วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1118 ผิดธรรมดา ความคล่องแคล่วที่สิ้นหวัง



ตอนที่  1118  ผิดธรรมดา ความคล่องแคล่วที่สิ้นหวัง

การต่อสู้ที่บ้าบิ่นที่สุดในประวัติศาสตร์กำลังจะเริ่มขึ้น


ไม่เคยมีการแข่งขันสู้หนึ่งต่อสอง ไม่เคยมีการประลองที่บ้าคลั่ง แค่หมาป่าเงินหนึ่งตัวสู้ประลองกับหุ่นรบระดับทองหลายตัว และยังเป็นหุ่นรบเลือดเนื้อระดับทองที่สามารถรับและรุก และรักษาตัวเองได้...การต่อสู้อย่างนี้หลานฟงและจงหัวที่มองดูอยู่ด้านข้างถึงกับขมวดคิ้ว  พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเหนือความอ่อนแอ  นอกจากนี้พวกเขายังรู้ว่าแม้แต่จีอู๋ลี่ผู้ใกล้เคียงระดับเทพที่สุด ก็ยังเอาชนะฟ้าไม่ได้

จินฉีขับขี่หุ่นรบแม่เหล็กราชันย์เลือด และตั้งแต่เริ่มต้นเขาตัดสินใจทุ่มสุดกำลัง

เขาไม่ใช่ว่านหมอ

แม้ว่าเขาต้องการประพฤติตัวหยิ่งยโส  แต่เขาไม่กล้าแสดงความยโสเกินเลยในเรื่องนี้

ฝ่ายตรงข้ามคือเย่ว์หยางผู้มีสติปัญญาร้ายกาจ จินฉีเข้าใจชัดเจน หน้าของเขาดูถูกเหยียดหยาม แต่ในใจของเขามีแรงกดดัน

ว่านหมอที่เหมือนกับเคยประกบกับชิงหมอ ปล่อยหุ่นเลือดเนื้อโนมระดับเงินสิบตัวและหุ่นรบระดับเงินสิบตัว  หลังจากทั้งสองตัวกันแล้วก็ปล่อยหุ่นยักษ์โอ๊กระดับทอง

เข้ากันได้พอดี

และแสดงพลังของการบดขยี้!

นักเรียนบางคนผู้ปรากฏตัวที่สนามรบอดส่งเสียงโห่ร้องไม่ได้

สองต่อหนึ่ง นี่มันมากเกินไปแล้ว  ตอนนี้ไม่ง่ายอย่างสองนัดที่ผ่านมา  สองต่อหนึ่งมันง่ายไป  ต้องบอกว่า ยี่สิบต่อหนึ่ง ถึงจะสมเหตุสมผล

 “สู้ได้!

หลังจากคำสั่งของกรรมการชุดดำให้เริ่มการต่อสู้ จินฉีลงมือก่อนอย่างรวดเร็ว ขณะที่เย่ว์หยางกำลังจะจับมือกับคู่ต่อสู้ตามกติกา เขาปล่อยหมัดบดขยี้หมาป่าเงินด้านหลังเย่ว์หยาง

ผู้คนโห่ร้องไม่พอใจ

น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย ขี้โกง น่าเกลียด.. เสียงก่นด่านับไม่ถ้วนจากปากพวกนักเรียนดูถูกดูหมิ่นนั้นว่าน่าอับอาย  พวกขุนนางเป็นแบบนี้หรือ?  ไม่ได้ดีไปกว่าทหารรับจ้างหยาบช้า โจมตีในขณะที่คู่ต่อสู้กำลังคำนับหรือ?  สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือการลอบโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้สายตาของกรรมการผู้ตัดสิน ช่างน่ารังเกียจ ไร้ยางอายในระดับที่น่ากลัว

ตามรูปแบบกติกาการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นสหายหรือศัตรู จะเกลียดชังหรือฆ่ากันก็ตาม

ก่อนเริ่มการแข่งขันต้องคำนับให้เกียรติคู่ต่อสู้ก่อน

นอกจากเป็นการให้เกียรติคู่ต่อสู้แล้ว ยังเป็นการแสดงถึงบุคลิกนิสัยของตนเอง!

