วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1207 ข้าไม่เห็นอะไร!

 

ตอนที่  1207  ข้าไม่เห็นอะไร!

เมื่อเย่ว์หยางตื่นขึ้นเขาพบว่าตนเองกลับมายังโลกคัมภีร์และนอนอยู่บนเตียง

 

ข้างตัวเขามีเพียงอู๋เหินคนเดียว

นางหมอบอยู่หน้าเตียงและหลับสนิท

ไม่รู้ว่านางกำลังฝันหรือไม่ มุมปากนางยิ้มหวาน เย่ว์หยางอดลูบหน้านางด้วยความสงสารมิได้และปัดเส้นผมสองสามเส้นที่ห้อยปิดหน้านาง จากนั้นเขาค่อยๆ เอนกายนอนกอดสาวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูก อู๋เหินดูเหมือนจะรู้สึกตัว แต่นางไม่ได้ตื่นจากฝัน นางขยับร่างกายท่าทางให้เหมาะสมมือโอบกอดเย่ว์หยางอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนนางกำลังพักผ่อนอยู่กับเย่ว์หยาง

ถ้านางตื่นขึ้น นางจะสุภาพอ่อนโยนเหมือนสายน้ำ  คำพูดและการกระทำของนางเหมือนกับภรรยาที่ดี เหมือนมารดาที่เอาใจใส่ทุกภาพลักษณ์ ไม่ทำสิ่งใดที่หยาบกระด้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าพวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นางจะเป็นเช่นนี้เสมอ

อย่างไรก็ตามหลังจากนางหลับแล้ว

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางจะรู้สึกถึงว่าการนอนของหญิงงามอู๋เหินจะแตกต่างไปจากลักษณะยามตื่นอย่างสิ้นเชิง นางชอบจะพัวพันแขนขาของเขาแม้แต่ใช้ศีรษะหนุนแขนเขาต่างหมอนทั้งคืน ความรู้สึกนั้นไม่เหมือนกับเป็นนาง แต่เหมือนกับเป่าเอ๋อที่โลดเล่นเต้นสนุกสนานได้ทั้งวัน  แน่นอนว่านี่คือลักษณะที่แท้จริงของหญิงงามอู๋เหิน

ในเวลากลางวันนางต้องเป็นแบบอย่างให้ทุกคนพยายามทำหน้าที่เป็นศรีภรรยาที่ดี

มีแต่รูปลักษณ์ของนางตอนกลางคืนเท่านั้น

ตามปกติแล้วนี่เป็นสัญชาตญาณตอบสนองของนางเอง  แต่ถ้ามีเย่ว์หวี่หรือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ด้วยรับประกันได้ว่าอู๋เหินจะนอนหลับสงบเสงี่ยมเรียบร้อยยิ่งกว่าคนอื่นไม่มีท่าทีเจ้ามารยากอดแขนป้องกันไม่ให้เขาลุกขึ้น

“คนดี! ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วจะรีบกลับมาทันที”  เย่ว์หยางจูบหน้าผากหญิงงามอู๋เหินเบาๆ และคลายมือนางอย่างอ่อนโยน สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจอยู่เสมอคือทั้งที่นางไม่ตื่น  แต่ดูเหมือนว่านางจะได้ยิน ตราบใดที่เขาให้คำมั่นหรือยินดีร่วมมือกับนางในกิจกรรมบางอย่างในตอนที่นางหลับ เขาไม่ต้องส่งเสียงมากเพียงแค่ขยับให้รู้ตัวก็ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าส่งกระแสจิต ที่เหลือเชื่อก็คือถ้าเขาถามหญิงงามอู๋เหินอีก นางจะไม่มีทางจำได้ นางจะไม่รู้สึกจดจำประทับใจอะไรทั้งนั้น

เมื่อเปิดประตูและเตรียมจะลงสระน้ำหน้าบ้าน

ทันใดนั้นเขาพบเจอเย่ว์หวี่ที่หน้าแดงเหมือนไม่พอใจ

เขากระพริบตาปริบ

ทั้งสองรู้สึกตัวและยิ้มให้พร้อมกัน

เย่ว์หวี่ยื่นนิ้วขาวดุจหยกออกมาเคาะศีรษะเย่ว์หยางเป็นการแสดงว่าทำโทษเขา  “เจ้า เจ้า, คนอื่นกังวลเห็นเจ้าไม่พูดทั้งวัน แม้แต่เดินบนถนนก็ตัวร้อนจนใครจับเจ้าไม่ได้? เจ้าอายุเท่าใดแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยอีกแล้ว”

