วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1225 ฆ่า ฆ่าไม่ปราณี!

 

ตอนที่  1225  ฆ่า ฆ่าไม่ปราณี!

ทะเลฝนดาวตก หอทงเทียน

 

หัวหน้าหัวสิงห์ หัวแรด หัวหน้ามนุษย์ท่อนฟืน ถูกบุรุษหนุ่มหน้าตาดุจเทพตำหนิ และโบกมือไล่เหมือนแมลงวัน พวกเขาต้องถอนตัวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่ทาสผู้น่าสงสารก็ยังนำไปไม่ได้

พวกเขาทะยานบินขึ้นฟ้ากลายเป็นเหมือนอุกกาบาตพุ่งหายลับไปในขอบฟ้าทันที พวกทาสที่รอดตายคุกเข่าลงกับพื้น

คำนับบุรุษหนุ่ม

สำหรับคนที่น่าสงสารและถ่อมตนเหล่านี้ คุณชายผู้นี้เป็นเหมือนเทพเจ้า

ที่ด้านซ้ายของบุรุษหนุ่มรูปหล่อเป็นบุรุษวัยกลางคนมองดูเหมือนปราชญ์บัณฑิต ที่ด้านขวาเป็นชายชราชุดคลุมดำ

พวกเขามองดูเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่น มีบางอย่างที่แปลกประหลาด คล้ายๆ กับว่าชื่นชมกับการทำลายภาชนะสวยงามที่มีเมล็ดพันธุ์พืชงอกงาม....  คนที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือของบุรุษหนุ่มที่คล้ายเทพบัณฑิตวัยกลางคนยอมรับการเทิดทูนบูชาของพวกทาส ใบหน้าเขามีรอยยิ้มขณะถามเจ้าอ้วนไห่อย่างอ่อนโยน  “แม้ว่าเรายินดีจะสนทนากับเจ้าต่อ เพราะเจ้าน่าสนใจมากเกี่ยวกับความพยายามของนักรบระดับต่ำของหอทงเทียน แต่น่าเสียดายที่เรามีเวลาไม่มาก  ก่อนที่ข้าจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร ข้าให้โอกาสเจ้าทิ้งบางสิ่งบางอย่างกลับไปบ้านเกิดเจ้า เจ้ามีคำพูดใดจะสั่งเสียไหม?”

“นึกแล้วเชียวว่าเจ้าจะต้องพูดอย่างนี้!  เจ้าอ้วนไห่ถอนหายใจ

“สุนัขที่ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยการกินที่น่ารังเกียจได้” เย่คงเห็นด้วย

“คำพูดสุดท้ายฟังง่ายจริงๆ!  บัณฑิตวัยกลางคนยังคงทำเป็นยิ้มอย่างสง่างาม แต่ประกายอำมหิตในดวงตาของเขามิอาจซ่อนเร้นได้

“ข้าได้ยินมาว่าในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ นอกจากจีอู๋ลี่แล้ว ยังคงมีหลายคนที่ชอบแกล้งทำตัวอย่างนั้น”  เจ้าอ้วนไห่ถอนหายใจเฮือก

“อย่างเช่นเจ้าตำหนักแสงจงหัวไงเล่า”  เย่คงพยักหน้าเห็นด้วย

“ถ้าเป็นเจ้าตำหนักแสงจงหัวมาหาเราอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร เพราะนั่นคือคนระดับเจ้าตำหนักที่มีพรสวรรค์ย่อมให้เรากลัวได้เหมือนมดน้อย  หากเขายืนยันในการเสแสร้งบีบจมูกของเราให้จดจำได้  ใครให้เราไม่เคยพบเห็นนักสู้ระดับกึ่งเทพเล่า”  เจ้าอ้วนไห่ลูบหน้าอกด้วยมืออวบอ้วน และทำสีหน้าผิดหวัง  “อย่างไรก็ตามคนโง่ที่ไม่รู้จักเจตจำนงราชันย์ว่าคืออะไร แล้วยังมีความสำเร็จได้ถึงปราณฟ้าระดับเจ็ดได้ ยังกล้ามาหลอกข้าคุณชายด้วยหรือ?”