นอกจากนี้กรรมการผู้ตัดสินยังไม่ได้ถอยออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย นักเรียนโดยทั่วไปไม่สามารถเริ่มการโจมตีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อกรรมการผู้ตัดสินโดยไม่ตั้งใจ  แต่จินฉีทำทั้งสองอย่างและทำอย่างง่ายดายราวกับว่าเป็นสัญชาตญาณที่จะต้องทำอย่างนี้  ยี่สิบต่อหนึ่งหุ่นระดับทองกับระดับเงินก็ได้เปรียบพอแล้ว นี่ยังฉวยโอกาสจากการที่คู่ต่อสู้ทักทายและเปิดการโจมตี?

แม้แต่คนที่อารมณ์ดีก็ยังไม่อาจทนต่อสวะแบบนี้ได้!

ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปในสนามแข่งขันก่อนที่การต่อสู้จะจบลง ฉีมู่คงเข้าไปข้างในและเปลี่ยนจินฉีให้เป็นหัวหมูแบบไม่ต้องส่องกระจกก็ดูรู้

 “มันมากเกินไปแล้ว!  มิกหมาป่าแห่งหอสูงชูกำปั้นด่า

 “จริงๆ แล้วจินฉีให้ความสำคัญกับชัยชนะมากเกินไป พฤติกรรมแบบนี้แย่มากและต่ำช้า ต่อให้ชนะชื่อเสียงก็มัวหมอง  เขาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง!” สีหน้าของคุณชายหยางฉวนจริงจัง และเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อวิเคราะห์เหตุผล  หลานฟงที่อยู่ไม่ไกลจากเขาพูดเยาะเย้ย  “การทำสงครามไร้ยางอาย?  เขาพูดถึงชัยชนะกับความพ่ายแพ้เท่านั้น หากจินฉีไม่ทำเช่นนี้จะนั่งรอให้ไตตันบุกโจมตีต่อเนื่องหรือ?  แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนประณามเขา  แต่ถ้าจินฉีชนะในท้ายที่สุดและชนะในการแข่งขัน ผู้คนจะพูดอะไรเกี่ยวกับเขา  ดังนั้นข้าคิดว่าจินฉีทำได้ฉลาด!

หลานฟงไม่ชอบจินฉีจริงๆ แต่ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย

จงหัวเป็นศัตรูในชีวิตของเขา

แต่ไตตันน้อยเป็นสหายของจงหัวและเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการคว้าชัยชนะของตัวเขาเองและว่านหมอ

ดังนั้นไม่ว่าจินฉีจะลอบโจมตีอย่างไร หลานฟงไม่รู้สึกว่าเขาทำผิด ตรงกันข้าม การกระทำเช่นนั้นทำให้หลานฟงมีความสุข

จงหัวทำสีหน้าดูถูก  “เจ้าคิดว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะไตตันน้อยได้ใช่ไหม? น่าขันมาก  จินฉีก็แค่ตัวตลกที่กระโดดไปมาจะทำอะไรได้?  ถ้าไม่มีว่านหมออยู่ในสนามต่อสู้ ข้ารับรองได้ว่าจินฉีเป็นแค่ไอ้งั่งยืนหยัดได้ไม่เกินสิบห้านาที!