“ข้าเพิ่งตื่น สมองข้ายังสับสนอยู่เล็กน้อย ไม่ทันได้สังเกตว่าท่านอยู่ข้างนอก!  เย่ว์หยางจับมือเย่ว์หวี่โดยไม่รู้ตัว

ปล่อยมือเร็วเข้า  เย่ว์หยางตกใจรีบสลัดมือ และมองค้อนเขา

“แม่เสือสาวเล่า เป็นยังไงบ้าง?”  เย่ว์หยางเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงความเก้อเขิน

“ปิงหยินบอกว่ามีผนึกบนแดนลับเทพสังหาร เทพปีศาจเว่ยกวงเตรียมตัวจะเบียดตัวออกมาจากผนึกนั่น  เชี่ยนเชี่ยนกำลังไปดู”  คำพูดของเย่ว์หวี่ทำให้เย่ว์หยางตกใจสะดุ้งตัวลอย มีอะไรต้องดูอีก เทพปีศาจเว่ยกวงเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งแน่นอน  ขนาดบุรุษลึกลับอาจารย์ของจิ่วเซียวยังยากจะเอาชนะได้  และตามที่สาวกิเลนปิงหยิงคาดการณ์ เทพปีศาจเว่ยกวงร้ายกาจกว่าคนลึกลับ พวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนในตอนนี้ไปที่แดนลึกลับเทพสังหาร ถ้าเทพปีศาจเว่ยกวงออกจากผนึกได้ก่อน จะไม่มีทางหยุดยั้งเขาได้

“ทำไมท่านไม่ห้ามพวกนาง?”  เย่ว์หยางไม่ต้องการให้พวกนางพบเจออุบัติเหตุแม้แต่ปลายเส้นผมก็ไม่อยากให้เกิด

“มีตั่วตั่วและเจี้ยงอิงไปพร้อมกับพวกนาง นอกจากแค่ไปดู ก็ยังพอจะสู้และหนีกลับได้!  เย่ว์หวี่หันมาปลอบเย่ว์หยาง

“ไม่น่าได้!  เย่ว์หยางนิ่งอยู่นานจึงค่อยเอ่ยปากขึ้น

เขาก็คิดอย่างนั้นมาก่อน

แม้ว่าไม่สามารถเอาชนะได้

แต่ก็สามารถหยอดน้ำมันที่เท้าและเผ่นหนีได้ไม่ใช่หรือ?

อย่างไรก็ตาม บทสรุปของการสู้กับคนลึกลับ แม้เขาต้องการจะหนี แต่ก็หนีไม่ได้!   หากพบกับสุดยอดนักสู้ฝีมือดี ถ้าไม่หนี ย่อมตายอย่างมิต้องสงสัย

ในการสู้กับคนลึกลับ ถ้าไม่ใช่เพราะคนลึกลับหยิ่งยโสเกินไปในตอนแรก อสูรแต่ละชนิดที่เขาใช้มีพลังทำลายล้างที่ไม่เคยใช้มาก่อน เริ่มแรกท้าทายเขาใช้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้น...  ถ้าคนลึกลับกำจัดพลังตนเองไว้ ถ้าคนลึกลับใช้ร่างเทพถือกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สาม และนาฬิกาวิเศษสมบัติวิเศษชิ้นที่ห้า และใช้แสงศักดิ์สิทธิ์สีดำคงไม่มีใครสามารถทนรับการโจมตีจากเขาได้

เหตุผลที่บุรุษลึกลับล้มเหลวก็คือเขาหยิ่งยโสเกินไป คิดว่าเขาสามารถเอาชนะทุกคนได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งพื้นฐานของเขา คาดไม่ถึงว่าจะพบอัจฉริยะผิดปกติอย่างเย่ว์หยาง เขาไม่สามารถใช้ความสามารถของกระจกวิเศษและนาฬิกาศักดิ์สิทธิ์และพลังแสงเทพสีดำได้  ประการที่สองเพราะการชิงของอย่างป่าเถื่อนของสาวกิเลนปิงหยินได้ชิงกระจกวิเศษชิ้นที่สามไป และซื่อเสิน จ้าวซี ชิงหวินและซวงหานใช้พลังเทพและชีวิตผนึกนาฬิกาวิเศษสมบัติชิ้นที่ห้า ประการที่สามของวิเศษแสงศักดิ์สิทธิ์สีดำหนึ่งในแสงเทพห้าสียังไม่ทันมีเวลาได้ใช้เขาก็ถูกยักษ์เทพชะตาเหยียบย่ำเสียก่อน

เมื่อเขาต้องการใช้แสงเทพสีดำ เขาไม่สามารถอยู่ในร่างเทพได้ และแม้ร่างปีศาจก็ไม่อาจคงรักษาไว้ได้  เขาต้องการใช้แสงเทพดำช่วยชีวิตตนเองในร่างอสูร

