วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1237 ในท่ามกลางเสียงหัวเราะ

 

ตอนที่  1237  ในท่ามกลางเสียงหัวเราะ

ธงเทพเพลิงทอง

 

เมื่อคุณชายหลี่หมิงใช้งานของวิเศษชนิดนี้  แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความภาคภูมิใจในดวงตาของเขาไม่สามารถปกปิดได้

ด้วยการร่วมผสานกับเวทีทองในการต่อสู้ที่เด็ดขาด  คุณชายหลี่หมิงไม่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันได้จริงๆ   บางทีอาจมีแต่จงหัวเจ้าตำหนักแสง หรือจีอู๋ลี่ผู้หยิ่งยโสซึ่งหลี่หมิงไม่ได้วางแผนว่าจะท้าทายเขาในตอนนี้ ถ้าจะพูดถึงการทำงานร่วมกันของของวิเศษทั้งสองอย่างนี้ ต้องบอกว่าน่ากลัว

“จำกัด”  คุณชายหลี่หมิงใช้นิ้วแตะร่างเจ้าอ้วนไห่เบาๆ

“อ๋า...แย่แล้ว...”  เจ้าอ้วนไห่เหมือนกับว่าได้เห็นฉากภาพนรกในตำนาน  ดังนั้นเขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ในที่สุด ได้แต่ทรุดตัวลงนอนกับเวทีเหมือนกับหนอนตัวหนึ่ง

“ระวังแสงของธงนั้น!  องค์ชายเทียนหลัวเตือนเย่คงและคนอื่นอย่างรวดเร็ว  เขาพบว่าเจ้าอ้วนไห่ถูกแสงธงเทพเพลิงทองโจมตีใส่ ทำให้ขาดสติและล้มลงกับพื้น  น่าเสียดายที่การเตือนของเขาช้าไปเล็กน้อย หลังจากเจ้าอ้วนไห่โดนแสงธงฉายใส่ พี่น้องตระกูลหลี่ก็โดนเช่นกัน พวกเขากุมศีรษะ ความรู้สึกในเหตุและผลแทบจะสูญสิ้น  ในตอนเริ่มต้นจำนวนคนก็น้อยอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังหลักถูกลิดรอนไปสามคน สถานการณ์พวกเขาแย่ลงในทันที

“เปล่าประโยชน์  เจ้าไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจธงเทพเพลิงทองก็ได้  ตราบใดที่เป้าถูกแสงรัศมี เจ้าจะขาดสติหรือหลงลืมได้”  คุณชายหลี่หมิงรู้สึกว่าในการเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอย่างเจ้าอ้วนไห่ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ธงเทพเพลิงทองเลย

แต่ในฐานะบุตรของตงฟาง เขาจะไม่ยอมให้ตนเองถูกศัตรูพลิกสถานการณ์ได้

ไม่ว่าศัตรูจะอ่อนแอเพียงใด  เขาตัดสินใจโจมตีศัตรูอย่างรุนแรงเด็ดขาด

จะไม่ยอมให้มีการผิดพลาด

นี่คือสิ่งที่บิดาเขาเป็น และบิดาก็ต้องการจากตัวเขา

ไม่ต้องพูดถึงเย่คง  คู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัว  คู่ต่อสู้ทั้งสาม เขาไม่อาจออมมือให้ได้  ถ้ามีเวลาเติบโตมากพอ คุณชายหลี่หมิงเชื่อว่าจะไม่มีใครที่ด้อยกว่าเขาแน่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสวี่ยทันหลางซึ่งมีพลังมากที่สุด เป็นศัตรูที่ใหญ่ในชีวิตของเขา

เขาต้องกำจัดเด็กหนุ่มคนนี้ออกไปก่อนที่เขาจะได้เติบโตขึ้น  มิฉะนั้นจะเกิดภัยพิบัติที่ไม่สิ้นสุดในอนาคต

นักรบของหอทงเทียนเติบโตอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับการกำเนิดของเย่ว์ไตตัน  เย่คง เสวี่ยทันหลาง และคนอื่นๆ มีกระบวนเติบโตอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ปีจากตั้งแต่เป็นมดแมลงน้อย จนถึงวันนี้ก็สามารถท้าทายตัวเขาได้  ถ้าหลายปีต่อมาจะเป็นเช่นไร?

