วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1111 ร้อยแปดกระบวนท่า



ตอนที่  1111  ร้อยแปดกระบวนท่า

ที่ด้านหนึ่งของยอดเขาน้ำแข็ง


หยางผิงชูมือขวาด้วยความมั่นใจ และแหวนเปลวไฟสีแดงจากนิ้วกลางของเขากลายเป็นหุ่นรบระดับทอง แทนที่หุ่นระดับเงินที่เขามีก่อนนั้น

เจ้าผู้นี้ก็ได้รับของขวัญจากเทพปีศาจและทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจด้วยหรือ?  เย่ว์หยางตกใจเล็กน้อย แค่ชำเลืองมองเขาหัวเราะทันทีและรู้สึกว่าการทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจน่ากังวลเล็กน้อยก็จริง แม้ว่าหุ่นรบที่เขาใช้นั้นจะเป็นระดับทอง แต่สามารถเห็นได้ว่าพลังต่อสู้ที่แท้จริงที่ได้มาพร้อมกับการทำสัญญาปีศาจนั้น ไม่มีความแน่นอนบางอย่าง

นี่คือหุ่นรบทองที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญของหุบเขามนุษย์

คาดว่าเหมือนกับหุ่นระบำดาบของเมืองไม้เงิน นี่คือหุ่นรบที่หยางผิงแห่งเมืองเปลวอาทิตย์ป็นเจ้าของ เขาอาจต้องการผลสำเร็จในการประเมินครั้งนี้เป็นอย่างมาก

แม้ว่าหุบเขามนุษย์ไม่ได้แบ่งย่อยประเภทหุ่นรบ  ถ้าแบ่งประเภทหุ่นรบทองออกเป็นระดับย่อยสามระดับ ชั้นสูง ระดับกลางและระดับล่าง

อย่างนั้นหุ่นรบทองที่หยางผิงครอบครองนั้นมีพลังระดับกลางหรือระดับล่างอย่างไม่ต้องสงสัย

ถ้าหยางผิงทำสัญญากับเทพปีศาจจริง เขาจะไม่ได้รับหุ่นทองที่ไม่ดีนี้อย่างแน่นอน เทพปีศาจจะไม่ทำหุ่นทองที่คุณภาพต่ำอย่างนั้น!

“หุ่นรบระดับทอง? หือ? เจ้าเด็กหยางผิงเป็นเจ้าของหุ่นรบทองตั้งแต่เมื่อไหร่?”  นักเรียนที่รอดูอยู่นอกม่านพลังต่างประหลาดใจ

“นี่คือมังกรหลังหนาม  ในบรรดาหุ่นรบระดับทองรูปมังกรแห่งเมืองเปลวอาทิตย์  สามารถจัดอยู่ในอันดับสามได้ ในภูมิประเทศพิเศษอย่างยอดเขาน้ำแข็งมีพลังต่อสู้อยู่ในอันดับสอง รองจากหุ่นพ่นไฟของคุณชายหยางฉวน ไม่.. หุ่นพ่นไฟของคุณชายหยางฉวนได้รับความเสียหายซ่อมไม่เสร็จในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนนี้เจ้ามังกรหลังหนามเป็นหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองเปลวอาทิตย์” มีนักเรียนบางคนจำหุ่นรบของหยางผิงได้อย่างรวดเร็ว

“ไตตันน้อยอันตรายเสียแล้ว..” นักเรียนแต่ละคนถอนหายใจ คนพวกนี้เดิมพันไว้ข้างเย่ว์หยาง

“ถ้าเขาสามารถประดิษฐ์ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์ได้บางทีทางเมืองไม้เงินอาจมอบหุ่นรบระดับทองให้ไตตันน้อยก็ได้  เป็นไปไม่ได้ที่จงหัวจะสายตาสั้น!  นักเรียนบางคนค่อนข้างมั่นใจ เพราะเขาสามารถเอาชนะนักเรียนทุกคนชนะเลิศรางวัลความคิดสร้างสรรค์ และหุ่นประดิษฐ์ คงไม่ใช่คนที่รับมือง่ายๆ เป็นแน่

