วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1239 อย่าอาย ถ้าจะเป็นคนดี!

 

ตอนที่  1239  อย่าอาย ถ้าจะเป็นคนดี!

เย่ว์หยางออกจากโลกหิมะน้ำแข็งของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี และต้องการกลับไปยังโลกคัมภีร์เพื่อพบเจอสาวหิมะเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของนาง  เขากังวลว่าถ้าเขาไม่รีบกลับไปปลอบใจนาง นางอาจโมโหหึงไปนานถึงสิบวันครึ่งเดือน

 

แต่พลังงานลึกลับชนิดหนึ่งมิทราบโผล่ออกมาจากที่ไหน

ทำให้เขาไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย

ในทันใดนั้น

เย่ว์หยางผ่านไปตามมิติเวลาอย่างรวดเร็วจนเขาคิดไม่ออกตอบสนองไม่ทัน

พลังลึกลับนั้นเหมือนกับมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็น  ห่อหุ้มร่างของเขาทั้งหมดแยกขาดจากกฎสวรรค์ หรือข้อจำกัดทั้งปวงส่งเย่ว์หยางจากโลกหิมะน้ำแข็งไปยังมิติพิเศษที่เขาไม่เคยไปถึง

เฉพาะในพื้นที่มิตินี้  เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างบริบูรณ์

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ

ไม่มีสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก ไม่มีกาลเวลา

ไม่มีกาลเวลาในพื้นที่มิตินี้ และไม่มีแนวคิดโครงสร้างของมิติ ไม่มีกลางวันกลางคืน ไม่มีด้านล่างด้านบนซ้ายขวาหน้าหลัง  เว้นแต่พลังงานคงที่ขนาดมหึมาเกินกว่าจินตนาการหรือแอบมอง ไม่สามารถสังเกตเห็นอะไรได้จากที่นี่อีกแล้ว เย่ว์หยางเกิดความรู้สึกลวงว่าเหมือนตนเองถูกขังอยู่ในไข่  ความสับสนโกลาหลที่นี่ไม่ใช่ความสับสนอย่างที่เคยพบ แต่เป็นความรู้สึกพิเศษสามารถสร้างทุกสิ่งทุกอย่างได้ พลังพิเศษ

“ส่งข้ามาที่นี่ไม่เหมือนส่วนใดของโลกหรือสวรรค์ มหาเทพจะเอายังไง?”  เย่ว์หยางรำพึง  “แม้ว่าเราคุณชายจะดูเหมือนอัจฉริยะ  แต่พอแยกฟ้า แยกดินออกไป เกมนี้ยากจะเข้าใจจริงๆ มหาเทพมีงานใหญ่ให้ทำอย่างนี้ มันยากเกินไป

จะมองหาวัตถุโบราณหรือ?

เป็นการลงโทษ หรือว่าจะให้รางวัลกันแน่?

จิตสำนึกลึกลับไม่มีอีกต่อไป ไม่มีการพูดแม้แต่ประโยคเดียวไม่มีการอนุญาตให้คาดเดาเงื่อนไข  นี่เป็นการทดสอบผ่านด่านครั้งสุดท้ายหรือไม่ มีรางวัลพิเศษไหม?

เย่ว์หยางอดคิดไม่ได้!

เขาไม่สามารถเดาได้ก็ต้องลองดูว่าแมวตาบอดสามารถพบหนูตายได้หรือไม่

เริ่มก่อนเป็นเรื่องดี และนี่เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะเย่ว์หยางรู้สึกว่าพลังงานที่นี่คงที่เกินไป

ถ้าเขาไม่สามารถก้าวข้ามเจตจำนงราชันย์นี้ได้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะโยกคลอนที่นี่ได้  อย่าว่าแต่ใช้พลังคงที่ที่นี่เพื่อแยกโลกและสวรรค์และสร้างโลกที่นี่เลย  ต่อให้สร้างเม็ดทรายสักนิดก็เป็นไปไม่ได้ ที่นี่ยากยิ่งกว่าโลกภายนอก!

