วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1113 วันนี้ข้าตื่นด้วยตัวเอง



ตอนที่  1113  วันนี้ข้าตื่นด้วยตัวเอง

ก่อนเข้าโลกคัมภีร์

เย่ว์หยางกรนสนั่นหลังจากที่คุณชายหมิงจูรู้สึกง่วงและลอบกลับไปที่ห้อง


เขากลับมาคราวนี้ไม่ได้ถูกสาวๆ โจมตีตอนกลางคืนอย่างที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคิด ตรงกันข้ามเขานั่งคิดอยู่ข้างๆ เสวี่ยอู๋เสียอย่างสงบทั้งคืน ตั้งแต่สู้กับเทพปีศาจ เสวี่ยอู๋เสียส่งพลังจิตช่วยเขา นางตกอยู่ในสภาพหลับสับสนอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยาง นางไม่อยากเชื่อเลยว่านางจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคออกมาได้  สถานการณ์ของเสวี่ยอู๋เสียก้าวหน้าเมื่อเทียบกับครั้งก่อน

แม้ว่าเย่ว์หยางจะเรียกนางทางจิตวิญญาณ แต่นางไม่อาจตื่นจากสภาพหลับใหลได้ แต่อย่างน้อยนางมีความรู้สึกอย่างหนึ่งแน่นอน

บางทีไม่ค่อยชัด

แต่ไม่สำคัญ

ตราบเท่าที่นางรู้ว่าเขากำลังเรียกนาง

เขาจับมือนางเบาๆ และเรียกนางผ่านจิตวิญญาณ บอกนาง

นางผู้ไม่สามารถพักได้ ยังไม่มีการสนองตอบ  ใบหน้าน้อยๆ ยังคงสงบเหมือนหลับอยู่ แม้แต่ขนตานางก็ไม่กระตุก  แต่เย่ว์หยางรู้ว่าจากส่วนลึกของวิญญาณนาง  นางสามารถได้ยินเสียงของเขา ได้ยินเสียงเรียกนาง  นางจะต้องกลับมาอยู่กับเขาให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้

“สาวหิมะ..กลับมาเร็วๆ เถอะ!  ข้าไม่อาจอยู่ได้โดยไม่มีเจ้าอยู่เคียงข้าง หัวใจข้าเหมือนสลายไม่มีอะไรเติมเต็มในใจได้  กลับมาเร็วๆ ได้ไหม ข้ารอเจ้ามานานแล้ว ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้นหรอกนะ  แม้แต่แม่เสือสาว นางไม่อาจอยู่โดยไม่มีเจ้าได้ นางไม่มีคู่แข่ง พอไม่มีคู่แข่งคอยกดดันนางทุกด้าน นางจึงไม่มีแรงจูงใจที่จะทำอะไร และรู้สึกเบื่อหน่ายทำให้การฝึกฝนชะงักจากแต่เดิม นอกจากนี้ยังมีโล่วฮัว อี้หนาน อู๋เหินและพี่หวี่   ทุกคนกำลังรอเจ้า  เจ้าไม่ควรหลับอย่างนี้อีกต่อไป  เจ้าไม่ควรง่วงเป็นหมู เจ้าเป็นคู่หมั้นที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุดของข้า  ถ้าเจ้าไม่มีชีวิตอยู่ใกล้ๆ ข้า ข้าคงทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้   ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้มาก่อน  แต่ตั้งแต่เจ้าหลับไป ข้าพบว่าพอไม่มีเจ้าทำอะไรก็ติดขัดไปหมด  อู๋เสีย เจ้าได้ยินไหม?  ข้าคิดถึงเจ้า  ข้าคิดถึงเจ้า  ดังนั้นเจ้าต้องกลับมาเร็วๆ...”  เย่ว์หยางไม่เคยอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแอบมองภาพนี้อยู่ห่างๆ แม้แต่สตรีที่เข้มแข็งอย่างนางยังอดหลั่งน้ำตาไม่ได้

ผ่านไปหนึ่งคืน

เย่ว์หยางโน้มตัวจูบหน้าผากเสวี่ยอู๋เสียเบาๆ และกลับออกมา

ที่โลกภายนอก การแข่งขันประเมินคะแนนนักเรียนจะดำเนินต่อไป  แม้ว่าจีอู๋ลี่และคนอื่นๆ จะทำสัญญากับเทพปีศาจ แต่หลานฟง ว่านหมอและคนอื่นๆ ก็มีไพ่ไม้ตาย  แม้แต่มดแมลงอย่างจินฉี ก็ยังได้พลังจากร่างอวตารเทพปีศาจ

