วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1209 ข้าช่างโง่เสียจริง

 

ตอนที่  1209  ข้าช่างโง่เสียจริง

เย่ว์หยางตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าสภาพร่างกายเขาดีขึ้นมาก  แม้ว่าพลังวิญญาณที่ใช้สู้กับบุรุษลึกลับจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ แต่ก็ฟื้นฟูเกือบทั้งหมดแล้ว

 

อู๋เหินกับเย่ว์หวี่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ

ขณะที่เขากำลังออกไป

เขาตกใจเมื่อเห็นสาวกิเลนปิงหยินวิ่งมาหาเขาด้วยตัวนางเอง เย่ว์หยางตกใจหลบทันที

ปิงหยินเห็นเขากลัว นางอดขำไม่ได้

“คืนกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามมาให้ข้าเลย!  เย่ว์หยางเห็นว่าสาวเจ้าอารมณ์ดี จึงพยายามทวงคืนสมบัติเทพชิ้นที่สามที่นางชิงไป แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขาจะลองดูอยู่เสมอ  ที่สำคัญนี่คือหนึ่งในหกสมบัติวิเศษ ที่เขาต้องการเก็บรวบรวมไว้

“นั่นไม่ยากหรอก  กระจกมีสองด้านแยกเป็นด้านดีและด้านร้าย หลังจากที่สร้างและทำสัญญาที่แยกกันมานาน ข้าแค่อยากจะร่วมด้วย แต่เกรงว่าเป็นไปไม่ได้ สำหรับคนคงไม่มีปัญหาอะไร  นี่ยังเป็นของเจ้า!  สาวกิเลนปิงหยินส่งกระจกคืนกลับด้าน ชั่วร้าย ที่นางชิงเอาไปให้เย่ว์หยาง  เย่ว์หยางตัวสั่นตกตะลึง สงสัยว่านางคงไม่สบาย? หรือว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก? หรือว่าเขายังไม่ตื่น?

เย่ว์หยางใช้มือลูบคลำใบหน้าน้อยๆ ของสาวกิเลนปิงหยิน ก็รู้สึกว่ายังดีอยู่ เรียบลื่นเหมือนหยก

แต่พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของนาง ก็ไม่เห็นว่าถูกทำร้ายอะไร

เขาอดถอนหายใจไม่ได้  “ฝันไปจริงๆ ... ข้ารู้ว่าไม่มีเรื่องดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น แม่สาวปิงหยินเจ้าหยอกล้อข้าในความเป็นจริงก็พอ  ถ้าเป็นในความฝันเจ้าควรปล่อยให้ข้าฝันตามเรื่องตามราวเถอะ”

สาวกิเลนปิงหยินหมอบย่อศีรษะทันที

จากนั้นขวิดเย่ว์หยางกระเด็นออกไปสิบเมตร

เย่ว์หยางลุกพรวดพราด ปากอ้าค้างด้วยความประหลาดใจ เขาคลำที่หน้าอกตัวเองอยู่นาน  “ขวิดจริงเจ็บจริง ไม่ใช่ฝันนี่นา!

สาวงามอู๋เหินและเย่ว์หวี่ไม่ทราบว่าปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกนางเอามือปิดปากขำ  มีสมบัติวิเศษชิ้นที่สาม เย่ว์หยางก็มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากก็แต่ไม่ต่างจากสาวน้อยปิงหยินเช่นกัน แม้ว่าจะได้รับกระจกวิเศษสมบัติเทพชิ้นที่สามด้าน ชั่วร้ายกลับมา แต่เย่ว์หยางสงสัยว่ากระจกวิเศษของอี้หนานที่ได้มาจากวิหารเทพสตรีอาจจะเป็นด้านดีของสมบัติวิเศษชิ้นที่สามก็ได้ นั่นเป็นสาเหตุอาจทำให้ภูตกระจกมีพลังลดลง ถ้าเป็นเช่นนั้นพอหลอมรวมพลังเทพทั้งสองให้สมดุลเข้าด้วยกัน พลังของสาวน้อยอี้หนานก็คงจะพุ่งพรวดเป็นแน่

ราวกับอ่านใจเย่ว์หยางออก สาวกิเลนปิงหยินพึมพำริมฝีปาก  “อย่าโง่ไปหน่อยเลย  ทั้งสองไม่สามารถใช้ด้วยกันได้  ข้าลองดูแล้วทันทีที่กลับมา มันยังขาดอะไรหลายๆ อย่าง!