“เมืองไม้เงินไม่ได้เป็นของจงหัวคนเดียว และใครกำหนดกันว่าเมื่อประดิษฐ์ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้?  ไตตันน้อยล้มเหลวในการพัฒนาวรรณกรรมและศิลปะหรือไม่?  ในการประเมินผลรอบก่อนไตตันน้อยทำผลงานไม่ดีเลย!  นักเรียนบางคนที่วางเดิมพันข้างหยางผิงเชิดหน้าเถียงทันที

รอจนเย่ว์หยางเปลี่ยนเอาหมาป่าเงินออกมาจากปลอกข้อมือเงิน พวกนักเรียนตกใจกลัว

นักเรียนที่วางเดิมพันหยางผิงส่งเสียงเชียร์ร่าเริง

ระดับเงินสู้กับระดับทอง

ไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าแพ้แล้ว

ปัญหาก็คือจะทนอยู่ได้นานเพียงไหน  แต่นี่ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตราบเท่าที่แพ้ไม่ว่าเขาจะยืนหยัดได้นานเพียงไหน นักเรียนที่วางเดิมพันข้างเขาก็จะแพ้เสียเงินเดิมพัน

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” หยางผิงยั่วโมโหเล็กน้อย

เย่ว์หยางสู้กับศัตรูที่น่าเกรงขามนี้ แต่เขายังเยือกเย็นดุจยอดขุนเขาอยู่ได้

หลายวันมานี้เขาอึดอัดแทบหายใจไม่ออก  และในที่สุดเขาได้รับรางวัลหุ่นรบทองมาจากตระกูลความมั่นใจของเขาจึงกลับคืนมาบ้าง  แต่ในเวลาเดียวกันความกดดันกลับทวีคูณ เพราะถ้าเขาใช้หุ่นรบระดับทองแล้วยังไม่สามารถเอาชนะได้ คาดว่าผู้นำตระกูลคงจะขึ้นชื่อของเขาไว้ในบัญชีดำ จะไม่มีทางได้รับการว่าจ้าง

ปัญหาของการประเมินในปีนี้ นักเรียนหลายคนตาย และบาดเจ็บ  และโชคดีที่ผู้รอดชีวิตก็ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

เพื่อให้ชนะได้อันดับที่ดี  ตระกูลจึงต้องทุ่มทุน

หุ่นรบระดับทองอย่างเจ้ามังกรหลังหนาม เมื่อเอาออกมาใช้แล้ว

ในกรณีนี้ถ้าไม่สามารถเอาชนะได้  นั่นถือเป็นบาปยากจะไถ่ถอนของผู้ทำร้ายชื่อเสียงตระกูล

สองวันที่ผ่านมาหยางผิงไม่อาจนอนหลับได้ เนื่องจากอารมณ์ที่ซับซ้อนสองอย่าง คือตื่นเต้นและวิตกกังวล  ในที่สุดเมื่อได้เห็นหุ่นศัตรูก็รู้สึกโล่งอก เพราะไตตันน้อยใช้เพียงหมาป่าเงิน

หุ่นรบทองสู้กับหุ่นหมาป่าเงินหรือ?

ไม่จำเป็นต้องพูด

ต้องบดขยี้คว้าชัยชนะได้อยู่แล้ว!

ไม่ว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ เขาต้องฆ่าไตตันน้อยที่หยิ่งยโสให้ได้  “บุกโจมตี!  สิ่งที่หยางผิงคิดว่านี่คือวิธีการสังหารศัตรูที่เขาเกลียดที่สุด ต้องถอดชิ้นส่วนของหมาป่าเงินออกและเปลี่ยนให้เป็นกองขยะ นี่เป็นความคิดที่ดี แล้วให้ไตตันน้อยคุกเข่าต่อหน้าเขาขอความเมตตา!  ถ้าทำอย่างนั้นเขาควรจะทำอย่างไรถึงจะกำจัดความเกลียดชังได้?  เหยียบหน้าเขาให้เขาใช้ลิ้นเลียนิ้วเท้าเขาดีไหม?  หรือปล่อยให้เขาคุกเข่าในโคลนปล่อยให้เขากินขี้โคลนและตัวย้อมไปด้วยโคลน?

