วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1090 หาวัตถุโบราณ



ตอนที่  1090  หาวัตถุโบราณ

เมื่อกลับมาถึงที่หน้าหอพักนักศึกษา ไม่รู้ว่าทำไมหมิงจูถามเย่ว์หยางว่าเขาเหนื่อยหรือไม่ เพราะยังเที่ยวชมสถานที่ไม่ครบบริบูรณ์


โชคไม่ดี เย่ว์หยางหาว

หมายความว่าเว้นแต่มีสาวงาม ไม่งั้นพวกเขาจะไม่ไป

หมิงจูโกรธมาก เขากลับไปที่หอพักโดยไม่พูดอำลาเย่ว์หยาง เขากลับเข้าห้องและปิดประตูอย่างแรก  อาจารย์ใหญ่มองดูเขาและยิ้มถามเย่ว์หยางขณะเขากำลังปิดประตู “ทะเลาะกันทำไม เป็นผู้ชายควรจะเปิดใจให้กว้างกว่านี้!

 “ขอรับ”  เย่ว์หยางต้องเป็นเด็กดีต่อหน้าอาจารย์ใหญ่

 “หมิงจูมีอารมณ์เหมือนกับสหายเก่าของข้า โกรธง่าย หายเร็ว  พรุ่งนี้เจ้าไม่มีอะไรต้องห่วง”  อาจารย์ใหญ่พูดปลอบโยนเย่ว์หยาง

 “จริงหรือ?” ทักษะแกล้งโง่ของเย่ว์หยางอยู่ในระดับยอดฝีมือจริงๆ

 “เด็กๆ ไม่อาจอยู่แต่ในห้องค้นคว้าวิจัยอยู่กับเครื่องกลที่เย็นชืดได้  พรุ่งนี้เจ้าออกไปเล่นได้เลย!  อาจารย์ใหญ่คิดว่า ลูกศิษย์ที่น่าภูมิใจของเขานั้นเก่งทุกอย่าง  สมองของเขาฉลาดร้ายเหมือนปีศาจ แรงบันดาลใจในการสร้างงานก็ไม่เหมือนใครในโลก ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ภายใน รูปลักษณ์ภายนอกและรอยยิ้ม  ยิ่งมองมากเท่าใด ก็นิยมชมชอบมากเท่านั้นเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อม  แม้ว่าจะมีความสับสนเล็กน้อยในบางเรื่อง ซึ่งเป็นเหตุทำให้ขาดความเข้าใจในบางแง่มุม  อาจเป็นไปได้ว่า จิตใจทั้งหมดทุ่มอยู่กับการศึกษา ไม่ค่อยคิดเรื่องอื่นๆ ในชีวิต

เด็กโง่!

อาจารย์ใหญ่รอให้เย่ว์หยางกล่าวราตรีสวัสดิ์ จากนั้นถอนหายใจเบาๆ ขณะกลับไปที่ห้อง

อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขามีรอยยิ้มทันที ดูเหมือนว่ามีบางอย่างที่น่าขันค้างอยู่ในใจอาจารย์ใหญ่ ทำให้เขาอดจริงจังไม่ได้

วันรุ่งขึ้นเหมือนอย่างที่อาจารย์ใหญ่กล่าว

หมิงจูไม่ได้โกรธ

เขามาเคาะประตูห้องของเย่ว์หยางแต่เช้า เย่ว์หยางตื่นสายถูกฉุดลุกขึ้นมาจากเตียงโดยตรง

 “ไปซื้อของกับข้า!  หมิงจูประกาศภารกิจวันนี้ต่อหน้าสาธารณชน

 “ไม่เห็นมีอะไรเลย น่าเบื่อจะตาย” เย่ว์หยางต้องการล้มตัวลงนอนหลับ  แต่เมื่อเห็นหมิงจูถือค้อนทองอยู่ในมือในที่สุดเขายกมือยอมจำนนอย่างช่วยไม่ได้ และบอกว่าเขาจะดำเนินชีวิตเพื่ออุดมการณ์ของพรรคและเพื่อมาตุภูมิ  เขาต้องทำภารกิจพาคุณชายหมิงจูไปจ่ายตลาด หากมีปัญหาต้องทำเช่นนั้น เขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าภารกิจสมบูรณ์