ในพื้นที่มิตินี้ ไม่มีกาลเวลา และเย่ว์หยางไม่รู้ว่าเขาอยู่มานานแค่ไหน

เขารู้สึกไม่ชัดเจน

บางครั้งเขารู้สึกเหมือนกับว่าอยู่มาหมื่นปี  บางครั้งรู้สึกเหมือนผ่านไปเพียงสิบวันครึ่งเดือน  ที่น่ากลัวที่สุดคือบางครั้งก็รู้สึกเพียงชั่วขณะหนึ่ง หรืออาจจะไม่เกินสิบนาที  การเปิดฟ้าหรือเปิดมิติ เย่ว์หยางไม่สามารถทำได้ ต่อให้เขาเป็นเทพก็ตามที   เย่ว์หยางได้แต่จ้องมองเฉยๆ เย่ว์หยางไม่ได้มีทักษะยิ่งใหญ่ขนาดสร้างชีวิตได้ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถผลิตหุ่นรบคู่หูได้  จนถึงบัดนี้เขาก็ยังไม่เข้าว่าอสูรอย่างเช่นเทาเถี้ย และสิ่งต่างๆ เกิดมามีสติปัญญาความรู้ได้อย่างไร?

แม้ว่าเขาจะสร้างมันขึ้นมา  แต่กระบวนการสร้างสับสนไม่สามารถทำซ้ำได้

“หรือว่าเขาจะลองสร้างเม็ดทรายจริงๆ”  เย่ว์หยางนิ่งอยู่เป็นเวลานานและพบว่าไม่มีใครสนใจตัวเขาเลย  เขาเพียงแต่ใช้พลังงานมหาศาลที่นี่เพื่อสร้างโน่นสร้างนี่ฆ่าเวลา

จะพูดให้ถูกก็คือที่นี่ไม่มีการเสียเวลา

มิติเวลายังคงเหมือนเดิม

เขาแค่ไม่ต้องการให้จิตใจของเขาเบื่อเกินไป ต้องตัดสินใจทำอะไรเสียบ้าง

ความคิดนั้นไม่เลว แต่ยากมากที่จะนำไปใช้ เพราะพลังงานคงที่ของที่นี่ไกลเกินกว่าที่เย่ว์หยางจะใช้เจตจำนงควบคุมได้  เย่ว์หยางต้องการใช้พลังงานในการสร้าง และพบว่าเขากำลังสร้างทรายที่เล็กกว่ามดเสียอีก ยากยิ่งกว่าเคลื่อนย้ายภูเขา  หลังจากความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า  เด็กหนุ่มข้ามโลกรู้สึกลำบาก แต่เมื่อเขาใจร้อนเกินไป มันก็จะไม่คงอยู่ ขณะเดียวกันเขาเริ่มมีอารมณ์ดื้อรั้น

เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังงานคงที่ที่นี่หรือ?  เราเคยใช้พลังงานเช่นนี้สร้างบางอย่าง

อย่าว่าแต่ทรายเลย

หลายอย่างก็สร้างขึ้นมาได้อย่างไม่ต้องตั้งใจมาแล้ว

อย่างไรก็ตามไอ้พลังงานบ้านี่ไม่อาจก่อกวนได้

บางที่อาจนานถึงสิบล้านปี อาจเป็นร้อยปี  หรือเพียงสิบวินาทีก็ได้

เย่ว์หยางไม่มีเวลาและลืมเลือนเวลา  ไม่รู้ว่าเขาต้องล้มเหลวไปกี่ครั้งคราแล้ว ในที่สุดหลังจากแสดงความโง่เป็นหมื่นครั้ง เขาก็สงบใจและคิดหาได้วิธีหนึ่ง

นั่นคือการใช้พลังงานของตัวเองในการสร้างสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการยอมรับจากมิติคงที่และจากนั้นจะค่อยรวมร่องรอยของพลังงานคงที่  สิ่งนี้อาจถือได้ว่าเป็นการใช้พลังงานคงที่ แม้ว่านี่เป็นเครื่องนำทางก็ตาม แม้จำนวนพลังงานคงที่น้อยที่สุด ก็เป็นการดำรงคงอยู่ที่นี่  เย่ว์หยางดึงเลือดหยดหนึ่งออกมาจากหัวใจมังกรแท้  จากนั้นอัดฉีดพลังงานที่หลากหลายและบรรจุพลังงานคงที่ไปเล็กน้อย  พยายามที่จะให้มิติพื้นที่พิเศษนี้จดจำการมีอยู่ของมัน  จำได้ว่านี่เป็นการสร้างขึ้นครั้งแรกที่ถูกสร้างขึ้นมา

“น่าปวดหัวเป็นบ้า  ใครกันที่สร้างมิตินี้และพลังงานที่นี่! ไม่มีเจตจำนงเทพข้าจะควบคุมได้อย่างไร!  เกือบจะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว แต่เย่ว์หยางก็ล้มเหลวเป็นพันครั้ง จนเขามองดูเหมือนคนโง่  เขาสาบานว่าถ้านี่เป็นการทดสอบ ก็เป็นการทดสอบที่ยากที่สุดในชีวิตของเขา

