ตอนที่ 1231 จูบลืมโลก!
หลังจากเสียงไพเราะของสตรีนางนี้จบลง ฉับพลันมิทราบว่าลมยะเยือกพัดมาจากที่ใด
ทุกที่ที่พัดผ่านกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด
สิ่งมีชีวิตใดๆ ทั้งหมดกลายเป็นเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
รวมถึงเด็กสาวยักษ์ที่กำลังดิ้นรนลุกขึ้นและร่างเงากับตั่วตั่วที่กำลังใช้พลังเทพสู้กันอยู่ในท้องฟ้า และแม้แต่มังกรพิรุณกับอวตารร่างทองของเทพปีศาจเว่ยกวงที่กำลังจะใช้แขนกระบี่ขวาสังหาร โลกกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมดในทันที เหมือนกับว่าทั้งโลกถูกแช่ด้วยน้ำแข็ง ไม่มีสิ่งใดสามารถเคลื่อนไหวได้ในเวลานี้
มิทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด
ร่างอวตารทองของเทพปีศาจเว่ยกวงเริ่มสั่น และร่างของเขาเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย
และตั่วตั่วที่เปลี่ยนไปเป็นน้ำแข็งเริ่มขจัดน้ำแข็งบนร่าง เงาดำค้างอยู่ในกลางอากาศ จนกระทั่งมังกรพิรุณที่ควบคุมโดยเย่ว์หยางค่อยๆ เคลื่อนลงมา มันคำรามเพื่อทำลายผนึกน้ำแข็งบนร่าง
“ใครกัน?” เทพปีศาจเว่ยกวงลอยตัวขึ้นด้วยความโกรธแค้น
ขณะเดียวกัน เขาพบว่าผิดปกติ
เขาเกลียดและกลัวต่อพลังน้ำแข็งที่น่ากลัวนี้ เขาต้องคอยทนทรมานกับพลังน้ำแข็งอย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า?
เขาไม่พบเห็นศัตรู เพียงแต่รู้ว่าเป็นสตรี แต่พลังน้ำแข็งนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกและคุ้นเคย พลังน้ำแข็งนี้แตกต่างจากพลังน้ำแข็งที่เขาผ่านการต่อสู้มาหลายครั้ง ความแตกต่างกันก็คือพลังน้ำแข็งนี้เป็นพลังเทพใหม่ซึ่งแตกต่างจากพลังแช่แข็งที่เขาพบมาก่อน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือความแข็งแกร่งของพลังน้ำแข็งนี้น่ากลัวกว่าพลังน้ำแข็งที่เขาเคยจำได้ และมีพลังผนึกแบบเดียวกันทำให้พลังของเขาอ่อนแอลง
เขาไม่รู้ว่าฟ้าสูงเพียงไหน แต่เขารู้สึกว่าเหนือท้องฟ้าขึ้นไป
มีสายฟ้าสีม่วง
ระเบิดพลังลงมาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
เปลี่ยนเป็นคนอื่นโจมตี แม้ว่าจะเป็นเทพ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ร่างเทพอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงรับพลังสายฟ้านี้
อย่างไรก็ตามสายฟ้าสีม่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นกฎสวรรค์ที่มิอาจปฏิเสธได้ ไม่ยอมให้มีการเบี่ยงร่างหลบได้และยากจะต้านทาน ได้ฟาดลงบนศีรษะของร่างอวตารทองของเทพปีศาจเว่ยกวง และทะลวงลึกลงไปในวิญญาณของเทพปีศาจเว่ยกวง
ดวงตาของร่างเทพอวตารสีทองดูเหมือนแสดงสีหน้าอาการเหลือเชื่อ
อารมณ์สีหน้านี้ถูกแช่ค้างโดยสายฟ้า
จนกระทั่งร่างอวตารทองทรุดลงกับพื้น สีหน้านี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เป็นเวลาหมื่นกว่าปีแล้วที่เทพปีศาจเว่ยกวงไม่ถูกศัตรูโค่นล้ม แม้แต่ร่างอวตารทองที่เขาใช้สำนึกเทพควบคุมก็ยังลุกขึ้นยืนทันทีได้ เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ว่าร่างของเขาไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากมีความสับสนมากขึ้น เขายิ่งมีความโกรธและความตกใจปรากฏในสีหน้า ใช่แล้วตอนนี้เขาไม่มีทางเก็บซ่อนความตกใจไว้ภายใน!
