ตอนที่ 1095 หอคอยเหนือหอคอย
ตอนแรกทูตสวรรค์สามสาวตามหาเย่ว์หยาง แต่หลังจากเกิดเรื่องยุ่งยากนี้แล้ว พวกนางไม่มีทางพูดคุยกับเย่ว์หยางเป็นการส่วนตัวได้
ยิ่งกว่านั้นเจ้าเด็กนี่ตอบสนองรวดเร็ว เขากลับฉุดมือคุณชายหมิงจูออกไปก่อน
ทูตสวรรค์หญิงที่ถือคัมภีร์เงินไม่ได้พูดอะไร แต่ทูตสวรรค์หญิงร่างสูงแค่นเสียงเบาๆ เหมือนกับว่าไม่พอใจที่เย่ว์หยางหลบเลี่ยง ขณะที่ทูตสวรรค์หญิงที่มีใบหน้ากลมน่ารักนั้นอารมณ์ดี นางพยายามกลั้นหัวเราะ
ในไม่ช้าพิธีประเมินคะแนนชีวิตประจำไตรมาสก็มาถึง
ก่อนจะประกาศผลสุดท้าย นักเรียนผู้เข้าร่วมในการคัดเลือกต้องทำการตรวจสอบด้วย
การประเมินนี้ไม่ได้กำหนดเป็นคะแนนคงที่สำหรับนักเรียน แต่ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ถ้านักเรียนไม่ทำคะแนนให้ดีในการประเมินนี้ อย่างนั้นพวกเขาสามารถเลือกที่จะยอมแพ้ได้ ในทางตรงกันข้ามนักเรียนสามารถใช้การประเมินผลนี้เพื่อใช้เป็นคะแนนบวก สำหรับนักเรียนธรรมดา การประเมินสุดท้ายนี้เป็นทางเลือก แต่สำหรับนักเรียนหัวกะทิ นี่เป็นส่วนสำคัญที่มิอาจโต้แย้งได้
พวกครูบาอาจารย์พานักเรียนไปยังสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้าก่อนเริ่มต้นประเมินคะแนน
บางเมืองก็มีนักเรียนเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นเมืองใบทอง
แต่บางเมืองมีแค่ไม่กี่คน
อย่างเช่นเมืองไม้เงิน
เพื่อเป็นการรับประกันการสนับสนุนการประเมินให้เย่ว์หยาง อาจารย์ใหญ่และอาจารย์โอมอนส่งนักเรียนอีกคนหนึ่งนอกจากเย่ว์หยางเข้าร่วมในการประเมินคะแนน
“การประเมินสุดท้ายเป็นเรื่องสำคัญมาก พวกเจ้าต้องเข้าสู่หอคอยเหนือหอคอยเพื่อเอาชนะหุ่นรบและเก็บคะแนนมาให้ได้ แต่สำหรับพวกเจ้าการกวาดล้างหุ่นรบไม่เป็นปัญหา ข้อกังวลของเรามีเพียงอย่างเดียวก็คืออดีตรุ่นพี่ ที่เป็นนักเรียนหัวกะทิจะร่วมโจมตีด้วยซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนสุดท้ายของเจ้า” อาจารย์ใหญ่ไม่ได้บอกเรื่องของหอคอเหนือหอคอยมาก่อน เขาเป็นครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดกฎ บางทีอาจารย์ใหญ่อื่นอาจแอบบอกนักเรียนเรื่องหอคอยเหนือหอคอยไว้ก่อนเพื่อให้นักเรียนเตรียมตัวล่วงหน้า ผลการแข่งขันจึงไม่ค่อยยุติธรรม
แต่อาจารย์ใหญ่ไม่ทำเช่นนั้น
ตราบที่กฎนี้ปฏิบัติสื่อต่อกันมาตั้งแต่โบราณ ไม่ว่าคนอื่นจะแหกกฎเพียงใด หรือปล่อยข้อมูลรั่วไหลจนทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม แต่เขาก็จะปฏิบัติตามกฎ
เย่ว์หยางมีคำถามเล็กน้อย “อาจารย์บอกว่าหอคอยเหนือหอคอยอย่างนั้นหรือ?”
