วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1147 โลหะลับเทพทำลายล้าง


ตอนที่  1147  โลหะลับเทพทำลายล้าง

ผีตะกละพูดไม่ออกอีกต่อไป


ร่างของเขาปล่อยควันหนาทึบทันที

ควันพุ่งสูงครอบคลุมพื้นที่ในห้องโดยสารทั้งหมด ร่างแต่เดิมของสตรีไฟนรกที่เลือนรางไม่ชัดเจน แต่ในหมอกควันนี้กลับเห็นได้ชัดเจน แต่กับหมอกควันชนิดนี้ ร่างโปร่งใส่ของภูตพรายดูเหมือนจะกลายเป็นของแข็งดูแปลกประหลาดมาก  ศพบินถอยกลับมาที่ทางเดิน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สบายใจกับควันนี้ เขาถอยออกไปมากกว่าสิบเมตร  ตาของเขาจ้องมองแหลมคมสังเกตความเคลื่อนไหวในห้องโดยสาร

ในห้องโดยสารควันดำหนาแน่นขึ้นทุกที และมืดสนิทในพริบตา

ยื่นมือก็ยังไม่เห็นนิ้วทั้งห้า

ในท่ามกลางความมืดเสียงของผีตะกละไม่ได้ส่งเสียงเหมือนกับเสียงลมรั่วอีกต่อไป  แต่กลับชัดเจนมากขึ้น  “เด็กน้อย เจ้ามีพลังทำลายได้เฉียบพลัน  แสดงว่าต้องมีคนหนุนหลังอยู่แน่ นั่นเป็นพลังเทพที่เทพอาคเนย์มอบให้เจ้าใช่ไหม?  มิน่าเล่าเจ้าถึงได้หยิ่งยโสนัก กล้าหาญ อย่างไรก็ตาม แค่มีพลังเทพนิดหน่อย แต่ต้องการจะครอบครองขุนเขาเหนือขุนเขาเป็นเรื่องน่าตลกชัดๆ ... เจ้าหลงตัวเองจนไม่คิดถึงข้อบกพร่องของตัวเจ้าเลย ข้าผู้อาวุโสจะสั่งสอนเจ้าให้รู้ว่าข้อบกพร่องของเจ้า ก็คือร่างกายของเจ้านั่นเอง!

“ร่างกายของข้าสบายดี”  เย่ว์หยางไม่รู้สึกว่าร่างกายของเขามีปัญหา

“เจ้าใช้พลังต้องห้ามเช่นเดียวกัน  แต่เจ้าไม่ได้หลอมรวมกับมัน เป็นเพียงแต่ติดตั้งไว้ภายนอก ทันทีที่ข้าดึงชิ้นส่วนผลึกเทพออกมา ร่างเจ้าจะระเบิดตายทันที ก่อนหน้านั้น ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ง่ายๆ ร้อยครั้ง”  ผีตะกละรู้ดีว่าจะจัดการคนใช้พลังต้องห้ามอย่างไร

เหมือนกับกาดำ

ภายใต้พลังของชิ้นส่วนวัตถุโบราณ กาดำใช้พลังต้องห้ามจะชุดคลุมดำสามารถสู้กับผีตะกละได้

อย่างไรก็ตามมันคือวัตถุแปลกปลอม ทันทีที่ผีตะกละนำชิ้นส่วนโบราณวัตถุที่ข่มพลังต้องห้ามไว้ออกมา  กาดำพลังถดถอยจากความเป็นสุดยอดนักสู้อย่างรวดเร็ว และอ่อนแอกว่าเดิมถึงร้อยเท่า เวลานั้นแม้เขาต้องการใช้พลังต้องห้ามระเบิดตัวเขาเอง แต่เพราะผีตะกละผู้คุ้นเคยกับทุกอย่างหยุดเขาเอาไว้ได้