สนามต่อสู้ยอดเขาตะวันตก

เย่ว์หยางไม่ได้มองดูหมาป่าเงินที่พังเสียหาย  ราวกับว่าจินฉีควบคุมราชันย์เลือดให้ทำลายหุ่นของเล่น ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้หมาป่าเงินต่อสู้ ในท่ามกลางสาธารณชน เย่ว์หยางกระโดดขึ้นในกลางอากาศ ปรากฏหมาป่าเงินในท้องฟ้าและเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นนักรบเงิน

 “บึ้ม”

ว่านหมอรอคอยอย่างเงียบสงบ

แค่รอช่วงขณะนี้เท่านั้น ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว ไม่มีเวลาจะเสียอีกต่อไป ยักษ์โอ๊กทะยานลงมาเหมือนมัจจุราชเงาของมันคลุมเต็มท้องฟ้าและครอบงำนักรบเงินพร้อมที่จะสู้กับเย่ว์หยาง

ในขณะนั้นหุ่นรบเงินและยักษ์โอ๊กใช้ทักษ์ที่ยืดหยุ่นคาดไม่ถึงไล่ล่ากัน

พลังโจมตีของมันราวกับห่าฝน หุ่นรบเงินร่วงลงหลังกระแทกพื้น จากนั้นถูกจับขาขณะที่ร่วงลงมาถึงถื้น

ขณะที่กระเด้งพ้นจากพื้น หุ่นยักษ์โอ๊กจับขาหุ่นเงินแล้วฟาดกับพื้นทันที

ต่อเนื่องสิบแปดครั้ง

หลังจากนั้นใช้เท้าขวาเป็นแกนหลักและหมุนอย่างเร็วเก้ารอบ

จากนั้นปล่อยมือให้หุ่นเงินที่พังยับเป็นเศษเหล็กร่วงกับพื้น

แค่นี้ยังไม่พอ.. ขณะที่โดนขว้างขึ้นไปในอากาศหุ่นยักษ์โอ๊กอ้าปากพ่นลำแสงที่พลังไม่เป็นรองหุ่นอสูรไอพ่นของจงหัวก่อนนั้น

ลำแสงพลังงานถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ บึ้ม หุ่นเงินในท้องฟ้าระเบิดดังสนั่น

ยกเว้นเศษชิ้นส่วนบางอย่าง

ไม่มีอะไรเหลือ

จินฉีขับขี่ราชันย์เลือดมาถึงจุดที่ระเบิดเป็นเวลานาน เขาพบว่านอกจากเศษเหล็กแล้วไม่มีเศษเนื้อมนุษย์เหลือให้เห็น ไตตันน้อยระเบิดจนไม่เหลือเลือดเนื้อให้เห็นหรือ? แม้ว่าพลังลำแสงที่ยิงออกไปนั้นยอดเยี่ยม แต่ไม่มีเหตุผลที่ไม่เหลือสิ่งใดตกค้างให้เห็น

ว่านหมอแตกต่างจากจินฉี  สติปัญญาอย่างจินฉีคงจะคิดว่าเป็นไปได้ที่จะฆ่าเย่ว์หยางได้

หลังจากนั้นเขาควบคุมหุ่นยักษ์ให้ฉายแสงค้นหา

ทั้งหน้าและหลัง

หมุน 360 องศาเพื่อค้นหาร่องรอยคู่ต่อสู้

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะมองหาเท่าใด วนหาเพียงไหนก็ไม่พบร่องรอยเย่ว์หยาง... มีแต่นักเรียนและอาจารย์ข้างนอกสนามต่อสู้ถึงจะเข้าใจได้

การโจมตีต่อเนื่องที่ว่านหมอเพิ่งแสดงออกไปเมื่อครู่นี้สามารถทำให้พวกเขาใจสั่นกายสะท้าน

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางลอยฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหัวว่านหมอและเฝ้าดูการโจมตีของหุ่นยักษ์อย่างสบายๆ เมื่อศัตรูโจมตีแล้วโชคดีหลบได้ไม่ใช่เรื่องแปลก  แม้ว่าจะเป็นการโจมตีของว่านหมอ บางทีหลายคนอาจมีความมั่นใจว่าจะหลบหลีกได้สำเร็จ  แต่กลับบินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหัวหุ่นยักษ์ที่กำลังโจมตีต่อเนื่อง โดยไม่ถูกค้นพบเลย นั่นเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างแท้จริง!