อาจารย์ใหญ่ไม่มีเวลาตอบ และคุณชายหมิงจูที่ตามมาทันเขาได้ตอบแทน “หอคอยเหนือหอคอยคือสนามต่อสู้พิเศษที่ตั้งชื่อตามหอคอยโบราณภูเขาเทียนผิง สถานที่ที่เราอยู่นี้เรียกว่าหอคอยโบราณ ด้านนอกหอคอยโบราณ ข้างนอกออกไปยังมีสถานที่ซึ่งคล้ายกับหอคอยโบราณ เราเรียกว่าสนามรบหอคอยเหนือหอคอย”
“หอคอยเหนือหอคอย ภูเขาเขียวนั่นใช่ไหม? ค่อยน่าสนใจขึ้นมาบ้าง” เย่ว์หยางยิ้ม
“มันไม่น่าสนใจสักนิด แต่มันน่ากลัว...” คุณชายฉีมู่ร้องลั่น และในที่สุด เขาก็มาถึงทันก่อนประเมินคะแนน
“น่ากลัว?” เย่ว์หยางมองดูเขาอย่างสงสัย
“นักเรียนทุกคนจะถูกเทเลพอร์ตส่งเข้าไปในหอคอยเหนือหอคอย สนามต่อสู้พิเศษของสถาบันผู้พเนจรฟ้า ทำการกวาดล้างหุ่นรบและหุ่นอสูร และเก็บคะแนน มองดูผิวเผินก็ง่ายอยู่หรอก แต่นี่เป็นสถานที่ซึ่งมีอัตราการตายของนักเรียนสูงที่สุด สูงมากกว่าการประลองเสี่ยงชีวิตของหอคอยเหนือหอคอยเสียอีก หอคอยเหนือหอคอยมีความคล้ายคลึงกับหอคอยโบราณภูเขาเทียนผิง แต่ว่าใหญ่กว่าสิบเท่าไม่มีอะไรนอกจากหุ่นรบ และหุ่นอสูร จะไม่มีนักเรียนคนไหนที่เข้ามาแล้วจะถูกโจมตีโดยหุ่นรบและหุ่นอสูร ถ้าซ่อนตัวอยู่ในวิทยาลัยหุ่นก็จะไม่เป็นไร หุ่นรบส่วนใหญ่มีระดับบรอนซ์ หากเจ้ามีความกล้าจะออกจากวิทยาลับหุ่น อย่างนั้นเจ้าจะได้พบกับหุ่นระดับทองจำนวนมากเช่นเดียวกับฝูงปลาซาร์ดีนในมหาสมุทรที่สามารถจำผู้บุกรุกได้ทันที” เมื่อคุณชายฉีมู่พูดเช่นนี้แล้วเขาอดสั่นสะท้านไม่ได้
“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจหุ่นรบและหุ่นอสูรไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และพวกมันไม่มีการสืบพันธุ์ลูกหลาน พวกมันถูกทำลายไปแล้วก็จะลดน้อยลงไปหนึ่งนับตั้งแต่มีการใช้งานมาแต่โบราณ จะมีหุ่นมากมายได้อย่างไรหลังจากมีการใช้มานานหมื่นปี? แม้ว่าหุ่นระดับทองจะถูกบรรจุเข้าไปอย่างแน่นหนา แต่หลังจากการใช้งานถึงหมื่นปี ก็สมควรเหลือน้อยลง
“ข้าไม่รู้รายละเอียดโดยเฉพาะเจาะจง” อาจารย์ใหญ่ส่ายศีรษะเล็กน้อย “อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ที่หอคอยเหนือหอคอย มีโรงผลิตหุ่นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสิบโรงงาน เป็นไปไม่ได้ที่การใช้สอยจะลดน้อยลง”
“เนื่องจากความเร็วในการผลิตเร็วกว่าความเร็วในการกวาดล้าง ทุกๆ ร้อยปีจะมีหุ่นรบและหุ่นอสูรจำนวนมากแออัดอยู่ที่ประตูเทเลพอร์ต ของวิทยาลัยหุ่นรบ”
อาจารย์โอมอนเมื่อพูดถึงหอคอยเหนือหอคอย สีหน้าของเขาไม่ค่อยดี และดูเหมือนเขาต้องสูญเสียบางอย่างไปในนั้น
