วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1169 ให้ข้าลองไหม?

 

ตอนที่  1169  ให้ข้าลองไหม?

เคล็ดลับของจีอู๋ลี่ก็คือต้องอำมหิตพอ!

 

ตอนแรกรุมทำร้ายสามต่อหนึ่งจนชี่เฉียวบาดเจ็บสาหัส  ด้วยความกลัวว่าชี่เฉียวจะไม่ตาย เขายังเตรียมแผนเทพทักษิณเทียนโฉว  เป็นผลให้ชี่เฉียวไม่เพียงแต่ตายอย่างน่าอนาถ  แต่ยังเข้าใจผิดและบอกความลับของซื่อเสินให้เทียนโฉว.. ด้วยวิธีการนี้การต่อสู้ระหว่างเฮยโจ้วและซื่อเสิน พวกเขาจะต้องมีชัยชนะอย่างมิต้องสงสัย

เทียนโฉวเป็นสายลับตัวยงของค่ายตะวันออก  เทพอีสานชิงหวินประกาศเป็นกลาง และเทพอาคเนย์ชี่เฉียวตาย

ค่ายตะวันออกในตอนนี้เหลือเพียงซื่อเสินคนเดียวเท่านั้น

ทั้งยังมีกระทั่งหมากลับอย่างเทียนโฉวอยู่ข้างตัวซื่อเสินพร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ

ถ้าแผนนี้ยังไม่เพียงพอ อย่างนั้นจีอู๋ลี่ยังมีอสูรชนิดพิเศษแปลงเป็นชี่เฉียวร่วมสู้ศึกกับซื่อเสิน!

มีแค่ซื่อเสินเพียงคนเดียวเท่านั้น  เขาต้องสู้กับศัตรูสี่คนเฮยโจ้ว, จ้าวซี ซาฟง ซวงหานและหมากลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือเทียนโฉวและชี่เฉียวตัวปลอม   นี่เป็นเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่าสู้หนึ่งต่อหก ในสถานการณ์ที่เลวร้าย แม้ว่าเขาจะมีพลังแข็งแกร่งที่สุดในขุนเขาเหนือขุนเขา  แต่เชื่อได้ว่าเขาไม่สามารถต่อต้านเจตจำนงฟ้าได้ ซื่อเสินผู้นี้ทั้งที่สงครามยังไม่เริ่มก็ถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องพ่ายแพ้

เย่ว์หยางส่ายศีรษะ

ลอบถอนหายใจ

ในเวลาเดียวกันเขายิ่งต้องระมัดระวังจีอู๋ลี่ผู้วางแผนสถานการณ์โดยรวม

เป็นเวลาหลายพันปี เฮยโจ้วไม่ต้องการฆ่าซื่อเสินยอดฝีมืออันดับหนึ่งของขุนเขาเหนือขุนเขา  แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จได้จากความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า  และตอนนี้จีอู๋ลี่มาแล้ว ชี่เฉียวถูกอุบายฆ่าตายและซื่อเสินก็ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อความพ่ายแพ้  ทั้งหมดนี้ถ้าจีอู๋ลี่ควบคุมแผน  อย่างนั้นเขาน่ากลัวเกินไป

คนอย่างจีอู๋ลี่เย่ว์หยางต้องกำจัดให้เร็วที่สุด

มิฉะนั้นเขาจะสร้างปัญหาใหญ่ในอนาคต

“ชี่เฉียวตายจริงๆ หรือ?”  ชี่เฉียวร่างแปลงของจีอู๋ลี่มองดูศพชี่เฉียวตัวจริง ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย

“สำนึกเทพคลายลงไปแล้ว พลังเทพสลายไปแล้ว แม้แต่คัมภีร์อัญเชิญก็สูญเสียการทำสัญญา ร่างกลายเป็นสีเทา นี่ยังบอกว่าชี่เฉียวยังไม่ตายหรือ?”  ซาฟงที่ได้รับบาดเจ็บหลายครั้งเห็นชี่เฉียวตายจริง เขาหัวเราะและกล่าว  “ถ้าเจ้าไม่สบายใจ ข้าจะตัดศีรษะเขาเอาไปทำหม้อไฟก็ได้!