บัณฑิตวัยกลางคนและบุรุษหนุ่มรูปหล่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

พวกเขาโกรธและตั้งใจเข่นฆ่า

ประกายอำมหิตแผ่ออกมาจากในดวงตา

บุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางลักษณะเหมือนเทพโบกมือกล่าว  “อย่าโกรธนักเลย  สิ่งที่พวกเขาพูดเป็นความจริง  พวกเจ้าไม่เข้าใจเรื่องเจตจำนงราชันย์จริงๆ!

ทันทีที่เขาพูดคำนี้ออกมาบัณฑิตวัยกลางคนมีหน้าแดง

หน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาหันไปแสดงความเคารพ

ค้อมศีรษะ

เขาคำนับชายหนุ่มที่อยู่ตรงกลาง

ชายชราชุดคลุมดำด้านขวามือ ในเวลานี้แขนที่เรียวยาวผอมบางแต่ทรงพลังของเขาเหยียดออกและนิ้วของเขาเหมือนกับหางแมงป่องชี้ไปที่เสวี่ยทันหลางที่กำลังนั่งขัดสมาธิควบคุมการหายใจ  “ในเมื่อต้องสู้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าจะจัดการเจ้าหนุ่มน้อยนี่เอง  ข้าชอบเจ้าหนุ่มน้อยนี่ ดูน่าสนใจดี”

บัณฑิตวัยกลางคนมองดูองค์ชายเทียนหลัว  “อย่างนั้นข้าเลือกเจ้าเด็กนี่เอง ใบหน้าหล่อขนาดนี้ เห็นแล้วอิจฉา!

องค์ชายเทียนหลัวยิ้ม

เขาตอบอย่างสุภาพ  “ขอบคุณที่ชมกัน  ถ้ามีบางคนอิจฉาพลังของข้า นั่นจะทำให้ข้ามีความสุขมากขึ้น”

บุรุษหนุ่มคนกลางสง่างามเหมือนเทพกวาดตามองเจ้าอ้วนไห่และเย่คง และถอนหายใจเบาๆ ส่ายหน้าและหัวเราะแปลกประหลาด  “แม้ว่าข้าจะเพิ่มความระมัดระวังแล้ว แต่ข้าก็ยังคาดไม่ถึง ต้องบอกว่าในกระบวนการเติบโตก้าวหน้าของนักรบหอทงเทียน น่าจะก้าวหน้าได้เร็วที่สุดแล้ว ฉลาด ยอดเยี่ยมจริงๆ...  บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมหอทงเทียนสามารถโดดเด่นขึ้นมาได้ตลอดเวลา!

คำพูดของเขาเพิ่งจบ หัวหน้าหัวสิงห์ หัวหน้าหัวแรด และหัวหน้าร่างเหมือนฟืนที่เพิ่งหนีไปกลับร่วงตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างน่าประหลาด

นอกจากนี้ทะเลฝนดาวตกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ท้องฟ้าและน้ำทะเลหายไปตลอดกาล

พื้นที่มิติกระจัดกระจายเหมือนกระจกแตก  เมื่อฝุ่นตกลงมาบนพื้นที่รอบๆ ก็กลายเป็นดินแดนแห้งแล้งกว้างใหญ่ ไม่มีจุดแบ่งแยก ท้องฟ้าเป็นสีเทาและพื้นดินไม่มีชีวิต  ที่นี่ไม่มีต้นไม้ ไม่มีสัตว์สิ่งมีชีวิต มีแต่ซากแห่งความตาย กว้างไกลไม่สิ้นสุด และไม่มีทางออก

ในดินแดนแห้งแล้งนี้ ไม่มีสายลมและอากาศนิ่งเหมือนน้ำนิ่ง

บัณฑิตวัยกลางคนมีสีหน้าเปลี่ยน  เขาหยิบนาฬิกาทรายออกมาและตั้งคว่ำ และแปลกใจเมื่อพบว่านาฬิกาทรายยังคงค้างเติ่ง...  “ที่นี่คือโลกไม่มีมิติเวลาหรือ?  เจ้าพัฒนาขึ้นมาได้หรือ?  ไม่เจ้าตั้งกับดักไว้เมื่อใด?”  บัณฑิตวัยกลางคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ชายชราชุดคลุมดำขยับแล็กน้อย ในความเห็นของเขาเป็นเรื่องยากมากที่จะหลอกตัวเขาเองและสหาย ในที่สุดเขายังหลอกคุณชายเจ้านายของเขา  เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่คุณชายของเขาเอง แต่ในแดนสวรรค์คุณชายของเขามีความสามารถรอบด้าน!

