วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1172 มุกมังกร?

 

ตอนที่  1172  มุกมังกร?

เลือดกำเดาสาดกระจาย

 

ซาฟงตอบสนองโดยใช้จักรฟันใส่อกของซาฟงอีกคนหนึ่ง เกิดแผลลึกจนเห็นกระดูก

ใบหน้าซาฟงซับซ้อนเปลี่ยนแปลง เขาเอามือกุมบาดแผลที่อก และชี้หน้าด่าซาฟงที่ใช้จักรฟันเขา  “เจ้าโง่, ข้าคือเจ้า, เจ้าทำร้ายข้าก็เท่ากับเจ้าทำร้ายตัวเองไม่ใช่หรือ?  คนไร้ยางอายอย่างเจ้าต้องการฆ่าตัวเจ้าตายหรือ?”

 “ไม่, เจ้าคือเจ้า  เจ้าไม่ใช่ข้า!  เจ้าไม่ใช่ข้าแน่นอน!  คำพูดของซาฟงยังไม่ทันจบก็มีโลหิตฉีดพุ่งที่อก เกิดบาดแผลลึกถึงกระดูกบนร่างของเขา

 “ฮ่าฮ่าฮ่า, ข้าชอบการทำร้ายตัวเองแบบนี้!  ซาฟงที่ปีนขึ้นมาจากหลุมมีบาดแผลที่อกเลือดสาดกระจาย แต่เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 “นี่เป็นไปไม่ได้ ข้าคือข้า เจ้าไม่ใช่ข้า ไม่...”  ตอนนี้ซาฟงพบว่ากระดูกหน้าอก หัวใจ คางและศีรษะของเขาได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง เหมือนกับที่เขาเคยโจมตีศัตรูมาก่อน นี่เขาเพิ่งโจมตีไปจริงๆ หรือ?  แต่มีคนเดียวชัดๆ แต่ว่ากลายเป็นสามคนได้อย่างไร?  อีกสองคนเป็นร่างแยก  นั่นพวกนั้นมาจากไหน?  มีเรื่องแปลกๆ แบบนี้ได้อย่างไร ร่างเขาได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นไปได้ยังไง?

 “ในเมื่อเจ้าต้องการทำร้าย  เรายังจะรออะไรอยู่อีก!

ซาฟงสองคนชูกงจักรในมือของพวกเขา แล้วฟันใส่ร่างของตัวเอง

แต่ซาฟงรู้สึกเจ็บปวดในร่าง

เขารีบวิ่งไปหาร่างเลียนแบบทั้งสองและแย่งกงจักรในมือของพวกเขา.. มีกงจักรอยู่สามชิ้น เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?  ในโลกนี้มีกงจักรอยู่เพียงชิ้นเดียว เมื่อเทพแห่งฟ้าเหนือฟ้านับร้อยบุกโจมตี  เทพมหาอัคคี โจมตีเทพตนหนึ่งด้วยฝีมือเขาพอสังหารเจ้าของแล้วจึงได้มา แต่ว่าสมบัตินี่กลายเป็นสามได้อย่างไร? แต่ตอนนี้มีกงจักรอยู่สามชิ้น ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าชิ้นไหนของจริง ของปลอม เมื่อดูอย่างพิจารณาซาฟงไม่สามารถแยกแยะได้ เพราะกงจักรทั้งสามเหมือนกับมีจิตใจ ดูเหมือนว่ามันอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว

ซาฟงทั้งสองที่ถูกทำร้ายพวกเขาลุกขึ้นทันทีและสู้ตอบโต้ซาฟง “ไม่ใช่อย่างนี้ เจ้าไม่ใช่ข้า?  ข้าจะไม่มีทางทำร้ายตัวเอง เจ้าหลอกข้าไม่ได้ พวกเจ้าเป็นตัวปลอมทั้งหมด!

 “ถ้าเราเป็นตัวปลอม ทำไมเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บเหมือนกับเรา? นอกจากนี้ ถ้าเราเป็นตัวปลอม อย่างนั้นพวกเขาเล่า?”