“ช่างเถอะ ยังไงชี่เฉียวก็เป็นเทพ เขาสู้จนตัวตาย ควรจะเห็นแก่หน้าเขาบ้าง ให้เกียรติศัตรูนั่นเท่ากับให้เกียรติตัวเอง”  จ้าวซีไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดูถูกสังขารของชี่เฉียว  ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่ซวงหานที่ฆ่าคนมามากมายก็ยังส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมทำลายสังขารของซาฟง  ถ้าชี่เฉียนไม่ตาย ซวงหานไม่ว่าถ้าแทงร่างเขาหมื่นดาบ  แต่ซี่เฉียวตายแล้ว ถ้าสังขารของเขายังถูกทำลายอีก นั่นไม่มีประโยชน์อะไร แต่เป็นการทำร้ายจิตใจนักสู้

“เขาตายแล้ว ทิ้งสังขารของเขาไว้เถอะ!  บุรุษวัยกลางคนใช้ดาบฟันเปิดมิติช่องว่างและหายไปทันที

“คัมภีร์อัญเชิญถูกยกเลิกสัญญาแน่นอน...”  จีอู๋ลี่ไม่ยอมเชื่อว่าสำนึกเทพและสัญญาณพลังเทพจะสลายไปอย่างผิวเผิน  สำหรับเขา เขาคุ้นเคยกับทักษะแฝงเร้นของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในแดนสวรรค์ ความสามารถพิเศษแกล้งตายเหล่านี้เขาเห็นมาเป็นพันแล้ว เห็นมามากจนน่าตะลึง  ถ้าเขาไม่ระมัดระวังเขาจะถูกหลอก  แน่นอนสำหรับจีอู๋ลี่เขาไม่ยอมเชื่อถือศัตรูง่ายๆ  แม้ว่าศัตรูจะตายแล้วก็ตาม  เขายังคอยระแวงระวังและป้องกันตัวให้มากพอ

สิ่งเดียวที่เขาสามารถเชื่อได้นั่นคือคัมภีร์อัญเชิญ

คัมภีร์อัญเชิญไม่มีการหลอก

ถ้าเจ้าของยังไม่ตาย ไม่ว่าจะแกล้งตายหรือปลอมตัวมันจะไม่โกหกแต่จะมีผลผูกพันตามสัญญา  ในทางตรงกันข้าม ถ้าคัมภีร์อัญเชิญหลุดพ้นสัญญา อย่างนั้นเจ้านายต้องตาย และไม่มีความเป็นไปได้ประการที่สอง

จ้าวซีมองดูทางที่เย่ว์หยางซ่อนตัวคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ เย่ว์หยางรีบกลั้นลมหายใจและอยู่นิ่งๆ

ในส่วนลึกแล้วเขากลัวเทพอุดรจะตรวจพบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจกวิเศษที่น่ากลัวอย่างแท้จริง

น่ากลัวที่สุด

โชคดีที่จ้าวซีสงสัยว่าเป็นภาพลวงตาและไม่ตรวจสอบให้ลึกซึ้ง  ที่สำคัญ เขายิ่งคิด ก็ยิ่งคาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่สามารถซ่อนพ้นจากสายตาเขาและเขาไม่สามารถตรวจสอบได้

จ้าวซีและซวงหานตัดสินใจจากไปบ้างหลังจากชี่เฉียวตายอย่างแท้จริง  และจีอู๋ลี่ที่แปลงร่างเป็นชี่เฉียวยื่นมือลูบคัมภีร์อัญเชิญสีเทาหม่นมืดยืนยันว่าชี่เฉียวตายแล้ว เขาจึงออกไปบ้าง  ทุกคนหนีออกไปแล้วรวมทั้งซาฟงไม่ยุ่งกับหอกกลืนมังกร เพราะทุกคนรู้ว่าสมบัติวิเศษเลือกเจ้านาย