อาจารย์ใหญ่กลัวลึกๆ ว่าขวัญกำลังใจจะได้รับผลกระทบจึงรีบพูดปลอบใจ “ในความเป็นจริงเมื่อพูดถึงหอคอยเหนือหอคอยมีนักเรียนชั้นสูงหลายคนสร้างความสำเร็จด้วยการทำลายโรงงานผลิตหุ่นรบ ตัวอย่างเช่นนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเมื่อหมื่นปีก่อน ครั้งนางใช้หุ่นอสูรกลุ่มใหญ่ทำลายโรงงานผลิตหุ่นได้ถึงสามโรง หรืออีกตัวอย่างหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์ ไตตันน้อย มารดาผู้ฉลาดของเจ้า นางใช้พลังลับที่เราไม่สามารถถอดรหัสได้ ในช่วงเวลาวิกฤตเมื่อโรงงานผลิตหุ่นรบห้าแห่งถูกทำลาย ช่วยบรรเทาอันตรายจากคลื่นหุ่นรบได้มากและแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ เพราะเหตุนี้นางจึงได้รับปราสาทไดมอนด์สตาร์เป็นรางวัล... มันเป็นเพียงโรงงานผลิตหุ่นรบที่ถูกควบคุมโดยพลังลึกลับไม่ว่าจะถูกทำลายกี่ครั้งและในระดับใด ก็จะค่อยๆ ฟื้นสภาพขึ้น บางทีนี่อาจเป็นการทดสอบของเทพเจ้าโบราณที่มีต่อผู้คนและนักเรียนของเรา”
เย่ว์หยางตกตะลึง เขาไม่คิดว่าสนามต่อสู้หอคอยเหนือหอคอยจะมีความพิเศษและมีเรื่องราวเช่นนั้น
ทันใดนั้นเขามีความสนใจอย่างรุนแรง
บางทีในโรงผลิตหุ่นรบที่ถูกทำลาย เขาอาจได้พบเบาะแสเกี่ยวกับ ‘มารดา’ ของเขา
จุดที่สำคัญที่สุดก็คือมีความรู้สึกแปลกประหลาดในใจของเย่ว์หยาง โบราณวัตถุที่ทูตสวรรค์สามสาวมอบหมายให้เขาค้นหาต้องเกี่ยวข้องกับหอคอยเหนือหอคอย อาจจะเป็นกุญแจในมือของเขาเอง
ด้วยของโบราณชิ้นนี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะไปเปิดกลไกโบราณบางอย่างที่นำไปสู่ความลับทั้งหมด
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เย่ว์หยางตัดสินใจที่จะแสดงความแข็งแกร่งของเขาและตรวจหาในหอคอยเหนือหอคอย บางทีกุญแจสำคัญในการผ่านด่านหุบเขามนุษย์คงจะอยู่ที่นี่ สำหรับจีอู๋ลี่และจงหัว จะเข้าร่วมสำรวจหอคอยเหนือหอคอยด้วยหรือไม่ พวกเขาไม่สามารถจัดการอะไรได้มาก ในตอนนี้ คนที่แข็งแกร่งอย่างเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน พระยายมซิวอิ่ง กัปตันคุ้กเป็นต้น เย่ว์หยางรู้สึกว่าพวกเขายังคงเก็บตัวไม่ทำตัวให้โดดเด่นชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาต้องทำกับคนอื่นก็คือ วางตัวเป็นกลาง
การประเมินจะเริ่มอย่างเป็นทางการ
ในการประเมินหลายวันนี้ นักเรียนที่ไปไม่ถึงขั้นตอนสุดท้ายและเข้าร่วมแข่งขันจะไม่สามารถตัดสินว่าใครคือผู้ชนะที่แท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นหุ่นรบที่มีส่วนร่วมในการประเมิน ความคิดสร้างสรรค์ส่วนบุคคล ความคิดสร้างสรรค์ในการวิจัยและพัฒนาการประดิษฐ์ การฝึกมารยาท ความรู้กลยุทธ์ในการต่อสู้ ฯลฯ ล้วนอยู่ในขอบเขตของการประเมิน ไม่จำเป็นต้องทุกรอบ แต่จะต้องเป็นบุคคลที่มีความครอบคลุมมากที่สุดเพื่อจะได้เป็นผู้ชนะในรอบสุดท้าย
ความสำเร็จในช่วงเวลาการฝึกฝนสามเดือนจะทำอะไรได้?