แม้ว่าศัตรูยังหาสำนึกเทพเขาไม่พบ แต่เขาก็ถูกโจมตีจนล้มลง
และใช้เพียงสองเคล็ดพลัง
น้ำแข็งหนึ่ง และสายฟ้าหนึ่ง
สามารถเอาชนะสำนึกเทพและทำร้ายพลังเทพจนร่างอวตารทองกระแทกกับพื้น.. นี่ นี่คือศัตรูแบบไหนกัน?
“สาวหิมะ! ข้าคิดถึงเจ้ามาก!” เมื่อครู่นี้ใช้สองท่าก็ล้มเทพปีศาจเว่ยกวงได้ เย่ว์หยางเข้ามากอดนางแน่น จนนางแทบหายใจไม่ออก ถ้าเป็นเวลาปกตินางคงทุบตีเขาบ้างแน่นอน แต่ตอนนี้นางนอนนานเกินไป นางไม่สามารถพูดกับเขาได้ นางอยากจะกอดเขา หากแต่นางต้องเข้าไปฝึกในโลกมหัศจรรย์ตามคำสั่งในสำนึกแล้ว นางคงกลับไปยังโลกคัมภีร์เพื่อพบเขาและกอดเขาแล้ว
“ข้า..ข้าก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน” มีคำพูดเป็นพัน นางไม่รู้จะเริ่มพูดตรงไหน นางได้แต่โอบกอดเขาอย่างเดียว นางไม่สามารถพูดอะไรได้ แค่อยากจะกอดเขาเช่นนี้ตลอดไป
ตั้งแต่วันที่นางตื่นขึ้น นางต้องการจะลืมตามองเขา
บอกเขาว่านางก็คิดถึงเขามาก
ในวันที่นางสู่ห้วงนิทรา
ไม่มีแม้สักวันที่ไม่ต้องการกลับไปหาเขาให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้
นางไม่สามารถวางหน้าได้ถนัด แม้ต้องการจะอยู่ใกล้เขา แต่ก็ไม่อาจใกล้ชิดสนิทกับเขามากเกินไป นางมักแข่งขันกับแม่เสือสาวทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจกับเรื่องนี้ ในช่วงที่นางจมอยู่ในห้วงนิทรานางตัดสินใจเป็นพันครั้ง หมื่นครั้ง ตราบใดที่นางฟื้นคืนสตินางจะไปพบเขาโดยเร็วที่สุด นางจะเพิกเฉยเปล่อยวางทุกอย่าง ไม่สนใจสายตาคนอื่น ไม่แข่งดีกับแม่เสือสาว จะไม่ทำให้เขาต้องตื่นตระหนกตกใจ ตราบเท่าที่ได้อยู่กับเขา
ดังนั้น
ทุกอย่างไม่สำคัญ
ที่สำคัญคือนางชอบทำเช่นนั้น
จนกระทั่งนางหลับอยู่ในความปั่นป่วน นางรู้สึกเดียวดายช่วยตัวเองไม่ได้ นางจึงตระหนักว่าการได้มีความสุขได้หัวเราะอยู่ใกล้ๆ เขา ได้อยู่ใกล้เขานั่นคือคุณค่าของความสุข
“ข้ากลัวว่าจะสูญเสียเจ้าไปจริงๆ ข้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีเจ้า แม่สาวหิมะ! เจ้าทำให้ข้ากลัวแทบตาย!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นจำได้ว่านางหายตัวไปอย่างลึกลับ และในเวลานั้นเขากลัวจริงๆ นางนอนอย่างสงบใกล้ๆ เขา แต่เมื่อนางฟื้นตื่นขึ้นมา เขากลับพบว่านางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้แทบเป็นบ้าในเวลานั้น