ซาฟงทั้งสองร่างหัวเราะมีความสุขเหมือนกับนิสัยปกติของซาฟง

ซาฟงอดสั่นสะท้านในใจไม่ได้

เขาหันกลับไปดู

และพบว่า ด้านหลังซาฟงสองร่างยังมีซาฟงกลุ่มใหญ่เหมือนกับตัวเขา จำนวนมีมากกว่าหนึ่งร้อย.. ทุกคนวิ่งเข้ามาหาและพยายามยื่นมือไปในอากาศเพื่อเรียกคัมภีร์อัญเชิญ และมีมากกว่าสิบต่างตะโกนใส่กัน  “อย่าให้เขาได้คัมภีร์อัญเชิญไปคนเดียว คัมภีร์อยู่กับเจ้าผู้นี้ก็เสียเปล่า เปลี่ยนเป็นอยู่กับเราดีกว่า!

คัมภีร์อัญเชิญนั้นเนื่องจากมีการแข่งขันมากเกินไป จึงมีการบิดตัวผิดเพี้ยน

ตัวคัมภีร์อัญเชิญค่อยๆ บิดตัวและหมองประกายลงเปลี่ยนเป็นสีดำ

ในที่สุด ปัง...

มันยกเลิกสัญญาโดยอัตโนมัติและกลายเป็นคัมภีร์อัญเชิญที่ไม่มีเจ้าของ

 “คัมภีร์อัญเชิญของข้า!  ซาฟงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจจนถึงขีดจำกัด  ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ และเขาไม่สามารถทำลายเจตจำนงของเขาได้ เพราะเขาเชื่อว่าเขาเป็นเทพ  ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่ถึงกับตาย  แต่เนื่องจากว่าร่างแยกมีมากเกินไป และต่อสู้แย่งคัมภีร์อัญเชิญ และในที่สุดก็ทำลายคัมภีร์อัญเชิญลงไป  เขารู้สึกหมดหวังจริงๆ   นี่ถือเป็นเทพแท้จริงโดยไม่ต้องเรียกคัมภีร์อัญเชิญได้หรือไม่?  หากไม่มีทักษะแฝงเร้นและอสูรพิทักษ์ จะไม่มีแม้แต่โลกคัมภีร์ ที่ทำให้เขาหลบหนีได้อย่างปลอดภัย แล้วเขาจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร?

 “ไม่มีก็ดีแล้ว  ทุกคนไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำไมเจ้าต้องมีคัมภีร์อัญเชิญคนเดียวด้วยเล่า?”  มีซาฟงคนหนึ่งปรบมือ

 “ใช่แล้ว ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ ทุกคนก็ไม่ต้องสู้กัน”  ซาฟงอีกคนหนึ่งเห็นด้วย

 “อย่างไรก็ตาม นี่สำเร็จได้เพราะวิธีลับยุคเก่าด้วยความช่วยเหลือของเทพมหาอัคคีก่อนตาย  นี่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเจ้าแม้แต่น้อย เจ้าอย่าลืมสิ!  มีเสียงเตือนมาจากซาฟงอีกคนหนึ่ง

 “พวกเจ้าทั้งหมดหุบปากไปเลย!  ซาฟงกำลังโศกเศร้า แต่นั่นคือคัมภีร์อัญเชิญ

ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญเขาเป็นได้แค่เพียงเทพเทียม

แปดเทพแห่งขุนเขาเหนือขุนเขา แต่ละคนมีอาณาเขตของตนเอง เมื่อเขาสูญเสียคัมภีร์อัญเชิญก็ต้องกลับไปเป็นเทพเทียม ยังจะมีที่ให้เขาพูดในอนาคตอีกหรือ?

เกิดอะไรขึ้นกับร่างแยกที่อธิบายไม่ได้นี้ หรือว่ามีตัวตนในร่างกายอยู่มากมายจริงๆ?  หรือว่าใครปล่อยพวกเขาออกมา?

หรือเป็นเจ้าเด็กจอมยโสนั่น?