“มันควรจะถูกฝังไว้ก่อนนั้น และพลังการบูชายัญกลายเป็นกับดักดึงดูดพวกเราเข้าไป”  บุรุษหนุ่มที่อยู่ตรงกลางคิดเล็กน้อยและพยักหน้า  “ตามข้อมูลในหอทงเทียนมีนักสู้คนหนึ่งชื่อสุ่ยตงหลิว ถึงแม้ว่าพลังจะไม่น่ากลัวแต่มีความเป็นเลิศในการวิจัยมิติและด้านเทเลพอร์ต  ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นหนึ่งในอาจารย์คนสำคัญที่สอนคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ทั้งยังเป็นอาจารย์ของอัจฉริยะสองสามคนข้างหน้านี้  ข้าคิดว่าน่าจะมีคนทรยศเปิดเผยข้อมูลก่อนหน้านี้ก่อนที่เราจะมา แล้วให้สุ่ยตงหลิววางแผนขัดขวางได้  แต่เขาจำศิษย์ของเขาที่กลับจากแดนสวรรค์ได้ เขายังล่อพวกเราให้เข้าสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่นี้”

“แม้ว่าจะคาดเดาอย่างกล้าหาญ แต่ก็มีข้อน่าสงสัยตรงกลาง”  เจ้าอ้วนไห่ปฏิเสธทันที  “ระยะทางจากแดนสวรรค์หอทงเทียนไกลโพ้นไม่มีข้อมูล  อาจารย์จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังกลับมาจากแดนสวรรค์”  เวลากับสถานที่ไม่สมเหตุผล”

“เป็นเรื่องจริง” บุรุษหนุ่มคาดเดาอีกครั้ง  “แต่สมมติว่าเหตุการณ์ที่นกนางนวลยังกลับมาได้ เรื่องนี้นับว่ามีเหตุผล”

“เจ้ากำลังบอกว่านกนางนวลซุ่มโจมตีอยู่ใต้ทะเลใช่ไหม?”  เจ้าอ้วนไห่แทรกขึ้น  “นางเป็นนกนางนวล ไม่ใช่ฮิปโป!

“ไม่, เจ้ามีฮิปโปตัวหนึ่ง”  บุรุษหนุ่มคนกลางแก้ไขอีกครั้ง “ความจริงสิ่งที่ซุ่มอยู่ก้นทะเลก็คืออสูรพิทักษ์ของเจ้า ฮิปโปน้อยซุ่มหลอกล่ออยู่ใต้ทะเล มันเป็นการบอกพิกัดที่สำคัญที่ทำให้เจ้ากลับมาอย่างแม่นยำจากรอยแตกของมิติเวลา  ส่วนนกนางนวลติดต่อกับสุ่ยตงหลิวอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บางทีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาข้อมูลของเรารั่วไหลออกมาว่าเรากลับมาแล้ว และจากนั้นสุ่ยตงหลิวและคนอื่นจึงล่อลวงเราด้วยการซ่อนฮิปโปน้อยของเจ้า ด้วยทักษะแฝงเร้นหรือวิธีการทั้งสองนี้เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก เจ้ากล้าอยู่ในรอยแยกของมิติเวลารอจนกระทั่งจบ  ต้องบอกว่าความกล้าของพวกเจ้าดีกว่าพวกข้าจริงๆ สามารถดึงเราให้อยู่ในมิติเวลาได้อย่างน้อยสองวัน  แม้ว่าจะอยู่รอยแยกมิติเวลาเป็นเวลานาน และการใช้พลังของพวกเจ้าก็ยิ่งใหญ่และร่างกายของพวกเจ้าหมิ่นเหม่ต่อสภาวะล่มสลาย... เนื่องจากใช้เวลาอยู่ในนั้นนานเกินไป พวกเจ้าได้พบกับกองทหารจากแดนสวรรค์ และเกิดการต่อสู้ดุเดือดขึ้น พวกเจ้าจึงอยู่ในสภาพทุลักทุเล!