แม้ว่าหอกกลืนมังกรจะไม่ใช่สมบัติวิเศษชั้นเทพ แต่มันมีสติปัญญาอยู่แล้ว

ชี่เฉียวตายในการต่อสู้

ไม่ได้หมายความว่าใครก็ได้ที่เป็นเจ้าของใหม่

ซาฟงใช้เท้าเตะหอกกลืนมังกรที่อยู่บนพื้นลอยขึ้นไปในอากาศ และขณะที่มันร่วงตกลงมา เขาใช้กงจักรของเขาปัดหอกควบคุมทิศทางให้ปักลงที่อกของชี่เฉียว... ชี่เฉียวตายนานแล้วไม่มีอาการสนองตอบ

ซาฟงมองและแสยะยิ้ม

กลายเป็นแสงสีทองออกไปจากสนามรบ แม้แต่วัตถุโบราณเขาเก็บอย่างระมัดระวังก่อนจะโยนเก็บไว้  การมีอยู่ของวัตถุโบราณนี้จะช่วยสร้างสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ทำให้อ่อนแอลงร้อยเท่า เทียบได้กับโลหะลับเทพสังหาร  ซาฟงไม่ใช่คนโง่ หากไม่จำเป็นต้องใช้ฆ่าชี่เฉียว เขาคงไม่กล้าวิ่งไปรอบๆ ทุกแห่งหน

“หือ? ดูเหมือนมีอะไรแปลก”  เย่ว์หยางยังไม่ปรากฏตัวทันที  แม้ว่าทุกคนจะไปแล้ว แต่ความรู้สึกถึงอันตรายวิกฤตไม่ได้ลดน้อยลง

เย่ว์หยางเลือกอยู่ต่อ

คอยดูต่อไป

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงบนพื้นมีการเปลี่ยนแปลง

ชี่เฉียวที่ตายไปแล้วตัวสั่นอย่างรุนแรง

เมื่อเห็นภาพใหญ่ข้างหน้า เย่ว์หยางอดสงสัยไม่ได้ดวงตาเบิกโพลงมองดูทุกความเคลื่อนไหวของชี่เฉียว

ร่างที่เปื้อนเลือดของชี่เฉียวมีสภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเหยียดมือออกช้าๆ  มือ เท้านิ้วเท้าเริ่มงอขยับเหมือนกับคนที่ถูกแช่แข็งเริ่มฟื้นตัว ผ่านไปหนึ่งนาทีดวงตาของชี่เฉียวเริ่มมีประกายและสติเริ่มกลับคืนมา  เขาเหยียดมือและดึงหอกกลืนมังกรที่ปักอยู่ที่อกเขา ถอนออกมาช้าๆ  หอกกลืนมังกร ส่งเสียงครางหึ่งๆ ดูเหมือนจะตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายกลับมาได้ หลังจากชี่เฉียวพยุงศีรษะ ปรับกะโหลกที่แตก และใช้พลังเทพรักษาตนเอง บาดแผลของเขาฟื้นฟูเรียบร้อย

แม้ว่าอกจะถูกหอกกลืนมังกรแทงเป็นรู แต่แผลก็หายไปทันที

นั่นคือเครื่องหมายของการเกิดใหม่

สามนาทีต่อมา

ชี่เฉียวฟื้นฟูเต็มที่โดยไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ

หากเย่ว์หยางไม่เห็นด้วยตาตนเองคงไม่สามารถเชื่อสิ่งแปลกประหลาดนี้จริงๆ  คืนชีพได้หลังจากถูกฆ่า นี่ทักษะอะไรกัน?