 “ดีมาก!  คุณชายหมิงจูมีความสุขมาก เกือบพูดอ่อนหวานเป็นการตอบแทนน้ำใจเย่ว์หยาง

เย่ว์หยางกับหมิงจูกินอาหารเช้าด้วยกันในหอพักนักเรียน

บอกลาอาจารย์สองสามคนที่กำลังอมยิ้มมองดู

ดวงตะวันยามเช้าไม่ได้ขึ้นทางทิศตะวันออก พวกเขาเดินฝ่าแสงอาทิตย์ยามเช้าออกจากหอพักนักศึกษา เขาไม่รู้ว่านี่เป็นการพบเจอโดยบังเอิญหรือไม่ เย่ว์หยางกับหมิงจูเห็นสตรีชุดขาวสามคนที่เรียกว่าทูตสวรรค์แห่งหุบเขามนุษย์อยู่ไม่ไกลจากทางเข้าโรงเรียน

สตรีทั้งสามรูปร่างหน้าตาคล้ายกันเหมือนกับเป็นพี่น้องฝาแฝด พวกนางเหมือนกันทุกอย่าง

บนใบหน้าของพวกนางมีรอยยิ้มที่สงบ  เมื่อพวกนางเห็นพวกเขาในเวลาใดก็ตาม พวกนางจะคงอยู่ในรูปลักษณ์ที่สง่างาม ไม่มีช่วงเวลาใดที่พวกนางจะดูผิดปกติ  สตรีชุดขาวที่อยู่ทางขวามีใบหน้ากลมเล็กและดูน่ารัก เมื่อเย่ว์หยางเข้ามาในหุบเขามนุษย์เขาเกือบยั้งใจยื่นมือไปลูบหน้านางไม่ได้ โชคดีที่เขาไม่ได้หยอกล้อ เป็นไปไม่ได้ที่เย่ว์หยางจะขึ้นไปยืนบนแท่นโบราณของภูเขาเทียนผิงในเวลาอย่างนี้ เป็นที่คาดกันว่าโทษของการลวนลามเทพคงโดนโทษจำขังเบาๆ ก็ร้อยปี หรือพันปี

ในบรรดาสตรีทั้งสาม สตรีคนกลางดูอ่อนโยนที่สุดมีลักษณะอ่อนแอ

เปล่งกลิ่นอายตำรับตำรามากที่สุด

เหมือนกับบัณฑิตสตรี

ในมือของนางถือคัมภีร์สีเงิน แต่ไม่ใช่คัมภีร์อัญเชิญเงิน รับผิดชอบในการจดบันทึกผู้พเนจรที่เข้ามาในหุบเขา

หญิงสาวชุดขาวที่อยู่ซ้ายมือร่างสูงที่สุด นอกจากจะดูสูงศักดิ์สง่างามแล้ว ใบหน้าของนางดูห้าวหาญ  เย่ว์หยางจำได้วาเมื่อตอนเข้ามาในหุบเขาตอนแรก  นางติดตราสัญลักษณ์ขุนนางชั้นสูง

 “หมิงจูน้อมพบทูตสวรรค์ทั้งสาม”  หมิงจูทักทายตามมารยาทและดึงแขนเสื้อเย่ว์หยางอย่างรวดเร็วไม่ให้เขาเสียมารยาท

 “อรุณสวัสดิ์ พวกเจ้าทั้งสองคนไม่ต้องมากมารยาท”   สตรีคนกลางชำเลืองมองเล็กน้อยและทักตอบ  เสียงของนางไพเราะราวเสียงสวรรค์