 “เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่หรือ?” เย่ว์หยางพูดเบาๆ ว่านหมอสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

 “อะไรนะ?”  ว่านหมอเงยหน้า จากนั้นเขาพบว่าที่เขาโจมตีก่อนนั้นเป็นแค่หุ่นเปล่าๆ คู่ต่อสู้ไม่อยู่ข้างในแต่ยังคงลอยอยู่ด้านหลังศีรษะของเขา ไม่ได้ฉวยโอกาสเริ่มลงมือ

นี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?

นี่ไม่ใช่การดูถูกธรรมดา แต่เป็นการดูถูกอย่างรุนแรง!

หุ่นหมาป่าเงินตัวที่สามปรากฏและแปลงร่างผสานตัวกับเย่ว์หยางทันที

ในช่วงเวลาที่หุ่นยักษ์ต้องการล่าถอย มือของหุ่นเงินกดลงที่หน้าของหุ่นยักษ์ทอง และโจมตีซ้ำแบบชิงหมอ แต่ไม่สามารถทำอะไรหุ่นยักษ์ได้  หุ่นยักษ์ได้แต่หมุนไปรอบๆ  โดยไม่สามารถตอบโต้ได้  ภายใต้สายตาจ้องมองของทุกคน ในที่สุดก็ล้มลงกับพื้น ทรายฟุ้งขึ้นสูงถึงสิบเมตร

 “โอว, นี่มันทรงพลังมากเหลือเกิน!  ฉีมู่ตะลึงอึดอัดอยู่นาน ในที่สุดเขากระโดดโลดเต้นโห่ร้องราวกับคนบ้า “ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามันเลย”

 “ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?”  หมาป่าแห่งหอสูงมิกขยี้ตาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ คุณชายหยางฉวนที่คิดว่าเขาใจเย็นแล้วก็ยังตะลึง

หุ่นรบเงินคว่ำหุ่นรบระดับทองได้ นี่เป็นความจริงหรือ

จริงหรือเปล่า

หุ่นยักษ์เลือดเนื้อระดับทองภายใต้การควบคุมของว่านหมอตอบสนองอย่างรวดเร็ว ภายในเสี้ยววินาทีเขาก็โต้กลับอย่างรวดเร็ว แขนยักษ์ของมันพยายามบิดกลับอย่างรวดเร็ว และฝ่ามือยักษ์มีขนหนาเหมือนลิงอุรังอุตัง เหมือนกับเป็นการไล่ตบยุง เมื่อเทียบขนาดหุ่นยักษ์เลือดเนื้อกับหุ่นรบเงินดูเหมือนยุงตัวน้อยจริงๆ

น่าเสียดายที่ยุงตัวน้อยนี้ทำลายฝ่ายตรงข้ามได้อีกครั้ง

ระหว่างความคิดและการเคลื่อนไหวของเย่ว์หยาง  หุ่นเงินเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลอย่างลึกลับมาอยู่ตรงกลางฝ่ามือของหุ่นยักษ์ที่พยายามตอบโต้ศัตรู  นิ้วหัวแม่มือของหุ่นยักษ์ถูกจับ

บึ้ม บึ้ม ปัง....

ร่างหุ่นเลือดเนื้อยักษ์ถูกหุ่นเงินดึงออกมาจากหลุมยุบบนพื้นแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ

อย่างไรก็ตามความเร็วในการตอบสนองของว่านหมอไม่มีนักเรียนธรรมดาคนไหนเทียบได้ แม้แต่นักเรียนชั้นหัวกะทิก็ยังห่างไกล ขณะที่หุ่นยักษ์กำลังจะร่วงลงพื้นมันม้วนตัวตีลังกาสามรอบก่อนใช้เท้ายันลงพื้นรับแรงกระแทก ขณะเดียวกันแรงกระแทกพื้นที่เท้าทำให้ทรายและฝุ่นละอองฟุ้งสูงขึ้นร้อยเมตร ในท่ามกลางพายุทราย หุ่นยักษ์โจมตีกลับด้วยความเร็วกว่าสายฟ้าและกระแทกใส่หุ่นรบเงินซึ่งยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ปัง