ตาย!  บัณฑิตวัยกลางคนโบกมือ อสูรปราณฟ้าชั้นทองที่ด้านหลังกรูกันเข้าหาเย่คงและพวกอย่างดุดันปานฟ้าถล่มและแผ่นดินทลาย

“อย่าฆ่าพวกเขาง่ายๆ เจ้าต้องไว้ชีวิตพวกเขา  เด็กหนุ่มเหล่านี้มีคุณสมบัติดีพอสร้างเป็นนักรบผีดิบคุณภาพดีที่สุด!  ชายชราชุดดำจ้องมองเสวี่ยทันหลางบุรุษหนุ่มน้ำแข็งที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นเป้าหมายแรกของเขา

“ไปให้พ้น!” เสวี่ยทันหลางซึ่งสู้ด้วยอสูรพิทักษ์แช่แข็งอสูรหุ่นเชิดข้างหน้าและมันกระเด็นออกไปราวกับดาวตก

อสูรหุ่นแช่แข็งพอกระทบกับพื้นเวทีทอง น้ำแข็งก็แตกสลายไป

แต่มันไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย

ชายชราชุดดำไม่จำเป็นต้องช่วยละลายน้ำแข็ง  ร่างแช่งแข็งถูกไฟจากธงเทพเพลิงทองท่วมทั้งตัว น้ำแข็งละลายหายไปในพริบตา อาการบาดเจ็บในช่วงเวลาไม่ถึงสิบวินาทียังคงอยู่

อสูรหุ่นระดับทองถูกเสวี่ยทันหลางหรือเย่คงทำลายหรือก็ไม่ก็ทุบจนทรุดลง

อย่างไรก็ตาม ภายใต้รัศมีธงเทพเพลิงทอง ไม่มีอสูรตัวใดตายอย่างแท้จริง

ทั้งหมดลุกขึ้นอีกครั้ง

ฟื้นคืนสภาพเหมือนเมื่อก่อน

“ธงนี้ไม่เพียงแต่มีผลต่อการทำลายเจตจำนงของศัตรูเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถพิเศษในการฟื้นคืนสภาพศพอสูรศึกของเจ้านี่เองทำให้มีการเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง!  เมื่อองค์ชายเทียนหลัวเห็น เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ  เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ เพราะอสูรศึกของศัตรูสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกไม่ว่าพวกมันจะล้มลงสักกี่ครั้งก็ตาม ในที่สุดพวกเขาจะตายลงเพราะความเหนื่อยล้าอยู่ในเวทีทองนี้เอง

“ไม่ใช่ศพกลับมาเกิดใหม่” คุณชายหลี่หมิงหัวเราะ  “เป็นเพียงอำนาจฟื้นฟูด้วยพลังเทพ  ไม่ใช่การดำรงคงอยู่ถาวร  หากว่าพวกเจ้ายืนหยัดได้สามวันสามคืน  บางทีพลังของธงเทพเพลิงทองอาจจะหมดไปก็ได้ ฮ่าฮ่า”

“สามวันสามคืน?”  เย่คงขมวดคิ้ว  การต่อสู้อย่างนี้อย่าว่าแต่สามวันสามคืนเลย  ต่อให้เป็นสามสิบนาทีก็ยังเป็นไปไม่ได้

การโจมตีก่อนหน้านี้กินพลังของทุกคนไปครึ่งหนึ่งแล้ว

ถ้าเขาโจมตีต่ออีก เกรงว่าสถานการณ์จะแย่ขึ้นไปเรื่อยๆ

การตั้งรับ เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับชัยชนะสุดท้าย

โอกาสเพียงอย่างเดียวก็คือบุกเข้าต่อสู้ศัตรู...  แต่ผลที่ตามมาของการกระทำเช่นนี้หากทำไม่สำเร็จ ก็จะถูกกำลังกวาดล้างได้  ในขณะที่เย่คงขมวดคิ้ว เสวี่ยทันหลางยืนขึ้นและเขาพูดอย่างเยือกเย็น  “ข้าจะไปจัดการธงเอง!