ตอนนี้สิ่งเดียวที่พิสูจน์ได้ว่าชี่เฉียวผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักก็คือพลังเทพของเขามากกว่าเจ็ดส่วนได้หายไป และเหลือพลังฟื้นฟูกลับมารวมกันไม่ถึงสามส่วน  ถ้าไม่ได้ถูกฆ่าจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลมากมายขนาดไหน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอ่อนแอระดับนี้

ชี่เฉียวลูบหอกกลืนมังกรเหมือนกับสัมผัสผิวคนรัก

เขาถือหอกกลืนมังกรไว้ในมือ  “แค่ฟื้นฟูพลังเทพ ข้าจะฆ่าเจ้าซาฟงและพวกค่ายตะวันตกให้ได้ ไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครรู้ข้ามีทักษะหนวดมังกรฟื้นฟู  น่าเสียดายที่คัมภีร์อัญเชิญที่ข้าต้องจ่ายคุณค่าสูงสุด ในที่สุดสัญญาลับที่ทำไว้กับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกก็สูญหายไปอีกครั้ง  ไม่รู้ว่าเมื่อจ่ายไปในราคาเดียวกันนั้น ข้าจะทำสัญญากับคัมภีร์ได้อีกไหม....”

เสียงถอนหายใจเล็กน้อยดัง  ชี่เฉียวเดินมาทางที่ซ่อนของเย่ว์หยาง

เขาเริ่มย้ายหินออกไป

และพบร่างของคนรักของเขา

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าสตรีที่เพิ่งถูกย้ายออกมาตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวและอาการบาดเจ็บดีขึ้น แม้ว่าความเร็วในการรักษาตัวเองจะน้อยกว่าชี่เฉียวแต่ก็ยังน่าทึ่ง ใช้เวลาไม่นานสตรีผู้นี้ก็ได้สติ

เพราะตอนนี้ขนตาของนางเริ่มสั่นและดูเหมือนสติเริ่มกลับมา

“ร่วมเป็นร่วมตาย?  ความสามารถพิเศษของสตรีนี้คือร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันหรือ...”  เย่ว์หยางมีความสงสัยมาก่อน  แต่ความจริงรอให้เขาสำรวจอยู่ข้างหน้าแล้ว  ความสามารถพิเศษของสตรีผู้นี้คือร่วมเป็นร่วมตาย  ตราบใดที่ชี่เฉียวไม่ตาย ร่างของนางสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้ในรูปพลังงานต่อให้ถูกทำลายนางก็จะไม่ตายจริงๆ

“หือ?” ชี่เฉียวซึ่งกำลังย้ายหินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที และเขาถือหอกกลืนมังกรยืดตัวขึ้น

“กลับกลายเป็นคนอ่อนแอมาก  แต่ข้ายังรู้สึกได้ เป็นชี่เฉียวหนึ่งในแปดเทพแห่งขุนเขาเหนือขุนเขา!  ซาฟงไม่รู้ว่ายืนอยู่หลังชี่เฉียวตั้งแต่เมื่อไหร่  ชี่เฉียวหลังจากคืนชีพหนึ่งชั่วโมง แต่ความอดทนของซาฟงดีมากอย่างน่าประหลาดเขารอเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงจนกระทั่งชี่เฉียวฟื้นฟูร่างสำเร็จ

“ด้วยสติปัญญาของเจ้า ข้าคาดได้ว่านี่คือความตายปลอมๆ ซึ่งก็ไม่เกินคาดหมายของข้า”  ชี่เฉียวจับหอกกลืนมังกรและมองดูเฉยเมยไม่มีความตื่นเต้น

“เจ้ามีพลังเพียงสามส่วน ยังต้องการจะสู้กับข้าแล้วก็ตายไป มันไม่ไร้เดียงสาไปหน่อยหรือ?”  ซาฟงหัวเราะ

“ตราบเท่าที่ข้ามีพลังหนึ่งส่วน ข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้!  ชี่เฉียวแค่นเสียงเย็นชา

“มั่นใจตัวเองเหลือเกิน!  ซาฟงไม่เชื่อแม้แต่น้อย

“ข้าได้รับตกทอดพลังเทพ สำนึกเทพมาจากเทพมหาอัคคี แต่ในช่วงเวลาพันๆ ปีมานี้ข้าไม่ได้แสดงออกมาเลย ตราบใดที่มีพลังเทพเพียงพอข้าสามารถดึงพลังเทพที่ซ่อนอยู่ในหอกกลืนมังกรออกมาได้ ซาฟง! ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวซีอยู่ด้วยข้าฆ่าเจ้าใช้เวลาไม่ถึงนาทีเท่านั้น!  หอกกลืนมังกรในมือของชี่เฉียวแทงขึ้นไปในอากาศ พลังเทพที่แม้แต่จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางมองไม่เห็นฉายออกมาทันที

