วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1086 นี่คือความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับเทพหรือ?



ตอนที่  1086  นี่คือความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับเทพหรือ?

เมืองทรายแดง


เริ่นเทียนเกอและบัณฑิตตาเงินเพิ่งรับภารกิจรับจ้างสำเร็จและออกมาจากสมาคมทหารรับเจ้าง

แม้ว่าภารกิจจะสำเร็จสมบูรณ์ เริ่นเทียนเกอรับผิดชอบเก็บรวบรวมสมุนไพรเก็บเกินเป้าหมายถึงสองระดับ  แต่นักธุรกิจเจ้าเล่ห์ไม่ได้เพิ่มรางวัลให้ แค่บอกว่า จ่ายค่าตอบแทนทั้งหมดตามสัญญา ให้เริ่นเทียนเกอ

 “ภารกิจนี้ใช้เวลาแปดวัน แต่ได้ผลเก็บเกี่ยวเพียงสามผลึกสวรรค์”  เริ่นเทียนเกอรู้สึกว่าค่าแรงนี้ถูกเกินไป  เป็นทหารรับจ้างไม่ใช่เรื่องง่าย

 “ถ้าเจ้ารู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นมีระดับราคาอย่างน้อยห้าร้อยผลึกสวรรค์ เจ้าจะผิดหวังยิ่งขึ้น”  บัณฑิตตาเงินยิ้มเล็กน้อย เขาไม่ใส่ใจเริ่นเทียนเกอที่หยุดเดินดื้อๆ

 “ทำไม?” เริ่นเทียนเกอไล่มาทันเขาและตะโกนถาม  “เจ้ารู้ว่ามีค่ามาก ทำไมไม่บอกข้า?  สำหรับมูลค่าห้าร้อยผลึกสวรรค์ เราเสียใจกับผลของมัน แม้ว่าภารกิจล้มเหลวก็แค่ชดเชยให้อีกฝ่ายสำหรับความผิดพลาด  ค่าปรับเราสามารถชำระคืนได้อย่างสมบูรณ์  พระเจ้า! นั่นคือเงิน 500 ผลึกสวรรค์ ทำไมข้าถึงต้องมอบให้เจ้าอ้วนที่ไร้ประโยชน์นั่น”

 “เพราะกำลังทำตามคำสั่งของหุบเขามนุษย์”  บัณฑิตตาเงินไม่ใส่ใจ

 “ข้าเข้าใจว่าเจ้าหมายถึงอะไร  ถ้าเจ้าเป็นนายจ้างที่ปฏิบัติตามกฎ เราสามารถทำสิ่งนี้ได้แน่นอน แต่เจ้าอ้วนขี้เหนียวไม่ได้ทำตามกฎก่อน มีบทบัญญัติชัดเจนว่าหากงานเสร็จสมบูรณ์ นายจ้างควรให้รางวัลพิเศษที่สมควรแก่เหตุผล... แต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ได้ทำเลยทั้งที่จ้างงานเราถึงสามครั้ง แต่เขาจะจ่ายให้ตามสัญญาที่ไม่เป็นธรรม  รู้ไหมว่าเราเป็นเพียงทหารรับจ้างเล็กน้อย เพื่อแสวงหาโอกาสของชีวิต เป็นไปไม่ได้ที่จะไปต่อรองกับพวกเขา!  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ปฏิบัติตามกฎเลย แม้แต่การกำหนดในสัญญา การแสวงหาประโยชน์ที่ไม่สมเหตุสมผลเพื่อรังแกเราและใช้ประโยชน์จากแรงงานของเรา  คนอย่างพวกเราต้องคุยกับพวกเขาเรื่องความน่าเชื่อถือหรือไม่?  ไม่เลย คนที่หากำไรจะรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะทำงานกับเรา  และเราทำเช่นนี้พวกเขาจะไม่เห็นคุณค่าเลย  พวกเขาเพียงแค่ไม่เข้าใจความรู้สึกขอบคุณ”  เริ่นเทียนเกอตวาดด้วยความโมโห

 “เจ้าพูดถูก ใช่แล้ว พวกเขาเป็นคนที่ไม่ทำตามกฎ แต่เราจะเป็นอย่างพวกเขาหรือเปล่า?”  บัณฑิตตาเงินส่ายหน้า  “เราเป็นคนเกิดใหม่ อยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝน ไม่ใช่เพื่อทำเงิน จำนวนเงินนั้นไม่สำคัญเลย สิ่งที่เราต้องการก็คือการเปลี่ยนแปลงในหุบเขามนุษย์และผ่านการทดสอบ”