เกี่ยวกับคำพูดของนาง เย่ว์หยางไม่สงสัย แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้  “ถ้าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าไม่สามารถหาวิธีหรือ มักจะมีกฎ...”

ทันใดนั้นเกิดประกายความคิดขึ้นในใจของเขา

เย่ว์หยางรีบคว้าประกายความคิดนี้ไว้อย่างมั่นคง  “เทพอุดรจ้าวซีแห่งขุนเขาเหนือขุนเขามีกระจกเทพ  แต่พลังเทพอาจใช้เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของกระจกวิเศษชิ้นที่สามได้  ถ้าจ้าวซีไม่ตาย กระจกวิเศษก็ยังยอมรับเขาเป็นเจ้าของ  เย่ว์หยางคงยากจะเอามาได้อย่างแน่นอน  แต่บัดนี้วิญญาณจ้าวซีถูกผนึกไว้ในนาฬิกาวิเศษสมบัติชิ้นที่ห้า กระจกวิเศษจึงตอบสนองต่อการกระทำของเย่ว์หยางเด็กหนุ่มข้ามโลก และคงไม่สุภาพกับเขาแน่

ใช่เลย

สาวกิเลนปิงหยินได้ยินแล้วคล้อยตาม

ความเคลื่อนไหวของนางคล่องแคล่วรวดเร็วกว่าใครอื่น  นางคว้ากระจกเทพและกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามจากข้างหลังเย่ว์หยางและรีบผละออกมาจากเย่ว์หยาง เย่ว์หวี่และอู๋เหิน ทิ้งไว้แต่เพียงคำพูด “ตัวร้าย, ข้าขอยืมน้องอี้หนานของเจ้า อีกสองสามวันค่อยคืนให้!

เย่ว์หยางโมโหจนอยากจะหวดก้นสาวกิเลนน้อยยิ่งนัก ยืมเงิน ยืมที่ดินยังพอยืมได้ นี่นางยืมภรรยาคนอื่นได้ยังไงกัน... โชคดีที่นางเป็นสาวน้อยจอมเอ๋อ มิฉะนั้นเย่ว์หยางคงโมโหจนกระอักเลือดเป็นแน่

ข้าจะยืมเจ้าสองสามวัน และจากนั้นค่อยนำมาคืน

น่าสนใจ

สาวน้อยงี่เง่านี่น่าสนใจดี

เย่ว์หยางยังคงหมกมุ่นจินตนาการฝันหวานจนกระทั่งสาวกิเลนปิงหยินกลับมาอีกครั้ง และกางมือตีมือเขาอีก  “ข้าคิดได้อีกวิธีหนึ่ง ขอยืม หัวใจฟ้า ถ้าเพิ่มปิงเอ๋อน้องสาวเจ้าอีกคน ก็จะเพิ่มแหล่งพลังแห่งชีวิต...  อธิบายให้คนงี่เง่าอย่างเจ้าฟังก็เสียเวลาเปล่า ต้องรีบแล้ว ข้าขอยืมน้องปิงเอ๋อของเจ้าอีกสักหลายวันอีกครั้ง... คิดว่าเป็นวิธีที่ดีฉลาดล้ำแน่นอน!

สาวกิเลนหลงตัวเองไม่สนใจสายตาที่ดุดันของเด็กหนุ่มจากโลกอื่น นางหยิบ หัวใจฟ้า สมบัติชั้นกึ่งเทพที่เป็นของเทพชิงหวินทิ้งไว้โดยพลการจากไปทันที

ขณะที่นางร่าเริงดีใจจากไป

ปล่อยให้เย่ว์หยางซึมเซา

เขาวาดขีดเขียนพื้นแก้เก้อด้วยอาการซึมเซา... อี้หนานภรรยาหวานใจน้อยถูกยืมไปไม่พอ นี่ยังยืมน้องสาวผู้น่ารักไปอีกคนหนึ่ง  นางไม่สนใจเลยว่าใครจะคิดยังไงเลยหรือ?