พลังของมันทำให้โลกสะท้านดินสะเทือน

ชี่เฉียวก้มหน้าลง

ซาฟงสีหน้าเปลี่ยนทันที

ความตายคุกคามหัวใจของเขา

แม้ว่าเทพมหาอัคคีจะตายไปหมื่นปีนานแล้ว  แต่พลังเทพของเขาซาฟงยังจดจำได้และหวาดกลัว

เย่ว์หยางไม่สามารถคิดได้จริงๆ ว่าหลายอย่างจะกลับกลายเป็นเรื่องสุดยอด เขาโห่ร้องในใจ สมแล้วที่ทุกคนมีอายุยืนมาเป็นหมื่นๆ ปี ไม่มีใครโง่ทุกคนมีไม้ตายก้นหีบ คิดว่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ แต่ความจริงกับไม่ง่าย

“ลาก่อนซาฟง!  ชี่เฉียวชูหอกกลืนมังกรและเตรียมใช้พลังสะท้านฟ้าดินของเทพมหาอัคคีโจมตี

แม้จะเป็นเทพหรดีซาฟงก็ต้องหลบหนีการโจมตีด้วยพลังเทพมหาอัคคีเช่นนั้น

แต่ยังคงเป็นพลังที่ไม่มีความแน่นอน

หอกกลืนมังกรพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าเตรียมใช้พลังทำลายล้าง

เพื่อให้เข้าถึงความเป็นจริง เย่ว์หยางอดใช้จักษุญาณทิพย์ไม่ได้

เขาพบว่าซาฟงเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้ตายอย่างอนาถภายใต้พลังเทพมหาอัคคี  แต่เขาอดทนความเจ็บปวดใจจากหอกกลืนมังกรไม่ได้ เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาและหลบเข้าไปในโลกคัมภีร์.. พลังเทพมหาอัคคีแม้จะทำลายล้างโลกและสวรรค์ได้ แต่ไม่สร้างความเสียหายให้กับคัมภีร์อัญเชิญชั้นทองแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่ซาฟงซ่อนตัวอยู่ในโลกคัมภีร์!

ชี่เฉียวตะลึงก่อน จากนั้นอดโมโหไม่ได้

ในที่สุดก็ไร้ประโยชน์

ซาฟงออกมาจากโลกคัมภีร์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะรู้สึกอับอาย แต่เขาก็ยังยิ้มออก และยิ้มให้กับความผิดหวังของชี่เฉียว เจ้าคงลืมไปแล้วเมื่อเทพมหาอัคคีเปิดเผยความลับยุคโบราณ  เราทุกคนทำสัญญากับคัมภีร์อย่างนี้ ไม่เพียงแต่เจ้าเท่านั้น แต่ยังมีข้าด้วย และข้าไม่ใช่เทพเทียมที่สามารถถูกเทพแท้ฆ่าได้เหมือนในอดีตอีกต่อไป!  ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าก็มีคัมภีร์อัญเชิญเหมือน!  แม้ว่าจะไม่มีทางก้าวหน้าอีกต่อไป  แต่ก็ยังเป็นคัมภีร์ชั้นทองเสมอ  แต่แค่นี้ก็เพียงพอให้ข้าเรียกว่าเทพแท้ได้!  ชี่เฉียว เจ้าจะไม่มีทางครอบครองพลังเทพมหาอัคคีอีกแล้ว ในเมื่อเจ้าสูญเสียคัมภีร์อัญเชิญไป เจ้าเป็นได้แค่เทพเทียมยังจะสามารถฆ่าข้าที่เป็นเทพแท้ได้หรือ?  เว้นแต่เทพราชันย์มาเองใครจะฆ่าข้าซาฟงได้?”

ชี่เฉียวจ้องมองซาฟงเย้ยหยันอยู่ชั่วขณะ จากนั้นพูด “ข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้  แต่คนอื่นทำได้!