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางยังคงไม่กลัว

เทพปีศาจไม่สามารถข่มเขาได้เช่นกัน   เขาไม่มีทางถูกร่างอวตารของเทพปีศาจข่มขวัญแน่   เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ข้ามโลกอื่นมาสู่โลกนี้  เขาคือเย่ว์หยาง เย่ว์ไตตันที่ไม่มีทางถูกฆ่าได้ง่ายๆ ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนของสหายและญาติพี่น้องนับไม่ถ้วน ด้วยพลังปณิธานปราณราชันย์ที่สมบูรณ์ ด้วยปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ ปราณก่อกำเนิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด  เขาคือนักสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เป็นอัจฉริยะที่ผิดธรรมดา มีทักษะแฝงเร้นไม่มีใครเทียบ มีอสูรอมตะเป็นอสูรพิทักษ์ และยังมีโชคชะตาที่แข็งแกร่ง คุณชายจากตระกูลเย่ว์ เผชิญหน้ากับศัตรู ยังต้องกลัวอะไรอีกเล่า?

คำตอบคือ ไม่มีอย่างแน่นอน

แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่ได้มีสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด แต่ในฐานะเด็กหนุ่มข้ามมิติ เขาเป็นบุรุษที่ไม่มีทางยอมแพ้..

ผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่นักพรตเฒ่าให้เขาไม่ใช่ของวิเศษ แต่เป็นโอกาสเปลี่ยนเย่ว์หยางจากเด็กที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในโลกส่วนตัวที่น่าตาย เตะโด่งเขาเป็นพันๆ ไมล์ลอยขึ้นสู่สวรรค์ มองเห็นสรรพสิ่งและสรรพชีวิต

“อรุณสวัสดิ์”  เย่ว์หวี่เห็นเย่ว์หยางออกมา นางยิ้มทักทาย ดูงดงามยิ่งกว่าอาทิตย์อุทัย

“รอฟังข่าวดีจากข้า!  เย่ว์หยางยังคงยิ้ม เขาทักทายเย่ว์หวี่และเดินเข้าไปหากอดนางอย่างสุภาพ ในสายตานางแสดงความอึดอัดอยู่บ้าง แต่นางยกกำปั้นขึ้นแสดงความมั่นใจและมุ่งมั่น

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้ออกมา

นางจงใจหลบเลี่ยงเขา

เมื่อรู้ว่าเขาต้องการกำลังใจในตอนนี้ นางกลับไม่ต้องการออกมา

เพราะนางกลัวว่าเมื่อนางก้าวออกไป นางจะกอดเขาไว้แน่นไม่ต้องการแยกจากเขา... การเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างเทพปีศาจ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเกลียดที่ว่านางไม่มีความแข็งแกร่งมากพอออกไปช่วยเขาในหุบเขามนุษย์ที่ยากลำบากนี้  ในเมื่อนางไม่สามารถช่วยเขาได้  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ต้องการแสดงความกลัว  นางกลัวว่าเขาจะกังวล และนางไม่ต้องการเห็นเขาอ่อนแอ

หลังจากเย่ว์หยางออกไป องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเดินมาที่เตียงของเสวี่ยอู๋เสีย

นางจับมืออ่อนนุ่มของเสวี่ยอู๋เสียเหมือนอย่างเย่ว์หยางและเรียกอดีตคู่แข่งนางอย่างอ่อนโยน “ข้าจะไม่ทะเลาะกับเจ้าแล้ว เจ้ากลับมาเถอะ!  ถ้าเจ้าอยู่เคียงข้างเขา บางทีเจ้าคงมีวิธีช่วยเขา ข้าเป็นรองเจ้าจริงๆ ในเรื่องนี้  อย่างไรก็ตามเจ้าก็รู้ ว่าข้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ ข้าจวินหยวนไม่ได้เป็นรองเจ้าแน่นอนไม่ว่าเจ้าจะเหนือข้ามากแค่ไหนก็ตาม ข้าจะตามเจ้าให้ทันให้ได้ เขาบอกว่า เขาไม่อาจมีชีวิตโดยไม่มีเจ้า แต่ข้างเขาต้องมีตำแหน่งของข้า  ข้าก็เป็นคนที่เขาขาดไม่ได้เช่นกัน กลับมาเถอะ เฉพาะสติปัญญาของเจ้าหรอกที่เป็นคู่แข่งของข้า  บางทีเจ้าอาจไม่รู้ว่าข้าก้าวหน้าไปมากแล้ว หากไม่ใช่เพราะเจ้าโชคดีได้หลอมรวมกับประกายเทพ  เจ้าอาจทิ้งห่างข้าออกไปแล้ว  อย่าเพิ่งเชื่อมั่นเกินไป  หากเจ้าต้องการพิสูจน์ว่าเจ้ายอดเยี่ยม อย่างนั้นจงตื่นขึ้นมาแข่งกับข้า”  ในตอนท้ายองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจ  “อืม... ข้าต้องยอมรับว่าข้าอิจฉาเจ้า  เจ้าไม่เคยรู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นไม่เคยอ่อนโยนกับข้า  เขาชอบแกล้งข้า แต่เขาดีกับเจ้า”