นี่ไม่ใช่สิ่งที่พลังงานจะใช้ตัดสินได้

ต้องการเจตจำนง

เจตจำนงราชันย์มุ่งมั่นจะทำทุกอย่างไม่สิ้นสุด

เขาล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ในชีวิตของเขาเย่ว์หยางไม่เคยลองใช้ความคิดที่สงบสุขและมุ่งมั่นเช่นนี้ ด้วยเจตจำนงที่บริสุทธิ์มาก่อน  พร้อมกับเพลิงอมฤตที่บริสุทธิ์ เขารวบรวมร่องรอยพลังงานลึกลับไว้ในหยดเลือดสีทองที่กลั่นแล้ว  จากนั้นด้วยวงจักรนิรันดร เขาแก้ไขอย่างมุ่งมั่นและเพิ่มพลังเทพไปในขณะเดียวกัน เย่ว์หยางจิตนาการถึงความเป็นไปได้สำหรับการเติบโตและการยืดอายุปล่อยให้มันใช้การเจริญเติบโตและมีชีวิตเพื่อรักษาลักษณะการรับรู้อย่างต่อเนื่อง... เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาเพิ่งจะสร้างเทพเจ้าและมันไม่ได้ยากขนาดนั้น  อย่างไรก็ตาม เขาถ่ายเทภูมิปัญญาที่ดีที่สุดและความตั้งใจที่กล้าแข็งที่สุดของเขาลงไปในเลือดหยดนั้น

เขาไม่ได้ยืนยันว่าคืออะไร ตราบใดที่มันประสบความสำเร็จ มันสามารถอยู่ในพื้นที่พิเศษนี้ และได้รับการยอมรับจากที่นี้

แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว

ทุกอย่างก็แค่ต้องการให้มันดำรงคงอยู่ชั่วกาลนานได้สำเร็จ

ไม่ว่าจะเป็นการสร้างชีวิต หรือสร้างสิ่งที่ดำรงคงอยู่ได้อย่างอิสระ เย่ว์หยางลืมตัวไปแล้วว่าตอนนี้เขาไม่สนใจความคิดผันผวนไม่แน่นอนนี้อีกต่อไป สุดท้ายเขาหวังว่าชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นนี้สามารถเกิดขึ้นในพื้นที่มิตินี้ตามเจตจำนงประสงค์ของเขา

บางทีเขาใช้วิธีการที่ถูกต้องอาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อเย่ว์หยางไม่สามารถค้นหาเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงได้ ในทันใดนั้นเลือดเกิดมีพลังผันผวนเหมือนกับมีชีวิต มันเกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต ไม่มีวิญญาณความรับรู้ ไม่มีเจตจำนง ทั้งหมดนี้ก่อตัวขึ้นอย่างอิสระทันที มันเกิดขึ้นในมิติพื้นที่พิเศษนี้ นอกจากเย่ว์หยางแล้ว เจ้าสิ่งนี้นับเป็นสิ่งมีชีวิตตัวแรก

“......”  ยังไม่ทันมีเวลาพอให้เขาได้มีความสุข

ไม่ทันได้ตั้งตัว

พลังลึกลับของมือที่มองไม่เห็นปรากฏอีกครั้งจับเขาโดยตรงและส่งไปยังโลกที่เขาไม่รู้จัก

แตกต่างจากก่อนหน้านี้ เมื่อเย่ว์หยางออกมาแล้ว เขาสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของมิติคงที่พิเศษที่เขาอาศัยอยู่  แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าต้องใช้วิธีใดเพื่อกลับไปอีกครั้ง แต่กระแสจิตของเขาอย่างน้อยก็ยังสัมผัสได้อยู่ และก่อนออกไปเขาได้เห็นร่างที่น่ารักร่างแรกถือกำเนิดมา ดูเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนไปราวกับว่ากลายเป็นร่างดาบ และดูเหมือนว่ามีร่างเหมือนมังกร  ในท่ามกลางความมึนงงดูเหมือนกับว่ามีมือขนาดเล็กยื่นงอกออกมามันบินขึ้นไปบนฟ้า  เย่ว์หยางไม่ทันจะได้รู้สึกเหมือนจริง เขาไม่ทันได้เอื้อมมือไปสัมผัสก็ถูกพาตัวออกมาเสียก่อน