ในใจผีตะกละ เจ้ามือใหม่นี่ก็คงเหมือนกัน

ใช้พลังต้องห้าม

พลังโจมตีอยู่ในระดับที่น่ากลัวระเบิดศีรษะเขาได้อย่างง่ายดาย

แต่ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม คนที่ใช้พลังต้องห้ามโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ มีความเป็นไปได้ประการเดียวคือข่มยั้งพลังเอาไว้ใช้จากภายนอก ตัวอย่างเช่นพลังจากผลึกเทพที่กาดำ กับเจ้านกกระทุงใช้

เช่นเดียวกับบุรุษหนุ่มผู้หยิ่งยโสข้างหน้าเขา  คาดว่าคงไม่ต่างกัน

ในร่างกายของเจ้าเด็กใหม่นี้ คาดว่าคาดว่าเทพอาคเนย์หรือมีพลังเทพปกป้องเขาไว้  ดังนั้นเจ้าเด็กใหม่นี่จึงไม่กลัว  จัดการกับคนแบบนี้ ผีตะกละไม่ได้เพิ่งทำเป็นครั้งแรก  ในหุบเขาโลกธาตุหรือขุนเขาเหนือขุนเขา เขาพบเจอมือใหม่ที่มีศักยภาพ  แต่ไม่มีใครรู้ ทันทีที่มือใหม่ผู้มีศักยภาพตัดสินใจเข้าร่วมกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็มีแนวโน้มว่าจะถูกลอบสังหารหรือทำลาย  หากไม่มีสุดยอดนักสู้คอยดูแล  เป็นไปไม่ได้ที่จะเติบโตได้ต่อไป

แค่ผีตะกละคนเดียวก็ฆ่าเด็กใหม่ผู้มีศักยภาพมาหลายคนแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงห้าจอมโฉดคนอื่นๆ

การฆ่าผู้มาใหม่ที่มีศักยภาพนั้นได้ความน่าเชื่อถือมากกว่าชิงยานแม่กระทุง  ยานแม่สามารถสร้างได้  แต่เด็กใหม่ผู้มีศักยภาพไม่ได้มีให้เห็นเสมอ และไม่จำเป็นต้องเป็นตัวของตัวเอง.... ผีตะกละแน่ใจว่าถ้าเขาฆ่าเจ้าเด็กใหม่ผู้นี้ได้  เขาจะได้รับรางวัลเมื่อกลับไป บางทีเทพประจิมอาจให้รางวัลเขาเป็นพิเศษ

“ระวัง!  กาดำที่ได้รับบาดเจ็บและร่างอ่อนแอส่งเสียงเตือนอย่างยากลำบาก  เขาต้องการเตือนเย่ว์หยางว่า เขาเองก็พ่ายแพ้ในหมอกควันนั้นเช่นเดียวกัน

“เรียบร้อย  เจ้าตายได้”  เสียงผีตะกละดังมากขึ้นทุกที และหมอกควันดำในห้องโดยสารเริ่มจางหายไป ท่ามกลางสายตาทุกคน ร่างของผีตะกละกลับมาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง

เวลานี้ไม่ทราบว่าศีรษะของเขากลับมาเป็นปกติตั้งแต่เมื่อใด

แต่สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือเขาไม่เพียงฟื้นฟูสภาพศีรษะของเขาเท่านั้น แต่ยังเพิ่มศีรษะขึ้นบนไหล่มีขนาดเท่ากันอีกข้างหนึ่ง

เย่ว์หยางทำลายศีรษะของเขา และในหนึ่งนาทีที่เขาอยู่ในหมอกควันดำก็ฟื้นฟูชีวิตขึ้นใหม่และมีสองหัว

ฮัวยาและกัวกัวจ้องมองตกตะลึง

แบบนี้ไม่ใช่มนุษย์แล้ว!

เจ้าผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์จริงๆ..