“ผิด”  เย่คงฟังและแค่นเสียงเย็นชา  “ทำไมเราต้องอยู่ในที่อันตรายอย่างรอยแยกมิติเวลาด้วยเล่า?  ออกมาข้างนอกย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือ?”

“นี่คือจุดที่ข้าชื่นชมพวกเจ้า” บุรุษหนุ่มที่ดูเหมือนเทพยิ้มเล็กน้อย  “ถ้าไม่มีการบูชายัญโลหิต อย่างนั้นพวกเจ้าจะไม่มีทางไปที่ทางออกที่สุสานเทพทวีปกวงหมิงโดยไม่ตั้งใจ  แม้ว่าเจ้าจะกลับโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็จะเปิดเผยร่องรอย เพื่อซ่อนหูตาผู้คน และในเวลาเดียวกันเพื่อเปิดรอยแยกมิติเวลาใหม่ สำหรับพวกเจ้าเพื่อเชื่อมหอทงเทียนกับแดนสวรรค์ เพื่อจะช่วยคุณชายสามตระกูลเย่ว์ พวกเจ้าไม่คำนึงถึงความเสียสละ แสวงหาช่องมิติเวลาใหม่ได้  นอกจากนี้ยังได้มาจากผู้ใต้บังคับบัญชาผู้โง่เขลาของข้า พวกเจ้าจึงทำงานได้สำเร็จ!

“พอเถอะ ข้าจะทำลายพวกเจ้าทุกคน ดูซิว่าพวกเจ้าจะกลับไปหาคุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้อย่างไร!  บัณฑิตวัยกลางคนรู้สึกหงุดหงิด

เขาไม่เคยคิดอะไรเลย

เหล่าเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาล้วนเจ้าเล่ห์ทั้งนั้น

หากไม่มีคุณชายทำหน้าที่อย่างระมัดระวังและให้มาตรวจสอบการเทเลพอร์ต คาดกันว่าพวกเด็กหนุ่มเหล่านี้คงใช้ประโยชน์จากพวกโง่เหล่านี้ และความอัปยศนี้คงมิอาจให้อภัยได้อย่างแน่นอน

ชายชราชุดดำมีประกายตาประหลาดใจเช่นกัน หากไม่มีคุณชายมาด้วย คงจะแย่มาก  หอทงเทียนกลับใช้การบูชายัญโลหิตเปิดรอยแยกมิติใหม่ และการกระทำที่เหลือเชื่อนี้กลายเป็นเรื่องจริง  เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและพวกที่อยู่ต่อหน้าเขา ทำให้ชายชราชุดดำรู้สึกแก่ลงไปทันที

เราแก่แล้วหรือ?

หรือว่าเด็กหนุ่มพวกนี้ร้ายกาจเกินไป?

นักรบมนุษย์จากหอทงเทียนเหล่านี้มีชีวิตมาได้ไม่กี่ปี คาดว่าแก่สุดก็ยังไม่ถึงสามสิบปี เทียบมาตรฐานชีวิตของแดนสวรรค์  อายุขัยของคนในหอทงเทียนนี้เหมือนทารกน้อยที่ยังไม่หย่านม

แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะเติบโตจนอยู่ในระดับที่ไม่น่าเชื่อเท่านั้น  แต่พวกเขายังวางแผนการดักการเดินทางผ่านมิติของชาวแดนสวรรค์ได้ด้วยหรือ?

