วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1233 คุณภาพคนของเด็กจากโลกอื่น!

 

ตอนที่  1233  คุณภาพคนของเด็กจากโลกอื่น!

 “พวกเจ้าไม่ได้พบกันมาเป็นเวลานาน ก็ควรจะใช้เวลาในโลกของคู่รักให้มากขึ้น  แต่ตอนนี้สายมากแล้ว  แล้วข้าจะชดเชยให้น้องอู๋เสียในครั้งต่อไป!  นางพญาเฟ่ยเหวินหลียิ้มขณะมองดูเสวี่ยอู๋เสียและเรียกนางว่าน้องสร้างความสนิทสนม ทั้งยังเอาสมบัติสองสามชิ้นที่นางเก็บมาจากในผนึกมอบให้เสวี่ยอู๋เสียและตั่วตั่ว

 

อย่างไรก็ตามขณะที่คนอื่นมองไม่เห็นนางใช้นิ้วหยิกเย่ว์หยาง

จูบเมื่อครู่นี้ชัดเจนบาดตามาก.. นางพญาเฟ่ยเหวินหลีใช้นิ้วหยกจนเย่ว์หยางเจ็บปวดแทบทนไม่ไหว

ว่ากันตามตรง คงไม่มีใครเหมือนนางพญาเฟ่ยเหวินหลีที่ลงมือหยอกเขาได้ขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงหญิงงามอู๋เหินผู้อ่อนโยนนุ่มนวลเหมือนน้ำ และอี้หนานผู้น่ารัก องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแม่เสือสาวผู้ชอบตะโกนใส่เขาทำให้เย่ว์หยางตกใจ แต่ก็ยังไม่แสดงท่าทีลงมือที่ทรงพลังขนาดนี้มาก่อน  จนกระทั่งบัดนี้ เขาถึงได้พบข้อเท็จจริงในที่สุดเวลานั้นว่านางพญาปีศาจอสรพิษผู้พิชิตไม่เพียงแต่น่ากลัวเท่านั้นยังทรงพลังยิ่งกว่าสตรีใดทั้งหมด

ถ้าไม่บังคับให้เย่ว์หยางรู้สึกเจ็บตัวขึ้นบ้างเล็กน้อย  คาดว่าหมาป่าตัวนี้คงถือโอกาสคุกคามใหญ่แน่

ตั่วตั่วกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ที่รู้สึกตัวแล้วชื่นชมสมบัติที่นางพญผู้พิชิตมอบให้  และไม่พบว่านางพญาต้องใช้พลังอะไรบังคับแต่อย่างใด  เด็กสาวยักษ์มีจิตใจที่บริสุทธิ์ค่อนข้างซื่อ นางไม่รู้ว่าอิจฉาคืออะไร

เมื่อเสวี่ยอู๋เสียฟื้นคืนสติและเข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์เหมือนกับสรวงสวรรค์หลังจากที่หลับมาอย่างยาวนาน นางได้ฝึกฝนนางได้รับพลังเทพอีกบางส่วนจากสตรีที่นางไม่รู้จัก

เรื่องหึงก็มีอยู่บ้าง

เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกว่าถ้านางเห็นเจ้าเด็กนี่โอบกอดคนอื่นโดยไม่สนใจนางอย่างสิ้นเชิง นางเองก็คงอารมณ์เสียมาก

อย่างไรก็ตามเขาโมโหตัวเองและนั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ ตามมุมมองของตัวเขาเอง เจ้าเด็กร้ายกาจผู้นี้ไม่มองว่าตนเองทำอะไรผิด และเขายังทำถูกต้อง

 “อู๋เสียขอบคุณพี่ใหญ่”  เสวี่ยอู๋เสียยิ้มหวาน  หลังจากรับของวิเศษนางขอบคุณนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอย่างสุภาพ จากนั้นจูบหน้าผากเย่ว์หยางเบาๆ เป็นการให้รางวัลเขา “ตอนแรกอู๋เสียอยากคุยกับพี่ใหญ่สักชั่วเวลาหนึ่ง แต่เวลานี้สายมากแล้ว ไว้เป็นโอกาสหน้าดีกว่า ส่วนตัวร้ายปล่อยให้เขาอยู่ต่อที่นี่เพื่อช่วยพี่ใหญ่  จะอย่างไรข้าไม่รีบร้อน!