 “เจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์, บารอนไตตัน! เราพบกันอีกแล้ว”   ใบหน้าของสาวทูตสวรรค์คนกลางดูเหมือนให้ความประทับใจเย่ว์หยางมากที่สุด  เมื่อเขาเข้ามาร่วมพิธีประเมินคะแนน เมื่อนางทักทายตอบนางระบุชื่อและฐานันดรเย่ว์หยาง  พอนางพูดแบบนั้น คุณชายหมิงจูมีความรู้สึกว่าทูตสวรรค์ผู้รอบรู้นี้รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเย่ว์หยาง  ดวงตาของเขาเป็นประกายอยากรู้อยากเห็นเรื่องของอีกฝ่าย

 “มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับข้าหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางเชื่อคำที่กล่าวว่า ไม่มีเหตุ ไม่มาเยือน

 “เจ้าอย่าเสียมารยาทกับทูตสวรรค์!” หมิงจูรีบแตะแขนเย่ว์หยาง บอกว่าเย่ว์หยางไม่ควรถามโดยตรงอย่างนั้น นั่นเป็นคำพูดที่ไร้มารยาท

 “ไม่เป็นไร”  สตรีชุดขาวคนกลางถือหนังสือสีเงินเป็นหัวหน้าของสตรีทั้งสาม นางโบกมืออย่างสุภาพ นิ้วเรียวยาวเหมือนหยกของเนางเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลราวกับหลิวต้องลมโชย  นางบอกว่าไม่มีอะไร จากนั้นพยักหน้ากล่าว  “เรามาที่นี่เพื่อมอบความไว้วางใจให้พวกเจ้าทั้งสองคน”

 “ท่านทูตสวรรค์เชิญสั่งได้!  หมิงจูได้ยินแล้วดีใจอย่างเห็นได้ชัด

ทูตสวรรค์ทั้งสามรู้กันทุกคน

อย่างไรก็ตามแม้แต่คนรุ่นอาวุโสอย่างประธานกลุ่มโรงเรียบนผู้พเนจรแดนฟ้า หรือมหาบัณฑิตพันปีก็ยังยากจะมีโอกาสพูดคุยกับพวกนาง

ถ้าเป็นในหุบเขามนุษย์ บัณฑิตคนหนึ่งโชคดีพอได้รับคำบอกกล่าวที่ดี คุณค่าของพวกเขาจะเพิ่มพรวดทันทีเพราะได้รับการบอกกล่าวจากสตรีชุดขาวทั้งสามนับเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  พวกนางคือดวงตาของเทพในโลกนี้ และกระทำการเป็นตัวแทนของเทพ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง การกระทำของพวกนาง เท่ากับการกระทำของเทพ แล้วผู้คนจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?

หญิงสาวทั้งสามปรากฏตัวในโลกนี้ไม่บ่อยนัก แม้ว่าพวกนางจะมาในพิธีประเมินคะแนนชีวิต  แต่พวกนางแค่มองดูโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เป็นเรื่องยากเกินไปที่จะได้รับความสนใจจากพวกนาง

การได้รับความสนใจนี่คือโอกาสของผู้พเนจร หรือผู้มีความปรารถนาสูงสุดที่มิอาจแสวงหาได้อย่างแท้จริง

ตอนนี้ทูตสวรรค์ทั้งสามนางมีบางอย่างที่จะฝากฝังพวกเขาเอง หมิงจูจะไม่ตื่นเต้นแทบคลั่งได้อย่างไร?