นักรบหอทงเทียนต้องการไต่ระดับจนถึงพลังปราณฟ้า ต้องใช้พลังหลายร้อยปีไม่ใช่หรือ?  ทำไมเด็กเหล่านี้ถึงทำเช่นนี้ได้ในเวลาไม่กี่ทศวรรษ

“ทุกอย่างเป็นเพราะคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้น่าเหลือเชื่อ!  บุรุษหนุ่มที่ยืนตรงมีลักษณะเหมือนเทพเจ้ามองเห็นความสงสัยของชายชราชุดคลุมดำและบัณฑิตวัยกลางคน เขาจึงอธิบายต่อ  “นักรบหอทงเทียนเติบโตอย่างรวดเร็ว  แต่แม้กระทั่งนางพญาผู้พิชิตหมื่นปีที่แล้ว หรือจักรพรรดิอวี้เมื่อหกพันปีก่อนก็ยังไม่เหนือกว่าบรรพบุรุษมากนัก แต่การเติบโตก้าวหน้าของพวกเขาเองก็ถือว่ารวดเร็วมาก  แต่ก็ยังแย่กว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ในทุกวันนี้! ตามข้อมูลระบุว่าคุณชายสามตระกูลเย่ พยายามอดทนมาตั้งแต่เด็กอ้างว่าเป็นเศษสวะตัวประหลาด ทำเช่นนั้นมาเป็นเวลาหลายปี  หรือจะคิดอีกอย่างหนึ่งว่า เขาเตรียมตัวเตรียมการไว้ดีเตรียมพร้อมกับการพุ่งทะยานเติบโต ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่สหายของเขา หรือแม้แต่หอทงเทียนก็ยังเติบโตอย่างบ้าคลั่งภายใต้อิทธิพลของเขา  หลายปีก่อนเขาสามารถเอาชนะขับไล่สามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตกซิวคง จิ่วเซียวและหมิงเยี่ยกวงที่เพิ่งหลุดพ้นออกมาจากผนึกของวังเทพจักรพรรดิอวี้ และหลังจากกวาดล้างเผ่าเก้าแสงที่รุกรานหอทงเทียน แม้แต่ข้าก็สงสัยว่าเขาคงไปที่ภูมิภาคสวนสวรรค์ และจ้าวสุริยาที่ไปค้นหาคัมภีร์อัญเชิญระดับเทพคงพบกับอุบัติเหตุในเงื้อมมือของเขา เป็นเพราะคุณชายสามตระกูลเย่ว์นี่น่ากลัว ข้าจึงเห็นด้วยกับบิดาให้กรีฑาทัพเข้าหอทงเทียน และข้ายอมรับตำแหน่งผู้บัญชาการทัพหน้า   ตอนนี้หลังจากมาถึงหอทงเทียนข้าพบว่าสถานการณ์แย่กว่าที่คิดไว้ถึงร้อยเท่า เนื่องจากการดำรงคงอยู่ของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ อนาคตของแดนสวรรค์สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ  ถ้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์คนนี้ไม่ถูกกำจัด แดนสวรรค์จะไม่มีวันสงบสุขได้เลย!

“เป็นความจริงหรือที่ว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์น่ากลัวยิ่งกว่านางพญาผู้พิชิตเมื่อหมื่นปีที่แล้ว และจักรพรรดิอวี้เมื่อหกพันปีก่อน?”  บัณฑิตวัยกลางคนนึกถึงนางพญาผู้พิชิตและจักรพรรดิอวี้ในครั้งก่อนอดสะท้านใจมิได้

“คุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นผู้รับสืบทอดจักรพรรดิอวี้และศิษย์ของนางพญาผู้พิชิต เจ้าจะว่ายังไง?”  บุรุษหนุ่มผู้ดูเหมือนเทพถามบัณฑิตวัยกลางคน

ต้องตาย!  รังสีฆ่าฟันของบัณฑิตวัยกลางคนเหมือนกับมีด  “ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณชายสามตระกูลเย่ว์จะต้องตาย ข้าจะไม่ยอมให้มีนางพญาผู้พิชิตคนที่สองในแดนสวรรค์เด็ดขาด เจ้าต้องการใช้วิธีนี้เรียกคุณชายสามตระกูลเย่ว์กลับมา”

“นี่คือคำที่เราต้องพูด”  เสวี่ยทันหลางลืมตาทันที และพื้นที่ทั้งหมดท่วมเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน  “อะไรก็ตาม ใครก็ตามที่ขัดขวางไม่ให้หอทงเทียนของเราฟื้นตัวขึ้น ใครก็ตามที่ขัดขวางเย่ว์หยาง ใครก็ตามที่ขัดขวางเรา มันผู้นั้นจะต้องตาย ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นเผ่าเก้าแสงหรือกองทัพพิเศษแดนสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดินีฟ้าหรือจ้าวสุริยา ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม ตราบใดที่พวกเจ้ากล้าขัดขวางเรา  ก็ต้องตายกันทั้งหมด!