“ปัง!

เมื่อหยางผิงคิดว่าการใช้หนามของเขาพุ่งโจมตี จะทำให้ศีรษะหมาป่าเงินของฝ่ายตรงข้ามแตกหักหายไป

ทันใดนั้นด้วยความเข้าใจคลาดเคลื่อน ภาพศัตรูทอดระยะห่างมากขึ้น และร่างก็บินสูงขึ้นเรื่อยๆ

การลอยสูงขึ้นไม่ควรสูงกว่าหุ่นหมาป่าเงินของฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่หรือ? มังกรหลังหนามของเขาน้ำหนักไม่เท่ากับหมาป่าระดับเงินหรือ?

หยางผิงยังไม่ทันทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีเงาเยือกเย็นในท้องฟ้า

เงานั้นเข้ามาถึงด้วยความเร็วส

มีแสงกระจายออก

หยางผิงเงยหน้าขึ้นก็พบว่ากรงเล็กหมาป่าศึกของศัตรูสะท้อนแสงอาทิตย์วาววับ

มีพลังหนักหน่วงที่อธิบายไม่ได้ทะลุผ่านเกราะของหุ่นรบมังกรหนาม แรงสั่นสะเทือนพุ่งเข้าหาร่างหยางผิง ทำให้เขาอยากอาเจียนหลังจากที่ถูกกระแทกอย่างแรง  แรงกดกระแทกจนร่างกายแทบทนไม่ได้ ตาเหลือกท้องไส้ปั่นป่วน

ตุ้บ!

พื้นผิวน้ำแข็งถูกหุ่นมังกรหลังหนามกระแทกใส่

หุ่นรบทองของหยางผิงสูญเสียการควบคุม ไม่มีทางกำหนดท่าลงที่ถูกต้องกลับเป็นหลังที่ร่วงลงกระแทกผิวน้ำแข็ง

หนามหลังที่สามารถใช้เป็นอาวุธแทงลึกลงไปในน้ำแข็ง  ดังนั้นหลังจากกระแทกรุนแรง สมองไม่สั่งการ หยางผิงเงียบไปชั่วขณะไม่สามารถบังคับให้หุ่นรบพลิกตัวกลับมาได้

“ฮ้าคคค!  หยางผิงเห็นเงาในท้องฟ้าจึงเริ่มใช้กลยุทธ์ของหุ่นรบทันที

ในพริบตาเดียวหุ่นรบทองที่ยังคงนอนอยู่บนน้ำแข็งไม่สามารถขยับแขนขาได้ ยิงหนามแหลมออกมาสิบเล่มเรียงกัน

ความยาวของหนามแต่ละเล่มเท่ากับหอกหลาว

แต่พลังของมัน

รุนแรงเฉียบขาด

สามารถเจาะเกราะรบทองได้

เงาของหมาป่าศึกในท้องฟ้าที่เขาคิดว่าไม่สามารถหลบพ้นกลับหายไปในพริบตาไม่เหลือร่องรอย

ไม่ต้องรอให้หยางผิงค้นหาศัตรู หัวของหุ่นรบทองถูกกระแทกอย่างน่ากลัว หยางผิงพบว่านัยน์ตาของเขามองเห็นดวงดาวและโลกกำลังหมุนกลับ ศีรษะตกห้อยลงเขาจะกระแทกเข้ากับผนังน้ำแข็งอย่างแรงจึงหยุดได้