อู๋เหินและเย่ว์หยางรีบปลอบโยนไม่ให้เด็กหนุ่มจากโลกอื่นหงุดหงิด

จากนั้นเขาระบายพลังความโกรธความขัดเคืองทั้งไปลงที่อาหาร ในระหว่างที่กินอย่างมูมมาม สาวกิเลนพรวดพราดเข้ามาในห้องอีกครั้ง น้ำตาครั้งก่อนยังไม่ทันแห้ง สาวเจ้ายังจะเข้ามาเอาอะไรอีก?  สาวกิเลนที่แทบจะหมดสติอยู่ข้างๆ เย่ว์หยางชี้นิ้วที่หน้าอกของเย่ว์หยางพลางกล่าว  “ลืมบอกเจ้าไป ผู้อื่นต้องคอยลาดตระเวนตรวจตราให้เจ้า จอมอำมหิตนั่นดึงตัวออกมาจากผนึกได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังคงมีกฎอัคคีและกฎน้ำแข็งที่พัวพันอยู่ในตัวเขา คาดว่าต้องใช้เวลาสิบวันครึ่งเดือนจึงจะขับไล่หมอกที่เต็มพื้นที่ออกไปได้  ขณะที่เจ้าพักผ่อนอย่างสบายหลายวัน คนอื่นต่างทุ่มเรี่ยวแรงช่วยเจ้า เจ้าควรจะขอบคุณผู้อื่นหรือไม่?”

“สาวน้อย ข้าซาบซึ้งใจเจ้ามาก!  เย่ว์หยางกระโดดคว้ามือสาวน้อยไว้แน่น  “นอกจากร่างกาย ข้านึกวิธีแสดงความขอบคุณเจ้าไม่ออก”

“.....”  ปิงหยินกรอกตา นางพูดไม่ออกเลยจริงๆ เมื่อพบกับบุรุษแบบนี้

โจรหญิงป่าเถื่อนเจ้าเล่ห์

เกือบจะเป็นเช่นนี้

หญิงงามอู๋เหินและเย่ว์หวี่ไม่เคยเห็นอย่างนี้ พวกนางหันกลับไปหัวเราะจนตัวงอ

หลังจากสาวกิเลนจากไป เย่ว์หยางไม่กังวลกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามอีกต่อไป แต่กังวลเรื่ององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและนางเซียนหงส์ฟ้า กังวลว่าพวกนางจะพบเจอจีอู๋ลี่ที่กำลังหลบหนีเป็นลูกเต่า  อย่ามองว่าจีอู๋ลี่พ่ายแพ้บุรุษลึกลับ  แต่พลังของเขายอดเยี่ยม เพียงแต่ไม่อาจเทียบกับบุรุษลึกลับปีศาจเฒ่าที่มีชีวิตมาหลายหมื่นปี

เย่ว์หวี่แนะนำ  “ไม่ต้องกังวล เพราะว่ามีตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงอยู่กับพวกนาง ไม่ว่ายังไงพวกนางจะไม่พบกับปัญหา ต่อให้พบจีอู๋ลี่จริงก็คงหนีกลับมาได้อย่างปลอดภัย!

ตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงแข็งแกร่งพอจริงๆ  แต่พวกนางได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของบุรุษลึกลับในระดับที่แตกต่างกันไป

พวกนางควรจะพักฟื้นให้ดีเสียก่อน

อย่างไรก็ตามองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมทั้งอาหง อาหมัน อิคคาและเว่ยหลายอยู่ร่วมกลุ่มกัน หากไม่มีศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างบุรุษลึกลับ เพียงจีอู๋ลี่คนเดียวเขาไม่เกรงกลัว  เย่ว์หยางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่เขาก็ยังไม่สบายใจและตัดสินใจปรับสภาพร่างกายก่อนแล้วค่อยไปรับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  การฝึกฝนมีความจำเป็น แต่ตอนนี้ขุนเขาเหนือขุนเขานั้นอันตรายเกินไป  เพิ่งจะหมดเรื่องของบุรุษลึกลับก็กลับมีเรื่องของเทพปีศาจอีกตนหนึ่ง  นอกจากนี้จีอู๋ลี่หายไปอย่างไม่มีร่องรอย คนผู้นี้ถ้าไม่กำจัดจะกลายเป็นภัยพิบัติได้!