คุณชายหลี่หมิงเหมือนจะไม่ได้ยินประโยคนี้ เขายังคงมองดูในสนามรบข้างหน้าเขา มองดูเสวี่ยทันหลาง เย่คงและองค์ชายเทียนหลัว แม้แต่สีหน้าที่ว้าวุ่นของพี่น้องตระกูลหลี่ก็ไม่เลว  มีผู้เดียวที่ถูกมองข้ามก็คือเจ้าอ้วนไห่ที่เหมือนกับหนอนอยู่บนพื้น  คนประเภทนี้เขารู้สึกว่าเสียเวลามองซ้ำ

เย่คงใช้พลังปกป้องทางซ้าย

องค์ชายเทียนหลัวและปีศาจเพลิงฟ้าป้องกันทางด้านขวา

เสวี่ยทันหลางซึ่งผสานเป็นหนึ่งเดียวกับพายุยักษ์  พลังสายฟ้าอยู่ในใจกลางพายุน้ำแข็งที่เป็นกระแสหมุนวน  เขาแทบจะฉีกมิติทั่วทั้งพื้นที่และบีบพื้นที่โจมตีของหุ่นอสูรชั้นทองหลายสิบตัว  รวมพลังไฟฟ้านับไม่ถ้วนผนึกพวกมันออกไป

เป้าหมายคือมุ่งตรงไปที่คุณชายหลี่หมิงที่ยืนอยู่ในใจกลางเวทีทอง

บัณฑิตวัยกลางคนที่ผสานร่างเข้ากับยักษ์ทองรอโอกาสอยู่นานแล้ว  ไม่รู้ว่าเขาเลื่อนตัวหลบฝ่ามือสายฟ้าที่หนักไปอยู่ด้านข้างเสวี่ยทันหลางตั้งแต่เมื่อใดและใช้มือคว้าไหล่ของบุรุษหนุ่มน้ำแข็ง

เล็บทั้งสิบ

เปลี่ยนเป็นงูหลามพิษทันทีและกัดลึกลงไปที่ไหล่ซ้ายและแขนซ้ายเสวี่ยทันหลาง

ชายชราชุดคลุมดำเร็วกว่าเขา เขารวมร่างกับปีศาจกระดูกยักษ์โดยที่เขาวางกับดักกระดูกชิ้นหนึ่งไว้บนพื้นรอให้เสวี่ยทันหลางเดินเข้ามาหาแล้วจึงสั่งให้มันทำงาน  ขณะเดียวกันเขาเหวี่ยงกระดูกท่อนใหญ่ซึ่งเป็นส่วนขาของมังกรปีศาจไปที่ด้านหลังเสวี่ยทันหลางซึ่งไม่มีใครคุ้มกัน เท้าของมังกรกระดูกปีกศาจบดขยี้จากด้านหลังศีรษะของเสวี่ยทันหลางอย่างดุร้าย

ที่ตามมาติดๆ ก็คือซุ่นเทียนแห่งหอทงเทียนที่ไม่รู้ว่าคุณชายหลี่หมิงยกระดับพลังให้เขาอีกมากมายเพียงไหน ซุ่นเทียนมีอสูรจักรพรรดิทองที่มีพลังน่ากลัวนัก

มันบดบังเข้าไปในส่วนลึกของใจเสวี่ยทันหลาง ทำให้ภาพถูกบดบัง

นอกจากแสงสีทองแล้วไม่มีภาพอื่นปรากฏ

ควบคู่กับกระดูกขามังกรปีศาจ ซุ่นเทียนมีอสูรพิทักษ์คอยช่วยเกร็งกระแทกหมัดปานภูผาถล่มใส่หน้าผากเสวี่ยทันหลาง  หมัดนี้ อย่าว่าแต่เสวี่ยทันหลางไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากซุ่นเทียนโจมตีในขณะที่เสวี่ยทันหลางไม่ได้ป้องกันตัว  ต่อให้ป้องกันตัวได้ทัน ด้วยพลังโจมตีนี้และพลังรุกเต็มที่ที่แข็งแกร่งเกรงว่ายากจะต่อต้านพลังโจมตีที่หนักหน่วงของซุ่นเทียนได้