ร่างของเสวี่ยอู๋เสียดูเหมือนแผ่รัศมีออกมาแผ่วอ่อนจางมาก

ดูเหมือนว่านางจะตอบสนองต่อคำพูดขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจ้องมองอย่างตั้งใจ

หลังจากแสงหายไปนาน

ก็ไม่มีร่องรอยเพิ่มขึ้นอีก

เมื่อเห็นปฏิกิริยาพิเศษเช่นนั้น องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแทบสงสัยว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่  ในที่สุดนางยิ้มและจับมือน้อยของเสวี่ยอู๋เสียก้มลงจูบหน้าผากเสวี่ยอู๋เสียตำแหน่งเดียวกับที่เย่ว์หยางจูบ นางพูดเบาๆ  “เขาจูบเจ้า และข้าก็จูบด้วย ก็หมายความว่าเขาจูบข้าทางอ้อม เพื่อที่ว่าพวกเราทุกคนจะได้มีหัวใจที่สมดุลกัน!

หลังจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจากไป ร่างของเสวี่ยอู๋เสียดูเหมือนมีรัศมีเลือนรางที่แทบมองไม่เห็น

แต่ว่าเลือนรางมากและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังก้าวออกไปอย่างอารมณ์ดีไม่ได้ตระหนักรู้

ข้างนอกห้อง เย่ว์หวี่ยิ้มมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

และไม่ได้พูด

แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่านางกำลังหยอกล้อตัวเอง  นางถึงกับอายมากก้มหน้า “อย่ามอง ข้าไม่ได้หึง ข้าไม่ได้แข่งขันกับสาวหิมะเพื่อให้ได้รับความโปรดปราน  ใครให้น้องชายเจ้าทำตัวประหลาด

เย่ว์หวี่กางแขนขาวเหมือนรากบัวและกอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเบาๆ  “เขากอดข้า ข้าจะกอดเจ้าเผื่อเขาด้วย จะได้สมดุลกัน”

“เจ้าก็หยอกล้อข้า ใช่แล้ว ต้องโทษเจ้าผู้นั้น...”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกอึดอัดอาย นางขยี้เท้าและแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะจับตัวร้ายนั่นมาระบายอารมณ์  นางจะต้องกัดเขาแรงๆ ให้เลือดออก ไม่อย่างนั้นนางจะไม่สามารถยกโทษให้เขาได้เลย

เจ้าโจรขโมยหัวใจ!

ช่างเป็นขโมยที่นางไม่อาจยกโทษให้ได้ตลอดชีวิต

คุณชายหมิงจูอารมณ์ค่อนข้างคล้ายกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

ตอนนี้คุณชายหมิงจูคว้าคอเสื้อของเย่ว์หยาง ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ คุณชายหมิงจูโกรธแทบคลั่ง เหมือนกับว่าพร้อมจะอ้าปากกัดเย่ว์หยางได้ทุกเมื่อ  สีหน้าของเย่ว์หยางกลัวเล็กน้อย แต่แม้แต่คนตาบอดก็มองออกว่าเขาแกล้งทำ  เขายังคงยิ้มได้หน้าตาเฉย

“เจ้ามีกลิ่นสตรีคนหนึ่งบนร่างกาย กล้ามากนักนะ ทำไมเจ้าแอบย่องไปในขณะข้าหลับ?”  คุณชายหมิงจูไม่เคยเห็นขโมยที่หยิ่งอย่างนั้นทำผิดอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังกล้ายิ้มโง่ๆ อีกหรือ?  นี่คันเนื้อคันตัวจนไม่คิดออกไปสู้ใช่ไหม?

“เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว!  เย่ว์หยางเมื่อเห็นค้อนใหญ่ถืออยู่ในมือคุณชาย เขารีบอธิบาย “นี่คือกลิ่นพี่สาวข้า!

“หือ?” ค้อนยักษ์ในมือของคุณชายหมิงจูหายไปทันที และปล่อยมือที่คว้าคอเสื้อเขา “โอว... เป็นความเข้าใจผิด ทำไมเจ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้!