 “โอว..ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าไม่ถูก” เริ่นเทียนเกอไม่เคยสงสัยบัณฑิตตาเงิน  แต่ความจริงคือเขาหงุดหงิดมากกว่า

พอเดินไปได้ชั่วครู่

เริ่นเทียนเกอถอนหายใจเบาๆ  “ถ้าเรามีสักห้าร้อยผลึกสวรรค์ อย่างนั้นเราจะสามารถซื้อของได้หลายอย่าง  และเราจะสามารถสร้างห้องปฏิบัติการค้นคว้าวิจัยหุ่นรบและหุ่นอสูรของเรา  นอกจากนี้ฮ็อกกำลังมีชีวิตที่แย่ลำบาก  ข้าเกรงว่าเขาจะเอาตัวไม่รอด  ถ้าเรามีสักห้าร้อยผลึกสวรรค์  ข้าเชื่อว่าฮ็อกไม่ต้องกล้ำกลืนทำงานหนักหาเงินอีกต่อไป มันยากลำบากสำหรับเขา...”

บัณฑิตตาเงินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ถูกแล้ว เป็นเรื่องทรมานจริงๆ ที่ทำให้ฮ็อกต้องทำงานหนัก  อย่างไรก็ตามที่คือวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของหุบเขามนุษย์!  เมื่อมาถึงที่นี่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็จะต้องทนทุกข์ทรมานและจะต้องลองพบรสชาติของชีวิตทุกชนิดในโลกเพื่อที่เราจะได้เข้าใจถึงความยากลำบากในการเป็นมนุษย์และจะจดจำทุกอย่างที่เรามีในอนาคต  คนที่แข็งแกร่งสามารถรับเงินและตำแหน่งอย่างง่ายดาย แต่ถ้าเจ้าไม่เข้าใจวิธีถนอมหรือเข้าใจคุณค่าของวัตถุ ไม่ว่าจะได้มามากมายเพียงไหน ชีวิตก็จะไม่มีความสุข  นั่นคือการทำความเข้าใจค่านิยมของพวกเขาทั้งหมด ไม่ใช่เข้าใจสิ่งที่เรามี  เรามาที่นี่ ต้องปล่อยวางสถานะสุดยอดนักสู้ ไปสัมผัสบุคคลระดับต่ำต้อยทำความเข้าใจด้วยตัวเองกับสิ่งเหล่านี้  รวมทั้งค่านิยมของเจ้า ขอบเขตอุดมการณ์ของเจ้าด้วยวิธีนี้  ในอนาคตแม้ว่าเจ้าจะออกจากหุบเขาไปแล้ว เจ้าจะเข้าใจคุณค่า ความต่ำต้อยและขอบคุณทุกชีวิตมากกว่าที่จะเป็นราชาโดดเดี่ยวดูแคลนทุกชีวิต และอยู่อย่างไม่มีความสุขแม้แต่น้อย”  

เริ่นเทียนเกอฟัง

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่านัยของการก่อตั้งหุบเขามนุษย์จะเป็นเช่นนี้

ไม่น่าแปลกใจที่เด็กอย่างเย่ว์หยางมีเงื่อนไขที่ดีที่สุดอย่างชัดเจน  ไม่ได้มีการแลกเปลี่ยน แต่ได้รับมรดกที่มารดาตกทอดให้  แน่นอนว่าเขากับบัณฑิตตาเงินคนฉลาดเหล่านี้มาหุบเขามนุษย์เพื่อสัมผัสกับชีวิต ไม่ใช่เพื่อกอบโกยให้หุบเขามนุษย์