 “เรามีบางอย่างที่ทำหายไว้ที่ก้นทะเลบูรพา ข้าต้องการให้เจ้านำกลับมาให้เรา  ถ้าพวกเจ้าสามารถทำสำเร็จได้ก่อนพิธีประเมินคะแนน  อย่างนั้นเราจะมอบรางวัลใหญ่อย่างหนึ่งกับเจ้า  ถ้าต้องใช้เวลาค้นหามากกว่าสิบวันหรือครึ่งเดือน  อย่างนั้นเราต้องยกเลิกการค้นหา”  สตรีร่างสูงมีสีหน้าสุภาพ นางเอ่ยปากฝากงานให้เย่ว์หยางและหมิงจูโดยตรง นั่นเหมือนกับเป็นภารกิจที่ง่าย

 “ข้าไม่ทราบว่าสิ่งที่ค้นหาคืออะไร?”  คุณชายหมิงจูพยายามข่มความตื่นเต้นในใจ

 “นั่นเป็นโบราณวัตถุชิ้นหนึ่ง”  หญิงสาวชุดขาวหน้ากลมตาคมหันหน้ามาทางเย่ว์หยางและส่ายหน้ายิ้มให้เขาทันที  “เราไม่รู้ลักษณะของโบราณวัตถุนี้  ข้ารู้แต่เพียงว่ามันอยู่ที่ก้นทะเล  เจ้าต้องเลือกด้วยตัวเอง มองหาที่ก้นทะเล  อาจเป็นศิลาก็ได้  อาจเป็นปะการัง กัลปังหาอะไรอย่างอื่น ถ้าเจ้าคิดว่าใช่ก็จงนำกลับมา”

 “ไม่ใช่เรื่องสำคัญถ้าคิดผิดใช่ไหม?”  เย่ว์หยางพยายามหักห้ามใจไม่ยื่นมือออกไปจับแก้มกลมๆ

 “ถ้าผิด อย่างนั้นภารกิจก็ล้มเหลว!  หญิงสาวหน้ากลมยื่นหน้าล้อเล็กน้อย “เจ้าต้องคิดให้ดีก่อน อย่าใจร้อนรีบเร่งให้ภารกิจสำเร็จ”

 “นั่นเป็นวัตถุโบราณที่มีประโยชน์หรือเปล่า?”  เย่ว์หยางหวังว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม หากไม่บอกว่าเป็นของที่มีรูปร่างอย่างไร ก็ควรบอกถึงคุณประโยชน์ของมันได้ไม่ใช่หรือ?   ถ้าไม่พูดอะไรเลย แล้วจะหาได้อย่างไร?

 “วัตถุโบราณนั้น ไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียว” สตรีชุดขาวคนกลางบอกใบ้  “คำใบ้ที่สอง ของเหล่านั้นเอามารวมกันจะเป็นกุญแจสำคัญเปิดสลักโบราณได้  คำใบ้ที่สาม วัตถุโบราณนั้นมีพลังลึกลับ อาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับตำแหน่งได้  แต่เราไม่รู้จักพลังลึกลับนั้น แต่มีอยู่แน่นอน  บารอนไตตัน, คุณชายหมิงจู เราบอกใบ้ไปหลายคำแล้ว หวังว่าจะช่วยพวกเจ้าในการค้นหา และขอให้พวกเจ้าประสบความสำเร็จ”

 “ถ้าเราทำภารกิจเสร็จในวันเดียว รางวัลจะเพิ่มทวีคูณหรือไม่?”  เย่ว์หยางไม่เกี่ยงเรื่องรางวัล ยิ่งมากก็ยิ่งดี

 “ถ้าทำได้จริง อย่างนั้นเราจะช่วยเจ้าอีกครั้ง!  สาวน้อยหน้ากลมเชื่อว่าเย่ว์หยางจะทำให้สำเร็จก่อนเวลา

 “เราจะรอจนกว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ!  สตรีชุดขาวทางซ้ายที่ร่างสูงที่สุดพูดค่อนข้างชัดเจน