“ไม่, ต่อไปข้าจะไม่หนีหายไปไหนอีกแน่นอน และข้าจะไม่ทำให้เจ้าห่วงใยอีกต่อไป!” นางยกมือเรียบลื่นดุจหยกของนางลูบหู แก้ม คิ้วของเขาเป็นครั้งแรก และนางรู้สึกเหมือนว่ามองไม่เห็น แม้ว่าลักษณะนี้จะประทับอยู่ในใจนางแล้วก็ตาม ในส่วนลึกที่สุดของวิญญาณนางไม่สามารถลบภาพเขาออกไปได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่รู้สึกพอ ตัวร้ายผู้นี้คือคนที่จะต้องผูกติดร่วมสุขกับนางไปทั้งชีวิต เขาเป็นคนที่อยู่กับนางด้วยกันตั้งแต่อดีตปัจจุบันและในอนาคต พวกเขามีเป้าหมายจะร่วมแบ่งปันทุกข์สุขด้วยกันตลอดไป
นางมองดูเขา ขณะที่เขาเองก็มองดูนาง
ในขณะนี้
พวกเขาลืมโลกทั้งหมด
ในสายตาของพวกเขามีเพียงกันและกัน
ลืมที่จะจูบเขาเป็นครั้งแรก แต่นางรู้สึกว่าคราวนี้นางไม่เคยคิดถึงเขาขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยอยากจูบเขามากขนาดนี้มาก่อน
แทบจะอดใจรอไม่ไหว และนางจูบริมฝีปากเขาสัมผัสนี้แสดงออกถึงความรักหมดหัวใจ ในช่วงเวลาที่จูบเขา นางรู้สึกว่านางคิดถึงเขาและความสุขที่ได้จากการปลดปล่อยอารมณ์ซึ่งสะสมเต็มอยู่ในจิตวิญญาณ นางรู้สึกมีความสุขล้นหลาม รู้แต่เพียงว่าจูบเขาอย่างแนบแน่น
นางเหมือนเห็นภาพลวงตาว่าอยู่ในโลกที่ท้องฟ้าสดใสมีแต่เพียงเขากับนาง
ในช่วงเวลาของการกลับมาพบกัน นางไม่คิดถึงเรื่องต่อสู้อีกต่อไป
ไม่สนใจว่าจะมีศัตรูอยู่โดยรอบ
นาง
แค่ต้องการจูบเขา
เมื่อจูบกันอย่างดูดดื่ม ทั้งเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียไม่มีอะไรพูด ไม่ส่งเสียงอยู่เป็นเวลานาน
ตั่วตั่วมองดูอย่างอิจฉา สาวน้อยยิ้มมุมปาก เด็กสาวยักษ์เสี่ยวเสี่ยวเอินประหลาดใจ นางได้รับคำแนะนำจากทุกคนในโลกคัมภีร์ให้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพราะร่างกายที่มีขนาดใหญ่โต ในการดำเนินชีวิตของนางแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะมีส่วนร่วมในการดำเนินชีวิตทั้งหมด และยากจะเห็นว่าเย่ว์หยางจูบกับใคร ตามความรู้ความเข้าใจของนาง อาจกล่าวได้ว่านางได้รับความรู้ใหม่ ปรากฏว่าการจูบเป็นเช่นนี้เอง ดูเหมือนจะน่าสนุก!
เด็กสาวไตตันฝันว่าสักวันนางจะสูงเท่าพี่ชายนาง หรือไม่ก็พี่ชายนางจะสูงเท่านาง
ถ้าเป็นอย่างนั้น นางจะสามารถอยู่กับเขาได้อย่างสบาย
ทำเหมือนอย่างที่ทุกคนทำได้
ตัวอย่างเช่น จูบเหมือนอย่างนี้!