เสียงฝีเท้าของบัณฑิตตาเงินค่อยชะลอลง “ในสายตาของคนธรรมดา เทพ อาจจะอยู่สูงเหนือพื้นโลก เต็มไปด้วยรัศมีความรุ่งเรืองศักดิ์สิทธิ์  แต่ในจิตใจของสุดยอดฝีมือ นอกเหนือไปจากพลังอันน่าเหลือเชื่อ เทพนั้นโดดเดี่ยว  เพราะพวกเขาจินตนาการว่าเทพจะต้องละทิ้งทุกอย่างในโลก ก่อนที่พวกเขาจะบรรลุไปถึงสถานะเทพ ความคิดทั้งสองนี้มีอคติจริงๆ   ข้าสงสัยว่าเทพอาจเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดที่มีความเข้าใจผู้คนว่าพวกเขาลำบากเพียงไหน โชคร้าย เศร้าโศก  พวกเขาเข้าใจทั้งหมด  ทำไมเทพถึงไม่ช่วยเหลือมนุษย์คนอื่นที่ต้องทนทุกข์ทรมาน?  เพราะพวกเขาต้องการให้มนุษย์ลุกขึ้นยืนหยัดสู้กับความยากลำบาก เอาชนะความทุกข์ยาก เอาชนะตนเอง ผ่านความยากลำบากไปได้ด้วยตนเอง ก้าวสู่ขอบเขตเทพที่ปราศจากทุกข์ทรมาน แทนที่จะเพลิดเพลินจมอยู่ในโลก ไม่ว่าโลกจะสุขหรือทุกข์เพียงใด ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปจากชีวิตและความตายได้ ไม่สามารถหนีจากจุดจบโศกนาฏกรรมได้  เราจะไปกำจัดความโชคร้ายของมนุษย์ได้อย่างไร? นั่นคือการก้าวไปสู่ขอบเขตของเทพ อาณาจักรของเทพ และเป็นเหตุผลที่ต้องตั้งวัตถุประสงค์ไว้ในหุบเขามนุษย์”

 “ไม่เพียงแต่หุบเขามนุษย์เท่านั้น  แต่ทั่วทั้งมิติด่านฝึกฝีมือนี้ก็มีการทดสอบเช่นนั้น  มหาเทพยุคโบราณได้สร้างพื้นที่มิติฝึกฝีมือไว้ ไม่เพียงแค่ทำให้ผู้คนแข็งแกร่ง  แต่ยังทำให้คนหลุดพ้นจากความโชคร้ายเลื่อนระดับไปเป็นเทพ  แน่นอนว่าตราบใดที่เข้าใกล้ระดับเทพ เจ้าก็จะแข็งแกร่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่คนจำนวนมากมองสิ่งนี้และเข้าใจผิด” คำอธิบายของบัณฑิตตาเงินทำให้เริ่นเทียนเกอได้ยินแล้วถึงหลั่งเหงื่อ

 “ในเมื่อเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ ทำไมเจ้าไม่ทำด้วยตัวเอง?  ต้องบอกข้าด้วยหรือ?”  เริ่นเทียนเกอรู้สึกว่าเขามีความเข้าใจและความสามารถเช่นนี้ จะสามารถเลื่อนเป็นระดับเทพได้

 “ความจริง ข้าก็เหมือนกับเจ้า” บัณฑิตตาเงินยิ้ม  “ข้าเข้าใจว่าสายเกินไป และต่อให้ข้าเข้าใจ ข้าก็ไม่สามารถทำได้  ต้องเป็นคนที่มีความเข้าใจและความสามารถที่แข็งแกร่ง จึงจะตอบสนองความประสงค์ของมหาเทพโบราณได้อย่างสมบูรณ์”

 “มันทำให้ข้าโล่งใจที่จะพูดเรื่องนี้  ข้าเห็นว่าข้าสมควรเป็นคนธรรมดามากกว่านี้  ข้าไม่สามารถแบกรับความรับชอบที่หนักหน่วงแบบเทพได้” เริ่นเทียนเกอหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

เขากลัวจริงๆ ว่าบัณฑิตตาเงินจะบอกว่าเขาเป็นคนเช่นนั้น และเขาควรทำตามมาตรฐานในระดับสูงขึ้น

เลื่อนเป็นระดับเทพ อาจกล่าวได้ว่าสำหรับเริ่นเทียนเกอนี่คือความฝันของเขามาตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตามเริ่นเทียนเกอฝันว่าเขากลับไปใช้ชีวิตตามมาตรฐานของการเป็นเทพ เขาคงยืนหยัดไม่ได้หากไม่มีความเข้าใจระดับสูงและมีความตั้งใจที่แน่วแน่  เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำได้  ถ้าเขายังฝืนทำไป เขาอาจเป็นบ้าก็ได้!  ความฝันแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น มันเป็นแรงบันดาลใจที่มีความสนุกที่สุดในชีวิตอยู่แล้ว

ทันทีที่สำเร็จในบัดดล กลับไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ!