“ไม่!” เย่คงตาแดง เขาต้องการเข้าไปช่วยเหลือ แต่เขาไปไม่ได้  อสูรระดับทองผนึกพลังกัน และกัดเขาไม่ให้เข้าไปช่วยอยู่ดี

“ไสหัวไป...” องค์ชายเทียนหลัวตะลุยผ่านอสูรระดับทอง  แต่เมื่อเขาบินอยู่ในอากาศ มังกรกระดูกปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามรบไม่ได้โจมตี

ลิงศิลายักษ์พลังปราณฟ้าระดับหกอีกตัวหนึ่งรอคอยอยู่ที่ขอบเวทีทอง

องค์ชายเทียนหลัวไม่มีเวลาทันก้มหน้าก็ฝ่ามือของวานรยักษ์ตบจนหมุนคว้างในกลางอากาศสองสามรอบ จากนั้นมันจับศีรษะและไหล่ขององค์ชายเทียนหลัวไว้ได้

เทียบกับเสวี่ยทันหลางที่อยู่ในช่วงความเป็นความตาย  องค์ชายเทียนหลัวก็ตกอยู่ในสภาพเจ็บปวดช่วยตัวเองไม่ได้แช่นกัน

แต่มีเงาร่างหนึ่งในท้องฟ้า

หญิงสาวเปลือยเท้าที่ไม่ได้ปรากฏตัวมานานโผล่มาที่ศีรษะของเสวี่ยทันหลาง

ก่อนหน้านี้เพราะการปรากฏตัวของนางทำให้ช่วยเย่คง เสวี่ยทันหลางและพวกพร้องหลบหนีจากรอยแยกมิติเวลาได้อย่างปลอดภัย  ในช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายนางจะหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้ ในการต่อสู้นี้  ในช่วงเวลาคับขันนี้ไม่ว่าพวกเสวี่ยทันหลางจะพบกับความยุ่งยากอะไร ท้ายที่สุดในห้วงเวลาเป็นตายนางปรากฏตัวอีกครั้งก่อนที่เสวี่ยทันหลางจะถูกระเบิดสมองตาย

ราวกับว่าปรากฏการณ์ของคลื่นสึนามิ ที่มองส่วนผิวเผินไม่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจากระยะไกล

แต่เมื่อนางปรากฏโลกก็เปลี่ยนไป

พลังพลิกฟ้าคว่ำดินทำให้มิติเวลาบิดเบือน

พลังจู่โจมทั้งหมดของเสวี่ยทันหลางอ่อนกำลังลงขณะที่นางปรากฏตัว  ไม่ใช่ ต้องบอกว่าการต่อสู้ทั่วเวทีทองอ่อนกำลังลงในขณะที่นางปรากฏตัว

ยกเว้นคนหนึ่ง

คุณชายหลี่หมิง

ราวกับรู้ว่าจะมีคนแบบนี้มาคอยช่วยเหลือเสวี่ยทันหลางโดยวิธีนี้เหมือนกับได้ฝึกซ้อมมาแล้วหลายพันครั้ง  คุณชายหลี่หมิงปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังหญิงสาวเท้าเปล่าและมือขวากดที่หลังของหญิงสาวเท้าเปล่าเบาๆ ในขณะที่นางยื่นมือช่วยเสวี่ยทันหลางจากการยึดจับของมังกรกระดูก คุณชายหลี่หมิงจับหญิงสาวเท้าเปล่าโยนไปที่ธงเทพเพลิงทอง  ธงเทพเพลิงทองเปิดกรงรอจับหญิงสาวเท้าเปล่าอยู่นานแล้ว