ขึ้นอยู่กับความพยายามและความเข้าใจของนักเรียน
คนเข้มแข็งอย่างจีอู๋ลี่สามารถเอาชนะครองตำแหน่งชนะเลิศโดยไม่มีข้อโต้แย้งในสามเดือน
ในทางตรงกันข้ามอัจฉริยะเก๊อย่างจินฉีซึ่งทดสอบซ้ำๆ มาเป็นเวลาสิบปียังคงยุ่ง ถ้าเขามีหุ่นรบแม่เหล็กที่แข็งแกร่ง และจีอู๋ลี่และจงหัวและคนอื่นกำจัดนักเรียนหัวกะทิกลุ่มใหญ่ออกไปได้ มองโลกในแง่ดีก็อาจเอาชนะการแข่งขันได้
ในสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้า นักเรียนที่เข้าประเมินมารวมตัวพร้อมกัน
ท่ามกลางเสียงปรบมือเร้าใจ ประธานใหญ่กลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าขึ้นเวทีและแสดงความยินดีกับการประเมิน รวมทั้งเปรียบเทียบดูกฎและเงื่อนไขสำหรับการประเมินต่างๆ
คำพูดของเขากระชับและชัดเจนไม่ยืดยาวเท่ากับข้าราชการประจำบางประเทศเวลาออกงาน เย่ว์หยางเห็นฉีมู่ พวกเขาปรบมือช้าหลังจากผู้เฒ่าพูดจบ จึงอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้
“สำหรับการประเมินหอคอยเหนือหอคอย เป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น ไม่ถึงกับจำเป็นนัก หากนักเรียนคิดว่า หากนักเรียนรู้สึกว่าจะต้องรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ใช้ต่อไป ก็ไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมทดสอบ ในทางกลับกันถ้านักเรียนรู้สึกว่าต้องการอุ่นเครื่องก่อนการแข่งขันก็สามารถสมัครได้ คะแนนประเมินที่หอคอยเหนือหอคอยไม่ใช่เป็นผลการประเมินโดยตรง แต่ใช้เป็นคะแนนบวกพิเศษเท่านั้น” นอกจากประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าแล้วยังมีผู้อาวุโสขึ้นเวทีเพื่ออธิบายกฎแห่งการประเมินของสนามสอบหอคอยเหนือหอคอย
“ข้าลงทะเบียนให้เจ้าแล้ว ข้าจะสมัครเข้าร่วมแน่นอน เราจะเข่นฆ่าบุกเบิกเส้นทางให้เจ้า อย่างน้อยจะพาเจ้าไปทำลายโรงงานผลิตหุ่นให้ได้สักโรงงาน มิฉะนั้นถือว่าล้มเหลว” ฉีมู่ในตอนนี้มีหุ่นรบคู่หู ถ้าไม่ร่วมแสดงฝีมือเขารู้สึกคันหัวใจยากจะเกา
“ถ้าไม่โม้แล้วเจ้าจะตายไหม?” หยางผิงยืนเยาะเย้ยอยู่ไม่ไกล ตั้งแต่ครั้งแรกที่โกรธเคืองเย่ว์หยางเขาไม่พอใจและสาบานว่าจะต้องตอบโต้
“ข้าไม่คุยกับคนโง่” ฉีมู่ตอนนี้ดูถูกคนบทบาทเล็กน้อยอย่างหยางผิง
ต่อให้เปลี่ยนเป็นพี่ชายหยางผิงนามว่าหยางฉวน เขาก็คิดว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ตอนนี้ฉีมู่มีหุ่นรบระดับทองสามตัวและระดับเงินอีกเจ็ด เขาสามารถตั้งกองกำลังหุ่นเล็กๆ ตามลำดับได้ แล้วคู่ต่อสู้ก่อนนั้นยังจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำตอนนี้ คาดว่าฝ่ายตรงข้ามระดับอย่างหยางผิง ฉีมู่แค่ปล่อยระเบิดแมงมุมก็เพียงพอแล้ว