แม้แต่กาดำที่อ่อนแอจนแทบหายใจไม่ออก ก็ยังส่ายศีรษะและรู้สึกว่าเขาพ่ายแพ้  จะเอาชนะคนที่ไม่ธรรมดาอย่างผีตะกละได้อย่างไร?  อย่าว่าแต่ห้าจอมโฉดในตำนาน นอกจากเทพลงมือเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าพวกเขา

“ระวัง!  ครั้งนี้คนตะโกนร้องเตือนไม่ใช่กาดำ แต่เป็นศพบินซึ่งอยู่ในระยะห่าง

“หือ?”  ผีตะกละสับสน

จะให้ระวังใคร?

ปลดปล่อยพลังต้องห้ามในร่างกายแล้ว ร่างเขาเป็นอมตะไปแล้ว นอกจากเทพ ใครจะฆ่าเขาได้?  นี่ยังต้องระวังอะไรอีก?  ศพบินตั้งใจจะบอกอะไร?

สตรีไฟนรกไม่ได้ร้องเตือนนางไม่ถูกกับผีตะกละ  ยิ่งผีตะกละโชคร้ายนางยิ่งมีความพอใจ

หลังจากศพบินตะโกนให้ระวังตัว สตรีไฟนรก ก็เผ่นหนีออกจากทางเดิน

แม้แต่ภูตพรายที่ดื้อรั้นที่สุด

ก็ยังลอยตัวออกมาอย่างเงียบๆ

พฤติกรรมของพวกเขาแปลกประหลาด เหมือนกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยกำลังหนีศัตรูที่แข็งแกร่ง เป็นไปได้หรือที่เทพอาคเนย์จะมาดูแลเจ้าเด็กใหม่นี่ด้วยตัวเอง?  เรื่องแบบนี้เป็นไปได้อย่างไร ตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาแปดเทพ  พวกเทพจะไม่แทรกแซงกิจการการสร้าง และสำหรับมือใหม่ที่มีศักยภาพทำได้เพียงฝึกฝนลับๆ  ไม่อาจออกหน้าด้วยตัวเองได้ เทพอาคเนย์ปรากฏตัวในที่แบบนี้ได้ยังไง?  แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ทำไมศพบิน สตรีไฟนรกและภูตพรายทั้งสามคนถึงระมัดระวังตัวมากนักเล่า?

ผีตะกละเตรียมกำจัดหมอกควันออกไปทั้งหมด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอกควันที่คลุมรอบตัวศัตรูถูกขับออกไป  เขาต้องการใช้ประโยชน์จากการปิดประตูตีแมว  และตอนนี้ต้องการจะมองภาพชัดๆ

ท้ายที่สุดสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กใหม่ทำให้ศพบินและสตรีไฟนรกไม่สบายใจ

เย่ว์หยางยังคงยืนนิ่ง

เขาไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่ก้าวเดียว

อย่างไรก็ตาม ร่างสูงโปร่งของเขาไม่ทราบว่าคลุมไปด้วยเกราะรบสีม่วงเข้มตั้งแต่เมื่อใด  ชุดเกราะหนักนี้มีรูปอักขระรูนที่ทุกคนไม่รู้จัก  ผังภูมิอักขระรูนทุกผังสะท้อนพลังกันเอง  ก่อนที่เจ้าของจะเริ่มใช้งานอักขระรูนสงบนิ่งเหมือนกฎสวรรค์เชื่อมโยงกับความรู้สึกได้ยากมาก ไม่รู้ว่าทิศทางที่แท้จริงนั้นอยู่ตรงไหน? เป็นภูมิปัญญาศักดิ์สิทธิ์

เกราะรบพิเศษนี้มีรูปแบบการออกแบบที่ใหม่และทันสมัยเป็นพิเศษ

แม้แต่กาดำผู้เจนโลกรู้จักอาวุธดีทุกอย่าง ก็ไม่เคยเห็นเกราะรบแบบนี้

มันคือของใหม่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ขุนเขาเหนือขุนเขาไม่เคยมีเกราะแบบนี้  แม้แต่แปดเทพไม่เคยสวมเกราะที่ใช้วัสดุนี้สร้าง

โลหะลับเทพสังหาร!