บัณฑิตตาเงินได้ยินก็หัวเราะลั่น  “ข้ายังไม่เข้าใจเจ้าน่ะหรือ?  ในความเป็นจริง ข้าขอบอกว่าตอนนี้ข้ากลัวว่าเจ้าจะรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นคนอื่นเลื่อนระดับก้าวหน้าในอนาคต ระดับเทพไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถไล่ตามได้ แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดี ข้าไม่ดีพอ เจ้าไม่ดีพอ  ถ้าจะทำได้ก็ต้องมีมากกว่าที่ข้ารู้ การรู้แจ้งได้เร็ว ไม่ว่าในแง่ของความรู้ ภูมิปัญญา ความเข้าใจ ความสามารถและอื่นๆ พวกเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบ เป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษถึงจะเป็นไปได้!  คนแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ของตนเองหรือทุกข์ของคนอื่น ไม่ว่าในชีวิตตนเองหรือชีวิตคนอื่น ไม่ว่าในการต่อสู้ของตนเอง หรือการต่อสู้ของผู้อื่น ก็สามารถเข้าใจในหลักการเรื่องเหล่านี้ เรียนรู้แนวคิดและความเชื่อของตนเอง จากนั้นตกผลึกเป็นแนวความคิดของตนเอง  พิจารณาดูจากบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา  สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ไม่ว่าด้วยกำลังใดๆ รวมทั้งความช่วยเหลือจากพลังภายนอก ที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้  ต้องเป็นความสำเร็จของเขาเองจึงจะอยู่เป็นนิรันดร์  ทำไมคนเราอ่อนแอ  มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะได้รับการเลื่อนระดับในขอบเขตระดับเทพ  ด้วยเหตุผลว่าพวกเขาอาจใช้สติปัญญาที่ยิ่งใหญ่ดำเนินการอย่างยากลำบากที่สุดที่จะไปให้ถึงระดับเทพโดยตรง  แต่จุดนี้คือสิ่งที่เผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังน่ากลัวอื่นๆ  ไม่สามารถฝันถึง และมีความหวังเลื่อนไปถึงระดับเทพ  ไม่ว่าอสูรศึกเผ่าพันธุ์ไหนที่เดินทางมาถึงหุบเขามนุษย์ เมื่อถึงบทหนึ่ง บุคคลผู้มีประสบการณ์ชีวิต มีความเข้าใจชัดเจนว่าชีวิตคืออะไร  ทำไมพฤติกรรมการฝึกฝนจึงทำให้ก้าวไปสู่ระดับเทพได้อย่างแท้จริง”

เริ่นเทียนเกอหลับตาแน่น และรู้สึกประทับใจ

เหตุผล ความจริงก็เป็นเช่นนี้

ในขณะนั้นเขารู้สึกภูมิใจในเผ่าพันธุ์มนุษย์ และประทับใจอย่างยิ่งกับการเป็นมนุษย์

มนุษย์เป็นพวกที่อ่อนแอที่สุด  แต่ทุกชีวิตต้องเป็นเหมือนมนุษย์ เฉพาะจากผู้อ่อนแอที่สุด เจ็บปวดที่สุด ลำบากที่สุดเท่านั้น สามารถก้าวไปสู่ขอบเขตอาณาจักรสูงส่งได้  ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีพลังที่แข็งแกร่ง เป็นเพียงชีวิตที่น่าสงสาร และไม่มีทางเกี่ยวข้องกับชีวิตนิรันดร์ ไม่มีทางได้ชีวิตนิรันดร์

 “ไปหาฮ็อกกับชิงหมอกันเถอะ!  ตอนนี้เราตระหนักถึงสัจธรรมของหุบเขามนุษย์แล้ว เราควรจะบอกพวกเขา ให้พวกเขาหยุดยั้งไม่นอกลู่นอกทางโดยไม่จำเป็น  ตั้งแต่มาถึงที่นี่เพื่อสัมผัสกับชีวิต   ความขมขื่นและความสุขก็ไม่สำคัญอีกต่อไป”  เริ่นเทียนเกอหัวเราะเสียงดัง  ตอนนี้เขารู้สึกว่าความซึมเศร้าของการมาถึงหุบเขามนุษย์ถูกกวาดออกไปจากอก ราวกับห้องโถงที่กว้างขวางขึ้น พร้อมจะรองรับสิ่งต่างๆ ได้นับไม่ถ้วน