“ข้าไม่เคยลืมเจ้านกนางนวลตัวน้อยเลย  เจ้าอาจไม่รู้ ก่อนหน้านี้ที่ข้าเห็นเจ้าครั้งแรก  เจ้าก็ถูกตัดสินแล้วว่าจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือข้า”  คุณชายหลี่หมิงแหงนหน้าหัวเราะ ทุกอย่างที่เขาทำเพื่อจับหญิงสาวเท้าเปล่านี้

ถ้าเขาต้องการฆ่าเย่คงและเสวี่ยทันหลังและพวก เขามีวิธีไม่น้อยกว่าร้อยวิธี

เหตุผลที่เขายอมถูกหลอกให้เข้ามาในมิติโลกกันดารนี้

ก็แค่ต้องการใช้วิธีที่ดีที่สุด เวทีทองกับธงเทพเพลิงทองเพื่อจับสาวเท้าเปล่าที่ถูกทำสัญญานี้กลับไปเป็นคนใช้ให้ได้

แม้ว่าอสูรศึกในแดนสวรรค์ที่ไม่ได้ทำสัญญาและมีศักยภาพไม่มีขีดจำกัดนั้นหายากอยู่แล้ว  นี่ไม่ต้องพูดถึงว่านางแปลงร่างเป็นมนุษย์ เป็นสตรีที่มีสติปัญญาดูสมบูรณ์แบบที่สุด

บางทีอาจต้องมองหาเป็นเวลาพันปี หรืออาจต้องหากันไกล ถึงจะพบเจอนกนางนวลน้อยตัวนี้

นางถูกกำหนดแล้วว่าจะต้องตกเป็นของเขา!

คุณชายหลี่หมิงตั้งแต่เห็นนางครั้งแรกก็ตัดสินใจเช่นนั้นได้ทันที เขารู้สึกได้ถึงพลังชีวิต แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าทำไมคนอย่างเย่ว์ไตตันถึงยอมพลาดอสูรศึกที่ฉลาดอย่างนั้นไปได้  แต่เขารู้สึกว่าเขาไม่มีทางโง่อย่างเย่ว์ไตตัน เขาจะไม่ยอมพลาดนาง  แม้ว่าเขาจะต้องทุ่มทุกอย่างในโลก  เขาจะชิงนางมาให้ได้!

“ทำสัญญา”  สตรีเท้าเปล่าร้องดังๆ นางกระโดดเข้าไปอยู่ในกรงธงเทพเพลิงทอง และนางทำเป็นกระตือรือร้นทำสัญญากับคุณชายหลี่หมิงทันที

“อะไร อะไรนะ?”  คุณชายหลี่หมิงปลื้มใจแทบคลั่ง

ตอนแรกเขาคิดว่าอสูรที่ฉลาดและมีปัญญาน่ากลัวจะต้องใช้เวลานานและอดทนเพื่อโน้มน้าวให้มันยอมทำสัญญาด้วย ขณะที่เขาคุกคามนางให้ยอมจำนน นางฉลาดใช้ตัวเลือกที่ดีที่สุดเริ่มเป็นฝ่ายเสนอทำสัญญากับเขา ไม่ต้องเสียเวลาและสิ้นเปลืองความพยายามโดยถูกขังอยู่ในกรงโดยไม่จำเป็น

บางทีอสูรศึกที่ฉลาดอย่างนางคงมีคุณสมบัติอยู่เคียงข้างเขาก็เป็นได้!

ข้ากับนางเป็นส่วนผสมของคู่หูที่ลงตัวที่สุดในโลก

คุณชายหลี่หมิงไม่เคยตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อน  เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกลองเลือดสูบฉีดแรง แม้แต่รูขุมขนผ่อนคลาย มีความสุขท่วมท้นจนต้องหัวเราะออกมาดังๆ...  ความจริงแล้วนางมีความคิดจะเริ่มทำสัญญากับตัวเขาเอง ในที่สุดนางก็เป็นของเขา  ตอนนี้นางเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง!