อย่างไรก็ตามสองพี่น้องหงส์เพลิงชิงขโมยแสงเทพสีดำก่อนทำให้บุรุษลึกลับต้องประสบพบกับโศกนาฏกรรม

นับว่าไม่มากเลย

บุรุษผู้น่าสงสารจากทวีปมังกรทะยานผู้ถูกจ้าวปีศาจโบราณขับไล่และถูกแทนที่โดยเย่ว์หยาง บุรุษลึกลับผู้น่าสมเพชนี้เหมือนกับส่งมอบสมบัติให้คนอื่นทั้งหมด

“งั้น แสงเทพดำของข้า ก็ให้ปิงหยินฉวยเอาไปเล่นก่อน  ข้าคงต้องใจเย็นก่อน!  ทันใดนั้นเย่ว์หยางจำรายละเอียดของความฝันได้ เขาตบอกผางและพบว่าแสงเทพห้าสีอยู่ที่ไหน คาดไม่ถึงเลยว่าสาวกิเลนปิงหยินจะเก็บเอาไว้ เขาจะปล่อยให้นางทำตัวเป็นโจรน้อยได้อย่างไร?

“ปิงหยินก็แค่อยากรู้อยากเห็น ก็เลยเอาไปดูไม่ใช่หรือ?”  เย่ว์หวี่ดึงของออกมาจากกำไลมือเก็บของ เป็นหนึ่งในแสงเทพห้าสี แสงเทพสีดำที่เย่ว์หยางฝันถึง

“โอว” เย่ว์หยางลืมตัวกอดจูบเย่ว์หวี่อีก

“เสี่ยวซาน เจ้า...”  เย่ว์หวี่ทั้งโมโห ทั้งอายแต่ช้าเกินกว่าจะตำหนิวิจารณ์ เย่ว์หยางรีบจับมือนางและถามอย่างตื่นเต้น  “ข้าเพิ่งฝัน ข้าฝันว่าปิงหยินเอาแสงเทพดำของข้าไป และตอนนี้แสงเทพดำกลับคืนมาแล้ว พิสูจน์ได้ว่านั่นไม่ใช่ความฝัน  แต่นั่นไม่ใช่ความฝัน อย่างนั้นตอนนี้เล่า?  พี่หวี่ ท่านบอกซิว่าตอนนี้ข้ากำลังฝันอยู่หรือไม่?  ไม่มีเหตุผลเลย ถ้าไม่ใชความฝัน ปิงหยินนางโจรน้อยจะยอมคืนของที่นางชิงไปได้อย่างไร?  ใช่แล้วตอนนี้ข้าต้องฝันอยู่แน่ๆ แต่ความฝันนี้ค่อนข้างสมจริง...”

เย่ว์หวี่เห็นน้องสามผู้นี้ทำตัวเหลวไหล

นางพยายามกลั้นหัวเราะ

นางเขย่งเท้าเขกศีรษะเขา

เย่ว์หยางเงยหน้ามองประหลาดใจ เย่ว์หวี่แค่นเสียงกล่าวอย่างโมโห “เป็นยังไง? เจ็บหรือเปล่า? หากไม่เจ็บก็แสดงว่าเป็นความฝัน!  ไม่เจ็บใช่ไหม?  อย่างนั้นข้าจะลงมือให้หนักขึ้น!” เด็กหนุ่มข้ามโลกทำให้พี่สาวผู้อ่อนโยนแสดงท่าทางซุกซนมีเสน่ห์ที่หาดูได้ยาก เขาลูบหัวอยู่นานพึมพำกับตนเอง “ไม่, ข้ารู้สึกเจ็บปวดนิดหน่อยได้ยังไง?”

“เจ้าไม่รู้สึกแน่นอน!  เย่ว์หวี่เงื้อมือขึ้น บอกว่าจะนางจะตีให้แรงกว่านี้ เขาจะได้รู้สึกชัดเจนมากขึ้น

“ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือ ถ้าเป็นความฝันท่านรังแกข้าไม่ได้แน่ ท่านต้องหลอกข้า ท่านจะต้องสนับสนุนข้าตลอดไปอยู่แล้ว!  เย่ว์หยางเถียงกลับ

“ใครจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิต  ถ้าเจ้าโง่ ข้ามิอดอยากทุกวันหรือ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้กะลาเจ้าไปเดินขอทานสวมเสื้อผ้าขาดวิ่นและหนาวในท่ามกลางอากาศหนาวจนสั่นไม่หยุด!  เย่ว์หวี่อารมณ์ดี พอพูดจบนางอดนึกถึงภาพน้องชายถือกะลาเล็กๆ เดินขอทานตามถนนคงดูตลก