มันอาจจะใช้เวลายืดยาวหลายร้อยล้านปีของห้วงมิติเวลา โดยไม่มีเหลือ

ขณะที่เย่ว์หยางกระพริบตาและลืมตา

ก็พบกับสามสาวเทวทูตในโลกไร้ที่สิ้นสุด

หญิงสาวหน้ากลมดูน่ารักยิ้มหวานให้เขา  ขณะที่เทวทูตสาวห้าวกล้าหาญมีข้อสงสัยเล็กน้อย  “เหลือเชื่อจริงๆ  คนงี่เง่าอย่างเจ้าสามารถรู้แจ้งได้ และสามารถให้ความรู้กับข้าได้  ข้าคิดว่าคงต้องเสียเวลาไปมากมายถึง 1,100,100,000 ปี ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเจ้าจะช่วยให้ข้าพลอยรู้แจ้งไปด้วย!

“ขอแสดงความยินดีด้วย การทดสอบสิ้นสุดลงแล้ว”  เทวทูตสาวคนกลางส่งคัมภีร์สีเงินให้เย่ว์หยาง  “เจ้าผ่านการทดสอบแล้ว!

“หมายความว่ายังไง?”  เย่ว์หยางสับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“เจ้า..ตายไปแล้ว คาดว่าคงเป็นปีศาจงมงาย!  เทวทูตสาวผู้กล้าหาญเหลือกตาอย่างไม่พอใจ แต่นางก็อดหัวเราะอย่างมีความสุขมิได้

“เจ้าเคยตระหนักรู้การสร้าง ทำลายและความนิรันดร์ในความว่างเปล่า..  แต่การรู้แจ้งแบบนี้ยังไม่ใช่ความรู้สูงสุด หากเจ้าสามารถให้ความกระจ่างแก่ตนเองในเรื่องความนิรันดร์ได้ นั่นคือการสร้างที่แท้จริง การทำลายที่แท้จริง ความนิรันดร์ที่แท้จริง!  แน่นอนว่าเจ้าเพิ่งเริ่มเพียงก้าวแรกและยังมีระยะทางอีกไกลจากการสร้างที่แท้จริง  แต่ตราบใดที่เจ้ารู้แจ้งได้อีก นั่นจะเป็นความสำเร็จของเจ้า  สำหรับเรานี่คือการยอมรับ...”  หลังจากเทวทูตคนกลางมอบคัมภีร์เงินให้เย่ว์หยางแล้ว นางยิ้มเล็กน้อย  “คัมภีร์เทพส่งมอบให้เจ้าแล้ว แต่มันยังไม่ยอมรับเจ้า เจ้ายังต้องพยายามให้หนักอีกต่อไป!

“นี่ นี่คือคัมภีร์เทพหรือ?”  เย่ว์หยางตกใจ

ทุกคนฆ่ากันแทบเป็นแทบตายปรากฏว่าคัมภีร์เทพตกอยู่ในมือของเทวทูตสามสาว เขาโดนหลอกอย่างแรง

อย่างไรก็ตามนี่ดูเหมือนผิดปกติเล็กน้อยหรือเปล่า?  คัมภีร์เทพเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?  คัมภีร์เทพควรมีแสงเทพสูงเป็นหมื่นๆ เมตรฉายประกายสว่างไสวถึงสิบวันไม่ใช่หรือ แต่คัมภีร์เงินนี้ดูเหมือนไม่เรืองแสงมากนัก

เย่ว์หยางเปิดคัมภีร์เงิน

พลิกหน้าเบาๆ

งงเป็นไก่ตาแตก

เขาพบว่าหน้าแรกของคัมภีร์เงิน คือด่านแรกของดินแดนมิติทดสอบ หน้าที่สองก็คือด่านที่สอง... ทุกอย่างเกี่ยวกับดินแดนมิติทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นหุบเขาอสูร หุบเขาปีศาจ หุบเขามนุษย์ หรือแม้แต่หอคอยเหนือหอคอย ขุนเขาเหนือขุนเขา ฟ้าเหนือฟ้า ทุกที่ ทุกมิติ ทุกแห่งหน ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ เหตุการณ์ใดๆ  แม้แต่ในอดีต ในอนาคต ตราบใดที่สำรวจด้วยจิตสำนึกแล้ว ไม่มีอะไรที่เขาไม่เห็น

ทุกอย่างอยู่ในสายตา ทุกอย่างอยู่ในมือของเขา!