“น่าขัน, ซื่อเสินและเฮยโจ้วยังไม่มีความสามารถฆ่าข้าได้ทันที ขุนเขาเหนือขุนเขามีซื่อเสิน เฮยโจ้ว จ้าวซือและเทียนโฉวที่พลังสูงกว่าข้า  แต่ข้าไม่สู้กับพวกเขา แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?  จะฆ่าข้ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด! ซื่อเสินยังจะเอาตัวไม่รอด  นอกจากเขาแล้ว เจ้าว่าเจ้ายังมีใครในค่ายตะวันออกอีก?”  หน้าของซาฟงแสดงอาการดูหมิ่นเหยียดหยามคำพูดของชี่เฉียว

“ให้ข้าลองดูไหม?”  เสียงที่ซาฟงไม่เคยได้ยินดังขึ้นในหูของเขา

เสียงเบา แต่ชัดเจนในโสตประสาท

ดังราวกับฟ้าผ่า

ซาฟงแก้วหูแทบระเบิด เขาเป็นเหมือนนกที่ตกใจหวาดกลัวต่อคนโก่งคันธนูเตรียมจะหลบเข้าไปในโลกคัมภีร์... เขาเพิ่งจะหลบจากพลังโจมตีจากเทพมหาอัคคี  แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าร่างของเขาหนักเหมือนหินเขาพยายามหลบจากพื้นแต่รู้สึกเหมือนกับว่าเท้าฝังอยู่ในพื้น ไม่ว่าจะใช้พลังเทพและสำนึกเทพช่วยขยับ แต่ก็ยังเคลื่อนไหวไม่ได้

มีเงาร่างสายหนึ่งออกมาจากด้านหลังของเขา เป็นปีศาจอสรพิษน้อยกำลังจ้องมองซาฟง

เธอไม่ได้โจมตีจากด้านหลัง แต่อ้อมมาข้างหน้าซาฟง

เมื่อซาฟงเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมป้องกันการโจมตี เขาค่อยๆ ยื่นมือไปที่ปีศาจอสรพิษน้อยผู้น่ารัก  “ก็ได้ ปล่อยเขาไป  ข้าคิดว่าเริ่มสู้ด้วยตนเองแต่ต้นดีกว่า  ถ้าเขารู้สึกว่าไม่ยุติธรรม หรือว่าไม่สบายใจ แล้วร้องไห้ขึ้นมาแล้วเจ้าจะว่ายังไง?”

 

17 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

พี่เย่ว์เรามาละ มาดักเก็บช่วงท้ายเอา

BJ กล่าวว่า...

ยอมโผล่มาเทพสักที555

aabbccz กล่าวว่า...

ได้เวลาพระเอกโชวแล้ว

Akirabas กล่าวว่า...

เอาหน่อยนะเฮีย

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ตีมันๆ

Unknown กล่าวว่า...

ไม่น่าถือวัตถุโบราณไว้กับตัวเลย ซาฟงเอ๋ยยยยย แถมมาคนเดียวแบบนี้เสร็จพี่เย่แน่นวลลลลล55555

Lazykuma กล่าวว่า...

ตบมันๆ

Unknown กล่าวว่า...

ปล้นมันเลยพี่เย่

แอบอ่าน กล่าวว่า...

ของทีอยากได้ดันอยุ่กะแก ซวยแล้วละ

CHANTANA กล่าวว่า...

ของมาส่งไห้ไอ้3มีหรึอจะรอด😄😄😄😄😉😉😉😊

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เล่นมันซะที ทำตัวใหญ่คับฟ้าขัดใจจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

โดนดักตบสะงั้นกลับไปก็รอดเเล้วดันฉลาดเกินก็ตามระเบียบ

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ได้เวลาสู้แล้ว

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ค่อยเข้าท่าหน่อย ยังนึกว่าชี่เฉียวตายง่ายจัด

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

ได้ดวลาพระเอกออกโรงแล้ว

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

โชว์พลังให้เด็กมันดูหน่อย 5555

แสดงความคิดเห็น