเดินตรงมาหยุดอยู่หน้าฮ็อกที่กำลังสิ้นหวัง และยิ้มสดใสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ “เจ้าเป็นคนของตระกูลไตตันที่ยิ่งใหญ่ นี่คือฮ็อก ลูกพี่ลูกน้องข้าซึ่งห่างเหินไปจากตระกูลไตตันหลายปี  เขาต้องพเนจรหลงทางอยู่ข้างนอก  หลังจากพบกับความขมขื่น ในที่สุดความหวานชื่นก็กลับคืนมา ในที่สุดข้าก็พบเจ้าจนได้  สิงโตเหล็ก!  มอบตราประจำตัว เครื่องแบบ หุ่นรบระดับทองให้ฮ็อก  แม้ว่าเขาจะพลัดหลงไปหลายปี แต่ข้ายังจำได้ ที่สำคัญคือนี่คือสมาชิกตระกูลไตตันที่มีเกียรติของข้า  ยังไงเราจะไม่ยอมให้ตระกูลไตตันของเราเสียหน้าแน่นอน”

ฮ็อกตาเบิกค้างจ้างมองอย่างไม่เชื่อสายตา

แต่เขารู้สึกตัวได้เร็ว

ตอนแรกเขาเลียริมฝีปากดูเหมือนอยากหัวเราะ  แต่น้ำตากลับไหลหยดลงพื้นอย่างข่มกลั้นไม่ได้

เจ้าปราสาทผู้สวมหน้ากากเงินงดงามหัวเราะ เขายิ้มสดใสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์  เหมือนกับส่องลึกลงไปในหัวใจของผู้คน

ฮ็อกคว้าคอเสื้อของขุนนางหน้ากากเงินนั้นเค้นเสียพูด  “ถ้ามีคนทำร้ายชื่อเสียงเกียรติยศของตระกูลไตตันเราล่ะ?”

เจ้าปราสาทหน้ากากเงิน เหมือนกับว่าออกคำสั่งและตอบอย่างเฉยเมย  “ใครก็ตามกล้าทำเช่นนั้น อย่างนั้นก็ฆ่าเขา  ตระกูลไตตันเรา จะไม่ยอมให้ใครท้าทายได้!

 “ดี, เจ้าบัดซบนี่เป็นของข้า  ใครบังอาจคว้ามือข้า ข้ากำลังรีบ”  สิงโตเหล็กสวมปลอกข้อมือทองให้ฮ็อก  และฮ็อกไม่รีรอ เรียกหุ่นสิงโตระดับทองออกมา จากนั้นตรงไปหาโมบาที่พบว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป  “เจ้ามันตัวบัดซบ เจ้าต้องการประลองกับข้าไม่ใช่หรือ? ได้เลย ได้ตามที่เจ้าปรารถนา!

7 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

โอ้ยกำลังมันเลย555

Popcorn กล่าวว่า...

ตายแน่ๆคุณโมบาย ไปขายโทรศัพท์ซะดีๆ

BJ กล่าวว่า...

ค้าง

สายฟรี กล่าวว่า...

สังสัยนานละยิ้มสดใสยิ่งกว่าดวงอาทิต
บักหยาง ใส่หน้ากากเต็มใบหรือครึงใบ
แล้วถ้าครึงใบจะซ้ายหรือขวาหรือจะบนหรือล่าง

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

zen zen กล่าวว่า...

น่าจะครึ่งใบด้านบนเพราะไอ่หยางมันเหลือค่างล่างเอาไว้ยิ้มเยาะเย้ยคนอื่น

chay กล่าวว่า...

555 ถูกต้องใช่เลย

แสดงความคิดเห็น