“ก็เจ้าไม่ให้โอกาสข้าอธิบาย...”  ตอนนี้เย่ว์หยางถือโอกาสบ่นบ้าง

“เมื่อวานนี้ข้านอนหลับไม่เต็มที่ เจ้าก็ควรรู้  คนที่ไม่ได้หลับเสมอก็มักลุกจากเตียงได้เสมอ!  สภาพอากาศวันนี้ไม่เลว  ไตตันเจ้าเต็มไปด้วยพลังงานแสดงว่าวันนี้เจ้าพักผ่อนมาเต็มที่!  คุณชายหมิงจูทำเป็นเปลี่ยนหัวข้อและยกย่องเย่ว์หยางทันที

“แน่นอนว่าวันนี้ ข้าตื่นขึ้นมาด้วยตัวเอง!  เย่ว์หยางรับสมอ้างอย่างไม่รู้สึกละอาย

“อ๋า ใช่เหรอ? ฮะฮะ”  คุณชายหมิงจูไม่รู้จะพูดตอบโต้อะไรกับคนแบบนี้

“วันนี้ข้าก็อย่างหล่อ ตื่นได้ด้วยตัวเอง...”  ฉีมู่รู้สึกว่าเหมือนถูกบังคับให้ต้องสรรเสริญตัวเอง เพราะตอนนี้เขาพบว่าเมื่อเทียบเย่ว์หยางแล้ว เขาถ่อมตัวมากเกินไป  ก่อนนั้นความสุภาพมากเกินไปก็คือความหน้าซื่อใจคด ฉีมู่ตั้งใจว่าแต่นี้ไปเขาจะต้องเจ้าเล่ห์ขึ้นบ้าง

“ไปไกลๆ เลย!  เย่ว์หยางเตะเจ้าผู้นี้ร่วงไปกับพื้น และกระซิบถามว่าเข้ามาทำอะไรที่นี่?

“ถ้าเจ้าไม่ยืนยันอย่างสนิทใจว่าเราดยุคผู้นี้หล่อ  ข้า ข้าจะไม่จากไป!  ฉีมู่รู้สึกกลัวอยู่ในใจเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นเย่ว์หยางหรือคุณชายหมิงจู ไม่มีใครกล้าตอแยเขา  อย่างไรก็ตามเนื่องจากหากเขาถูกทุบตีไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย   ดังนั้นเขาจะต้องประเมินตนเองในระดับสูง มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้

“เจ้า...” เย่ว์หยางโดนก่อกวนตรงๆ เช่นนี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ หล่อเหลาสง่างาม นี่เขาไม่ส่องกระจกดูตัวเองหรือ

“หล่อเหรอ  หล่อตายน่ะสิ”  คุณชายหมิงจูโกรธเตรียมใช้ค้อนทองยักษ์หวดทันที ฉีมู่หวาดกลัวแทบตายรีบเผ่นทันที  แต่คาดไม่ถึงว่าคุณชายหมิงจูกระโดดถีบเขาจนตัวลอยกระเด็น

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

คุณชายฉีมู่กลับไปที่หอพักนักเรียนและเคาะประตูเรียกฮ็อกด้วยความมั่นใจ

หน้าเขาบวมปูดปากเจ่อ ผมฟูกระจายแต่ก็ยังทำท่าภูมิใจ เอ่ยปาก  “ต้องหล่อขนาดไหน? แม้ว่าข้าจะหล่อพอแล้ว แต่ข้าพบว่า ข้าหล่อขึ้นทุกวันที่ลุกขึ้นจากเตียง!

ฮ็อกทำตาโตยิ่งกว่าตาวัว สองมือปิดปากตะโกนร้องด้วยความตกใจ “ผีหลอก!

15 ความคิดเห็น:

Akirabas กล่าวว่า...

สาวหิมะใกล้จะติ่นแล้ว

oBABYVOXo กล่าวว่า...

555++

BJ กล่าวว่า...

ฮา

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ช่วงแรกซึ่งช่วงกลางหึงช่วงท้ายตบมุข

Lazykuma กล่าวว่า...

5555 ที่รองรับอารมณ์จริงๆ คุณชายฉีมู่55

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

5555

Pcha กล่าวว่า...

55ผีหลอก

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

รู้สึกว่าฉีมู่ นับวันยิ่งมีบุคลิกเหมือนเจ้าอ้วนไห่นะ5555

--- กล่าวว่า...

มาเถอะสาวหิมะข้ารออยู่
ขอบคุณครับ

Kingtest5 กล่าวว่า...

ฉีมู่นี่ตัวฮาจริงๆ

Deils(of)darK กล่าวว่า...

บทฉีมู่มาแทนหุ้ยไท่หลางจริงๆเลย

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

สงสสารน้องฉี หุ้ยไท่หลาง ร่าง คนแท้ๆ 555

SoHaIsO กล่าวว่า...

555

chay กล่าวว่า...

55555

แสดงความคิดเห็น