จุดสำคัญของคำพูดของสาวหิมะแฝงความหมายว่า ไม่กังวลแม้แต่น้อย ซึ่งเมื่อนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้ยินก็รู้สึกเหมือนว่านางหึงไปเอง

ในฐานะที่เป็นนางพญา และยังเป็นพี่ใหญ่ นางมิอาจมีใจคับแคบได้

นางพญาอสรพิษยิ้มให้สาวหิมะ

ในทางกลับกันสาวหิมะก็ยิ้มกลับให้นางเช่นกัน

ด้วยวิธีนี้ทั้งสองสิ้นสุดการเผชิญหน้าระหว่างกันเป็นครั้งแรก ในเวลานี้พี่ใหญ่ก็ไม่ได้ชนะ น้องสาวน้อยก็ไม่ได้แพ้

ก่อนจากไป เสวี่ยอู๋เสียกระซิบกับเย่ว์หยางเป็นความลับแต่ก็เพียงพอให้อีกฝ่ายได้ยิน  “จำไว้นะกลับมาเร็วๆ  ผู้อื่นรออยู่ที่บ้าน มีบางอย่างจะให้เจ้าแปลกใจ!

เย่ว์หยางพยักเหมือนหุ่นยนต์ เขาไม่กล้าฝันหวานภายใต้การจับตามองของนางพญา

เขาแทบจะไม่ต้องพูดเลย แม่สาวน้อย เจ้าอย่าทำให้เรื่องยุ่งอีก

ขืนตอบโต้อะไรไปตอนนี้อาจตายโดยไม่มีที่กลบฝัง  ตอนนี้เขามีไม้ตายเพิ่มขึ้น นี่นางเกรงว่าเขายังถูกนางพญาทำโทษไม่พอหรือ  เขาตระหนักได้ว่าสาวๆ ในฮาเร็มของเขากำลังสู้แข่งขันกัน ความจริงก็คือพลังพวกนางร้ายยิ่งกว่าจ้าวสุริยา จีอู๋ลี่ บุรุษลึกลับ หรือกระทั่งเทพปีศาจเว่ยกวง ฯลฯ  อย่างน้อยเทพปีศาจเว่ยกวงและพวกคนเหล่านี้ก็มีความน่ากลัวแสดงให้เห็น  ทำไมนางพญาถึงไม่หึงตั่วตั่ว สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์และเสี่ยวเสี่ยวเอินบ้าง?  หวังว่าคงไม่ใช่เพราะจูบที่ดื่มด่ำเมื่อครู่นี้ แต่เป็นการแข่งขันชิงตำแหน่งพี่ใหญ่

นางพญาอสรพิษจะไม่เรียกคนอื่นเป็นพี่ใหญ่แน่นอน

อย่างไรก็ตามตำแหน่งนี้ไม่สามารถแข่งขันได้ง่ายดาย ต่อจากสาวหิมะยังมีคู่แข่งอย่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ยังรวมทั้งนางเซียนหงส์ฟ้าด้วยเช่นกัน แม้ว่านางพญาจะรับตำแหน่งพี่ใหญ่ นางสมควรได้รับจริงๆ นางอาจถูกอิจฉาขนานใหญ่!

รอจนเย่ว์หยางนึกถึงชั้นนี้แล้ว

นางพญาเฟ่ยเหวินหลีส่งสาวหิมะกลับไปยังโลกคัมภีร์

นางยิ้มให้เย่ว์หยางและลูบตัวเขาและนางบิดตัวไปมา  “เจ้ายังจำรสจูบที่ยอดเยี่ยมได้หรือเปล่า?”

เย่ว์หยางรู้ว่าถ้าเขาพูดยอมรับ อาจจะต้องเจ็บตัวจากอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์ทันที  เขารีบหัวเราะและกล่าว “ความจริงข้ากำลังคิดถึงขุนเขาเหนือขุนเขาและฟ้าเหนือฟ้า ถ้าทั้งสองที่เชื่อมโยงกับหอคอยเหนือหอคอย ก็เห็นได้ชัดว่ามีทางเชื่อมผ่านพิเศษไปยังหุบเขามนุษย์ แต่ความจริงแล้วไม่เหมือนกับหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์ นั่นไม่ใช่ด่านที่แปด ด่านที่เก้าใช่ไหม?  เป็นด่านหลอกปลอมทั้งหมด  อย่างนั้น ด่านที่แปดและด่านที่เก้าแท้จริงแล้ว อยู่ที่ไหน?”