ในท่ามกลางทุกคนไม่ว่าจะเป็นสตรีไฟนรก หรือภูตพราย หรือศพบิน กาดำ ฮัวยาและกัวกัวพอมองเห็นวัสดุที่สร้างเกราะรบ ก็รู้ว่านี่คือโลหะลับเทพสังหาร!  ตลอดทั้งลำยานแม่กระทุงสร้างจากโลหะชนิดนี้  นั่นคือวัสดุพิเศษที่แม้แต่เทพก็ยังยากจะทำลาย

ยานแม่ทุกลำสร้างด้วยโลหะลับเทพสังหาร ความลับนี้มีแต่เทพเท่านั้นที่รู้

ยิ่งไปกว่านั้นวิธีทำนี้สร้างโดยเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกสองเทพที่ตายไปแล้ว นอกจากสร้างยานรบแล้ว อาณาจักรเทพโดยรอบขุนเขาเหนือขุนเขา ไม่มีทางใช้โลหะลับเทพสังหาร

ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนคือชุดเกราะที่ดูเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

เขาทำสำเร็จได้อย่างไร?

หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยปริศนา.. สิ่งที่ทำให้ศพบินและกาดำรู้สึกพูดไม่ออกก็คือ เจ้าเด็กนี่ได้เขียนผังอักขระรูนฝังลงไปในโลหะ นอกจากเทพแล้วไม่มีทางสลักลงไปในเนื้อโลหะของเทพได้  แต่ตอนนี้เด็กใหม่กลับสลักอักขระรูนลงไปในโลหะพิเศษนี้ได้  เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?  เป็นทักษะแฝงเร้น?  อสูรพิเศษ? หรือว่าพลังอื่นใดกันแน่?

“เจ้า!  เมื่อเขาเห็นเย่ว์หยางสวมชุดเกราะรบเช่นนั้น ผีตะกละอยากกระอักเลือด

“หล่อพอดูได้ไหม?”  เย่ว์หยางถอดหมวกเกราะออกมาถือไว้  แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คาดว่าต่อให้นักรบระดับขุนพลเทพสักสิบคนก็คงขวางไม่ให้เขากินอาหารมือเช้าเล็กๆ น้อยๆ ได้

โลหะลับเทพสังหารคือวัสดุที่ทำให้พวกเทพปวดเศียรเวียนเกล้ามาแล้ว

กฎสวรรค์ที่แฝงอยู่ภายในวัสดุทำให้พลังชีวิตอ่อนลงถึงร้อยเท่า

หากสร้างเป็นชุดเกราะรบ ยังไม่ต้องสู้ก็ทำให้ศัตรูร้องไห้โดยตรงแล้ว  ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครเคยคิดใช้งานอย่างนี้มาก่อน แต่มักจะล้มเหลวในท้ายที่สุด ผีตะกละไม่เคยคิดว่าตนเองจะซวยอย่างนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ไม่เคยพบเห็นในรอบพันปี เด็กหนุ่มผู้สวมใส่เกราะโลหะลับเทพสังหาร ทั้งยังเป็นเกราะรบที่มีอักขระรูนที่ไม่รู้จัก!

ถ้าไม่ใช่เพราะคุยโอ้อวดไว้ก่อนหน้านั้น เขาต้องการถอย

โจมตีคนที่สวมเกราะรบโลหะลับเทพสังหารไปก็ไม่ได้อะไรเลย อย่าว่าแต่เจ้าเด็กนี่สามารถใช้พลังต้องห้ามได้

“เฮ้, เจ้าไม่คิดจะช่วยข้าบ้างหรือไง”  ผีตะกละมองไปทางศพบินที่ทางเดินข้างนอกและพบว่าคนเจ้าเล่ห์ผู้นี้ถอยออกไปห่างมากกว่าห้าสิบเมตร  เขารู้สึกไม่พอใจอยางมาก ทำไมเขาต้องมาเป็นหินถามทางให้เจ้าพวกนี้ด้วยเล่า?