 “เจ้าคิดว่าการรับรู้ของฮ็อกจะเป็นเหมือนกับเจ้าหรือไม่?”  บัณฑิตตาเงินส่ายหน้าเบาๆ “ข้ารู้สึกว่า เขาจะต้องเจอทุกอย่างที่เป็นเรื่องโน้มน้าวใจ  มิฉะนั้นเขาคงจะไม่พอใจ และไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆ ทั้งนั้น  ถ้าฮ็อกรวยขึ้นมาในเวลานี้ เขาอาจไม่รู้จักคิด  แต่ตอนนี้เขาจน ต้องให้เขาเข้าใจถึงความทุกข์ยากลำบากอีกสักเล็กน้อย”

 “ถ้าอย่างนั้นเราก็เข้าใจความเป็นจริง... ดูเด็กคนนั้น!  เริ่นเทียนเกอแทบรอพบเย่ว์หยางไม่ได้ เพื่อดูการแสดงออกของเขา

 “อย่าเลย, เจ้านึกว่าเจ้าเด็กนั่นจะตระหนักรู้ได้ช้ากว่าข้าไหม?  เด็กหนุ่มนั่นคือความคงอยู่ที่เราตรวจดูได้ยาก!  บัณฑิตตาเงินถอนหายใจเบาๆ ทันที  “เป็นเพราะทางเลือกของเขา ข้าเองก็สงสัย ข้าเองต้องการจะเข้าใจ  เจ้าบอกว่าความเข้าใจของเขาจะช้ากว่าข้าอีกหรือ?  บางที เขาไม่ทันเข้าหุบเขา  เขาก็เข้าใจหมดแล้ว!

 “อะไรนะ?”  เริ่นเทียนเกอหลั่งเหงื่อเยียบเย็น  เจ้าเด็กไตตันไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ?

 “ไม่เป็นไร, ไปหาเขาเถอะ  อย่างน้อยฮ็อกก็ต้องการความช่วยเหลือจากเขาเป็นอย่างมาก  เมื่อฮ็อกตั้งหลักได้ แล้วค่อยมาดูกันว่าในหุบเขามนุษย์ เราจะช่วยเจ้าได้อย่างไร!  บัณฑิตตาเงินกลับคืนสู่สภาพบัณฑิตผู้ฉลาด ปากของเขามีรอยยิ้ม เป็นยิ้มที่มาจากใจ

เมื่อเริ่นเทียนเกอเตรียมกลับไปที่เมืองเจี้ยนกว่อ

ข้างหน้าเขามีคนผู้หนึ่งกำลังรอพวกเขาอยู่

เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีสวมชุดทหารรับจ้างธรรมดา

กำลังรอให้เริ่นเทียนเกอพูดเสร็จ  เขารีบพูดอย่างเป็นพิธีการ  “สองท่านคือเริ่นเทียนเกอและบัณฑิตตาเงินใช่ไหม?  ข้าคือเหวินซินบริวารประจำปราสาทไดมอนด์สตาร์ ท่านเจ้าปราสาทสั่งให้ข้าเหวินซินมารอท่านทั้งสอง”

เริ่นเทียนเกอตะลึง  เจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์รู้จักเขาด้วยหรือ?

เขารู้สึกตัวทันที  ต้องเป็นเจ้าเด็กไตตัน!

ยังไม่ทันถามว่าเกิดอะไรขึ้น เหวินซินหยิบปลอกข้อมือทองออกมาจากตัว  “นี่คือปลอกข้อมือทองที่ท่านเจ้าปราสาทมอบให้ท่านทั้งสอง  และนี่ผนึกหุ่นรบอสูรชั้นทอง ท่านเริ่นเทียนเกอได้รับราชสีห์ทอง และงูเขาทองเพื่อสู้ทางน้ำ  ท่านบัณฑิตตาเงินได้รับหุ่นแมมม็อธทองและหุ่นฉลามเสือทองเพื่อรบทางน้ำ ทั้งสองท่านโปรดรับไว้ด้วย นอกจากนี้ ท่านเจ้าปราสาทสั่งข้าเหวินซินให้ส่งจดหมายนี้กับท่านบัณฑิตตาเงิน”

หลังจากนั้นทหารรับจ้างหนุ่มฉีกชุดและดึงจดหมายที่ถูกห่อไว้อย่างดีออกมาน้อมมอบให้บัณฑิตตาเงินด้วยความเคารพ