ซาฟงเงยหน้าและมองหารอบๆ และพบว่าเย่ว์หยางไม่ทราบว่าไปนั่งไขว่ห้างผิวปากอย่างสบายใจบนหินตั้งแต่เมื่อไหร่ เพียงห็นครั้งแรกก็ยังมีแววหยิ่งยโสเหมือนเดิม

 “ข้าจะฆ่าเจ้า!  ซาฟงระบายความแค้นแน่นอกไปลงที่เย่ว์หยางคนเดียว

 “เทพหรดีซาฟงผู้มีสมองเลอะเลือน  เจ้าตายได้แล้ว!  เย่ว์หยางเหยียดนิ้วราวกับเป็นผู้พิพากษาประกาศโทษตายของซาฟง

ล้อเล่นหรือ?

ซาฟงไม่เคยคิดว่าเด็กผู้หยิ่งยโสนี้จะแตะต้องแม้แต่ปลายผมของเขาได้

แม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะมีฝีมือดี แต่พลังที่แท้จริงของเขายังไม่แข็งแกร่ง  มิฉะนั้นเขาคงลอบเข้ามาทำร้ายเขาไปนานแล้ว ทำไมต้องรอจนบัดนี้?

ฆ่า!

ขณะที่ซาฟงโจมตีใส่ใบหน้าเย่ว์หยาง ทันใดนั้นเขาพบว่าเมื่อหมัดของเขาห่างจากจมูกเจ้าเด็กนี่หนึ่งนิ้ว เขาพบว่ามิติเวลา มิติพื้นที่ยืดขยายออกไปหลายพันปี หลายพันกิโลเมตร ... นี่ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุด   สิ่งที่ทำให้ซาฟงกลัวที่สุดก็คือ ร่างซาฟงที่มากกว่าร้อยต่างวิ่งตามเขา แทนที่ร่างพวกนั้นจะระดมหมัดใส่เจ้าเด็กนี่ แต่ร่างเหล่านั้นกลับจับแขนจับขาตรึงร่างกายของเขาไว้ทั้งหมดอย่างแน่นหนา!

พระเจ้า, ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

ร่างแยกเหมือนเหล่านี้ทำไมพวกมันทำร้ายเขาเอง?  พวกมันไม่ใช่ร่างที่แยกออกมาจากตัวเขาหรือ?

ซาฟงทราบความจริงที่โหดร้ายนี้เขาจะไม่บ้าเลย.. สิ่งที่ทำให้เขาสิ้นหวังก็คือไม่ว่าเขาจะกระตุ้นพลังเทพในหุบเขาให้แยกร่างเงาออกไปยังไงก็ตาม แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้  เพราะร่างแยกทั้งหมดเหมือนกันกับร่างของเขาไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บ หรือส่วนที่เหลือก็ตาม

เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นอิสระหลุดรอดจากมือคนร้อยคน

ซาฟงมองดูเด็กหนุ่มผู้เย่อหยิ่งต่อหน้าเขา เขากำลังยิ้มจนแทบทำให้ผู้คนบ้าคลั่งและจนใจ  เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากโขดหิน และจากนั้นดึงชิ้นหยกคล้ายสิ่งประดิษฐ์ออกมา แล้วทุบโดยตรง

เขาตกตะลึง

ซาฟงมองอย่างผิวเผินไม่ได้รับความเสียหาย  แต่รู้สึกเจ็บปวดวิญญาณแทบแหลกสลายและพลังเทพแสดงอาการเลือนรางว่าจะกำลังสลายไป

พลังเทพเป็นเหมือนภูเขากดทับ และซาฟงรู้สึกยากจะหายใจได้

มีพลังผนึกที่ทำให้วิญญาณสะท้านสะเทือน

ซาฟงเริ่มหวาดกลัว

พลังผนึกแบบนี้อย่าว่าแต่ตัวเขาในตอนนี้เลย ต่อให้เป็นเฮยโจ้วหรือซื่อเสินก็ไม่สามารถต้านทานได้  เขาจะไม่ยอมรอให้มิติผนึกเปิดตัวจากนั้นถูกขังไว้ จากนั้นถูกพลังผนึกกัดกร่อนและทำลาย  ซาฟงกำลังรีบเร่ง แต่จู่ๆ เขาเห็นนักรบสวมเกราะรบกระโดดออกมาขวางข้างหน้า  เกราะรบสร้างขึ้นจากโลหะลับเทพสังหาร ในมือของนักรบนั้นถือดาบของวิเศษระดับเทพที่ตัวเขาไม่เคยได้รับ ดาบวิเศษที่ทำลายได้ทั้งโลกและสวรรค์!