หุ่นรบเงินภายใต้การควบคุมของเย่ว์หยางมีความยืดหยุ่นมาก ตอนแรกเขาหลบหลีกหมัดของหุ่นเลือดเนื้อยักษ์  จากนั้นหลบการโจมตีคู่ของหุ่นรบแม่เหล็กของจินฉี

เท้าข้างหนึ่งเตะใส่ราชันย์เลือดที่ตั้งใจเคลื่อนไหวซ้ำเติมกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร จากนั้นหลบปืนไอพ่นที่ยิงออกมาจากปากของหุ่นยักษ์เป็นครั้งที่สอง

แรงสั่นสะเทือนของพื้นโลก แรงระเบิดแผ่กระจาย พายุฝุ่นกวาดไปทั่วบริเวณยอดเขาตะวันตก

ฝุ่นผงฟุ้งพุ่งขึ้นด้านบนเหมือนเสา

พายุทรายกวาดไปทั่วเหมือนพบกับจุดสิ้นสุดของโลก

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนตะลึง

ทุกคนรู้ว่าถ้าหุ่นรบเงินของเย่ว์หยางหากปล่อยให้หุ่นยักษ์ระดับทองของว่านหมอหรือของจินฉีโจมตีใส่ แม้ว่าจะเป็นเพียงหมัดเดียว ก็คงทนไม่ได้คงพบกับหายนะกลับบ้านเก่า อย่างไรก็ตามภายใต้การควบคุมของอัจฉริยะไร้เทียนทาน แม้ว่าว่านหมอและจินฉีจะพยายามอย่างดีที่สุด ก็ไม่มีทางต่อยได้ถูก  กลับเป็นหุ่นรบเงินของเย่ว์หยางเล่นงานหุ่นทั้งสองให้ได้รับความอับอาย

เป็นที่ทราบกันดีว่าไตตันน้อยเชี่ยวชาญการโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่าและมีฝีมือที่ไม่ธรรมดา

อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคยคิดว่าเด็กคนนี้จะแสดงความไม่ธรรมดาได้ถึงจุดนี้

นี่ไม่ใช่แค่ผิดธรรมดา แต่ไม่รู้จะสู้ด้วยยังไง!

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น

จงหัวกับหลานฟงก็สะดุ้งกลัวไม่กล้ากลืนน้ำลาย... นี่เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์แล้ว ใช้หุ่นรบเงินสู้กับหุ่นรบระดับทองหนึ่งต่อสอง มหัศจรรย์ ไตตันน้อยเล่นกลหนูปราบแมวได้อย่างไร?

จงหัวคิดว่าถ้าเขาเป็นว่านหมอ คงเอาหัวโขกเต้าหู้ตายแน่

เรื่องที่น่าอับอายในชีวิต

เขาควบคุมหุ่นเลือดเนื้อยักษ์ระดับทอง แต่ปล่อยให้หุ่นระดับเงินของไตตันน้อยเล่นงานเอาชนะได้ นี่เป็นเรื่องน่าขายหน้าของชาวตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน?

ว่านหมออยู่ในเวทีต่อสู้ เขาไม่รู้ว่าต้องเสียหน้าเสียชื่อขนาดไหน แต่เขาต้องฆ่าเจ้าเด็กไตตันให้ได้  มิฉะนั้นคงยากจะล้างความอัปยศไปได้ชั่วชีวิต!  น่าเสียดายไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้  ถ้ายักษ์ของเขาเป็นเหมือนแมมม็อธที่วิ่งได้ไม่หยุด อย่างนั้นหุ่นหมาป่าเงินของเย่ว์หยางก็เป็นเหมือนนกที่บินได้อย่างอิสระและยืดหยุ่น