“.....”  เย่ว์หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้นรู้สึกหัวใจสลาย เดินไปอยู่ที่มุมประตูขีดเขียนภาพเล่นแก้เก้อ

บางทีเพราะเห็นเย่ว์หยางในระยะไกล

มีผู้ที่กำลังขับขี่หุ่นอสูรน้ำในทะเลสาบเพียงเพื่อฝึกฝน นางขับขี่หุ่นหงส์น้ำอย่างมีความสุข นางควบคุมหุ่นหงส์ได้ไม่ดีนัก เหมือนกับว่ากำลังขี่ม้าพยศ ความเร็วไม่ลดลงเลย พอเห็นเย่ว์หยางและเย่ว์หวี่ทั้งสองกำลังเวียนหัว สาวน้อยตกใจทันที

“ตุ้บ!

เป่าเอ๋อร่วงตกอย่างที่คาด

นางคล่องแคล่วและกระโดดลุกขึ้นและกระโจนหาเย่ว์หยางพลางกางแขนเต็มที่ “ตัวร้าย!  รับข้าด้วย!

เย่ว์หยางทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นเขาส่งแสงเทพดำให้เย่ว์หวี่ถือและเขารับสาวน้อยจอมซนไว้ด้วยมือทั้งสอง

จากนั้นพาดตัวนางกับเข่า และตีก้นนางเป็นการลงโทษ

หุ่นรบหงส์ร่วงตกไม่เป็นท่า มันพยายามกระพือปีกทรงตัวกระเสือกกระสนไปข้างหน้า เย่ว์หยางรีบปล่อยเป่าเอ๋อและเอื้อมมือขวางหุ่นหงส์เอาไว้

หุ่นหงส์ค่อยๆ สงบลง

และภายใต้ความช่วยเหลือของเย่ว์หยางอย่างเชี่ยวชาญมันบินกลับขึ้นไปบนฟ้าได้โดยไม่มีอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตามสาวน้อยเป่าเอ๋อที่ร่วงลงกับพื้นกลับสร้างปัญหาให้เขา  เมื่อเด็กสาวร่วงตกจากหงส์และล้มลงมือของนางตอบสนองอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ผิดที่ นางไปคว้าขอบกางเกงว่ายน้ำของเย่ว์หยางพร้อมกับเสียหลักดึงกางเกงติดมือด้วย  คราวนี้ทั้งสามคนมองตาโตทำอะไรไม่ถูก

สัญลักษณ์ความเป็นชายถูกเปิดเผย

เนื่องจากความแข็งแกร่งของความเป็นชายพอสูญเสียเครื่องปกปิดยับยั้ง ความเป็นชายจึงผงาดดูเด่นส่ายไปมา

เป่าเอ๋ออ้าปากค้างอยู่ชั่วขณะ ปฏิกิริยาแรกของนางคือไม่ได้รู้สึกว่าน่าอาย แต่นางรู้ทันทีราวกับว่านางเป็นคนอยากรู้อยากเห็นและค้นหาความลับเสมอ ในที่สุดก็เจอความลับที่นางต้องการ อ้อ..เป็นเช่นนี้เอง

จากนั้นนางกลัวว่าเย่ว์หยางจะเข้ามาหานาง

นางค่อยๆ คลานช้าๆ มองเย่ว์หยางอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เย่ว์หยางจะเอื้อมมือมาจับ แม่กวางน้อยก็เผ่นหนีไปอย่างตกใจพลางตะโกน  “ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น อย่าตีข้า...”

เมื่อนางวิ่งออกไปได้กิโลเมตรหนึ่ง นางค่อยรู้สึกอาย ใบหน้านางแดงก่ำร้อนผ่าว

 

9 ความคิดเห็น:

Kokuryu กล่าวว่า...

ช่วงนี้เป่าเอ๋อชักจะเห็นบ่อยล่ะนะ คงไม่ใช่ว่า

CHANTANA กล่าวว่า...

5555เป่าเอ่ย

Lazykuma กล่าวว่า...

เด็กน้อย ความอยากรู้อยากเห็นนั้นฆ่าแมวได้นะ555

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

สาวน้อยบทส่งมาแบบนี้ โลลิเอฟทองต้องเสร็จพี่เยห์แน่ๆ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

555++ อยู่ๆก็เจอ...ซะแล้ว

BJ กล่าวว่า...

หาเจอแล้ว​ 55

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

จะ+1 ไปอีกหรา 555

แสดงความคิดเห็น