นางล้วงม้วนสารสีม่วงน้ำเงินออกมา

ส่งให้เย่ว์หยาง

เย่ว์หยางยังไม่รู้ว่านี่คือสิ่งใด  หมิงจูรีบขอบคุณนางและรับไว้ทันที นอกเหนือจากหอคอยโบราณของยอดเขาหลักเทียนผิงแล้ว อีกสี่ยอดเขาจะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าตามกฎท้าทาย  โดยปกติแล้วไม่มีใครสามารถเข้าไปได้  หากต้องการเข้าสู่ยอดเขาตะวันออก เขาจะต้องได้รับการยอมรับจากกฎการท้าทายสีม่วงน้ำเงิน และนี่แตกต่างจากม้วนสารสำหรับต่อสู้ซึ่งมีสีแดง  แต่เชื่อว่าเป็นการท้าทายภารกิจ

หญิงสาวทั้งสามครั้นมอบภารกิจเสร็จก็ลอยตัวจากไป

เย่ว์หยางหันไปมองดูไม่สามารถรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น   เขาแกะม้วนสารสีม่วงน้ำเงินออกและมองดูใจจดใจจ่อ

รัศมีม่วงน้ำเงินสองสายยิงออกมาจากม้วนสาส์น

และครอบคลุมร่างของทั้งสอง

หมิงจูทั้งโกรธและกังวล เขาบ่นไม่หยุด  “เจ้าช่างโง่จริง เจ้าทำอะไร?  กังวลเกินไปหรือเปล่า?

เย่ว์หยางเหงื่อตก  “ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดสิ่งนี้ขึ้น ต่อไปคงต้องศึกษาให้ดี...”

ขณะที่คำพูดของพวกเขายังไม่จบ ทั้งคู่ถูกส่งไปที่ยอดเขาตะวันออกเป็นแนวป่าไม้เขียวขจี  สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนหวาดกลัวการมาถึงของทั้งสองที่มาถึงอย่างกะทันหัน  ต่างหนีเตลิดเข้าไปในป่าหญ้า  บางทีพวกมันอาจไม่ได้เห็นใครมาเป็นเวลานาน  พวกมันตกใจและจ้องมองดูเย่ว์หยางและหมิงจูอยู่เงียบๆ

ข้างหน้าเป็นป่าไม้เขียวหอมระรื่นชื่นใจ

แม้ว่ายอดเขาตะวันออกจะตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่าหมื่นเมตร  แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงมีสวนดอกไม้อย่างนี้อยู่บนพื้น  ดอกไม้บานและมีผีเสื้อบินตอม แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากยอดเขาทั้งสี่ทางทิศตะวันตก ใต้ และเหนือ  หรืออาจเปรียบเทียบกับยอดเขากลางที่ตั้งหอสวรรค์

ที่นี่อยู่ใกล้ป่ารกร้างมากกว่า

สิ่งมีชีวิตที่นี่ไม่มีร่องรอยของมนุษย์

ถ้ามีคนบอกให้ไปทะเลสาบใต้เพื่อหาวัตถุโบราณ ก็คงพอผ่านไปได้  แต่ในยอดเขาตะวันออก นอกจากลำธารเล็กๆ จะไปหาน้ำทะเลสักหยดได้จากไหน?

เมื่อความแตกต่างชัดเจนข้างหน้านี้ หมิงจูกับเย่ว์หยางมองหน้ากันอย่างหวาดๆ

ดูเหมือนว่า

ดูเหมือนว่าภารกิจค้นหาวัตถุโบราณสาบสูญไม่ใช่เรื่องยากธรรมดา อย่างน้อยก่อนพบเจอทะเลก็ไม่ต้องคิดเรื่องวัตถุโบราณ!


5 ความคิดเห็น:

Nasee กล่าวว่า...

ขอบคุณฮะ

SatunG_NonG กล่าวว่า...

สาวน้อย 1 ใน 4 แดนสวรรค์ มาทำภารกิจกับพี่หยางเรา

PalmSo กล่าวว่า...

ทิ้งคนเก่า มีคนใหม่เรื่อยๆเลยนะ สาวคนแรกๆหายไปเลย

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

zen zen กล่าวว่า...

สรุปมันมีทะเลมั้ยเนี้ยงง

แสดงความคิดเห็น