การประคารมกันไม่มีใครกล้าทำในสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้าแห่งนี้
ทุกคนทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี
เพียงแต่ครูบาอาจารย์ไม่อาจมองเห็นได้ว่าพวกเขาเกลียดกันเป็นการส่วนตัว และมีการแอบจิกแอบกัดกัน หลังจากเข้าสนามสอบหอคอยเหนือหอคอย ก็คงเปิดเผยสีที่แท้จริงแก่ฝ่ายตรงข้าม
เย่ว์หยางไม่สนใจพวกยั่วยุ และไม่มองเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน ชิงหมอ ฮ็อก มีแต่อาจารย์ใหญ่ที่โบกมือให้อยู่บนเวทีและเดินไปบนแท่นเทเลพอร์ตโบราณส่งไปยังสนามสอบหอคอยเหนือหอคอย
คุณชายหมิงจูเดินตามหลังเขาไปติดๆ
จากนั้นเป็นฉีมู่
เดิมทีหยางผิงต้องการตามให้ทัน แต่ก่อนที่เขาจะก้าวเท้า ร่างยักษ์ใหญ่ของฮ็อกก็เบียดเขาจนเกือบตก เขาตะโกนด่าทหารรับจ้างไร้มารยาทหยาบคาย
โชคดีที่อาจารย์ประเมินคะแนนประจำสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้าอยู่ไม่ห่างข้างหน้า มิฉะนั้นหยางผิงคงโกรธจนอดสบถด่ามิได้
เขาไม่สามารถตามได้ทันปล่อยให้เงาร่างบางนั้นยืดขยายระยะออกไป
ที่ตามมาหลังจากนั้นเป็นเงาร่างทหารรับจ้างเกือบสิบคนเข้าไปในสนามสอบหอคอยเหนือหอคอยอย่างต่อเนื่อง
“โธ่เว้ย, ไอ้บ้าพวกนี้ออกมาจากไหน?” หยางผิงพบว่าคนเหล่านี้เป็นคนหน้าใหม่ทั้งหมด ไม่เคยมีใครเคยเห็นพวกเขา พวกเขาล้วนแต่เป็นคนแปลกหน้า
“ทหารรับจ้างเข้ามาในหอคอยเหนือหอคอยเพื่อหาที่ตาย!” ในเวลานี้จินฉีตัดสินใจแน่วแน่ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์น่าเกลียดเมื่อวานนี้ทำให้เขาต้องขายหน้า แทบทุกคนบนภูเขาเทียนผิงหัวเราะเยาะเขา แต่จินฉีมั่นใจว่าเขาจะกลับมาสู่แนวทางที่เขาถนัดได้ ด้วยหุ่นรบแม่เหล็กที่แข็งแกร่งอยู่ในมือ จินฉีรู้สึกว่าถึงเวลาแสดงพลังของเขาแล้ว แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้คะแนนอย่างจีอู๋ลี่ในหอคอยเหนือหอคอย อย่างไรก็ตามไม่ควรมีปัญหาในการทำคะแนนไล่ตามจงหัวและกัปตันคุ้ก
ขณะที่หน้าประตูเทเลพอร์ตของสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้ากำลังมีเสียงอึกทึก เย่ว์หยางถูกส่งไปที่หอคอยเหนือหอคอยแล้ว
ขณะที่ฉีมู่กล่าวว่าที่นี่จริงแล้วคล้ายกับภูเขาเทียนผิง
เพียงแต่ใหญ่กว่าเท่านั้น
ดูเหมือนว่าหอคอยโบราณแห่งภูเขาเทียนผิงกลายเป็นเหมือนพื้นที่จำลอง
บริเวณที่เย่ว์หยางอยู่ในเวลานี้ก็คือ โถงหุ่นตะวันออก หากอ้างอิงจากหอคอยโบราณนี่คือที่ตั้งของสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้า แต่หอคอยเหนือหอคอยไม่มีสถาบันผู้พเนจรแดนฟ้า มีแต่โถงหุ่น 4 ห้องแบ่งเป็น ตะวันออก ใต้ ตะวันตก เหนือและผู้เข้าร่วมทดสอบจะถูกส่งแบบสุ่มเข้ามาในโถงหุ่นโถงใดโถงหนึ่ง อย่างไรก็ตามหมิงจูจับมือเย่ว์หยางไว้จึงถูกส่งมายังสถานที่เดียวกัน