รอจนกระทั่งหยางผิงดิ้นและควบคุมหุ่นออกมาจากผนังน้ำแข็งได้ เขาถึงกับลื่นล้ม

เขาตกใจเมื่อพบว่าไม่มีหมาป่าเงินอยู่ข้างหน้า

มีแต่หุ่นรบร่างมนุษย์ระดับเงิน

หากแต่ค่อนข้างคล้ายหมาป่าเงิน ที่ไหล่ของมันเป็นกรงเล็บของหุ่นหมาป่าเงิน

“เป็นไปไม่ได้, เป็นไปไม่ได้ นี่ต้องเป็นภาพลวงตา....”  หยางผิงร้องโวยวายลั่น และไม่อยากเชื่อว่าขณะที่เขาควบคุมหุ่นรบระดับทองจะถูกหมาป่าเงินของอีกฝ่ายหนึ่งทำร้ายจะเป็นบาดแผลฟกช้ำ  ยิ่งกว่านั้นเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหมาป่าเงินสามารถยืนขึ้นและกลายเป็นหุ่นร่างมนุษย์ได้ นี่คือหุ่นรบ ไม่ใช่อสูรศึก มันเปลี่ยนรูปได้อย่างไร?

ทั้งหมดนี้ต้องเป็นภาพลวงตาแน่!

เย่ว์หยางหาวอีกครั้ง  “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้  นักเรียนหยางผิง  เจ้านั่งอยู่ในหุ่นรบระดับทอง ใช้พลังของหุ่นระดับทอง คนเราต้องมีความรู้เป็นของตนเอง ถ้าหัวไม่โตพอก็อย่าสวมหมวกใหญ่ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นตัวตลกให้ผู้พบเห็นขบขัน”

หยางผิงโกรธแทบบ้าจวนเจียนแทบกระอักเลือดในที่นั้น  เขาวิ่งเข้าหาเย่ว์หยาง  “ฆ่า ต้องฆ่าเจ้า ข้าไม่มีทางแพ้  ข้ามีหุ่นรบระดับทอง!

เย่ว์หยางเปลี่ยนรูปหุ่นเป็นหมาป่าเงินและหลบหลีกการโจมตีอย่างฉลาด

และมาอยู่ด้านหลังอย่างง่ายดาย

ใช้เท้าข้างหนึ่งเตะใส่หนามยาวของหุ่นหยางผิง

หุ่นของหยางผิงกระแทกพื้นน้ำแข็ง

หลังจากกระแทกกับน้ำแข็งอย่างหมดท่า เพราะทักษะเตะอย่างฉลาดส่งผลให้หุ่นมังกรหลังหนามไถลไปเกินร้อยเมตรก่อนจะหยุดลงได้  ในเวลานี้หยางผิงอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา... ปล่อยให้ศัตรูเล่นงานฝ่ายเดียวเป็นเรื่องน่าอับอาย ต่อให้สู้ชนะก็ทำให้ตระกูลเสียหน้า

หลังจากกลับไปคาดว่าเขาคงไม่ได้รับผลตอบรับที่ดีแน่

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น

ต้องฆ่าเจ้าบัดซบไตตันให้ได้ก่อน!

เปลวไฟแห่งความเกลียดชังฉายแววอยู่ในดวงตาของหยางผิง เจ้าหลังหนามกระโจนไปข้างหน้าเข้าหาหุ่นรบเงินที่เย่ว์หยางควบคุม

“1, 2, 3....30, 31, 32,....98, 99, 100 พระเจ้า 107, 108 ถึง 108 จริงด้วย  สิ่งที่ข้าเห็น ไม่อยากจะเชื่อเลย ไตตันน้อยใช้การโจมตีที่แตกต่างกันถึง 108 รูปแบบ  ข้าคิดว่ามีอัจฉริยะต่อสู้เพียงคนเดียวอย่างชิงหมออยู่ในโลก  คาดไม่ถึงยังมีไตตันอีกคน!  ข้าปลื้มจนน้ำตาแทบไหล สวยงามมาก สง่ามาก  หุ่นรบระดับเงินเล่นงานหุ่นรบระดับทอง และฝ่ายตรงข้ามไม่มีกำลังตอบโต้กลับเลย  ข้ามองดูง่ายๆ เหมือนการต่อสู้นี้เป็นเพียงการร่ายรำ การร่ายรำที่งดงามอย่างไม่ต้องฉายประกายเลย!  พวกที่คลั่งไคล้ชิงหมอเหลือบมองดูการต่อสู้ของเย่ว์หยางโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาปลาบปลื้มจนน้ำตาซึมและรำพึงกับตนเองทันที

“ไม่ธรรมดา  นอกจากชิงหมอแล้ว  ยังมีคนไม่ธรรมดาใช้รูปแบบการโจมตีได้ถึง 108 รูปแบบหรือ?”  นักเรียนอื่นกลัวและไม่อยากเชื่อสายตา

“บึ้ม บึ้ม ปัง...”