 “นี่คือเทพที่เจ้าพูดถึงใช่ไหม?  ไม่มีแม้แต่เจตจำนงราชันย์ ยังจะนับเป็นเทพได้หรือ? เป็นเทพเทียมก็พอแล้ว!  ช่างเถอะ ฆ่าเทพเทียมอุ่นเครื่องไว้ก่อน!   นักดาบหญิงกระโดดขึ้น สายฟ้านับล้านสาย น้ำและพลังไฟรวมตัวกันอยู่ที่ดาบในมือนาง และในที่สุดกลายเป็นหัวมังกรยักษ์อ้าปากลงมาที่ตัวเขา

เพียงดาบเดียว

ซาฟงรู้สึกเหมือว่าวิญญาณของเขาถูกดาบวิเศษทำร้าย

ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย วิญญาณหรือแม้แต่พลังเทพได้รับบาดเจ็บทั้งหมดจนวิญญาณแทบแหลกสลาย

ตอนนี้เขาเสียใจ แต่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมการต่อสู้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้  แต่เขารู้ว่าเขากำลังจะตายจริงๆ  “เป็นไปได้ไหมที่จะชิงดาบนั้นมาด้วยพลังทั้งหมดของข้า?  แน่ใจว่าต้องได้  เป็นเทพเทียมตัวประหลาดที่มีอายุยืนนานเป็นหมื่นปีไม่ได้เป็นกันง่ายๆ!” คำพูดของนักดาบหญิงทำให้ซาฟงอยากร้องไห้ และเมื่อเขาตะโกนสุดชีวิต เขาเห็นมือของเจ้าเด็กหยิ่งยโส ควบแน่นพลังกลายเป็นรูปมังกรทองในอากาศไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่

 “กระบี่มังกรทอง!

นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ซาฟงได้ยินในจิตสำนึก หลังจากมังกรทองกลืนศีรษะและสติสำนึกเทพของเขาก็หายไป

ร่างของเขากลายเป็นผุยผงหายไปในสายลม

พลังงานและพลังเทพทั้งหมด เครื่องหมายความรู้นั่นคือการอยู่รอดของชีวิต

ในปากมังกรทองยักษ์ ควบแน่นกลั่นพลังกลายเป็นมุกมังกรขนาดเล็ก... เมื่อมังกรทองกลับเข้ามาในร่างของเย่ว์หยาง มุกมังกรน้อยก็ร่วงในฝ่ามือของเย่ว์หยางที่เหยียดออกมารับ

นี่คือพลังของปราณกระบี่มังกรทอง และเป็นข้อพิสูจน์ถึงความคงอยู่ของเทพหรดีซาฟง!

 “ปัง!

คัมภีร์อัญเชิญเล่มหนึ่งส่งเสียงระเบิดในอากาศและกลายเป็นคัมภีร์ที่ไม่ได้ทำสัญญา

ตกลงแทบเท้าเย่ว์หยาง

อย่างไรก็ตามร่างแยกร้อยร่างที่ตามจับซาฟงหายไปหมด และร่างเงาปีศาจหายไปหมดราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก ชี่เฉียวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เมื่อเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกเข่นฆ่าศัตรูระดับเทพที่บุกโจมตี ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยไม่ใช่หรือ?  เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใครกัน?

เด็กคนนี้เป็นมนุษย์หรือเปล่า?

ซาฟงบอกว่าตนเองเป็นเทพ แต่เขาฆ่าซาฟงได้อย่างไร?

สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือเด็กคนนี้เปลี่ยนเขาให้เป็นมุกมังกร นั่นคือชีวิตทั้งชีวิต ฝึกฝนพลังเทพ ความรู้ตลอดชีวิต เขาเกรงว่าคงสู้เด็กหนุ่มนี่ไม่ได้

 “เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะต้องแปลงเป็นซาฟงเข้าร่วมต่อสู้!  ด้วยมุกมังกรนี้ข้าไม่ต้องกังวลว่าใครจะจำข้าได้!  เย่ว์หยางเก็บมุกมังกรจากนั้นโบกไปมา เงาปีศาจเปลี่ยนรูปร่างเป็นซาฟง รูปลักษณ์เหมือนกับซาฟงคนเดิมอย่างมิต้องสงสัย  แม้แต่ชี่เฉียวที่มองดูที่ด้านข้างยังมองไม่เห็นข้อบกพร่องแต่อย่างใด

 “ห้ามไม่ให้เจ้ากลับบ้านด้วยรูปร่างแบบนี้ และระวังจีอู๋ลี่ด้วย เจ้าผู้นี้มิใช่จะหลอกกันได้ง่ายๆ!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบเย่ว์หยางเบาๆ ดูเหมือนจะไม่พอใจที่เย่ว์หยางใช้เงาปีศาจปลอมตัวเป็นซาฟง  แต่นางรู้ว่านี่หมายความว่าเป็นการปลอมปะปนเข้าไปในค่ายตะวันตก  นางไม่พูดอะไรและหันหลังกลับไปพร้อมกับเสี่ยวเหวินหลี

 “ข้าจะปรับตัวให้เข้ากับพลังเทพของซาฟง หรือว่าจะขุดเอาวัตถุโบราณออกมาจากร่างของเขาดี?”  เย่ว์หยางยังคงเป็นปีศาจโลภอยู่ดี

เขายินดีจะต่อสู้

แต่เขาไม่ต้องการกังวลเกี่ยวกับโบราณวัตถุ  ถ้าเขาไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันจะไปจากแดนขุนเขาเหนือขุนเขากลับไปยังโลกไร้ที่สิ้นสุดคัมภีร์เงินทันที  และเป็นการส่งมอบภารกิจให้ผู้ลึกลับนั้น  เขาเริ่มขุดสมบัติแล้ว

ตอนนี้ได้แต่ดูโบราณวัตถุที่อยู่ต่อหน้า แต่เขาทำอะไรไม่ได้  เย่ว์หยางเหมือนแมวขโมยที่เห็นปลาย่างอยู่ข้างหน้า รู้สึกคันหัวใจยากจะเกา

ต้องโทษเจ้าซาฟงนั่น

ตายแล้วยังก่อเรื่อง

ถ้าเขาไม่ต้องเอาสมบัติโบราณออกมา อย่างนั้นก็คงจะดี

ซาฟงที่เกือบคืนชีพสำเร็จแล้วไม่สามารถตำหนิเด็กหนุ่มจากโลกอื่นได้   เขาจะเอาโบราณวัตถุออกมาได้อย่างไร?  คาดว่าเด็กหนุ่มจากโลกอื่นจำเป็นต้องรู้ว่า ไม่รู้ว่าเย่ว์หยางจะต้องใช้เวลาค้นหา นานแค่ไหน บางทีโบราณวัตถุอาจสูญหายในขุนเขาเหนือขุนเขาตลอดไป  แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซาฟงต้องตายอย่างน่าอนาถและอยุติธรรม  แต่เขาไม่ใช่คนแรกที่ตายอย่างนี้


14 ความคิดเห็น:

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ได้เวลาเก็บของตกแล้ว

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

สินสงคราม

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Akirabas กล่าวว่า...

กินไม่เหลือจริงๆ

CHANTANA กล่าวว่า...

เอาไห้หมดเลยนะ

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ฆ่ามันๆ

ผ่านมา กล่าวว่า...

ท่านเทพตายได้อนาถจริงๆ แถมพวกยังจะโดนวิธีเดียวกันดัดหลังอีก

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
เทพเกิน

BJ กล่าวว่า...

ปกติต้องเฉลยก่อนนะว่าฆ่ายังไง

Lazykuma กล่าวว่า...

5555หยิ่งดีนักเจอซัดซะ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เทพขนาดนี้สู้เทพอุดรไหวไหมเนี่ย เห็นกลัวๆมันอยู่

Unknown กล่าวว่า...

ดัดหลังได้เฉียบ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

สินสงคราม = ของเล่นเพิ่ม

chay กล่าวว่า...

กลายเปนลูกอมสักงั้น

แสดงความคิดเห็น