“มีโถงหุ่นใหญ่ รวมกันแล้วมีมากถึงห้าห้อง และยังมีอีกห้องหนึ่งอยู่เหนือหัวเรา แต่ไม่มีหุ่นรบบิน จึงไม่มีใครไปถึงที่นั่น” หมิงจูแนะนำอย่างรวดเร็ว “ตราบใดที่มีนักเรียนเข้ามา หุ่นรบข้างนอกจะทราบข่าว”
“ความจริงนั่นคือคลื่นหุ่นรบ” เย่ว์หยางไปที่ทางเข้าห้องโถงและพบว่าในบริเวณที่ห่างไกลมีคลื่นสีดำขนาดใหญ่ราวกับสึนามิเคลื่อนเข้าอย่างรวดเร็ว
นั่นคือหุ่นรบและหุ่นอสูร
ประเมินว่ามีมากกว่าแสนตัว มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดพลังอย่างนั้น
คุณชายหมิงจูมีสีหน้าจริงจังเล็กน้อยและพยักหน้า “นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น หากอยู่ในโถงหุ่นตลอดเวลาจะมีแต่หุ่นอสูรระดับบรอนซ์เท่านั้นที่เข้ามาได้ แต่ถ้าเจ้าต้องการออกไปข้างนอก เจ้าจะถูกล้อมด้วยหุ่นระดับเงินจำนวนนับไม่ถ้วน หากเจ้าต้องการจะก้าวต่อไปอีกเล็กน้อย ตั้งใจจะเข้าใกล้โรงผลิตหุ่น...”
เย่ว์หยางหยุดและจู่ๆ ก็ถามคำถามที่สำคัญมาก “มีใครเข้ามาในโรงงานผลิตหุ่นหรือไม่? ทำไมเราไม่ไปดู?”
คุณชายหมิงจูตะลึงมองเขา
ไม่สามารถตอบอะไรได้
ตอนนี้แม้แต่การป้องกันตัวเองก็เป็นปัญหาและการไปโรงงานผลิตหุ่นรบเล่า? เขาต้องบอกว่าความกล้าหาญของคนผู้นี้อยู่ในระดับเหลือเชื่อ
นักเรียนที่ถูกเทเลพอร์ตส่งไปยังโถงหุ่นตะวันออก ถ้าพวกเขาเคยเข้ามาสอบแล้วและรู้สถานการณ์ก็ไม่เป็นไร แต่นักเรียนที่เพิ่งเข้ามาส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีความสุข หุ่นอสูรที่บุกเข้ามาเหมือนกับคลื่นสึนามิมีความน่ากลัว ดูราวกับว่ามีหุ่นอสูรมากกว่ามดทั้งโลก แล้วจะสู้ได้อย่างไร?
ศึกนี้สามารถสู้ได้หรือ?
“ข้าชื่อมิกมาจากเมืองหอสูง รู้จักในนามว่าหมาป่าศึกแห่งหอสูง พวกเจ้าคงจะเคยได้ยินชื่อของข้ามาแล้ว หากพวกเจ้าไม่มีวิธีใดที่ดีกว่านี้ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า ฟังให้ดี พวกเรามารวมตัวกัน ก่อนอื่นให้ปล่อยบันไดและประตูด้านนอก ให้รักษาประตูที่สองของโถงใหญ่ไว้ มีพลังชนิดหนึ่งในห้องโถงหุ่นจะลดพลังงานที่หุ่นอสูรใช้ไป นอกจากนั้นเป็นอสูรหุ่นหน่วยกล้าตายระดับบรอนซ์ หรืออาจจะมีคนหลอกล่อ หุ่นระดับเงิน และระดับทองจะไม่เข้ามาง่ายๆ เราต้องรวมนักรบของเราทั้งหมดและอยู่ด้วยกัน พวกเจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะมีพื้นที่ภายในไม่เพียง