ไม่ว่าช้างจะมีพลังยิ่งใหญ่เพียงไหน แต่ก็ทำอะไรนกมีปีกไม่ได้

เมื่อเทียบกันในด้านการควบคุมพลัง แม้แต่คนตาบอดก็มองออก

ว่านหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ฝีมือเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับไตตันน้อย เจ้าเด็กอัจฉิรยะที่ผิดมนุษย์...   ถ้าต้องการหาข้อมูลอ้างอิงเปรียบเทียบความต่างกันระหว่างจินฉี ว่านหมอและไตตันน้อย  อย่างนั้นจินฉีที่ขับขี่หุ่นแม่เหล็กช้าเหมือนเต่าคลานดีกว่านักเรียนทั่วไปไม่มาก

จินฉีเปรียบเหมือน ว่านหมอเหมือนช้างสารทรงพลังและรวดเร็ว แต่เทียบไม่ได้เมื่อพบกับไตตันน้อยที่เป็นเหมือนอินทรี

ไม่ว่าจะตัวใหญ่แข็งแรงเพียงไหน ก็ไม่สามารถบินได้อย่างอินทรี

การต่อสู้น่าสลดใจถึงเพียงนี้... หุ่นที่มีระดับพลังแข็งแกร่งกว่าสองตัว ไล่ทำร้ายหุ่นที่พลังอ่อนแอกว่านี่เป็นเรื่องน่าสังเวช น่าละอายจนผู้คนอยากร้องไห้

 “ไม่, เป็นไปไม่ได้,  ข้าจะไม่ล้มเหลว!  จินฉีที่ถูกโจมตีต่อเนื่อง ถูกเหยียบย่ำ เขาตวาดร้องด้วยความโมโห  “ไตตันน้อย  เจ้าไม่ต้องย่ามใจ เจ้าคิดหรือว่าข้ามีดีเพียงแค่นี้  เจ้าคิดผิดแล้ว  เจ้าพลาดอย่างมหันต์ เจ้าบังคับข้า ข้ากล้าพูดได้เลยว่าตราบใดที่ข้าพอใจ  ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้เป็นพันครั้ง  ตายเสียเถอะ”

หลังจากสูญเสียความคิดและอารมณ์โกรธครอบงำ จินฉีตัดสินใจใช้พลังนั้น

ไม่ว่าจะเป็นพลังต้องห้ามแบบไหน ขอให้ชนะได้เป็นพอ

เขาไม่สนใจ

ตราบเท่าที่ไตตันน้อยที่น่ารังเกียจล้มนอนต่อหน้าเขาและเขายอมกลายเป็นทรราชย์ผู้บ้าคลั่ง เขาไม่คำนึงถึงราคาที่ต้องจ่ายออกไป!

……

17 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

55,ยังไม่เอาจริงเลยนะ

peter กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Akirabas กล่าวว่า...

จินฉีนี่ตัวประกอบแบบใช้แล้วทิ้งชัดๆ

Lazykuma กล่าวว่า...

นี้มันยัวให้อีกฝ่ายปล่อย
ไพ่ตายและตบกลับแบบกระอักเลือดนิ555

CHANTANA กล่าวว่า...

สฺดจัด ไอ้ 3

Popcorn กล่าวว่า...

เอาแล้วๆคลั่งแล้วงานนี้. ค้างด้วยอย่างแรง

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ได้เวลาตบเกรียน

mimikyu กล่าวว่า...

เปิดไพ่ลับให้พี่เยว์แล้ว

Unknown กล่าวว่า...

พี่เย่ยังไม่เอาจริงเลยนะ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ค้างงง555

Unknown กล่าวว่า...

นี่แค่ warm up

เนพื กล่าวว่า...

นี่แค่เงินเอง แต่ไม่รู้เยว์มีถึงระดับไหน

BJ กล่าวว่า...

หาเรื่อง

Unknown กล่าวว่า...

ยังรออีกตอน😭😭

chay กล่าวว่า...

เอาแล๊วๆ

แสดงความคิดเห็น