หยางผิงปล่อยให้เย่ว์หยางโจมตีไป 108 ชุดหมดสิ้นพลังงานและหมดสติไปในห้องขับขี่นั่นเอง

หุ่นรบมังกรหลังหนามระดับทองของเขาล้มลงกระแทกกับพื้นหลังจากเย่ว์หยางหยุดโจมตี

น้ำแข็งกระเด็นกระจาย

หมาป่าเงินเปลี่ยนร่างเป็นรูปอสูรหมาป่ากลางอากาศมองดูเหมือนนักรบกล้าหาญเป็นภาพตัดกับหุ่นรบระดับทอง

เมื่อมันยืนอยู่บนพื้นน้ำแข็งพร้อมกับเจ้านาย มันคำรามขึ้นท้องฟ้ากระตุ้นให้ทุกคนมีใจยำเกรงมัน  แม้จะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำมาจากวัตถุโลหะ เป็นของตายที่ไม่หายใจ ไม่เติบโต  อย่างไรก็ตามในเวลานี้ทุกคนลืมไปว่ามันเป็นหุ่นรบอสูรที่ไม่มีชีวิต  แต่รู้สึกว่ามันมีชีวิต

รู้สึกเหมือนมันคือหมาป่าที่มีชีวิต!

จ้าวหมาป่าไร้เทียมทาน เอาชนะศัตรูที่ทรงพลังแข็งแกร่งได้ยืนประกาศตัวกับชาวโลก

แม้แต่เย่ว์หยางเอง ก็ได้รับความรู้ใหม่ๆ จากการต่อสู้ครั้งนี้มากมายเช่นกัน

“เจ้าเด็กนี่จอมเห่อจริงๆ  หลังจากการต่อสู้จบ ก็พอแล้ว นี่ต้องยืนรอรับเสียงเชียร์ของทุกคนด้วยหรือ?”  คุณชายหมิงจูไม่ทราบว่าเย่ว์หยางกำลังรู้สึกและคิดว่าเขากำลังเล่นได้ดี แน่นอนว่ามองผิวเผินคุณชายหมิงจูดูแคลนพฤติกรรมนี้  แต่กลับยิ้มมุมปากโดยไม่ตั้งใจและอดภูมิใจออกมาเล็กน้อยไม่ได้

“ข้า ข้าก็เสียใจเช่นกัน...”  ฉีมู่ตอนนี้พบว่าเขากำลังตีอกดีใจเหยียบเท้าหมิงจูอยู่

เขาพบว่าเขาไม่เคยเสียใจเลยทั้งชีวิต

แล้วทำไมเขาถึงไม่ทุ่มเททรัพย์สินของเขาเล่า?

ถ้าเป็นเขาถูกส่งออกไปเอง เขาคงไม่มีโอกาสกลับมาอีกเมื่อเจ้าเด็กนี่ใช้ 108 กระบวนท่าทำลายหุ่นทองได้  ถ้าเดิมพันในอนาคตจะมีหวังบ้างไหม?

ฉีมู่ยิ่งคิดยิ่งเศร้า

เขาได้แต่สะอื้น

11 ความคิดเห็น:

ผ่านมา กล่าวว่า...

หมิงจูตกหลุมชายสามจนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้ว

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

เสียใจไม่ได้วางเดิมพัน ปัดโธ่

Akirabas กล่าวว่า...

อดลาภปากฉีมู่

Unknown กล่าวว่า...

รักคนแปล

Lazykuma กล่าวว่า...

ผิดที่นายไม่ฉวยโอกาสไงฉีมู่555

BJ กล่าวว่า...

นึกว่าเสียใขเรื่องเหยียบเท้าน้องสาวตัวเอง555

--- กล่าวว่า...

อดรวยเลยนะ
ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

อัดให้เละเลย

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ดีใจแทนหลัวละสิ

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น