หุ่นอสูรอยู่ได้ไม่กี่ตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหุ่นอสูรขนาดใหญ่จะไม่สามารถเข้ามาได้ ข้าเคยมีบันทึกความสำเร็จที่เรายันอยู่ได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ตราบใดที่พวกเจ้าทุกคนฟังข้า เราจะสามารถอยู่ต่อไปได้จนกว่าประตูเทเลพอร์ตจะเปิดอีกครั้งในครึ่งชั่วโมง....” มีนักเรียนระดับหัวกะทิที่มากับการเทเลพอร์ตเข้าสั่งการโดยไม่ลังเลเหมือนผู้เจนศึก ส่วนคนที่หน้าซีดขาวก็ค่อยๆ สงบสติลงได้
“ไปกันเถอะ” เย่ว์หยางไม่สนใจความพยายามแบบนี้ เขาแค่คิดจะดูโรงงานผลิตหุ่นอสูร
“เจ้าเป็นคนแบบนี้...” คุณชายหมิงจูหงุดหงิด แต่ยังต้องติดตามเย่ว์หยางต่อไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าเย่ว์หยางไปที่ไหน คุณชายหมิงจูจะติดตามไปและจะไม่ปล่อยเขาไปตามลำพัง
“อ๋า? พวกเจ้าต้องการทำอะไร? คงไม่ไปหาที่ตายหรอกนะ? กลับมานี่เร็วเข้า!” มิกหรือที่รู้จักกันในฉายาหมาป่าศึกแห่งเมืองหอสูงกำลังเตรียมการป้องกันตนเอง ทุกคนหันหน้าไปโดยไม่ตั้งใจเห็นเย่ว์หยางและคุณชายหมิงจู พวกเขากลัวจนมือเท้าเย็นเฉียบ นี่เป็นการฝ่าเข้าไปโดยตรง
เย่ว์หยางและหมิงจูวิ่งเข้าไปในคลื่นหุ่นอสูร ไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายแม้แต่น้อย
ตรงเข้าไปในกลุ่มหุ่นอสูรโดยตรง ครืนนนน ครืนนน
และหายไปโดยไม่เหลือร่องรอย
มิกหมาป่าศึกแห่งเมืองหอสูงมองดูและกลืนน้ำลายพึมพำ “ภาพลวงตา นี่ต้องเป็นภาพลวงตาแน่นอน”
23 ความคิดเห็น:
ถ้าคนอ่านชวนกันดองตอนไว้อ่าน คนแปลจะมองว่าโพส ไม่มีการสนองตอบ
คงได้แต่ดองตอนที่จะโพสไว้ รอให้เกิดแรงบันดาลใจครับ
เมื่อไหร่ด่านนี้มันจะจบ หรือสู้แบบจริงจังซะที ถ้าไม่มีบทสาวน้อย1 ใน 4 ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์นะ หึๆๆ ดองยาวไปแล้ว
ขอบคุณครับ
ตามอ่านอยู่เรื่อยๆครับกำลังสนุกรอพึ่เย่โชว์เทพอยู่
ขอบคุณครับ
ไม่ได้ดองคับอิฯ
ได้โปรดอย่าทำแบบนั้น ฆ่ากันทั้งเป็น
ผมอ่านรออ่านทุกวันเลยค้าบบบ��������
ได้เวลาปล่อยของแล้วไอ้สาม โชว์สาวให้เต็มสูบ 5555
อ่านทุกวัน
ผมรออ่านทุกวันครับ ตั้งแต่ยอดยุทธไร้เทียมทานแล้วครับ
ผ่านมาจะ 4 ปีแล้ว
ผมก็เช่นกัน จับมือๆ
ไม่เคยดองซักที มีแต่เข้ามาเช็คเรื่อยๆว่าเมื่อไหร่จะอัพ ทำใจดองไม่ไหว5555
อ่านอยู่ ทุกวัน
มันโชว์ยอดเข้าชมได้ไหมอ่ะ นี่ไม่ค่อยโพสนะ แต่มาอ่านทุกวัน กดf5ทุก1ชม.ตอนช่วงสี่โมงเย็น 555+++
ผมก็เช่นกันขอรับ..รออ่านยุเสมอนะคับ
ห่วยอย่าว่า
อยากต่อต่อมากๆ
นี่อ่านทุกวันเหมือนกันค่ะ
หายไปเลยเทพชัดๆ
แอด อย่าหาทำ ผมนี้อ่านทุกวัน
ข้าน้อยสมควรตาย
อ่านทุกวันค้าบบบ ของคุนคนแปลมาให้อ่านค้ายบบ
แสดงความคิดเห็น