ร่างเงาดำหลุดออกมาจากน้ำแข็งได้ตรงนั้นนั่นเอง ใบหน้านางเขียวคล้ำดูไม่ชัดเจน แต่ดวงตามีประกายสีเขียวไม่ว่าอิจฉาหรือประหลาดใจกันแน่ แต่นั่นเป็นความเกลียดชนิดหนึ่ง เป็นความเกลียดแทบบ้าคลั่ง เกลียดสิ่งที่ดีงาม และความสุข และมีความบ้าคลั่งต้องการทำลายทุกอย่างที่นางเกลียด
เงาดำใช้สายตาสีเขียวจ้องมองเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียและสาปแช่งสบถด่าการจูบกันของสองคนนั้นที่ไม่สมเหตุสมผล
ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อครู่เป็นพลังน้ำแข็งไร้เทียมทานและพลังสายฟ้าสั่นสะท้านวิญญาณที่ทำให้นางกลัว
เกรงว่าร่างเงาดำคงโถมเข้าเข่นฆ่าสังหารแน่นอน
เทพปีศาจเว่ยกวงที่มีระดับพลังเหนือกว่า เขาดูแคลนทุกอย่างในโลก
ขณะมองดูเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียจูบกัน เขาไม่ได้อิจฉาหรือประหลาดใจ ไม่ลังเล ไม่หวั่นไหวในอารมณ์รักของมนุษย์ เขาไม่มีการแสดงออกถึงความรักที่มีต่อมนุษย์ นับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ระดับเทพ สำหรับเทพปีศาจเว่ยกวง อารมณ์อย่างมนุษย์ทั้งหมดคือจุดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัว ความรักของมิตรสหายเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง
ตราบเท่าที่เทพมีอารมณ์แบบมนุษย์ อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถยืนหยัดเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายแน่นอน
ในชีวิตที่ยืนยาวนานของเขา เขาไม่เคยเห็นศัตรูที่ทรงพลังคนใดมีอารมณ์แบบมนุษย์... สำหรับเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียที่ยังมีอารมณ์ความรักความพลัดพรากในหัวใจ อารมณ์แบบนั้นจะทำให้เขาเป็นฝ่ายชนะ
ในเมื่อศัตรูมีจุดอ่อนใหญ่อย่างนั้น การสู้ครั้งต่อไปย่อมเป็นอันปรากฏผลที่แน่นอนแล้ว
ไม่ว่าศัตรูจะทรงพลังเพียงไหน
ตราบเท่าที่ยังเป็นมนุษย์ อารมณ์แบบมนุษย์ นั่นคือจุดอ่อน
อย่างนั้นชัยชนะในการสู้รบจะตกเป็นของเขา ผู้ได้รับเลื่อนขึ้นเป็นเทพไม่ควรมีจุดอ่อน
เทพคือผู้ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ ไม่มีความอ่อนแอของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง คือชีวิตประเภทเดียวที่สมบูรณ์เกินสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่มีความปรารถนาอย่างสัตว์ป่ากระหายเลือด ไม่มีการเข่นฆ่าอย่างชั่วร้าย และไม่มีอารมณ์สับสนของมนุษย์ “มนุษย์ผู้น่าสงสารถูกความรักครอบงำ ชีวิตของมนุษย์เจ้าก็เหมือนแสงเทียน สว่างเหมือนหิ่งห้อย พอเปลวชีวิตมอดไหม้ดับสูญก็เหลือนเถ้าธุลีและท้ายที่สุดก็ไม่เหลืออะไร... ในสายธารแห่งชีวิตที่ยืดยาว เจ้าไม่คู่ควรพูดถึงความนิรันดร์ สิ่งนั้นเป็นของเราเหล่านักสู้ชั้นเทพเท่านั้น” เทพปีศาจเว่ยกวงยกเท้าข้างหนึ่งและพยายามย่ำใส่เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียที่กำลังกอดกันและกัน
โฮก....
มังกรพิรุณโผล่ขึ้นมาด้านบนทันที
เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียดูเหมือนไม่รู้ว่าพวกเขายังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม
ในขณะที่พวกเขาจูบกันและกันพวกเขาลืมเรื่องอันตราย ความเป็นความตายรอบด้าน ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับโลก....
9 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
จูบนานไปแล้ว
สฺดจัด😊😊😊😊😊😍😍😍
มาเพื่อขูบเท่สนั้นตอนนี้5555
จูบลาโลก?
เมียหลวงมา พลังใจเต็มเปี่ยมแล้ว
เทพรอโดนทุบได้เลย
55555555555
#ร้ายกาจนักนะ 🤣🤣🤣
จูบแล้วต่อเนื่องเลยไหม
แสดงความคิดเห็น