“ข้าไปดีกว่า!  ศพบินไม่ต้องการเผชิญเจอเย่ว์หยางอีกต่อไป  และตอนนี้เจ้าเด็กใหม่นี่คือเด็กเจ้าปัญญาที่เทพอาคเนย์ปั้นสร้างขึ้นมา  เขาเชื่อเช่นนั้น  แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าผู้มาใหม่นี้อาจมีจุดเริ่มต้นที่ใหญ่กว่าคนอื่น ถ้าเขาลงมือกับคนแบบนั้น ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดอันตรายแก่เขาเท่านั้น  แต่อาจทำให้เขาถึงตายได้  ตอนนี้ผีตะกละลงมือกับเด็กใหม่อยู่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเขา เขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปทำไม? เกี่ยวกับคำพูดของเจ้างั่งผีตะกละ มีแนวโน้มว่าจะต้องต่อสู้กันอย่างหนักแน่นอน และเมื่อเขาถูกดึงลงน้ำไปด้วย นั่นจะทำให้แย่

ด้วยความคิดเช่นนี้ ศพบินจึงไม่สนใจพี่น้องร่วมกัน

ความสัมพันธ์อะไรกัน?

มันกินได้เสียเมื่อไหร่?

ใครจะตายพร้อมกับคนงี่เง่าอย่างผีตะกละเล่า!  ศพบินโบกมือให้เย่ว์หยางและยิ้ม  “สหายน้อย ที่ผ่านมาเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่คนมีปัญญาไม่ควรจะถือสา ศพบินอย่างข้าจะไม่ผ่านมาที่นี่เลย เรามีนัดอยู่แล้ว”  เขาไม่ชอบพูดทักทายศัตรู แต่เขากล่าวอำลาสหายของเขา  ผีตะกละหดหู่จนแทบกระอักเลือด  ก็ได้  เจ้าจากไปอย่างหยิ่งผยอง ตัดความสัมพันธ์สหาย ทำเป็นแสดงมารยาทดีต่อสาธารณะ เจ้าทำทุกสิ่งตามใจตัวเอง  นับเป็นโชคร้ายที่ร่วมงานกับเจ้าจริงๆ

ผีตะกละไม่มีเวลาด่าศพบิน สตรีไฟนรกหัวเราะและกล่าว  “เราก็เป็นคนฉลาดและไม่สับสนเหมือนกัน  เราไม่มีความแค้นอะไรกับเด็กๆ ก็แค่มีเรื่องสงสัยและผ่านมาชมดู  และจะไม่เข้าไปแทรกแซง  พวกเจ้าเชิญเล่นสนุกกันตามสบาย!

ครั้งนี้ผีตะกละอดตะโกนลั่นไม่ได้  “เจ้าจะทำอะไร?  นึกว่าข้าจะแพ้งั้นหรือ?”

สตรีไฟนรกผายมือ  “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะชนะได้อยู่แล้ว!

วีรบุรุษตัวจริงไม่ตีตัวไปก่อนแพ้ ผีตะกละไม่ใช่คนโง่

ทันทีที่เขาเห็นศพบินถลันหนี สตรีไฟนรกและภูตพรายก็กระตือรือร้นรายล้อมดูตัวเขาโชคร้าย ความต้องการต่อสู้หดหายไปหมด แต่ยังทำปากแข็ง  “ดีแต่อยู่ในกระดองเต่า นอกจากทนทานแล้วไม่มีประโยชน์อะไร วันนี้ข้าเล่นมาพอแล้ว จะยอมปล่อยเจ้าไปก่อน  ต่อไปถ้ากล้าทำหยิ่งต่อหน้าข้าอีก ข้าจะใช้นิ้วเดียวลงโทษเจ้า!

เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้แต่ภูตพรายที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรยังอดทำหน้าดูหมิ่นมิได้

เก่งแต่ปาก?

ร่างของผีตะกละปล่อยควันดำเต็มพื้นที่ทั้งห้องโดยสารอีกครั้ง พอควันเต็มห้องโดยสารเขาจึงบินออกไปจากห้องโดยสารราวกับประกายไฟ

ภูตพรายดูเหมือนต้องการเคลื่อนไหว  แต่สตรีไฟนรกที่อยู่ข้างนางส่ายหน้า  เมื่อผีตะกละขณะผ่านพวกนางไปอย่างนุ่มนวล เขากลัวว่าสตรีทั้งสองจะไม่เห็นด้วยในเวลาสำคัญอย่างนี้  โชคดีที่พวกนางไม่ได้เริ่มต้นลงมือ  ผีตะกละลอยยินดีในใจ รีบเร่งฝีเท้าหลบหนี

“ข้าจะปล่อยเจ้าหนีไปดีไหม?”

ชั่วขณะที่ผีตะกละคิดว่าหลบหนีได้อย่างปลอดภัย  ที่นอกทางเดินมีเสียงดังขึ้นทำลายความเงียบ

จากนั้นมือข้างหนึ่งที่ดูเหมือนจะช้า แต่เร็วจนผีตะกละตอบสนองไม่ทัน

กดลงบนหลังศีรษะหนึ่งในหัวทั้งสองของผีตะกละ

เช่นเดียวกับการกระทำก่อนหน้านั้นกดหลังศีรษะจนหน้าคว่ำ วินาทีต่อมา เย่ว์หยางในชุดเกราะรบเต่าดำกดร่างของผีตะกละกระแทกกับพื้นโดยตรง...  นอกจากนี้ผีตะกละยังได้ยินเสียงเย่ว์หยางพูด  “ข้าไม่เคยเชื่อว่าจะมีศัตรูที่โน้มน้าวไม่ได้ วิธีโน้มน้าวของข้าไม่เคยล้มเหลวมาก่อน ครั้งนี้ก็ไม่ยกเว้น!

18 ความคิดเห็น:

Lazykuma กล่าวว่า...

ความซวยของพวกเอ็งมาถึงตั้งแต่หาเรื่องผิดคนแล้ว5555

Unknown กล่าวว่า...

ปากเก่งไว้เยอะ ผลกรรมตามสนองละทีนี้5555

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
สนุกมากมาเล่นกัน

สีดำ กล่าวว่า...

เรียกว่าซวยยังน้อยไป

Unknown กล่าวว่า...

พี่เยกินเรียบ

หมูน้อย กล่าวว่า...

พี่เย่ จะได้รับน้องใหม่แล้ว

Kokuryu กล่าวว่า...

ศพบินนี่เห็นท่าไม่ดีแผ่นหนีอย่างเร็วเลย คนฉลาดๆ แบบนี้ดีไม่ดีโดนหยางเล่นหนักกว่าเพื่อน

CHANTANA กล่าวว่า...

ตัวใครตัวมันแล้วนะเวลานี้😀😀😀😃😃😃😄

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ตอนหน้านี่น่าจะตายแน่ๆล่ะ 555++

BJ กล่าวว่า...

มาให้โน้มน้าวสะดีๆ

ผ่านมา กล่าวว่า...

ปล่อยตัวประกอบนี่พร่ามมาหลายตอน ถึงเวลาเก็บกวาดแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

สงสารเทพประจิมมากกว่า

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

เด็กปั้นที่ไม่เคยปั้น

Unknown กล่าวว่า...

โน้มน้าวให้ตัวอ่อนไปเลย โน้มน้าวหนักๆเลยเฮีย

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สะใจจริงๆ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Kingtest5 กล่าวว่า...

อยากให้พาไปรับน้องจริงๆ 55

แมงมุม unknow สีส้ม กล่าวว่า...

เป็นไงละเจอพี่หยางไป

แสดงความคิดเห็น