“ยิ่งฟื้นฟูร่างกายได้เร็วเท่าใด เจ้าก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น”  สาวงามอู๋เหินให้คำแนะนำเขาดีจนน่าแปลกใจ  “ในหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด ตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงโน้มน้าวให้สงบจิตใจ เมื่อพวกนางออกไปช่วยต่อสู้ ดูเหมือนข้ารู้สึกถึงจิตสำนึกของอู๋เสียได้

“นางตื่นขึ้นแล้วหรือ?”  เย่ว์หยางดีใจ

“เรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจเท่าใดนัก เวลานั้นข้ากังวลเกินไปจึงไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ”  อู๋เหินไม่แน่ใจเต็มร้อย เพียงแต่มีความรู้สึกบางอย่าง

“ข้าหวังว่านางจะตื่นขึ้นเร็วๆ นี้...”  เย่ว์หยางไปดู แต่ก็พบว่าเสวี่ยอู๋เสียยังคงหลับอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

เขาอดถอนหายใจเบาๆ มิได้

เย่ว์หวี่และอู๋เหินทั้งเข้ามาปลอบใจ

เมื่อทั้งสามคนออกไปเสวี่ยอู๋เสียที่หลับเป็นเวลานาน  ขนตางอนยาวของนางกลับสั่นอย่างมิน่าเชื่อ

ในการต่อสู้กับบุรุษลึกลับผู้ทรงพลังนั้น เย่ว์หยางพบว่าเขามีข้อบกพร่องมากมาย  ในระหว่างการต่อสู้เขาไม่มีเวลาคิดเลย  ความกดดันที่เกิดขึ้นจากบุรุษลึกลับนั้นเหมือนกับภูเขาทับโถม ไม่ว่าจะเป็นการบีบบังคับจากภายนอกหรือแรงกดดันทางจิตใจ นั่นเป็นเรื่องหนักหนาเกินกว่าจะทำให้คิดอะไรออก

ตอนนี้การต่อสู้จบลง เย่ว์หยางสงบนิ่งค่อยๆ รู้สึกอย่างช้าๆ

ความจริงมีหลายอย่างที่เขาทำได้ไม่ดีพอ

ข้อบกพร่องมากมาย

ในโลกไร้ที่สิ้นสุดของคัมภีร์เงิน สาวเทวทูตทั้งสามที่เป็นตัวแทน ทำลาย สร้าง และ นิรันดร ได้ชี้ให้เขาเห็นถึงขอบเขตและความหมายของความดำรงคงอยู่ของเทพจอมราชันย์ เทพนักสู้ที่แท้และแข็งแกร่งจริงๆ ไม่เพียงแค่สามารถทำลายทุกอย่างในโลกได้  แต่ยังสร้างทุกอย่างแม้กระทั่งเขาก็คือสิ่งที่ดำรงคงอยู่นิรันดรไม่มีอำนาจใดจะทำลายหรือปฏิเสธความนิรันดร์นี้ได้

หากไม่สามารถทำได้  ก็หมายความว่าไม่ได้เป็นเทพราชันย์ที่แท้จริง

ยังไม่นับเป็นเทพที่แท้จริง

ในการต่อสู้กับคนลึกลับ ถ้าเย่ว์หยางยังคง ความนิรันดร ได้ตลอดไป อย่างนั้นบุรุษลึกลับแม้จะแข็งแกร่งกว่า ก็ยังจะทำอันตรายเขาได้หรือ?

เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาไม่เพียงคงความนิรันดรไว้ไม่ได้  แต่ยังไม่สามารถทำตามข้อกำหนดการสร้างที่เขาไม่มีทางทำให้สำเร็จได้

ถ้าเขาสามารถรักษาสถานะของการสร้างได้  พลังทำลายของร่างสามรูปแบบของคนลึกลับ คลื่นสังหารของลำแสงศักดิ์สิทธิ์และของวิเศษที่มีอยู่ในมือของเขา เย่ว์หยางจะคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร? พลังสร้างโลกสูงสุด?  เช่นเดียวกับตั่วตั่วและเจี้ยงอิง พวกนางสามารถสู้กับคนลึกลับได้ด้วยพลังขอบเขตของพวกนาง แม้ว่าจะไม่ถึงกับทำได้ดี  แต่นั่นเพราะพวกนางยังทำได้ไม่สมบูรณ์

หลังจากนั้น เขาแทบจะทำอะไรไม่ได้

ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่การทำลายทุกอย่างแท้จริง

ยกเว้นเพลิงอมฤตที่ร้อนจริงๆ  ปราณกระบี่และวงจักรล้างโลก พลังโจมตีอย่างอื่นยากจะทำร้ายบุรุษลึกลับ หลังจากนั้นเขาคิดว่าได้ตระหนักถึงการตีความที่แท้จริงของพลังเทพราชันย์ได้แล้วนั่นคือ พลังทำลาย พลังสร้าง พลังนิรันดร์ สูงกว่าระดับของจีอู๋ลี่ผู้ไม่รู้เรื่องต่อสู้ และยังคงเหมือนเดิมไม่ก้าวหน้ามากนัก

“ข้าช่างโง่เหลือเกิน!  เย่ว์หยางตะโกนในหัว คำแนะนำของสามสาวเทวทูตในคัมภีร์เงิน คำอธิบายของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี และการแสดงครั้งล่าสุดของเทพธิดากระบี่ฟ้าในความฝัน เขารู้สึกชัดเจนเข้าใจอย่างปรุโปร่ง

พลังแห่งการรู้แจ้ง

ระเบิดออกมาจากร่างของเขา

แหล่งพลังปั่นป่วนไร้ขีดจำกัดแผ่ออกมาจากร่างของเขา เข้าไปในสนามพลังสร้างโลกและมีการผสานกันและวิวัฒนาการต่อเนื่อง เพลิงอมฤตพุ่งเป็นลำขนาดใหญ่ ดาบอสูรเทาเถี้ย ดาบจันทร์เสี้ยว แมงป่องดาวฟ้า อาวุธเทพทั้งหมด รวมทั้งอาวุธเทพร่างมนุษย์สองพี่น้องกางปีกนกบินรอบเจ้านาย  กระบี่ดำกุยจ้าง กระบี่ขาวซวงหัว กระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียน กระบี่ส้มเฉิงหงกวง กระบี่เหลืองมังกรทองทั้งห้ากระบี่ฉายขึ้นไปในท้องฟ้า

สนามพลังดาราราย ทางช้างเผือก กลุ่มดาวสิบสองนักษัตรควบแน่นส่องประกายแพรวพราว

แสงพลังดับสุริยา และวิชากระบี่ของจื้อจุน กระบี่แห่งชีวิต

ปรากฏขึ้นมาทีละอย่าง

เย่ว์หยางกระจายพลงเทพเงยหน้าขึ้นฟ้าและกางแขนของเขา

ในท้องฟ้ามีเสียงสั่นสะท้านดังขึ้นในหัวใจ บนปลายเสาเพลิงอมฤตมีสองพี่น้องหงส์เพลิงบินโฉบเข้ามาในสายตาของเย่ว์หยาง นี่คือสัญลักษณ์ของการต่อสู้ต่อไป

 

8 ความคิดเห็น:

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ
โอ้ จะเทพแล้วเหรอ

CHANTANA กล่าวว่า...

เทพอีกแล้ว

Lazykuma กล่าวว่า...

นี้สิที่รอคอยจบศึกใหญ่เวลไม่อัพได้ไง

Unknown กล่าวว่า...

เลเวลอับ

Unknown กล่าวว่า...

เวลอัพแต่ยังไม่เป็นเทพ ขอบคุณคับ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เตรียมสู้บอสใหญ่อีกตัว

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ยกระดับไหมน้อ

แสดงความคิดเห็น