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

คุณชายหลี่หมิงมิอาจทนรอ เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญของตนเองออกมา  ไม่อาจทนรอเปิดพลิกหน้าคัมภีร์อัญเชิญ มิอาจทนตื่นเต้นภาคภูมิในหัวใจ เขาถือคัมภีร์อัญเชิญและหัวเราะลั่น!

ใครคือผู้ฉลาดที่สุดในโลก?

เว้นแต่บิดาของเขาที่ไม่เคยแพ้ใครแล้ว ในผู้เยาว์รุ่นหลังใครจะเทียบกับเขาได้

จงหัวเจ้าตำหนักแสงที่ดีแต่ตั้งท่ามาเป็นเวลานาน?  จีอู๋ลี่ที่ภาคภูมิใจไม่เห็นหัวใครในแดนสวรรค์?  พวกเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเอง  แต่พวกเขาไม่มีทางฉลาดกว่าตัวเขา  อย่างน้อยในเรื่องการคำนวณวางแผน  เย่ว์ไตตันที่ได้รับยกย่องจากหอทงเทียนเป็นตัวอะไร?  เขาเป็นเพียงคนตาบอดที่ทั้งที่ลืมตาเปิดกว้างอยู่ แม้แต่อสูรที่ดีก็พลาดไปได้  แม้ว่าจะมีข่าวลือมากกกว่านี้ แต่ก็เป็นแค่การกล่าวเกินจริง  แต่ใครจะมาพิชิตหอทงเทียน?  แผนการประสบความสำเร็จได้รับอสูรศึกทรงภูมิปัญญาที่เขาใฝ่ฝันหามานาน  และกำจัดสหายที่ร่วมฝึกฝนกันมากับเย่ว์ไตตัน

เด็กหนุ่มฝีมือดีของหอทงเทียนฝีมือไม่ต่างอะไรกันเลย!

ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ  ใครจะเทียบกับเขาได้?

ในขณะที่คุณชายหลี่หมิงหัวเราะด้วยความย่ามใจและลืมทุกอย่าง... หญิงสาวเท้าเปล่าเตะกรงแสงราวกับสายฟ้าและคว้าธงเทพเพลิงทองเก็บไว้เองอย่างรวดเร็ว เสวี่ยทันหลางที่ถูกกระดูกมังกรเกาะยึด ไม่สนใจพลังโจมตีของซุ่นเทียนข้างหลัง เขาหันกลับไปเผชิญหน้าบัณฑิตวัยกลางคน ขามังกรกระดูกของชายชราชุดดำโจมตีใส่เสวี่ยทันหลางในเวลาเดียวกัน  ซุ่นเทียนฟื้นความกระตือรือร้นและยิงพลังไปที่บัณฑิตวัยกลางคน ในขณะเดียวกันกับที่ขามังกรกระดูกที่โจมตีหลังศีรษะของเสวี่ยทันหลาง ไถลผ่านหน้าเสวี่ยทันหลาง... บัณฑิตวัยกลางคนถอยหลังอย่างรวดเร็ว  ด้านหลังเขาคุณชายหลี่หมิงชำเลืองดูพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เจ้าอ้วนไห่ที่สั่นเหมือนแมลงนั้นหายไปแล้ว

เหลือแต่เพียงดวงดาวในท้องฟ้า

ดาวทุกดวง

คือหมัดสังหารที่สร้างชื่อมายาวนานปี

 

7 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

ตลบหลังยกกระบวน




แต่ซุ่นเทียนนี่ไปร่วมมือกันตอนไหน

Lazykuma กล่าวว่า...

ตลกแหะซุนเทียน ไม่ได้บอกข้อมูลหรอเจ้าอ้วนไห่นี้มัน ซื่อส้ตย์พอๆกับเย่คงเลยนะ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เดี๋ยวๆ ซุนเทียนอยู่ฝั่งเจ้าอ้วนเหรอ ไปคุยกันตอนไหน

CHANTANA กล่าวว่า...

พลิกไปพลิกมา

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เนี้ยหลี่ กล่าวว่า...

หมัดฮิปโปดาวตก

chay กล่าวว่า...

หมัดเจ็ดดาวเหนือของเคนชิโร่

แสดงความคิดเห็น