 “อยากจะร้องไห้  แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์นั้นปลอม  กฎสวรรค์ของหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์นั้นต่างกัน  ไม่มีเบาะแสแม้แต่น้อย  มิฉะนั้นเจ้าคิดว่าข้าว่างนักหรือ  วิ่งไปที่ด่านที่เก้าหุบเขาสวรรค์แล้วก็กลับ?”  นางพญาอสรพิษชายตามองยั่วยวนเขา

 “อย่างนั้นท่านปล่อยข้าหรือ? แค่ต้องหารหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์ที่แท้จริงหรือ?”  เย่ว์หยางสับสน

 “มีเพียงคนเดียวในโลกที่สามารถผ่านหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์ได้ นั่นคือผู้ครองมิติดินแดนฝึกฝน เจ้าของคัมภีร์เทพ”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีชี้ระหว่างคิ้วเย่ว์หยาง  “ตัวโง่น้อย, เจ้าต้องการคำใบ้เพิ่มหรือ?  คนผู้นั้นก็คือเจ้า!  มีแต่เจ้าที่อยู่ภายใต้การแนะนำสามสาวเทวทูตพี่น้องผู้สอนหลักการทำลาย สร้าง และความนิรันดร, ข้าและผู้ฝึกก่อนหน้านั้นไม่มีโอกาสเช่นนั้น.. บางทีพวกนางคิดว่ามีแต่เจ้าเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการสร้าง ทำลาย และความนิรันดร์!  สิ่งที่เราเข้าใจ แม้ว่าจะเป็นการสร้าง ทำลาย และความนิรันดร์ก็เป็นเพียงความเข้าใจด้านเดียวและผิวเผิน  อย่างไรก็ตามเจ้าได้ตระหนักรู้แจ้งถึงขอบเขตดินแดนที่ลึกซึ้งกว่านั้นแตกต่างกัน  นี่คือการรู้แจ้งที่เจ้านำมาให้ข้า ในภายหลังข้ายังตระหนักว่ามีขอบเขตที่ลึกซึ้งมากกว่าในเรื่องสร้าง ทำลาย และความนิรันดร์   ข้าจึงแสดงพลังของข้าออกมาได้ มิฉะนั้นข้าจะเข้าใจกฎสวรรค์ กฎโลกให้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?  ไม่อย่างนั้นจะเป็นเรื่องง่ายหรือที่จะเอาชนะเทพปีศาจเว่ยกวงและผนึกเขาไว้ในโลกใบเล็ก”

 “เหรอ? ข้าจำได้ว่าพวกนางบอกข้าว่า ข้าเป็นคนโง่งม....”  เย่ว์หยางได้ยินเช่นนั้นรู้สึกงงเล็กน้อย

 “โง่ก็ยังนับว่าไม่เลว  แค่โง่เล็กน้อย”  นางพญาอสรพิษปิดปากหัวเราะ

 “แล้วตอนนี้ข้าควรจะทำอย่างไรดี?  ย้อนกลับไปยังโลกไร้ที่สิ้นสุด ค้นหาสามเทวทูตสาวและตำหนิโทษพวกนางดีหรือไม่? หวดก้นพวกนางและชิงคัมภีร์เทพมาจากมือพวกนาง?”  เย่ว์หยางเกี่ยวกับการฝึกสั่งสอนสาวน้อย เขาอยากจะฝึกสาวน้อยผู้ฉลาด เขาลืมคำพูดไปแล้ว แต่ถ้าใครพูดเขาคงเห็นด้วยเต็มที่

 “นี่เป็นความคิดที่ดีจริงๆ!  นางพญาพูดว่านางสนับสนุนเย่ว์หยาง

 “ช่างเถอะ  คิดดูแล้วปล่อยไว้ดีกว่า”  เย่ว์หยางไม่โง่ ถ้าเขาสามารถตีก้นสามสาวเทวทูตได้ มังกรปีศาจคงจะต้องนอนไม่หลับในโลกไร้ที่สิ้นสุดเป็นเวลานานถึงล้านปีเป็นแน่

สามสาวแม้ว่าไม่รู้ว่ามีพลังนักสู้ระดับใด แต่พวกนางตอแยไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน

เขาไม่สามารถหวดก้นพวกนางได้

นางพญาอสรพิษเรียกเสี่ยวเหวินหลีออกมาก่อนและจูบราตรีสวัสดิ์ส่งธิดาสุดที่รักเข้านอน  อย่างน้อยเด็กน้อยจะได้ไม่ต้องปรากฏตัวออกมากระพริบตาโตส่งผลต่ออารมณ์ดื่มด่ำความรักของนาง  นางพญาอสรพิษพร้อมมอบทุกอย่างให้เย่ว์หยาง แต่เขาหวั่นเล็กน้อย  ที่สำคัญนางพญาชอบใช้แส้หวด หรือใช้เทียนลนหรือเปล่า?  ถ้าเป็นอย่างนั้น อนาคตรักดื่มด่ำของเขาคงจบลงแน่นอน!

เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อพรั่งพรู ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีพ้นเงื้อมมือนางพญาได้ เขาคงทาน้ำมันที่เท้าโกยหนีไปแล้ว

ช่างเถอะ

ไม่เคยมีคำกล่าวว่า หากชีวิตท่านต้องโดนขืนใจโดยมิอาจขัดขืนได้  ก็แค่ปิดตาและทำใจเพลิดเพลินไปกับมัน ถูกนางพญาขืนใจคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่เลว  และตัวเขาเองก็มิใช่บุปผาบริสุทธิ์ มิต้องให้นางทะนุถนอมมากเกินไป

พอคิดในใจได้ดังนั้นเย่ว์หยางรู้สึกกล้าขึ้นมาทันที และแสดงความกล้าหาญของผู้ชำนาญสตรี ; รุกข้ามา ข้าจะรุกเจ้ากลับ

 “เจ้าจะทำอะไร ทำไมถึงยิ้มมีเลศนัยอย่างนั้น?”  นางพญารู้สึกพูดไม่ออก

 “หือ?”  เด็กหนุ่มจากโลกอื่นอึ้ง นางไม่คิดจะเป็นฝ่ายรุกเขาหรือ?

 “เจ้าจะรีบร้อนไปไหน?  ก่อนจะพิชิตตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เจ้าจะปักธงประกาศชัยชนะต่อหน้าข้านางพญาหรือ  อย่าเพิ่งคิดมากอย่างนั้น พิธีแต่งงานกับข้าจะเกิดขึ้นหลังจากปราบตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!  โชคดีที่นางพูดถึงแค่พิชิตตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ถ้าให้พิชิตแดนสวรรค์ เย่ว์หยางคงร้องไห้แน่  เพราะพิชิตแดนสวรรค์นั้นยากเกินไป  แดนสวรรค์มีปีศาจเฒ่ามากมายที่อยู่ในดินแดนสวรรค์บน  ใครจะอดทนไปพิชิตแดนสวรรค์บนได้เล่า?  พิชิตนางพญาให้เร็วยังพอเป็นไปได้ รอพิชิตตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะช้าเกินไปไหม?

 “แต่งงานสามารถเลื่อนไปก่อนได้.. ไปทำเรื่องที่สำคัญก่อนไม่ดีกว่าหรือ? อย่าเพิ่งหงุดหงิด เรามีบางอย่างที่ต้องพูดต้องปรึกษา!  เย่ว์หยางไม่รู้ว่ากี่อีกปีจึงจะพิชิตตำหนักกลางได้ เขารู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือที่จะรอเวลานั้น นอกจากนี้ เดี๋ยวนี้เป็นยุคใหม่ มีแนวคิดใหม่ กระแสเวลาเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้มีสัมพันธ์ก่อนแต่งงานเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

 “จูบแรก เจ้าเพิ่งให้น้องอู๋เสียไปก่อนนั้น และจากนั้นเจ้าค่อยคิดถึงเรานางพญาใช่ไหม” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีรู้ว่าถ้านางต้องการคุมอารมณ์หมาป่าได้ นางจะไม่ควบคุมมากไป นั่นจะเป็นการทำลายอารมณ์ของเขา

แน่นอนว่านี่คือเหตุผลที่นางอยากลิ้มลองจูบที่ดูดดื่ม

บางทีผู้อื่นอาจไม่ถนัด

ดีเหมือนกัน

ตัวร้ายนี่กล่าวได้ว่ามีทักษะ ไม่สิ ต้องบอกว่าระดับเชี่ยวชาญถึงจะถูก

ตราบเท่าที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีหยิบยกข้อกำหนดที่เข้มงวดมาขอร้องเช่นนั้น เย่ว์หยางที่เป็นผู้เชี่ยวชาญก็ต้องพยายามทำให้สำเร็จ ส่วนกรงเล็บหมาป่าจะเอื้อมเข้าในสำรวจภายในได้หรือไม่นั้นยากจะพูดได้จริงๆ

แต่ถ้าตามนิสัยของเด็กหนุ่มข้ามโลก เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไรแปลก



7 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคาบบบ

นักอ่านนิยายเรื่อยเปื่อย กล่าวว่า...

อึ่ม อึ่ม

CHANTANA กล่าวว่า...

เอาฯแล้วติดตามตอนต่อไป

Lazykuma กล่าวว่า...

ตอนหน้าจะได้กินหรือกลับบ้านไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าเมียหลวงกันนะ555

blakaros กล่าวว่า...

นึกถึงตอนแต่งงาน แล้วนางพญาโผล่มาเป็นเมียหลวง


คนมาร่วมงานคงมีหัวใจวายกันมั่งละ

Unknown กล่าวว่า...

ชอบมา บอกเลยครับ 55555

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ปวดกะบาลกับตำแหน่งเมียหลวงแน่นวลลลลล 🤣🤣🤣🤣🤣

แสดงความคิดเห็น