“ฆ่าไม่ปราณี!  เจ้าอ้วนไห่ เย่คง องค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่พูดขึ้นพร้อมกัน

แรงสั่นสะเทือนน่าตกใจยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดร้อยเท่า

พวกเขาปล่อยพลังทั้งร่าง

เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูแข็งแกร่ง ไม่สำคัญว่าศัตรูมีสถานะใด มีพลังถึงระดับไหน แต่ตราบใดที่พวกเขาบังอาจขัดขวางแผนการของพวกเขา  อย่างนั้นก็ต้องถูกฆ่า!  ใครกล้ารุกรานหอทงเทียน ใครบังอาจขัดขวางเย่ว์หยางไม่ให้กลับมา อย่างนั้นมีแต่ต้องตาย

ไม่ว่าต้องทุ่มราคาเท่าใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนปณิธานเจ้าอ้วนไห่และพวกพ้องได้!

บัณฑิตวัยกลางคนและชายชราชุดคลุมดำรู้สึกตกใจกับรังสีฆ่าฟันของพวกเขานัก

พวกทาสเหล่านั้นพากันหวาดกลัว

ทุกคนหมอบกับพื้น

ไม่กล้าเคลื่อนไหว

มีแต่บุรุษหนุ่มที่ดูเหมือนเทพยังคงมีสีหน้าเหมือนเดิม

เขามองดูเจ้าอ้วนไห่และพวกพ้องแผ่รังสีฆ่าฟันเต็มพื้นที่ก็ถอนหายใจเบาๆ  “จิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่ยอมจำนน ความกล้าหาญและความเที่ยงธรรมกลับมาแล้ว วิญญาณนักรบที่สูญสิ้นไปกว่าหมื่นปี กลับถูกคุณชายสามตระกูลเย่ว์ดึงกลับมาได้  เขาเคยเป็นแสงสว่างนำทางให้เด็กหนุ่มเหล่านี้ได้สำเร็จโดยตรง เขาใช้เลือดหล่อเลี้ยงความภาคภูมิใจของเด็กหนุ่มเหล่านี้  ยุคแห่งความภาคภูมิใจและเกียรติยศของนางพญาผู้พิชิตจะกลับมาอีกครั้ง บางทีนี่คือจุดที่น่ากลัวที่สุดของคุณชายสามตระกูลเย่ว์!  เขาไม่ใช่คนที่กลายเป็นนักสู้ไร้เทียมทาน แต่สร้างอิทธิพลให้กับทุกคน  นักรบที่กลับฟื้นฟูขึ้นมาอย่างนี้จะมีความมั่นใจ  การฟื้นตัวของหอทงเทียนดูเหมือนว่าจะป้องกันได้ยากจริงๆ  ทำไมข้าถึงไม่พบเจอปัญหานี้ก่อน?  ถ้าเป็นในตอนเริ่มต้น นี่คือทางเลือกของโชคชะตาหรือไม่?  ข้ากำลังยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของโชคชะตาหรือไม่? ตัวข้านี้กำลังต่อต้านประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่?   ท่านพ่อ! บอกความจริงกับข้าได้ไหม? ทำไมทั้งที่ท่านฉลาดขนาดนั้นถึงต้องทำลายหอทงเทียน? ทำไมเราถึงต้องต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ด้วย?”

 

3 ความคิดเห็น:

Lazykuma กล่าวว่า...

คิดได้ตอนนี้มันไม่สายไปเร๊อ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

oBABYVOXo กล่าวว่า...

จะสู้ไหวไหมเนี่ย น่าจะลูกของตงฟางนะ ระดับกึ่งเทพรึป่าว

แสดงความคิดเห็น