“เจ้าหมายถึงให้ข้าหรือ? สถานที่หลบภัยแห่งนี้!  ข้าคุณชายกลายเป็นผู้จัดการเกมเสียแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของการยื่นมือจัดการเสียแล้ว!  เย่ว์หยางยิ้มมีเลศนัย  โชคดีที่จีอู๋ลี่หนีได้ทัน มิฉะนั้นเขาคงร้องไห้เสียใจจนตาย ส่วนจงหัวและคนอื่นๆ ที่ตกค้างอยู่ในหุบเขามนุษย์คาดว่าคงจะไม่โชคดี!

“อย่ายิ้มให้มันน่าเกลียดได้ไหม!  เทวทูตสาวห้าวทนเห็นท่าทางแสยะยิ้มของเย่ว์หยางไม่ไหว นางเตือน  “เจ้ายังไม่ได้รับการยอมรับจากคัมภีร์เทพ ข้าแค่มอบให้กับเจ้า เจ้ายังไม่ใช่เจ้าของ!  ดังนั้นเจ้าจึงยังควบคุมไม่ได้ และยังไม่มีสิทธิ์ควบคุม  แต่เจ้าสามารถเข้าไปเยี่ยมชมป้องกันได้เหมือนกับเรา!  ความหมายของสาวน้อยเทวทูตก็คือเตือนไม่ให้เย่ว์หยางมีความสุขเกินไป เขายังไม่มีสิทธิ์แก้ไขกฎในมิติดินแดนทดสอบ

“ไม่เป็นไร  ตราบเท่าที่คัมภีร์เทพยังอยู่ในมือ”

เย่ว์หยางยังคงแสยะยิ้มหัวเราะเหมือนดาวร้าย  “ตราบเท่าที่ข้ามีของนี้อยู่ในมือ ทุกคนจะต้องดำเนินการฝ่าด่านต่อไป ข้าจะสนับสนุนทุกคนเต็มร้อยให้พยายามฝ่าด่านเพื่อให้ได้รับคัมภีร์เทพ ข้าจะไม่โจมตีคนอย่างไร้ประโยชน์แน่ ฮ่าฮ่าฮ่า..ก๊าก!

ในเวลานี้แม้แต่เทวทูตสาวหน้ากลมผู้น่ารักที่ชอบช่วยเย่ว์หยางอยู่เสมอยังอดทำตาเหลือกมิได้

อย่าทำตัวเป็นคนไร้ยางอายเกินไปได้ไหม!

ทำแค่นี้ก็พอแล้ว

เย่ว์หยางถือคัมภีร์สีเงินและหันหน้าไปมองสามสาวเทวทูตที่ตกใจสะดุ้งกลัวจนจับกลุ่มทันที เขายิ้มเหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์  “พวกเจ้าทั้งสามพิทักษ์คัมภีร์มาก็หลายปี ตอนนี้ภารกิจเสร็จสิ้นมีความสุขหรือไม่?  ถ้าตอนนี้พวกเจ้าว่างไม่มีอะไรทำ? ไปเที่ยวชมดูปลาทองที่บ้านข้าเอาไหม?”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

*** คิดว่าหลังสิ้นเดือนนี้ไปแล้ว น่าจะกลับมาโพสได้วัน 2 ตอนครับ  ช่วงนี้ทนอ่านไปวันละตอนก่อน

 

14 ความคิดเห็น:

Badly กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ 5555 มุกไปดูปมุกไปดูปลาทองนี่คุ้นๆนะครับ

Lazykuma กล่าวว่า...

เดี๋ยวก็โดนเมียกลวงให้นั่งคุกเข่าสำนึกผิดที่หน้าบ้านหรอก

Non กล่าวว่า...

มุกคุ้นๆแฮร่

Unknown กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ผ่านมา กล่าวว่า...

น่าน จะหลอกสาวอีกแล้ว

DexterAndDdy กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

เปลี่ยนจากแมวเป็นปลาทองสินะ ได้ๆๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

Thank u

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ได้ทั้ง 3 เข้าฮาเร็มก็ดีนะสิ

CHANTANA กล่าวว่า...

สฺดจริงไอ้3

Unknown กล่าวว่า...

555555
อ่าแล้วงง งงตรงมิติเอกภาพอ่ะ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

เอาแล้วๆของเล่นเทพชัดๆ

chay กล่าวว่า...

มันเลี้ยงปลาทองที่บ้านตั้วฝงแต่เมื่อไรนิ 555

แสดงความคิดเห็น