 “ข้าทำงานอย่างหนักมาเกือบสามเดือน ได้แค่หุ่นอสูรหินดำที่ยังไม่ถึงระดับบรอนซ์ด้วยซ้ำ แต่ที่ส่งมาให้ข้านี่มันคือหุ่นรบระดับทอง  เจ้าเด็กนี่ต้องการให้ข้าละอายใจจนฆ่าตัวตายหรือไง?”  เริ่นเทียนเกอสวมปลอกข้อมือทอง และเขาค้นพบระบบทำงานพิเศษของหุ่นรบของเขาทันที ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก เรื่องประหลาดใจครั้งใหญ่นี้แทบจะทำให้เขาล้มทรุดทันที  ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ต่อหน้าเหวินซินทหารน้อย  คงจะไชโยโลดเต้นโดดตัวลอยเป็นการระบายความอัดอั้นในใจของเขา  หุ่นรบทองที่เริ่นเทียนเกอได้รับ คาดว่าด้วยกำลังซื้อของเขาคงต้องเก็บออมเงินสักร้อยปี

 “ข้าได้รับจดหมายแล้ว โปรดกลับไปบอกเจ้าปราสาทเจ้านายของเจ้า บอกว่าเราจะไปตรงเวลาแน่”  บัณฑิตตาเงินอ่านจดหมายแล้วและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

ทหารหนุ่มเหวินซินเรียกหุ่นหมาป่าระดับเงินเตรียมจะขับขี่ออกไป

 “รอเดี๋ยว” เริ่นเทียนเกอรั้งตัวเขาไว้  “ข้าอยากรู้ เจ้านายของเจ้าส่งคนไปที่เมืองเจี้ยนกว่อหรือเปล่า?  เรามีสหายอยู่คนหนึ่ง”

 “ท่านหมายถึงท่านฮ็อกใช่ไหม?”  เหวินซินพูดด้วยความเคารพ  “เพราะข้าได้ยินเรื่องท่านฮ็อก เจ้าตำหนักให้ความสำคัญกับเขาอย่างยิ่ง  เขาพาคนไปหาท่านฮ็อกแล้ว คาดว่าท่านฮ็อกคงพบท่านเจ้าปราสาทแล้ว  โปรดอย่ากังวล นอกจากนี้ เรามีพี่น้องอีกหลายคนถูกส่งไปเมืองไผ่เขียว เมืองเปลวอาทิตย์ เมืองผาโลหิต เมืองหมอกดำ ฯลฯ เพื่อพบเจอท่านผู้ใหญ่หลายคน อาทิ ท่านชิงหมอ ท่านซิวอิ่ง ท่านเซี่ยที”

 “โอว, นี่คือความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับเทพหรือนี่?”  เริ่นเทียนเกอส่ายศีรษะมึนงงเล็กน้อย  “เรายังคิดหาวิธีได้หุ่นรบระดับบรอนซ์  เจ้าเด็กนี่ร้ายกาจ ส่งหุ่นทองมาให้เราคนละสองตัว  ของแบบนี้มันงอกได้เองในสวนเหมือนกะหล่ำปลีตั้งแต่เมื่อใด?”

 “ตอนนี้ข้าชักห่วงเรื่องจีอู๋ลี่บ้างแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!” บัณฑิตตาเงินหัวเราะอย่างมีความสุข

13 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

งอกมาทั้งนั้น

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

มันไม่ใช้กะหล่ำปลี มันคือถั่วงอก หยอดปุบ งอกปับ ปานใช้ปุ๋ยตรากระต่าย

zen zen กล่าวว่า...

มันก็งอกจากดินนี่แหละแต่ไม่เหมือนกะกล่ำปลีนะ555

Popcorn กล่าวว่า...

ใช่ๆมันงอกได้จริงๆ

DexterAndDdy กล่าวว่า...

ไม่ใช่กำหล่ำปลีแต่มันคืออะไรที่ยิ่งกว่าหยอดปุ๊ปโตปั๊ป

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

BJ กล่าวว่า...

ขอบคุณแอดมินมากๆ​

dvdkeeper กล่าวว่า...

งอกออกมาจริงๆนั่นแล

Nattapan กล่าวว่า...

เริ่นเทียนเกอรู้คงกระอักเลือดตายแน่ๆ 555

นัดบ้า กล่าวว่า...

ขุดหลุมเขียนรูน(ตั้งหม้อน้ำเปิดแก๊ซ)
ใส่แร่ปีศาจลงหลุม(ใส่เส้นที่ชอบ)
ดึงพลังงานใต้ดิน(รอเส้นสุข)
หุ่นโผล่มา(แดกสิรออะไร)

Re กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Weter กล่าวว่า...

5555

บักซาดซัว กล่าวว่า...

มาถูกทางแล้วพวก มาติดตามพี่เย่ไม่ผิดหวังแน่ๆ

แสดงความคิดเห็น